เรื่องพระอไภยมณี
๑
๏ เห่เอยเห่ละห้อย | พราหมณ์น้อยศรีสุวรรณ |
แรมสำนักตำหนักจันทน์ | พระสุริยันสนธยา |
๏ ให้อาดูรภูลเทวศ | ถึงแก้วเกษรา |
ได้เห็นภักตร์ลักขณา | ยังติดตาทุกนาที |
๏ ชมแท่นทองที่รองทรง | ของอนงค์องค์บุตรี |
หอมหวนยวนยี | อยู่ในที่ไสยา |
๏ เผยพระแกลแลกระจ่าง | เห็นเดือนสว่างในเวหา |
ทรงกลดรจนา | เหมือนนวลหน้าพระน้องนวล |
๏ อนาถหนาวเศร้าสร้อย | ให้ละห้อยโหยหวน |
นึกเห็นเมื่อเล่นสวน | เลิศล้วนลักขณา |
๏ เนตรขนงวงวิลาศ | พิศเพียงบาดไนยนา |
พระกรรณแก้วแววตา | ดังกลีบผกาโกมล |
๏ สองกรก็อ่อนชด | ดังงอนรถพระสุริยน |
ปรางประพระสุคนธ์ | พิศเพียงผลลูกจันทน์ |
๏ ทรวดทรงพระองค์อ่อน | ดังอัปสรสาวสวรรค์ |
โกมุทบุษบัน | ไม่เทียมถันประทุมา |
๏ โอษฐสอาดดังชาดจิ้ม | เมื่อยามยิ้มดังเลขา |
เมื่อเนตรน้องมาต้องตา | ดังสายฟ้ามาฟาดทรวง |
๏ แสนรักสลักอก | ยิ่งกว่ายกภูเขาหลวง |
จะใคร่อุ้มพุ่มพวง | มาแนบทรวงไสยา |
๏ ผิวเหลืองระเรืองรอง | เหมือนเนื้อทองธรรมดา |
แม้นสมรักจะลักพา | ลงเภตรากางใบ |
๏ ดูเนื้อน่วมอยู่นุ่มนิ่ม | จะชมชิมให้อิ่มใจ |
แม้นลมดีจะคลี่ใบ | แล่นไปในนที |
๏ จะปลอบประโลมโฉมฉาย | ขึ้นนั่งบนท้ายบาหลี |
แย้มสรวลยวนยี | จะชวนชี้ให้ชมปลา |
๏ มีต่างต่างกลางทเล | ทั้งจรเข้เหรา |
ฝูงกระโห้ทั้งโลมา | เคลื่อนคลาอยู่ตามกัน |
๏ กุ้งกั้งแลมังกร | สลับสลอนหลายพรรณ |
นาคราชผาดผัน | ปลาอำพันตะเพียนทอง |
๏ วาฬใหญ่ขึ้นไล่คู่ | ผุดฟูพ่นฟอง |
เงือกงูดูคะนอง | ลอยล่องชโลธร |
๏ กริวกราวก็เต้าตาม | ฉนากฉลามสลับสลอน |
คลาเคล้าสำเภาจร | ในสาครรายเรียง |
๏ เกาะใหญ่ไม้ชอุ่ม | เป็นพุ่มพุ่มเคียงเคียง |
เหมือนจอกน้อยลอยเรียง | พิศเพียงจะเพลินใจ |
๏ นิ่งนึกจนดึกดื่น | ถอนสอื้นอาไลย |
เคลิ้มระงับหลับไป | อยู่ในห้องไสยา เอย ๚ |
๒
๏ เห่เอยเห่กล่าว | ถึงพระดาวบศนี |
องค์สุวรรณมาลี | บวชด้วยมีศรัทธา |
๏ กับสินสมุทสุดสวาดิ | อรุณราชนัดดา |
อยู่เขารุ้งปลายทุ่งนา | ออกนั่งหน้ากุฎี |
๏ แบ่งส่วนกุศลผลบุญ | ให้องค์อรุณรัศมี |
สาวสุรางค์นางชี | แต่ล้วนมีศรัทธา |
๏ ตัดรักชักประคำ | พึมพำภาวนา |
เงียบสงัดวัดวา | พระสุริยาเย็นรอนรอน |
๏ ชนีน้อยห้อยโหย | วิเวกโหวยวิงวอน |
จิ้งจอกออกหอน | นกนอนรังเรียง |
๏ เริงร้องซ้องแซ่ | คลอแคลกรีดเสียง |
น่าดูเปนคู่เคียง | แอ่นเอี้ยงแอบอิง |
๏ แม่นกกกกอด | ลูกพลอดวอนวิง |
แจ้วแจ้วแก้วกะลิง | จับที่กิ่งไทรทอง |
๏ นั่งชมโสมนัศ | กับหน่อกษัตรทั้งสอง |
พลบค่ำย่ำฆ้อง | เดือนส่องสว่างตา |
๏ หอมดอกไม้ใกล้กุฏิ | สาวหยุดมลิลา |
ยิหุบบุบผา | แย้มผกากลิ่นขจร |
๏ เย็นยะเยียบเงียบสงัด | พระพายพัดมาอ่อนอ่อน |
หึ่งหึ่งผึ้งภมร | เชยเกสรสุมาลี |
๏ หอมอังกาบกุหลาบเทศ | การะเกดริมกุฎี |
ให้ซาบทรวงหลวงชี | ด้วยมลีหลายพรรณ |
๏ ลมโชยโรยริน | หอมลูกอินกลิ่นจันทน์ |
รศคนธ์ปนกัน | เหมือนกลิ่นกลั่นตระหลบลม |
๏ นิ่งระงับหลับตา | อุส่าห์รักษาอารมณ์ |
ถึงหอมระรื่นไม่ชื่นชม | ตามเพศพรหมจรรย์เอย ๚ |
๓
๏ เห่เอยพระราชบุตร | สินสมุทมุนี |
กับอรุณรัศมี | นั่งอยู่ที่น่าชาลา |
๏ แย้มสรวลชวนกัน | นั่งฉันน้ำชา |
พูดเล่นเจรจา | กับน้องยานารี |
๏ แขไขไตรตรัด | เรืองจรัสรัศมี |
ร่อนเร่ในเมฆี | มาตรงที่แกลทอง |
๏ ถ้าเช่นนี้พี่เหาะได้ | จะเหาะไปประคอง |
ค่อยสอดกรช้อนตระกอง | มาไว้ในห้องไสยา |
๏ เย็นชื่นดื่นดึก | ลืมรำฦกภาวนา |
ชวนพระน้องร้องสักรวา | จนหลงว่าขึ้นดังดัง |
๏ โอ้ว่าเจ้าการะเกด | ขี่ม้าเทศจะไปท้ายวัง |
น้องห้ามไว้ก็ไม่ฟัง | จะแทงฝรั่งลังกา |
๏ รู้สึกตัวกลัวกรรม | ชักประคำภาวนา |
เดือนส่องต้องศิลา | ดังจินดาดวงดาว |
๏ ด้วยเขารุ้งรุ่งเรือง | บ้างเขียวเหลืองแวววาว |
แวมสว่างพร่างพราว | อร่ามราวเพ็ชรพลอย |
๏ พร่างพร่างน้ำค้างเหยาะ | เผาะเผาะผอยผอย |
ดาวก็เคลื่อนเดือนก็คล้อย | จะเลื่อนลอยลับตา |
๏ เย็นยะเยียบเงียบสงัด | พระพายพัดรำเพยพา |
พระเพลินจิตรไม่นิทรา | แต่น้องยานั้นหลับไป |
๏ เดือนส่องผ่องเพียง | จะแข่งเคียงแขไข |
หลับสนิทจะพิศไหน | งามวิไลยลักขณา |
๏ นวลหน้าเหมือนการะเกด | ดังดวงเนตรของเชษฐา |
ถึงนางสวรรค์ชั้นฟ้า | ก็ไม่โสภาเทียมนวล |
๏ ชายใดแม้นได้นุช | จะรักสุดแสนสงวน |
ยิ้มเยื้อนเหมือนจะชวน | ให้รัญจวนใจชาย |
๏ พิศเพ่งเล็งดูเดือน | ลม้ายเหมือนกับเดือนหงาย |
ฟ้าขาวดาวประกาย | พฤกษพรายโพยมมาล |
๏ เสียงดุเหว่าเร่าร้อง | เสนาะก้องกังวาล |
ไก่กระชั้นขันขาน | วิเวกหวานวังเวง |
๏ เหมหงษ์บุหรงร้อง | ดังพาทย์ฆ้องประโคมเพลง |
กลระฆังก็ดังเอง | เสียงเหง่งเหง่งวังเวงใจ |
๏ ลมว่าวหนาวชื้น | หอมระรื่นหฤไทย |
งีบระงับหลับใหล | ในที่ไสยา เอย ๚ |
๔
๏ เห่เอยหน่อกษัตร | นางอรุณรัศมี |
บวชเล่นเล่นก็เป็นชี | กับฤๅษีพี่ยา |
๏ แอบชอ้อนนอนเพลา | ว่าพระเจ้าป้าจ๋า |
พรหมจรรย์จรัญยา | เขาแปลว่าอันใด |
๏ พระเจ้าลุงพรุ่งนี้ | จะมานีมนต์ไป |
หลวงป้าไม่ว่าไร | ฤๅจะไปตามคำ |
๏ ถามเท่าไรก็ไม่ตรัส | สมาบัติบริกรรม |
กลัวป้าอุส่าห์ทำ | ชักประคำภาวนา |
๏ ลืมมนต์เสียหมดสิ้น | ด้วยหอมกลิ่นบุบผา |
รศคนธ์มณฑา | มลิลาลมโชย |
๏ รื่นรื่นชื่นแช่ม | กลิ่นนางแย้มยมโดย |
ให้หวิวหวิวหิวโหย | ร่วงโรยกำลัง |
๏ ประหลาดเหลือเมื่อไร | จะได้เข้าไปในวัง |
เสียงหริ่งหริ่งที่กิ่งรัง | ฟังฟังยิ่งวังเวง |
๏ จักรจั่นสนั่นเสนาะ | ดังบัณเฑาะว์ดีดเพลง |
กระดึงดังหงั่งเหง่ง | ให้วังเวงวิญญา |
๏ ครั้นเย็นย่ำน้ำค้าง | พร้อยพร่างพฤกษา |
ลมเชยรำเพยพา | ชื่นวิญญาเย็น เอย ๚ |
๕
๏ เห่เอยเห่กล่าว | ถึงลูกสาวเจ้าลังกา |
โฉมลเวงวัณฬา | ทรงอาชามากลางไพร |
๏ เลี้ยวหลงวงเดิน | พนมเนินพนาไลย |
แลเหลียวเปลี่ยวใจ | วิเวกในดงดาล |
๏ เห็นแต่สัตว์จัตุบาท | มฤคราชแรดฟาน |
เสือสิงห์วิ่งทยาน | เสียงสท้านสเทือนดัง |
๏ นางหลีกลัดดัดเดิน | แนวเนินพนมวัง |
ให้หิวโหยโรยกำลัง | จนม้าที่นั่งก็อ่อนแรง |
๏ แลดูพระสุริฉาย | ก็เบี่ยงบ่ายชายแสง |
สุดสังเกตเขตรแขวง | ไม่รู้แห่งหนทาง |
๏ แลขวาเป็นป่าชัฏ | ข้างซ้ายขัดภูเขาขวาง |
ล้วนป่าสูงยูงยาง | ไปตามหว่างศีขรินทร์ |
๏ เป็นโกรกกรวยห้วยธาร | หุบลหานเหวหิน |
ฝูงปักษาเที่ยวหากิน | บ้างโผบินร่อนเรียง |
๏ แจ้วแจ้วแก้วพลอด | ฉอดฉอดฉ่ำเสียง |
กระลุมภูเปนคู่เคียง | เค้าโมงเมียงมองแล |
๏ ฝูงอิลุ้มคุ่มขาบ | กระจิบกระจาบจอแจ |
นกออกเอี้ยงเคียงคับแค | เสียงซ้อแซ้สนั่นไพร |
๏ โพรโดกนั้นโอกเสียง | เสนาะสำเนียงนกตะไน |
กินปลีเปล้าเขาไฟ | จับกิ่งไม้มองเมียง |
๏ ไก่ฟ้าพระยาลอ | ขันจ้อแจ้วเสียง |
นกอุลอคลอเคียง | กะเรียนเรียงรังนาน |
๏ ฝูงยางกรอกดอกบัว | กระเตนกระตั้วหัวขวาน |
เบญจวรรณขันขาน | บ้างบินผ่านโผจร |
๏ คุลาโห่โกกิล | นกขมิ้นเหลืองอ่อน |
เรียงจับสลับสลอน | นางนวลนอนแนบนาง |
๏ บ้างเวียนวิ่งบนกิ่งไม้ | บ้างซุกไซ้ปีกหาง |
ชมเพลินเดินพลาง | วิเวกวางเวงใจ |
๏ บาระบูนขุนแผน | ตระเวนกระแวนระวังไพร |
ตัวเขียวเหยี่ยวตะไกร | ไล่ลูกไก่เวียนวง |
๏ ที่เงื้อมเงาเขาสูง | แต่ล้วนฝูงเหมหงษ์ |
ปีกเจ้าอ่อนร่อนลง | ประสานส่งสำเนียง |
๏ นกยูงเป็นฝูงฟ้อน | เหมือนลครรำเรียง |
กรีดกรายชม้ายเมียง | ประสานเสียงสนั่นดัง |
๏ สาลิกาสุวาที | นกโนรีเรียงรัง |
เหมือนนกเลี้ยงในเวียงวัง | พระเนตรหลั่งหล่อชล |
๏ โอ้อกระหกระเหิน | เคราะห์พเอินอับจน |
ม้าเลี้ยวหลงวงวน | ไม่เห็นหนทางไป |
๏ ป่าระหงดงดึก | สพรั่งพฤกษาไสว |
หอมระรื่นชื่นฤไทย | ดอกไม้ไพรพนม |
๏ แก้วกุหลาบอังกาบแกม | นางเด็ดแซมมวยผม |
สร้อยฟ้าดูน่าชม | ทั้งสุกรมยมโดย |
๏ บ้างบานตูมเป็นพุ่มพวง | บ้างหล่นร่วงกลีบโรย |
ทั้งพระพายชายโชย | เกสรโปรยปรายมา |
๏ ทั้งรวยรินอินจันทน์ | กะลำพันกฤษณา |
เพลินพระไทยไคลคลา | จนสุริยาเย็นรอนรอน |
๏ ครั้นถึงธารสอ้านสอาด | เขาอังกาศศิงขร |
จิ้งจอกออกเห่าหอน | ในดงดอนดูมืดมัว |
๏ เสียงชนีวิเวกโหวย | ละห้อยโหยหาผัว |
วังเวงน่าเกรงกลัว | แลเห็นตัวอยู่ไรไร |
๏ เห็นที่แท่นแผ่นผา | ที่ไสยาอาไศรย |
ลงจากม้าคลาไคล | เข้านั่งใต้ไทรทอง |
๏ ด้วยล้าเลื่อยเหนื่อยนัก | พระวรภักตร์หม่นหมอง |
แล้วทรงเปลื้องสไบกรอง | นางปูรองกายา |
๏ ค่อยเอนองค์ลงบนอาศน์ | พระเศียรพาดแผ่นผา |
ให้หิวโหยโรยรา | นิ่งนิทราตรอมใจ |
๏ เสียงจังหรีดกรีดกริ่ง | หริ่งหริ่งเรไร |
เคลิ้มระงับหลับไป | ใต้ต้นไทรทอง เอย ๚ |
๖
๏ เห่เอยเห่บท | เดินรถในราตรี |
พระอไภยมณี | นั่งที่ท้ายรถทรง |
๏ บุษบกกระจกกระจ่าง | เห็นรางรางรูปทรง |
คลุมประธมห่มองค์ | เห็นแต่วงภักตรา |
๏ แม่ยอดหญิงพริ้งเพริศ | วิลาศเลิศลักขณา |
จะสกิดก็ติดฝา | สุดปัญญาสุดอาไลย |
๏ ยืนยิ้มอยู่ริมรถ | รื้อระทดหฤไทย |
ฤๅระงับหลับใหล | ทำกระไรจะรู้ความ |
๏ นิ่งนึกเห็นดึกนัก | เวลาก็สักสองยาม |
คิดจะใคร่ไถ่ถาม | ให้ขามขามในวิญญา |
๏ ยามประชวรกวนจิตร | จะเคืองคิดโกรธา |
จึงถอยหลังรั้งรา | เลียบไปหน้ารถไชย |
๏ พระถามธิดาสุลาลี | พระชนนีเป็นไฉน |
เขาบอกว่าหลับก็กลับไป | ขึ้นยืนอยู่ใกล้แกลทอง |
๏ ผลักผลักสลักติด | ก็คิดคิดเขม้นมอง |
เสียงจังหรีดกระกรีดร้อง | นึกว่าน้องจำนรรจา |
๏ เกาะเกาะพระเคาะแกล | เป็นไรณแม่วัณฬา |
พี่มาแล้วนะแก้วตา | จะรับรักษาทรามไวย |
๏ เย็นยะเยียบเงียบสำเนียง | ได้ยินแต่เสียงเรไร |
เสนหาอาไลย | มิได้ใกล้เคียงองค์ |
๏ กลับมานั่งบังกาย | อยู่ที่ท้ายรถทรง |
พร่างพร่างกลางดง | ต้นรงร่มครึ้ม |
๏ พอเดือนเที่ยงเสียงผึ้ง | หึ่งหึ่งครหึม |
ทุกเงื้อมเขาเหงางึม | ให้เศร้าซึมโศกา |
๏ พี่อุส่าห์มาด้วย | ก็มิได้ช่วยรักษา |
ฤๅน้องแก้วแววตา | สวรรคาไลยไป |
๏ ไม่ขออยู่จะสู้ม้วย | จะตายด้วยแม่ดวงใจ |
กอดพระกรถอนฤไทย | วิเวกในดงดอน |
๏ เย็นยะเยียบเงียบสงัด | พระพายพัดมาอ่อนอ่อน |
รวยรินกลิ่นขจร | หอมเกสรสุมาลี |
๏ ลั่นทมนมสวรรค์ | ทั้งอินจันทน์จำปี |
สร้อยฟ้าสารภี | มลุลีหลายพรรณ |
๏ ทั้งยมโดยโรยริน | ระรื่นกลิ่นมลิวัน |
เหมือนกลิ่นเนื้อเจือจันทน์ | สอื้นอั้นอาไลย |
๏ ไฉนดีเจ้าพี่เอ๋ย | จะได้เชยให้ชื่นใจ |
อุส่าห์ตามทรามไวย | มาจนใกล้กัลยา |
๏ เพราะฝาติดอยู่นิดเดียว | ให้เสียวเสียวเสนหา |
เขม้นมองที่ช่องฝา | จะใคร่เห็นหน้าพระน้อง เอย ๚ |
๗
๏ เห่เอยเห่เพลง | โฉมลเวงวัณฬา |
ทำหลับใหลไสยา | จนล่วงมากลางดง |
๏ แลเห็นองค์พระอไภย | เที่ยวเลียบไต่รถทรง |
ทำความเพียรเวียนวง | คิดก็สงสารเธอ |
๏ ช่างซื่อสุดบุรุษใด | ไม่มีใครจะเสมอ |
ช่างง่วงเหงาเฝ้าลเมอ | ช่างไม่เก้อแก่ใจ |
๏ เห็นประจักษ์ว่ารักจริง | สู้ทอดทิ้งทัพไชย |
มิตอบถ้อยจะน้อยใจ | ครั้นพูดไปจะเป็นทาง |
๏ ทั้งรักแค้นแสนเสียดาย | สอื้นอายอางขนาง |
ทำประชวรครวญคราง | จึงถามนางลาลีวัน |
๏ ถึงไหนแล้วณแก้วตา | แม่หลับมาแต่สายัณห์ |
เข้าป่าสาลวัน | จักรจั่นจับใจ |
๏ เจ้าแม่เอ๋ยเคยนั่ง | จะลุกยังไม่ไหว |
ให้กลุ้มกลัดในหไทย | เจ็บไข้ก็ไม่เคย |
๏ ลมว่าวก็เฝ้าพัด | หนาวสาหัสแล้วลูกเอ๋ย |
กลางไพรใครเลย | จะให้เขนยหนุนนอน |
๏ ทั้งน้ำค้างก็ช่างสาด | ใจจะขาดลงรอนรอน |
ถึงสุวรรณบรรจ์ฐรณ์ | จะได้นอนให้อุ่นทรวง |
๏ ชะกระไรพระจันทร์ | ช่างดัดดั้นไปลับดวง |
ฤๅลับเงาภูเขาหลวง | ไม่โชติช่วงชัชวาลย์ |
๏ แลก็ไม่เห็นหน | ช่างมืดมนอนธการ |
ดอกไม้ก็ไม่เบิกบาน | จะได้สำราญฤไทย |
๏ เจ้าประดิษฐคิดขับ | ให้เพราะจับจิตรใจ |
จะได้ระงับหลับใหล | ให้ส่างในทรวง เอย ๚ |
๘
๏ เห่เอยธิดา | โฉมสุลาลีวัน |
รับสั่งบังคมคัล | ขึ้นนั่งบนชั้นเกรินทอง |
๏ แกล้งประดิษฐ์คิดคำ | ขับลำนำทำนอง |
โอ้ยามค่ำย่ำฆ้อง | ให้มัวหมองในวิญญา |
๏ จะแลชมพนมพนัศ | ไม่ถนัดไนยนา |
ช่างมืดมิดทุกทิศา | มืดทั้งฟ้าดินดง |
๏ โอ้ว่าพระศศิธร | ช่างลอยร่อนรถทรง |
แจ่มกระจ่างสว่างวง | ส่องที่ตรงแกลทอง |
๏ เห็นภักตราหล้าโลกย์ | จะส่างโศกเศร้าหมอง |
โหยหวนนวลลออง | มณฑาทองที่ต้องใจ |
๏ ภุมรินบินค้อยค้อย | มาเชยสร้อยสุมาไลย |
มืดมนก็จนใจ | เที่ยวเลียบไต่ตอมดวง |
๏ โอ้เอนดูแมงภู่น้อย | ให้เศร้าสร้อยโศกทรวง |
ด้วยกลีบหุ้มพุ่มพวง | ไม่โรยร่วงรสสุคนธ์ |
๏ ขอเทวัญในชั้นฟ้า | ทั้งเทวดาเดินหน |
ช่วยโปรยปรายสายฝน | ให้อุบลแบ่งบาน |
๏ ลมโชยระโรยกลิ่น | หอมกระถินพิมาน |
มณฑาผกากาญจน์ | มาซาบซ่านทรวงเย็น |
๏ หอมประดู่อยู่ใกล้ใกล้ | แลก็ไม่ใคร่เห็น |
น้ำค้างพร่างสาดกระเซ็น | ยะเยือกเย็นพยอมไพร |
๏ หนาวลมจะห่มผ้า | หนาวน้ำฟ้าจะผิงไฟ |
หนาวทรวงณดวงใจ | เศร้าฤไทยระทวยทรง |
๏ ถึงเสื้อสวมนวมหุ้ม | ก็ไม่เหมือนอุ้มแอบองค์ |
หอมดอกไม้ที่ในดง | ไม่เหมือนทรงสุคนธา |
๏ แป้งสดรศรื่น | ไม่หอมชื่นในนาสา |
เห็นอื่นอื่นไม่ชื่นตา | เหมือนได้เห็นหน้าพระน้อง เอย ๚ |
๘
๏ เห่เอยจะกล่าว[๑] | ถึงเรื่องราวพระอไภย |
ต้องเสน่ห์เล่ห์อาไลย | หลงใหลรักวัณฬา |
๏ พระแปลงปลอมถ่อมยศ | มาในรถโมรา |
เงียบเหงาเศร้าวิญญา | เมื่อในราตรีกาล |
๏ จนดึกดื่นเดือนดวง | โชติช่วงชัชวาลย์ |
พระพายรำเพยเผยพาน | น้ำค้างก็ซ่านโทรมกระเซ็น |
๏ แสนสงสารพระอไภย | ให้หนาวในทรวงเย็น |
สอดสังเกตเนตรเขม้น | แลเห็นอยู่รางราง |
๏ รู้ว่าลเวงวัณฬา | อยู่ในรถฝากระจกกระจ่าง |
แต่ลูกหลอกบอกพราง | ว่าพระนางเธอประชวร |
๏ พระอไภยมณีเธอขี้ขลาด | ไม่เอื้อมอาจลามลวน |
ได้ยินเสียงนางครางครวญ | คิดว่าประชวรจริงจริง |
๏ สอื้นอั้นตันอุรา | สงสารกัญญายอดหญิง |
เห็นงามงอนลงนอนนิ่ง | ท้าวเธอก็ยิ่งทุกข์ประเทือง |
๏ ลำลำจะใคร่ถามประชวร | เกรงไม่ควรกลัวนางจะเคือง |
กลัวคนจะรู้เข้าหูเหือง | จะเสียเรื่องรักเรา |
๏ เธอสู้นั่งมิไม่ปริปาก | เพราะหวังจะฝากไมตรีเขา |
สู้นั่งจ๋อยจิ๋มหงิมเหงา | เหมือนหนึ่งโศกเสร้าสักแสนปี |
๏ ฝ่ายโฉมลเวงวัณฬาเลิศ | วิเศษประเสริฐสวยศรี |
นางนิ่งนอนอาวรณ์ทวี | อยู่บนที่รถทอง |
๏ เห็นพระอไภยวิไลยลักษณ์ | ประเสริฐศักดิเธอเศร้าหมอง |
เพราะหมายเปนหนึ่งจะพึ่งน้อง | ท้าวเธอจึงต้องแปลงตัว |
๏ สู้ต่ำเตี้ยเสียพระเดช | นึกแสนสมเพชรักผัว |
เพราะรักน้องจึงหมองมัว | ทูลเอยทูลหัวของเมีย |
๏ สู้ตัดญาติขาดมิตร | มาเข้ารีตฝรั่งเสีย |
สู้ต่ำต้อยละห้อยละเหี่ย | อะลิ้มอะเหลี่ยเหลืออาไลย |
๏ ทั้งรูปก็ดีเป่าปี่ก็เพราะ | ลมุนเหมาะจับใจ |
ทั้งโลกหล้าไม่หาได้ | เหมือนพระอไภยภูมินทร์ |
๏ จะเกี้ยวจะพานก็หวานสนิท | ดังอำมฤตย์วาริน |
ครองสัตย์ซื่อถือศิล | ควรเปนปิ่นนครา |
๏ พระสังฆราชบาดหลวง | ช่างไปล่อลวงเอาเธอมา |
จะให้ฟันฟาดพิฆาฏฆ่า | น้องเวทนาเหลือใจ |
๏ เออเมื่อเธอรักน้องหนักหนา | จะให้คิดฆ่าเสียกลใด |
เธอมิตรจิตรน้องก็มิตรใจ | ฆ่าไม่ได้แล้วนา |
๏ สงสารเอยสงสารนัก | พระยอดรักของน้องนี่หนา |
เคยศุขไสยาศน์บนอาศน์ไสยา | ยี่ภู่ผ้าอันโอฬาร |
๏ แม้นน้องไม่คิดขวยเขิน | จะเชื้อเชิญด้วยคำหวาน |
ประธมที่นอนวอนวาน | จะอยู่งานให้ประธม |
๏ เออทำไมไม่มาเล่า | ช่างนั่งนิ่งเหงาง่วงงม |
จนเข้ามาชิดยังไม่คิดจะชม | น่าน้อยอารมณ์เสียนี่กระไร |
๏ โอ้โอ๋พระพี่ช่างขี้ขลาด | ขยั้นขยาดผู้หญิงได้ |
นางคำนึงตลึงตะไล | ด้วยพิศมัยพระภูธร |
๏ ฝ่ายพระอไภยใจจะขาด | เพราะแสนสวาดิหวังสมร |
ถอนหทัยให้สท้อน | ทุรนร้อนเสียจริงจริง |
๏ จึงออกอุบายภิปรายเปรย | ตรัสเฉลยแก่ลูกหญิง |
แกล้งทำสำออยอ้อยอิ่ง | ว่าหนาวจริงจริงสุลาลี |
๏ พ่อต้องลมว่าวหนาวนัก | ช่วยถอดสลักให้สักที |
นึกว่าช่วยชีวี | บิดานี้เถิดบังอร ๚ |
๙
๏ เห่เอยบุตรฝรั่ง | เมื่อได้ฟังท้าวเธอวอน |
จึงถอนสลักชักกลอน | ค่อยกระซิบสอนแต่เบาเบา |
๏ มาตุรงค์ยังทรงประชวร | อย่าเข้าไปกวนสกิดเกา |
เธอว่าถึงถูกก็เพลาเพลา | จริงจริงนะเจ้าจงคอยดู |
๏ ว่าพลางทางเข้าชิด | เพ่งพินิจอยู่เปนครู่ |
จึงเล้าโลมโฉมตรู | หวังจะใคร่รู้โรคประชวร |
๏ แม่เปนไฉนอย่างไรบ้าง | จึงได้เฝ้าครางคร่ำครวญ |
เปนโรคจรประจวบจวน | ฤๅเคยประชวรประจำกาย |
๏ ตัวพี่เปนหมอจะขอนวด | ให้เจ็บปวดนั้นเคลื่อนคลาย |
เคยเรียนรู้เส้นถึงเปนตาย | จะนวดถวายสักวันเอย ๚ |