ทุติยรัชช

ฉะบัง

๑๖ แสดงความตามเรื่องเนื่องมา สังเขปกถา
ประวัติรัชชนิยม  
๏ ลำดับนับแต่พระปฐม จักรีบรม
ราชวงศ์ธำรงรัฏฐ์สยาม  
๏ ครองรัตนโกสินทร์กรุงงาม ด้วยสงบสบความ
สิริวิวัฒน์เวียงชัย  
๏ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่สองรองไท
ปฐมกษัตริย์จักรี  
๏ พระบรมสมภพกุญปี สองพันหมายมี
สามร้อยสิบศกพุทธกาล  
๏ เดือนสี่ดิถีขึ้นพาร พุทธเจ็ดค่ำมาน
มงคลฤกษ์เอกอาภา  
๏ พระองค์คือพระบรมรา โชรสพระมหา
จักรปฐมกษัตริย์  
๏ แต่ครั้งยังยั้งยศอมัจจ์ เปนหลวงยกรบัตร
เมืองราชบุรีที่เสถียร  
๏ ประจวบขวบยุทธภัยเบียน อยุธยาคราเกษียณ
กระษัตริย์ทวาราวดี  
๏ เหตุพะม่ามากระทำย่ำยี เสียมหาธานี
ฟายแพ้แก่ม่านราญรอน  
๏ อาณาประชาราษฎร แดฟกอกฟอน
เพียงไฟประไลยกัลป์ผลาญ  
๏ อาดูรด้วยมูลประการ อกุศลดลดาล
ดวงจิตต์เร่งคิดรวมคุม  
๏ ร่วมเข้าเป็นเหล่าชุมนุม ต่างหาญรานรุม
แรงเครียดคร่าเบียดเบียฬกัน  
๏ ถัดถึงซึ่งที่สุดสรร ประมวลส่วนพรรค์
คัณนาห้าภาคเห็นผล  

กมลฉันท์

๑๒ ขณะไทยประเทศฐา นลุคราจลาจล
พระปฐมกระษัตริย์ยล ภยกล้าจะบาบีฑ์
๏ อมรินทรามาตย์ วรราชชนนี
เฉพาะทรงพระครรภ์มี ณสมัยพะภัยลาม
๏ ก็เสด็จจรัลรุด ลุสมุทรสงคราม
วนอัมพะวานาม อุทยานประลาตภัย
๏ อุปบัติพระเลิศหล้า ขณะคราประเทศไทย
ปะทะยุทธ์พะม่าใน ยุคสบจลาจล
๏ ขณะนั้นพระเจ้ากรุง ธนศักดิจอมพล
ยศยินพระยายล ณวิเชียรปราการ
๏ รณฝ่าพะม่าผู้ ริปุสู้กะเศิกชาญ
ชยสิทธิ์ประดิษฐาน ธนกรุงผดุงครอง
๏ พระบรมชนกนาถ ทะนุราชกิจปอง
พิรภาพพระเทียบผอง ผลงานประการธูร
๏ ยศรฐาปนามาต ยพระราชวรินทร์พูล
พิธศักดิโดยมูล อนุกรมนิยมครา

สุรางคณางค์

๒๘ พระชนกปรากฏ ก่องเกียรติยศ
สมเด็จเจ้าพระยา มหากษัตริย์ศึก
พิฤกมหิมา สูงที่สุดฐา
นันดรเนื่องดี  
๏ เสด็จนิวาสน์ ประทับพระราช
วังเดิมชื่อมี บ้านหลวงแหล่งอยู่
ย่านอู่นาวี บงในบัดนี้
ใต้วัดระฆัง  
๏ บรมชนนีนาถ อมรินทรามาตย์
ประทับราชวัง พร้อมเอกพระองค์
ธำรงทุติยัง ครัชย์ร่วมรัง
ล้วนอ่าบารมี  
๏ นับแต่พระชนม์ พรรษานุสนธิ์
เข้าแปดขวบปี จนถึงสิบหก
พระชนกภูมี ราชาธิบดี
เทิดยศนิยม  
๏ ตำแหน่งเสนอ สมเด็จลูกเธอ
เจ้าฟ้าต่างกรม โดยราชประเพณี
อันดีอุตดม กรมหลวงเลอสม
อิศรสุนทร  
๏ ระวางอ้างนี้ ทุติยบดี
ได้โดยเสด็จจร สมเด็จพระบรม
ปฐมนิรันดร ลำดับสมร
ภูมิสู้สงคราม  
๏ หนึ่งเวียงเชียงใหม่ สองราชบุรีใน
เศิกเกี่ยวภุกาม บ้านบางแก้วเขา
ฉะงุ้มเล่าแลสาม รักษาเมืองนาม
เชียงใหม่ชัยมี  
๏ สี่มาสถิต พิทักษ์ถิ่นพิษ
ณุโลกธานี เนื่องอมิตรม่าน
รุกรานราวี อะแซหวุ่นกี้
เป็นแม่ทัพมา  
๏ ครั้งห้าคราปราบ จำปาศักดิ์ราบ
นางรองอาณา ครั้งหกเวียงจันท์
อัญเชิญพระมหา มณีรัตน์คลา
กรุงเสร็จโสกันต์  
๏ สมเด็จวันรัต ทองอยู่อยู่วัด
ระฆังรังสรรค์ ราชคุรุฏฐา
นิยาจารย์พลัน เห็นมหัศจรรย์
ถวายพยากรณ์  
๏ มหาบพิตร ลักขณนิมิตร
กวีบวร จักเยี่ยมจิรยศ
ปรากฏสุนทร ทางกาพย์โคลงกลอน
ฉันทพากย์ประพนธ์  
๏ พระชนมายุ สิบเก้ากาลลุ
ร่วมโดยเสด็จดล สงครามพะม่า
ลาดหญ้าตำบล อีกเบื้องเมืองหน
อุตดรทิศแถลง  
๏ ยี่สิบเสด็จตาม ต้านศึกถิ่นสาม
สบท่าดินแดง ย่างยี่สิบเอ็ด
เสด็จทวายแขวง เป็นยกรบัตรแจง
จัดสิทธิ์กิจผอง  
๏ วัสสคณนา เนื่องชนม์พรรษา
ที่ยี่สิบสอง ทรงพระผนวชลุ
ภิกษุเพศครอง พรหมจรรย์มั่นปอง
ตามพุทธจรรยา  
๏ ณพระอุโบสถ วัดนามกำหนด
ศรีรัตนศาสดา จำพรรษกาล
ครบวารวรรษา ยังวัดราชา
ธิวาสสมอราย  
๏ ลาพระผนวชเสร็จ ชนม์ยี่สิบเจ็ด
เสด็จแดนทวาย โดยพระชนกนาถ
มาดเมาะตะมะหมาย มุ่งเหยียบยุทธ์กลาย
กลับราร้าราน  

อินทรวิเชียรฉันท์

๑๑ บัดวังบวรราช อุปราชประชวรกาล
ถึงชุดสมุฏฐาน กิจยากจะเยียวยา
๏ ข้าราชกิจต่าง ก็กระด้างกระเดื่องหนา
ด้วยโลภมูลปรา รภคบสมาคม
๏ กับเชฏฐ์ดนัยนาถ อนุราชบวรกรม
กำเริบและปรารมภ์ ทุรกรรมจำนง
๏ ปรุงทำประทุษฐต่อ กลิต่อพระบาทบงสุ์
ปิ่นไท้ปฐมวงศ์ วิรราชเรืองชัย
๏ ข้าราชวังหลวง ผิวล่วงผิล้ำไป
ล้อมป้อมประจำใน ธุระรักษ์บวรวัง
๏ ถูกขับกระชับกัน มนะหวั่นก็กลับหลัง
หลายมื้อละเมิดฟัง ภยศัพทสืบสนธิ์
๏ ครั้นคราพระอาการ อนุมานถนัดยล
กาลสู่ทิวงค์ชน ก็มิช้าจะมาถึง
๏ จึงมีบรมราช พจนาตถคำนึง
พอราชหทัยพึง พิริย์ภาพสมรรถหาญ
๏ ให้องค์พระเลิศหล้า อุปการจัดการ
พร้อมเจ้าพระยามาน ยศศักดิสองนาย
๏. หนึ่งนั้นสมัญญา รตนาพิพิธหมาย
หนึ่งยมราชภาย ณพระราชวังหลวง
๏ สมเด็จบดินทร์นาถ อธิราชสะพรั่งปวง
เสนาอมาตย์ทบวง บริพารกรมผอง
๏ สองเจ้าพระยาเคียง พระเสลี่ยงประทับปอง
ยึดธูรพิทักษ์สอง ระยะสู่บวรวัง
๏ โดยราชโยงการ พระทวารระวังยัง
รอบราชนิวาสบัง บถรักษรายไป
๏ ข้าวังบวรผอง สิสยองสยดใจ
ครั่นคร้ามพระเดชใคร ก็มิขับมิขืนขวาง
๏ ล้อมป้อมณซองพวก เหมาะสะดวกประจำวาง
เหตุปลอดตลอดปาง ลุสรปฉราตรี
๏ เอกองค์ปฐมรัชช์ วรขัตติย์จักรี
ทรงแรมประทับนี รริปูริปองภัย
๏ เรียบราบลุตราบครา ปวรานุราชไท
สู่โลกศิวาลัย เพราะพระบารมีพูล

สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์

๑๙ สามสิบแปดวยวรรษบรรลุบริบูรณ์  
บานบารมีมูล สมัย
๏ เจ้ายาลองณประเทศราชปุรพะใน  
อานัมนราสัย ประสงค์
๏ สำแดงปริดิทวีสมัครกมลปลง  
เปรอภักดิจำนง จะนอบ
๏ จัดเครื่องมงคลราชสาสน์สกลมอบ  
ทูตเช่นระบอบชอบ สถาน
๏ เข้ามาน้อมศิรเกล้าลูเฝ้าพระบทมาลย์  
ในรัชช์ปฐมกาล ถวาย
๏ อ้างอัตถ์อักษรลักษณ์แถลงและปริยาย  
ความสามิภักดิ์กาย กะใจ
๏ จำนงเพื่อพระปฐมบรมชนกไท  
เทอดทำนุเกียรติไกร ตระการ
๏ แด่สมเด็จพระบรมปิโยรสณวาร  
ว่างวังบวรสถาน สวัสดิ์
๏ ให้ทรงรับปวราภิเษกอนุกษัตริย์  
ด้วยดลพระชนม์พรรษ ภิโย
๏ ทั้งนี้ควรจะคะนึงคะเนพิเคราะหะโอ  
กาสญวนนิยมโส มนัส
๏ หวังเสียมสันตติในมไหศุริยรัชย์  
สืบจักริพงศ์ขัต ติย์ยศ
๏ จึงบรรดาลกฤดาธิการคุณพจน์  
แผ่ภาวะปรากฏ กระจาย

วสันตติลกฉันท์

๑๔ โดยราชดำริผลกอบ มติชอบประชุมหลาย
เหล่าราชวงศ์คณะนิกาย มุขมนตริยลยอม
๏ สมเด็จบรมชนกนาถ พระประกาศสถาปน์จอม
เจอดวังบวรทะนุถนอม อุปราชราชัน
๏ แด่องค์พระอัครปิยเอา รสเนาสุฐานันดร์
ทรงกรมนิยมประดุจบรรพ์ ปวราภิเษกเสริม
๏ ข้ามไปประทับสิรินิวาส นพระราชวังเดิม
สี่สิบพระชนม์ขณะเฉลิม วรราชมนทีร์
๏ อานัมชนิสสรก็นอบ สิระมอบพระสาสน์ศรี
ส่งทูตแถลงสดุดิปี ติประกอบกะพัตถุ์ผอง
๏ เข้ามามหานครเฝ้า จุฬเผ้าพิภพครอง
โกสินทร์พระปิ่นปฐมปอง ปณิธานจำนง
๏ ครั้นกาลพระผ่านพิภพขัต ติยรัชช์ประถมวงศ์
สู่สันติ์สวรรคตพระองค์ ขณะใกล้เสด็จสรวง
๏ ทรงมอบมไหศุริย์สรุป ณพระอุปราชปวง
เป็นที่ทวีกมลดวง ฤดิเสียมพสกผอง
๏ เบื้องกาลก่อนบรมเอก อภิเษกสถิตครอง
ครอบสิทธิราชกรณิย์ปอง ปฏิบัติระวางวาร
๏ มีธังกชาติสกุณะเช่น กะจะเห็นกลีการณ์
กอบมั่นกตัญญุคุณมาน กตเวทิตาแรง
๏ คาบลักษณ์ลิขิตประจุณไข่ สละไว้กะต้นแจง
หน้าราชมนทิรแสดง ดุจรู้บดูดาย
๏ ผู้พบก็เพ่งพิเคราะห์ถนัด ณระหัสกระจ่างคลาย
เจ้าฟ้าพระหลานอุรชสาย พระบดีบุรีธน
๏ กรมขุนกษัตริอนุชิต ทุรทิฏฐิผิดยล
รวมสามกะเชษฐภคินิตน และอมาตย์ประมาณหลาย
๏ คิดคดกบฏยุคลบาท ทุติย์ราชเอื้อมกราย
ราไชยมไหศุริยหมาย จะประทุษฐทำชิง
๏ ใคร่รู้กระทู้นยเผด็จ ผลเท็จคดีจริง
ทราบฝ่าพระบาทบประวิง กิจไว้วโรงการ
๏ โปรดให้พระเชฐวรเอา รสเจ้าพระองค์วาร
ว่างรัชย์ถวัลยพสุธาร ตติย์รัชชธำรง
๏ ทรงเป็นประธานพินิจทำ ธุระชำระเสร็จลง
สมสัตย์ตระบัดก็ระบุปลง ชิวะเสี้ยนเกษียณสรรพ์
๏ สองพันกะสามนิยมร้อย ระบุสร้อยผะสมพรรษ์
ห้าสิบกะสองสมยบรร ลุพระพุทธศกไข
๏ เอกองค์ปฐมบรมนาถ ลุนิวาสน์ศิวาลัย
ราชาภิเษกทุติยไอ ศุริย์ครองสนององค์
๏ สี่สิบกะหนึ่งและคณนา ฉฬมาสเศษคง
ชนมายุกาลกษณทรง สิริราชเสวยรมย์

อุปัฏฐิตาฉันท์

๑๑ กรุงเทพมหา นคราธิอุตดม
เปลี่ยนรัชช์อนุกรม วรจักริจอมวงศ์
๏ ไท้ราชทุติย์รัชย์ ทะนุผลัดปฐมองค์
ข่าวศัพท์สุตคง นฤโฆษก็โจษไกล
๏ ปรากฏลุวิเทศ อริเขตต์ภุกามไว
แว่วแจ้งนยใจ ก็คะนึงคะนองหาญ
๏ จอมอังวะตระบัด ระบุอัตถโองการ
ให้เกณฑ์พลมาน จตุหมื่นประมวลมี
๏ พร้อมนายกยก จรบกวิถีลี
ลาศมาลุบุรี เมาะตะมะตั้งจะตีกรุง
๏ ด้วยเดชมหา อธิบารมีปรุง
เปรอบุณยผดุง อดิเรกณรัชย์สอง
๏ ไพร่พรรคพะม่า สละกล้าละหนีกอง
ร่อยหรอพลผอง ลุกระทั่งทวายเมือง
๏ เกิดโรคพิบัติ พิษปัจจุบันเนือง
เนื่องศพระกะเปลือง ชิวะปลดระทดพล
๏ สี่พันคณนา มุขฝ่าผจญรณ
รุกรานบุริมณ ฑลใต้ระดมตี
๏ ไทยทักษิณต้าน อริม่านมิหมายหนี
บ้างบอกณคดี รณข่าวพะม่ามา
๏ ทราบเบื้องบทรัช พจนัตถบัญชา
โปรดจัดจตุนา ยกพร้อมพหลผอง
๏ ไปป้องปะทะทัพ ภยะรับประยุทธ์กอง
ไหนหนักก็สนอง พลศึกผะสมเสริม
๏ บัจจามิตรม่าน ประลุลาญตะลุยเติม
ตีแตกมะละเหิม สละห้าวละแห่งหน
๏ หนีได้ฉะเพาะบาง คณะบ้างมะลายชนม์
บ้างจับจรดล พระมหานครฐาน

สัทธราฉันท์

๒๑ ข้างเขตต์กรุงกัมพูชากาล กษณประพฤติสาร
ศัพททราบวาร สวรรคต
๏ ไทยรัฐผลัดราชกำหนด พระทุติยสิริยศ
รัชชสมมต สมัยครา
๏ เจ้าผู้ครองนามอุทัยรา ชยอนุมติปรา
รมภโดยฐา นะถ่องควร
๏ ให้นักองแก้วและองสงวน กะคณทวิประมวล
มุขอมาตย์ชวน ประชุมกัน
๏ เข้ามาเฝ้าบาทมูลธรร มิกทุติยถวัลย์
ราชย์ณรุ่งพรร ษะที่สอง
๏ ฝ่ายกรุงเวียดนามก็สำนอง พระกรุณคุณครอง
ภักดิเพียบปอง สุปรารพภ์
๏ แต่งซึ่งหนึ่งทูตวิทูรนบ ณวรบรมศพ
หนึ่งสิสมทบ จรัลมา
๏ พร้อมมงคลราชบรรณา กรวิวิธและตรา
ราชสาสน์สา ธุสัตย์ตรง
๏ เคียมเข้าเฝ้าบทยุคลบงสุ์ บดิศุริยพระองค์
สืบกษัตริย์ทรง เสวยราชย์
๏ นานาธานีมิเคยขาด บุรพคติประกาศ
ขึ้นณเบื้องบาท ประจงสรร
๏ เครื่องบรรณาการถกลบรร ลุพระนครและพลัน
เทอดถวายวัน ทนาการ

อุเปนทรวิเชียรฉันท์

๑๑ แสดงกรัณย์กิจ จสฤษฎิสาธร
พระราชอนุสสรณ์ พระบรมศพการย์
๏ ถวายพระเพลิงกอบ พลิชอบกุศลสาร
ละล้วนมเหาฬาร กลราชประเพณี
๏ ณกัมพุชารัฐ อุปบัติเหตุมี
เพราะมูลสมัครจี รประวัติเขมรวงศ์
๏ กระทบกระทั่งฉิน ทะริภินทแผกปลง
ระวางบดีองค์ พระอุทัยราชา
๏ กะอุปโยราช เพราะพิพาทก็เพ่งหา
คดีณกันปรา รภเกี่ยวกะการเมือง
๏ อุทัยพระราชา สิพะว้าพะวังเคือง
คุขุ่นคะนึงเนือง อนุสนธิผลเสริม
๏ กระด้างกระเดื่องจิตต์ ดนุทิฏฐิมานเติม
มุห์ฮึกคะคึกเหิม กะมหานครไทย
๏ ระบือระบิลเรื่อง ประลุเบื้องพระบาทใน
ทวิติย์ราไช ศุริย์รัชชไพศาล
๏ พระโปรดประกาศิต สุรกิจวโรงการ
สมัครสมานมาน สมฉันทอันดี
๏ อุทัยราชกลับ มุห์มิรับมิรู้มี
มนัสขนัดนี ระประโยชน์พยายาม
๏ ประยุทธ์ประทุษฐ์เป็น ริปูเช่นกะเพลิงลาม
ตลอดมิปลอดขาม ภยะแล้วละเลยหนี
๏ พะพึ่งกะญวนอยู่ เหมาะจะสู้พระบารมี
ประธานโยธี พลไทยแถลงธูร
๏ ตระบัดถนัดรู้ ณกระทู้คดีมูล
ลุเบื้องบดีศูริย์ พระสดับระงับภาร
๏ มหาอมาตย์นา มะพระยาณยศฐาน
คระไลอนัมการ กิจราชทูตนำ
๏ พระราชสาสน์เรื่อง ระบุเนื่องณกรุงกัม
พุชาแสดงดำ ริพระราชปรารมภ์
๏ พิพาทคดีสรรพ ะระงับสงบสม
สฤษฎิ์ธุราคม ณระวางเขมรญวน
๏ อุทัยพระราชา ยศฐานคงควร
ทะนุกเขมรมวญ ดุจได้ผดุงมา
๏ ฉะนี้แนะชี้เห็น หิตเด่นพระเดชา
ธิคุณกรุณย์ปรา กฎโทษมิทรงถือ
๏ ประกาศพระเกียรติรู้ มฤธูสุธรรมคือ
พระราชวัตรลือ ภพโลกเถลิงแถลง

มาณวกฉันท์

๏ กล่าวกฤดา การกบุณย์
บูรพหนุน ทำนุแสดง
เห็นพหุหลาก ยากเสาะแสวง
อาทิจะแจง พัตถุกถา
๏ ได้วรพุทธ บุศยรัตน์
เจอดจักรพรรดิ์ พิมพ์ปฏิมา
มวญมณิมัย ไพจิตรตา
ธานิจำปา ศักดิถวาย
๏ กิจจฉลอง ผองลุสรูป
แห่อภิรูป พุทธคละคลาย
เคลื่อนณระวาง ทางชลหมาย
โดยระยะราย มีมหการ
๏ ได้พระสถูป รูปอธิเจ
ดีย์ทะนุเด ชาภินิหาร
พร้อมกะพระธาตุ นาถมุนิญาณ
เบญจประมาณ บรรจุพระองค์
๏ ได้พระคชา ธารวิเศษ
สามพระเศวต เผือกสมพงศ์
ทันตะประทุม ชุมสิริมง
คลคชคง ปัญจกรี
๏ อ้างอดิเรก เอกอธิการ
แน่อนุมาน บรรพบมี
เนมิตรการณ์ สารศุภศรี
ไทยปถพี ใช้ธุชหมาย
๏ วัตถุประกาศ ชาติฉะเพาะเลือก
ภาพคชเผือก แผ่อธิบาย
บารมิรัชช์ อรรถปริยาย
เกียรติกระจาย ทั่วทิศยล

อินทรวงศฉันท์

๑๒ ส่วนซึ่งจะพึงสรร นยพรรณนานุสนธิ์
ในราชวัตรกล กะขนบบุรพบุราณ
๏ ทรงเป็นอุปัตถัม ภกะนำพระพุทธศาส์น
สืบยืดภิโยธาร ทะนุเผยเฉลยคดี
๏ เทอดบูรพบัญญัติ ปริยัตติธรรมวิธี
สอบส่ำสุคัมภีร์ คณะสงฆสาธยาย
๏ แต่งต้องระบองบรรพ พิธสรรพพระพุทธหมาย
เล่าท่องก็ถ่องภาย ณปริตต์วินิจนิยม
๏ อาวาสวิหารสา ทรฐาปนานุกรม
ซ่อมสร้างละอย่างสม วรศาสโนปถัมภ์
๏ ผ่องพุทธศาสน์ปราศ ภยอาจจะเกิดเพราะกรรม
อันพาลชนนำ มละกลั้วณทั่วสถาน
๏ กิจเนื่องณอาณา ประลุฐานยิ่งบุราณ
อ้างอาทิเอาภาร วรราชประยูรวงศ์
๏ ข้าบาทยุคลรอบ ธุระชอบประกอบประจง
ชุบเลี้ยงตลอดสง เคราะหศักดิยศสบาย
๏ อีกราชนิวาสน์แบบ บุรแคบเขยิบขยาย
เพิ่มภาคพิศาลราย บริเวณพระราชฐาน
๏ สร้างเมืองสฤษฏ์ป้อม กิจะพร้อมทะนุกประมาณ
เมืองสมุทรปราการ ชลบถจรดณกรุง
๏ ส่ำสรรพอาวุธ วิธยุทธภัณฑ์ผดุง
ทรงทำนุบำรง อดิเรกอเนกสถาน

อุปชาติฉันท์

๑๑ พระเกียรติก่องพา หิรสาธุสมภาร
ชนชมนิยมมาน อภิบารมีมี
๏ หมายพึ่งพระบุณยา ภินิหารเปรมปรีดิ์
สวามิภักดี วรบาทยุคลเคียง
๏ สมิงณมอญเมือง เมาะตะมะเนื่องบุรีเรียง
สามสิบกะหนึ่งเวียง สหพรรคสมัครพล
๏ จับฆ่าพะม่าเจ้า บุริเนาพินาสชนม์
และต่างก็รวมคน อพยพกะครอบครัว
๏ เลาะทางระวางกาญ จนด่านอุทัยหัว
เมืองตากพะพึ่งบัว บทบงสุ์พระทรงศรี
๏ เหล่าลาวบุรพราษฎร์ อุปฮาดก็ยินดี
นครพนมมี มนภักดิ์สมัครชวน
๏ พระโปรดประสิทธิทรง ประเคราะห์สงเคราะห์สมควร
เนื่องฐานะทั้งมวล มิระหกระเหินคลา
๏ หากเปรียบประเทียบกับ ธนทรัพย์ผะสมมา
ณคลังเพราะหลั่งปรา กฏนอกลุภายใน
๏ และทวยวิเทศก พระก็ปกก็ครองไป
ทั่วถ้วนและล้วนภัย นิรข้องพะพ้องเข็ญ
๏ ยังราชสัมพันธ์ สมฉันทอันเป็น
ประวัติการณ์เห็น ผลเริ่มผเดิมดี
๏ ณทูรเทศมุ่ง จะผดุงเพาะไมตรี
ต่างเมืองก็ต่างมี มุขทูตแถลงสาร
๏ คุมราชบรรณา กรมาเจริญการ
พระราชมิตรมาน สุมนัศคะนึงหมาย
๏ ณโปตุเกศเนื่อง กิจเมืองมะเการาย
เขตต์เวียงชะวาภาย ณประคุปต์วิลันดา
๏ เบงคอลณอังกฤษ ก็สฤษฎิโดยฐา
นะรัฐนิพัทธภา วพระราชไมตรี
๏ พระทรงประสาทรับ ผิวะกลับก็โปรดมี
ของตามประเพณี ทะนุตอบและมอบไป
๏ เป็นเหตุพิเศษสิท ธิสุมิตรภาพใน
สยามเสมอไพ รชเทศเถลิงนาม

ภุชงคปยาตรฉันท์

๑๒ ภุกามซึ่งคะนึงหวาด ก็ไม่อาจและเกรงขาม
เพราะพ่ายยับละทัพตาม เตลิดปางถลางบูร
๏ ณหลายครั้งก็ตั้งแต่ จะแต่งแง่กระแหน่มูล
สงบยั้งและหวังพูล พลากรณตอนหลัง
๏ และมีเรื่องคุเคืองขื่น กะด้าวอื่นอุบัติยัง
มิฮึกหาญระรานฟัง ระบิลเฝ้าจะเอาที
๏ ระวางนี้สิส่งทูต ประสงค์พูดคดีมี
ตระเตรียมตนถกลพี ระตั้งยุ้งสะเบียงฉาง
๏ สถานหมายทวายเมือง เหมาะสืบเรื่องก็รีบวาง
บุรุษจารมาทาง บุรีไทยเสาะใฝ่ฟัง
๏ เพราะเดชาภินีหาร เจอะจับจารบุรษหวัง
จะสอดเหตุระหัสยัง มิรั่วไปปะได้ตน
๏ พะม่ารุดประยุทธเขตต์ สยามเทศกระทำรณ
ระรานหล้าสิมาหน ตะวันตกตระดกขาม
๏ บรมเชษฐโอรส เสด็จบถสถลตาม
ขบวนทัพระงับความ กระเหิมเหล่าพะม่าลง
๏ อมิตรม่านประดาลท้อ มิต้านต่อระย่อยง
บรอรณผจญจง กระเจิงเจตนเหตุหวน
๏ ละหลบเปิดเตลิดไป บุรีไทรสมานชวน
สมัครชอบจะตอบทวน กระทบยุทธยังไทย
๏ บุเรศไทรบรักสัตย์ ริดาลอัตถ์ระหัสนัย
ลิขิตสื่อสิอื้อไป เพราะมีผู้ปะรู้เห็น
๏ ยุบลเนื่องลุเบื้องบาท ทุตีย์ราชวิจารณ์เป็น
คดีเรื่องจะเคืองเข็ญ ประจักษ์เท็จและจริงลอง
๏ ตลอดสนธิผลเหตุ หทัยเจตนาจอง
ณเจ้าไทรเกษตรมอง มิพ้องสามิภักดิ์สม
๏ พระยาศรีและสร้อยธรร มะราชอันพระปรารมภ์
วโรงการณงานคมน์ ลุเขตต์ไทรและปราบซา

วิชชุมาลาฉันท์

ม่านไปปรารภ สมคบสบจิตต์
กับอานัมมิตร หมายชวนญวนมา
รบพุ่งกรุงไทย เหตุใจฤษยา
ข้างแว่นแคว้นอา นัมยังลังเล
๏ จึ่งตั้งแต่งทูต เพื่อพูดความควร
กับม่านเกี่ยวมวล การเมืองเรื่องเส
แสร้งไปใช่น้อย ด้วยถ้อยถ่ายเท
ทางทูตพูดเขว ขวางอยู่ดูเชิง
๏ โชคร้ายกลายกลับ เป็นลัพธ์ภัพตก
ต้องม่านปานอก กรมหนองพองเปิง
ด้วยอังกฤษเทศ เกรียงเดชดำเกิง
ยุทธ์ก้าวยาวเถิง ถิ่นหล้ารามัญ
๏ รัฏฐ์มอญตอนนี้ หมดมีอำนาจ
ผู้ครอบรอบราชย์ คือม่านราชันย์
จำยอมพร้อมพ่าย มอบหมายเขตต์ขัณฑ์
อังกฤษติดพัน ภารรณผลถึง
๏ ม่านรัฏฐ์มุ่งรบ ทวนทบต่อเสียม
มาดร้ายหมายเตรียม หลากล้ำคำนึง
พ่ายต้องภัยตน ล่าพลรำพึง
ไป่ราบคาบขึง แข็งค่อยปล่อยปลง
๏ เมื่อจำนรรจา ไปมากับญวน
เกี่ยวการเมืองมวล ยังไม่ตกลง
เจ้าเมืองฝ่ายมิตร อังกฤษครองคง
สิงคโปร์จำนง เนื่องในไมตรี
๏ รู้อัตถ์คัดเอา สำเนาราชสาส์น
ญวนกับม่านมาน ขัดข้องผองมี
มายังกรุงไทย ทราบใต้บทศรี
โดยราชคัมภีร์ ปรีชาเชาวน์ญาณ
๏ จึ่งไทยไป่หลง กลลงกับเล่ห์
ทั้งส่ำท่านเส นามาตย์มุขฐาน
โต้ตอบชอบดล ดวงมนม่านพาล
ด้วยราชบรรหาร แห่งนาถภูมินทร์
๏ ทรงมั่นจรรยา ธรรมาธึกเทอด
ทางสันติ์บรรเจิด จึ่งไปใฝ่จินต์
เบียนบรย้อนยำ เหยียบซ้ำทำฉันท์
เฉือนชัยไพริน ผู้ร่อยด้อยพล
๏ คราครั้งอังกฤษ ราชมิตรรบม่าน
ญวนมีราชสาส์น สำแดงแจ้งกล
ในการม่านทูต ไปพูดเพื่อรณ
กรุงไทยนัยดล แต่เบื้องบทมาลย์
๏ ข้างราชสาสน์ม่าน คัดค้านยืนยัน
ว่าญวนชวนฉัน ชอบพามาราน
ที่แท้แน่ใน เดชไกรกฤตการ
กอบโพธิสมภาร ม่านตกอันตราย
๏ ฝ่ายอานัมเล่า ไม่เอาหน้าออก
อังกฤษมิตรลอก คัดราชสาสน์ถวาย
ด้วยเหตุดั่งเห็น อยู่เด่นง่ายดาย
สำเร็จเผล็ดภาย ในบารมีมูล

วังสัฏฐฉันท์

๑๒ อนึ่งบดีกัม พุชซ้ำอนัมตระกูล
ตริโมหโอ่ทูร ยศโทษเพราะโหดเพราะเขลา
๏ สมัครกะกันหมาย ผลร้ายจะโอบจะเอา
บุรพบุรีเนา ณมหาสิมาสยาม
๏ มุห์งำริกำเริบ และเขยิบอุบายลุลาม
จะตีบุรีนาม พระตะบองสนองประลัย
๏ อนึ่งจำปาศัก ดิณพรรคกบฏวิสัย
สถุลสิจุนใจ จะประกอบประทุษฐการณ์
๏ ก็แพ้พระบุณยา ภินิหาระเห็นมิหาญ
เพราะทัพณกรุงราญ รณแตกกระจัดกระจาย
๏ อนึ่งเชลยเหล่า อริเผ่าภุกามก็หลาย
ละล้วนฉกรรจ์ภาย ณตรุเคหพันธ์สมาน
๏ ละเมิดเพราะคบค้า กะพระยาทวายณการย์
จะก่อทุกรรมฐาน นิรสัตย์พิบัติผล
๏ พินาสมิอาจคิด ทุระกิจกะภูวดล
เพราะบารมีพล พิเคราะห์ดั่งสดับแสดง
๏ ณนอกและในรัฏฐ์ ริปุปัจจนึกจะแข็ง
ก็อ่อนบอาจแรง พิริย์พ่ายละลายลาน

วสันตติลกฉันท์

๑๔ สมควรประมวลนยสโม สรโถมนาการ
เพิ่มพัฒน์ประวัติอวสาน วรเกียรติธำรง
โสดเสริมเฉลิมพระคุณวุฑ ฒิพระพุทธเลิศองค์  
เอกหล้านภาลยพระพงศ์ พิรศักดิจักรี
๏ จอมปราชญ์พระราชอุปนิส สยสิทธิสางศรี
สุนทรบวรกุลกวี วิธพจนรจนา
๏ กล่าวโดยอดีตสมยไทย ขณะได้คระไลมา
จากถิ่นณจีนลุภพอา รยะย่านสยามยล
๏ ต่างหมู่ก็มีประมุขป้อง นรครองนิคมคน
พ่อเมืองกระเดื่องยศพิมล คณะบ้างก็คือขุน
๏ ศรีอินทราทิตยนาถ อธิราชวิบุลบุณย์
รงงแหล่งเฉลียงฐิตสกุล คณะชาติสยามวงศ์
๏ ครองเขตต์สุโขทยมหา บุรหล้าเฉลียงคง
รวบรัฏฐ์กษัตริย์ปฐมอง คพระเดชสำแดง
๏ สืบสันตติพันธุกรนาม วิรรามกำแหง
เดชานุภาพยศแรง คุณล้ำก็กำจร
๏ บูรณ์บรรพ์พยัญชนะสรูป สระรูปอักษร
สือไทยก็ไท้ธอุปกรณ์ พระประกิตประดิษฐาน
๏ ศาสตร์สรรพวรรณนิติอัก ขรลักษณ์เชลงการ
ดำเนิรเจริญรจนมาน ณสมัยเฉลียงมา
๏ อ้างสมสนมกวินิปราชญ์ นพมาศสมัญญา
เอี่ยมโอ่สุโขทยสถา ปนรัชช์ลิไทไทย
๏ เมื่อรัชชศรีอยุธยา ณปุราณกรุงไกร
เกริกเกียรติ์กวีวจนไพ บุลเพียบจะพึงชม
๏ หลายองค์ผะจงรจิตวาท กวิราชพระบรม
ไตรโลกนาถอนุกรม พจนาทินารายณ์
๏ ศรีปราชญ์ฉลาดลุประติภาน พจิชาญคระโลงหมาย
กำสรวลสิควรสุตมิวาย เสนาะขานผสานยิน
๏ เนื่องเห็นณเหตุผลมหัจ ฉริย์รัตนโกสินทร์
ทุกรัชช์กษัตรย์วรกวินทร์ ดุจรัชชกาลสอง
๏ ทรงศรีกวีบวรเธียร สุเสถียรพระเกียรติ์ครอง
คู่หล้านภาลยฉลอง อภิลักษณเลิศมวล

อินทรวิเชียรฉันท์

๑๑ พึงยลนิพนธ์ราช พจนาตถ์ประชุมชวน
ทราบสรรพฉะบับควร วิเคราะห์คิดคะนึงหา
๏ ไกรทองนิทานเก่า กะอิเหนานิยายชวา
เรื่องรามเกียรติ์ภา รตะวรรษประทัฏฐ์ฐาน
๏ สังข์ทองสนองไข บทไชยเชษฐ์ชาญ
คาวีคดีสาร เสนาะพากย์ละครผอง
๏ อาจอ้างละอย่างเอก แนะอเนกและน่าปอง
เป็นแบบระบิลของ อนุชนจะขวนขวาย
๏ สืบศรีกวีวาท คติศาสตรกำจาย
พึงเห็นณเชื้อสาย ธิรสนธิดลเดิร
๏ โดยเบื้องยุคลบาท ทุติย์ราชจำเริญ
ลายลักษณ์วิจักษ์เชิญ ชนชอบประพนธ์กล
๏ ดั่งเจ้าพระยาชื่อ ยศคือพระคลังหน
ราชาธิราชยล นยถ้อยอุทาหรณ์
๏ คล้องจองละบองตรับ เสนาะศัพทสุนทร
ภู่ครูกระทู้กลอน พระอภัยมณีมี
๏ ถ้อยอาทิทองอิน ก็นรินทร์ธิเบศร์ศรี
โคลงเรื่องนิราสดี ผิสดับสุสำนาน
๏ สืบศรีกวีวง ศประจงประเจิดขาน
ในตรีติย์รัชชกาล กลกลอนขจรยิน
๏ สมเด็จพระสมญา ปรมานุชิตชิน
ชาญพจนพาทิน และลิลิตวิจิตรฉันท์
๏ เพียงย่อชลอสา ธกมานิยมกัน
ชื่อเชิดประเสริฐวรร ณกวีอดีตหวัง
๏ เลืื่องลือระบือศรี ณทวีติย์รัชชดัง
ราชมิ่งประมุขยัง กฤติยศภิโยไกล

ฉะบัง

๑๖ สมเด็จนฤเบศร์มไห ศูริย์ที่สองไท
ถวัลยาธิปัตย์ถัดปฐม  
๏ เทอดด้าวดั่งกล่าวอนุกรม ในพระบรม
ราชประวัติอัตถ์แถลง  
๏ ไทยหล้าท้าโลกสรวงแสดง ดีงามความแสวง
สวัสดิ์สุวัฒน์หวังศานติ์  
๏ สืบมามักกฏฉนำกาล อัฏฐมีมาสวาร
พุธแรมสิบเอ็ดค่ำขยาย  
๏ สองพันสามร้อยเศษปลาย หกสิบเจ็ดหมาย
พุทธศกเดือนกรกฎาคม  
๏ วันที่ยี่สิบเอ็ดสม เด็จบาทบรม
ทวีติยราชรัฏฐสยาม  
๏ เสด็จสวรรคตจรดความ คำนวณถ้วนตาม
พระชนมพรรษไพบูล  
๏ ห้าสิบแปดฉนำคำณูน สถิตในไอศูริย์
กำหนดโสฬสวรรษา  
๏ โดยบาฐฉันทพาทพรรณนา สังเขปกถา
ปรารพภ์จบถ้อยทำนูล  

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ