ฉัฏฐรัชช

ฉะบัง

๑๖ กล่าวความตามพระประวัติการณ์ กิตติวิจารณ์
กษัตริย์เกรียงศักดิ์นรสีห์  
๏ สืบสันตติวงศ์จักรี เกริกพระบารมี
วีรราชบรมนาถเนืองมา  
๏ เรืองรัฐฉัฏฐภาคบูรพา สยามรัฐวัฒนา
นำไทยให้แผ่แพร่ผล  
๏ พร้อมไพบูลภัทรเพ็ญดล อำนวยอนนต์
คุณานุวัตรทัศไนย  
๏ ฟูฟ่องเกียรติ์ผยองผองไพ ศาลภพสบสมัย
สโมสรมาสาธู  
๏ เห็นเหตุพระเดชพระคุณู ปถัมภ์ค้ำชู
เขตต์ชาติศาสนาสาทร  
๏ เทิดอัตถ์นิทัศน์ถาวร ปรากฎประกรณ์
ประกอบการย์จำดำนาน  
๏ พระองค์อัครนฤบาล บ่งฉัฏฐ์รัชชกาล
ก่องราชประวัติวรรณนา  
๏ พระบรมสมภพพรรษา พุทธศกตกกา
ละเนื่องฉนำนาคนาม  
๏ สองพันสี่ร้อยเรียงตาม เศษยี่สิบสาม
เดือนยี่ดิถีคาบคง  
๏ ขึ้นสองค่ำพ้องเสาร์ตรง ที่หนึ่งแน่ลง
ณมาสมกรกำหนด  
๏ เป็นพระบรมราโชรส รัชย์ร่มสมมต
ที่ห้ามหาราชเรืองคุณ  
๏ พระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าเกริกบุณย์
บพิตรพระผู้อยู่เศียร  
๏ ณราชพิธีเทอดเกียร ติบรรพสรรพเสถียร
ถ่องราชขนบครบครัน  
๏ อาทิ์ลงสรงเสกโสกันต์ กษณพระวรร
ษชนมะดลโดยสมัย  
๏ เฉลิมพระนามอภิไธย จารึกเรียบใน
แผ่นพระสุพรรณสมัญญา  
๏ เจ้าฟ้ามหาวชิรา วุธเอกอรรคมหา
บุรุษ ฯ จรดเต็มเติม  
๏ ตามศัพท์ลักษณะเผดิม พระศรีเดชเสริม
สวัสดิพิพัฒนมงคล  
๏ นววรรษขนัดพระชนม์ บรรลุอนุสนธิ์
สืบรับพระราชฐาปนา  
๏ เป็นสมเด็จเจ้าฟ้าปรา กฎพระนามา
ภิไธยเถลิงเลอศรี  
๏ กรมขุนเทพทวาราวดี ลำดับนับปี
เนื่องปางระวางวุฑฒิวัย  
๏ ทรงสืบศึกษาทราบใน อักขรสมัย
สกเทศประเทศทั่วถึง  
๏ พระชนม์ดลคาบควรจึง เสด็จสู่สำนึง
สำนักยุโรปรัฏฐ์สถาน  
๏ เพื่อทรงเพิ่มซึ่งสิกขการ ทั้งหลายฝ่ายทหาร
และฝ่ายพลเรือนรอบแผน  
๏ สถิตยังอังกฤษกรุงแดน โรงเรียนเรียกแสนตฺ
เฮิสตฺหนรณยุทธวิทยา  
๏ บ่งบอกออกสฟอรฺดมหา วิทยาลัยปรา
รพภ์รัฐประศาสน์สิกขธูร  
๏ พระบาทชนกนาถนเรนทรสูร ทรงเพิ่มศักดิพูน
พระยศภิยโยโอฬาร์  
๏ สมเด็จพระบรมโอรสา ธิราชรัชชทา
ยาทสืบเสวยไอศวรรย์  
๏ ทสพรรษณถัดมาคราพลัน เผล็ดเพียรเรียนสรร
พสิปปวิธพิชชา  
๏ เสด็จกลับลำดับแดนมา ทางอเมริกา
กับญี่ปุ่นย่อมพร้อมคุณ  
๏ ทรงรับราชกิจพิธสุน ทรรอบไพรุฬห์
จำเริญพระยศเยียรยง  
๏ คือนายพลเอกราชอง ครักษดำรง
จเรทัพบกปกทหาร  
๏ ตำแหน่งเนื่องบัญชาการ กรมพลรณภาร
มหาดเล็กนาถชนกไท  
๏ ตลอดเบญจมรัชย์สมัย ถึงกาลผ่านไพ
บูลยถวัลยาภิเษก  
๏ เฉลิมราชมนทิรเอก วาระอดิเรก
ทุติยขณะคณนา  
๏ สมโภชโสตถิสมบรมรา ชาภิเษกครา
กุญยุตติพุทธพรรษหมาย  
๏ สองพันสี่ร้อยสร้อยปลาย ห้าสิบสี่ภาย
ในมาสพฤศจิกเพรียกจำ  
๏ วันที่ยี่สิบแปดสัม ฤทธิพิธีกรรม
ประกาศเกียรติราชธำรง  
๏ พระบาทสมเด็จพระมง กุฎเกล้าจักรพงศ์
พิสิฐกษัตริย์สมบูรณ์  

วสันตติลกฉันท์

๑๔ ตั้งแต่พระองค์สถิตเอก อภิเษกมไหศูรย์
ทรงเริ่มพระราชกิจมูล ณสมัยเสมอมา
๏ มุ่งรอยพระบาทบรมบัญ จมธรรมราชา
ปิ่นปียนาถชนกา ธิบดีนิรันดร
๏ เป็นอาทิ์พระราชจริยวัตร ปฏิบัติอนุสสรณ์
ตามราชวาทวรุปกรณ์ สุขะเกี่ยวสะดวกการ
๏ อาณาประชาพสกะเนื่อง นิติเบื้องบุราณวาร
สบวันสวรรคตะประมาณ ขณะรัชย์กษัตริย์หมาย
๏ โกนผมนิยมณวิปโยค ยุคโศกตลอดภาย
ในภูมิดลชนนิกาย กลเนิ่นประเพณี
๏ ทรงเห็นจะเป็นวิประติสาร ณประการอเนกมี
จึงราชปรารภพจี ก็ประจักษ์ตระหนักไข
๏ คือโปรดประกาศกิจมิต้อง เสาะสนองพระคุณไท
ด้วยเกศมุ ฑกสมัย พระบรมศพมวล
๏ อีกราชะฌาปนสฤษฎิ์ พหุกิจพระเมรุชวน
ช้ายากและมากธุระมิควร จะกะเกณฑ์บเป็นสาร
๏ โดยบาทบรมชนกา ธิปราชภูบาล
โอกาสพระราชบริหาร หิตะโปรดประโยชน์เสริม
๏ งดอาทิปรารภมหุส สวะดุจขนบเดิม
เพิ่มด้วยผะดุงคุณเฉลิม พลิสรรพะไพศาลย์
๏ สาธารณานุเคราะหพัต ถุขนัดคะเนนาน
นับควรกะส่วนกุศลการ อุปกรณ์ประกอบตาม
๏ อ้างโอ่อุโบสถวิหา ระพระราชอาราม
วัดหลวงและปวงนิยมนาม อนุสนธิศึกษา
๏ ทรงโปรดประโมทยอนุมัติ รุจิวัตถุนานา
ยงยิ่งประโยชนสถา นพระศาสน์สภาสอน
๏ ธรรมาสน์สะอาดนยนะตั้ง สุภะทั้งสถาวร
สวดมนตร์ฉะบับระบุประกร ณพิพิธประโยชน์ภัณฑ์
๏ ปวงเป็นพระราชปฏิการ คุณสารสิ่งสรรพ์
สมทรงประสงค์บรมธรร มิกนาถชนกไท

กมลฉันท์

๑๒ คณนาฉนำนับ ดุจบรรพระบอบไข
อนุกรมนิยมใน ศกรัตนโกสินทร์
๏ บริวรรตถนัดยุต ติพระพุทธกาลจิน
ตนะเนื่องมุนินทร์ชิน วรนาถพระนิพพาน
๏ กลนี้วิธีถ่อง นิติต้องละบองฐาน
คณะชาติประชุมอาร ยประเทศจำเริญ
๏ ทินเอกะเวลา ขณะนาฬิกาเดิร
ดุจเดิมสีดำเนิร ระยะทุ่มและโมงตี
๏ วิเคราะห์บ่งณแบบสา กลวาระราตรี
ลุทวาระวางมี ฉะเพาะเที่ยงจะก่อนหลัง
๏ ปริวัฏฎะคืนวัน เหมาะและมั่นมิคลาดยัง
ธุระดื่นสะดวกดัง ภพะทั่วกระทำควร
๏ ณอนึ่งคะนึงรู้ พระคุณูประการมวล
วรราชวิจารณ์ชวน นระน้อมณออมสิน
๏ ทะนุทรัพยะส่วนอา ตมะหาณอาจิณ
จะกระจัดกระจายภิน ทนะภาคเพราะยากงำ
๏ ผิวะใฝ่จะใคร่ออม ธนะพร้อมถนอมนำ
ดนุฐานะอารัม ภะลุวัฑฒนากร
๏ ก็เกาะเกี่ยวกะคลังกอบ ธุระชอบจะฝากถอน
ขณะใดสะดวกรอน เราะสุรุ่ยสุร่ายหาย
๏ อุปการะสาทร สหกรณ์สถิตภาย
ณพณิชกสิกหลาย บุระแหล่งแสดงยล
๏ พลรวมและร่วมเศรษ ฐประเภทผดุงดล
พิธโภคพิรุฬห์ผล เพราะพระคุณกรุณย์ควร
๏ กิจเกี่ยวประกอบการ บริหารณเหตุชวน
นระมากมุห์เหิมหวน ประทะทุกขะขุกเข็ญ
๏ เพราะพะนันนิรันดร์ใน ภพไทยไผทเป็น
ปฏิปักษ์ตระหนักเห็น พหุเพรื่อและเหลือฝืน
๏ จิระจับกระชับจิต ตสนิทจะยั่วยืน
สิคะค่อยคะค้อยขืน ลหุคาดก็อักโข
๏ ภยะอันมหันต์ปรา กฎะพาพสกโซ
ระบุหวยกะถั่วโป ทุระปักษะหนักหนา
๏ สละปัดณรัชช์บัญ จมธรรมราชา
ฉะเพาะหัวบุรีหา ยนมูลมิศูนย์สรรพ์
๏ ประลุฉัฏฐรัชช์ฉิน ทะละสิ้นประโยชน์อัน
จะประพัทธรัฏฐบรร ลุเพราะสิ่งพะนันทราม
๏ พิเคราะห์ข้อพระคุณเห็น หิตะเด่นประโดยความ
ถิรวัฒน์ประวัติตาม พระมหาธิการุณย์

อีทิสังฉันท์

๒๐ เหตุพระองค์ธทรงสุขุมวิทุร  
พระราชประกาศขนานสกุล ประกิตกฎ
๏ ชอบประชาสยามชาติจะจด  
จะจำประยุรญาติมิลด มิเหลื่อมเลือน
๏ ทราบนิพัทธพันธุสรรพะเตือน  
ระลึกณชอบประกอบเสมือน สมานพงศ์
๏ หนึ่งแนะเรียบระเบียบสตรีประสงค์  
ณศักดิฐานะนามะจง เจาะคำขาน
๏ เด็กขนาดขนัดณวรรษกาล  
จะควรกะไวยไฉนขนาน ณหน้านาม
๏ เป็นประโยชน์อนนต์จะสนธิตาม  
แสวงเสาะวงศะสงเคราะห์ความ มิแปรปรวน
๏ ราชนิติ์ประสิทธิ์พิเศษประมวล  
เหมาะใหม่ประเพณิภาคขบวร ระบอบดี
๏ ข่าวณราชนิวาศน์สถานจะมี  
ประการอะไรพระใฝ่ทวี ประวัติเผย
๏ เพื่อพสกมิใคร่ประสพและเคย  
ระเบียบบรู้กะทู้ก็เลย ละฟังยิน
๏ โปรดพระราชทานแถลงระบิล  
ณราชนิเวศน์นิวัทธ์ถวิล วโรบาย
๏ พร้อมพระภูธเรศร์กะราษฎร์นิกาย  
ผสานสนิทณกิจจหลาย เฉลยถึง
๏ ทำนุอาตมานุมัติจะพึง  
ประพฤติและยึดนิยมคะนึง นิรันดร

วังสัฏฐฉันท์

๑๒ พระราชปรารภ สุขสบประชานิกร
เสถียรสถาพร ณสภาพลุราบลุรมย์
๏ บเบียดบเบียนก่อ ภยะข้อจะทับจะถม
คุขึ้งคะนึงตรม ตริประทุษฐะกันและกัน
๏ ประมวลณกฎหมาย พิเคราะห์ฝ่ายจะยุตติธรรม์
ละหมู่ละหมวดสรร ดุลสิทธิประกิตประกล
๏ ประสงค์สงบเหตุ ณประเทศและรัฏฐชน
เหมาะยุคสมัยยล ฉะเพาะพัฒน์ระมัดประจำ
๏ ประกอบจะชอบใน กิจกัยวิกัยกระทำ
กะเขตต์วิเทศดำ ริระบอบเขบ็จขบวน
๏ ณแพ่งและพาณิช ยพิพิธประเภทประมวล
ตริตราประดาควร กะจะใช้วิจัยผะจง
๏ พระราชบัญญัติ วิเคราะห์อัตถะอื่นก็คง
สรูปสราญสง เคราะหราษฎร์นิรันตราย
๏ สุรากะยาฝิ่น และถวิลลุวัตถุหลาย
ละสิ่งผิเสพกลาย อประโยชนโทษจะทวน
๏ สลัดและจัดขีด ระยะกีดมิเกินกะควร
เสมือนฉะเฉือนมวล มลโหดประหานะหายน์
๏ มหาธิการุณ ยพระคุณณศุลกะราย
ละเล็กละน้อยภาย ณพสกพระยกพระทาน
๏ ประการะเป็นต้น สละผลธนูปการ
อุบัติณรัชช์มาน เพราะเกาะเก็บกะราษฎร์นิกาย
๏ จะได้มิได้ตาม พลความสมรรถและหมาย
เหมาะผ่อนเหมาะผัดคลาย กระอุยุคพะขุกพะเข็ญ
๏ ตลอดพระสอดส่อง นระผองจะร่มจะเย็น
สถานไฉนเพ็ญ ผลโปรดประการะผอง

สัทธราฉันท์

๒๑ การจัดป้องรัฏฐะทำนอง ทะนุพลรณะปอง
เข้าณเค้าคลอง เจริญรอบ
๏ ขันแข็งแรงกายอนึ่งกอบ มนะชวนะระบอบ
แน่วินัยนอบ นิยมตาม
๏ รัฐด้าวคราวสบสงบงาม อุปกรณะณความ
สุขทะนุกปราม ประทุษฐชน
๏ ทั้งหลายเหล่าชายฉกรรจ์ดล กษณะฉะเพาะประปรน
ปรุงประยุทธ์หน ระเบียบหัด
๏ ครบงดปลดจากประจำผลัด กรณิยกิจปัด
เดิมก็เริ่มอัต ตภาพศรี
๏ สมตนเป็นพลเมืองดี หิตณบุรุษชี
วิตมิเสียที อุบัติมา
๏ เพียบผองกองบกและเรือปรา รภพิธคณะสา
มารถประกาศนา มะกำธร
๏ อ้างเอาเหล่าโรมโพยมจร ธุระกลอุปกรณ์
ไปรษณีย์ตอน นภากาศ
๏ โดยสารร่อนเร่ณเวหาส คมนะลุดุจะมาต
เร็วกะเกินคาด คะเนการ
๏ โยธินาวีวิทูรภาร กะระยะชละประมาณ
หมายวิถีฐาน ทะเลแผน
๏ มิ่งมงกุฎเกล้าสกลแดน วรหทยะพระแสน
ใฝ่พะวงแทน ณทั่วธูร
๏ โดยราชอุตสาหะอาสูร สละพระสุขวิบูล
เบื้องพระกายมูล พิรีย์มาน
๏ คราพร้อมฝึกซ้อมวิธีการ สกลรณสถาน
บางสมัยวาร เสด็จดล
๏ ทรงรอนแรมทั่วระทมทน วรสริรสกนธ์
กรากกระกรำจน ตลอดกิจ
๏ หวนเห็นเป็นเหตุพิเศษสิท ธิเพราะกิตติผริต
พีรภาพนิจ จะเนื่องมา
๏ จึงจอมอังกฤษณกรุงปรา กฎพิภพมหา
รัฏฐ์ยุโรปสา ธุรังสฤษฏิ์
๏ เทิดนายพลเอกณอังกฤษ พหลพระยศฐิติ์
ฐานมหามิตร สมานภัทร
๏ เป็นครั้งแรกทั้งประดาขัต ติยะณบุรพรัฏฐ์
รับพระเกียรติอัจ ฉรีย์เอก
๏ ภารเนื่องนาวาสินาเนก นยะฉะเพาะอดิเรก
อันพระสรรเสก สฤษฎิสม
๏ รงงราชนาวีสมาคม ประลุสมยนิยม
ยานสมุทรรม ยะทั่วราษฎร์
๏ ด้วยได้ไท้เทิดประมุขชาติ พระอนุเคราะหประสาท
ราชทรัพย์อาทร์ อุปัตถัมภ์
๏ สร้างฤาซื้อเรือพระร่วงดำ ริณอจิรก็สัม
ฤทธิกิจนำ เสนอสาร
๏ อาวุธส่ำยุทธภัณฑ์พาห์น จะประทะอริระราน
รอบตระเตรียมการ ระวังกัน
๏ มีครบสบสมสมัยบรร ลุผิวะพิเคราะห์เหมาะพลัน
สร้างเสาะเสริมสรร พะพร้อมไป
๏ ศัตรูภายนอกและภายใน ก็ปกติพิริภัย
แพ้พระเดชไท ระท่าวทก
๏ เช่นหมู่กำเริบทหารบก นิรคุณพระดิลก
ล้วนพินาสตก ประดาษเข็ญ
๏ เรียบรัฏฐ์เรียบราชยพูนเพ็ญ พิริยผริตเป็น
สุขศานต์เห็น เจริญเรียง

อินทรวงศ์ฉันท์

๑๒ พร้องภารพระศาส์นภาค พหุหลากละล้วนเผดียง
มาดลสกลเพียง จะสรูปวโรปการ
๏ ปางกลับประทับธา นิย์มหานครสถาน
จากรัฐยุโรปอาร ยะประเทศณสิกขธูร
๏ ทรงเพ่งพระพุทธา นุพระศาสนาประยูร
สืบภิกษุภาพพูน พระผนวชคะนึงพิรีย์
๏ ในสงฆเถรา นุสภาณวัดพระศรี
รัตน์ศาสดาปรี ดิประพฤติสุพรหมจรรย์
๏ กิจเสร็จเสด็จถับ ลุประทับสถิตพระพรรษ์
บวรนิเวศอัน ระบุราชนิวาศน์วิหาร
๏ ถ่องธรรมวินัยสิก ขอธิกวิทูวิธาน
ทราบเชี่ยวและแตกฉาน ประลุวรรษนิวัตติคลา
๏ ครองราชสมบัติ พระนิพัทธ์พระศาสนา
ไตรรัตนศรัทธา ธิกะมั่นนิรันดร์สมาน
๏ ทรงเป็นอุปัตถัม ภกะทำนุราชภาร
รับพุทธศาสน์ฐาน ฐิติอัครเอกผงม
๏ เทอดสังฆราชนา ยกะฐานะยิ่งนิยม
สมเด็จสถิตกรม ะพระยาวชิรญาณ
๏ ก่อนนี้พระสมเด็จ ปวเรศโหรวิจารณ์
สมเด็จกวีขาน ปรมานุชิตจรุง
๏ ทั้งหลายนิกายสงฆ์ ผิวะคงสถีระคุง
ควรเพศพิเศษปรุง ปฏิบัติวัตรวินัย
๏ งามศีลสุตสัง วระยังวิจารณ์วิจัย
แจ้งตรีปิฎกไพ บุลเถรภูมิ์พิศาล
๏ ควรตั้งพระรังสฤษฎิ์ ยศกิตติ์อเนกประการ
ตามศักดิสมฐาน ถิรวุฑฒิสุทธคุณ
๏ เป็นการณ์ผะสานเกื้อ พลเพื่อจะเจือจะจุน
กิจส่วนพระศาสน์สุน ทรสารสมานเสมอ
๏ ธูรคันถะบรรเจิด ผลเลิศและบรรลุเลอ
ปราโมทย์พระโปรดเปรอ ปริยัตติ์ภิโยพะยุง
๏ ทั่วสงฆมณฑล ทะนุดลเจริญจรุง
รอบเรียบระเบียบปรุง มนะปลื้มประสาทะผล
๏ แท้ราชประเพณี พระบดีณภูวดล
หนึ่งใดธใฝ่ขวน อุปถัมภพุทธศาส์น
๏ ทรงสร้างพระอารา มวิหาระเป็นพระทาน
เอกโอ่คุโณฬาร กลรัชย์บุรพสมัย
๏ นานาพระอาวาส ณพระราชเขตต์ไผท
เห็นหากจะมากใน ขณะหน้าประดาจะโทรม
๏ น่าจักพิทักษ์อา ทรฐาปนานุโลม
ซ่อมให้วิไลโถมน์ หฤทัยประเทองทวี
๏ โดยราชปรารพ ภะประสพพระราชฤดี
หวังสิ่งวิเศษมี คุณะทัดกะวัดพระสงฆ์
๏ คือสิกขอาคา ระพระราชดำริทรง
โปรดสร้างจะอ้างอง คนิทัศน์ประดิษฐาน
๏ โรงเรียนมหาดเล็ก คณะหลวงสิเลอตระการ
กลเทพนิมมาน เหมาะประสิทธิพิทยา
๏ เยี่ยมผลอนนต์หนุน อธิบุณยเจตนา
สมฉัฏฐราชา นุเคราะห์เพียบประการะผยอง
๏ กิจอื่นณพื้นเอา ธุระเคร่าประคับประคอง
บ่งศาสน์บเสื่อมหมอง อนุมัติสมิทธิหมาย
๏ เหมือนครามหาขัต ติยรัชชภาคณภาย
หลังมามิคลาคลาย วรราชภารผดุง

วิชชุมมาลาฉันท์

พึงเห็นเพ็ญเหตุ ผลเจตน์แจ่มใน
จอมนาถราชไพ บูลปรีดิปรุง
โปรดฝึกศึกษา จรรยาพาคุง
คืบพิชชาจุง จำเริญรอบตน
๏ จึ่งคงทรงสัม ฤทธิ์ส่ำศึกษา
เป็นราชภารปรา รภเพื่อเกื้อผล
ราษฎร์งามนามเนื่อง พลเมืองดีดล
อารย์ธรรมนำสนธิ์ สู่ชาติอาจหาญ
๏ บงรอยบทรัช ครั้งขัตติย์คราห้า
ดำเนิรเนิ่นมา แม่นบรรทัดฐาน
เทอดหนุนกุลบุตร เสร็จสุดสิกข์การ
ในเมืองตนมาน สามารถอาจปรน
๏ ส่งให้ไปฝึก ฝนศึกษาเสริม
วิชชาชาญเติม จากต่างแดนตน
ต่างเรียนเพียรรู้ มากผู้สู้ขวน
ขวายย่อมพร้อมยล ถ่ายกิจหิตการ
๏ ทราบสรรพกลับมา รับนานาราช
การรอบมอบอาตม์ จอมนาถรัฐบาล
ทุกเหล่าเนากรม ปรารมภ์รับภาร
รังเพิ่มเสริมสาร สิทธิ์เพียบส่ำผล
๏ คนไทยในรัชช์ กาลฉัฏฐาธิป
ถ่องภาษาสิปป์ พิชชาสากล
เผยแผ่แต่อารย์ เทศฐานถิ่นหน
แดดดับนับจน เหลือจำนำแจง
๏ ธรรมการงานเอา ธูรเจ้าหน้าที่
ทางราชการีย์ ศึกษากล้าแข็ง
ต้นปลายมัธยม อุตดมดัดแปลง
หลักสูตรสำแดง เท่ารัฐอัสดงคต์
๏ วิทยาลัยรัง จัดตั้งตามแผก
แพทย์ครูจำแนก วิศวกรรมจำนง
นายร้อยนายเรือ ฟ่องเฟื้อยรรยง
เนติบัณฑิตคง ควรแก่ชาติไทย
๏ ต่อมาปรากรม จัดประถมศึกษา
ราชบัญญัติตรา ทั่วแคว้นแดนไป
บังคับเรียนเล่า ผู้เยาว์ภาพวัย
คุณแหล่แผ่ไกร แก่ชาติทั่วกัน
๏ ครองศาสตร์ครบศิลป์ ว่องชินวิชชา
เชิดชาติศาสน์รา ชันย์สิ่งชอบสรรพ์
ศึกษาพาสบ พัฒน์ภพผองพรรณ
เพ็ญราชการัณย์ เหลือล้ำกำจาย

สาลินีฉันท์

๑๑ กิจเกี่ยวกับรัฏฐา ภิบาลราชโยบาย
ป้องกันสำคัญภาย ณรัชย์หกชนกไท
๏ แต่งตั้งกองอาสา สมัครนามะเนื่องไกร
เกริกหล้าเสือป่าใน มนัสมั่นณสัญญาณ์
๏ เสียชีพอย่าเสียสัตย์ พิทักษ์รัฏฐสีมา
สามารถมอบอาตม์กา ยะจิตต์พร้อมพลีชนม์
๏ เพื่อชาติแลศาสน์รัช ชะปิ่นขัตติย์ของตน
จงรักภักดีผล พิพัฒน์ทำนุนำเนือง
๏ แพร่หลายภายในรัฏ ฐเขตต์จัดประจำเมือง
มณฑลเป็นผลเรือง เจริญรอบประกอบคูณ
๏ รักษ์ส่ำสำราญราบ สงบปราบประทุษฐมูล
ภายในให้ซาศูนย์ กระทั่งสู้ริปูภัย
๏ ปองรับเป็นราชภา ระเพียบฐานะทั่วไป
อาทิ์จัดฝึกหัดนัย แนะสอนรอบประลองรณ
๏ เปิดแผนปึกแผ่นแล้ว พระสอดแคล้วคะนึงชน
ชั้นเล็กรุ่นเด็กจน ดรุณจักจรูญสาร
๏ ควรเพื่อรับเกื้อกาย และใจหมายเสมอมาน
เหมือนเชื้อเสือป่าชาญ เผชิญมุ่งประปรุงเปรอ
๏ โปรดปลูกฝังลูกเสือ นิกรเหลือจะเลิศเลอ
เหล่าลักษณ์นักรบเจอ ประจักษ์จิตตนิสสัย
๏ นานาศึกษาคาร สะพรึบมานสะพรั่งมัย
หมวดหมู่กองผู้วัย ระวางขีดจะแข็งขัน
๏ งดงามนามลูกเสือ สล้างเกื้อณกิจบัน
ดาลด้วยช่วยเหลือสรร พราษฎร์อีกอเนกการ
๏ เดนผลดลเผยชื่อ ระบือลือลุภูมิ์อารย์
เอาธูรเกื้อกูลภาร ประชุมพรรคลูกเสือ
๏ ต่างเทศทั้งไทยร่วม สภารวมสรูปเจือ
จุนเกียรติ์ปรากฎเหลือ แถลงล้วนประมวลคุณ
๏ คาดหมายภายหน้าแน่ ถนัดแผ่ประโยชน์สุนทร์
สมราชนาถการุณ ยปรารพภปลูกฝัง

สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์

๑๙ รัชช์ที่หกสิพสกประดาชิวะประดัง  
ดลสุขนิยมยัง อเนก
๏ อ้างอัตถ์อาทิประปาประการอดิเรก  
ราษฎร์แน่ตระหนักเอก พระทาน
๏ เริ่มแต่รัชชบรมชนกพระนฤบาล  
เบื้องฉัฏฐรัชยการ สฤทธิ์
๏ โปรดเปิดเป็นปริสุทธธารนิรมิต  
อู่ทกพระอุททิศ ทะนุก
๏ นำบำราศอหิวาตก์ระบาดกษณะรุก  
ร้ายขาดพยาธิทุกข์ ประทัง
๏ สืบสาธารณโสตถิ์ประโยชนะระวัง  
ไว้ก่อนจะแก้สัง เคราะห์ครบ
๏ คราวรัชช์ห้าณประดาอนามยะขนบ  
แผนปัจจุบันภพ พิรัช
๏ รวบรวมไพบุลในสมัยบรมนฉัฏ  
ฐาธิปราชทัส สนีย์
๏ กิจแพทย์การบริบาลสถานภิสกะมี  
มากสนธิผลดี ตลอด
๏ เป็นที่ไว้หฤทัยณราษฎร์นิกรรอด  
ชีพช่วยมิม้วยมอด สมาน
๏ กาชาดสากลสาธุการยประการ  
เชิญร่วมสภาภาร ภิษัช
๏ ทุกด้าวทุกธุระยุคสยามยศะทัด  
เทียมหน้ามหารัฏฐ์ ผริต
๏ ชุมนุมเวชชณเขตต์ประเทศบุรพทิศ  
กรุงไทยประไพกิตติ์ ประถม
๏ เทอดฐานเจ้าคฤหะเนาณกิจจประจุคมน์  
แขกเข้าประชุมสม กะเกียรติ์
๏ บัญญัติแพทยะแวดระวังวิเคราะห์ละเอียด  
หวังโรคบเบียฬเบียด พสก
๏ กำหนดเขตตสุขาภิบาลระบุบบก  
พร่องหมายขยายยก นิยม
๏ ยลเยี่ยงอาทิกถาอุทาหรณะสม  
สิทธิ์ราชปรารม ภะโปรย

อินทรวิเชียรฉันท์

๑๑ เสียมรัฏฐพัฒน์ภา วะประดาพิโดรโดย
เด่นรอบประกอบโกย ยศกิตติสากล
๏ เกิดในสมัยฉัฏ ฐกษัตริย์ถนัดยล
เยี่ยมล้ำและนำผล อดิเรกสภาพผอง
๏ ฝังใจณไทยนา มะประชาประชุมปอง
เป็นเหตุพิเศษของ คณะชาติประกาศเกียรติ์
๏ บันทุ์กนิทัศน์อัต ถประวัติการเจียร
โลกายุขัยเขียน คุณะคู่นิรันดร์คง
๏ คือว่าณวันที่ ทวิวีสวารตรง
ตรามาสะแม่นลง กรกฏจรดหมาย
๏ สองพันกะสี่ร้อย ระบุสร้อยประสมปลาย
หกสิบระวางภาย ณพิภพประสพเข็ญ
๏ มีเหตุมหายุทธ ยุครุทรรณเป็น
คราวใหญ่มิได้เห็น ดุจดั่งอดีตมา
๏ ไทยนามสยามเนา คณะเข้ากะบรรดา
ชาติรักษปักข์อา รยะธรรมประจำคลอง
๏ อังกฤษฝรั่งเศส กะประเทศอเนกผอง
รอนปักข์อธรรมปอง จะประทุษฐ์มนษย์ปวง
๏ คือเยอรมันอา ทิประดาชะล่าดวง
จิตต์โลภะใหญ่หลวง ลุละเมิดนิยมธรรม์
๏ สงครามและความขาด มิตรราชประกาศรัณ
ร่วมทำนุสัมพัน ธเกษตรสากล
๏ ไทยเรียกระดมกอง พลปองประจำรณ
ราษฎร์รู้กรัณย์ตน ก็สมัครประมาณหลาย
๏ อาสาประดาพร้อม ชิวะยอมจะสู้ตาย
เพื่อชาติกษัตริย์หมาย ยศไทยเถลิงชม
๏ ล้วนเพียรพิรีย์พรร คสกรรจ์สิเกินสม
ควรคนอนนต์รม ยสมัครอาสา
๏ จำคัดเสาะจัดควร เหมาะกะส่วนจะส่งคลา
ไคลสู่สนามฐา นยุโรปประจันบาน
๏ ทัพบกระบอบศึก สิอธึกณเบาราณ
พร้อมเข้าณเหล่าชาญ จตุรงคเสนา
๏ พลช้างและม้าเหล่า รถเท้าครไลสา
มารถสรรพศาสตรา วุธจ่ายประจำกร
๏ บัดนี้วิธีรบ และขนบขะบวนรอน
เปลี่ยนแปลงแสดงตอน ปฏิยุทธยิ่งพล
๏ กองบินกะกองพา หนยานรถยนตร์
สองคราวคระไลดล ทิศอัสดงคต์พลัน
๏ ยั้งยังฝรั่งเศส มิตรเขตตทัพขันธ์
เข้ายุทธโรมรัณ อริร่วมกระทำการ
๏ สิทธิ์ผลสกลฝ่าย ริปุพ่ายพินาสลาญ
สัมพันธมิตรมาน ชยะรวมกะเราไทย
๏ ไตรรงค์ธวัชวัต ถุสะบัดระบือชัย
เชิดนามสยามใน ภพทูรทวีปเผย
๏ เป็นความสง่าลบ ณบุรพบสบเคย
ศึกหลวงจะล่วงเลย รณะถึงยุโรปฐาน
๏ แต่กาละครานั้น ผลพลันลุบันดาล
แด่ไทไผทมาน นิรมิตสฤทธิ์ดล
๏ คืบยาวเขยิบฐา นะณภาคภูมิ์กล
กับอารยชาติชน กะจะชัดกะจ่างฉาน
๏ โดยมีมหาราช สุรปราชญ์พระจอมปราณ
เลิศวีระลักษณ์ศาน ติพระฉัฏฐราชัย
๏ ทรงเป็นประมุขนา ยกราชะพาไคล
สู่ศรีวิถีไพ บุลพัฒน์สวัสดิ์ผล

สุรางคณางค์

๒๘ แท้จริงสิ่งอัน พิเศษสำคัญ
อย่างบ่งยุบล สยามยามได้
พิชัยเชิงรณ ร่วมสัมพันธ์สน
ธมิตรทั้งมวล  
๏ ตามข้อต่อคืบ รัฐประศาสน์สืบ
อุบายขะบวร สัญญาระวาง
เทศต่างต่างชวน เชิงฉันท์อันควร
ทำกันมั่นคง  
๏ ยังเป็นเช่นก่อน ไม่เพลาเบาผ่อน
อิสสระประสงค์ ผูกรัดมัดพจน์
ยากปลดหย่อนปลง เปลื้องสิทธิ์ปลิดลง
สู่ภาคพอเสมอ  
๏ ปางเป็นโอกาส สยามนามชาติ
หนึ่งซึ่งเสริมเปรอ ปรุงปรนรณกรรม
เกื้อนำเสนอ นับบุณย์คุณเลอ
เหล่ามิตรสัมพันธ์  
๏ สมเด็จพระมง กุฎเกล้าจักรีพงศ์
ฉัฏฐราชันย์ ราชปรีชาญาณ
วิจารณ์ซึ้งสัณห์ สบคาบสำคัญ
สมควรส่วนสาร  
๏ โปรดทรงส่งเอ กามาตย์อเม
ริกันอันชาญ วาจาสามารถ
ว่องวาทโวหาร ชวนะปฏิภาณ
แผนผู้ดอกเตอร์  
๏ ชื่อท่านฟรานซิส บี. แสฺยรสถิต
ฐานันดร์เสนอ กัลยาณไม
ตรีไขนามเธอ พระยาศักดิ์เลอ
เป็นทูตทำการ  
๏ พร้อมพระวรวงศ์ พระองค์เจ้าทรง
เสนาบดีฐาน ต่างประเทศปวง
ทะบวงบงงาน พระนามขนาน
ไตรทศประพันธ์  
๏ ไปลุยุโรป หว่านล้อมอ้อมโอบ
ออกคำจำนรรจ์ กะมหาประเทศ
เพื่อเหตุผลหัน หาความยุตติธรรม์
ท้าวสิ่งจริงใจ  
๏ ปลงเปลี่ยนสัญญา ราชไมตรีปรา
รพภ์ทางอย่างไร ไม่เป็นเช่นแอก
เหลือแบกแรกไทย รับมาช้าไฉน
ควรขอพอเพลา  
๏ จึงท่านทั้งสอง ราชธูรสนอง
เสนอสำเนา เนื่องมัญชุภาณ
ไหวชาญว่องเชาวน์ อ่อนน้อมพร้อมเสา
พภาพพาจา  
๏ แยบสุดยุตติสม นิยุตติ์นิยม
ไมตรีสัญญา เยี่ยงราชสัมพันธ์
พ้องกันกะมหา ประเทศนานา
อำนวยด้วยเสริม  
๏ อิสสระประเทศ สยามยามเจตน์
จริงจะประเดิม ผลนำสัมฤทธิ์
รอบสิทธิเฉลิม ลักษณะเต็มเติม
ตามข้อพอใจ  
๏ อาทิ์เก็บศุลกะ ภาคภพพาหิระ
การกัยวิกัย ประกอบชอบพอ
ร้องขอขีดไฉน คาดกะหฤทัย
ขึ้นควรส่วนผล  
๏ อํํานาจเนื่องศาล กงสุลหนุนการณ์
บางอย่างอ้างยล ทำนุทุรพรรค
ผิดหลักจักดล เลวเสื่อมเหลื่อมสน
ธิราชไมตรี  
๏ เปลี่ยนเข้าเนายุต ติธรรมไทยสุด
ศาลดุลการี เรียกพิจารณา
บัญชาคดี ชนต่างด้าวมี
จิตต์น้อมยอมตาม  
๏ ความเลอเสมอภาค มิเห็นเป็นหลาก
จากอารยะนาม ประหนึ่งมหา
รัฏฐ์ฐานะงาม เพ็ญแผ่แต่สยาม
ยามรัชย์จำเริญ  
๏ มิต้องหมองมล มูลเพลี้ยเสียผล
ดาลให้ได้เผชิญ สุภช่องคล่องโชค
ชอบโลกดำเนิร น่าจะสรรเสริญ
พระคุณสุนทร  

ภุชงคปยาตรฉันท์

๑๒ กิฬาการประการสรร พะเพิ่มมั่นสโมสร
สมานรักสมัครรอน ละเรื่องชั่วจะกลั้วชน
๏ เพราะเป็นของประลองแข็ง สมรรถแรงบุรุษจน
สตรีภาพพะยุงพล ณภาคกายและฝ่ายใจ
๏ ประกอบรมยะสมวา ระหว่างกาละกล้าใน
สถานคราจะปราไส และถี่ถ้วนมิควรกลัว
๏ บรมฉัฏฐรัชย์ภู มินาถผู้พระอยู่หัว
ตระหนักเนื่องณเบื้องบัว พระบทรัชธบำรุง
๏ ประจักษ์แจ้งแถลงราช นิยมอาทิ์จรูงจุง
เจริญรอยพระบาทปรุง ประปรนเปรอเสมอกาล
๏ อุบัติผลอนนต์น่า ประหลาดมาลุบันดาล
อนามัยสมูฏฐาน ทะนุกนักกิฬาเนือง
๏ เพราะอบรมสราญชนม์ สนุกสนธิพลเมือง
ประคัลภ์ขันติมั่นเรือง พลารักษ์ประทักษ์ธรรม
๏ ประโยชน์แผ่ลุแพร่ไป ตลอดใฝ่กิฬากรรม
ณนักรบขนบนำ นิกรเรียนระเมียรหมาย
๏ คะนึงคราอนาคต จะปรากฎสรีร์กาย
มนัสจริงณหญิงชาย สยามชาติสิอาจหาญ
๏ ละครกิจชะนิดหนึ่ง สุขุมซึ้งสรูปการณ์
เสมอสิกขธูรสาร สนิทราวกะแบบเรียน
๏ ประดาเห็นประเด็นเหตุ ผะจงเจตนาเพียร
แสดงแยบผิแนบเนียน ณบทแจ้งเสมือนจริง
๏ ประโดยราชฤดีโปรด ละครโสดสถานอิง
อเนกศาสตรพาดพิง พระปรารมภ์นิยมตาม
๏ ประสงค์สิปปนาฏครบ มหุสสพสยามยาม
สงบกาลบุราณงาม สงวนทำนุจำรูญ

อุปชาติฉันท์

๑๑ พระราชปรีชา ธิกะญาณเยี่ยมพูน
ไพโรจน์พระโปรดบูร ณประสิทธิศาสตรสาร
๏ เชิดชี้คดีอา ทิประการะเกี่ยวกาล
ประวัติเบาราณ นิติวรรณคดีเสริม
๏ คุรูปกรณ์สิก ขะอธิกทะนุกเติม
การรัฐประศาสน์เดิม จะไฉนและใหม่มี
๏ มวลธรรมศาสตร์นา ฏกะวาทะเวที
พระธรรมศาสตรนี ติละบองณคลองดุลย์
๏ ประยุทธวิชชา นรศารทูลจุน
เจือปลุกระเริงหนุน มนะรักษศักดิ์นาม
๏ ทั่วราชประเพณี ทะนุมีนิยมตาม
บุราณผะสานยาม ยุคใหม่สมัยแผน
๏ นิกายณฝ่ายศา สนภาคะคือแดน
เกิดบุณยคุณแสน สุภผลพระทราบผอง
๏ อังกฤษฝรั่งเศส ณประเภทะทำนอง
พจีประจำของ ปรชาติยุโรปชน
๏ มคธณพจน์พรร ณนะสันสกฤตหน
ชมพูทวีปดล พระอดุลยบัญญา
๏ ทรงมากสมรรถมี พลพีริยุตสาห์
เสาะสอบประกอบกา ละประเทศเหตุหมาย
๏ ละอย่างพระวางวากย์ ผิวะยากธบรรยาย
หยั่งแจ่มวิจารณ์ภาย ณฉะบับละบองมี
๏ ถ้อยศัพท์กระชับชัด สรอัตถะอันดี
ประดาณวาที สกเทศวิเทศสม
๏ ขยายกระจายอรรถ บริวรรตวจีคม
คำพื้นจะกลืนกลม และมิผิดณภาษา
๏ เชิงกลอนละครขำ เสนาะล้ำตลอดวา
ทะร้องฤจรรจา เหมาะเจาะบทแสดงบง
๏ จะแจงแถลงชื่อ ระบุฤาสรูปลง
เป็นหมวดประมวลสง เคราะหะราชนิยมไข
๏ เพียงเอกภาคอ้าง ตะละอย่างณศาสตรนัย
ระดับสินับไพ บุลพ้นจะคณนา
๏ พระขิปปญาณชาญ ประติภาณสุปรีชา
เชิงปราชญ์ประกาศพา ทประพนธไพศาลย์
๏ สมเทอดบรมฐา นิยคารวาจารย์
คะนึงพระคุณนาน อนุสนธิชนหลัง
๏ พระราชนิพนธ์พากย์ กลหลากจะเลื่องดัง
ก้องเฟื่องพระเกียรติฝัง ณพิภพมิลบลง
๏ กฎหมายระวางเทศ นิติเภทสนิทคง
พระนลธบรรจง และสกุนตลาสาร
๏ พระปลุกมนัสอา กรศารทูลการ
คือเทศนาขาน คติข้อประสาทสอน
๏ โรโมยุเลียตเสก บทเชกสเปียตอน
มหาตมากร และพระร่วงละโว้สาร
๏ กวีประจำรัช ชพระฉัฏฐภูบาล
ธรรมาภิมณฑ์ขาน ยศศักดิคุณหลวง
๏ นามถึกสกุลจิตร ะกถึกประเทิงดวง
กมลนิพนธ์ปวง บทฉันทวาที
๏ และนามะผันศัก ดิประจักษ์พระยาศรี
สุนทรกะสร้อยมี สิริวากยโวหาร
๏ ต่างแต่งถวายไทย พจนไพเราะสำนาน
เถลิงนิยมมาน ผิวะม้วยมิม้วยหมาย

โตฎกฉันท์

๑๒ วรกิตติอนึ่ง วิเคราะห์พึงปริยาย
อุปบัติฉะเพาะภาย ณพระรัชชสมัย
๏ ขณะราชย์อภิเษก อดิเรกพิธิไกร
พระกษัตริย์ไผท ทิศเบื้องบุรพา
๏ ณอดีตภพดล พหุหนผิจะหา
กลฉัฏฐมรา ชสยามจะมิยล
๏ สุภมงคลเมื่อ กิจะเกื้ออนุสนธิ์
อภิเษกสกล สิริรัชยถวัลย์
๏ คณะราชกุลพง ศะพระองค์อนุพันธ์
ณประเทศปรสรร พะเกษตรสกล
๏ ตะละท่านสุสถิต ยศกิตติกมล
ฤดิปีติณตน ก็สมัครสมาน
๏ จรจากดนุเขต ตประเวสนวาร
ลุสโมสรงาน สหะเกี่ยวมหะกรรม
๏ และอนึ่งยุคยุท ธประทุษฐกระทำ
ประลุศานติเพราะชำ นะอธรรมะริปู
๏ ระบุจอมพลจอฟฟร์ ธประกอบกิติฟู
ณสนามรณชู ชยะสิทธิผลงาม
๏ ขณะเยี่ยมบุรพา ทิศะมาแวะสยาม
ลุมหาบุริราม วิรราชบดี
๏ ประจุคมกิจควร กฤติมวลยศมี
มนเปรมสุขะปรี ดิประการอนนต์
๏ และอเนกคณะแขก บุรแผกขณะหน
ณบุราณจรดล วรธานิยไกร
๏ กิจเยี่ยมธุระเกี่ยว กะแวะเที่ยวณไผท
พหุภาคะสมัย พิรฉัฏฐชนินทร์
๏ พิเคราะห์เห็นผลเหตุ เพราะพระเดชบดินทร์
ลุภิโยภพะยิน ยศเกียรติกระจาย

มาณวกฉันท์

ราชวรลาภ ทราบณประการ
เอกอนุมาน แน่อธิบาย
บรรพกฤดา การกะภาย
ในขณะหมาย ฉัฏฐสมัย
๏ สิทธิประเสริฐ เกิดลุประกอบ
บารมิรอบ บุณยไผท
เกรียงกฤติศักดิ์ อัครมไห
ศูริยะใน รัชชะพระองค์
๏ อาทินิทัศน์ วัตถุบุราณ
โลหะผะสาน แผ่นฉะเพาะบง
รูปกปิธุช ครุฑสริร์ยง
ยอดระยะธง นำพลงาม
๏ หนึ่งศรศัสตร์ พัตถุแสดง
นามะพระแสง ศรพลราม
เป็นสิริชัย ในพิธิตาม
ศาสตรสยาม ไสยนิยม
๏ อิกพระคชา ธารเศวต
สารวิเศษ ลักษณะสม
ขึ้นณระวาง ปางอนุกรม
ผ่านพระบรม รัชยะมินาน
๏ เป็นชยฤกษ์ เกริกกฤตยา
ดุลยมหา โพธิ์สมะภาร
ราษฎร์สินิยม ชมสุภการณ์
รัฏฐะก็ศานติ์ สิทธิ์เพราะพระบุณย์
๏ เนื่องสิริรัฐ ฉัฏฐบพิตร
มีนิรมิตร ทัสนะหนุน
น้อมหฤทัย ในพระอดุล
ราชวรคุณ ควรสดุดี
๏ เสตุประเดิม เริ่มอุปบัติ
ข้ามนทิตัด ติตถวิถี
จากพระนคร จรบถลี
ลาศลุบุรี ฟากธนฐาน
๏ เพื่อนรพรรค มรรคทวิธา
นีคมนา คมอุปการ
เกิดผลเห็น เป็นหิตสาร
มัคคพระทาน สาธรคุณ
๏ ยังพหุหลาก ภาคทะนุโปรด
สรรพประโยชน์ ทรงพระกรุณย์
รอบรมะสา ธารณสุน
ทรเพราะพระบุณย์ บารมิปรุง

ฉะบัง

๑๖ เสด็จทรงธำรงราชย์ผดุง ด้าวสยามนามกรุง
เทพรัตนโกสินทรสถาน  
๏ สบคราอ่าโอ่โอฬาร เลอล้ำดำนาน
จำเนียรเกียรติยศเยียมยล  
๏ พระราชประมุขปลุกชน ไทยตื่นฟื้นตน
เต็มจิตต์สงวนสิทธิ์อิสสร  
๏ ทรงนำส่ำชาตินามกร คือไทยให้ขจร
ประจักษ์ศักดิ์เสียมสรรเสริญ  
๏ เทิดสู่ภูมิธรรมจำเริญ รอบนำดำเนิร
ณอารยฐานวิถี  
๏ สยามรัฐวิวัฒน์สวัสดี ถนัดทัสสนีย์
นัยราชประวัติวรรณนา  
๏ เนื่องเพียงน้อยพรรษ์คัณนา ลำดับสรรพจา
รึกสิบห้าศกตกกาล  
๏ สองพันสี่ร้อยสร้อยผะสาน หกสิบแปดวาร
หวั่นไทยไห้โดยโหยหา  
๏ เดือนสิบสองพ้องพฤศจิกา ยนวันอันปรา
กฎที่ยี่สิบหกผะสม  
๏ สวรรคตกำหนดอนุกรม พระชนมนิยม
เพียงสี่สิบหกศกสมัย  
๏ มีราชประวัติอัตถไพ บูลตามความใน
ฉันทพจน์จรดบริบูรณ์  
๏ กรุงเทพ ฯ คำฉันท์อัญทูล ถ่องความตามมูล
สมิทธิถ้อยทางกวี  
๏ ลำดับนับโดยภูบดี รัตนโกสินทร์ศรี
สยามไผทไทยครอง  
๏ แต่หนึ่งถึงหกเห็นผอง ภาคนำสำนอง
พระเดชพระคุณควรอัตถ์  
๏ เอาความตามพระราชประวัติ พระปฐมรัชช์
ตราบฉัฏฐราชย์รวมแสดง  
๏ เป็นปานดำนานเนื่องแถลง หลักฉันท์อันแจง
ประจักษ์ในลักษณลิขิต  
๏ คือขุนสุนทรภาษิต พร้อมกับนายชิต
บุรทัต ช่วยกันพรรณนา  
๏ ผู้หนึ่งผูกซึ่งความมา ผู้หนึ่งคะนึงวา
ทะวากย์ไว้รสบทฉันท์  
๏ สำรวจตรวจเกลาเค้าวรร ณคดีโดยสัณฑ์
ประวิงติงบ้างทางควร  
๏ ร่วมเพียรร่วมพละประมวล ร่วมชาญร่วมชวน
ร่วมคิดร่วมจิตติ์จำนง  
๏ สำเร็จเสร็จรวมสรุปลง ด้วยปลื้มดื่มปลง
เปรมราชประกาศวรรณคดี  
๏ อำรุงอักษรศาสตร์ศรี เสริมเกียรติกวี
วากย์วุฑฒิหวังตั้งตน  
๏ เฉลิมรัชช์เฉลิมขัตติย์เฉลิมคณ เฉลิมชาติเฉลิมชน
เฉลิมนามเฉลิมความเป็นกวี  
๏ ไว้แยบแบบเรียนเพียรพี ริยการีย์
ล้วนหลักวิจักษ์เหตุการณ์  
๏ ผิดพลาดขาดคำสำนวน เยาว์ชินหย่อนชาญ
อภัยให้ด้วยช่วยชู  
๏ กรุณาอาทร์เอื้อเอ็นดู ที่ผิดเป็นครู
ในคราหน้าคราวกล่าวฉันท์  
๏ เดชะสวามิภักดิ์รำพัน สรวมสิทธิชยัน
ดรดลแด่ท่านทั้งหลาย  
๏ อ่านฟังคำฉันท์บรรยาย ประสิทธิสมหมาย
มุ่งใดได้ดังหวังเทอญ  

ศุภมัสดุ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ