วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๕ ดร

วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๕

ทูล สมเด็จกรมพระนริศ

พระวินิจฉัยเรื่องตำนานวังเก่า ที่ประทานมา ๒ ตอนได้แก้ตามพระดำริห์ทุกแห่งแล้ว

เรื่องบ้านเสนาบดีที่ท้ายสนม เปนเรื่องที่หม่อมฉันได้รู้สึกฉงนและถึงได้ไปดูท้องที่นั้นเอง พิเคราะห์ความเห็นว่าอาจจะเปน ๓ บ้าน หันหน้าออกถนนท้ายสนมด้วยกันได้ทั้ง ๓ บ้าน ด้วยวัดโพธินั้น เดิมโบสถ์อยู่ที่การเปรียญเดี๋ยวนี้ข้างหลงออกไปเปนป่าช้า น่าวัดคงตกลำน้ำ วัดโพธิคงจะเปนแต่วัดเล็กๆ และเปนวัดสร้างใหม่ เมื่อภายหลังแผ่นดินพระนารายณ์ เพราะแผนที่ป้อมเมืองธนบุรีที่ฝรั่งเศสทำ หามีวัดโพธิปรากฎอยู่ในนั้นไม่ เขตรวัดโพธิชั้นเดิมข้างด้านเหนือ หม่อมฉันประมาณว่าจะไม่ถึงวิหารยอด กรมหมื่นนรินทรภักดีเปนบุตรเจ้าพระยามหาสมบัติครั้งกรุงธน บ้านบิดาเห็นจะอยู่ริมน้ำตรงนั้น แปลว่าต่อกับบ้านจีนไปทางพระราชวังเดิม แต่บ้านเจ้าพระยารัตนาพิพิธ บ้านพระยาอุไทยธรรม บุนนาค มาตั้งต่อเมื่อสร้างกรุงเทพฯแล้ว ประสงค์จะให้อยู่ไกลพระราชวังจึงตั้งต่อขึ้นมา บ้านพระยาอุไทยธรรม บุนนาค คงเปนบ้านกลาง บ้านเจ้าพระยารัตนาพิพิธอยู่ต่อพระราชวัง เจ้าจอมจึงหนีไปอาศรัยเมื่อครั้งไฟไหม้ปราสาท แต่บ้านเหล่านี้คงเปนบ้านเล็กๆทั้งนั้น เพราะเปนเวลาแรกสร้างพระนคร ที่อื่นในตำบลนั้นไม่เห็นมี ลองคิดดูว่า ฤๅบ้านพระยาอุไทยธรรม บุนนาค กับบ้านเจ้าพระยารัตนาพิพิธจะเรียงกันต่อพระราชวังทางด้านใต้ บ้านหนึ่งหันหน้าออกถนนท้ายสนม อิกบ้านหนึ่งหันหน้าออกถนนสนามชัย ดังนี้ก็ขัดข้องด้วยขยายเขตรวัดพระเชตุพนทางถนนสนามชัยมาข้างเหนืออย่างทุกวันนี้ ตั้งแต่เจ้าพระยารัตนาพิพิธยังมีชีวิตอยู่ ความไม่ปรากฎว่าต้องย้ายบ้าน ได้พิเคราะห์เห็นความดังทูลมานี้ จึงยอมฟังตามที่เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ และกรมหลวงบดินทรได้แสดงไว้.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ