พระราชหัตถเลขาฉบับที่ ๒

เมืองราชบุรี

วันที่ ๒ กันยายน รัตนโกสินทร๔๒ศก ๑๒๘

บอกมายังมกุฎราชกุมาร ต่อใบบอกฉบับแรก

เมื่อวันที่ ๑ กันยายน เวลาเช้า ได้ขึ้นรถเจ๊กไปดูแถวตลาด ถนนริมน้ำตั้งแต่หน้าบ้านเทศาไปได้ถมศิลาเขาหลาว บดแน่นเรียบร้อยดี ตลอดจนถึงที่ว่าการมณฑล ถนนสายที่เกิดความในหนังสือพิมพ์บ่นเรื่อยอยู่บ่อย ๆ นั้น คือถนนเทียมไปข้างทางรถไฟสำหรับไปสถานีทำเรียบร้อยเสร็จแล้วไม่ต้องเกิดความ แต่ถนนนอกนั้นยังไม่เปนแก่นสารอะไรเลย สายหลังปูด้วยอิฐเหมือนถนนเสาชิงช้าครั้งรัชกาลที่ ๔ ที่ลุ่มต่ำกว่าถนนสายหน้าเปนอันมาก เมืองราชบุรียังไม่เข้าเปนภูมมิวนิซิเปอลอย่างไรเข้าได้ ถ้าจะตั้งมิวนิซิเปอลจะได้แต่ตลาดพระคลังข้างที่รายเดียวเปนเนื้อ นอกนั้นก็มีแต่กระเสนกระสาย ตึกตลาดพระคลังข้างที่นั้นติดแน่นหนาดีมาก ตัวตลาดของสดไม่พอซึ่งที่จะขยายยังติดเกะกะต่าง ๆ ด้านหลังเปนตึกเก่าที่จะต้องรื้อ ด้านหน้าก็เปนโรงตำรวจภูธรซึ่งจะย้ายไปไหนก็ยังไม่ได้ ที่พักมิชชันนารีเข้าไปแซกอยู่ในระหว่างนั้น ยังจะต้องย้ายเปลี่ยนกันอีกหลายต่อ จึงจะขยายตลาดออกไปได้ พิเคราะห์ดูตึกรามที่ทำ ๆ ขึ้นไว้ก็เปนเครื่องน่าสังเวช แต่จะทนสู้เรือนฝากระดานก็ไม่ได้ เพราะเหตุที่ทำตึกแต่ไม่รู้จักวิธีทำตึก ปลูกสร้างขึ้นเหมือนยังเรือนไม้ง่อนแง่นกำมลอไปทั้งนั้น ตึกสมเด็จเจ้าพระยาซึ่งเปนที่ว่าการทั้งใหญ่ทั้งโต ก็ต้องมุงจากทับกระเบื้อง ที่วังเก่าซึ่งอยู่ตรงอาลูนอาลูน (สนามหญ้าใหญ่) ใช้เปนตารางไปพลางอยู่บัดนี้ ก็อยู่ได้ด้วยค้ำจุน ตารางใหม่ทำข้างล่างลงมาหลังบ้านเทศายังไม่แล้ว ที่วังนี้ในสมุดสามสิบสองเล่มของมหาดไทยกะว่าจะทำเปนที่ว่าการมณฑลแต่เห็นจะยังลึก เลยขอไว้ว่า ถ้าจะทำแล้วขอให้ทำเปนตึกถาวรมั่นคงทีเดียว อย่ารื้อตึกลงปลูกเรือนฝากระดานครอบเลย เพราะราชบุรีมีพร้อมทั้งอิฐทั้งปูนซึ่งได้ลืมกล่าวในรายงารฉบับก่อน ว่าได้เกิดโรงสีไฟขึ้นโรงหนึ่งข้างใต้น้ำ ใช้ผนังก่ออิฐถือปูน แต่ยังไม่ได้ลงมือทำการ เมื่อดูตลาดตลอดแล้วได้ไปวัดศรีสุริยวงศ์ ยังไม่สู้ชำรุดมากนัก กลับมานั่งที่พักบ้านเทศาแลกินกลางวันพร้อมด้วยเจ้านาย

เวลาเย็นลงเรือไปบ้านพระยามนตรีสุริยวงศ์ ซึ่งอยู่ใต้เกาะลงไปหน่อยหนึ่ง เขาเลือกได้ที่ดีเปนที่ดอนปลูกเรือนกำมลอ ๆ แต่ทำเข้าท่วงที ตกแต่งสนุก เลี้ยงเป็ดไก่ปลูกต้นไม้ดูเปนที่สบายอยู่

วันที่ ๒ กันยายน เวลาเช้า ได้ขึ้นรถไปข้ามสพานรถไฟดูโรงทหารในเมือง การที่ยังไม่สำเร็จเมื่อดูครั้งก่อน แล้วสำเร็จขึ้นอีกหลายอย่าง มีโรงทหารปืนใหญ่เปนต้น ได้ตรวจดูที่โรงทหารปืนใหญ่ แลให้แสดงวิธิใช้ปืนใหญ่ให้ดูแล้ว ได้กลับลงทางสพานน้ำหน้าบ้านผู้บังคับการซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่พัก ลงเรือพายข้ามมาขึ้นที่อยู่

มีฝนตกแต่ตกเปนพัก ๆ ไม่กีดแก่การที่จะเที่ยวเตร่ แลไม่ตกพร่ำเพรื่อ เวลากลางวันไม่สู้ร้อน แต่เวลาจวนรุ่งหนาวต้องห่มผ้า ที่บอกข่าวสองวันนี้ จะให้เปนเขตเวลาที่อยู่เมืองราชุรี ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปจะเปนเวลาเดิรทาง จะบอกข่าวฉบับอื่นต่อไป

ป.ล. เมื่อเขียนหนังสือนี้แล้ว เวลาเย็นได้ไปวัดช่องลม ซึ่งพระครูอินทเขมา เจ้าอาวาสมาหาถวายพระราชกุศล แต่เรียกว่าวัดช้างล้ม ได้กล่าวว่าเปนที่ช้างล้ม ช่างไม่มีอะไรน่าดูสักอย่างเดียว รกรุงรัง วัดราชบุรีแล้วอย่าดูเสียเลยดีกว่า กลับมาจากวัดเลยไปดูที่สถานีรถไฟตามถนนเกิดความ ถนนนั้นเปนที่เรียบร้อยพอใช้ได้ แต่มีที่ซึ่งต้องพิจารณาเปนอันมาก เปนทำนบตั้งคันกั้นน้ำกันน้ำข้างนอกได้ แต่น้ำข้างในออกไม่ได้เหน้าเฟอะฟะถ้าหนักมือเข้าก็ต้องตั้งระหัด ทั้งนี้ก็เพราะไม่ได้ถมดินตามความคิด การจะถมก็มากเห็นจะยังนาน ที่สเตชั่นรถไฟก็ยังไปคนละทางอยู่บ้าง ราษฎรที่ได้บันทุกสิ่งของมาแต่เพ็ชร์บุรีหรือพระปฐมเจดีย์ ไม่สามารถจะขนของตามทางบกซึ่งอยู่หลังสเตชั่นได้ ไม่มีพาหนะอะไรจะขนนอกจากจะจ้างเจ๊กหาบ ส่วนคลองไปอยู่หน้าสเตชั่นตรงกันข้าม รถมาจอดข้างหน้าสเตชั่น ขนของลงเรือต้องข้ามราง เจ้าพนักงารเขาก็ห้ามไม่ให้ข้าม แต่ราษฎรก็ดื้อข้ามเพราะไม่ข้ามก็ไปลงเรือไม่ได้ นายสถานีต้องเลยอลุ่มอล่วยไปบ้าง ดีที่นายสถานีเปนคนไทย การที่ฝืนกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้มักจะมีในระหว่างกรมรถไฟกับคนโดยสาร วันนี้ฝนไม่ตกเลย

จ.ป.ร.

  1. ๑. หมายความว่าความคิดซึ่งจะทำแต่ไม่รู้ว่าจะทำได้เมื่อใด

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ