ตรีติยรัชช

ฉะบัง

๑๖ จักขอต่อความตามมูล เค้าเรื่องเบื้องบูร
พราชประวัติรัชช์สมัย  
๏ เจษฎาบดินทราธิปไตย ขัตติย์พิสัย
พิสิฐสุรราชที่สาม  
๏ ปรมาภิไธยเทอดนาม นั่งเกล้าเจ้าสยาม
จักรีบรมราชวงศ์  
๏ มีนัยมาในราชพง ศาวดารนานคง
พระเดชพระคุณคำนึง  
๏ เนิ่นอยู่คู่หล้าฟ้าสึง ตราบกาลลาญตรึง
ตราใจไทยชาติทวยชน  
๏ พระบรมสมภพมงคล ณวันจันทร์ดล
เดื่อนสี่มาสมีนาคม  
๏ ทสมดฤถีนิยม ปักษ์กาฬอนุกรม
กฤดาภินิหารวารวัน  
๏ สมมตเมษพรรษสองพัน สามร้อยสร้อยสรร
สามสิบพุทธศกตกขาน  
๏ ณพระราชวังเดิมกาล เป็นพระราชฐาน
สถิตมหิสสรไท  
๏ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย บรมชนกใน
สมัยพระปฐมกษัตริย์  
๏ เถลิงถวัลยราชสมบัติ ล่วงมาห้าพรรษ
ขนัดพระชนม์คณนา  
๏ โสกันต์ทันบรมไอยกา ธิราชเจ้าครา
ครองรัฏฐาธิปัตย์ปฐม  
๏ บรรพชาสามเณรนิยม และลุอุปสม
บทณพระพุทธศาสน์งาม  
๏ วัดพระศรีรัตนนาม สร้อยศาสดาราม
เป็นที่ทรงผนวชในสงฆ์  
๏ ปางพระบรมชนกทรง ตำแหน่งแห่งองค์
อุปราชอนุราชราชัย  
๏ ยงยศพระเจ้าหลานไท พระองค์เจ้าใน
บวรพระราชวังสถาน  
๏ ดำรงทรงรอบราชการ ทั่วทุกธูรภาร
เป็นที่พึงราชหฤทัย  

จิตรปทาฉันท์

เมื่อพระบรม พระประถมรัชช์
วารนิวัตน์ ประลุครรไล
สู่ศิวภพ ก็ประสพภัย
อาจอริใน ทุติย์ไอศูริย์
๏ ยังมิลุทัน พระถวัลย์เอก
อ่าอภิเษก รชยางกูร
กากสกุณ บสถุลพูล
เพียบคุณมูล กตเวที
๏ คาบฉะเพาะอัก ษรลักษณ์ลับ
ทำกลกับ ประจุฟองดี
มาสละไว้ ณมิไกลมี
มนทิรศรี สุนิวาสน์ฐาน
๏ ผู้พิศพบ พิเคราะห์จบอัตถ์
คุยหรหัส ก็ประจักษ์การณ์
โอรสองค์ บดิทรงธาร
ธนบุรมาน ณบุรพวงศ์
๏ มั่วมุขฐาน ทุรการณ์จัก
ก่อกลิกัก ขลเจตน์จง
เวรวิรุธ จะประทุษฐองค์
อิสสรทรง สิริราชันย์
๏ เดชะพระบา รมิปรากฏ
ภัยเพราะกบฏ ก็มิเกิดทัน
ทราบบทรัช พระขจัดพลัน
มอบธุระสรร พพิพากษา
๏ ตรีติยขัต ติยรัชช์กาล
เทอดณประธาน ดุลอาชญา
สัตย์สิพะพ้อง นยฟ้องหา
ต่างอริมา ชิวะตนตาย
๏ นี้กิจเริ่ม พระเผดิมเป็น
เหตุผลเห็น พระสมรรถหลาย
โดยพระแสดง เหมาะเจาะแจ้งภาย
ในนระหมาย มนะชื่นชม

สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์

๑๙ ครั้นโอกาศวรราชพิธีกรบรม  
ราชาภิเษกสม สฤษฎิ์
๏ จึงทรงโปรดกรุณาสถาปนสถิต  
ปรากฏพระยศสิท ธิเสริม
๏ เป็นกรมหมื่นณสมัญญมั่นทะนุเผดิม  
เจษฎาบดินทร์เติม พระนาม
๏ ทรงกรมท่าธุระรอบประกอบสกลความ  
สิทธิ์ขาดประสาทตาม ประสงค์
๏ สำเภาหลวงก็ทะบวงณภารฉะเพาะพระองค์  
เอื้อกิจพณิชย์ทรง กระทำ
๏ หมู่เมืองจีนและกะไทยณกัยวิกยกรรม  
ต่างไปและมานำ เสนอ
๏ กอบกันฉันท์มิตรพันธ์นิรันดร์ก็เจอะก็เจอ  
ตามภารอำเภอ มนัส
๏ กรมตำรวจพิเคราะห์รับและสรรพพสกขัด  
ข้องด้วยคดีอรรถ อะไร
๏ มานมุ่งมาตลุพระราชวิจารณะไฉน  
ทุกข์เบียนพิบัติภัย จะปราศ
๏ ล้วนเป็นธุระพระภูมิผู้พระยุพราช  
สำเร็จเผด็จพาท พิฉินท์
๏ ต้องตามส่ำบทธรรมมนูญนิยมยิน  
ดีชอบประชาจิน ตนา

สาสินีฉันท์

๑๑ ต่อมาม่านข้าศึก กระเหิมฮึกอหังการ์
เพียบพลเพื่อรณมา ประมวลซึ่งสะเบียงสรรพ์
๏ ยับยั้งยังกาญจน บุรีสนธิเขตต์พลัน
เหตุศัพท์ถับถึงทัน ณแทบบาทยุคลมูล
๏ สมเด็จภูเบศร์นาถ ชนกราชนเรศูริย์
โปรดมอบหมายรอบธูร ตระเตรียมทัพและกรีธา
๏ แต่องค์ทรงนั่งเกล้า พระยศเยาวราชคลา
คุมซึ่งสามพันสา รพัตรพรรค์ฉกรรจ์พล
๏ ออกไปตั้งขัดทัพ ประจำรับณตำบล
ปากแพรกเป็นแรกหน พระอยู่หัวณรัชช์สาม
๏ ทรงออกงานเศิกสู่ สมรภูมิสงคราม
แต่ยั้งตั้งอยู่ตาม กะกาลเปลืองก็ปีปลาย
๏ ไม่เห็นม่านหาญฮึก คะนองนึกคะนึงหมาย
ไป่กล้ารบร้าราย ระดมยุทธแท้จริง
๏ จึงได้ตรัสให้เพิก พยูห์เลิกพิชัยชิง
โดยความรอบคอบสิง กมลราชนิรันดร์มา
๏ ยกทัพครากลับยั้ง สถิตยังสมุทรปรา
การภาคปากน้ำฐา ปนาป้อมประดิษฐาน
๏ ตั้งนามตามสำเหนียก ละอย่างเรียกสรูปมาน
หกป้อมเสร็จพร้อมการย์ เสด็จกลับประทับกรุง

อีทิสังฉันท์

๒๐ ทรงสนองพระเดชพระคุณผดุง  
บรมชนกดิลกจรุง เจริญราษฎร์
๏ ตราบตลอดกระทั่งณเบื้องพระบาท  
บพิตรทวีติยาธินาถ ประชวรกาล
๏ เป็นปรัศจาตวารภาร  
พิทักษ์มิถอยวยาวสาน สวรรคต
๏ โดยบ่ได้ประกาศพระราชพจน์  
เถลิงมไหศุรียยศ นิยมมี
๏ มอบพระราชประยูรพงศ์บดี  
ณหนึ่งณใดประดุจวิธี ทะนุกราชย์
๏ จึงประดาประธานมุขอมาตย์  
สมัครสมานวิจารณ์ประสาท สุปรีชา
๏ กรมหมื่นสมัญญเจษฎา  
บดินทร์บรมโอรสา ธิราชไท
๏ ทรงเจริญพระชนมวุฑฒิวัย  
สนองพระราชกรัณยะใน ชนกนาถ
๏ ต่างพระเนตรพระกรรณและวางพระราช  
หทัยวิธูระทั่วฉลาด เฉลิมลักษณ์
๏ มวญอมาตยราชพงศศักดิ์  
จะน้อยจะใหญ่ก็สามิภัก ดิเกรงยำ
๏ มานพระเมตตเจตน์กรุณประจำ  
สุรัฏฐศาสาโนปถัม ภสมควร
๏ สิทธิฉันทะเชิญเสด็จประมวล  
พระมิ่งมหิศราดิศวร เสวยรัชย์
๏ ตั้งพระราชพิธีถวัลยขัต  
ติยาภิเษกสะเสกกษัตริย์ ประเพณี

สุรางคณางค์

๒๘ ปีเดียวเกี่ยวกัน กับองค์ทรงธรรม์
เทอดรัชชกาลตรี เสวยไอศวรรย์
ขณะนั้นคดี ทรงทราบบทศรี
เนื่องเทศเขตต์ไกล  
๏ ฝรั่งอังกฤษ ปางมาเป็นมิตร
กับด้าวชาวไทย ตีแคว้นแดนม่าน
รุกรานขึ้นไป ถึงเบื้องเมืองไข
ชื่อย่างกุ้งเกิน  
๏ กระทั่งปรวนบุรี เป็นเศิกธานี
ต่างชาติตามเผชิญ เล่ห์กลรณกรรม
กระทำดำเนิร เบาหนักจักเดิร
ด้วยประการใด  
๏ โปรดให้ไปสืบ ฝ่ายผู้รู้คืบ
ข่าวมูลทูลไท กิจจประยุทธ์
บหยุดรุทร์ภัย ยังรบสบสมัย
ประชิดติดกัน  
๏ โดยราชดำริ เหตุยุทธคติ
กระแหน่แปรผัน อย่างหนึ่งอย่างใด
ควรใคร่รู้ทัน ราชโองการสรร
สั่งทัพสรรพธูร  
๏ จัดเจ้าพระยา มหาโยธา
คุมกองมอญตระกูล หนึ่งสุรเสนา
พระยายศมูล หนึ่งนามศักดิพูน
พิพัฒโกษา  
๏ รวมทัพสรรพยก เดิรบถโดยบก
เข้าตั้งขัดตา ทัพยั้งยังด่าน
สถานสมญา สำเหนียกเรียกว่า
เจดีย์สามองค์  
๏ โปรดให้พระยา ชุมพรเป็นนา
ยกหนึ่งกองตรง ไปตั้งรั้งครอง
ระนองนับคง สามพันจำนง
นับพลเกรียงไกร  
๏ ไทยทัพนับมิตร ช่วยข้างอังกฤษ
ประชิดชิงชัย สหายฝ่ายฝรั่ง
เวี่ยหวังหฤทัย ชอบอัชฌาสัย
ไมตรีดีครัน  
๏ ยอมให้ไทยทัพ มิตรพันธ์มั่นนับ
เนื่องเกี่ยสเดียวกัน เข้าตั้งยังไผท
ตีได้ไว้พลัน เผด็จเสร็จสรรพ์
ศึกกิจสิทธิชัย  
๏ เจ้าบูรเบงคอล แต่งนายนามกร
กัปตันอันไกร ชำนาญการค้า
เคยมาเคยไป นามนั้นขานไข
เฮนรีเบอรนี  
๏ เป็นทูตสื่อสาส์น เครื่องบรรณาการ
คุมมาพร้อมมี สู่พระมหา
นคราธิศรี เข้าเฝ้าบทธุลี
ทูลเกล้าถวาย  
๏ กล่าวความตามชอบ ฉันทะประกอบ
ขอบพระคุณภาย ใต้เบื้องบาทบงสุ์
ทรงส่งนิกาย โยธีมีหมาย
เกื้อมิตรสิทธิผล  
๏ พระเดชกระเดื่อง พระคุณประเทือง
พระเกียรติดำกล ถึงทูรประเทศ
เปนเหตุให้ยล นิยมยินดล
แด่ราชอาณา  

อินทรวงศฉันท์

๑๒ ภายในไผทขัณ ฑภยันดรธรรมดา
เพียงพวกประพฤติพา ละประเภทณจีนวิสัย
๏ แต้จิ๋วและฮกเกี้ยน กลเสี้ยนประทุษฐ์ไผท
เจ็ดร้อยสรูปใน คณะมันประมาทประมาณ
๏ อาชีวะมีตั้ง คหะยั้งนิคมสถาน
ถิ่นจันทบูรวาร ณวิธีทะนุกกุศล
๏ ตามลัทธิจีนทำ พลิกรรมประกอบสกล
เรียกทิ้งกระจาดดล เหมาะสมัยจะมั่วจะสุม
๏ ลงชื่อระบือกัก ขละพรักก็พร้อมประชุม
ชวนรวบประจวบคุม กะพระยาปลัดประลอง
๏ อั้งยี่นิยมเข้า คณะเผ่าทุพาลผอง
ตั้วเฮียณนามครอง ดุจฐานประธานนิกาย
๏ ก่อเอิกเกริกเกรี้ยว กิจเกี่ยวกะวุ่นกะวาย
เป็นวารแรกภาย ณบุรีสิมาสยาม
๏ จึ่งจันท์บุรีฐา นพระยาประจักษนาม
เกณฑ์พลสะพรึบปราม ประทะปราบประหัฏประหาร
๏ จับได้และบ้างปลีก ดนุหลีกละลนละลาน
แล้วพรรคกรมการ ก็เกาะกุมประดังประดา
๏ ตั้วเฮียและตัวรอง คณะผองพิรุธพระยา
ตำแหน่งปลัดมา ประลุกรุงพระโปรดประมวล
๏ หน้าที่คดีชำ ระกระทำก็สอบก็สวน
สมสัจจะสำนวน ตริพิจารณาระบิล
๏ ลงทัณฑโทษา นุพระยาปลัดพิฉินท์
ไปเป็นตะพุ่นติณ คชเลี้ยงและจำและจอง
๏ อ้ายอันธพาลเผ่า คณะเหล่าณหนึ่งและสอง
จำคุกตลอดครอง ชิวะเคร่าพิกัดกะหมาย
๏ แต่ครั้งกระนั้นมา นยราชดำริภาย
ใต้บาทบงสุ์ปราย สุขโปรดประโยชน์ทวี
๏ โดยราชประกาศวาง บทอ้างพระกฤษฎี
กาไว้มิให้มี กิจตั้งประชุมนิกาย
๏ ซุ่มซ่องคะนองเนื่อง เกะกะเรื่องระรานระคาย
เข็ญขุ่นจะวุ่นวาย อุปสัคครัฏฐ์มิควร
๏ ทรงเห็นประเด็นเหตุ ขรเภทพระพงศมวล
ขุนนางสิต่างชวน ปริชนอนนต์แนะนำ
๏ ให้ชั่วเพราะมั่วสุม นรซุ่มณไพรกระทำ
ถ่อยชัดอนัตถ์กรรม จะมิเกิดประโยชน์ไผท
๏ ปลูกโจรโมหันธ์ ทุรพรรคพาลพิสัย
กำเริบเขยิบใน คติร้ายละนายละมูล
๏ เหล่าทาสประดาษหนี้ สละหนีสิทรัพย์ก็ศูนย์
ปราศสารอาดูร ธุระราษฎร์นิราสสราญ

ฉะบัง

๑๖ ปางปีเป็นที่สามกาล ลำดับนับวาร
แต่เสด็จเสวยไอศวรรย์  
๏ เจ้าอนุผู้ทะนุเวียงจันท์ เจิดด้าวลาวขัณฑ์
ประเทศเขตต์ขึ้นของสยาม  
๏ คิดคดเป็นกบฏบตาม เคยประพฤติยึดความ
สวัสดินิพัทธ์อัตรา  
๏ กำเริบเอิบอาตม์อหังการ์ เกิดจิตต์ฤษยา
หยิ่งยกโยธีมี่กราย  
๏ หยามย่ำเหยียบล้ำล่วงภาย ภาคไผทไทยหมาย
เมืองสกลนครตอนเหนือ  
๏ กวาดต้อนนาครคุมเมือ เมืองตนจนเหลือ
ร้างบ้านปานไพรไร้คน  
๏ นครราชสิมาหน ศึกห้อมล้อมดล
กระทั่งเข้าตั้งตอมตี  
๏ ท่านโม้ท้าวสุรนารี สองพระยามี
ยกรบัตรกับปลัดบ่งนาม  
๏ เป็นหัวหน้าครัวไทยยาม ถูกต้อนจรตาม
ริปูไปสู่เขตต์เขา  
๏ แสรังเสเล่ห์กล่อมออมเอา ใจอริตริเลา
เลศเพื่อเชื่อจิตต์คิดกล  
๏ เหมาะท่าฆาตข้าศึกพล ผู้ควบคุมดล
ชีวิตวินาสเหลือหนี  
๏ ข่าวอึงถึงเจ้าอนุมี สั่งทัพกลับลี
ลาศติดตามมาร้าราญ  
๏ ครอบครัวทั่วไทยใจสมาน หมู่ชายหญิงชาญ
ตระเตรียมตนรอบตอบรณ  
๏ ตั้งค่ายรายชุมนมคน ขวาฝ่ายซ้ายหน
แห่งกลางข้างบุรุษโยธา  
๏ ท่านโม้มิ่งขวัญกัลยา คุมราษฎร์ดาษดา
ด้วยหมู่หญิงหม้ายหลายสาว  
๏ เป็นกองหนุนสนองเศิกลาว รบเลี้ยวเกรียวกราว
ทัพอนุพินาสพ่ายหนี  
๏ เกียรติไกรในคณะสตรี เชิดเช่นเป็นศรี
กล้าศึกเสริมศักดิ์หญิงสยาม  
๏ แพร่ข่าวศึกลาวราวความ ภูบดีที่สาม
ทรงทราบกิจปราบประมวล  
๏ ให้พระองค์อาว์อดิศวร ทรงพระยศควร
ตำแหน่งบวรราชวัง  
๏ ยกพรรคพหลดลยัง ราชสีมารัง
รักษ์ไว้แล้วได้เสด็จตาม  
๏ ปราบเหล่าเจ้าอนุลุความ สฤทธิได้ชัยงาม
เพราะเหตุพระเดชดำเกิง  
๏ จับกุมดัสกรจรเถิง กรุงสะดวกโดยเริง
ชยะนิยมสมบูรณ์  

วังสัฏฐฉันท์

๑๒ ณกัมพุชากรุง ธุระยุ่งเพราะเกี่ยวกะมูล
สวามิภักดิ์ศูนย์ มุหสึงคะนึงมิควร
๏ ก็มีทวีครา เพราะชนาธิปัตย์ประมวล
เขมรประมาทหวล หฤทัยมิใคร่จะคง
๏ เหมาะช่องสนองมุ่ง ฉะเพาะกรุงสยามประสงค์
ประทุษฐโดยตรง ณพระบาทยุคลละออง
๏ หะแรกพระองค์จัน สละธรรม์อธรรมสนอง
เพราะแพ้ประยุทธ์กอง พลทัพมหานคร
๏ บดินทรเดชา ระบุฐานนามกร
ธเจ้าพระยาจร ถลมรรคประมุขพหล
๏ พระคลังอนึ่งเล่า ยศเจ้าพระยาถกล
ประธานวิถีชล คณะรบก็ครบก็ครัน
๏ คระไลลุได้ปราบ อริราบมิรอประจัน
มิช้าชะล่าขัน มนะแข่งจะแย้งพิชัย
๏ เพราะเหตุพระองค์อิ่ม ตริกระหยิ่มเขยิบหทัย
เราะร้าวคุกร้าวใน คตินาสอนัตถ์ถวิล
๏ ธเจ้าพระยากล้า รณะการะนามบดินทร์
ก็จอมพหลภิน ทสภาพกบฏสลาย
๏ ริปูณบูรพ ทิศภพสงบก็คลาย
กระเหิมกระหายหมาย เสาะระงับเสงี่ยมวิสัย

มาณวกฉันท์

ส่วนทะนุป้อง ปองบริหาร
สรรพประการ เกี่ยวกะไผท
ยิ่งณบุราณ กาลกลไข
เพียงฉะเพาะนัย ย่ออนุมาน
๏ เหตุมิประมาท ยาตรสมุทร์
แม้ริปุรุด เร็วจะระราน
ถึงพระมหา ธานิยฐาน
ป้อมปะทะธาร ควรจะสถีร์
๏ ให้พหุหาก มากและเผดิม
สร้างพิเคราะห์เสริม สมกะบุรี
ป้องอริอ้าง ทางชลลี
ลาศพลตี ต้องสละหวัง
๏ คลองก็กะขุด สุดระยะซ่อม
ยามเหมาะเจาะห้อม ภัยทกพัง
ลัดเลาะประจบ สบทะลุยัง
ตื้นเซาะแซะขัง น้ำมิเคอะเขิน
๏ พาหนนา วาทวิวิธ
รบและพณิชย์ ทางชลเดิร
ใหม่เหมาะก็เต้า เก่าปะประเชิน
แล่นลุเจริญ พอกะสมัย
๏ คามนิคม รมย์สุขะหลาย
เหล่านระหมาย กัยและวิกัย
เกี่ยวสหะค้า มาลุคระไล
เทอดระบุใน ฐานบุรี
๏ ภัณฑ์พิธศัสตร์ พัตถุนิยม
สืบเสาะสะสม มากบุระมี
อาทิกะปืน พื้นพหุดี
ควรกะวิธี ยุทธประจัญ

ภุชงคปยาตรฉันท์

๑๒ อนึ่งเล่าพระเจ้าตรี ติย์รัชช์ศรีประเสริฐสรร
พระนามาภิไธยอัน พิเศษเสริมพระคุณทรง
๏ บรมพุทธศาสนู ปถัมภ์ภูมินาถองค์
อดุลกิจสถิตคง คุคู่หล้าและฟ้าลาญ
๏ พระทรงธรรมศรัทธา ณพุทธศาสนาธาร
กุศลเลิศประเสริฐการ สกลเกิดกะกองบุณย์
๏ พระเทอดทำนุบำเพ็ญ บว่างเว้นประโยชน์คุณ
สภาพผองประคองสุน ทรากรณก่อนกาล
๏ เสวยราชสมบัติ ลุตราบรัชช์สมัยวาร
ประมวลโดยประดามาน พิเศษกรรมณสำคัญ
๏ ประกิตสร้างสล้างบูร ณเพื่อพูนภิโยบรรพ์
พิบูลอ้างละอย่างสรร พโอฬารตระการงาม
๏ พระเจดียที่ถูป พระพุทธรูปพระอาราม
อุโบสถวิหารตาม ตลอดส่ำกุฎีสงฆ์
๏ ผิสาธกนิทัศน์เนตร ก็วัดเชตุพนทรง
สถาปน์เหมือนวิมลคง ณบัดนี้เจริญเนา
๏ มหาพุทธไสยาศน์ พิลาศพร้อยพิลัยเพรา
ระเบียงเรียบระเบียบเสา สะพรึบตั้งสะพรั่งตา
๏ สุทัศน์เทพวราราม สระเกศนามนิยมมา
บรมบรรพตาภา พิจิตรล้ำประจำกรุง
๏ สมุทรเจติยัฏฐาน ประจำย่านทะเลคุง
เสถียรปัจจุบันปรุง ประสาทไท้ธรังสรรค์
๏ สถาพรบวรวัต ลุสมบัติอนันต์อัน
อุบัติพร้อมพระจอมธรรม์ ดิลกรัชชกาลสาม

วสันตติลกฉันท์

๑๔ สมภารพระสาส์นปริยัต ติพิพัฒน์พิบูลงาม
เสกสิกขกิจพิพิธคาม ภิรบาฐพระบาลี
๏ ทรงสร้างพระไตรปิฎกอัก ษรลักษณลานมี
โดยบรรพฉะบับปฐมวี ระกษัตริยธำรง
๏ เทิดธรรมเจติยพระจา คปสาทเสริมสงฆ์
สืบพุทธศาสนจะทรง สุตท่องสนองเรียน
๏ ล้วนงาและมุกตมยกรอบ ฉลุขอบฉลากเขียน
ลวดลายระบายระบุระเมียร ก็ประณีตเจริญนัยน์
๏ ผ้าห่อพระคัมภิรสุพัต ถะปะรัชชุรัดไหม
อย่างเอกและโทพิพิธไพ จิตรแผกชะนิดพรรณ
๏ โปรดคุมประชุมสกลเถ ระประเภททรงคันถ์
ธูรสอบพระพุทธวจนสรรพ์ คณะภิกษุสามเณร
๏ ไทยมอญประมวลสมณมาน เหมาะกะการกะก่อเกณฑ์
สามปผิใครสุตจะเจน พจิอัตถอันแปล
๏ ถึงชั้นเปรยญธก็สฤษฎี ยศกิตต์เถกิงแล
มารดาบิดาผิกระอุแด เพราะประดาษทุราดูร
๏ ด้วยทุกขทาสธนหนี้ พระก็มีกรุณย์มูล
โอกาสพระราชอนุกูล ก็ลุไทยเพราะถ่ายถอน
๏ ไพร่หลวงผะสมสละบ่หลุด ลุวิมุตติ์ประมวลพร
พึงปรารถนาพระอุปกรณ์ อดิเรกประการมี
๏ บางคราวก็ป่าวสรประกาศ นยราชปรีดี
ในบุณยสุนทรนิธี สหฉันทชวนทำ
๏ ให้ราชวงศคณะข้า วรบาทมูลนำ
สัตว์ใหญ่และน้อยนิยมจำ วชขังประดังกรง
๏ น้อยมากประมาณจะลุพิฆาต ชิวะขาดพินาสลง
หามาและปรารภะจะปลง ภยะเปลื้องปละปล่อยเป็น
๏ ชนถิ่นณจีนบุรสิจน ประทะทนสภาพเข็ญ
มีมากพระหากกรุณเพ็ญ ทุรภิกขภัยเบา
๏ เข้ากล้องก็โปรดประจุประจำ ฉะเพาะลำณสำเภา
ไคลค้าและนาวิกประเทา ธุระแจกประจาคไป
๏ ทรงมาดพระราชกุศลหลาก พิธภาคพหุลมัย
เยิรยอชะลอรุจิระไข อธิคุณอดุลเกียรติ์

ฉะบัง

๑๖ ตราบตรีติยนาถราชเสถียร รัชยะพระเพียร
ผดุงอุตดมสมบูรณ์  
๏ โยคยุคสุขศานติ์มานมูล ราชบารมีพูน
พระอานุภาพปราบบร  
๏ บริหารกิจการพระนคร สรูปอุปกรณ์
ก่องกลรัฏฐประศาส์น  
๏ พุทธศาสนายุกาล ก้าวคืบสืบนาน
เพราะพระทะนุอุปถัมภ์  
๏ นิยมอนุกรมเนื่องนำ กำหนดจรดจำ
จิรานุประวัตติ์วรรษา  
๏ ศกพุทธสองพันคัณนา สามร้อยสร้อยตรา
เก้าสิบกะสามเศษปลาย  
๏ กุญปีดิถีปฐมหมาย ค่ำข้างขึ้นภาย
ในจิตรมาสหมายขาน  
๏ วันพุธสุดเศร้าโศกวาร สวรรคตกาล
แห่งบาทภูบดีที่สาม  
๏ นับปียี่สิบเจ็ดตาม ลำดับครองสยาม
ประเทศพิเศษสากล  
๏ วัสสคณนานุสนธิ์ กษณะพระชนม์
หกสิบสี่พรรษไพบูล  
๏ สังเขปข้อความตามมูล ราชประวัติพูน
ภิยโยพระยศเยิ่นยิน  
๏ เยี่ยมอยู่คู่คราฟ้าดิน โลกภพลบภินท์
นิรันดร์อย่ารู้แรมศูนย์  

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ