กลับมณฑลนครราชสิมา
วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ เวลาย่ำรุ่ง ออกจากที่พักแรมบ้านหัวช้างเข้าเขตรบ้านบัวน้อย บ้านขามเลียน บ้านหมากหุ่ง สองข้างทางที่มาเปนทุ่ง ที่ใกล้ ๆ ทางใหญ่มีแต่หญ้าแห้ง ที่ลึกเข้าไปจึงมีนา แลเห็นทิวไม้ห่างออกไป เวลาเช้า ๒ โมงถึงที่พักร้อนห้วยพังซู ระยะทาง ๓๘๓ เส้น กินเข้าเช้าแล้วเวลาเช้า ๓ โมงขึ้นระแทะข้ามห้วยพังซู ซึ่งเปนเขตรเมืองพยัคฆภูมิ์มณฑลอิสาณกับเมืองผะไทสงฆ์ มณฑลนครราชสิมาต่อกัน มาทางเขตรบ้านหัวขวาแลทุ่งบ้านหัวแรด ถึงเมืองผะไทสงฆ์เวลาเช้า๔ โมง ระยะทาง ๑๗๐ เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๕๕๓ เส้น พระนครภักดีศรีนครานุรักษ์ ผู้ว่าราชการเมืองบุรีรัมย์๑ หลวงเสนาสงครามนายอำเภอผะไทสงฆ์ หลวงวิศาลสฤษดิกร นายอำเภอเมืองรัตนบุรี ขุนสรรพกิจโกศล นายอำเภอนางรอง ขุนประสิทธิบรรณาการ นายอำเภอประโคนไชย มาคอยรับ มีถนนข้ามคูเมืองมาถึงที่พักซึ่งตั้งอยู่ริมที่ว่าการอำเภอ นายโยโกตา แลนายอิสิดา ชาวยี่ปุ่นซึ่งมาตั้งโรงเลี้ยงไหมที่เมืองบุรีรัมย์ก็มาหา
เมืองผไทสงฆ์
เวลาบ่าย ๔ โมงเที่ยวดูภูมิลำเนา เมืองผะไทสงฆ์เปนเมืองโบราณ มีเนินเดินเปนกำแพงแลมีคูสองชั้น จำนวนพลเมือง รวม ๒๒,๘๐๐ การทำมาหาเลี้ยงชีพมีการทำนา ทำไร่ผักไร่ยาสูบแลจับสัตว์น้ำพอเลี้ยงกันเอง แลมีการทำไหมแลหุงเกลือจำหน่ายขายไปที่อื่น ๆ บ้าง บ้านราษฎรหมู่หนึ่ง ๆ มีรั้วไม้จริงบ้างไม้ไผ่บ้างเปนเขตรหมู่บ้าน ในเขตรอำเภอผะไทสงฆ์ได้ความว่ามีกู่ ๓ แห่ง คือที่ตำบลหินตั้ง มีกู่สวนแตง เปนปรางค์ศิลายอดก่ออิฐประมาณกว้างยาว ๕ วา สูงแต่พื้นดินขึ้นไป ๗ วา ระยะทางจากเมือง ๔๙๐ เส้น กับที่บ้านษี มีกุฎีษีเปนศิลากว้างยาวประมาณ ๑๑ วา สูงแต่พื้นดินขึ้นไป ๔ ศอก ระยะทางจากเมือง ๖๐๐ เส้น กับมีกู่ที่บ้านดู่เปนศิลากว้างยาวประมาณ ๑๐ วา สูงจากพื้นดินขึ้นไป ๒ วา ระยะทางจากเมือง ๔๐๐ เส้น
วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ เวลาย่ำรุ่ง หม่อมเจ้านิสากร หลวงเถกิงรณกาจ ขุนภักดีรณชิต ซึ่งมาส่งจากมณฑลอิสาณลากลับไป ออกจากที่พักแรมเมืองผะไทสงฆ์ตามหนทางทุ่งใหญ่ ถึงบ้านบุ่งเบาที่พักร้อนเวลาเช้าโมงหนึ่งกับ ๒๐ นาที ระยะทาง ๒๕๒ เส้น แล้วแยกไปทางตำบลวังปลัดลำน้ำมูล ซึ่งเปนที่มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ของเก่าอยู่ในลำน้ำมักงมได้เนือง ๆ ตอนที่เรียกว่าวังปลัดไปจากบ้านบุ่งเบาระยะทาง ๑๕๐ เส้น วิธีงมนั้นมีคนถือแหลนลงเรือเอาแหลนสักไปในน้ำ ถ้าแหลนกระทบของแข็งก็ลงงม บางทีก็ได้พระพุทธรูปของโบราณ พิเคราะห์ดูที่บนตลิ่งริมน้ำซึ่งเปนที่งมพระนี้มีพื้นดินสูงเปนเนินพอคะเนได้ว่าจะเปนที่มีเจดียฐานอันใดมาแต่เดิม แล้วน้ำกัดพังลงไปจึงมีพระพุทธรูปที่งมได้ในลำน้ำตรงนั้น พระพุทธรูปงมได้ที่วังปลัดเปนพระพุทธรูปฝีมือช่างขอมโบราณสมัยเดียวกันทั้งนั้น เปนพระยืนแสดงธรรมจักรพระหัตถ์ ๑ บ้าง ๒ พระหัดถ์บ้าง เปนพระนั่งสมาธิบ้าง พอเวลาสายประมาณ ๔ โมงเศษกลับมาทางบ้านบุ่งเบา ลงทางใหญ่ข้ามลำสะแทกเขตรเมืองผะไทสงกับเมืองพิมายต่อกัน เปนทุ่งระนามต่อจากทุ่งที่เดินมาแล้วเปนทุ่งใหญ่อันเดียวกัน เวลาน่าน้ำ ๆ ท่วม เมื่อถึงฤดูแล้งอย่างเวลานี้มีแต่กอหญ้า หนทางเปนดินแตกระแหงเดินลำบากแลร้อนจัด ต่อเมื่อจวนถึงที่พักแรมจึงเห็นหมู่บ้านกระเบื้องนอก ถึงที่พักแรมบ้านกระเบื้องนอกเวลาเช้า ๕ โมง ๑๐ นาที ระยะทาง ๙๐ เส้น มีหนองน้ำใหญ่อยู่น่าที่พัก รวมระยะทางวันนี้ ๔๙๒ เส้น
วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ เวลาเช้าตรู่ออกจากที่พักแรมบ้านกระเบื้องนอก มาตามทางทุ่งระนามถึงบ้านนางออที่พักร้อนเวลาเช้าโมงหนึ่ง ๑๕ นาที ระยะทาง ๓๕๐ เส้น นายสองเมืองชาวเมืองโคราชซึ่งออกมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลนี้ ได้รวบรวมเด็กชาวบ้านมาสอนหนังสือเปนสำนักเรียนแห่งหนึ่ง มีนักเรียน ๑๒ คน พักกินเข้าเช้าแล้วเวลาเช้า ๓ โมงออกจากที่พักร้อนบ้านนางออมาตามทุ่งระนาม ที่ริมหนทางมีเนินริมหนองแห่งหนึ่ง มีกองศิลาแลงพอสังเกตได้ว่าเปนกู่ของเก่าแห่งหนึ่ง เรียกว่าอุดแดก แวะดูฐานศิลาแลงนั้นครู่หนึ่ง แล้วขึ้นระแทะมาตามท้องทุ่งร้อนจัดเต็มที ถึงห้วยกะเพราที่พักแรมเวลาเที่ยง ระยะทาง ๔๐๐ เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๗๕๐ เส้น
เวลา ๑๐ ทุ่มขึ้นระแทะออกเดินทางต่อไป การเดินทางบกคราวนี้ตัวนายขี่ม้า พวกพลไพร่แลสิ่งของไปเกวียน วิธีเดินทางขาไปเมื่อยังหนาว กลางคืนเวลาดึกราว ๓ ยามให้เกวียนครัวออกล่วงน่าไปพวกหนึ่ง ไปหาเข้าเช้าคอยอยู่ที่ ๆ พักร้อน พอเช้าขี่ม้ารีบไปให้ถึงที่พักร้อนแลที่พักแรมในตอนเช้าก่อนเที่ยง ตอนบ่ายได้พักม้าแลมีเวลาเที่ยวเดินดูภูมิลำเนา กระบวนเกวียนบรรทุกของตามไปถึงในเวลาบ่าย เดินโดยวิธีอย่างว่านี้ทุกวัน ครั้นขากลับเมื่อเข้าแดนมณฑลนครราชสิมา ตอนนี้พอเข้าฤดูร้อนก็ร้อนจริง ๆ เวลาแดดแขงผู้คนพาหนะเดินทางทนไม่ไหว จึงต้องเปลี่ยนเวลาใหม่ พอกินเข้าเย็นแล้วราวเวลายาม ๑ ให้เกวียนล่วงน่าออกเดินกระบวนม้าแลเกวียนตามออกเดินเวลา ๓ ยามกับ ๑๐ ทุ่ม ต้องจุดไต้นำจึงมักไประแทะที่กรมขุนสรรพสิทธิทรงทำประทานมาให้ใช้ จนรุ่งสว่างจึงขึ้นขี่ม้า
เมืองพิมาย
วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ เวลาย่ำรุ่งถึงตำบลบ้านดงมีที่พักร้อน ระยะทาง ๒๗๖ เส้น ต่อมาอิก ๑๑ เส้นถึงทางแยกไปบ้านท่าหลวง แวะดูบ้านท่าหลวงถึงหมู่บ้านเวลาเช้าโมงหนึ่งกับ ๔๐ นาที ระยะทาง ๙๖ เส้น พักกินเข้าเช้าที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านท่าหลวงซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำมูล เวลาเช้า ๓ โมงออกจากบ้านท่าหลวง ระยะทาง ๑๒๗ เส้นถึงเมืองพิมาย หลวงภักดีศรีขัณฑเสมา นายอำเภอพิมาย แลกรมการกำนันผู้ใหญ่บ้านมาคอยรับ
เวลาบ่ายเที่ยวดูปราสาทหิน แลถ่ายรูป แล้วไปวัดเดิม๒ ปิดทองพระพุทธรูป ซึ่งหลวงภักดีศรีขัณฑเสมานายอำเภอเมืองพิมาย เก็บพระเศียรศิลาของเก่ามาทำองค์ศิลาประกอบขึ้นใหม่ เปนพระประธานในอุโบสถ มีพระสวดชยันโตแลพิณพาทย์ซึ่งรวบรวมมาจากที่ต่าง ๆ เปนหลายวงประโคมขึ้นพร้อมกัน มีราษฎรชาวบ้านมาปิดทองพระพุทธรูปด้วยเปนอันมาก
วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ เวลาเช้าราษฎรมีการเลี้ยงพระที่วัดเดิมเปนการฉลองพระพุทธรูปที่ปิดทอง แห่สำรับผ่านที่พักมา กระบวนมีพิณพาทย์นำ แล้วถึงราษฎรเดินมาเปนแถว ผู้ที่มีสำรับไปเลี้ยงพระก็ถือสำรับเข้าแถวมา วันนี้เปนวันพัก ได้ไปถ่ายรูปปราสาทหินอิกวันหนึ่ง ครั้นเวลาบ่ายไปดูต้นไทรงาม คือต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งรากกลับเปนต้นต่อ ๆ กันไปเปนพุ่มใหญ่ มีลานใต้ร่มไทรกว้างขวางร่มรื่นอยู่ริมลำน้ำมูล หนทางจากเมืองประมาณ ๓๐ เส้น ดูสาขาต้นไทรงามไม่กว้างใหญ่เหมือนเมื่อได้มาเห็นคราวก่อน เขาว่าตลิ่งพังน้ำพัดเอาไปเสียบ้าง กลับจากไทรงามแวะที่บ้านนายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านแลพ่อค้ามาหา มีหญิงแก่อายุ ๑๐๐ ปีคนหนึ่ง อายุ ๑๐๖ ปีคนหนึ่งมาหาด้วย ภรรยานายอำเภอตั้งโรงเรียนผู้หญิงที่ในบ้าน มีเด็กชาวบ้านได้มาเล่าเรียนมีครูผู้หญิงสอน นักเรียนสัก ๑๑-๑๒ คน
ราษฎรในอำเภอพิมายนี้มีจำนวน ๒๑๘,๕๐๐ คน การทำมาหาเลี้ยงชีพมีการทำนาทำไร่แลทำสวนบ้างเล็กน้อย กับมีการตัดไม้ในป่าแลเกี่ยวแฝกมุงหลังคา ผสมโคกระบือ เลี้ยงไหม แลทอผ้าทอเสื่อบ้าง แลมีพ่อค้าเกวียนเที่ยวค้าขายถึงมณฑลอุดร แลอิสาณ ไปจากเมืองพิมายนี้มาก.
เวลา ๑๐ ทุ่มออกจากที่พักแรมเมืองพิมาย ออกประตูไชยข้ามลำน้ำเค็มผ่านบ้านวังหิน บ้านขี้เหล็ก บ้านลำฉมวก แล้วผ่านบ้านเพ็ด บ้านหนองใหญ่ บ้านหนองขาม ตำบลหนองพลวง ข้ามลำจักกระลาด มาถึงที่พักร้อน ระยะทาง ๕๐๐ เส้น
เขตรนครราชสิมา
วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ถึงที่พักร้อนลำจักกระลาดเวลาเช้าโมงหนึ่งกับ ๕๐ นาที เวลาเช้า ๓ โมง ๒๕ นาที ขึ้นระแทะออกจากลำจักกระลาดเข้าเขตรบ้านบุ บ้านหนองพลวง ถึงบ้านหนองช่องแมว เขตรอำเภอเมืองพิมายกับอำเภอกลางต่อกัน แล้วเข้าเขตรบ้านหนองอ้ายโยย ถึงบ้านตูมที่พักแรมหนองบัวเวลาเช้า ๕ โมง ระยะทาง ๒๔๐ เส้น นายอินมหาดเล็ก นายอำเภอกลางมารับ รวมระยะทางวันนี้ ๗๔๐ เส้น
วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ เวลาย่ำรุ่งครึ่งออกจากที่พักแรมตำบลหนองบัวบ้านตูมมาตามทางโคกเข้าเขตรบ้านกรูด บ้านทอก บ้านส้ม บ้านขาม บ้านมะดัน แล้วถึงบ้านช่องโคท่าช้างน้ำมูลที่พักแรมเวลาเช้าโมงครึ่ง ระยะทาง ๒๒๖ เส้น
เมื่ออยู่ที่เมืองพิมายได้รับท้องตรามหาดไทยว่า มารดาไปกราบถวายบังคมทูลจะขึ้นมารับ มีรับสั่งว่าเวลานี้ที่เมืองนครราชสิมากำลังเกิดกาฬโรค อย่าไปเลยจะไปเจ็บไข้ แล้วจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้มหาดไทยเชิญกระแสรับสั่งมาว่าให้คิดอ่านเดินทางตรงไปสถานีรถไฟทีเดียว อย่าให้ไปแวะค้างคืนที่เมืองนครราชสิมา ด้วยเหตุนี้จึงได้พักแรมที่ตำบลท่าช้าง ระยะทางห่างเมืองนครราชสิมาเพียง ๔๕๐ เส้น