เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๔๕

วัน ๔ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้ไม่มีราชการอะไรฝนตกไม่ได้เสด็จออก ทรงราชการในพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร

วัน ๕ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้าโมงเศษ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งโสภณภควดีพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า พระนางเธอ และพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน เสด็จพระราชดำเนินไปโดยชลมารคถิึงใต้เกาะพะเนียดหยุดทอดสมอเรือพระที่นั่ง จึงเสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งเก๋งทองทั้งแท่งไปประทับสะพานฉนวน เสด็จขี้นทรงพระราชยานไปประทับพลับพลาใหญ่บนเชิงเทินพะเนียด ทอดพระเนตรกรมช้างระบายโขลงออกจากพะเนียด แต่ต้อนออกหาหมดไม่ เพราะมีช้างงาใหญ่ ๒ ช้าง นรกาน ๑ ช้าง คอยสู้ช้างต่ออยู่ ไม่เข้าซอง จึงเสด็จมาประทับพลับพลาเล็กทอดพระเนตรจับช้างกลางแปลง รวมช้างคล้องได้วันนี้ ช้างพลายขนาด ๗ ช้าง ลูกช้างเล็กคนคล้องพลาย ๑ พัง ๒ รวม ๑๐ ช้าง เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสวยแล้วเสด็จทรงพระราชยานมาประทับเรือพระที่นั่งเก๋งทองทั้งแท่งมาเทียบเรือพระที่นั่งโสภณภควดี กลับลงมาพระราชวังบางปะอิน

วัน ๖ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เสด็จออกลงทรงเรือพระที่นั่งโสภณภควดี ออกเรือพระที่นั่งแล่นขึ้นไปตามลำแม่น้ำ ทอดสมอเรือพระที่นั่งที่ท้ายเกาะพะเนียด เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งเก๋งทองทั้งแท่งไปประทับฉนวนพะเนียด เสด็จขึ้นทรงพระราชยานไปประทับพลับพลาบนเชิงเทินพะเนียด ต้อนโขลงซึ่งระบายออกจากพะเนียดวานนี้มาล่อที่กลางแปลง เปิดซองให้ช้างที่ยังเหลืออยู่ในพะเนียดออก พอช้างพลายช้าง ๑ สูง ๕ ศอก ๖ นิ้วออก ปิดซองจับในซอง ติดเครื่องพร้อมไปผูกยืนโรงไว้แล้วเปิดให้ออกอีก ช้างพลายงายาวอ้วนอีกช้าง ๑ สูง ๕ ศอก ๔ นิ้ว ออกปิดจับในซอง ติดเครื่องพร้อมมาผูกที่เสาโรงจากริมพลับพลา ครั้นผูกทั้ง ๒ ช้างแล้ว เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสวยแล้ว เสด็จทรงพระราชยานกลับประทับเรือพระที่นั่งเก๋งทองทั้งแท่งมาทรงเรือพระที่นั่งโสภณภควดี กลับพระราชวังบางปะอิน

วัน ๗ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จออก เจ้าพระยาพลเทพเฝ้าแล้ว เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งกลไฟจักรข้าง พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า พระนางเธอ และพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน ออกเรือพระที่นั่งจากพระราชวังบางปะอินมาถึงบางไทร เรือพระที่นั่งเวสาตรีติดน้ำทอดรออยู่ที่นั้น จึงเทียบเรือพระที่นั่งจักรข้างเสด็จขึ้นประทับบนเรือพระที่นั่งเวสาตรี ออกเรือจากที่นั้นลงมาตามลำแม่น้ำ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษถึงกรุงเทพ ฯ แล่นลงไปกลับที่ปากคลองบางกอกใหญ่มาเทียบท่าราชวรดิฐ เสด็จขึ้นประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการซึ่งมารับเสด็จครู่หนึ่ง เสด็จทรงพระราชยานกลับพระบรมมหาราชวัง

/*วัน ๑ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการพระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตยเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง หลวงเสนีพิทักษ์อ่านบอกเมืองตาก ๓ ฉะบับ ว่าด้วยได้ตรวจเห็นที่ซึ่งควรจะตั้งด่านใหญ่เป็นที่ลูกค้าไปมามาก ขอตั้งนายด่านใหญ่ให้ว่าการไปก่อน และจัดตั้งนายด่านที่ ๒ และจำหน่ายบาญชีเลขกองด่านและจัดคนรักษาด่านตามระยะขอจ่ายเงินค่าตอไม้เป็นเงินเดือน และว่าด้วยจัดการตามข้อบังคับด่านฉะบับ ๑ ว่าด้วยคิดแบ่งเงินค่าตอไม้ที่เก็บได้เป็นส่วนหลวง และส่วนแจกพระราชทานเจ้าเมืองกรมการฉะบับ ๑ ขอที่ผูกพัทธสีมาฉะบับ ๑ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองพัทลุง ๔ ฉะบับ ส่งต้นไม้ทองเงินเครื่องราชบรรณาการฉะบับ ๑ สั่งเงินแทนส่วยทองฉะบับ ๑ ส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ ส่งเงินแทนส่วยดินประสิวฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการเฝ้า แล้วเสด็จประทับซิตติงรูม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงการต่าง ๆ กรมหมื่นศิริธัชสังกาศเฝ้า ทรงฎีกาจนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมนำหลวงปฏิบัติราชประสงค์เฝ้า ทูลริโปตสายล่อฟ้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ที่ตรวจและเอสติเมตที่จะทำใหม่ โปรดให้ทำเสียใหม่ให้ดีขึ้น แล้วถวายหลังกล่องโมรา ทอดพระเนตรทรงซื้อไว้ กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์เฝ้าแล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง หลวงเสนีพิทักษ์อ่านบอกเมืองอุไทยธานี ว่าด้วยจัดการรักษาด่านต่อเขตต์แดนเมืองมรแมนตามพระราชบัญญติที่ส่งออกไปฉะบับ ๑ เมืองสุพรรณบุรีว่าด้วยจับช้าง โค กระบือ ไม่มีตัวฎีกาสำหรับตัว ราย ๑ ว่ามาแต่เมืองอ่างทอง มีโคและเกวียนมา ไม่มีตั๋วฎีกาและหนังสือเดินทางหนังสือสำหรับตัว แก้ว่าเจ้าเมืองกรมการอ่างทองไม่ได้ประกาศให้ทำ ราย ๑ ว่ามาแต่อ่างทองเหมือนกัน มีช้างมา ไม่มีตั๋วฎีกาหนังสือเดินทางหนังสือสำหรับตัว ครั้นจับได้ให้การว่าหนังสือไม่มี ภายหลังเอาหนังสือมาไม่ถูกต้องกับรูปพรรณช้างและตำหนิคน ราย ๑ จับกระบือไม่มีตั๋วฎีกาหนังสือเดินทางหนังสือสำหรับตัว ให้การว่าเป็นของพระยาไพบูลย์สมบัติ ราย ๑ จับโคที่คุมมา ๑๙๐ โค ไม่มีตั๋วฎีกาและหนังสือเดินทางหนังสือสำหรับตัว มีแต่หนังสือประทับตราหลวงมหาดไทยเมืองสระบุรี พระสงฆ์ผู้มาในหมู่นั้นกับผู้มีชื่อที่มาด้วยให้การแตกกัน ได้ยึดไว้ทั้ง ๔ ราย พระนรินทร์อ่านบอกเมืองภูเก็ต ๕ ฉะบับ ส่งเงินภาษีผลประโยชน์เมืองภูเก็ต ซึ่งทำเป็นภาษีคอเวอนแมนด์ และจำหน่ายใช้เงินเดือน และจ่ายราชการต่าง ๆ ฉะบับ ๑ ส่งเงินค่านาเมืองภูเก็ตเมืองถลางฉะบับ ๑ ส่งเงินภาษีผลประโยชน์เมืองถลางฉะบับ ๑ ส่งเงินปี้จีนเมืองถลางฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระณรงค์เรืองฤทธิ์ ผู้ว่าราชการเมืองถลางถึงแก่กรรมฉะบับ ๑ พระไพรัชพากย์ภักดีอ่านบอกเมืองสมุทรสงคราม ๒ ฉะบับ ว่าด้วยผู้ร้ายตีชิงเรือราษฎรลักของไป จับได้ชำระรับว่าเคยตีชิงมาหลายรายฉะบับ ๑ ว่าด้วยผู้ร้ายปล้นบ้านนายวัดจับได้ฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นเทววงศ์เฝ้าแล้ว เสด็จประทับซิตติงรูม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระยาภาศกรวงศ์เฝ้า เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

รัน ๓ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกประชุมต่างกรมเสนาบดีตามธรรมเนียมวันโกน ผู้ที่มาประชุมวันนี้ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร ๑ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ๑ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ๑ กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการ ๑ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี ๑ เจ้าพระยาพลเทพ ๑ เจ้าพระมหินทรศักดิธำรง ๑ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ ๑ ประชุมปรึกษาด้วยราชการต่าง ๆ มีการที่จะโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์ออกไปเป็นราชทูตอยู่ที่นอกเป็นต้น ตกลงจะได้เป็นราชทูตไปอยู่เมืองอังกฤษ ให้หม่อมเจ้าปฤษฎางค์มาอยู่เมืองฝรั่งเศส เลิกประชุมเวลาบ่าย ๔ โมงเศษประทับดรอวิงรูม กรมหมื่นพิชิตปรีชากร กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการเฝ้า เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จออกประทับออฟฟิศตรัสกับกรมหมื่นเทววงศ์จนเวลายามเศษ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงหล่อเทียนพรรษาที่หลังขวางหน้าพระที่นั่งอมรินทร์ โปรดเกล้า ฯ สั่งให้กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์ กรมหมื่นราชศักดิสโมสร กรมหมื่นศิริธัชสังกาศ มานั่งประชุมกับเสนาบดีตามอย่างต่างกรมต่อไป ทรงหล่อเทียนแล้วทอดพระเนตรที่ต่าง ๆ ตามหน้าพระที่นั่งแล้วเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เป็นวันพระ ไม่มีราชการอันใด เสด็จลงทรงหล่อเทียนพรรษาที่พระที่นั่งทรงธรรม ไม่ได้เสด็จออก

วัน ๕ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าดิศวรกุมารเฝ้า กราบบังคมทูลขอรับพระราชทานหลวงจินดาจักรรัตน์เป็นพระ ขุนโอวารวรกิจเป็นหลวง โปรดให้หลวงจินดาจักรรัตน์เป็นพระ แต่ขุนโอวาทนั้นดำรัสว่ากรมพระอาลักษณ์ปลัดกรมก็เป็นหลวง ไม่ควรจะตั้งขุนวิเศษเป็นหลวง กรมหมื่นพิชิตปรีชากรเฝ้า ทรงปรึกษาต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์ใหญ่เฝ้า ดำรัสให้ช่วยราชบ้าง ทรงฎีกาอยู่จนบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง ไม่มีราชการและใบบอกอันใด ดำรัสกับกรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์ในการที่จะโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นราชทูตวิเศษออกไปอยู่เมืองอังกฤษ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ การทูตเมืองอังกฤษนั้นตกลงเป็นจะให้กรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์เป็นราชทูตวิเศษ พระยาดำรงราชพลขันธ์เป็นสิเกรตารี กับพระองค์เจ้าโสณบัณฑิตยเป็นแอตแตชเชไปด้วย กับแอตแตชเชอีกนั้นกรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์จะคิดหาต่อไป เสด็จประทับซิตติงรูมทรงการต่างๆ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตยเฝ้า จนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๑๐ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก เจ้าหมื่นไวยวรนารถเฝ้า แล้วทรงฎีกาจนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระยามหามนตรีเฝ้าถวายอย่างหมวกฝีพายใช้หมวกทรงประพาสแดงติดยอดตราอามที่หน้า และรักร้อยสำหรับพายเรือพระที่นั่ง หลวงโลกทีปถวายดวงแมงซาที่ไปสอบสวนมาแล้วเสด็จขึ้น เวลาค่ำไม่ทรงสบาย ไม่ได้เสด็จออกขุนนาง

วัน ๗ ๑๑ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์น้อยเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง ไม่มีราชการอันใด เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นภูธเรศร กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการเฝ้า ทรงการต่าง ๆ ครู่ ๑ เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๑๒ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก เจ้าหมื่นไวยวรนารถ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์เฝ้า ด้วยเรื่องที่ขอรับพระราชทานที่วังพระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ทำบ้านเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตยเฝ้า ทรงตัดพระเกษาพระราชทานพระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย ในการที่จะไปราชการกรุงอังกฤษครั้งนี้ แล้วทรงราชการต่าง ๆ กรมหมื่นพิชิตปรีชากรเฝ้า แล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง หลวงเสนีพิทักษ์อ่านบอกเมืองพิไชย ๓ ฉะบับ ๆ ๑ ส่งต้นหนังสือเมืองน่าน ในหนังสือนั้นใจความว่า สืบได้ความว่าพวกเงี้ยวเตรียมกระสุนดินดำไว้มาก และได้ความว่า ๑๙ เจ้าฟ้าคิดขบถต่อเจ้าอังวะ จะเอาโกกะแยงแมงซาเป็นเจ้าอังวะ และว่าด้วยได้รับพระราชทานเหรียญสตพรรษมาลา และว่าได้แต่งคนไปสืบเรื่องที่ลือกันว่าพะม่าจะมาตีเมืองไทยตามท้องตราฉะบับ ๑ ส่งหนังสือเมืองแพร่ ในต้นหนังสือนั้นมีใจความว่าได้ทำการรับพระราชทานเหรียญสตพรรษมาลา มีการมหรสพฉลอง และว่าได้ทราบว่าเมืองเชียงตุง เมืองเชียงแขง มีหนังสือมาขอแมงซาต่อพระเจ้าเชียงใหม่ ๆ ตอบไปว่าได้ส่งตัวลงมากรุงเทพ ฯ เสียแล้ว และว่าได้แต่งคนไปสืบราชการฉะบับ ๑ ส่งต้นหนังสือเสนาบดีเมืองหลวงพระบาง ในต้นหนังสือนั้นใจความว่า นายทัพนายกองเมืองหลวงพระบางบอกข้อราชการพวกห้อเข้ามา พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองราชบุรี ว่าด้วยพระยาประสิทธิ์สงครามผู้ว่าราชการเมืองกาญจนบุรีถึงแก่กรรมที่เมืองราชบุรีขอทำศพที่เมืองราชบุรี ขอพระราชทานศิลาหน้าเพลิงฉะบับ ๑ เมืองตะกั่วป่า ๓ ฉะบับ ส่งต้นไม้ทองเงินเครื่องบรรณาการฉะบับ ๑ ส่งเงินภาษี ๕ อย่างฉะบับ ๑ ส่งเงินค่านาเมืองตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง คีรีรัฐนิคมฉะบับ ๑ เมืองตะกั่วทุ่งส่งเงินภาษี ๕ อย่างฉะบับ ๑ โปรดเกล้า ฯ พระราชทานโต๊ะทองกาทองแก่พระอนุรักษ์โยธา ซึ่งเป็นผู้แทนข้าหลวงใหญ่ในหัวเมืองตะวันตกได้ราชการมาก พระไพรัฐพากยภักดีอ่านบอกเมืองสมุทรสงความเรื่องผู้ร้ายแทงคนตาย ส่งตัวผู้ร้ายเข้ามาฉะบับ ๑ เมืองสมุทรสาคร เรื่องผู้ร้ายฟันคนตาย ส่งตัวผู้ร้ายเข้ามาฉะบับ ๑ เมืองนครไชยศรี เรื่องผู้ร้ายปล้นตีเรือนฆ่าคนตายลักทรัพย์ไปยังไม่ได้ตัวฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ ทรงราชการต่าง ๆ กับกรมหมื่นเทววงศ์วโรประการ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๑๓ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกดรอวิงรูม มองซิเออร์เลอดอกเตอร์ฮารมัน กงสุลและคอมมิสแซฝรั่งเศส ผู้ว่าราชการเมืองตังเกี๋ยเข้าเฝ้านำพวกออฟฟิศเซอเรือรบเข้าเฝ้าด้วยอีก ๔ นาย กงสุลกราบถวายบังคมลาไปรักษาการเมืองตังเกี๋ย และกราบบังคมทูลด้วยการต่าง ๆ แล้วกราบบังคมทูลว่า การที่ฝรั่งเศสจะรบกับจีนครั้งนี้ เขาเห็นว่าไทยควรจะช่วยฝรั่งเศสให้มีเป็นกองทัพไปสัก ๕๐๐ เมื่อทำสัญญาเสร็จไทยก็จะได้มีชื่อในสัญญาด้วย และกราบทูลพรรณนาประโยชน์ต่าง ๆ หลายข้อ ดำรัสว่าไม่อยากจะทรงใช้พระราชานุภาพในการสำคัญดั่งนี้จะต้องปรึกษาเสียก่อน (แจ้งอยู่ในมินิตนั้นแล้ว) ครั้นกงสุลกราบถวายบังคมลาไปแล้ว เสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง หลวงเสนีพิทักษ์อ่านบอกเมืองฉะเชิงเทรา เรื่องผู้ร้ายคุมพวกเข้ามาในฝูงกระบือว่าจะซื้อ ถามราคากันแล้วขึ้นขี่ตีหนีไปต่อหน้าเจ้าของฉะบับ ๑ เมืองพิไชยส่งเงินส่วยฉะบับ ๑ เมืองนครนายกว่าด้วยผูกพัทธสีมาวัดโคกสีเสียดถวายพระราชกุศลฉะบับ ๑ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองพังงา ๓ ฉะบับ ส่งเงินภาษี ๔ อย่าง ส่งต้นไม้ทองเงินเครื่องบรรณาการและของถวายฉะบับ ๑ ส่งเงินค่านาฉะบับ ๑ ส่งเงินส่วยเลขฉะบับ ๑ เมืองกระบี่ ๒ ฉะบับ ส่งเงินภาษี ๕ อย่างและของถวายฉะบับ ๑ ส่งเงินค่านาฉะบับ ๑ พระไพรัชพากยภักดีอ่านบอกเมืองนนทบุรี ๒ ฉะบับ เรื่องผู้ร้ายแทงกันตายฉะบับ ๑ เรื่องผู้ร้ายลอบตีคนตายฉะบับ ๑ เมืองบางละมุงเรื่องผู้ร้ายปล้นฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์ กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการเฝ้า

วัน ๓ ๑๔ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลสักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกประชุมต่างกรมเสนาบดีตามธรรมเนียมวันโกน เลิกประชุมแล้วเสด็จขึ้นทรงเครื่องแล้วเสด็จออกดรอวิงรูม แฮรวอนเกรงกีกงสุลเยรมันเข้าเฝ้า ถวายพระราชศาสน์สมเด็จพระเจ้าเอมเปอเรอเยรมนี มีตำรวจมหาดเล็กทหารกรมวังแต่งเต็มยศ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องครึ่งยศดำทหารมหาดเล็ก พระตราสตานพรัตนและอินทรีดำ ประทับตรัสอยู่ครู่ ๑ กงสุลกราบถวายบังคมลา ไปประทับตรัสอยู่กับพระองค์เจ้าโสณบัณฑิตยครู่ ๑ แล้วเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง หลวงเสนีพิทักษ์อ่านบอกเมืองลพบุรีว่า ด้วยได้รับพระราชบัญญัติเรื่องโคกระบือไปจัดการ และขอแต่งกรมการอำเภอออกตรวจทำรูปพรรณโค กระบือ มาให้สิ้นเชิง กันโจรผู้ร้ายฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ ทรงการต่าง ๆ กับกรมหมื่นเทววงศ์วโรประการครู่ ๑ เสด็จขึ้น

วัน ๔ ๑๕ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเที่ยงเศษเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระราชทานสัญญาบัตรผ้าไตรบริกขารสำหรับยศพระสาธุศีลสังวร เป็นพระสุวรรณวิมลศีล ไปอยู่วัดสุวรรณดาราราม พระมหาพึ่ง เปรียญ ๓ ประโยค วัดพระเชตุพน เป็นพระสาธุศีลสังวร กับพระครูเจ้าวัดอีกหลายองค์ แจ้งอยู่ในรายวันประทับพระราชลัญจกรแล้ว แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก ทรงพระราชหัตถ์และการต่าง ๆ กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นเทววงศ์ เจ้าหมื่นสรรเพธเฝ้า แล้วพระองค์เจ้าดิศวรกุมารเฝ้า ทรงเรื่องเด็กผู้หญิงที่จะส่งไปเรียนหมอตำแยนั้น จะใช้พวกเขนไปสัก ๔ คน พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์เฝ้า ทอดพระเนตรช้างเล็กซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอคล้องลงมาถวายอีกช่าง ๑ แล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองเสียมราฐ ๒ ฉะบับ ว่าด้วยได้ตรวจดูช้างพลายพินายที่พระยาศรีสิงหเทพบอกเข้ามาเห็นไม่แท้ฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระศรีสยามสิมานุรักษ์ผู้ช่วยราชการกราบถวายบังคมลาบวชฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศตรัสกับกรมหมื่นเทววงศ์วโรประการครู่ ๑ แล้วเสด็จประทับซิตติงรูป กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตยถวายผ้าสังเวียนของพระองค์เจ้าประดิฐวรการฝากมาทูลเกล้า ฯ ถวาย เป็นผ้าคลุมบรรธมหรือคลุมใบศรี ลายเป็นพระนารายน์ทรงสุบรรณทั้งผืน เป็นของเก่าท่านได้ซื้อไว้ ทรงราชการต่าง ๆ แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระยาเจริญราชไมตรีเฝ้า แล้วพระองค์เจ้าปรีดากับพระยามหามนตรีเฝ้าถวายอย่างกระจกที่จะประดับเรือพระที่นั่งลายนาคลำใหม่ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์น้อย กรนหมื่นประจักษ์ศิลปาคม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระยารัตนโกษาเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิษณุโลกว่าด้วยจัดซื้อข้าวขึ้นฉางไว้สำหรับจ่ายราชการบ้านเมือง ตามราคาหลวงและรับข้าวที่ราษฎรช่วย กับว่าด้วยพระจงรณฤทธิ์ติดราชการอยู่ จะมารับสัญญาบัตรเป็นพระไชยบุรียังไม่ได้ฉะบับ ๑ ใบบอกพระยาวิเศษฦาไชยกับเจ้าเมืองกรมการเมืองพนมสารคาม ว้าด้วยสืบจับผู้ร้ายรายปล้นฝูงกระบือฉะบับ ๑ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ ตรัสกับกรมหมื่นเทววงศ์วโรประการ และเสด็จประทับซิตติงรูม กรมหมื่นเทววงศ์ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ กรมหมื่นศิริธัชสังกาศเฝ้า ทรงฎีกาและการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระไพรัชพากยภักดีอ่านบอกเมืองตราดขอให้ตั้งพระครูวิบูลยเมธาจารย์เจ้าคณะ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ ตรัสกับกรมหมื่นเทววงศ์วโรประการ แล้วเสด็จไปประทับซิตติงรูม ทรงเครื่องใหญ่ โปรดให้นายกันซึ่งศึกจากพระครูพจนโกศลมาเทศน์นครกัณฑ์ถวาย กับนายโมรา เปซายันต์ในกรมมหาดเล็กอ่านหนังถือตลกถวาย ทรงเครื่องและสรงแล้วเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก เจ้าหมื่นไวยวรนารถ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์เฝ้า แล้วกรมหมื่นคิริธัชสังกาศเฝ้า ทรงฎีกา พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอก หลวงอนุชิตพิทักษ์ข้าหลวงรายงานโทรเลขทำมาถึงศาลาแดงและจำหน่ายเงินทำการฉะบับ ๑ กรุงเก่าฉะบับ ๑ ลพบุรีฉะบับ ๑ รายงานน้ำฝนต้นเข้าทั้ง ๒ เมือง เมืองอินทรบุรี ว่าด้วยพระอินทรประสิทธิ์ศรป่วยมากว่าราชการบ้านเมืองไม่ได้ ขอหลวงสุนทรพิทักษ์ยกกระบัตรว่าราชการบ้านเมืองแทนต่อไปฉะบับ ๑ พระนรินทร์อ่านบอกพระยาพิไชยสงครามข้าหลวง ว่าด้วยออกไปถึงเมืองสงขลาวางตราแล้วกำหนดจะไปต่อไปฉะบับ ๑ เมืองตรัง ๒ ฉะบับ ขอให้ตั้งพระครูเจ้าคณะฉะบับ ๑ ขอที่ผูกพัทธสีมาฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นเทววงศ์เฝ้า ทรงการต่าง ๆ แล้วเสด็จประทับซิตติงรูม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษ เสด็จขึ้น

วัน ๒ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงคิดกะการที่จะทำบุญวันที่รัชกาลเท่ากับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาไลย พระยานานาพิธภาษีเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ พระองค์เจ้าดิศวรกุมารเฝ้า โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงิน ๑๕๘ ชั่งไปใช้หนี้ห้างในการที่จะทรงผนวชครั้งนี้แล้วเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงประเคนของเครื่องกุฎีแก่พระอริยกวี วัดบรมนิวาส ซึ่งจะไปอยู่วัดพิไชยญาติการาม พระสุวรรณวิมลศีล วัดพระเชตุพน ซึ่งจะไปอยู่วัดสุวรรณดารารามกรุงเก่า และพระครูถานานุกรมอันดับ ซึ่งละไปอยู่วัดต่าง ๆ ครั้นพระครองผ้าแล้ว โปรดเกล้า ฯ พระราชทานตั๋วเงิน ๓ ชั่ง แก่พระครูขันตยาคมวัดตาลเมืองราชบุรี ซึ่งจะไปอยู่วัดสัตนาถบริวัตร เมืองราชบุรี ซ่อมแซมกุฎี ครั้นพระกลับแล้วเสด็จออกขุนนางที่นั้น พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองสระบุรี เมืองไชยนาทรายงานน้ำฝนต้นเข้าทั้ง ๒ เมือง เมืองพยุหคิรีว่าด้วยยอมให้นายปานผู้เป็นที่หมื่นสกลโยธาทำฝางในป่าเงินหลวงปีละ ๒ ชั่ง ตามท้องตราไม่รับประมูลฉะบับ ๑ เมืองพระตะบอง ๒ ฉะบับ ส่งส่วยกระวานและเงินแทนส่วยผลเร่วฉะบับ ๑ ส่งผ้าม่วงต่าง ๆ มาถวายฉะบับ ๑ พระยาเทพประชุนอ่านบอกเมืองราชบุรี ๒ ฉะบับ ว่าด้วยผู้ร้ายปล้นชิงคนตายได้สืบจับ และมีสูตรนารายน์ไปเมืองสมุทรสงคราม เมืองนครไชยศรี จับได้รวม ๑๗ คนฉะบับ ๑ ว่าด้วยทำการเผาศพพระครูธรรมเสนาฉะบับ ๑ เมืองประจวบคีรีขันธ์ ว่าด้วยพระพิไชยชลสินธุ์ผู้ว่าราชการเมืองถึงแก่กรรมฉะบับ ๑ แล้วเสด็จขึ้น เสด็จออกซิตติงรูม กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการเฝ้า แล้วหลวงสิทธินายเวรถวายหีบทองที่โปรดให้สั่งมาแต่เมืองจีนสำหรับพระราชทานพระเจ้าลูกเธอ เวลายามเศษเสด็จขึ้น

/*วัน ๓ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม

พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงคิดจำนวนพระสงฆ์ทจะถวายเทศนาปฐมสมโพธิ์ในการทำบุญวันที่รัชกาลเท่ากับรัชกาลที่ ๒ และกะพระบรมวงศานุวงศ์ที่จะเกณฑ์ทำกระจาดบูชากัณฑ์ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับดรอวิงรูม มิสเตอร์นิวแมนแอกติงเอเยนต์ และกงสุลเยเนราลอังกฤษเฝ้ากราบบังคมทูลการต่าง ๆ ครั้นนิวแมนไปแล้ว พระวิสูตรสาครดิฐเฝ้าครู่หนึ่ง แล้วเสด็จประทับซิตติงรูม พระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์เฝ้า และทรงการอื่น ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาค่ำวันนี้ไม่เสด็จออกขุนนาง เพราะไม่ทรงสบายลงพระบังคนไม่ปกติ โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์เข้าไปเฝ้าข้างใน

วัน ๔ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เลิกประชุมต่างกรมเสนาบดี เพราะไม่ทรงสบายประชวรบิด เสด็จออกไม่ได้

วันนี้ที่สวนสราญรมย์ มีสวดมนต์ในการที่จะเปิดอนุสาวรีย์ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเสด็จไปจุดเทียน

/*วัน ๕ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เป็นวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตนโสภางคทัศนียลักษณ์อรรควรราชกุมารี ตามจันทรคติกาล เป็นวันเปิดอนุสาวรีย์ที่สวนสราญรมย์ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงสบาย หาได้เสด็จพระราชดำเนินไม่ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าเสด็จ

เวลาเช้า ๒ โมงเศษ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีเสด็จทรงรถพระที่นั่งออกประตูวิเศษไชยศรี ไปประทับสวนสราญรมย์ โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ทรงจุดเทียนนมัสการ พระมงคลเทพถวายศีล พระสงฆ์ ๕ รูปถวายพรพระไปรอจะชยันโต ครั้นได้พระฤกษ์เวลาเช้า ๓ โมงเศษ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี ทรงชักเชือกเปิดคลุมอนุสาวรีย์ที่ระลึกสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ มีประโคมแตรสังข์พิณพาทย์บัณเฑาะว์ พระสงฆ์ชยันโตแล้ว โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ทรงรดน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัตร โปรยปรายพระสุหร่ายและเจิมและทรงประเคนพระสงฆ์ สมเด็จพระนางเจ้าเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

วันนี้มีเลี้ยงพระสงฆ์ เวลาเช้า ค่ำมีเทศนาเจริญพระพุทธมนต์ในวันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ ที่ตำหนักสมเด็จพระนางเจ้าในพระบรมมหาราชวัง

วัน ๖ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้ยังไม่ทรงสบาย ไม่ได้เสด็จออกทรงราชการ เวลาค่ำโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปทรงราชการข้างใน

วัน ๗ ๑๐ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เสวยพระโอสถประจุ เสด็จออกทรงราชการยังหาได้ไม่ เวลาค่ำโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปทรงราชการต่าง ๆ ข้างใน

วัน ๑ ๑๑ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้ยังไม่ทรงสบาย ลงพระบังคนยังไม่ปกติ และไม่มีพระกำลัง เวลาบ่ายโมงเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตยเข้าไปเขียนหนังสือข้างใน

เวลาทุ่มเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปเขียนหนังสือข้างใน

วัน ๒ ๑๒ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้ยังไม่ทรงสบาย ยังปวดมวนพระนาภีอยู่ ยังลงพระบังคนหาเป็นปกติไม่ เสด็จออกยังหาได้ไม่ เวลาบ่ายและเวลาค่ำ โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปทรงราชการข้างใน

วัน ๓ ๑๓ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้ไม่ได้ประชุมต่างกรมและเสนาบดี เพราะพระอาการยังไม่ปกติ โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปทรงราชการต่าง ๆ ในเวลาบ่าย ครั้นเวลาค่ำโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นเทววงศ์วโรประการ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปเฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ

วัน ๔ ๑๔ ๗ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้พระอาการยังไม่ปกติ ไม่มีพระกำลังเสด็จออกยังหาได้ไม่ โปรดเกล้าให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าเฝ้าทรงราชการข้างใน ทั้งเวลาบ่ายและเวลาค่ำ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ