บทที่ ๑๘

แอสตัน เมเนอร์-เฮาส์ เป็นสถานที่ใหญ่โตมาก สร้างเป็นพิเศษสำหรับพวกสมาคมชั้นสูง จะมีการเต้นรำเก็บเงิน เพื่ออุทิศให้กองการกุศล งานเช่นนี้มีขึ้น เพื่อจะช่วยชาวอังกฤษที่อยู่ในฐานะทุพพลภาพ และช่วยให้หนุ่มสาวในสมาคมได้มีโอกาสเห็น รู้จักและเลือกคู่กัน ห้องเต้นรำเป็นห้องที่แต่งไว้หรูงามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ รอบๆ ห้องติดกับกำแพงผนังทั้งสี่ด้าน มีเก้าอี้ตั้งไว้เป็นหมู่ๆ หมู่หนึ่งมีฉากญี่ปุนขนาดเล็กกั้นไว้สองข้างๆ ละฉาก เปิดตรงหน้าให้แลเห็นผู้ที่เต้นรำอยู่เป็นหมู่ ที่เหล่านี้จัดไว้สำหรับผู้ที่ประสงค์จะนั่งพักในระหว่างที่ดนตรีจบลง หรือพักเพื่อสนทนากัน ฟรีดาพาเราทั้งสามไปทางมุมห้องด้านหนึ่ง แล้วหล่อนก็ทิ้งเราให้อยู่กันโดยลำพัง เพราะหล่อนมีธุระที่จะต้องไปหามิสเตอร์สตีลส์ นั่งอยู่สักครู่ก็มีบ๋อยนำอาหารว่างมาให้เรารับประทาน ระหว่างที่นั่งกันอยู่นั้น เราได้ยินคนข้างๆ เราพูดกันเบาๆ แต่ไม่สามารถจะเห็นได้ว่าเป็นใคร เพราะมีฉากญี่ปุ่นกั้นอยู่

“เธอบอกกับฉันว่าไอรีนดีต่อเธอมาก” เจ้าหญิงรับสั่งกับพระองค์ชาย “ฉันรู้ดีว่าหล่อนดีต่อเธอเพียงไหน ตัวอย่างเช่นหล่อนดีต่อเธอมากกว่านายร้อยเอกเจอร์โรม ฟีลิป”

“แน่นอน” พระองค์ชายทรงตอบแล้วก็ทรงพระสรวล “ไอรีน ชอบฉันมากกว่าเจอร์โรม ฟีลิป”

ขณะนั้น บ๋อยมายกเอาเครื่องว่างที่เรารับประทานเสร็จแล้วออกไป ดนตรีตั้งต้นบรรเลงเพลงวอลตซ์เบาๆ

“การที่ไอรีนดีต่อเธอมาก ไม่ได้หมายความว่าหล่อนชอบเธอมากกว่าคนอื่น” อรุยาตรัสค้าน “เธอรู้หรือไม่ว่าทำไมหล่อนจึงดีต่อเธอผิดกว่าคนอื่น เพราะเธอจะเป็น ‘อะไร’ กับหล่อนไม่ได้ เพราะหล่อนถือว่าเธอเป็นคนผิวเหลือง หรือแขก ‘นิโกร’ มีฐานะและความรู้สึกไม่เจริญ...ไม่สูงเหมือนฐานะและความรู้สึกของหล่อน ซึ่งเป็นคนผิวขาว หล่อนเชื่อว่าหล่อนอาจดีต่อเธอมากโดยปราศจากอันตราย หล่อนไม่เคยฝันว่าคนเช่นเธอ คนผิวเหลืองจะกล้าพอที่จะมารักหล่อนได้”

อรุยารับสั่งอย่างกล้าหาญ ไม่เกรงใจว่าเรา...พระองค์ชายและข้าพเจ้าจะโกรธ

“อรุยา” พระองค์ชายรับสั่งอย่างดังจนข้าพเจ้าสะดุ้ง “เธอเป็นคนเลวที่สุดที่ฉันเคยพบ เธอต้องการจะด่าไอรีนต่อหน้าฉัน พูดอะไรไม่มีความจริง ฉันไม่เชื่อเธอ หล่อนไม่ใช่คนเลวเหมือนเธอ เธอไม่รู้จักไอรีน”

“อย่าพูดดังนักซี เน็ด” เจ้าหญิงรับสั่งห้าม “เดี๋ยวคนเขาจะตกใจ”

ทันใดนั้น เราได้ยินเสียงคนพูดกันซุบซิบทางหลังฉากอีกด้านหนึ่ง “ฟังซี” เจ้าหญิงรับสั่งเบาๆ “ฉันรู้สึกว่าฉันได้ยินอะไรแปลกๆ แล้ว”

เราปฏิบัติตามคำขอร้องของเธอโดยดี

“ฉันเชื่อว่าเธอคงต้องการจะทำให้ฉันเจ็บใจ” เราได้ยินเสียงชายผู้หนึ่งพูด “เธอเต้นรำกับเขามาแล้วถึงสี่ครั้ง”

“แล้วทำไมฉันจึงจะเต้นรำกับเขาอีกสี่ครั้ง หรือสิบครั้งไม่ได้เล่า?” เสียงสตรีผู้หนึ่งถาม “เขาเป็นแขกของเรา เธอรู้ดีอยู่แล้ว”

เสียงผู้ชายบ่นอย่างไม่พอใจ เสียงนั้นเบาจนเราไม่สามารถจะได้ยินถนัด

“แล้วกัน เธออย่าไปว่าอะไรเขาหยาบๆ คายๆ อย่างนั้นซี” เสียงผู้หญิงพูดดังกว่าธรรมดาเล็กน้อย

“ก็ไม่จริงหรือ” เสียงผู้ชายย้อนถามขึ้นบ้าง “ฉันเกลียดพออยู่แล้วที่จะได้เห็นเธอ ‘รักเล่น’ (flirt) กับผู้ชายคนใดคนหนึ่งนอกจากฉัน...ยิ่งเธอไป ‘รักเล่น’ กับคนพรรณนั้นด้วยแล้ว ฉันอยากจะฆ่าเธอเสียทีเดียว เขา...เขาไม่คู่ควรกับเธอ!”

“ตายจริง เจอร์โรม ทำไมเธอจึงเห็นฉันเป็นคนเลวทรามและดูถูกฉันถึงเพียงนั้น!” ไอรีนถามอย่างโกรธเป็นที่สุด “ฉันไม่เคย ‘รักเล่น’ หรือ ‘รักจริง’ กับใครเลยในชีวิต แต่จะไปรักอ้ายตัวแมลงพรรณนั้น...เธอมีความคิดที่ร้ายกาจที่สุด เธอดูถูกฉัน!”

“เธออาจพูดอย่างไรก็ได้ แต่ในการที่เธอไปเต้นรำกับคนๆ เดียวถึงสี่ครั้งในจำนวนครึ่งโหล ถ้าไม่ใช่รักกับเขา ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรจึงจะถูก”

“แต่เขาไม่เหมือนกับคนอื่น ไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะไปรักเขาได้ โอ, เจอร์โรม, เจอร์โรม!” หล่อนพูดยํ้าอย่างแค้น “ทำไมเธอจึงเห็นฉันเลวถึงเพียงนั้น?”

“ฉันไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จริงอยู่” ฟีลิปพูด “แต่อ้ายแมลงแปลกประหลาดตัวนั้นมันรักเธอ...รักเธอจนเกือบจะเป็นบ้า เธอคงไม่หลับตาแกล้งทำเป็นไม่รู้...”

“ไม่จริง ไม่จริง เธอพูดเหลวไหล เขาไม่เคยรักฉัน เขาไม่เคยฝันที่จะรักฉัน ฉันเป็นคนผิวขาว เป็นคนอังกฤษ เขาเป็นคนผิวเหลือง ผิวดำ เขาไม่ต้องการจะมาดูถูกฉัน”

“ฉันเชื่อว่าเธอคงจะต้องการให้เขามาเต้นรำกับเธออีก...?” ฟีลิปพูดอย่างเยาะ

“ฉันตั้งใจจะเต้นรำกับเขาอีก” ไอรีนพูดตะกุกตะกัก “แต่ แต่เมื่อ...”

“อย่า...อย่าเต้นรำกับเขาอีกเลย ไอรีน” เสียงผู้ชายพูดวิงวอน “ฉันทนดูเธอไปทำเหลวไหลเช่นนั้นไมไหว ยิ่งกว่านั้นไอรีน เธอควรจะรู้...รู้ว่าฉัน...รักเธอมาก...รักมากที่สุด”

“จริงหรือเจอร์โรม?” เสียงสตรีสาวถามค่อยๆ ด้วยความพอใจ

“จริง จริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก ไอรีน และยอดรัก ฉันไม่ต้องการจะเต้นรำกับเธอเท่านั้น ฉันต้องการเธอ...ต้องการทุกอย่าง เธอรักฉันบ้างสักเล็กน้อยได้ไหม?”

เสียงตอบของไอรีน เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข แต่เบาจนเราไม่สามารถจะได้ยิน พระองค์ชายประทับพระองค์แข็งราวกับหิน พระพักตร์เผือดด้วยความตกพระทัย

“เจอร์โรมยอดรักของฉัน” เสียงไอรีนพูดต่อไป “เธอเข้าใจผิด เรื่องเน็ดกับฉัน เธอรู้หรือเปล่าจ๊ะ? เน็ดไม่เคยรู้สึกรักฉันอย่างที่เธอเข้าใจ มันเป็นไปไม่ได้เจอร์โรม เธอเชื่อฉันนะ!”

“อย่างไรก็ดี เราอย่าไปยุ่งคิดถึงเขาอีกเลย แต่เธอต้องไม่เต้นรำกับเขาอีก”ฟีลิปพูดในเชิงบังคับ “เธอเห็นหรือเปล่าว่า แม้จะเป็นแขก ‘นิโกร’ เขาก็เป็นคนเหมือนเรา มีความรู้สึก ฉันจะยอมให้พระราชินีคู่ชีวิตของฉันไปเป็นที่รักใคร่บูชาของอ้ายคนป่าเถื่อนไม่ได้เป็นอันขาด”

“หม่อมฉันขอยอมเป็นข้าหลวงผู้จงรักของพระราชาผู้มีอำนาจ” ไอรีนพูดแล้วหัวเราะอย่างเป็นสุข “และจะขอปฏิบัติตามพระประสงค์ทุกอย่าง     เธอจะต้องเต้นรำกับฉันเดี๋ยวนี้นะเจอร์โรม ยอดรัก เธอเห็นไหมเล่าว่าฉันตั้งต้นจะอยู่ในโอวาทอยู่แล้ว”

“แต่ฉันต้องการให้เธอรักฉันด้วย เธอรักฉันไม่ใช่หรือ รักนิดหน่อย?”

เราไม่ได้ยินเสียงไอรีนตอบ เพราะขณะนั้นดนตรีได้ดังขึ้นมาก และไอรีนพูดค่อย สักครู่เราเห็นฟีลิปสอดแขนพาหล่อนไปเต้นรำ!

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ