พระทันตธาตุชั้นที่ ๓

เซอ เย. อี. เตนเนนต์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้โดยย่อ จะยกมาลงไว้ก่อน “พระเจ้ากรุงแกนดีซึ่งทรงนามว่า วิกรมพาหุ เมื่อได้ทรงทราบว่าพระญาติซึ่งอยู่เมืองคอตตา ได้ทำการล่อลวงพระเจ้าหงสาวดีโดยส่งพระราชธิดาปลอมไปดังนั้น เพื่อจะแก้ไข จึงจะยอมให้พระราชธิดาของพระองค์เอง แลว่าจะส่งพระทันตธาตุที่แท้จริงอันซ่อนไว้ กล่าวว่าพระทันตธาตุซึ่งส่งไปแต่เมืองโคลัมโบก็ดี ซึ่งว่าโปรตุเกศทำลายเสียที่เมืองคัวก็ดี เปนแต่ของจำลองพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า มีแท้แต่ที่ของเธอองค์เดียว จะส่งไปเปนทุนสินในการแต่งงารด้วย พระเจ้าหงสาวดีกอบไปด้วยทิฏฐิมานะ ไม่ยอมที่จะให้ปรากฎว่าพระองค์ถูกล่อลวง”

เรื่องพิสดาร เดอเดาโต ได้กล่าวต่อไปดังนี้ “เพื่อจะให้จบเรื่องพระทันตธาตุนี้ ข้าพเจ้าจะเล่าถึงเหตุการณ์อันได้เกิดขึ้น เมื่อปีต่อมาในระหว่างพระเจ้ากรุงแกนดี แลพระเจ้าพรัหมะ เจ้ากรุงหงสาวดี ในเหตุการณ์เรื่องที่ดองยวงเจ้าแผ่นดินสิงหฬได้ทำนั้น ในการที่ดองยวงได้ผลประโยชน์จากพระเจ้าหงสาวดี แลเรื่องพระทันตธาตุได้ทราบถึงพระกรรณพระเจ้าแกนดีโดยเร็ว เมื่อทราบว่าทรัพย์สมบัติเปนอันมาก ซึ่งพระเจ้าพรัหมะให้ส่งมาก็มีความทยานพระทัยด้วยความริศยา (เพราะเหตุว่า ดองยวงกับพระองค์ได้เกี่ยวข้องเปนสัมพันธวงศ์แก่กัน โดยได้ทำอาวาหมงคลด้วยพระน้องนาง หรือบางปากกล่าวว่าพระธิดาของพระองค์) ไม่ช้าก็ส่งพระราชสาส์นให้ทูตถือไปยังกรุงหงสาวดี พระเจ้าหงสาวดีก็ต้อนรับโดยเกียรติยศ ราชทูตก็แจ้งการตามพระราชประสงค์ของเจ้าตน ว่านางซึ่งดองยวงได้ส่งไป ว่าเปนพระราชธิดานั้น หาใช่เปนพระราชธิดาไม่ เปนแต่ธิดาของอำมาตย์กรมวังผู้ใหญ่ พระทันตธาตุซึ่งได้ทรงรับไว้ด้วยมหุฬารด้วยสักการเคารพนั้น ทำด้วยเขากวาง แลกล่าวต่อไปว่า พระเจ้ากรุงแกนดีมีพระราชประสงค์ยิ่งนักที่จะใคร่ได้เปนสัมพันธมิตรด้วยพระเจ้ากรุงหงสาวดี จึงได้แต่งให้ตัวมา เพื่อจะได้บอกถวายพระราชธิดา ซึ่งเปนพระราชธิดาเกิดจากพระองค์แท้ ไม่เปนแต่สักว่า นอกนั้นอีกได้กราบทูลให้ทราบว่า พระเจ้ากรุงแกนดีเปนผู้ซึ่งได้รักษาพระทันตธาตุแท้จริงของสมเด็จพระพุทธเจ้าไว้ พระทันตธาตุซึ่งว่าดองคอนสแตนไตน์จับได้ที่ แยฟนา หรือที่พระเจ้ากรุงหงสาวดีได้ไว้ อันถือว่าเปนของแท้จริงนั้น ไม่เปนของแท้จริง แลได้ทรงตระเตรียมที่จะสำแดงจดหมายเหตุโบราณ ซึ่งจะให้เห็นเปนพยานสำคัญได้ด้วย

พระเจ้าพรัหมะได้ทรงฟังข้อความดังนั้น ก็ทรงพระดำริห์ลังเลในพระทัย แต่ทรงเห็นว่าเจ้าหญิงองค์นั้น คนทั้งปวงได้ทำสัตยานุสัตย์ถวายว่าเปนพระราชินีอัครมเหษีแล้ว พระทันตธาตุเล่าก็ได้กระทำสักการบูชารับรองเปนการโตใหญ่ แลได้ตั้งไว้ในวิหารซึ่งสร้างขึ้นฉเพาะ จึงได้ตกลงพระทัยที่จะระงับเหตุการณ์อันนั้นเสีย เพื่อจะมิให้ต้องทรงรับว่า พระองค์ถูกการล่อลวง เมื่อทรงพระราชดำริห์ดังนั้นแล้ว จึงได้รับสั่งตอบว่า พระองค์มีพระทัยยินดี ในการที่จะได้มีเกียรติยศเปนสัมพันธวงศ์ด้วยราชตระกูลกรุงแกนดี กับทั้งจะได้รับพระทันตธาตุนั้นด้วย แลขอบพระทัยพระเจ้ากรุงแกนดี เพื่อจะให้เปนเครื่องหมายแห่งความนับถือ จึงได้แต่งเรือกำปั่นบันทุกของเต็มลำส่งไปด้วยทูต พระองค์ให้แต่งเรือสองลำบันทุกเข้าแลผ้าต่าง ๆ อันมีราคาลำหนึ่งส่งไปยังดองยวง ลำหนึ่งส่งไปยังพระเจ้ากรุงแกนดี ลำที่ส่งไปถึงดองยวงนั้น ส่งพวกคนในบังคับโปรตุเกศทั้งหลาย ซึ่งได้จับไว้เปนชเลยไปด้วย ในพวกชาวโปรตุเกศเหล่านั้น มีผู้หนึ่งชื่อแอนตอเนียว โตสคาโน ซึ่งได้เปนผู้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ข้าพเจ้าฟังเปนหลายครั้ง เรือทั้งสองลำนั้นได้มาถึงเกาะลังกา เว้นไว้แต่ลำซึ่งสำหรับท่าเมืองแกนดี ถูกเจาะจมเสียก่อนที่จะได้ขนสินค้าขึ้น สิ่งของทั้งปวงก็สูญหมด ทูตก็จมน้ำตาย บางคนกล่าวว่าการอันนี้ได้ทำตามคำสั่งของดองยวง ถ้าเปนเช่นนั้นจริง ก็คงเปนความคิดของอำมาตย์กรมวังผู้ใหญ่ เพราะเหตุว่าเจ้าแผ่นดินนั้นไม่สู้เปนผู้เจ้าความคิดจริงจังอันใดในเรื่องนี้นัก การก็เปนอันจบกันอยู่เพียงนั้น”

คัดจากหนังสือ เตนเนนต์ ว่าด้วยเมืองลังกา หน้า ๒๑๕ ถึงหน้า ๒๒๑

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ