วัน เดือน ปี ที่คัดลอกต้นฉบับต่าง ๆ
ฉบับที่ ๑ ตันฉบับเป็นของวัดป่าแพ่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงไหม่ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำมาปริวรรต พิมพ์ออกเผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๑๙
ในท้ายต้นฉบับเขียนเป็นโคลงไว้ว่า
(๑) ปางสักราชได้พันร้อย | เก้าสิบหก |
เรียมร่ายเขียนตัวยก | ใส่ไว้ |
อัสสยุชเบ่งเปียวปก | เถิงตราบ วันนั่น |
เม็งแม่นวันพุธอั้น | ลวดแล้วสระเด็จดล ฯ |
แปล จ.ศ. ๑๑๙๖ (พ.ศ. ๒๓๗๗) ข้าพเจ้าได้คัดลอกออกมาใส่ไว้ (ในใบลาน) ตรงกับเดือน ๑๑ วันเม็งว่า วันพุธ จึงถึงที่สำเร็จ ฯ
(๒) ขณะจักเข้าสู่ | ยามแตร |
สุริเยศเรืองผันแผ | สู่ห้อง |
ราสีสิงห์อยู่เรงแร | เมียงม่วน มวลเอย |
ก็สระเด็จเสียงส้อย | ลวดแล้วเรจฉนา ฯ |
แปล ขณะที่พระอาทิตย์กำลังส่องแสง เดินขึ้นสู่เวลาใกล้เที่ยง สถิตอยู่ในราศิสิงห์เล็งแลลงมา เพื่อความสนุกทั้งมวล ก็สำเร็จในการคัดลอก ฯ
(๓) มะเม็งบักบอกเบื้อง | บีขอม |
ไทยเรียกเร้ารมรอม | เรื่องรู้ |
กาบสง้าบ่มีปลอม | สักสิ่ง สังเอย |
เขียนขีดโดยเผ่าผู้ | ส่ำรู้เขาเดิม ฯ |
แปล “มะเมีย” บอกชื่อไว้เป็นชื่อของพวกขอมเรียก ส่วนคนไทยเรียกว่า “ปีกาบสะง้า” แน่นอน คัดลอกโดยผู้เข้าใจรู้เรื่องประเภทโบราณ ฯ
(๔) จักเฉลยบักบวกเบื้อง | นามเรียม ก่อนแหล่ |
แสนขีดเขียนทวยเทียม | ย่าไว้ |
หนังสือไทยบ่เคยเจียม | ตัวเล่า เริงเอย |
บ้างเบี่ยงบิดเบี้ยวบ้าย | บ่สู้เสมอเหมือน ฯ |
แปล จะบอกชื่อข้าพเจ้าก่อน ข้าพเจ้าชื่อว่า “แสนขีดเขียน” ได้คัดลอกตามต้นฉบับไว้ เขียนหนังสือไทยนิเทศไม่ค่อยชำนาญ ตัวอักษรไม่สม่ำเสมอกัน บางตัวก็บิ่นบางตัวก็เอน ไม่ค่อยเสมอเหมือนต้นฉบับ ฯ
ฉบับที่ ๒ เป็นฉบับที่ข้าพเจ้าได้ยืมจาก ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร นำมาปริวรรตเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ผู้คัดลอกเขียนต่อท้ายไว้ว่า
(๑) สุรินท์เขียนขีดด้วย | ตนเอง |
ยังคร่าวคราวเมืองเมง | มล่านเยี้ยว |
พิธาจารจุ่งจักเลง | ผายผ่อ ดูเทอ |
เป็นตำนานเรื้อรั้ง | เกล่าเกื้อธัมมดา ฯ |
แปล “สุรินท์” เป็นผู้คัดลอกด้วยคนเอง เรื่องราวโคลงเมืองพม่า มอญและเงี้ยว เชิญพฤฒาจารย์พิจารณาดูเถิด มันเป็นประวัติเรื่องราวโบราณนานมาแล้ว ฯ
(๒) สุรินท์ยังร่ำไรย | หาหา |
ม่อนยังจงใจจา | จิ่มเจ้า |
มหาทิพพะคันธา | อาทิตย์ ร่วม.... |
เรียมราชม่อนผู้เผ้า | ไต่เต้าสะเดินมา ฯ |
แปล สุรินท์ยังรำพึงรำพันหาอยู่ พี่มีใจประสงค์จะมาคุยกับน้องมหาทิพพคันธา ผู้รุ่งเรืองเสมอพระอาทิตย์ พี่ผู้ใหญ่ยังเดินมาหา ฯ
(๓) สุรินท์เขียนขีดด้วย | อัตตา |
ยังคร่าวคราวมังทรา | ผราบผร้าย |
เชียงใหม่เขตล้านนา | โดยทั่ว ทิสเฮย |
เป็นกั่นโลงไว้หื้อ | เผ่าผู้ประสงเสิน ฯ |
แปล “สุรินท์” คัดเขียนด้วยตัวเอง เรื่องกลอนกล่าวถึงมังทรายกทัพมาปราบเมืองเชียงใหม่และลานนาไทยทั้งหมด เป็นโคลงไว้เพื่อให้ผู้มุ่งหมายความสนุกสนาน ฯ
ตอนท้ายของฉบับนี้ บอกวัน เดือน ปี ที่คัดลอกสำเร็จไว้ ดังนี้
“จุฬสักกพัททะได้ ๑๒๐๐ ตัว ปลีเปลิกเส็ด ไทล้วงได้ เดือน ๑๐ แรม ๓ ค่ำ วัน ๒ แลฯ มังทราแล สะเด็ดแล้วยามเช้าหากกลินเข้างายหั้นแล”
แปล จ.ศ. ๑๒๐๐ (พ.ศ. ๒๓๘๑) ปีจอ สัมฤทธิศก เดือน ๘ แรม ๓ ค่ำวันจันทร์ ฯ เรื่องมังทราแล สำเร็จตอนกินข้าวเช้านั้นแล ฯ
ฉบับที่ ๓ เป็นอีกฉบับทนึ่งที่ข้าพเจ้ายืมมาจาก ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร นำมาปริวรรต เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ในตอนท้ายของฉบับนี้ผู้คัดลอกไม่ได้แต่งเป็นโคลงบอกอะไรไว้ แต่เขียนเป็นร้อยแก้วธรรมดาว่า
“มังทรารบเชียงใหม่ จุฬสักกพัททะได้ ๑๑๙๙ ปีเมืองเล้า เขียนแล้วในวันปรัสแลพุทธวงส์ภิกขุเขียน ปางเมื่ออยู่วัดเวฬุวันน์วันนั้น มังทรารบเชียงใหม่”
แปล มังทรารบเชียงใหม่ จ.ศ. ๑๑๙๙ (พ.ศ. ๒๓๘๐) ปีระกา นพศก เขียนเสร็จเมื่อวันพฤหัสบดี พุทธวงศ์ภิกขุเป็นผู้เขียน สมัยเมื่ออยู่วัดเวฬุวันครั้งนั้น มังทรารบเชียงใหม่ ฯ