เดือนอ้าย จ.ศ. ๑๒๓๗

แผ่นที่ ๑๒๑ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้นค่ำ ๑

เสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม แล้วเสด็จขึ้นบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธรูปแล้ว เสด็จขึ้นไปจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ซึ่งตั้งอยู่ข้างบุษบกข้างขวา ๒ เครื่อง ข้างซ้าย ๒ เครื่อง นมัสการพระบรมอัฐินั้น ครั้นแล้วเจ้าพนักงานกรมภูษามาลาได้เชิญพระภูษาโยงจากบุษบกมาทอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงทอดผ้าห่มนอนแลผ้าฉลาก พระสงฆ์ ๑๖ รูปได้สดัปกรณ์ แล้วก็กลับไปยังที่เดิม แล้วเจ้าพนักงานได้เชิญพระภูษาโยงจากโต๊ะจีนมาทอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เสด็จมาทอดผ้าห่มนอน แลผ้าฉลากอิกครั้งหนึ่ง พระสงฆ์ ๖ รูปได้สดัปกรณ์แล้ว ก็กลับไปยังที่เดิมพร้อมกัน จึงได้ถวายยถาสัพพีแลอทาสิเมอติเรกแล้วถวายพระพรลากลับ แลพระสงฆ์อิก ๔ รูปที่ยังมิได้สดัปกรณ์นั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานผ้าห่มนอนแลผ้าฉลาก ให้ขึ้นไปสดัปกรณ์พระอัฐิ ในพระราชวังบวรทั้ง ๔ รูป แล้วกรมสังฆการีจึงนิมนต์พระสงฆ์ ๕๐๐ รูปขึ้นมาสดัปกรณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอที่ยังทรงพระเยาว์ทอดผ้าเช็ดหน้า พระสงฆ์ ๕๐๐ รูปสดัปกรณ์แลยถาแล้ว ถวายพระพรลากลับ ในเวลานั้นพระราชครูพิธีทูลเกล้า ฯ ถวายน้ำสังข์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ประมาณครู่หนึ่ง ก็เสด็จขึ้นในเวลาบ่าย ๒ โมงเศษ ครั้นเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒเข้าไปเฝ้าก่อนประมาณครู่หนึ่ง พระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยก็เข้าไปเฝ้า ประทับอยู่จนเวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น ประมาณ ๒๕ นาที ก็เสด็จออกสนามหญ้า ประทับที่เสาธงทอดพระเนตรปืนคัตตาลิง รางเปนขาอย่างยกได้ ที่หมอจันดเดสั่งเข้ามาถึงใหม่นั้น ครั้นทอดพระเนตรแล้ว ก็เสด็จมาประทับตรัส

----------------------------

แผ่นที่ ๑๒๒ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้น ค่ำ ๑

กับพระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าทูลลอองธุลีพระบาท จนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

โดย ก.ม. นเรศร์วรฤทธิ์

ณวันจันทร์ เดือน ๑๒ แรม ๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลา บ่าย ๕ โมง ๖ มินิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระบรมวงศานุวงศ์ แลขุนนางข้าราชการเข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทพร้อมกันณที่นั้น พระพิพิธสาลีจึงกราบถวายบังคมลา จะขึ้นไปราชการเมืองนครราชสิมา แล้วจึงหลวงศักดินายเวรมหาดเล็ก จึงกราบบังคมทูลพระกรุณาทูลเกล้า ฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนของนายนก หสานพระยาฤทธิไกรเกรียงหาญ (เสือ) ถวายตัวทำราชการสนองพระเดชพระคุณในกรมมหาดเล็กเวรศักดินั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับตรัสด้วยราชการกับพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนางข้าราชการตามตำแหน่ง จนเวลาย่ำค่ำแล้ว ๑๕ มินิต พระบรมวงศานุวงศ์ แลขุนนางข้าราชการก็ถวายบังคมลากลับออกมา เวลาย่ำค่ำแล้ว ๒๕ มินิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสนามหญ้าหน้าพระที่นั่งใหม่ทรงจุดโคมไชย แล้วเสด็จประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนางข้าราชการณสนามหญ้า จนเวลา ๒ ทุ่มกับ ๑๓ นาที จึงเสด็จขึ้นข้างใน

โดย เกษมสันต์โสภาคย์

ณวันอังคาร เดือน ๑๒ แรม ๔ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ศักราช ๑๒๓๗ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทอยู่ณที่นั้น คือ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ๑ เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒ ๑ พระยาอภัยรณฤทธิ์ ๑ พระยาพิพัฒโกษา ๑ พระยาศรีสิงหเทพ ๑ พระยานรนาถ ๑ พระเทพผลู ๑ พระมหาสงครามนอกราชการ ๑ หลวงสรวิเศษ ๑ เฝ้าอยู่ประมาณครู่หนึ่ง จึงได้เสด็จขึ้น แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พร้อมด้วยข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทอยู่ในที่นั้น พระมหาราชครูพิธีถวายน้ำสังข์ ในขณะนั้นมีนายน้อยมหาอินทร์มาจากเมืองเชียงใหม่ พระยาศรีสิงหเทพจึงได้อ่านบาญชีของที่ได้เอามาทูลเกล้า ฯ ถวาย นั้น คือ หมอนขวานหน้าปักทอง ๒ หมอน งาช้าง ๒ กิ่ง แอบลาวลายทอง ๕ แอบ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๒๓ ออกวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๒ ค่ำ

ตรัสอยู่ประมาณครู่หนึ่งจึงได้เสด็จขึ้น ครั้นจวนเวลาย่ำค่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชออกทางพระทวารหน้าพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ ทรงพระราชดำเนิรมาประทับที่สนามหญ้า ตรัสอยู่กับพระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการ ครั้นเวลาค่ำมีพระบรมราชโองการ ให้ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตไปจุดเทียนที่ประตูมณี นพรัตน์ ด้วยมีการยกเสาทำเพิ่มเติมขึ้นใหม่ ครั้นเวลาทุ่มเศษ จึงเสด็จไปทรงจุดโคมไชยเสาที่ ๑ โปรด ฯ พระราชทานให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ ๑ แลพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ ๑ จุดโคมองค์ละเสารวม ๕ เสา แล้วจึงเสด็จมาประทับณพระเก้าอี้ดังเก่า แล้วโปรด ฯ พระราชทานสัญญาบัตร ให้นายบัวเปนที่หลวงบรรจงหัตถการเจ้ากรมช่างสลักถือศักดินา ๔๐๐ กับนายว่าเปนขุนบรรหารหัตถกรรมปลัดกรมช่างสลักถือศักดินา ๓๐๐ ท่าราชการขึ้นในกรมช่างสิบหมู่ ให้หลวงสุนทรสมบัติ เปนหลวงศรีเทพปลัดกรมคลังวิเศษถือศักดินา ๗๐๐ ประทับอยู่ในที่นั้น จนเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

โดย ทองแถมถวัลยวงศ์

พิธีแจกเบี้ยหวัด

ณวันพุธ เดือน ๑๒ แรม ๕ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๘ เวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าจิตร์เจริญ ออกมาทรงประเคนให้พระสงฆ์ฉันในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย แล้วเวลาเที่ยงเศษ จึงเสด็จพระราชดำเนิรออกทรงนมัสการพระพุทธปฏิมากร (พระไชย) ซึ่งสถิตย์ บนธรรมาสน์อยู่ในระหว่างเสาตรงพระทวารริมพระฉาก ครั้นทรง นมัสการแล้ว จึงเสด็จพระราชดำเนิรไปทรงจุดเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช ซึ่งตั้งบนโต๊ะจีนอยู่กลางพระที่นั่งอมรินทร แล้วจึงชีพ่อพราหมณ์จึงได้จุดเทียนที่บายศรีแก้ว

----------------------------

แผ่นที่ ๑๒๔ ออกวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๒ ค่ำ

ทองเงินบูชา แล้วจึงรดน้ำสังข์แลเจิมถุงเงิน ซึ่งตั้งอยู่บนม้าหน้าโต๊ะจีน ครั้นแล้วจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เรียกใบเบี้ยหวัดพระสงฆ์แด่พระศรีสุนทรโวหาร ทรงพระราชทานพระสงฆ์เปนมูลค่าสำหรับกัปปิยการกจะได้จัดซื้อของที่ควร แก่สมณะ เปนชื่อเบี้ยหวัดตามอย่างธรรมเนียมราชตระกูล จำนวน บีกันสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ มีรายบาญชีดังนี้ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ๒๐ ชั่ง เพิ่มเงินพระคลังข้างที่ ๑๐ ชั่ง พระปวเรศเจ้ากรมรับ หม่อมเจ้าพระญาณวราภรณ์ ๑๒ ตำลึง นายเนตร์มหาดเล็กรับ หม่อมเจ้าพระธรรมุณหิสธาดา ชั่ง ๔ ตำลึง นายนุดเกาวริงซายันต์รับ หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ๒ ชั่ง ขุนบำรุงราชรับ หม่อมเจ้าพระสังวรประสาทน์ ๑๒ ตำลึง นายอ่ำมหาดเล็กรับ หม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ ๑๒ ตำลึง นายโพมหาดเล็กรับ หม่อมเจ้าพระหนู ๒ ชั่ง หม่อมราชวงศ์รื่นรับ หม่อมเจ้าพระกลาง ชั่ง ๕ ตำลึง นายยิ้มมหาดเล็กรับ หม่อมเจ้าพระจุ้ย ๑๐ ตำลึง นายโพรับ หม่อมเจ้าพระประภากร ๑๐ ตำลึง จมื่นจงซ้ายรับ หม่อมเจ้าพระเล็กใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพศิลปปรีชา ๑๒ ตำลึง พระยาพิพิธไอสูริยรับ หม่อมเจ้าพระศักดิศรีในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร ๑๒ ตำลึง หลวงพินิจราชาวาสรับ หม่อมเจ้าพระชวลิตในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทเวศวัชรินทร ๑๐ ตำลึง นายสังข์จางวางรับ หม่อมเจ้าเณรภุชงค์ ในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเจริญผลภูลสวัสดิ ๑๐ ตำลึง นายทิมจางวาง เปนกัปปิยการกรับ หม่อมเจ้าเณรชายดำ ในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส ๑๒ ตำลึง นายสุดมหาดเล็กรับ หม่อมเจ้าเณรเปล่ง ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพศิลปปรีชา ๑๒ ตำลึง พระยาพิพิธไอสูริยรับ หม่อมเจ้าเณรเกษ ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท ๑๒ ตำลึง นายหลงรับ หม่อมเจ้าเณรบัลลังก์ ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ ๖ ตำลึง นายแป้นรับ หม่อมเจ้าเณรราเชนทร ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ ๖ ตำลึง นายโพรับ หม่อมราชวงศ์พระโล้น บุตรหม่อมเจ้าเนตร (ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสุนทรธิบดี) ๑๒ ตำลึง หม่อมราชวงศ์อำพันรับ หม่อมราชวงศ์พระวงศ์ บุตรหม่อมเจ้าภพ (ในกรมหมื่นสุนทรธิบดี) ๔ ตำลึง หม่อมราชวงศ์อำพันรับ พระหม่อม (ราชวงศ์) ดอกไม้ ๖ ตำลึง นายเสือเปนกัปปิยการกรับ พระสงฆ์จึงยถาสัพพีแลสวดสังคหะวัตถุคาถา ว่าด้วยสงเคราะห์ ๔ อย่าง แล้วจึงถวายอติเรก ถวายพระพรลากลับไป แล้วจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติลงมือแจกเบี้ยหวัด แลมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๒๕ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๓ ค่ำ

สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี ๑ เปนประธานกำกับการแจกเบี้ยหวัด มีรายกรมที่แจกในวันนี้นั้น คือ กรมพราหมณ์โหรดาจารย์ ๑ กรมพราหมณ์พฤฒิบาศ ๑ กรมโหร ๑ กรมราชบัณฑิตซ้าย ๑ กรมราชบัณฑิตขวา ๑ กรมช่างประดับกะจก ๑ ช่างแกะ ๑ ช่างผ้ายกผ้าปูม ๑ ช่างเขียน ๑ ขึ้นกรมวัง ช่างปูน ขึ้นกรมมหาดไทย ๑ มหาดเล็ก ช่าง ๑ กรมช่างศิลา ๑ ขึ้นกรมพระแสงในซ้าย ๑ ช่างมุก ๑ ช่างรัก ๑ ช่างย้อม ๑ ในกรมพระคลังวิเศษ ๑ กรมช่างชาดสีสุก ๑ รวม ๑๒ กรม กรมช่างทหารในซ้าย ๑ กรมช่างทหารในขวา ๑ กรมช่างสิบหมู่ ๑ รวม ๓ กรม

อนึ่งเมื่อประทับตรัสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์นั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ตั้งให้ขุนพัศดีซ้ายเปนหลวงพัศดีกลาง มีความในสัญญาบัตร์ดังนี้ ให้ขุนพัศดีซ้ายเปนหลวงพัศดีกลาง ถือศักดินา ๘๐๐ ทำราชการตามตำแหน่งตั้งแต่บัดนี้ไป จงเว้นการควรเว้น หมั่นประพฤติการควรประพฤติสมควรแก่ตำแหน่งทุกประการ ตามอย่างธรรมเนียมข้าราชการทั้งปวง ขอจงมีความสุขสวัสดิ์เจริญเทอญ ตั้งแต่ณวันจันทร์ เดือน ๑๒ แรม ๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เปนวันที่ ๒๕๖๑ ในรัชกาลปัตุยบันนี้ (ทรงพระราชหัดถ์เลขา) สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ ครั้นแล้วประทับอยู่จนเวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จขึ้น เบี้ยหวัดแจกอยู่จนเวลาบ่ายโมงเศษจึงเลิก ในเวลาวันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ฟรอกโก๊ต พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยสวมเสื้อฟรอกโก๊ต อนึ่งเมื่อเวลาเช้าประมาณ ๒ โมงเศษ เจ้าพนักงานจึงยกเสาประตูมณีนพรัตนขึ้นเปลี่ยนซึ่งชำรุดอยู่นั้น การที่ยกเสานี้ก็มีพระสงฆ์ฉัน ๕ รูป มีบายศรีหัวสุกรตามธรรมเนียม การที่ซ่อมประตูนนั้น เดิมยอดเปน

แผ่นที่ ๑๒๖ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๓ ค่ำ

ซุ้มอย่างเก่า บัดนี้จะเปลี่ยนเปนยอดปรางค์เหมือนอย่างประตูวิเศษไชยศรี การนี้พระยาเวียงนัยนฤบาลเปนผู้ดูการ

อนึ่งในแผ่นที่ซึ่งข้าพเจ้าได้แจ้งความในการขอบพระไทยพระองค์เจ้ามนุษย์แลขอบใจเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ซึ่งท่านได้ช่วยรับธุระของข้าพเจ้าในวันซึ่งเปนเวรของข้าพเจ้านั้น แต่ข้าพเจ้าหาทันคิดหมดจดไม่ เพราะว่าหม่อมเจ้าฉายเฉิด ในพระบรมราชมาตามไหยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ท่านก็ได้ช่วยเปนพระธุระ ในการซึ่งเปนเวรของข้าพเจ้าในวันนั้นด้วย ข้าพเจ้าจึงมีความเสียใจที่หลงเสีย หาได้มีไปในวันนั้นไม่ บัดนี้ข้าพเจ้ารำลึกได้ จึงได้แจ้งความมาให้ท่านทั้งหลายทราบ

โดย เทวัญอุไทยวงศ์

ณวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ แรม ๖ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งนั่งเบี้ยหวัด มีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์เปนต้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานแจกเบี้ยหวัด คือ มีรายชื่อกรมต่าง ๆ ดังนี้ กรมพระตำรวจในซ้าย ๑ กรมพระตำรวจในขวา ๑ กรมพระตำรวจใหญ่ซ้าย ๑ กรมพระตำรวจใหญ่ขวา ๑ กรมพระตำรวจนอกซ้าย ๑ กรมพระตำรวจนอกขวา ๑ กรมพระตำรวจสนมซ้าย ๑ กรมพระตำรวจสนมขวา ๑ กรมพระตรวจพลพันซ้าย ๑ กรมพระตำรวจพลพันขวา ๑ กรมทนายเลือกหอกซ้าย ๑ กรมทนายเลือกหอกขวา ๑ กรมอาสาใหญ่ซ้าย ๑ กรมอาสาใหญ่ขวา ๑ กรมทวนทองซ้าย ๑ กรมทวนทองขวา ๑ กรมเขนทองซ้าย ๑ กรมเขนทองขวา ๑ กรมอาสายี่ปุ่นซ้าย ๑ กรมอาสายี่ปุ่นขวา ๑ กรมกลองชนะซ้าย ๑ กรมกลองชนะขวา ๑ กรมคู่ชักซ้าย ๑ กรมคู่ชักขวา ๑ กรมเกณฑ์หัดอย่างฝรั่งซ้าย ๑ กรมเกณฑ์หัดอย่างฝรั่งขวา ๓ กรมทำลุซ้าย ๑ กรมทำลุขวา ๑ กรมสนมกลางซ้าย ๑ กรมสนมกลางขวา ๑ กรมอาสารองซ้าย ๑ กรมอาสารองขวา ๑ กรมแตรซ้าย ๑ กรมแตรขวา ๑ กรมสังข์กลองแขกซ้าย ๑ กรมสังข์กลองแขกขวา ๑ กรมกองแก้วจินดา ๑ กรมอาสาจาม ๑ กรมอรสุมพล ๓ กรมอาสาใหม่ขึ้นกรมพระกลาโหม ๑ กรมไพร่หลวงเกณฑ์บุญ ๑ รวมทหาร ๓๘ กรม แลพระราชทานเงินแก่จมื่นอินทามาตย์ ซึ่งกลับมาจากราชการทัพเปนเงิน ๑๕ ตำลึง

----------------------------

แผ่นที่ ๑๒๗ ออกวันพุธ เดือนอ้าย ขึ้น ๔ ค่ำ

นายน้อยมหาอินทร ผู้ว่าที่เจ้าบุรีรัตน ซึ่งมาจากเมืองเชียงใหม่เปนเงิน ๒ ชั่ง นายอาจนายเวรตรวจนอกซ้าย ๕ ตำลึง แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้นายฉอุ่มบุตร์พระศรีกาฬสมุด (อ้น) เปนที่จ่าเขมงศัสตริยาวุธ แลทรงจุดหน้าเพลิงพระราชทานเพลิงที่ศพพระชำนาญพลพ่าย (สุก) เผาวัดอมรินทร ๑ หลวงยศรักษา (ฮอ) เผาวัดสระเกศ ๑ รวม ๒ ศพ ประทับตรัสอยู่จนเวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาจวนย่ำค่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระทวารหน้าพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ ประทับอยู่ที่สนามหญ้าครู่หนึ่ง จึงเสด็จพระราชดำเนิรขึ้นทรงรถพระที่นั่ง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ ๑ ตามเสด็จบนรถพระที่นั่ง ขับออกทางประตูพิมานไชยศรี แล้วออกประตูวิเศษไชยศรี ไปเข้าประตูสวนสราญรมย์ ทรงรถพระที่นั่งรอบสวนรอบหนึ่ง แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนิรลงจากรถพระที่นั่ง ทรงทอดพระเนตรพรรณไม้ต่าง ๆ อยู่จนเวลาพลบ จึงเสด็จไปประทับอยู่ที่สนามหญ้าในส่วนนั้น ประมาณครู่ใหญ่ ๆ จึงเสด็จพระราชดำเนิรไปประทับที่พระที่นั่งหลังใหญ่ที่มีบิลเลียด ประทับอยู่จนเวลา ๒ ทุ่ม เสด็จกลับขึ้นทรงรถพระที่นั่งกลับมาทางเก่า มาประทับสนามหญ้า ทรงจุดเทียนแลชักโคมไชยเสร็จ แล้วเสด็จมาประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการ จนเวลายาม ๑ เสด็จขึ้น

โดย มนุษยนาคมานพ

วันศุกร์ เดือน ๑๒ แรม ๗ ค่ำ ปีกุนสัปตศก เวลาเที่ยงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ตรัสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาสา กรมพระบำราบปรปักษ์ แลทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้แจกเบี้ยหวัด เจ้าพนักงานกรมพระคลังมหาสมบัติ ก็แจกเบี้ยหวัดแก่ข้าราชการฝ่ายทหาร คือ กรมรักษาพระองค์ปืนทองปรายซ้าย ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๒๘ ออกวันพุธ เดือนอ้าย ขึ้น ๔ ค่ำ

กรมรักษาพระองค์ปืนทองปรายขวา ๑ กรมฝรั่งแม่นปืนหน้า ๑ กรมฝรั่งแม่นปืนหลัง ๑ รวมข้าราชการฝ่ายทหาร ๔ กรม ข้าราชการฝ่ายพลเรือน คือ กรมล้อมพระราชวัง ๑ กรมลูกขุน ๑ กรมชาวที่ใหญ่ซ้ายขวา ๑ กรมสังฆการี ๑ กรมธรรมการ ๑ กรมพระอาลักษณ์ ๑ กรมอักษรพิมพการ ๑ กรมแสงในซ้าย ๑ กรมแสงปืนต้นโรงใหญ่ ๑ กรมพระคลังในซ้าย ๑ กรมพระคลังในขวา ๑ กรมแสงสรรพยุทธ ๑ กรมพระคลังราชการ ๑ กรมพระคลังศุภรัต ๑ กรมพระคลังวิเศษ ๑ กรมอาสาวิเศษซ้าย ๑ กรมอาสาวิเศษขวา ๓ กรมสนมพลเรือนซ้าย ๑ กรมสนมพลเรือนขวา ๑ กรมอาสาใหม่ขึ้นกรมท่าซ้าย ๑ กรมอาสาใหม่ขึ้นกรมท่าขวา ๑ กรมกองกลางซ้าย ๑ กรมกองกลางขวา ๑ กรมไพรหลวงมหาดเล็ก ๑ กรมรักษาโรงเรือขึ้นกรมพระคลังในขวา ๑ รวมข้าราชการฝ่ายพลเรือน ๒๕ กรม ครั้นเวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เจ้าพระยาสุรวงศไวยวัฒเข้าไปเฝ้าอยู่จนเวลา ๔ โมงเศษ จึงออกจากเฝ้า ครั้นเวลาย่ำค่ำกับ ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกสนามหญ้า ตรัสกับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ครู่หนึ่ง แล้วเสด็จพระราชดำเนิรไปทรงจุดเทียนโคมไชยเสร็จแล้วเสด็จมาประทับตรัสกับพระยาราชวรานุกูลประมาณ ๓๐ นาที แล้วพระยาราชวรานุกูลก็ถวายบังคมลากลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเสด็จพระราชดำเนิรมาประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ จนเวลา ๒ ทุ่มเศษจึงเสด็จขึ้น

แจ้งความ

ด้วยแผ่นที่ ๑๑๔ ข้างหน้า ลงวันว่าด้วยการฉลองไตรปีนั้น ยังขาดอยู่ คือ ในวันนั้นเวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิรลงทรงบาตรณที่ทรงบาตรข้างใน พระสงฆ์ ๓๑๑ รูป มีกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เปนประธาน ครั้นทรงบาตรแล้วจึงเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมต่อภายหลัง ข้าพเจ้าลืมเสียหาได้ลงไม่

โดย สวัสดิประวัติ

วันเสาร์ เดือน ๑๒ แรม ๘ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระสงฆ์วัดอรุณราชวราราม ๔๘ รูป มีพระธรรมเจดีย์เปนประธานเข้ารับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวังตามธรรมเนียม พระสงฆ์วัดราชบูรณะ ๒๐ รูป มีพระอมรโมลีเปนประธาน ได้รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์

แผ่นที่ ๑๒๙ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ขึ้น ๕ ค่ำ

แต่ก่อนธรรมเนียมวันพระเพิ่มพระสงฆ์ ๒๐ รูป แลได้ฉันในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย แต่เดี๋ยวนี้ทรงพระราชดำริห์เห็นว่า เลี้ยงพระนั้นเปนการเปื้อนเปรอะ เปนท้องพระโรงที่จะเสด็จออก จึงได้ย้ายให้มาฉันในพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ เวลาบ่าย ๓ โมง เสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีเข้าเฝ้า เวลาบ่าย ๓ โมงนานก็กลับออกมา เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระยาราชวรานุกูลเข้าเฝ้า เวลาเกือบย่ำค่ำก็กลับออกมา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ก็เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ พระองค์เจ้ากาพย์กนกรัตน พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ หม่อมเจ้าปรีดา พระยาสุรเสนา พระยาจ่าแสนย์บดี พระยาศรีสิงหเทพ พระยาศรีสรราช เจ้าหมื่นไวยวรนาถ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ จมื่นราชนาคา หลวงพินิจจักรภัณฑ์ หลวงราชเศรษฐี หลวงไตรนารายณ์ หลวงวุธอัคนี นายเหมาบุตร์เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒแลขุนนางอื่นอิกบ้างรวม ๓๐ เศษ แลมหาดเล็กอิกประมาณ ๔๐ เศษ มีหลวงนายฤทธิ นายจ่ายง นายจ่ารงเปนต้น ประทับตรัสด้วยข้าราชการอยู่เปนอันมาก แลกรมราชบัณฑิตมหม่อมเจ้าฉายเฉิดเปนต้น ได้ตั้งหนังสือทศนิบาต อสีตินิบาต ๙ ผูก ๓ ลาน ถวายทรงปิดทอง พระสูตร์เอกังคุตรนิกาย อรรถกถาอาทิกรรม ๑๑ ผูก ถวายทรงร้อยหูหนังสือ แลพราหมณ์เป่าสังข์ พระมหาราชครูถวายน้ำสังข์ แล้วมีพระบรมราชโองการ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภกับพระพิเรนทรเทพ ชำระความฎีกานายจ่ายงอุทธรณตุลาการ ความพ่วงพี่สาวกับนายอากรสุด เรื่องเรือสำปั้น

แผ่นที่ ๑๓๐ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ขึ้น ๕ ค่ำ

ครั้นเวลาย่ำค่ำเศษ ขุนนางออกจากที่เฝ้า ก็เสด็จพระราชดำเนิรออกทางพระทวารพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติประทับสนามหญ้า ทรงชักโคมไชย (เหมือนวันเสาร์เดือน ๑๒ แรมค่ำ ๑) แลหมอชานดะเลได้เฝ้าเรื่องบุตร์ขุนนางที่จะส่งออกไปณเมืองอเมริกา ด้วยมีพระบรมราชโองการให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ จัดหาบุตร์ขุนนางที่จะส่งออกไปเรียนหนังสือณเมืองอเมริกานั้น แลได้พาเด็กเหล่านั้นเข้ามาถวายทอดพระเนตรในเวลาวันนี้ด้วย คือ หม่อมราชวงศ์ชิดอายุ ๑๕ ปี ในพระองค์เจ้ามงคล ๑ นายหนูอายุ ๑๗ ปี บุตร์พระยากระสาปนกิจโกศล ๑ นายกรอายุ ๑๒ ปี บุตร์พระปรีชากลการ ๑ นายลบอายุ ๑๖ ปี บุตร์เจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี ๑ นายจำรัสอายุ ๑๖ ปี บุตร์หลวงวิเศษสุวรรณกิจ ๑ นายเป่าอายุ ๑๕ ปี หลานพระยาสุรศักดิ์มนตรี ๑ นายสันอายุ ๑๖ ปี หลานพระยาสุรศักดิมนตรี ๑ นายหุ่นอายุ ๑๗ ปี บุตร์เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงศ์เมืองอุบล ๑ นายหรุ่นอายุ ๑๔ ปี บุตร์พระสารสาตรพลขันธ์ ๑ นายพัศดาอายุ ๑๖ ปี บุตร์พระยาธรรมจรรยานุกลมนตรี ๑ รวม ๑๐ นาย พวกเหล่านี้จะไปกับหมอชานดะเล แลเมื่อถึงปีจะพระราชทานเงินเปนค่าเรียนออกไป แลส่งบุตร์ขุนนางออกไปอิกพวก ๑ จนครบ ๓ ปี ครั้นหมอชานดะเลกลับไปแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการให้พระองค์เจ้าจิตรเจริญไปจุดเทียนที่พระที่นั่ง พระสงฆ์ที่ได้ฉันเมื่อเวลาเช้านี้ ก็ได้สวดพระพุทธมนต์อยู่บนนั้น แล้วประทับตรัสอยู่กับพระบรมวงศานุวงศ์ขุนนางอยู่ หม่อมเจ้าต๋งได้ถวายตัวอย่างในโบสถ์วัดราชบพิธ ที่หม่อมเจ้าต๋งจะรับเหมาทำฉลองพระเดชพระคุณนั้น ประทับตรัสอยู่จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น ส่วนพระสงฆ์ที่ได้สวดพระพุทธมนต์ ครั้นสวดจบแล้วก็กลับไปวัด พระพิธีธรรมวัดพระเชตุพน ได้สวดปัจเวกขณ์ที่หอพระปริตยังรุ่งด้วย ในเวลาวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระภูษาแดง ทรงฉลองพระองค์ขาว ตามธรรมเนียมอย่างวันพระ พระบรมวงศานุวงศ์ทรงแดงบ้าง ทรงฉลองพระองค์ปีกดำบ้าง ข้าราชการทั้งปวงสวมเสื้อปีกสีดำฤๅสีขาบทั้งสิ้น

โดย ภาณุรังษี

การตามธรรมเนียม

ณวันอาทิตย์ เดือน ๑๒ แรม ๙ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาบ่ายโมง ๔๕ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ

แผ่นที่ ๑๓๑ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๖ ค่ำ

พระราชทานสัญญาบัตร ตั้งขุนนราพิทักษ์ แลหมื่นสนิทอักษรในเวลานั้น ความในสัญญาบัตรขุนนราพิทักษ์มีว่า “ให้ขุนนราพิทักษ์ปลัดกรม เปนหลวงอนุรักษ์ภักดี เจ้ากรมไพร่หลวง ขึ้นกรมมหาดเล็ก ให้ถือศักดินา ๖๐๐ ตั้งแต่บัดนี้ไป จงเว้นการควรเว้น หมั่นประพฤติการควรประพฤติ สมควรแก่ตำแหน่งทุกประการ ตามอย่างธรรมเนียมข้าราชการทั้งปวง ขอจงมีสุขสวัสดิเจริญเทอญ ตั้งแต่ณวันศุกร์ เดือน ๑๒ แรม ๗ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เปนวันที่ ๒๕๖๕ ในรัชกาลปัตยุบันนี้ (ทรงพระราชหัดถเลขาเปนพระนาม) สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์” ดังนี้ แลในสัญญาบัตรหมื่นสนิทอักษร มีความว่า “ให้หมื่นสนิทอักษร สมุห์บาญชี เปนขุนนราพิทักษ์ ปลัดกรมไพร่หลวง ขึ้นกรมมหาดเล็ก ให้ถือศักดินา ๔๐๐ ตั้งแต่บัดนี้ไป จงเว้นการควรเว้น หมั่นประพฤติการควรประพฤติ สมควรแก่ตำแหน่งทุกประการ ตามอย่างธรรมเนียมข้าราชการทั้งปวง ขอจงมีสุขเจริญเทอญ ตั้งแต่ณวันศุกร์ เดือน ๑๒ แรม ๗ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เปนวันที่ ๒๕๖๕ ในรัชกาลปัตยุบันนี้ (ทรงพระราชหัดถเลขาเปนพระนาม) สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์” ดังนี้ ครั้นแล้วจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานกรมพระคลังมหาสมบัติแจกเงินเบี้ยหวัด แก่ข้าทูลลอองธุลีพระบาททั้งปวง ประทับอยู่จนเวลาบ่าย ๓ โมง ๒๕ นาที เสด็จขึ้น แลจำนวนซึ่งพระราชทานเบี้ยหวัดข้าราชการกรมต่าง ๆ ในเวลาวันนี้นั้น คือ กรมท่ากลาง ๑ กรมศาลต่างประเทศ ๑ กรมท่าซ้าย ๑ กรมนา ๑ กรมคลังป่าจาก ๑ กองหลวงวิจารณโกษา ๑ กรมคลังทอง ๑ กรมช่างทอง ๓ กรมเมือง กรมพระสุรัสวดี ๑ รวมข้าพระ ๒๙ พระอาราม ๑ กรมหมอ ๑ กรมช้าง ๑ กรมม้า ๑ รวมพลเรือน ๑๔ กรม ครั้นเวลาทุ่ม ๕๐ นาที พระบาทสมเด็จ

แผ่นที่ ๑๓๒ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๖ ค่ำ

พระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงจุดโคมไชย แลประทับตรัสอยู่ด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการ จึงพระพิเรนทรเทพนำขุนศรี (หรั่ง) ขุนหมื่นกรมพระตำรวจใหญ่ซ้ายทูลเกล้า ฯ ถวายปั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงินเปนรางวัล ๒ ชั่ง ๔๐ บาท ประทับอยู่จนเวลายาม ๑ เสด็จขึ้น

โดย ก. ม. นเรศร์วรฤทธิ์

วันจันทร เดือน ๑๒ แรม ๑๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ศักราช ๑๒๓๗ ทรงพระกรุณาโปรด ฯ ให้แจกเบี้ยหวัดในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทหาร ๘ กรม พลเรือน ๑๘ กรม รวม ๒๖ กรม กรมพระกลาโหม ๑ กรมฝีพายลำทรง ๑ กรมดั้งทองซ้าย ๑ กรมดั้งทองขวา ๑ กรมดาบสองมือ ๑ กรมอาทมาศซ้าย ๑ กรมอาทมาศขวา ๑ กรมช่างเรือซ้ายขวา ๑ รวมทหาร ๘ กรม กรมมหาดไทย ๑ ไพรหลวงขึ้นกรม มหาดไทย ๑ เขมรล่าม ๑ กรมวัง ๑ กรมอภิรมย์ ๑ กรมราชยาน ๑ เฝ้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ๑ อาสาใหม่ซ้ายขึ้นกรมวัง ๑ อาสาใหม่ขวาขึ้นกรมวัง ๑ กรมพระคลังวรอาสน์ ๑ กรมพระคลังพิมาน อากาศ ๑ กรมโรงทานซ้าย ๑ กรมพระคลังมหาสมบัติ ๑ กรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ ๑ เกณฑ์พระราชกุศล ๑ กรมโรงกระสาปนสิทธิการ ๑ กรมสรรพากรใน ๓ กรมสรรพากรนอก ๑ รวม พลเรือน ๑๘ กรม รวมทหารพลเรือน ๒๖ กรม ในที่แจกเบี้ยหวัดนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี เสด็จนั่งเปนประธาน

พระราชพิธีสมโภชเสวตฉัตร

เวลาเย็นเจ้าพนักงานได้เชิญพระไชยเงิน (ประจำรัชกาลที่ ๔๑ องค์ ๑ พระไชยทอง (ประจำรัชกาลที่ ๒) องค์ ๑ พระไชยลงยา (ประจำรัชกาลที่ ๓) องค์ ๑ พระไชยก้าไหล่ทอง (ประจำรัชกาลที่ ๔) องค์ ๑ พระไชยประจำ (รัชกาลปัตยุบัน) องค์ ๑ ตั้งบนพระแท่นมณฑลบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วเชิญพระมหาพิไชยมงกุฎ ๑ ฉลองพระบาท ๑ พัดวาลวิชนี ๑ พระแสง ฯ พานเครื่องทองน้อยตั้งบนพระแท่นเสวตฉัตร แล้วต้นไม้ทองคู่ ๑ ต้นไม้เงินคู่ ๑ ทั้ง ๔ มุม ต้นละมุม เวลาเย็นเจ้าพนักงานกรมสังฆการได้นิมนต์พระสงฆ์ ๓๐ รูป มีสมเด็จพระวันรัตนเปนประธานมาที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น ครั้นเวลาทุ่มเศษ ทรงพระกรุณาโปรด ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ มาทรงจุดโคมไชย

----------------------------

แผ่นที่ ๑๓๓ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๗ ค่ำ

แล้วโปรดให้พระองค์เจ้าจิตรเจริญ ออกไปทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการที่บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์ ๓๐ รูปก็สวดพระพุทธมนต์ ครั้นจบแล้ว สมเด็จพระวันรัตน์ก็ถวายอติเรก พระสงฆ์สวดภะวะตุสัพ ครั้นจบแล้วก็กลับไป เปนสิ้นการในวันนั้น

โดย เกษมสันตโสภาคย์

ณวันอังคาร เดือน ๑๒ แรม ๑๑ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เลี้ยงพระสมโภชพระมหาเศวตฉัตรณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เวลาเช้า ๔ โมงเศษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ เสด็จไปจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระสงฆ์รับพระราชทานฉันจังหัน ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ซึ่งได้รับพระราชทานจัดของเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวาย ตามที่ได้รับหมาย ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้วก็ยถาสัพพีแล้วกลับไป ขุนสิวา (เภา) กับพราหมณ์ (พุก) ก็อ่านสดุดีสังเวยคำฉันท์ ครั้นอ่านจบลงก็เป่าสังข์ครั้งหนึ่ง แล้วอ่านต่อไปอิกจนหมดปริยายอันนั้น จึงพระราชครูพิธี พระครูอัษฎาจารย์ หลวงสิทธิไชย ก็เปิดแว่นแก้ว แว่นทอง แว่นเงิน ออกเวียนได้ทักขิณาวัฏสิ้นสามรอบโดยกำหนด จึงดับเทียนโบกควัน อ่านอิศรเวทวิษณุมนต์ถวายไชยมงคลตามพิธี แห่งพราหมณ์ เมื่อเวลาเวียนเทียนนั้น เจ้าพนักงานก็ลั่นฆ้องไขยสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง พิณพาทย์ พวกขับไม้ที่เข้ามารับสมโภชพระมหาเสวตฉัตรเปนสิ้นการ

ครั้นเวลาค่ำทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ รวม ๓ พระองค์ เสด็จ ออกมาจุดเทียนชักโคมไชยที่หน้าพระที่นั่งอาภรณ์พิโมข เวลาทุ่มเศษ พระสงฆ์ทั้งปวง มีกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เปนประธาน เข้าไปสวดมนต์ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในการสมโภชพระที่นั่ง แต่วันนั้นหาได้เสด็จออกไม่ ทรงพระกรุณาโปรด ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๓๔ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๗ ค่ำ

พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต ออกมาจุดเทียนเครื่องนมัสการเวลายามเศษสวดมนต์จบ พระสงฆ์ก็กลับออกมา

โดย ทองแถมถวัลยวงศ์

ณวันพุธ เดือน ๑๒ แรม ๑๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๕ โมงเศษ เจ้าพนักงานกรมสังฆการีจึงนำพระสงฆ์ ๓๔ รูป มีกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เปนประธาน เข้าไปในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่สู้จะทรงสบายจึงโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ากมลาสเลอสรรค์จุดเทียนที่ทรงนมัสการพระพุทธปฏิมากร (มีพระไชยทั้ง ๕ พระองค์) ตั้งบนเครื่องม้าหมู่ริมผนังด้านตวันออก แล้วพระสงฆ์ซึ่งได้เจริญพระพุทธมนต์ถวายพรพระแล้ว เจ้าพนักงานยกสำรับซึ่งได้เกณฑ์พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในขึ้นมาตั้งถวายพระสงฆ์นั้น ครั้นฉันแล้ว พระสงฆ์จึงไปรับของไทยธรรม แต่พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในที่ชานพักด้านตวันออก แล้วจึงกลับมานั่งที่ยถาสัพพีอติเรกถวายพระพรลากลับออกจากพระที่นั่ง แล้วสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ จึงจุดเทียนบูชาเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ แลพระแสงอื่น ๆ เหมือนกันกับที่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเมื่อวานนี้ แล้วจึงจุดเทียนที่เครื่องสังเวยเสร็จแล้ว พราหมณ์ ๒ นายจึงอ่านคำเฉลิมพระเกียรติ ว่าด้วยหมู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณนั้นจบแล้ว พระมหาราชครูพิธี พระครูอัษฎาจารย์ หลวงสิทธิไชย จึงเบิกแว่นที่หน้าบายศรีนั้นเวียนเทียนถ้วน ๓ รอบโดยกำหนดแล้ว จึงรับแว่นมากับโบกควันตามวิธีไสยศาสตร์ แล้วจึงไปเจิมเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ แลพระแสงดังที่ว่ามาแล้ว ซึ่งได้ตั้งอยู่บนโต๊ะจีนตรงหลังลับแล ซึ่งได้ประดิษฐานพระสยามเทวาธิราชนั้น ครั้นแล้วหลวงธนเทพปลัดกรมแสงต้นซ้าย จึงเชิญพระแสงออกจากฝัก จิ้มสังเวยเครื่องเซ่นทุก ๆ องค์เสร็จแล้ว เจ้าพนักงานทั้งปวงจึงกลับออกมา

เสด็จออกพระราชทานตราจุลจอมเกล้า

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เต็มยศฝ่ายทหาร อย่างกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ทรงเครื่องราชอิศริยยศทั้ง ๔ องค์ แต่สายสะพายนั้นเปนสะพายสำรับมงกุฎสยาม (น้ำเงิน) แลพระสังวาลจุลจอมเกล้า แลทรงฉลองพระองค์ครุยทับชั้นนอก เสด็จทรงพระราชดำเนิรออกมาประทับบนพระที่นั่งเก้าอี้ (โทรน) ในพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าณมุขด้านเหนือ กรมมหาดเล็ก ทหารมหาดเล็กนั้นเฝ้าณมุขด้านใต้ กรมตำรวจ แลกรมทหารหน้าเรียง ๒ แถว เฝ้าณมุขด้านตวันออก

แผ่นที่ ๑๓๕ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้น ๘ ค่ำ

ครั้นหยุดเสียงประโคมมโหรทึกแตรสังข์แล้ว สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ จึงเดิรเข้ามาทางมุขด้านตวันออก ถึงหน้าพระที่นั่งห่างประมาณ ๓ วา จึงถวายคำนับแล้วมายืนตามตำแหน่งเบื้องซ้าย แล้วเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒจึงเข้ามาทำดังนั้นเปนที่ ๒ แล้วเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีเปนที่ ๓ เจ้าพระยายมราชเปนที่ ๔ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ที่ ๕ พระยาราชวรานุกูลที่เกษตราธิบดีที่ ๖ แล้วจึงตามกันเปนลำดับ (ดังหมายเพิ่มเติมต่อราชกิจจานุเบกษา) ครั้นเข้ามายืนที่พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระราชดำรัสดังนี้ว่า “ท่านทั้งปวงบรรดาซึ่งได้มาประชุมพร้อมกันในที่นี้นั้น ด้วยเปนวันเหมือนกับวันบรมราชาภิเษกของเรา แลควรที่จะได้บูชาพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๔ รัชกาลที่ล่วงแล้วนั้นด้วย ขอให้มีมาเจริญสุขสวัสดิ์ทั่วกันเมื่อทรงพระราชดำรัสดังนี้แล้ว พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง จึงถวายคำนับลงพร้อมกัน แล้วจึงทรงพระราชดำริห์ว่า “แลข้าราชการซึ่งได้มีความชอบ ควรที่จะได้รับตราเปนเกียรติยศสืบตระกูลต่อไปนั้น ควรจะได้รับเสียในเวลานี้อันเปนวัน (เหมือนวันที่ได้พระราชทานตรานี้แต่) เดิม” แล้วสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ ซึ่งเปน (แครนมาสเตอ) ของเครื่องราชอิศริยยศนี้ จึงได้นำใบแสดงความชอบ (ดิปโลมา) กับเครื่องราชอิศริยยศที่ ๒ เข้าไปทูลเกล้า ฯ ถวาย จึงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานแด่พระยาโชฎึกราชเศรษฐีต่อพระหัดถ์ แล้วพระราชทานตราชั้นที่ ๒ แก่พระยาศรีสิงหเทพ แล้วพระราชทานตราชั้นที่ ๒ แก่หลวงสุริยามาตย์ปลัดขากรมมหาดไทยฝ่ายพลำพัง นำขึ้นไปพระราชทานแด่พระยาเทพประชุน ซึ่งขึ้นไปเปนข้าหลวงณเมืองลาวเฉียงเมืองเชียงใหม่นั้น แล้วจึงพระราชทานตราชั้นที่ ๓ แก่หม่อมเจ้าฉาย ในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี

----------------------------

แผ่นที่ ๑๓๖ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้น ๘ ค่ำ

แล้วเจ้าพนักงานจึงจัดพานทอง ๓ สำรับ ไปมอบแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยยศชั้นที่ ๒ ความในใบแสดงความชอบ (ดิปโลมา) นั้นเปนดังนี้ (แผ่นที่ ๑) สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม ซึ่งเปนพระเจ้าแผ่นดินใหญ่ในรัชกาลที่ ๕ ในพระบรมราชวงศ์ ซึ่งได้ประดิษฐานแลดำรงกรุงรัตนโกสินทรมหินทรายุธยา บรมราชธานมหานครใหญ่ในประเทศบางกอกนี้ แลเปนพระเจ้าแผ่นดินใหญ่แก่ประเทศราชใกล้เคียง คือ ลาวเฉียง ลาวกาว มลายู กะเหรี่ยง แลอื่น ๆ ในทิศนั้น ๆ แลเปนเจ้าของตราเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูล ขอประกาศความเรื่องนี้ แก่ท่านทั้งหลายทั้งปวงฤๅผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งจะได้อ่านคำประกาศนี้ให้ทราบว่า เราพระเจ้ากรุงสยาม ตั้งให้พระยาโชฎึกราชเศรษฐี ผู้มีความอุส่าห์ได้จัดการในกรมท่าซ้ายเรียบร้อยดี รับตราเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูล ตำแหน่งที่ ๒ ชื่อทุติยจุลจอมเกล้า ท. จ. ตรงวงศ์ตระกูลสืบต่อไป ตามข้อพระราชบัญญัติ แลคำประกาศสำหรับดวงตราเครื่องราชอิศริยยศนี้จงทุกประการ จงเจริญสรรพศิริสวัสดิพิพัฒมงคลชนมายุ พรรณสุขปฏิภาณดำรงวงศ์ตระกูลสืบต่อไปสิ้นกาลนานเทอญ พระราชทานตั้งแต่วันพุธ เดือน ๑๒ แรม ๑๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ศักราช ๑๒๓๗ เปนปีที่ ๘ ฤๅเปนวันที่ ๒๕๗๐ แต่มูลบรมราชาภิเษกในรัชกาลปัตยุบันนี้ (ตรา) แครนมาสเตอของตราเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้า สำหรับตระกูล (ที่ทรงพระราชหัดถ์เลขา) จุฬาลงกรณ์ (แผ่นที่ ๒) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ (พระ) จุลจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม ฯลฯ ตั้งให้พระยาศรีสิงหเทพ ปลัดบาญชีกรมมหาดไทย ซึ่งทำราชการดีรู้การเลอียด อุสาห์หมั่นในราชการ รับตราเครื่องราชอิศริยยศ จุลจอมเกล้าสำหรับตระกูลตำแหน่งที่ ๒ ชื่อทุติยจุลจอมเกล้า ท. จ. ดำรงวงศ์ตระกูลสืบต่อไป ฯลฯ (แผ่นที่ ๓) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม ฯลฯ ตั้งให้พระยาเทพประชุน ราชปลัดทูลฉลองกรมพระกลาโหม เปนผู้ได้จัดการบ้านเมืองฝ่ายตวันตก คือ มลาวประเทศเรียบร้อยดีไม่เสียราชการ รับเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้า สำหรับตระกูลตำแหน่งที่ ๒ ชื่อทุติยจุลจอมเกล้า ท. จ. ดำรงวงศ์ตระกูลสืบต่อไป ฯลฯ (แผ่นที่ ๔) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม ฯลฯ ตั้งให้หม่อมเจ้าฉาย ในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี เปนหม่อมเจ้าใหญ่ในกรมนั้นรับตราเครื่องราชอิศริยยศ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๓๗ ออกวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๙ ค่ำ

จุลจอมเกล้าสำหรับตระกูลตำแหน่งที่ ๓ ชื่อตติยจุลจอมเกล้า ต. จ ดำรงวงศ์ราชตระกูลสืบต่อไป ฯลฯ (ในใบแสดงความชอบ คือ ดิปโลมา สามใบหลังนี้ที่ละไว้นั้น เพราะความเหมือนกันกับใบข้างต้น คือ แผ่นที่ ๑ นั้นแล้ว) ครั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานตราเครื่องราชอิศริยยศ ดังว่านั้นเสร็จแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการว่า ท่านทั้งหลายผู้ที่ได้รับตราเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้านั้น ซึ่งมีความเจริญสุขสวัสดิ์ดำรงวงศ์ตระกูลต่อไปสิ้นกาลนาน ครั้นแล้วจึงเสด็จทรงพระราชดำเนิรลงจากที่พระเก้าอี้โทรนซึ่งประทับอยู่นั้น ไปตรัสกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ครู่หนึ่ง แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนิรขึ้นบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ปราสาท ทรงจุดธูปเงินเทียนทอง (๔ ที่ ๆ ละ ๔ คู่ แลเข้าตอกดอกไม้อิก ๔ ที่ ๆ ละ ๔ คู่) นมัสการพระรูป พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ประดิษฐานเรียงกันเปนแถวหน้าบุษบกบนพระที่นั่งนั้น (แลเรียงที่ ๑ แต่ข้างนอกเข้ามาข้างใน) ครั้นทรงนมัสการแล้ว จึงทรงประทับณพระที่เก้าอี้ (โทรนเล็ก) แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง จึงเข้าไปจุดธูปเทียนของตน แล้วถวายบังคมพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง ๔ พระองค์ ใน ๔ รัชกาลที่ล่วงไป ดังที่ว่ามาแล้วนั้นทุกท่านทุกนาย บรรดาที่ได้มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในเวลาวันนี้ ครั้นเสร็จแล้วจึงเสด็จพระราชดำเนิรกลับขึ้น (ข้าง) ใน เมื่อเวลาข้าราชการฝ่ายหน้าได้นมัสการแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการฝ่ายใน ออกนมัสการเหมือนดังได้ว่ามาแล้ว จึงกลับคืนเข้าในพระบรมมหาราชวัง

การสมโภชพระมหาเศวตฉัตรต่อมา

ครั้นเวลาค่ำจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ออกไปจุดเทียนนมัสการ ให้พระสงฆ์ ๓๓ รูป มีเจ้าพระ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๓๘ ออกวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๙ ค่ำ

สังวรวรประสาทเปนประธาน พระสงฆ์นั้นได้เจริญพระปริตในพระที่นั่งอนันตสมาคมมุขด้านเหนือ ในมุขนั้นตั้งพระไชยทั้ง ๕ พระองค์เปนประธาน บนพระที่นั่งเสวตฉัตรนั้น ตั้งเครื่องเบ็ญจราชกกุธภัณฑ์ กับพระแสงต่าง ๆ อิกหลายองค์ เหมือนกันกับที่ได้ตั้งสมโภชในพระที่นั่งไพศาลทักษิณเมื่อเช้านี้ การสวดมนต์นี้เปนการสมโภชพระที่นั่งในหมู่นี้ ครั้นจบพระสงฆ์กลับออกจากพระบรมมหาราชวัง

ในเวลาค่ำวันนี้ที่โรงกรมทหารหน้า แลทหารดับเพลิง แลทหารปืนใหญ่นั้น ตามตะเกียงไฟประดับที่โรงคล้ายกันกับเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อในเดือน ๑๐ แต่ในวันนี้นั้นน้อยกว่ามาก เพราะไม่มีใบไมแต่ง มีแต่โคมตะเกียงติดแขวนนิดหน่อย กับได้มีแตรทหารหน้าเป่าที่แท่นในสนามไชยหน้าประตูสวัสดิโสภา แตรนั้นมีอยู่จนเวลายามหนึ่ง จึงได้สรรเสริญพระบารมีแล้วเลิก ที่ห้างมิสเซอแรมซิเวกฟิลด์ แอนด์กำปนี ซึ่งมิสเตอลอรีเปนผู้จัดการนั้น ก็ได้จุดโคมไฟเหมือนกัน การที่ได้จุดโคมไฟฉนี้นั้น เพราะวันนี้เปนวันเหมือนกันกับวันบรมราชาภิเษกครั้งหลัง ตามจันทรคติกาล

โดย เทวัญอุไทยวงศ์ ๑

ณวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ แรม ๑๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๔ โมงเศษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ไปจุดเทียนเครื่องนมัสการ แล้วพระสงฆ์ ๓๓ รูป มีพระธรรมไตรโลกเปนประธานสวดถวายพระพรจบ แล้วก็ฉัน เวลาเช้า ๕ โมงเศษ พราหมณ์ก็อ่านคำยอพระเกียรติ แลโหรก็บูชาเครื่องเบ็ญจราชกกุธภัณฑ์ ครั้นจบแล้วพราหมณ์ก็เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระมหาเสวตฉัตรแลเครื่องเบ็ญจราชกกุธภัณฑ์สามรอบ ในเวลานี้ได้เกณฑ์สำรับเลี้ยงพระสงฆ์ จากพระบรมวงศานุวงศ์ กับข้าราชการซึ่งได้รับพระราชทานพานทองฝ่ายหน้า พระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการสวมเสื้อฟร็อกโก๊ต แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จออก ด้วยไม่สู้จะทรงสบาย เวลาย่ำค่ำเศษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ ๑ มาชักโคมไชย เวลาย่ำค่ำเศษ เจ้าจอมมารดาแพ ประสูติพระราชบุตรีพระองค์หนึ่ง

โดย มนุษยนาคมานพ

วันศุกร์ เดือน ๑๒ แรม ๑๔ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๓ โมง พระสงฆ์วัดสุทัศน์ ๔๐ รูป มีพระเทพกระวีเปนประธาน เข้าทางประตูดุษดีศาสดา รับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง ออกทางประตูอนงคลีลา แลทรงพระกรุณาโปรด ฯ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๓๙ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๑๐ ค่ำ

ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ ออกมาทรงประเคนที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ พระสงฆ์ ๑๐ รูป มีพระวิสุทธิสารเถรเปนประธาน ได้รับพระราชทานฉันแล้วก็กลับไปวัด เวลาบ่าย พระยาจ่าแสนยบดี ๑ พระยาศรีสิงหเทพ ๑ เข้าไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วกลับออกมา เวลาค่ำทรงพระกรุณาโปรด ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ ๑ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ ๑ ออกมาชักโคมไชยขึ้น ชีพ่อพราหมณ์ก็เป่าสังข์ เจ้าพนักงานก็ลั่นฆ้องแลประโคมขึ้น แลเวลาวันนี้ไม่มีราชการ

โดย สวัสดิประวัติ

วันเสาร์ เดือน ๑๒ แรม ๑๕ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระสงฆ์วัดอรุณราชวราราม ๕๑ รูป มีพระธรรมเจดีย์เปนประธาน เข้ารับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง แลพระสงฆ์วัดโมลีโลก ๒๐ รูป พระปาฏิโมกข ๑ มีพระอมรเมธาจารย์เปนประธาน ได้รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้ว พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ได้ถวายไตรปาฏิโมกข แล้วพระสงฆ์จึงอนุโมทนาทานแล้วก็กลับไปวัด เวลาบ่ายโมงเศษ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์ ๑ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ๑ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ ๑ กับกรมพระอาลักษณ์อิก เข้าทางพระทวารพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เข้าทำการในออฟฟิศหลวงเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เวลาย่ำค่ำทรงทาไขจุดเทียน ๖ เล่ม พระราชทานพระองค์เจ้าโสณบัณฑิต พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณไปจุดโคมไชย เจ้าพนักงานได้จัดการพร้อมเหมือนทุก ๆ วัน แล้วมีพระบรมราชโองการ ให้พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ออกมาจุดเทียนที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ส่วนพระสงฆ์จึงได้สวดพระพุทธมนต์ ครั้นสวดจบแล้วก็กลับไปวัด พระพิธีธรรมวัดพระเชตุพน ๔ รูป

แผ่นที่ ๑๔๐ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๑๐ ค่ำ

ได้สวดปัจเวกขณที่หอพระปริตยังรุ่งด้วย

ในเวลาค่ำวันนี้ มีพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ มาคอยในสนามหญ้า คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ๑ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์ ๓ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล ๑ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ ๑ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ๑ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ ๑ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช ๑ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ๑ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๑ หลวงพินิจจักรภัณฑ์ ๑ หมอกาวัน ๑ กับมหาดเล็กอิกมาก ได้คอยอยู่จนเวลาทุ่มเศษไม่เสด็จออก ด้วยยังไม่หายทรงพระประชวรสนิทดี เจ้านายขุนนางก็กลับไปหมด แต่พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ต้องมาประทมค้างมาหลายคืน ด้วยทรงพระประชวรต้องกำกับหมออยู่

โดย ภาณุรังษี

วันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้นค่ำ ๑ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ ในเวลาเช้าโมง ๑ นั้น เจ้าพนักงานได้ลดเสาโคมไชยแลเสาโคมบริวารทั้งปวง เปนสิ้นการพระราชพิธีจองเปรียง ครั้นเวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระสงฆ์เข้ารับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง แลพระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉันเวร ที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์นั้นก็มีตามธรรมเนียม แต่ในเวลาบ่ายนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหาได้เสด็จออกไม่ เจ้าพนักงานกรมมหาดเล็กได้ส่งนาคเพลิงแลธูปเทียนดอกไม้จันทน์ ซึ่งจะพระราชทานเพลิงที่ศพหม่อมเจ้าชายกุสุเมศ ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทเวศวัชรินทร แล้วเจ้าพนักงานคลังวิเศษก็ได้ส่งผ้าขาว ๒ พับ เจ้าพนักงานกรมพระคลังมหาสมบัติได้ส่งเงินเฟื้อง ๑๐๐ เฟื้อง สำหรับพระราชทานบังสกุลในศพนั้น เข้าไปทูลเกล้า ฯ ถวายข้างใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดนาคเพลิงแล้ว เจ้าพนักงานก็ได้รับไปพระราชทานที่วัดสระเกศ แต่ในเวลา ๕ โมงเศษนั้น มีการสมโภชพระเจ้าลูกเธอที่ประสูติเมื่อณวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ แรม ๑๓ ค่ำ ด้วยเปนการครบกำหนด ๓ วัน สมโภชตามธรรมเนียม แลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระนามวันสมโภชนี้ด้วย พระนามที่พระราชทานนั้นว่า “พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าบัณฑรวรรณวโรภาส” แลการสมโภชนี้ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหาได้เสด็จไม่ เพราะทรงพระประชวรยังไม่หายสนิท พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการข้างหน้าเข้าไปในการสมโภชนั้น คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี ๑ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๔๑ ออกวันพุธ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๑ ค่ำ

พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสุขสวัสดิ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ๑ เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒ ๑ พระยาภาสกรวงศ์ ๑ พระยามหามนตรี ๑ พระยานรนาถภักดี ๑ เจ้าหมื่นสรรเพธภักดี ๑ เจ้าหมื่นไวยวรนาถ ๑ พระอินทรเทพ ๑ พระสุนทรานุกิจปรีชา ๓ พระอมรวิไสยสรเดช ๑ กับข้าราชการที่เปนเจ้าพนักงานมาทำในการสมโภช เหมือนดังพราหมณ์โหรเปนต้นดังนี้อิกหลายนาย ครั้นสมโภชแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการ ก็ออกจากข้างในพระบรมมหาราชวัง บางพระองค์บางท่านก็มาพักอยู่ที่สนามหญ้าพร้อมกันกับพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ๑ รวม ๔ พระองค์ ซึ่งเสด็จมาในการสมโภชมิทัน แลพักอยู่ที่สนามหญ้าด้วยหลวงพินิจจักรภัณฑ์แลหมอกาวันนั้น บางพระองค์บางท่านก็พักอยู่จนเวลา ๒ ทุ่มบ้าง ยาม ๑ บ้าง ก็กลับจากพระบรมมหาราชวัง

โดย ก. ม. นเรศร์วรฤทธิ

ณวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๒ ค่ำ เวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระยาจ่าแสนยบดี พระยาศรีสิงหเทพ เข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท เวลาเที่ยงเศษก็ถวายบังคมลากลับออกมา วันนี้พระบรมวงศานุวงศ์แลขุนนางข้าราชการหาได้เฝ้าไม่ ไม่มีการสิ่งใด

โดย เกษมสันตโสภาคย์

แผ่นที่ ๑๔๒ ออกวันพุธ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๑ ค่ำ

ณวันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เวลาเช้ามีพระสงฆ์ฉันเวรณพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ๑๐ รูป แลพระสงฆ์ได้เข้าบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เปนเวรวัดระฆังโฆสิตาราม ครั้นเวลาเย็นมีพระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการคอยเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลย์วงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ๑ รวม ๑๐ พระองค์ พระยาภาสกรวงศ์ ๑ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๑ หลวงพินิจจักรภัณฑ์ ๑ หมอกาวัน ๑ เข้ามาอยู่สนามหญ้า จนเวลา ๔ ทุ่มจึงเลิกประชุม

โดย ทองแถมถวัลยวงศ์

ณวันพุธ เดือนอ้าย ขึ้น ๔ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระยาศรีสิงหเทพ นำพระมหาเทพเข้าเฝ้าณพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ กราบถวายบังคมลา นำพระราชหัดถเลขาไปพระราชทานพระยามหาอำมาตยณเมืองนครราชสีมา แลนำเอาเบี้ยหวัดแลเสื้อผ้าไปแรกนายทัพนายกอง ซึ่งได้ต่อสู้กับพวกจีนฮ่อนั้น แล้วจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานโต๊ะทอง ๑ กาทอง ๑ เสื้อเยียระบับ ๑ ผ้าม่วงสำรับ ๑ ครั้นพระราชทานแล้วจึงเสด็จขึ้น

โดย เทวัญอุไทยวงศ์

ณวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ขึ้น ๕ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิรออกทางพระทวารหน้าพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติประทับสนามหญ้า พระบรมวงศานุวงศ์แลขุนนางข้าราชการที่เฝ้า คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ากาพย์กนกรัตน ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๔๓ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ

พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ ๒ หม่อมเจ้าประวิช ๑ เจ้าพระยาสุรวงศไวยวัฒ ๑ พระยาภาสกรวงศ์ ๑ พระยาสมุทบุรานุรักษ์ ๑ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๑ พระอิศราธิไชย ๑ หลวงพินิจจักรภัณฑ์ ๑ หลวงรัตนายัติ ๑ จมื่นประธานมณเฑียร ๑ จมื่นราชามาตย์ ๑ หลวงไตรนารายณ์ ๑ มิสเตอรอาลบาสเตอร ๑ รวม ๒๒ ด้วยกัน ประทับตรัสอยู่จนเวลาย่ำค่ำเศษเสด็จขึ้น

โดย มนุษยนาคมานพ

ณวันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๖ ค่ำ ปีกุนสัปตศก เวลา ๓ โมงเช้า พระสงฆ์เข้ารับบิณฑบาตเวรในพระบรมมหาราชวัง แลพระสงฆ์รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ตามธรรมเนียมเหมือนอย่างทุกวัน เวลาเที่ยง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เฝ้าแล้วกลับออกมา เวลาบ่ายโมงเศษพระยาจ่าแสนยบดี ๑ พระยาศรีสิงหเทพ ๑ เข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท เวลา ๒ โมงก็กลับออกมา เวลา ๕ โมงเย็นพระยาราชวรานุกูลเข้าเฝ้าประมาณ ๒๐ นาทีก็ถวายบังคมลากลับออกมา เวลาเย็นพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการมาประชุมคอยเฝ้าที่สนามหญ้าเปนหลายท่าน หลายนาย แต่เวลาวันนี้หาเสด็จออกไม่

โดย สวัสดิประวัติ

ณวันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๗ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระสงฆ์วัดอรุณราชวราราม ๕๖ รูป มีพระธรรมเจดีย์เปนประธาน ได้เข้ารับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง พระสงฆ์วัดภคินีนาถ ๑๐ รูป มีพระประสิทธิสุตคุณเปนประธาน ได้รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งดุสิตภิรมย์ ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้วก็กลับไปวัด เวลาบ่าย ๒ โมงพวกออฟฟิศหลวงเข้า เวลาเกือบย่ำค่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทางพระทวารพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ ประทับสนามหญ้า พระบรม

----------------------------

แผ่นที่ ๑๔๔ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ

วงศานุวงศ์แลขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย ได้เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี สมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์ พระองค์เจ้าสุขสวัสดิ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ พระองค์เจ้าเกษมสันตโสภาคย์ พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระองค์เจ้าไชยานุชิต พระองค์เจ้าอิศวรกุมาร พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ พระองค์เจ้าไชยันตมงคล พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ หม่อมเจ้าฉายเฉิด หม่อมเจ้าประวิช พระราชวรินทร จมื่นประธานมณเฑียร จมื่นราชามาตย์ จมื่นทิพรักษา พระยาราชวังสัน พระศรีกาฬสมุด พระอมรวิไสยสรเดช หลวงรัตนายัติ หลวงไตรนารายณ์ หลวงวุธอัคคี หลวงราชเศรษฐี ขุนอมรินทร พระยาภาสกรวงศ์ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ นายจ่ายง นายจ่าเรศ หลวงนริศร นายวรกิจ นายชิต นายพินิจ นายเหมา หมอกาวันกับมหาดเล็กวิเศษ มหาดเล็กเวรอิกประมาณ ๓๐ คนเศษ พระองค์เจ้ากาพย์กนกรัตน จมื่นสรเดช จมื่นสราภัยกับพวกทหารมหาดเล็กอิกประมาณ ๑๐ คนเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับตรัสอยู่จนเวลาเกือบทุ่ม เสด็จขึ้น

โดย ภาณุรังษี

ณวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้น ๘ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า พระสงฆ์บิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง แลพระสงฆ์ฉันที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ๒๐ ตามอย่างวันพระนั้นก็มีตามธรรมเนียม ครั้นเวลาบ่ายโมง พระยาจ่าแสนยบดี พระยาศรีสิงหเทพ นำพระรัตนโกษา ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ จะให้ขึ้นไปรับราชการฉลองพระเดชพระคุณ เปนข้าหลวงชาระความที่เมืองตากนั้น ๑ พระพิทักษ์อุไทยเขตร ปลัดเมืองไทยธานี ๑ พระทิพรักษา ยกระบัตรเมืองตาก ๑ เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไปเมืองตาก แลเมืองอุไทยธานี เฝ้าอยู่จนเวลาบ่ายโมง ๔๕ นาทีออก ากเฝ้า ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมง ๒๕ นาที พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์ กาพย์กนกรัตน์ แลจมื่นสราภัยสฤษดิการ เออเดอแกมปทั้ง ๒ แลพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียรเจ้าพนักงานกรมวัง ๑ พระศรีสมบัติ พระศรีธรรมสาสน ๑ พระดิษฐการภักดี ๑ หลวงมนตรีนิกรโกษา ๑ หลวงรัตนายัติ ๑ หลวงสุนทรโกษา ๑

แผ่นที่ ๑๔๕ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๓ ค่ำ

รวมเจ้าพนักงานกรมท่า ๖ นาย รวมเจ้าพนักงานเปน ๙ ด้วยกัน ได้นำแขกเมืองฮอลันดาซึ่งมาพักอยู่เก๋งวรสภาภิรมย์นั้น เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทที่พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร แขกเมืองที่เฝ้านั้น คือ กงสุลฮอลันดา ๑ กับตัน ๑ ออฟฟิศเซอร์ ๗ นาย มิสเตอร์จันดเลล่าม ๑ มิสเตอร์สมิทล่าม ๑ รวม ๑๑ นาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ฟรอกโก๊ตออกรับ ทรงพระราชปฏิสันถารปราศัยตามธรรมเนียม พอสมควรแล้วก็เสด็จขึ้น เจ้าพนักงานแลแขกเมืองก็คำนับถวายบังคมลา กลับไปในเวลาบ่าย ๕ โมง ๔๐ นาที ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมง ๕๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับสนามหญ้า พระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ประทับอยู่จนเวลาย่ำค่ำ ๑๕ นาทีเสด็จขึ้น ในเวลาทุ่ม ๑ นั้น พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ๒๐ รูปนั้น ก็มาสวดมนต์ แลที่หอพระปริตก็มีพระพิธีธรรม ๔ รูป สวดปัจจเวกขณตามธรรมเนียม

โดย ก.ม. นเรศร์วรฤทธิ์

ณวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๙ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเที่ยงเศษ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีเข้าไปเฝ้าทูลลอองงธุลีพระบาทในพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เวลาประมาณโมงเศษฤๅ ๒ โมงกลับออกมา เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสนามหญ้าหน้าพระที่นั่งใหม่ พระบรมวงศานุวงศ์ แลขุนนางข้าราชการเฝ้าพร้อมกันณที่นั้น เสด็จประทับอยู่จนเวลาย่ำค่ำเศษ เสด็จขึ้น

โดย เกษมสันตโสภาคย์

ณวันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๑๐ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาประมาณบ่าย ๒ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ มีพระไกรศรีเข้าไปเฝ้าอยู่ในที่นั้น เวลา บ่ายประมาณ ๓ โมงจึงได้กลับออกมา ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๔๖ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๓ ค่ำ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสนามหญ้า ตรัสอยู่กับพระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการ จนเวลาย่ำค่ำเศษ เสด็จขึ้น

โดย ทองแถมถวัลยวงศ์

ณวันพุธ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๑ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ากาพยกนก รัตน์ (ที่เอดเดอกง) ๑ จมื่นสรเดชรณชิต (ที่เอดเดอกง) ๑ พระศรีธรรมสาสน ๑ พระไพรัชพากย์ภักดี ๑ พระดิษฐการภักดี ๑ หลวงรัตนายัติ ๑ หลวงสุนทรโกษา ๑ เปนเจ้าพนักงานกรมท่า ๕ นาย แลพระอนุรักษ์ราชมณเฑียรกรมวัง ๑ รวม ๘ นาย นำสังฆราชฝรั่งเศสซึ่งเปนขึ้นใหม่ณกรุงเทพ ฯ ๑ สังฆราชมาแต่เมืองไซ่ง่อน ๑ บาทหลวงที่ ๒ สังฆราชทั้ง ๒ คนอิก ๒ นายรวมเปน ๔ นาย เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๑ ทรงพระราชปฏิสันถารตามธรรมเนียม แล้วจึงเสด็จขึ้น เจ้าพนักงานจึงพาบาดหลวงฝรั่งเศสออกมา

ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระสงฆ์ ๕๘ รูป จึงเข้าไปสวดมนต์ในการเฉลิมพระชนมพรรษา พระบรมมไหยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ที่พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์นั้น มีพระพุทธปฏิมากร (พระไชยในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) เปนประธาน ครั้นเวลาย่ำค่ำเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์อิวนิงเดรศ สายสพายเครื่องราชอิศริยยศ

(ยังมีอิกต่อไป คือ จุลจอมเกล้า แลองค์ตราด้วย)

แจ้งความ

ด้วยได้ทราบว่า ณวันพุธ เดือนอ้าย แรม ๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนิร เสด็จลงเรือพระที่นั่งอัคราชวรเดชล่องลงไปตามลำน้ำ เสด็จประพาสฝั่งทเลตวันออก มีอ่างศิลาเกาะสีชังเปนต้น ประทับประพาสอยู่ในนั้นประมาณ ๑๐ เวลา ๑๑ เวลา ๑๒ เวลา ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนิรกลับณกรุงเทพ ฯ ขบวรเสด็จนั้น ได้ทราบว่ามีเรืออัคราชวรเดช ๑ ลำ เรือไรซิงแซน ๑ ลำ เรือประพาสอุดรสยาม ๑ ลำ เรือรบอย่างโกเวด ยังไม่มีชื่อ ๑ ลำ เหล่านี้ล้วนเรือกลไฟใหญ่ทั้งนั้น ยังพระที่นั่งเล็ก ๆ อิกบ้าง แลซึ่งจะกำหนดพระราชดำเนิรกลับวันไรนั้นไม่ทราบแน่ จะบอกไปนั้นไม่ได้ ขอท่านผู้ที่จะตามเสด็จพระราชดำเนิร จงเตรียมพระองค์ เตรียมกายของท่านให้เรียบร้อย คอยตามเสด็จพระราชดำเนิรเถิด

โดย ผู้จัดการพิมพ์

----------------------------

แผ่นที่ ๑๔๗ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๔ ค่ำ

(ต่อมาจากแผ่นที่ ๑๔๖ ข้างหลังเพียง สายสพายเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้า แลองค์ตราด้วย) เสด็จพระราชดำเนิรลงที่พระตำหนัก ประทับรับสั่งกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ครั้นพระสงฆ์เจริญพระปริตมนต์จบแลกลับแล้ว จึงเสด็จพระราชดำเนิรไปประทับ ตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ แลเสด็จไปประทับตรัสกับกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร แล้วจึงเสด็จมาประทับตรัสกับเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี เวลาประมาณ ๒ ทุ่มเศษจึงเสด็จขึ้น แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ จึงไปเสวยที่ห้องข้างขวาพระตำหนักใหญ่ แลขุนนางไปเลี้ยงที่ชลาข้างขวา ครั้นแล้วจึงได้เฝ้ากรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร แล้วจึงกลับออกทางประตูพรหมซ้าย แลพระบรมวงศานุวงศ์กับข้าราชการนั้นแต่งสวมเสื้ออิวนิงเดรศ แลสวมเครื่องราชอิศริยยศ ตามที่ได้รับพระราชทาน

แก้ข้อที่ผิดในวันพุธ เดือน ๑๒ แรม ๑๒ ค่ำ นั้น ในแผ่นที่ ๑๓๔ ด้านหลังบันทัดที่ ๙ ขึ้นไป ได้บอกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เต็มยศอย่างทหารมหาดเล็กนั้นมิใช่ คือ ทรงฉลองพระองค์เยียระบับ ในแผ่นที่ ๑๓๕ ด้านหน้าบันทัดที่ ๓ ขึ้นไปนั้น ที่เจ้าพระยายมราชได้เข้าไปถวายคำนับที่ ๔ นั้นไม่ถูก ด้วยเจ้าพระยายมราชป่วยอยู่ หาได้เข้ามาฉลองพระเดชพระคุณไม่ ในแผ่นที่ ๑๓๕ ด้านข้างหลังบันทัดที่ ๕ ลงมานั้น เปนคำที่ทรงพระราชดำริห์ ว่าขอให้มีมาเจริญสุขสวัสดิทั่วกันนั้น แก้เปนขอให้มีความเจริญสุขสวัสดิ์ทั่วกัน

โดย เทวัญอุไทยวงศ์

การเฉลิมพระชนมพรรษาในพระเจ้าบรมมไหยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร

ณวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๓ โมง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ไปทรงประเคนสำรับพระสงฆ์ ๕๘ รูป

----------------------------

แผ่นที่ ๑๔๘ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๔ ค่ำ

ซึ่งได้สวดพระพุทธมนต์ในเวลาวานนี้ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เจ้าพนักงานได้นิมนต์พระสงฆ์ ๕๘ รูป มีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เปนประธานเข้าไปที่พระตำหนัก แล้วพระเจ้าบรมมไหยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ก็ทรงถวายเครื่องไทยธรรมแก่กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ แล้วโปรด ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี ประเคนกระดาดซึ่งจดชื่อเครื่องไทยธรรมต่าง ๆ แก่พระสงฆ์ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ยถา พระสงฆ์ก็สวดสัพพียัสมิงปเทเส สัพพพุทธา ภะวะตุสัพจบแล้ว เจ้าพนักงานก็นำพระสงฆ์กลับออกมา เวลาเช้า ๕ โมงเศษ พระมหาราชครูพิธี ๑ พระครูอัษฎาจารย์ ๑ พระสิทธิไชย ๑ ได้เบิกแว่นเวียนเทียนรอบพระตำหนักหลังนั้น ครบกำหนด ๓ รอบแล้ว จึงเจิมพระสุพรรณบัตรแลดวงพระชนมพรรษา แล้วประมาณครู่หนึ่ง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ได้เชิญพระบรมวงศานุวงศ์ไปเสวยทางพระตำหนักข้างทิศบูรพา ครั้นเสวยแล้วประมาณครู่หนึ่งก็กลับออกมา ในเวลาเช้าวันนี้ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการสวมเสื้อฟรอกโก๊ต ตำรวจกรมวังแลกรมอื่น ๆ ที่ได้รับพระราชทานเสื้อสำหรับยศนั้น สวมเสื้อครึ่งยศตามกรมนั้น ๆ เวลาบ่าย พระธรรมวโรดมได้ถวายเทศนาเทวดาอุทิศ

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการเข้าไปเฝ้า พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ๑ พระยาจ่าแสนยบดี ๑ พระยาศรีสิงหเทพ ๑ พระยาศรีสรราช ๑ พระยาราชบังสัน ๑ พระบรมเทพผลู ๑ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๑ พระศรีกาฬสมุด ๑ พระนรินทรราชเสนี ๑ พระรจนารังสรรค์ ๑ จมื่นราชามาตย์ ๑ จมื่นประธานมณเฑียร ๑ จมื่นวิชิตไชยศักดาวุธ ๑ กับขุนนางหลวงขุนยังอิกหลายท่านหลายนาย เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จขึ้น พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการก็กลับออกมาทางพระทวารหน้าพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ

โดย มนุษยนาคมานพ

ณวันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการ เข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท

----------------------------

แผ่นที่ ๑๔๙ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๕ ค่ำ

พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการประมาณ ๖๐ เศษ เฝ้าอยู่ที่นั้น เวลาค่ำแล้ว ขุนนางข้าราชการก็ถวายบังคมลากลับออกมาบ้าง เฝ้าอยู่บ้าง เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ จึงนำนายกรบุตร์พระปรีชากลการ ถวายตัวทำราชการฉลองพระเดชพระบรมคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศแลข้าราชการจนเวลา ๒ ทุ่มจึงเสด็จขึ้น พระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการก็กลับออกมา

โดย สวัสดิประวัติ

ณวันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๔ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระสงฆ์วัดอรุณราชวราราม ๕๖ รูป มีพระธรรมเจดีย์เปนประธาน ได้เข้ารับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง เวลาเช้า ๔ โมง พระสงฆ์วัดชนะสงคราม ๑๐ รูป มีพระอุดมญาณเปนประธาน ได้รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้วก็กลับไปวัด ครั้นเวลาบ่ายโมงเศษ พระยาเจริญราชไมตรี ๑ พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร ๑ เข้าไปเฝ้าแล้วก็กลับออกมาในเวลานั้น เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์กับพวกออฟฟิศเข้าทำการในพระบรมมหาราชวัง แล้วพระยาจ่าแสนยบดี พระยาศรีสิงหเทพเข้าไปเฝ้า เวลาบ่าย ๕ โมงแล้วกลับออกมา ครั้นเวลาย่ำค่ำ พระบรมวงศานุวงศ์ แลขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยเข้าไปเฝ้าประมาณ ๕๐ เศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ตั้งให้หลวงณรงค์รำบาญเปนหลวงนารายณ์ฤทธา เจ้ากรมอาสายี่ปุ่นซ้าย ให้ถือศักดินา ๑๐๐๐ ให้จ่าโผนวิ่งชิงชัยเปนจ่าชำนิทั่วด้านสำหรับจางวางกรมตำรวจซ้ายให้ถือศักดินา ๖๐๐ ให้จ่าโชนเชิดประทีปในเปนหลวงสุเรนทรวิชิต เจ้ากรมเรือดั้งคู่ชักซ้ายให้ถือศักดินา ๘๐๐ ให้นายรองบำเรอบรมบาท เปนขุนผลาญไพรินทร ปลัดกรมไพร่หลวงกองกลางขวา ให้ถือศักดินา ๖๐๐ ให้นายอยู่สารวัดยามขัน เปนหลวงศรสำแดงฤทธิ์ ปลัดกรมเขนทองทวา

----------------------------

แผ่นที่ ๑๕๐ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๕ ค่ำ

ให้ถือศักดินา ๖๐๐ ให้นายอุ่ม มหาดเล็ก บุตร์พระศรีกาฬสมุด เปนจ่าเขมงศัสตรียาวุธ ในกรมพระตำรวจสนมทหารขวา ให้ถือศักดินา ๖๐๐ ให้นายพ่วงมหาดเล็กเวรศักดิ์ เปนหลวงภูเบนทรสิงหนาท เจ้ากรมสนมกลางขวา ให้ถือศักดินา ๘๐๐ ประทับตรัสด้วยราชการอยู่จนเวลาทุ่มหนึ่งเสด็จขึ้น พระบรมวงศานุวงศ์แลขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย ก็กลับออกมาจากที่เฝ้า

โดย ภาณุรังษี

----------------------------

แผ่นที่ ๑๕๑ ออกวันจันทร์ เดือนอ้าย แรมค่ำ ๑

ข่าวราชการต่าง ๆ ในพระบรมมหาราชวัง

ณวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า พระสงฆ์เข้ารับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง แลพระสงฆ์ฉันที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์นั้น ก็มีตามธรรมเนียม เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการเข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท กรมช่างรักได้ถวายพระพุทธรูปทรงปิดทอง ๑ กรมราชบัณฑิตได้ถวายหนังสือพระคัมภีร์อรรถกถาอปทานบั้นปลาย ๑๕ ผูก ทรงร้อยทรงปิดทอง ๑ แลถวายหนังสือจุลนิเทศ ๒๒ ผูก ๒๑ ลาน ทรงร้อยหูหนังสือครั้นเสร็จแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตร ตั้งขาทดลอองธุลีพระบาท คือตั้งนายน้อยมหาอิน ความในสัญญาบัตรมีว่า “ให้นายน้อยมหาอิน เปนเจ้าบุรีรัตนเมืองนครเชียงใหม่ จงช่วยเจ้าอินทวิชยานนทพหลเทพภักดีเจ้าเมืองนครเชียงใหม่ คิดอ่านราชการบ้านเมือง แลฟังบังคับบัญชาเจ้านครเชียงใหม่ แต่ที่เปนยุติธรรมแลชอบด้วยราชการ จงเว้นการควรเว้น หมั่นประพฤติการควรประพฤติ แลรักษาความซื่อสัตย์สุจริตต่อกรุงเทพ ฯ ตามอย่างธรรมเนียม ผู้ที่อยู่เปนตำแหน่งเช่นนี้ จงเจริญสุขสวัสดิ์ ทำราชการตั้งแต่บัดนี้ไปเทอญ ตั้งแต่ณวันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก เปนปีที่ ๘ ของตราดวงที่ประจำประทับประจำการแผ่นดินสยาม ศักราช ๑๒๓๗ เปนวันที่ ๒๕๘๖ ในรัชกาลปัตยุบันนี้ (ทรงพระราชหัดถเลขาเปนพระนาม) สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์” ดังนี้ แลพระราชทานพานหมากถมตะทอง ๑ คนโทถมตะทอง แลกระโกนตะทอง ๑ รวม ๓ สิ่งเปนเครื่องยศ แลทรงตั้งพระพี่เลี้ยงเอมข้าหลวงเดิม เปนหลวงอัคนารีรัตนามาตย์เจ้ากรมกองการกุศล ให้ถือศักดินา ๘๐๐ หนึ่ง นายเข็มมหาดเล็กเวรศักดิเปนขุนมณีสารสมบัติ ปลัดกรมพิมานอากาศให้ถือศักดินา ๔๐๐ หนึ่ง ขุนมณีสารสมบัติ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๕๒ ออกวันจันทร เดือนอ้าย แรม ๑ ค่ำ

ปลัดกรม เปนหลวงรัตนรักษา เจ้ากรมพระคลังพิมานอากาศให้ถือศักดินา ๖๐๐ หนึ่ง นายภู่มหาดเล็กน้องจมื่นจงขวาเปนจ่าโชนเชิดประทีปใน ในกรมพระตำรวจวังขวา ให้ถือศักดินา ๕๐๐ หนึ่ง นายจีนสารวัดเปนขุนพิมานมณเฑียร ปลัดกรมรักษาพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทให้ถือศักดินา ๓๐๐ หนึ่ง หมื่นรุดพลศักดิ์กรมพระตำรวจในขวาเปนขุนบัญชาพล ปลัดกรมเรือดั้งคู่ชักขวาให้ถือศักดินา ๖๐๐ หนึ่ง หมื่นชำนาญนิกร สมุหบาญชีเปนหลวงสกลพิมาน เจ้ากรมอาสาใหม่ขึ้นกรมวังให้ถือศักดินา ๖๐๐ รวม ๘ นาย แลในสัญญาบัตรนั้น ก็มีความตามธรรมเนียมที่ทรงตั้งมาแต่ก่อน ๆ ประทับตรัสอยู่จนเวลาทุ่มหนึ่งเสด็จขึ้น พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการ ก็คำนับถวายบังคมลากลับออกมา บางท่านก็พักอยู่สนามหญ้า บางท่านก็กลับไปบ้าน ประมาณครู่หนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับสนามหญ้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศไปจุดเทียน พระสงฆ์สวดมนต์ที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ตามธรรมเนียม ประทับอยู่จนเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

โดย ก.ม. นเรศร์วรฤทธิ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๕๓ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย แรม ๒ ค่ำ

ข่าวราชการต่าง ๆ ในพระบรมมหาราชวัง

ณวันจันทร์ เดือนอ้าย แรมค่ำ ๑ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาย่ำค่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระบรมวงศานุวงศ์แลขุนนางข้าราชการ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทณที่นั้นพร้อมกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับตรัสด้วยราชการแผ่นดิน กับขุนนางข้าราชการตามตำแหน่ง แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตร ตั้งให้ข้าทูลลอองธุลีพระบาท คือ ขุนมณีสารสมบัติที่ปลัดกรมรักษาพระคลังพิมานอากาศ เปนหลวงรัตนรักษาเจ้ากรมให้ถือศักดินา ๖๐๐ นายหนึ่ง ให้นายอิ่มมหาดเล็กบุตร์พระยาอภัยสุรินทร เปนที่นายรองฉันมหาดเล็กเวรศักดิ์ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายทัดบุตรหลวงรักษานาฎเปนนายรองสนิทมหาดเล็กเวรศักดิ์ให้ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายแสงบุตร์พระยาจินดารังสรรค์ เปนนายรองไชยขรรค์มหาดเล็กเวรศักดิ์ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายเพิ่มบุตร์พระยาเจริญราชไมตรี เปนนายรองพิไนยราชกิจมหาดเล็กเวรศักดิถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายซุ้ยบุตรพระยาโชฎึกราชเศรษฐี เปนนายรองสนองบรรหารมหาดเล็กถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายทองดีบุตรพระยานรนาถภักดี เปนนายรองชิดมหาดเล็กเวรศักดิ์ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายแสงบุตรพระยามหาอรรคนิกรเปนนายรองสุจินดามหาดเล็กเวรสิทธิ์ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายภู่บุตรหลวงปราสาทเปนนายรองพลพ่ายมหาดเล็กเวรสิทธิ์ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายชื่นบุตรพระยาไชยยศสมบัติเปนนายรองเสนองานประพาสมหาดเล็กเวรสิทธิ์ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายจันมหาดเล็กข้าหลวงเดิมเปนนายรองพลพันถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายแม้นบุตรหลวงวิชิตสรพลเปนนายรองขันมหาดเล็กเวรเดชถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายทิมบุตรพระยาจ่าแสนยบดีเปนนายรองสรรพวิไชยมหาดเล็กถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายประวัติบุตรพระยาเจริญราชไมตรีเปนนาย

----------------------------

แผ่นที่ ๑๕๔ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย แรม ๒ ค่ำ

รองพิจารณสรรพกิจมหาดเล็กถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง ให้นายเจ๊กบุตรเจ้าพระยายมราชเปนนายรองกวดมหาดเล็กเวรฤทธิ์ถือศักดินา ๓๐๐ นายหนึ่ง รวมกรมพระคลังพิมานอากาศนายหนึ่ง กรมมหาดเล็ก ๑๔ นายเปน ๑๕ นายด้วยกัน ครั้นพระราชทานสัญญาบัตรเสร็จแล้ว เสด็จประทับอยู่ณที่นั้น จนเวลาทุ่มนานจึงเสด็จขึ้น พระบรมวงศานุวงศ์แลขุนนางข้าราชการก็ถวายบังคมลากลับออกมา

โดย เกษมสันตโสภาคย์

แจ้งความ

ด้วยแผ่นที่ ๑๔๖ ข้างหลัง ว่าด้วยจะเสด็จพระราชดำเนิรประพาสชายทเลตวันออกนั้น ได้ทราบข่าวแน่ว่า ณวันพุธ เดือนอ้าย แรม ๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๒ โมงแล้ว จะเสด็จพระราชดำเนิรลงเรือพระที่นั่งอัคราชวรเดช แลจะประพาสอยู่ประมาณ ๑๕ วันขึ้นไป ด้วยเวลานี้เปนเวลาคลื่นลมเรียบราบสงบดี สมควรที่จะเสด็จอยู่นานได้ ขอท่านทั้งหลายผู้ที่จะไปตามเสด็จลงจัดเตรียมการให้สมควร แลผู้ที่ไม่ได้ตามเสด็จ จงมารับเสด็จให้ทันตามเวลาจึงจะสมควร อนึ่งข้าพเจ้าผู้แต่งหนังสือทั้ง ๗ องค์ ขอลาท่านทั้งหลายซึ่งได้อยู่ในกรุงเทพ ฯ แลได้จัดผู้ช่วยในการพิมพ์ ให้หนังสือพิมพ์ (คอต) ออกเสมอไม่ให้เสียเวลาได้ แต่จะต้องลงกรมต่าง ๆ ที่ได้จุกช่องล้อมวงรับเสด็จ ณพระอารามที่ได้เสด็จพระราชดำเนิรพระราชทานพระกฐิน แลนิทานเตือนสติแลวิชาการต่าง ๆ อิกบ้าง กว่าจะเสด็จพระราชดำเนิรกลับ แลถ้ามีเรือเข้ามาผู้แต่งหนังสือทั้งหลายก็จะส่งข่าว (คอต) มาลงในหนังสือ ๆ นี้ผ่อนไปตามกาลตามเวลาที่จะเปนไปได้ แต่ถ้ามีเรือออกไปผู้ช่วยจัดการก็จะส่งหนังสือ (คอต) ไปยังผู้ที่ได้รับหนังสือ ซึ่งได้ตามเสด็จพระราชดำเนิรนั้น ขอท่านจงได้ทราบเทอญ

ผู้จัดการพิมพ์

----------------------------

แผ่นที่ ๑๕๕ ออกวันพุธ เดือนอ้าย แรม ๓ ค่ำ

ข่าวราชการต่าง ๆ ในพระบรมมหาราชวัง

ณวันอังคาร เดือนอ้าย แรม ๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ มีเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีเข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท อยู่จนเวลา ๓ โมงเศษเสด็จขึ้น จึงได้กลับออกมา ในเวลานั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงแจกเบี้ยหวัดมหาดเล็ก ในเวลานั้นเจ้าบุรีรัตนเข้าไปเฝ้าทูลลาจะกลับขึ้นไปณเมืองเชียงใหม่ โปรด ฯ พระราชทานเสื้อผ้าให้คนละสำรับ ในขณะนั้นโปรด ฯ พระราชทานเงินผ้าไตรช่วยในการศพพระยาอัภพันตริกามาตย์ มีพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทอยู่จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทางพระทวารหน้าพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เสด็จขึ้นเกยทรงพระราชยานไปออกทางประตูศรีสุนทร ไปประทับเกยพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เสด็จพระราชดำเนิรลงไปในเรือพระที่นั่งอัคราชวรเดช เสด็จเที่ยวทอดพระเนตรตามในห้องแลที่อื่น ๆ แล้วจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้นิมนต์พระสงฆ์ ๑๐ รูป คือ พระเจ้าบรมวงศเธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เปนประธานาธิบดี ซึ่งจะได้เจริญพระพุทธมนต์บนดาดฟ้าเรือพระที่นั่ง ในที่นั้นตั้งเครื่องนมัสการ มีพระไชยเนาวโลหะตั้งบนม้ารองพานทององค์ ๑ ครั้นพระสงฆ์ขึ้นไปพร้อมแล้ว จึงทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ แล้วพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ก็ถวายศีล แล้วพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับอยู่จนเวลาทุ่มเศษ จึงได้เสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่ง เสด็จขึ้นพระราชยานมาประทับที่เสาธงในสนามหญ้า ทอดพระเนตรรูปแลของอื่น ๆ ซึ่งพระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการจัดเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งจะส่งออกไปเอ็กสหิบิเชนที่เมือง อเมริกานั้น เสด็จประทับทอดพระเนตรอยู่ประมาณครู่หนึ่งจึงเสด็จขึ้น

โดย ทองแถมถวัลยวงศ์

แผ่นที่ ๑๕๖ ออกวันพุธ เดือนอ้าย แรม ๓ ค่ำ

แจ้งความ

ด้วยแผ่นที่ ๑๕๓ บันทัดที่ ๑ ข้างล่าง ที่ว่าให้นายอิ่มมหาดเล็ก บุตรพระยาอภัยสุรินทรเปนที่นายรองฉันมหาดเล็กเวรศักดิ์นั้นผิดไป คือ บุตร์พระอภัยสุรินทรจึงจะถูก ด้วยคนเรียงพิมพ์นั้นเรียงเกินไป ขอท่านทั้งหลายจงทราบ เทอญ

ผู้จัดการพิมพ์

แผ่นที่ ๑๕๗ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย แรม ๔ ค่ำ

ว่าด้วยเจ้าพนักงานกรมต่าง ๆ ซึ่งได้จุกช่องล้อมวงรับเสด็จ เมื่อเสด็จพระราชทานพระกฐิน

วันเสาร์ เดือน ๑๑ แรม ๙ ค่ำ ปักุนสัปตศก ข้าพเจ้านายสวรรค์ นายรัศบรรยงก์ นายชำนาญนายเวร ๆ จมื่นจงซ้าย ทำหางว่าวตรวจข้าราชการมาคอยรับเสด็จพระราชทานพระกฐินในพระอุโบสถวัดเทพธิดาที่ ๓ มายื่นแก่ท่านหางหนึ่ง เปนคนกรมมหาดเล็กทูลวัด นายพลพัน ๑ ทอดพระแสง ๑ รวม ๒ สนมพลเรือน พระอินทราทิตย์ ๓ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ พระคลังวิเศษถวายเทียน ขุนวิเศษสมบัติ ๑ พระคลังศุภรัตถวายปริขารปูอาสนะสงฆ์ จหมื่นรัตนโกษา ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ พระคลังมหาสมบัติ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ พระคลังราชการ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมสังฆการีย์ ขุนธรรมลังการ์ ๑ ขุนหมื่น ๑ พระวุฒิการ ๑ ขุนศรีประชานนท์ ๑ รวม ๔ กรมเก้าอี้ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ ปลัดกรม ๑ รวม ๓ กรมพิณพาทย์ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมนาฬิกา ขุนอินรักษา ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ กรมพระภูษามาลา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ หลวงเทพ ๑ ขุนพิพิธ ๑ รวม ๕ วิเสทกลางเครื่องไทยธรรม คาวหวาน ๑ กลองแขก นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ แตรสังข์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ รวม ๔๑ คน

ณวันจันทร์ เดือน ๑๑ แรม ๑๑ ค่ำ ปักุนสัปต๑๗ศก จุลศักราช ๑๒๓๗ ข้าพเจ้านายสวรรค์ นายรัศบรรยงก์ นายชำนาญนายเวร ๑ จมื่นจงซ้าย ทำหางว่าวตรวจเจ้าพนักงานซึ่งมาคอยรับเสด็จพระราชทานพระกฐินในพระอุโบสถวัดอรุณราชวรารามเปนที่ ๑ มายื่นแก่ท่านหางหนึ่ง เปนคนกรมมหาดเล็กทูลวัด นายสนิท ๑ ทอดพระแสงนายอ่ำ ๑ รวม ๒ สนมพลเรือนตั้งเครื่องนมัสการ พระจันทราทิตย์ ๖ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ กรมพระภูษามาลา นายเวร ๑ กรมสังฆการีย์เผดียงพระสงฆ์ พระวุฒิการบดี ๑ ขุนธรรมลังการ์

----------------------------

แผ่นที่ ๑๕๘ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย แรม ๔ ค่ำ

๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ กรมพระคลังวิเศษถวายเทียน หลวงศรีทิพ ๑ กรมพระคลังศุภรัตถวายปริขารปูอาสนะพระสงฆ์ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ พระคลังมหาสมบัติตั้งกะโถนขันน้ำ ขุนหมื่น ๑ พระคลังราชการปูเสื่อ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมนาฬิกาลาดพระบาท นาย ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ กรมพิณพาทย์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมกลองแขก นาย ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ กรมแตรสังข์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมเก้าอี้ เจ้ากรม ๑ ปลัดกรม ๑ นายเวร ๑ รวม ๓ วิเสทกลางตั้งเครื่องไทยธรรม คาว ๒ หวาน ๓ รวม ๕ รวม คน ๔๐ คนด้วยกัน

ณวันจันทร์ เดือน ๑๑ แรม ๑๑ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ ข้าพเจ้านายยิ่งภักดี นายยงภักดี นายเวรกรมพระตำรวจทหารขวา ทำหางว่าวเจ้าพนักงานจุกช่องล้อมวงชั้นนอกพระอุโบสถ วัดอรุณราชวรารามที่ ๑ มายื่นต่อท่านเจ้าพนักงาน เปนคนกรมพระตำรวจทหารขวา นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๒๐ รวม ๒๒ กรมพระตำรวจนอกขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒๐ รวม ๒๑ กรมพลพันซ้าย นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ ทหารแตร แบนมาศเตอร ๑ ซายันต์ ๓ ดรัมมาเยอ ๑ แตร ๓๘ รวม ๔๓ กรมทหารรามัญ กัปตัน ๑ สกันเลบเตอแนน ๑ กวริง ๑ ออเดอซายัน ๑ ซายัน ๓ กอปราล ๒ ทหารถือปืน ๖๒ รวม ๗๑ กรมทหารมหาดเล็ก ซายัน ๒ กัปตัน ๒ แอกติง ๑ ทหารถือปืน ๓๗ รวม ๔๒ ทหารกรมบริก้า สายันมาเยอ ๑ ซายัน ๗ ออเดอซายัน ๒ กอปราล ๖ ทหารถือปืน ๕๓ รวม ๗๓ พลพันซ้ายขวา นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๘ รวม ๑๐ อาสาใหม่กลาโหม หลวงอินทโรดม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กองไพร่หลวงกรมเมือง หลวงสุธาพิทักษ์ ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ อาสารองซ้ายจุกช่อง นาย ๑ ไพร่ ๕ รวม ๖ ตำรวจรองงานนอกขวาจุกช่อง นาย ๑ ไพร่ ๑ รวม ๒ อาสารองขวาตั้งกอง หลวงเพ็ชรกำแหง ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมอาสาใหญ่จุกช่องซ้าย ขุนหมื่น ๓ ขวา นาย ๑ ไพร่ ๓ รวม ๗ กรมทนายเลือกขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ กรมรักษาองค์ซ้าย นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๖ ไพร่ ๖ รวม ๑๓ รักษาองค์ขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ รวมเปนคน ๓๕๙ คน

ผู้จัดการพิมพ์

แผ่นที่ ๑๕๙ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย แรม ๕ ค่ำ

ณวันจันทร์ เดือน ๑๑ แรม ๑๑ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ข้าพเจ้านายรงภักดี นายเวรกรมพระตำรวจนอกซ้าย ทำหางว่าวตรวจเจ้าพนักงาน ซึ่งมีอาวุธแห่นำตามเสด็จจุกช่องล้อมวงรายรักษารอบพระอุโบสถวัดโมลีโลกชั้นนอกที่ ๓ เปนเจ้าพนักงานกรมตำรวจนอกซ้าย นายอาจภักดีนายเวร ๑ นายรงภักดีนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑๐ พันเลว ๑๕ รวม ๒๗ กรมทหารรักษาพระองค์ ปืนปลายหอกซ้ายขวา ซายันผู้ช่วย ๑ ออเดอซายัน ๑ ซายัน ๔ กอปราล ๔ ทหาร ๑๒๐ รวม ๑๓๐ รองงานตำรวจใหญ่ขวาจุกช่อง จ่าจิตรใจราช ๑ ไพร่ ๔ รวม ๕ รองงานตำรวจสนมขวาจุกช่อง หมื่นวิเศษนาวา ๑ ไพร่ ๑ รวม ๓ พิณพาทย์ฝรั่ง ซายัน ๔ กอปราล ๒ ทหารแตร ๒๘ รวม ๓๔ กรมพลพันซ้าย นายฤทธิสำแดงนายเวร ๑ หมื่น ๔ รวม ๕ ขวา นายยวดภักดีนายเวร ๑ หมื่น ๔ รวม ๕ ทนายเลือกขวา หมื่นไพรินพินาศนายเวร ๑ หมื่น ๒ รวม ๓ กรมทหารในขวา หมื่นใจจงรักนายเวร ๑ หมื่น ๕ รวม ๖ ซ้าย หมื่นภักดีนายเวร ๑ หมื่น ๕ รวม ๖ ทนายเลือกซ้าย หมื่นชิดนายเวร ๑ หมื่น ๔ รวม ๕ อาสาใหม่กลาโหมตั้งกอง หลวงอินทโรดม ๑ หมื่น ๔ รวม ๕ อาสารองขวาตั้งกอง หลวงเพ็ชรกำแหง ๑ หมื่น ๔ รวม ๕ อาสาใหญ่จุกช่องซ้าย ขุนชำนาญณรงค์ ๑ หมื่น ๒ รวม ๓ ขวา ขุนอาจสงคราม ๑ หมื่น ๒ รวม ๓ รักษาพระองค์ขวา หมื่นสนิทนิเวศนายเวร ๑ หมื่น ๔ รวม ๕ ซ้าย หมื่นประทุมคงคา นาย ๑ หมื่น ๖ รวม ๗ ปืนหามแล่น หมื่นมณเฑียร ๑ หมื่นรักษ์ ๑ ไพร่ ๘ รวม ๑๐ กรมไพร่หลวงกรมเมืองตั้งกอง หลวงสุธาพิทักษ์ ๑ หมื่น ๕ รวม ๖ กรมวัง นายพิบูลย์นายเวร ๑ ตำรวจวัง ๒ รวม ๓ มหาดเล็กทูลรายงาน นายสนอง ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๐ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย แรม ๕ ค่ำ

ทอดพระแสงนายอ่ำ ๑ รวม ๒ พระคลังศุภรัต จมื่นวิสูตรสมบัติ ๑ หมื่นพินิจสมบัติ ๑ รวม ๒ กรมสนมพลเรือน พระจันทราทิตย์ ๑ นายบุญนายเวร ๑ รวม ๒ พระคลังวิเศษ หลวงศรีทิพ ๑ กรมเก้าอี้ หลวงเบญจางค์วราอาสน์ ๑ นายชุมนุมนายเวร ๑ รวม ๒ กรมสังฆการีย์ ขุนศรีธรรมลังการ์ หมื่นจำนง ๑ รวม ๒ รวมเปนคน ๒๘๒ คน

ข้าพเจ้า นายจันทรมณเฑียร นายเวรกรมวัง ทำบาญชีตรวจเจ้าพนักงานในพระอุโบสถวัดราชสิทธาราม ตรวจวังทอดที่ ๕ คน มหาดเล็กทอดพระแสงเวรสิทธิ ๑ คลังวรอาสน์นายเวร ๑ ไพร่ ๔ รวม ๕ พิณพาทย์ หมื่นไฉน ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กลองแขก หมื่นฉลาด ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ แตรงอน แตรฝรั่ง สังข์ ปลัดกาหลวิไชย ๓ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ คลังศุกรัต หมื่นชำนิ ๑ รองเวร ๑ รวม ๒ สนมพลเรือน ราชบำเรอ ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ คลังราชการนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ ลาดพระบาท หมื่นเทวาทิศ ๑ สังฆการีย์ หมื่นวิเศษ ๑ คลังวิเศษ ขุนวิเศษสมบัติ ๑ กระโถนขันน้ำ หมื่นทิพ ๑ วิเสทตั้งเครื่องไทยธรรม นาย ๑ ไพร่ ๔ รวม ๕ รวม ๔๑ คน กรมพระตำรวจหน้าสมทบ พระสุริยภักดี ๑ นายรัตนภักดี ๑ นายชาติภักดี ๑ นายไตรภักดี ๑ รวม ๔ ขุนหมื่นพันเลว ๒๕ รวม ๒๙ ใหญ่ขวารับสั่ง พระศรีวิไชย ๑ ขุนไกรสงคราม ๑ นายเวร ๒ พันเลว ๒๕ รวม ๒๙ กรมทหารรักษาพระองค์ สกันเลบเตอแนน ๑ กวริง ๑ เปซายัน ๑ นายดาบ ๖ นายร้อย ๕ ทหาร ไพร่ ๕๐ แตรวง ๒๕ รวม ๙๐ ปืนจุกช่องไชยราชคร่ำทอง ๒ คร่ำเงิน ๒ รวม ๔ ขุนหมื่น ๒ ไพร่ ๖ รวม ๘ นอกซ้ายปืนคร่ำเงิน ๑ คร่ำทอง ๑ รวม ๒ ขุนหมื่น ๒ ไพร่ ๓ รวม ๕ กรมพลพันซ้ายขวา นายฤทธิ์สำแดง ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ นายยวดนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทหารในซ้าย ขวา นายภักดีนาถนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ หมื่นจงนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมทนายเลือกหอกซ้าย หมื่นชิตสรไชย ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ ขวา หมื่นไพรีพินาศ ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมอาสาใหญ่ขวา ปืนคร่ำเงินจุกช่อง ขุนศรีพลพ่ายนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมอาสาใหญ่ซ้าย ปืนจุกช่องคร่ำเงิน ๑ ขุนจบไตรวัตร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ อาสาใหม่กรมท่าซ้ายตั้งกอง

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๑ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย แรม ๖ ค่ำ

หลวงนราเรืองเดช ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมรักษาพระองค์ขวา ปืนหามแล่น ๒ นาย ๒ ไพร่ ๘ รวม ๑๐ กรมทำลุซ้าย ขุนจงใจยุทธ ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมหลวงรามโยธี ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ รวมเปนคน ๒๐๗๓ คน

ข้าพเจ้าขุนศรีวิไชยนายเวรกรมพระตำรวจใหญ่ขวา ทำบาญชีตรวจเจ้าพนักงานแห่นำตามรับเสด็จจุกช่องล้อมวง ตั้งกองรายทาง วัดบุบผารามที่ ๒ มายื่นแก่ท่านใบ ๑ กรมพระตำรวจหน้าใหญ่ขวาเปน รับสั่ง ขุนศรีวิไชย ๑ ขุนไกรสงคราม ๑ รวมนายเวร ๒ ขุนหมื่นพันเลว ๒๕ รวม ๒๗ กรมในขวาสมทบ นายศรีภักดี ๑ นายไกรภักดี ๑ นายชาติภักดี ๑ นายฤทธิ์ภักดี ๑ นายเวร ๔ ขุนหมื่นพันเลว ๒๕ รวม ๒๙ กรมทหารรักษาพระองค์ในซ้าย สกันเลบเตอแนน ๑ กวริง ๑ ซายัน ๓ กัปตัน ๒ ทหารไพร่ ๒๐ รวม ๒๗ กรมรักษาพระองค์ ปืนจุกช่องซ้าย ปืนหามแล่น ๒ นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๖ รวม ๘ ตั้งกองรายทาง กรมสนมกลางซ้าย ขุนนาถภักดีปลัด ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมเกณฑ์หัดอย่างฝรั่งขวา หลวงทรงวิไชย ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ อาสาใหม่ซ้าย หลวงพิมานไพรชนต์ ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมอาสาใหญ่ปืนจุกช่องซ้าย ปืนคร่ำเงิน ๑ นาย ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมอาสาใหญ่ปืนจุกช่องขวา ปืนคร่ำเงิน ๑ นาย ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมช่างทหารในซ้าย นายภักดีนาถนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมช่างทหารในขวา นายจงใจรักษ์ ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมพลพันซ้าย นายฤทธิ์สำแดงนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมพลพันขวา นายสุทธิรักษ์นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๒ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย แรม ๖ ค่ำ

รวม ๕ กรมตำรวจนอกขวา ปืนคร่ำเงิน นาย ๑ ไพร่ ๑ รวม ๒ กรมทนายเลือกซ้าย หมื่นชิตสรไชยนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมทนายเลือกขวา หมื่นไพรีพินาศนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมพระตำรวจใหญ่ขวา ปืนคร่ำทอง ๒ บอก นายเวร ๒ ปืนคร่ำเงิน ๒ บอก ไพร่ ๖ รวม ๘ กรมวัง นายพิบูลย์บริบาลนายเวร ๑ ตำรวจวัง ๒ รวม ๓ กรมกะโถนขันน้ำ นายหว่าง ๑ กรมมหาดเล็กทูลรายงานวัด นายไชยขรรค์ ๑ ทอดพระแสงนายอ่ำ ๑ รวม ๒ กรมพระคลังศุภรัต จมื่นวิสูตรสมบัติ ๑ หมื่นราช ๑ รวม ๒ กรมสังฆการีย์ ขุนสังฆกาโรต ๓ หมื่นพลไชยภักดี ๑ รวม ๒ กรมสนมพลเรือน พระจันทราทิตย์ ๑ นายรัตวิภักดิ์นายเวร ๑ รวม ๒ กรมพระคลังวิเศษ หลวงศรีทิพ ๑ กรมคลังเก้าอี้ หลวงเบญจางค์วรอาสน์ ๑ นายชุมนุมนายเวร ๑ รวม ๒ รวมเปนคน ๑๔๗ คน

ณวันเดือน ๑๑ แรม ๑๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ ข้าพเจ้านายชำนาญ ๑ นายสวรรค์ ๑ นายเวร ๆ จมื่นจงซ้าย ทำหางว่าวตรวจเจ้าพนักงานซึ่งมาคอยรับเสด็จพระราชทานพระกฐินในอุโบสถวัดอนงคารามเปนที่ ๔ มายื่นกับท่านเจ้าพนักงานหาง ๑ เปนคน กรมมหาดเล็กทูลวัด นายจ่ายง ๑ ทอดพระแสงเวรสิทธิ นายอ่ำ ๑ รวม ๒ สนมพลเรือน พระอินทราทิตย์ ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ พระคลังวิเศษ หลวงศรีเทพ ๑ พระคลังศุภรัต จมื่นรัตนโกษา ๑ จมื่นวิสูตรสมบัติ ๑ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๔ พระคลังมหาสมบัติ ขุนหมื่น ๑ พระคลังราชการ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมพระภูษามาลา นายเวร ๑ ปลัดเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๔ กรมสังฆการีย์ พระวุฒิการบดี ๑ สังฆกาโรต ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ กรมพิณพาทย์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กลองแขก นาย ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ กรมแตรสังข์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมนาฬิกา นาย ๑ ขุน หมื่น ๑ รวม ๒ กรมเก้าอี้ เจ้ากรม ๑ นายเวร ๑ รวม ๒ วิเสทกลางคาวหวาน ๕ รวมคน ๔๔ ด้วยกัน

ข้าพเจ้าขุนศรีวิไชย นายเวรกรมพระตำรวจใหญ่ขวา ทำหางว่าวเจ้าพนักงานจุกช่องล้อมวง ตั้งกองรายทางแห่นำตามรับเสด็จวัดโสมนัสวิหารที่ ๑ มายื่นท่านเจ้าพนักงานหาง ๑ เปนคน

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๓ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม ๗ ค่ำ

กรมพระตำรวจหน้าใหญ่ขวาเปนรับสั่ง ขุนศรีวิไชย ๑ ขุนไกรสงคราม ๑ นายเวร ๒ ขุนหมื่นพันเลว ๒๕ รวม ๒๗ กรมในขวาสมทบ นายศรีภักดี ๑ นายฤทธิ์ภักดี ๑ นายไกรภักดี ๑ นายชาติภักดี ๑ นายเวร ๔ ขุนหมื่นพันเลว ๒๕ รวม ๓๙ กรมทหารรักษาพระองค์ปืนปลายหอก ซายัน ๓ กอปราล ๔ ออเดอซายัน ๑ ทหาร ๙๐ รวม ๙๘ กรมทหารแตรวง นายวง ๑ ซายัน ๓ กอปราล ๒ ทหารแตร ๒๖ รวม ๓๒ กรมรักษาพระองค์ซ้าย นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ ปืนหามแล่นจุกช่อง ๒ บอก นาย ๒ ไพร่ ๘ รวม ๑๐ กรมพลพันซ้าย นายแผลงไพริน ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมพลพันขวา นายยวดภักดี ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทหารในซ้าย นายภักดีนาถ ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทหารในขวา หมื่นจงใจรักษ์ ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมอาสารองซ้าย ปืนคร่ำเงินบอก ๑ นาย ๒ ไพร่ ๔ รวม ๖ กรมทหารรามัญ กัปตัน ๑ เลบเตอแนน ๑ สกัน ๑ ออเดอซายัน ๑ ซายัน ๓ กอปราล ๒ ทหาร ๕๕ รวม ๖๔ กรมทหารเลือกซ้าย ขวา หมื่นยุทธสังหาร ๑ หมื่นไพรีพินาศ ๑ หมื่นฤทธิ์พลไชย ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๖ กรมอาสาใหญ่ซ้าย ขวา ปืนคร่ำเงิน ๒ บอก นาย ๒ ขุนหมื่น ๔ รวม ๖ กรมอาสาใหญ่ขวาตั้งกองรายทาง หลวงไชยเดช ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมพระตำรวจสนมขวา ปืนคร่ำเงินจุกช่อง นาย ๑ ไพร ๓ รวม ๔ คลังป่าจากตั้งกองรายทาง หลวงศรี ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมทำลุขวาตั้งกอง ขุนสรจำนงปลัดกรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมวัง นายพิบูลย์นายเวร ๑ ตรวจวัง ๒ รวม ๓

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๔ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม ๗ ค่ำ

กรมมหาดเล็กทูลวัด นายบำเรอ ๑ ทอดพระแสงสารวัด ๑ รวม ๒ กรมคลังศุภรัต พระศุภรัตเจ้ากรม ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ กรมสังฆการีย์ ขุนศรีธรรมลังการ์ ๑ หมื่นสนิท ๑ รวม ๒ กรมคลังวิเศษ หลวงศรีทิพ ๑ กรมคลังเก้าอี้ หลวงเบญจางค์วรอาสน์ ๑ นายชุมนุมนายเวร ๑ รวม ๒ กรมกระโถนขันน้ำ หมื่น ๑ กรมสนมพลเรือน พระจันทราทิตย์ ๑ นายปูนนายเวร ๑ รวม ๒ รวมเปนคน ๓๓๘ คน

ข้าพ(ระพุทธ)เจ้านายจันทรมณเฑียร ทำบาญชีตรวจเจ้าพนักงานในอุโบสถวัดบรมนิวาสที่ ๒ ตำรวจวังทอดที่ ๕ มหาดเล็กทอดพระแสงเวรเดช นายหง ๑ สนมพลเรือน พระจันทราทิตย์ ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ คลังวรอาสน์ นายเวร ๑ ไพร่ ๓ รวม ๔ คลังวิเศษ หลวงศรีเทพ ๑ คลังในขวา หมื่นอิน ๑ คลังศุภรัต นายจำนง ๑ พิณพาทย์ หมื่นไฉน ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กลองแขก หมื่นฉลาด ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ แตรงอนฝรั่ง หลวงกาหล ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ สังข์ ๑ คลังราชการนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ ลาดพระบาท ขุนอิน ๑ ไพร่ ๑ รวม ๒ สังฆการีย์ สังฆกาโรต ๑ คลังมหาสมบัติ นายเวร ๑ วิเสทตั้งเครื่องไทยธรรม นาย ๑ ไพร่ ๔ รวม ๕ กรมพระตำรวจสนมซ้าย นายจัดภักดี ๑ ขุนหมื่นพันเลว ๒๐ รวม ๒๑ กรมพระตำรวจนอกซ้าย นายรงภักดี ๑ ขุนหมื่นพันเลว ๒๐ รวม ๒๑ กรมพลพันขวา นายสุทธิรักษ์นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมในซ้าย นาย ๑ ไพร่ ๕ รวม ๖ ปืนคร่ำเงิน ๒ ปืนหลักทอง ๒ รวม ๔ กรมอาสาใหญ่ขวา ขุนศรีพลพ่าย ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ ปืนคร่ำเงิน ๑ กรมอาสาใหญ่ซ้าย ขุนจุมพลแสน ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ ปืนคร่ำเงิน ๑ กรมตำรวจนอกซ้าย นาย ๒ ไพร่ ๓ รวม ๕ ปืนคร่ำเงิน กรมทหารข้าหลวงในซ้าย สกัน ๑ เกาวริง ๑ ซายัน ๒ กอปราล ๑ ไพร่ ๒๒ รวม ๒๘ กรมคลังในขวา ขุนไชยนาวาปลัด ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ เครื่องกองครบ กรมอาสายี่ปุ่นขวา หลวงณรงค์รำบาล ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทนายเลือกขวา หมื่นชิดนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ กรมรักษาพระองค์ใหม่ สกันเลบเตอแนนซ้าย ๑ ขวา ๑ รวม ๒ กรมทหารมหาดเล็ก ซายันซ้าย ๓ ซายันขวา ๓ รวม ๖

แผ่นที่ ๑๖๕ ออกวันจันทร เดือนอ้าย แรม ๘ ค่ำ

กอปราลซ้าย ๒ กอปราลขวา ๒ รวม ๔ ทหารเลวซ้าย ๒๕ ทหารเลวขวา ๒๒ รวม ๔๗ กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เลบเตอแนน ๑ ซายัน ๒ กอปราล ๑ แอกติง ๑ ทหาร ๒๓ รวมเปนคน ๒๓๓ คน

ณวันเดือน ๓๑ แรม ๑๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ นายสวรรค์ ๑ นายชำนาญ ๑ นายเวรกรมวัง เวรจมื่นจงซ้ายทำหางว่าวตรวจเจ้าพนักงาน ซึ่งมาคอยรับเสด็จพระราชทานพระกฐินในพระอุโบสถวัดสระเกศเปนที่ ๓ มายื่นแก่ท่านเจ้าพนักงานหาง ๑ เปนคน กรมมหาดเล็กทูลวัด นายพลพัน ๑ ทอดพระแสงนายจัน ๑ รวม ๒ กรมสนมพลเรือน พระจันทราทิตย์ ๑ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ กรมภูษามาลา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ กรมสังฆการีย์ พระวุฒิการบดี ๑ ขุนศรีธรรมลังการ์ ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ กรมพระคลังวิเศษ หลวงศรีเทพ ๑ กรมพระคลังมหาสมบัติ ขุนหมื่น ๑ กรมพระคลังศุภรัต พระศุภรัต ๑ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ พระคลังราชการ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมเก้าอี้ เจ้ากรม ๑ นายเวร ๑ รวม ๒ กรมพิณพาทย์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมกลองแขก นาย ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ กรมแตรสังข์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ กรมนาฬิกา นาย ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ วิเสทกลางคาวหวาน ๕ รวมเปนคน ๔๒ คน

ณวันพุธ เดือน ๑๑ แรม ๑๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ข้าพเจ้า นายสวัสดิภักดีนายเวรกรมพระตำรวจในซ้าย ทำหางว่าวเจ้าพนักงานตั้งกองจุกช่องล้อมวงแห่นำรับเสด็จรอบพระอุโบสถวัดสระเกศ มายื่นต่อท่านหาง ๑ กรมพระตำรวจในซ้าย นายสวัสดิภักดี ๑ นายราชภักดี ๑ นายไชยภักดี ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๖ ออกวันจันทร์ เดือนอ้าย แรม ๘ ค่ำ

นายเวร ๓ ขุนหมื่น ๒๖ รวม ๒๙ กรมทหารบดิกาด กัปตัน ๒ เลบเตอแนน ๑ สกันเลบเตอแนน ๑ เกาวริงซายัน ๑ ซายันมาเยอ ๑ ออเดอซายัน ๒ รวม ๙ แตร ๓๐ ทหารถือปืน ๖๑ รวม ๙๑ กลอง ๒ ขลุ่ย ๔ รวม ๖ กรมทหารในซ้าย หมื่นอภัยพินาศนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ กรมทหารในซ้าย หมื่นจงใจรักษ์นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทหารในขวา หมื่นภักดีนาถนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ พันทนายรองงานในขวา นายโชคราชสมุห์บาญชี ๑ พันทนาย ๕ รวม ๖ พันทนายรองงานนอกขวา นายพรหมราชสมุห์บาญชี ๑ พันทนาย ๑ รวม ๒ ตำรวจพลพันซ้าย นายฤทธิสำแดงนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ ตำรวจพลพันขวา นายยวดภักดีนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมไพร่หลวงคลังสินค้า หลวงวิจารณ์โกษาปลัดกรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ รักษาพระองค์ซ้าย หมื่นประทุมคงคารักษานายเวร ๑ หมื่นวิเศษไพรชนต์นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ ไพร่ ๔ รวม ๘ กรมอาสาใหญ่ซ้าย ขุนชำนาญณรงค์ ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมอาสาใหญ่ขวา ขุนอาจสงคราม ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ หลวงไชยเดชะปลัดกรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทนายเลือกหอกซ้าย หมื่นชิตสรไชยนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมทนายเลือกหอกขวา หมื่นไพรีพินาศนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ คลังป่าจาก หลวงศรีคงยศเจ้ากรม ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมอาสาหกเหล่า ขุนพัธยาเทพสมุห์บาญชี ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทำลุขวา ขุนสรจำนงปลัดกรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ รวมเจ้าพนักงานจุกช่องล้อมวงตั้งกองรอบพระอุโบสถวัดสระเกศที่ ๓ เปนคน ๒๕๙ คน

ข้าพเจ้า นายจำเนียรภักดีนายเวรกรมวัง ทำหางว่าวที่ได้ตรวจเจ้าพนักงานในอุโบสถวัดสังเวชที่ ๔ มายื่นกับท่านมหาดเล็กหาง ๑ สังฆการีย์ สังฆกาโรต ๑ ศุภรัต พระศุภรัต ๑ คลังวิเศษ ขุนวิเศษ ๑ คลังวรอาสน์ นายเวร ๑ สนมพลเรือน หลวงราชบำเรอ ๑ ภูษามาลา ขุนพิพิธ ๑ มหาดเล็กทอดพระแสง นายสรรพวิไชย ๑ มหาดเล็กทูลวัด นายพิจิตร ๑ มหาดเล็กรับเครื่อง จ่ายง ๑ รวม ๓ นาฬิกา ขุนอิน ๑ พิณพาทย์ ขุนหมื่น ๕ กลองแขก ขุนหมื่น ๓ แตรงอน ขุนหมื่น ๒ แตรฝรั่ง ขุนหมื่น ๒ สังข์ ขุนหมื่น ๑ รวม ๕ วิเศษกลาง คาว ๒ หวาน ๒ รวม ๔ รวมเปนคน ๓๗ คน

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๗ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย แรม ๙ ค่ำ

ณวันเดือน ๑๑ แรม ๑๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ข้าพเจ้านายยิ่งภักดี นายเวรกรมพระตำรวจทหารสนมขวา ทำหางว่าวตรวจตั้งกองจุกช่องล้อมวงวัดสังเวชวิษยารามที่ ๔ มายื่นกับท่านเจ้าพนักงานเปนคนกรมพระตำรวจสนมขวา นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๒๐ รวม ๒๒ กรมพระตำรวจนอกขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒๐ รวม ๒๑ ทหารรักษาพระองค์ปืนทองปรายขวา เกาวริง ๑ ออเดอซายัน ๑ ซายัน ๒ กอปราล ๑ ทหารถือปืน ๒๕ รวม ๓๐ ทหารรักษาพระองค์ปืนทองปรายซ้าย ขุนนฤบาล ๑ ออเดอซายัน ๑ ซายัน ๓ กอปราล ๑ ทหารถือปืน ๒๕ รวม ๓๑ กรมพระตำรวจจุกช่องรองงานใหญ่ซ้าย นาย ๒ ไพร่ ๘ รวม ๑๐ กรมทหารจุกช่องรองงานสนมซ้าย นาย ๑ ไพร่ ๔ รวม ๕ กรมพลพันซ้าย ขวา นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๘ รวม ๑๐ กรมทหารในซ้าย ขวา นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๘ รวม ๑๐ กรมทนายเลือกขวา นายเวร ๓ ขุนหมื่น ๓ รวม ๖ คลังในขวา กองขุนไชยนาวาปลัดกรม ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ รักษาพระองค์ขวาปืน ๒ นาย ๒ ไพร่ ๘ รวม ๑๐ กรมอาสาใหญ่ขวาจุกช่อง นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมอาสาใหญ่ซ้ายจุกช่อง นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ อาสาวิเศษขวา กองขุนกำแหงสงคราม ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ รวมเปนคน ๑๗๒

ณวันเดือน ๑๒ ขึ้นค่ำ ๑ ปีกุนสัปตศก ศักราช ๑๒๓๗ ข้าพเจ้านายสวรรค์ นายชำนาญนายเวร จมื่นจงซ้าย ทำหางว่าวตรวจเจ้าพนักงาน ซึ่งมาคอยรับเสด็จพระราชทานพระกฐินในอุโบสถวัดระฆังโฆสิตารามเปนที่ ๑ มายื่นต่อท่านเจ้าพนักงานหาง ๑ เปนคน กรมมหาดเล็กทูลวัด นายสนิท ๑ ทอดพระแสงสารวัด ๑ รวม ๒ กรมสังฆการีย์ พระวุฒิการบดี ๑ ขุนศรีธรรมลังการ์ ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๖๘ ออกวันอังคาร เดือนอ้าย แรม ๙ ค่ำ

ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ กรมสนมพลเรือน พระจันทราทิตย์ ๑ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ กรมพระคลังวิเศษ ขุนวิเศษ ๑ กรมพระคลังมหาสมบัติ ขุนหมื่น ๑ กรมพระคลังศุภรัต พระศุภรัต ๑ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๓ พระคลังราชการ นาย ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมเก้าอี้ ปลัดกรม ๑ นายเวร ๑ รวม ๒ กรมนาฬิกา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ กรมพิณพาทย์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กลองแขก นาย ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ กรมแตรสังข์ นาย ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๔ กรมภูษามาลา นาย ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ วิเสทกลางคาวหวาน ๕ รวมเปนคน ๔๑ คนด้วยกัน

ณวันเดือน ๑๒ ขึ้นค่ำ ๑ ปีกุนสัปตศก ข้าพเจ้า นายวงภักดี นายเวรกรมพระตำรวจนอกขวา ทำหางว่าวตรวจตั้งกองจุกช่องล้อมวงรอบนอกพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตารามที่ ๑ มายื่นต่อท่านเจ้า พนักงาน กรมพระตำรวจนอกขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒๐ รวม ๒๑ กรมพระตำรวจสนมขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๑๕ รวม ๑๖ กรมอาสาหกเหล่าซ้ายจุกช่อง หลวงรามสรเดช ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมอาสาใหม่ซ้าย กองหลวงวิมานไพรชนต์ ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมอาสาใหญ่ซ้าย ขวา จุกช่อง ขุนวิจิตรสงคราม ๑ ขุนอาจสงคราม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๖ กรมรักษาพระองค์ซ้าย นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมรักษาพระองค์ซ้ายปืนหามแล่น ยาน ๒ ไพร่ ๘ รวม ๑๐ ทหารบดิกาด ซายันมาเยอ ๑ ออเดอซายัน ๒ ซายัน ๖ กอปราล ๔ ทหารถือปืน ๔๑ รวม ๕๔ ทหารรามัญ นายใหญ่ ๓ เกาวริง ๑ ออเดอซายัน ๑ นายดาบ ๓ นายร้อย ๒ ทหารถือปืน ๖๐ รวม ๗๐ รองงานกรมตำรวจนอกขวาจุกช่อง นาย ๑ ไพร่ ๒ รวม ๓ กรมทหารในซ้าย ขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๖ รวม ๗ รองงานกรมตำรวจในขวาจุกช่อง นาย ๑ ไพร่ ๕ รวม ๖ กรมกลองชนะขวา กองหลวงราชมาร ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมทนายเลือกซ้าย นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมอาสายี่ปุ่นขวา กองหลวงเสนาภิมุข ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กรมทนายเลือกขวา นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๔ กรมพลพันซ้าย ขวา นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๗ รวม ๑๐ รวมเปนคน ๒๓๘ คนด้วยกัน

แผ่นที่ ๑๖๙ ออกวันพุธ เดือนอ้าย แรม ๑๐ ค่ำ

ว่าด้วยเสด็จพระราชดำเนิรทางชลมารค เสด็จประพาสชายทเลเกาะสีชัง แลอ่างศิลา

วันพุธ เดือนอ้าย แรม ๓ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๒ โมง ๔๕ มินิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องตามธรรมเนียม เสด็จออกขึ้นทรงพระราชยาน แต่พระทวารหน้าพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ ไปประทับเกยที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ทรงจุดเทียนนมัสการพระพุทธปฏิมากร (พระไชยเนาวโลหะ) แล้วสมเด็จพระวันรัตนจึงถวายศีลแล้วจึงถวายพรพระจบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนสำรับกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ แลทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ปรนนิบัติพระสงฆ์ ๑๐ รูป ซึ่งได้สวดมนต์เมื่อเวลาวานนี้นั้น คือกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ๑ เจ้าพระธรรมุณหิสธาดา ๑ เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ๑ สมเด็จพระวันรัตน์ ๑ พระพิมลธรรม ๑ พระพรหมมุนี ๑ พระธรรมเจดีย์ ๑ พระโพธิวงศ์ ๑ พระธรรมฐิติญาณ ๑ พระอมรเมธาจารย์ ๑ รวม ๑๐ รูป ครั้นฉันแล้วหลวงเทพาภรณ์จึงเชิญพระไชยเนาวโลหะลงในเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช๑๐ แลพระพิมลธรรม ๑ พระพรหมมุนี ๑ พระธรรมเจดีย์ ๑ รวม ๓ รูป ลงไปประน้ำมนต์ในเรือพระที่นั่งแล้วกลับขึ้นมา ครั้นเวลา ๓ โมงครึ่งจึงเสด็จพระราชดำเนิรลงทรงเรือพระที่นั่ง พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยตามเสด็จพระราชดำเนิร คือข้าราชการฝ่ายหน้ามีรายรวมบาญชีดังนี้ พระบรมวงศานุวงศ์ ๑๗ องค์ ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ๕๔ นาย ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ๓๑ พนักงานเครื่องแลครัวข้าราชการ ๗๒ มหาดเล็กเจ้าแลคนใช้ข้าราชการ ๔๐ พนักงานเรือพระที่นั่งนั้น ๔๒ รวม ๒๕๖ คน แต่บาญชีรายชื่อชัดเจนนั้นยังคัดไม่ทัน เมื่อคัดได้แล้วจึงจะมีมาต่อภายหลัง ครั้นเสด็จลงในเรือพระที่นั่งพร้อมเสร็จแล้ว เวลา ๓ โมงกับ ๔๐ มินิต จึงเลื่อนเรือพระที่นั่งออกจากท่าราชวรดิษฐ พระสงฆ์ที่ฉันที่พระที่นั่งราชกิรวินิจฉัยนั้น จึงสวดชยันโต

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๐ ออกวันพุธ เดือนอ้าย แรม ๑๐ ค่ำ

แล้วเรือพระที่นั่งจึงแล่นขึ้นไปกลับลำเวลา ๔ โมง ๕ มินิต ถึงหน้าวัดเทวราชกุญชร จึงกลับเรือพระที่นั่งในที่นั้นอยู่ ๑๐ มินิต แล้วจึงล่องลงมาเวลา ๔ โมงกับ ๒๕ มินิต ถึงหน้าท่าราชวรดิษฐเวลา ๔ โมงกับ ๔๐ มินิต ถึงหน้าบ้านกงสุลเยอรมันเวลา ๕ โมง ถึงหน้าบ้านหมอสมิทเวลาเที่ยงกับ ๑๐ มินิต เสด็จพระราชดำเนิรแต่ดาดฟ้าชั้นบน ซึ่งประทับอยู่แต่เสด็จลงแต่แรกนั้นไปเสวยที่ห้องเสวยชั้นกลาง พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ในที่นั้นด้วย เวลาบ่ายโมง ๑ ถึงพระเจดีย์กลางน้ำ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานธูปเทียนดอกไม้แก่พระอมรมหาเดชนำขึ้นไปนมัสการพระสถูปในที่นั้น แลภรรยาพระยามหาอัคนิกร ๑ กับภรรยาพระอมรมหาเดช ๑ มาถวายของตามอย่างตามธรรมเนียมแต่ก่อน ท้าวราชกิจจาวรภัตร จึงรับของขึ้นบนเรือพระที่นั่งแล้วครู่หนึ่ง ก็ใช้จักรเรือพระที่นั่งออกปากน้ำเจ้าพระยาไป เวลาบ่าย ๒ โมง ๕ มินิตถึงที่หลังสันดอนที่เรือนตะเกียง๑๑ แล้วเวลาบ่าย ๒ โมง ๒๒ มินิต ถึงน้ำเขียว ตรงที่เรีือรบขนาดที่เรียกว่าคอเวต ซึ่งยังมิได้มีนาม๑๒ ครั่นเรือพระที่นั่งพ้นไปแล้ว เรือรบนั้นจึงตามเสด็จพระราชดำเนิรไปด้วย เวลาบ่าย ๕ โมง ๕ มินิต เรือพระที่นั่งทอดสมอในระหว่างเกาะสีชังกับฝั่ง ในที่นั้นมีเรือประพาสอุดรสยาม ซึ่งเจ้าพระยาภาณุวงศ์ได้มาในลำนั้น ๑ เรือมณีเมขลาซึ่งพระปรีชากลการมาคอยรับเสด็จแต่เมืองปราจีนบุรี ๑ แลเรือรบซึ่งตามมานั้นจึงมาถึง แล้วเรือไรซิงแซนซึ่งกรมสมเด็จพระสุดารัตน์เสด็จมาในลำนั้น จึงมาถึงทอดสมออยู่ในที่นั้นทั้งสิ้น ครั้นแล้วประมาณครู่ใหญ่ จึงเสด็จพระราชดำเนิรลงทรงเรือพระที่นั่งโบต ขึ้นไปทอดพระเนตรบนวัดที่ในเกาะนั้น ซึ่งเรียกกันว่าวัดเกาะสีชัง๑๓ แล้วจึงเสด็จกลับมาประทับในเรือพระที่นั่งตามเดิม แล้วเวลาย่ำค่ำเศษประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอแลพระเจ้าน้องยาเธอนั่งในที่นั้นด้วย เหมือนอย่างเมื่อเวลากลางวันนั้นแล้ว เวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น สรงแล้วเสด็จออกประทับที่ห้องเสวย ประทับรับสั่งกับพระชลธารวินิจจัย ซึ่งรับสั่งให้หามาแต่ในเรือไรซิงแซน จนเวลา ๔ ทุ่มเศษจึงเสด็จขึ้น ประทับแรมในเรือพระที่นั่งซึ่งทอดสมออยู่ที่นั้น อนึ่ง เรือพระที่นั่งเมื่อแล่นออกไปแต่ปากน้ำเจ้าพระยาไปเกาะสีชังนั้น พระวิสูตรสาครดิษฐได้ตรวจดู ได้ทราบว่าเรือพระที่นั่งนั้นเดิน ๘ นอต

โดย เทวัญอุไทยวงศ์

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๑ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย แรม ๑๑ ค่ำ

ว่าด้วยเสด็จพระราชดำเนิรทางชลมารค เสด็จประพาสชายทเลฝั่งตวันออก

ณวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย แรม ๔ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เวลาเช้า ๒ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกเสวยเช้า พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอแลพระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าลูกเธอ ครั้นเสวยแล้วทรงประทับตรัสอยู่จนเวลาเช้า ๒ โมงเศษเสด็จลุกจากที่โต๊ะเสวย เวลาเช้า ๓ โมงเสด็จพระราชดำเนิรขึ้นบนดาดฟ้า ประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์แลขุนนางข้าราชการอยู่ประมาณครู่ ๑ จึงเสด็จพระราชดำเนิรกลับลงไปข้างล่าง แล้วจึงเสด็จไปประทับริมแคมเรือพระที่นั่งข้างซ้ายทรงทอดพระเนตรเรือสำหรับแผ่นใบ (ซึ่งมิศเตอรแกรซีทำ) แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระวิสูตรสาครดิษฐลองแล่นใบถวายให้ทรงทอดพระเนตร เวลาเช้าประมาณ ๔ โมง เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีมาเฝ้าอยู่ที่ห้องเสวย เวลาเช้า ๕ โมงเศษก็ถวายบังคมลากลับไป เวลาเที่ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับที่โต๊ะเสวย ๆ กลางวัน ครั้นเสวยแล้วจึงประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ขุนนางข้าราชการ จนเวลาบ่ายโมงเศษเสด็จลุกจากโต๊ะเสวยประมาณครู่ ๑ จึงเสด็จพระราชดำเนิรลงจากเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช ลงทางบันไดแคมข้างขวา ทรงเรือพระที่นั่ง ๑๐ กันเชียง เสด็จไปประทับเรือพระที่นั่งไรซิงแซนอยู่จนเวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จกลับประทับเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จขึ้นประทับบนดาดฟ้า ประทับตรัสอยู่กับพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการ อยู่จนเวลาบ่าย ๔ โมง เศษเสด็จกลับลงไปข้างล่าง เวลาจวนย่ำค่ำ เสด็จพระราชดำเนิรลงเรือพระที่นั่ง ๑๐ กันเชียง เสด็จประพาสตามชายทเลจนเวลาย่ำค่ำเศษ เสด็จกลับ เวลาทุ่มเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสวยเวลาเย็น พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าลูกเธอ ครั้นเสวยแล้วประทับตรัสอยู่ที่นั้นแล้วเสด็จขึ้น เวลา ๑๐ ทุ่มครึ่ง

แผ่นที่ ๑๗๒ ออกวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย แรม ๑๑ ค่ำ

ได้ออกเรือพระที่นั่ง จะเสด็จไปประทับแรมที่สัตหีบ

โดย มนุษย์นาคมานพ

ณวันศุกร์ เดือนอ้ายแรม ๕ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ เวลารุ่งแล้ว เรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช ใช้จักรแล่นมาในทเลถึงเกาะไผ่ทอดสมอจอดอยู่ณที่นั้น เวลาเช้า ๓ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกเสวยเสร็จแล้ว เวลา ๕ โมงเช้าทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ใช้จักรเรือพระที่นั่ง ออกจากเกาะไผ่แล่นมาในทเล เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกเสวยพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอแลพระเจ้าน้องยาเธอ ซึ่งตามเสด็จพระราชดำเนิรนั้น ครั้นเสวยแล้วตรัสอยู่ครู่หนึ่งก็เสด็จขึ้น พอบ่าย ๒ โมงก็ถึงสัตหีบ ประทับจอดอยู่ณที่นั้น

ครั้นเวลาเย็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงเรือพระที่นั่ง ๑๒ กันเชียง เสด็จพระราชดำเนิรขึ้นประทับหาดทราย ทรงเก็บเปลือกหอยแลเบี้ยต่างๆ แล้วเสด็จทรงเรือพระที่นั่งทรงพระราชดำเนิร ไปประทับที่หมู่บ้านตำบลนั้น แลชาวบ้านในที่นั้นก็มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาททูลเกล้า ฯ ถวายสิ่งของต่าง ๆ มีเปลือกหอยแลเบี้ยเปนต้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระราชทรัพย์แก่ชาวบ้านเหล่านั้นทั่วทุกคนตามสมควร ครั้นเวลาค่ำเสด็จพระราชดำเนิรกลับยังเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช เวลาทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกเสวยพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอแลพระเจ้าน้องยาเธอ ซึ่งตามเสด็จพระราชดำเนิรนั้น เสวยแล้วเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

ในเวลาตี ๑๑ เรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช ใช้จักรออกจากสัตหีบแล่นมาในทเล

โดย สวัสดิประวัติ

ณวันเสาร์ เดือนอ้าย แรม ๖ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ศักราช ๑๒๓๗ เวลาเช้าย่ำรุ่งแล้ว เรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดชได้แล่นถึงเขาจรเข้ เวลาโมงเศษถึงช่องแสมสาร เจ้าพนักงานได้ทอดสมอถอดเพลาเรือพระที่นั่งแล้ว เวลาเช้า ๒ โมงเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการเฝ้าอยู่ แลประทับอยู่ในเรือพระที่นั่งจนเวลาเช้า ๒ โมง แลประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยพระเจ้าน้องยาเธอที่ได้ตามเสด็จพระราชดำเนิรนั้น เวลาเช้า ๔ โมงเสด็จพระราชดำเนิรลงเรือพระที่นั่ง ๑๒ กันเชียง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าน้องยาเธอ ที่ทรงพระเยาว์

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๓ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย แรม ๑๒ ค่ำ

พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ แลจางวางหัวหมื่นมหาดเล็ก ราชเอดเดอแกมป แล้วเสด็จออกไปประพาสทางอ่าวแสมสาร ประทับหาดบ้านจักรมาลา ทรงประพาสเก็บเปลือกหอยแลเบี้ยต่าง ๆ อยู่จนเวลาเช้า ๕ โมงนาน เสด็จพระราชดำเนิรกลับลัดมาในป่า ด้วยเวลานี้สายคลื่นจัดอยู่เหลือจะทนได้ จึงรับสั่งให้เรือพระที่นั่งไปรับข้างหาดในช่องแสมสาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิรลงมาที่ท่าหาดทราย ประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีแลข้าราชการผู้ที่ได้ตามเสด็จคอยเรือพระที่นั่งอยู่ ครั้นทรงพระราชดำริห์เห็นว่า เรือพระที่นั่ง ๑๒ กันเชียงยังจะช้าอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระสุนทรานุกิจปรีชา จัดเรือพระที่นั่ง ๖ กันเชียง เสด็จลงเรือนั้น ข้ามมาเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดชเสด็จขึ้นบนนั้น ครั้นเวลาเที่ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับโต๊ะเสวยอย่างตามธรรมเนียม ครั้นเสวยแล้วบ่าย ๒ โมงเศษ มิสเตอรเฮนรีอาลบาสเตอรมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทแลท่านผู้ตามเสด็จทั้งหลาย แลพระวิสูตรสาครดิษฐวย ครั้นเวลาบ่าย ๓ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการให้เจ้าพนักงานถอนสมอชักเพลาข้างเรือพระที่นั่งแล้ว ออกจากที่ทอดสมอแสมสารแล้วแล่นกลับมา เวลาบ่าย ๔ โมงถึงอ่าวทุ่งไก่เตี้ย เจ้าพนักงานได้ทอดสมอกางเพลาบ้างดับไฟ ประทับเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงเรือพระที่นั่ง ๑๒ กันเชียงเหมือนอย่างเช่นเวลาเช้า เสด็จขึ้นบนหาดทรายอ่าวทุ่งไก่เตี้ย แล้วทรงประพาสเก็บเปลือกหอยต่าง ๆ อยู่จนเวลาค่ำแล้ว เสด็จกลับลงเรือพระที่นั่ง ๑๒ กันเชียง เสด็จขึ้นบนเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช ในเวลาเสด็จนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๔ ออกวันศุกร์ เดือนอ้าย แรม ๑๒ ค่ำ

ผู้ใหญ่ผู้น้อยแต่งพระองค์ แต่งตัว อย่างเช่นสำหรับเที่ยวตามธรรมเนียมต่าง ๆ กัน แลมีเรือ ๕ กันเชียง ๖ กันเชียง ตามเสด็จพระราชดำเนิรด้วยเปนอันมาก

อนึ่งมีพระบรมราชโองการ ให้เรือรบใหม่อย่างโคเวตไปที่เกาะสีชัง ด้วยจะพระราชทานพระราชทรัพย์ชั่งหนึ่งให้ไปพระราชทานคนสูงอายุคนละตำลึง ๒ บาท แต่ชาวคนที่ได้อยู่ในเกาะอิกคนละสลึง จมื่นสุรเดชได้นำไป ครั้นเวลา ๒ ทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับโต๊ะเสวย แลประทับอยู่จนเวลา ๔ ทุ่มเสด็จขึ้น เวลา ๓ ยามเศษ เจ้าพนักงานได้ถอนสมอชักเพลาใบเรือพระที่นั่งอรรคราช วรเดช แล่นออกมาจากที่ทอดสมอหน่อยหนึ่ง ใกล้เกล็ดแก้ว มีลมคลื่นมาก เจ้าพนักงานเรือกลไฟได้จัดเลิกม้วนเพดานผ้าใบรักษาเรือพระที่นั่งโดยดีทีเดียว แลเกรงเรือพ่วงข้างท้ายจะล่ม ได้เดิรเรือพระที่นั่งช้า ๆ คอยจัดเรือพระที่นั่ง ๑๒ กันเชียงให้เรียบร้อย ครั้นเวลาย่ำรุ่งเรือพระที่นั่งก็แล่นเข้าแหลมกะบัง

โดย ภาณุรังษี

ณวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม ๗ ค่ำ ปีกุนสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ เวลาย่ำรุ่ง ๒๐ นาที เรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช ซึ่งใช้จักรมาจากอ่าวทุ้งไก่เตี้ยนั้น ได้ทอดสมอประทับที่แหลมกระบัง เวลาย่ำรุ่ง ๔๐ นาที เรือรบใหม่ยังมิได้พระราชทานชื่อ (อย่างโกเวต) ใช้จักรมาถึงก็ทอดสมออยู่ข้างนอกตรงหว่างแหลมกระบัง เวลาเช้าโมงหนึ่ง เรือไรซิงแซนได้ใช้จักรมาถึงก็ทอดสมอเข้าไปข้างในเรือพระที่นั่งหน่อยหนึ่ง เวลาเช้าโมงหนึ่งกับ ๔๐ นาที เจ้าพระยาภาณุวงศ์ มหาโกษาธิบดี ซึ่งตามเสด็จพระราชดำเนิรมาในเรือรบใหม่นั้น ได้ลงเรือกันเชียงมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในเรือพระที่นั่ง เวลาเช้าโมงหนึ่งกับ ๕๕ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีเฝ้าแล้วก็ถวายคำนับบังคมลากลับไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ แลพระเจ้าน้องยาเธอ ครั้นเสวยแล้วเวลาเช้า ๒ โมง ๔๕ นาที ก็เสด็จลงเรือพระที่นั่งสิบสองกันเชียงขึ้นประพาสบนหาดแหลมกะบัง จนเวลาเช้า ๔ โมงกับ ๕ นาที เสด็จกลับยังเรือพระที่นั่ง แลเรือรบใหม่นั้น ขณะเมื่อเสด็จพระราชดำเนิรในประพาสบนหาดได้ถอนสมอใช้จักรไปเกาะสีชัง เพราะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี คุมเงินไปพระราชทานราษฎรในเกาะนั้น ครั้นเวลาเช้า ๔ โมง ๑๗ นาที เรือพระที่นั่งได้ถอนสมอออกจากแหลมกะบัง เวลาเที่ยง ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๕ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย แรม ๑๓ ค่ำ

เสด็จออกเสวยพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ แลพระเจ้าน้องยาเธอ จนเวลาบ่ายโมง ๒๐ นาที เสวยแล้ว พอเรือพระที่นั่งใช้จักรมาถึงอ่างศิลา จึงได้ทอดสมอตรงหน้าฉนวนเสด็จขึ้นแต่ห่างฝั่งมากเพราะน้ำที่นั้นตื้น (คิดเวลาเรือพระที่นั่งใช้จักรออกจากแหลมกะบังถึงอ่างศิลา เปนเวลา ๒ ชั่วโมงกับ ๓๓ นาที) เวลาบ่ายโมง ๑๕ นาที เรือไรซิงแซนได้ใช้จักรมาถึง ต่อท้ายเรือพระที่นั่งลงไป แลเรือที่ตามเสด็จพระราชดำเนิรมาทอดคอยรับเสด็จอยู่ที่อ่างศิลานั้น มีเรือประพาสอุดรสยาม ๑ เรือรบใหม่ที่ไปเกาะสีชัง ๑ เรือโสรวารวรเดช ๑ เรือประทีปทัศนาการ ๑ เรือกลไฟเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี๑๔ ๑ รวมเรือกลไฟ ๕ ลำ เรือพระที่นั่งสำหรับประพาสที่ต่าง ๆ ลำกลางซึ่งเอาไปจากกรุงเทพ ฯ นั้น ได้ทอดอยู่ริมฉนวนเสด็จขึ้น ครั้นเวลาบ่าย ๒ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงเรือพระที่นั่งหกกันเชียง เสด็จขึ้นฉนวนทรงพระราชดำเนิรไปประทับตรัสปราไสยเจ้าเมืองกรมการเมืองต่าง ๆ ทางชายทเลฝั่งตวันออกซึ่งมาคอยรับเสด็จนั้น ประมาณครู่หนึ่ง ก็เสด็จขึ้นทรงพระราชยาน มีตำรวจแลทหารปืน ทหารแตร นำ แลตามเสด็จพระราชดำเนิรเปนขบวรไป เข้าในค่ายที่ประทับ แล้วเสด็จขึ้นบนพระที่นั่งองค์สูง ประทับตรัสกับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าน้องยาเธอ แลเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี ประมาณสักชั่วโมงหนึ่งเสด็จขึ้นข้างใน ครั้นเวลาย่ำค่ำ ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกท้องพระโรงประทับตรัสอยู่จนเวลาทุ่ม ๒๘ นาที เสด็จขึ้น เวลา ๒ ทุ่ม ๒๐ นาทีก็เสด็จออกเสวย พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ แลพระเจ้าน้องยาเธอ ที่บนพระที่นั่งองค์สูง ครั้นเสวยแล้วรับสั่งประภาษต่าง ๆ อยู่จนเวลายาม ๓๐ นาที เสด็จขึ้นข้างใน สมเด็จพระเจ้า

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๖ ออกวันเสาร์ เดือนอ้าย แรม ๑๓ ค่ำ

น้องยาเธอ แลพระเจ้าน้องยาเธอ ก็ถวายคำนับบังคมลาไปพักอยู่ที่ตึกริมชายทเล ซึ่งเปนตึกของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศสร้างไว้ แลเจ้าพระยาภาณุวงศมหาโกษาธิบดี จัดไว้เปนที่ประทับเจ้านาย

โดย ก.ม. นเรศวรฤทธิ์

ว่าด้วยเจ้าพนักงานกรมต่าง ๆ ซึ่งได้จุกช่องล้อมวงเมื่อเสด็จพระราชดำเนิรพระราชทานพระกฐิน

ณวันเดือน ๑๒ ขึ้นค่ำ ๑ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ ข้าพเจ้า นายจำเนียรภักดีนายเวร ๑ ปลัดวังขวา ทำหางว่าวซึ่งได้ตรวจเจ้าพนักงานรับวัดสามพระยาที่ ๒ สายใน มายื่นต่อท่านมหาดเล็กหางหนึ่ง สังฆ การีย์ พระวุฒิการบดี ๑ คลังศุภรัต พระศุภรัต ๑ คลังวิเศษ หลวงศรีเทพ ๑ คลังวรอาสน์ หลวงเบญจางค์วรอาสน์ ๑ นายเวร ๑ รวม ๒ สนมพลเรือน พระอินทราทิตย์ ๑ มหาดเล็กเวร ทอดพระแสงนาย ๑ ทูลวัด นายไชยขรรค์ ๑ รับเครื่อง นายเล่ห์อาวุธ ๑ นาฬิกา ขุนอิน ๑ พิณพาทย์ ขุนหมื่น ๕ กลองแขก ขุนหมื่น ๓ แตรงอน แตรฝรั่ง สังข์ ขุนหมื่น ๕ รวม ๑๓ วิเสทกลาง คาว ๒ หวาน ๒ รวม ๔ รวมเปนคน ๒๗ คน

ณวันศุกร์ เดือน ๑๒ ขึ้นค่ำ ๑ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ ข้าพเจ้านายสวัสดิภักดีนายเวรกรมพระตำรวจในซ้าย ทำหางว่าวเจ้าพนักงานแห่นำตามรับเสด็จตั้งกองจุกช่องล้อมวงรอบพระอุโบสถชั้นนอกรับวัดสามพระยาที่ ๒ มายื่นแก่ท่านหางหนึ่ง ในซ้าย นายสวัสดิภักดีนายเวร ๑ นายราชภักดีนายเวร ๑ นายไชยภักดีนายเวร ๑ ขุนหมื่นพันเลว ๒๐ รวม ๒๓ กรมพระตำรวจใหญ่ซ้าย ขุนรุดสำแดงนายเวร ๑ ขุนแผลงอัคเนนายเวร ๑ ขุนหมื่นพันเลว ๒๐ รวม ๒๒ กรมพระตำรวจ พลพันซ้าย นายแผลงไพรินนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมพระตำรวจพลพันขวา นายยวดภักดีนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทนายเลือกหอกซ้าย หมื่นชิตสรไชยนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมทนายเลือกหอกขวา หมื่นไพรีพินาศนายเวร ๑ หมื่นยุทธสังหารนายเวร ๑ หมื่นฤทธิสรไชยนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๖ กรมทหารในซ้าย หมื่นภักดีนาถนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมทหารในขวา หมื่นจงใจรักษ์นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ รองงานสนมซ้าย นายพ่วงนาย ๑ ไพร่ ๔ รวม ๕ กรมรักษาพระองค์ขวา หมื่นพินิจบรรจง ๑

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๗ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม ๑๔ ค่ำ

ขุนหมื่น ๒ ไพร่ ๘ รวม ๑๑ ทหารรักษาพระองค์ซ้าย ขุนรุดรณไชยนายทหาร ๑ ขุนบริบาล ๑ ขุนพลภักดิ์ ๑ รวม ๓ ทหารรักษาพระองค์ขวา เกาวริง ๑ ออเดอซายัน ๑ ซายัน ๔ กอปราล ๑ ทหาร ๖๐ รวม ๖๘ กรมอาสาใหม่กรมท่าซ้าย หลวงนราเรืองเดชเจ้ากรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมอาสารองซ้าย หลวงรามเดชะปลัดกรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมเขนทองขวา หลวงสิทธิสำแดงปลัดกรม ๓ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมคลังในขวารักษาโรงเรือ ขุนไชยนาวาปลัดกรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ กรมอาสาใหญ่ซ้าย ขุนจบไกรจักรนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ กรมอาสาใหญ่ขวา ขุนศรีพลพ่ายนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ รองงานใหญ่ซ้าย นายอินรักษาสมุห์บาญชี ๑ ไพร่ ๖ รวม ๗ กรมอาใหม่กรมท่าขวา หลวงพิทักษ์โยธาเจ้ากรม ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ รวมเปนคน ๒๐๐ คน

ข้าพเจ้า นายจันทรมณเฑียร ทำบาญชีตรวจเจ้าพนักงานในอุโบสถวัดเทวราชกุญชร ตำรวจวังทอดที่ ๕ มหาดเล็กทอดพระแสง เวรสิทธิ นายวา ๑ สนมพลเรือน นายบุญ ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ คลังวิเศษ ขุนวิเศษสมบัติ ๑ คลังศุภรัต นายจำนง ๑ คลังมหาสมบัติ นายชม ๑ คลังราชการ นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ ลาดพระบาท ขุนอิน ๓ พิณพาทย์ หมื่นไฉน ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ กลองแขก หมื่นฉลาด ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ แตรงอน แตรฝรั่ง นายเวร ๑ ขุนหมื่น ๕ รวม ๖ สังข์ ๑ สังฆการีย์ สังฆกาโรต ๑ วิเสทตั้งเครื่องไทยธรรม นาย ไพร่ ๓ รวม ๔ กรมตำรวจในขวา นายศรีภักดี ๑ นายชาติ

----------------------------

แผ่นที่ ๑๗๘ ออกวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม ๑๔ ค่ำ

ภักดี ๑ นายรัดภักดี ๑ นายไตรภักดี ๑ ขุนหมื่นพันเลว ๒๕ รวม ๒๘ ตำรวจใหญ่ขวา ขุนไกรสงคราม ๑ ขุนหมื่นพันเลว ๒๕ รวม ๒๖ รองงานในซ้ายตั้งปืนหลักทอง ๒ คร่ำเงิน ๒ รวม ๔ บอก พันทนาย ๑ ไพร่ ๑ รวม ๓ ตำรวจพลพันซ้าย นายแผลงไพริน ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ ตำรวจพลพันขวา นายยวดภักดี ๑ ขุนหมื่น ๓ รวม ๔ อาสายี่ปุ่นซ้ายตั้งกอง ขุนอาจใจหาญนายเวร ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ ทหารข้าหลวงเดิมซ้าย สกัน ๑ ซายัน ๑ กอปราล ๒ ไพร่ ๒๐ รวม ๒๔ ทหารรักษาพระองค์ในขวา เกาวริง ๑ ซายัน ๑ กอปราล ๒ ไพร่ ๒๕ รวม ๒๙ ทหารแตรกรมรักษาพระองค์ซ้ายขวา แปนมัสเตอร ๑ ไพร่ ๒๔ รวม ๒๕ ช่างทหารใน หมื่นจงใจรักษ์ ๑ หมื่นภักดีนาย ๑ ขุนหมื่น ๖ รวม ๘ ทนายเลือก หมื่นผลาญ ๑ ขุนหมื่น ๒ รวม ๓ รักษาพระองค์ขวา ปืนหามแล่น ๒ ไพร่ ๘ รวม ๑๐ กรมอาสาใหม่ กรมท่าซ้าย หลวงนราเรืองเดชเจ้ากรม ๑ ขุนหมื่น ๔ รวม ๕ รักษาพระองค์ซ้าย นายเวร ๑ ทนายเลือกขวา นายเวร ๒ ขุนหมื่น ๒ รวม ๔ รวมเปนคน ๒๒๔ คน

ณวันเสาร์ เดือน ๑๒ ขึ้น ๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ ข้าพ(ระพุทธ)เจ้า นายจำเนียรภักดีนายเวร ๆ ปลัดวังขวา ทำหางว่าวซึ่งได้ตรวจเจ้าพนักงานรับวัดเครือวัลย์ที่ ๑ มายื่นกับท่านมหาดเล็กหางหนึ่ง สังฆการีย์ สังฆกาโรต ๑ ขุนหมื่น ๑ รวม ๒ ศุภรัต พระศุภรัต ๑ คลังวิเศษ หลวงศรีเทพ ๑ คลังวรอาสน์ นายเวร ๑ ภูษามาลา ขุนพิพิธ ๑ สนมพลเรือน พระจันทราทิตย์ ๑ ทอดพระแสง นายชิด ๑ ทูลวัด นายสนิท ๑ รับเครื่อง นายขัน ๑ รวม ๓ นาฬิกา ขุนอิน ๑ พิณพาทย์ ขุนหมื่น ๕ กลองแขก ขุนหมื่น ๓ แตรสังข์ ขุนหมื่น ๕ รวม ๒๔ วิเสทกลาง คาว ๒ หวาน ๒ รวม ๔ รวมเปนคน ๒๘ คน

ณวันเสาร์ เดือน ๑๒ ขึ้น ๒ ค่ำ ปีกุนสัปตศก ๑๒๓๗ ข้าพเจ้านายสวัสดิ์ภักดีนายเวรกรมพระตำรวจในซ้าย ทำหางว่าวเจ้าพนักงานแห่นำตามรับเสด็จ ตั้งกองจุกช่องล้อมวงรอบพระอุโบสถชั้นนอกรับวัดเครือวัลย์วรวิหารที่ ๑ มายื่นแก่ท่านกรมวังหางหนึ่ง ในซ้าย นายสวัสดิ์ภักดีนายเวร ๑ นายราชภักดีนายเวร ๑ นายไชยภักดีนายเวร ๑ ขุนหมื่นพันเลว ๒๐ รวม ๒๓ กรมพระตำรวจใหญ่ซ้าย ขุนรุดสำแดงนายเวร ๑

----------------------------

  1. ๑. พระสงฆ์รับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวังจัดเปนเวรต่างวัดทั้ง ๗ วัน คือ วันอาทิตย์ วัดมหาธาตุ วันจันทร์ วัดราชบุรณะ วันอังคาร วัดระฆัง วันพุธ วัดพระเชตุพน วันพฤหัสบดี วัดธรรมยุติ วันศุกร์ วัดสุทัศน์ วันเสาร์ วัดอรุณ

  2. ๒. การที่จะส่งนักเรียนไปอเมริกาครั้งนั้น ต่อมามีเหตุขัดข้องหาได้ส่งไม่

  3. ๓. ตรงนี้ผิดบอกแก้อยู่ในแผ่นที่ ๑๔๗

  4. ๔. ตรงนี้ผิดมีบอกแก้อยู่ในแผ่นที่ ๑๔๗

  5. ๕. ตรงนี้ผิดมีบอกแก้อยู่ในแผ่นที่ ๑๔๗

  6. ๖. ห้างนี้ตั้งที่ตึกหลวงอยู่ตรงหัวถนนบำรุงเมืองฟากใต้ เดี๋ยวนี้รื้อเปนเขตร์วังสราญรมย์

  7. ๗. พระองค์เจ้าหญิงบัณฑรวรรณวโรภาส

  8. ๘. สังฆราชเยราเซน ตัวชื่อวี

  9. ๙. ตรงนี้ผิดมีบอกแก้ในแผ่นที่ ๑๕๖

  10. ๑๐. เรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดชลำนี้ เปนลำที่ ๒ ต่อในรัชกาลที่ ๕ เสด็จคราวนี้เปนเที่ยวแรก

  11. ๑๑. ในสมัยนั้นเรือขนาดใหญ่ยังเดิรทางร่องเก่า ออกปากน้ำไปแล้วเลี้ยวข้างขวา เอาเรือนตะเกียงไว้ซ้ายมือ ตรงไปทางตวันตกจนตกน้ำลึ

  12. ๑๒. เรือลำนี้ต่อมามีชื่อว่า เรือสยามมงกุฏไชยชิต

  13. ๑๓. ในสมัยนั้นวัดยังอยู่ที่ปลายแหลม ซึ่งสร้างอาศัยสถานต่อมา

  14. ๑๔. เรือไฟของเจ้าพระยาภาณุวงศ์ ต่อมาได้พระราชทานนามว่า กมุทมาลาลำ ๑ บุษบาบานกลีบลำ ๑ ที่กล่าวตรงนี้จะเปนลำกมุทมาลาเปนลำใหญ่

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ