เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๔๐
วันพฤหัสบดีขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
บ่ายโมงเสด็จลงเรือพระที่นั่งโสภณกลับลงมากรุงเทพฯ ถึงบ่าย ๔ โมงเศษ มีข้าราชการผู้น้อยมาเฝ้าหลายคน
วันศุกร์ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
กลางวันพระยานานาเฝ้าถวายบัญชีทองคำซึ่งซื้อถวาย ทองหนัก ๓ ชั่ง ๑ ตำลึง ๒ บาท ๒ สลึง พระราชทานเงินไป
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองปราจิณว่าด้วยผู้ร้ายลักกระบือฉะบับหนึ่ง ปล้นที่กระบิลฉะบับหนึ่ง ได้ตัวผู้ร้ายแล้ว
พระนรินทรทูลบอกเมืองภูเก็ต ๒ ฉะบับ ว่าด้วยส่งเงินอากรดีบุกที่ชักเป็นทุนจำนวนปีชวดงวดที่หนึ่งเข้ามา ฉะบับหนึ่งส่งอากรดีบุกเมืองถลาง
วันเสาร์ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
กลางวันพระองค์สายเฝ้าถวายบัญชีของในเรือยอดเวสาตรี
ออกขุนนางพระยาศรีอ่านบอกเมืองนครจำปาศักดิ์ว่า ด้วยศุภอักษรที่โปรดให้คนถือบอกถือกลับไป ๆ วิวาทกันกลางทาง ตีกันแล้วมีผู้ตีชิงตกหายไปเสียแล้ว ไม่ได้รับไม่ได้ทราบความอะไร
พระนรินทรทูลบอกเมืองพังงา ๔ ฉะบับ ๆ หนึ่งส่งเงินภาษี ๕ อย่าง ฉะบับหนึ่งส่งค่าตีตราดีบุก ฉะบับหนึ่งส่งเงินค่านา ฉะบับหนึ่งบอกพระครูมารับความชอบ
วันอาทิตย์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
กรมภูธเรศเฝ้าถวายริโปดความใบสัจ พระยารัตนโกษาถวายบาญแผนก พระสุริยภักดีเฝ้าทูลด้วยเรื่องเงินเมืองหลวงพระบางยืมซื้อเสบียง ๑๐๐ ชั่ง โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเบิก พระยาประภานำกัปตันริเจลิวเฝ้าถวายแผนที่คลองบางคีแขวงกรุงเก่า ซึ่งจะขุดไปออกคลองตะเข้ใหญ่แขวงสุพรรณ พระองค์สายเฝ้ารับพระราชทานเงินค่าเรือยอดเวสาตรี
ออกขุนนางพระยาศรีอ่านบอกเมืองพิชัยส่งต้นหนังสือเมืองน่านลงมา ว่าด้วยฮ่อมาตั้งอยู่บ้างเล็กน้อย
พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองจันทบุรีว่าด้วยดินปืนในคลังระเบิดลุกขึ้นเอง ปืนและกระสุนศิลาปากนกซึ่งไว้ในนั้นกระเด็นหายไปตกนอกเมืองบ้าง ตกถูกหลังคาเรือนราษฎรหักพังบ้าง แต่ไม่เป็นอันตราย
วันจันทร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
วันนี้กัปตันลอปตัสจะเข้ามาเฝ้าไม่โปรดให้เข้ามาด้วยเจ้าพระยาสุรวงศ์ได้ไล่ให้ออกจากราชการเสียแล้ว จึงโปรดเกล้า ฯ ให้หาบุตร์เข้ามารับสั่งว่าเวลานี้จะรับพ่อเจ้ายังไม่ควร ด้วยเป็นการคอเวอนเมนต์ทำโทษ พ่อเจ้าได้ทำความดีไว้มากข้าไม่ลืม เมื่อควรเวลาแล้วจึงจะให้รับทำการ จึงค่อยเข้ามาหา
บ่าย ๕ โมงเสด็จออกพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย พวกลาวเมืองแพร่ถวายต้นไม้ทองเงินบรรณาการ
วันอังคารขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
กลางวันไม่มีราชการอะไร ทรงพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จเจ้าพระยาเรื่องความเมืองเชียงใหม่ แล้วให้พระยาศรีเชิญไป หลวงนริศเฝ้าทูลเรื่องเจ้าต๋งทิ้งหนังสือหึงอีละม้าย จับได้เพราะเป็นข้าพระองค์ประเสริฐศักดิ์ถือมาให้สมเด็จพระองค์น้อยชำระ ออกขุนนางไม่มีราชการอะไร พระพิเรนทรถวายริโปดความนครบาลจำนวนเดือน ๕
เช้าวันนี้พร้อมบุตร์พระยาอภัยรณฤทธิ์เฝ้ารับสั่งถามว่า ปีนี้พ่อจะรับแรกนาหรือไม่ หรือว่าเจ้าพะยาภูธราภัยป่วยจะรับไม่ได้ ทูลว่ายังไม่ได้พบกันพึ่งกลับมาแต่ราชบุรี พอเย็นลงพระยาอภัยรณฤทธิ์มาเฝ้าจะรับฉลองพระเดชพระคุณ
วันพุธขึ้น ๗ ค่ำเดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
กลางวันมิสเตอร์อาลบาศเตอเฝ้าถวายรูปเขียนน้ำตกที่พลิ้วเมืองจันทบุรี
๔ โมงกงซุลเยอรมันเฝ้า แล้วขึ้นทรงปิดทอง ออกขุนนางไม่มีราชการอะไร
วันพฤหัสบดีขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
วันนี้ทรงพระราชดำริจะให้พระสงฆ์เปรียญคฤหัสถ์เรียนภาษาสังสกฤต จะให้โคปาลสาตรพราหมณ์บัณฑิตเป็นผู้บอก รับสั่งให้พระองค์เจ้าฉายเฉิด พระยาศรีสุนทรโวหารเรียนด้วย แล้วรับสั่งให้พระวุฒิการบดีประกาศพระสงฆ์
วันนี้ได้ข่าวลือทับทิมภรรยาพระไพรัชมีชู้
วันศุกร์ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
เช้ารับโทรเลข เรือเวสาตรีมาถึงปากน้ำโปรดเกล้า ฯ ให้มีโทรเลขบอกให้แล่นขึ้นมา บ่าย ๕ โมงมาถึงตำหนักแพ จะเสด็จลงไปทอดพระเนตร ก็ติดไปพระราชทานเพลิงศพพระยาราชภักดีจึงหาได้เสด็จไม่
บ่าย ๕ โมงเศษทรงเครื่องดำ เสด็จวัดสระเกศเข้าประทับในเมรุ ทรงทอดผ้าไตร ๑๕ ไตรบังสกุลแล้วพระราชทานเพลิงแล้วเสด็จมาประทับพลับพลา ทรงฝักแคเผาศพท่านผู้หญิงในเมรุปูน ตรัสกับสมเด็จเจ้าพระยาเรื่องเมืองเชียงใหม่และสุพรรณกันแล้วเสด็จกลับ
วันเสาร์ขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
กลางวันพระยาศรีนายรองเล่ห์อาวุธบุตร์พระยาคทาธรเข้าแต่เมืองพระตะบอง ถวายผ้าม่วงสีต่าง ๆ แล้วทูลบอกเมืองโคราชเรื่องเมืองหนองคายบอกลงมาว่ามีฮ่อมาตั้งที่เมืองเชียงขวาง
ออกขุนนางไม่มีราชการอะไร พระยาอภัยรณฤทธิ์ทูลลาเข้าพิธีจรดพระนังคัล แล้วพระราชทานเงินช่วยแทนเจ้าพระยาภูธราภัย ๕ ชั่ง สมเด็จพระองค์น้อยถวายบัญชีดาบญี่ปุ่นให้เจ้าน้อยซื้อ ๖๙๖ เล่ม
วันอาทิตย์ขึ้น ๑๑ ค่ำเดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
กลางวันลูกกัปตันลอปตัสเฝ้า พ่อสั่งเข้ามาให้กราบทูลว่าที่โปรดเกล้า ฯ เขาอยู่นั้น เขาระลึกถึงพระเดชพระคุณเป็นอย่างยิ่ง แล้วถวายตารางตีพิมพ์ดูเวลานาฬิกา
ย่ำค่ำเสด็จท้องสนามสวดมนต์แรกนา พระยาศรีสุนทรอ่านประกาศแล้ว พระสวดมนต์
ออกขุนนางพระศรีเสนาทูลบอกเมืองตาก หม่องสุเจจะขอเช่าที่ทำนาที่ด่าน ๔ ตำบล
วันจันทร์ขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐
พระวุฒิการเฝ้าทูลด้วยพระครูพุทธมนต์มาออกตัวว่า พระสงฆ์ในวัดอิจฉากัน กล่าวกระทบกระเทียบวาจาต่าง ๆ แล้วว่าจนถึงเล่นน้องสวาท อธิกรณ์นี้ไม่มีโจทก์ ครั้นจะรับเป็นที่พระราชาคณะตัวยังไม่บริสุทธิ์ ถ้ามีใครกล่าวขึ้นจะเป็นที่เสียพระเกียรติยศ จึงมีพระราชหัตถ์ถึงเสด็จอุปัชฌาย์
วันอังคาร ขึ้น ๑๓ ค่ำเดือน ๖ ปีขาลสัมฤทธิศก ๑๒๔๐ ถึงวันศุกร์แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๖
ไม่มีอะไร ไม่ได้จดไว้