ภาค ๔

โคลง ๔

๏ อันกลเกาศิกทั้ง ภรรยา
เปนบริวารวิศวา มิตรเจ้า
สิ่งใดท่านจอมยา เริ่มคิด
ศิษย์ย่อมจักทราบเค้า เงื่อนข้อทุกสถาน ฯ

โคลง ๓

๏ วาระหนึ่งกลกันตี เมียธชีต่ำต้อย
เรียกยุวราชน้อย ยาตรเข้ามาหา ฯ

โคลง ๒

๏ โรหิตาศวะน้อย ไยเจ้าคร้านนักข้อย
จักต้องเพื่อนสู ฯ  

โคลง ๔

๏ กูเลี้ยงเจ้าเพื่อใช้ การงาน
คุ้มค่าเงินที่ซื้อ แม่เจ้า
ดูซิเด็กในย่าน ละแวก นี้นา
เขาบ่เกียจคร้านเฝ้า กอบการ
๏ ทุกวารเขาไต่เต้า พนา
ลัดเลาะเสาะหาฟืน สู่บ้าน
ไยเจ้าไม่เบิกตา ดูเพื่อน บ้านเฮย
สุดจะยอมให้คร้าน อีกครา ฯ

โคลง ๓

๏ จงคลายังแนวชัฏ ตัดพื้นแยกสู่เหย้า
เปนกรณียะเจ้า ประจำวัน ฯ

โคลง ๔

๏ จันทรามาติได้ ยินสั่ง
ให้ลูกน้อยสู่ยัง ป่าไม้
อกนางแทบภินท์พัง พินาศ
ปริเทวะร่ำไห้ เหือดสิ้นฤๅมี ฯ
๏ อ้ายปิยะบุตรผู้ ชื่นใจ แม่เอย
อายุพอหน่อไท ย่างเข้า
ห้าขวบอยู่ในวัย นอนแนบ แม่แฮ
ยอดเสน่ห์จักเต้า ป่ากว้างได้ไฉน ฯ

โคลง ๓

๏ ทรามวัยหักห้ามทุกข์ พลางปลุกใจลูกแก้ว
ให้กระทำจิตต์แกล้ว สู่แคว้นพนาลี
๏ ทำกรณีย์ประจำ ตามคำสั่งเช่นเจ้า
หริศจันทร์เกิดเกล้า แห่งผู้บุตรา ฯ

ร่าย

๏ ครานั้นวิศวามิตร พรหมนักสิทธิ์ชัยชาญ ทราบเหตุการณ์เปนไป แห่งหน่อไทกุมารา โรหิตาศวะ พระอาจารย์จึงคลา หาพญานาคผู้ เจ้าแห่งงูน้อยใหญ่ ขอไท้มีปกาศิต ให้อสรพิษร้ายหนึ่ง ซึ่งเปนที่ไว้ใจ ไปซุ่มอยู่ต้นทาง พลางสกดรอยตาม กุมารงามยุวราช ได้โอกาศอย่ารอ กัดพระหน่อดิลกหล้า ให้มอดมรณ์อย่างข้า สั่งนี้ เถิดนา ฯ

โคลง ๓

๏ พญานาคเรืองฤทธิ์ ฟังวิศวามิตรเว้า
จึงกระทำเช่นเค้า เงื่อนถ้อยแห่งครู ฯ

โคลง ๔

๏ งูร้ายจึงซ่อนเร้น กายา
อยู่ณจอมปลวกใต้ มิ่งไม้
คอยทำเช่นบัญชา นาคะ ราชแฮ
แมกมิดชิดบ่ให้ เด็กเห็น
๏ จวบเย็นย่ำค่ำนั้น กุมาร
เสาะแสวงหาฟืน บ่ได้
ร่างน้อยจะทะยาน หักกิ่ง ไม้แฮ
สุดจะเอื้อมถึงไซร้ สุดหวัง
๏ ดังนั้นยุวราชเศร้า กมล
ครั้นเยอะต้นไม้สลอน กิ่งก้าน
จึงปีนป่ายขึ้นบน จอมปลวก
เพื่อหักกิ่งกลับบ้าน มอบนาย
๏ งูร้ายได้ท่าแล้ว เลื้อยมา
ฉกพระบาทอ่อนแห่ง เด็กน้อย
พิษแล่นซาบกายา พลันดับ ชีพแฮ
โดยมิทันเปล่งถ้อย สักคำ ฯ

โคลง ๓

๏ ส่ำดรุณทั้งหลาย เห็นเพื่อนตายรีบเต้า
สู่คฤหาสน์เล่าเค้า เรื่องให้จอมขวัญ ฯ

โคลง ๔

๏ จันทรามาติผู้ มารดา
ทราบเรื่องแล้วผวา หวีดก้อง
ดังถูกปลิดชีวา จากร่าง
ทุบอุระโรทน์ร้อง บัดสิ้นสมฤดี ฯ

โคลง ๒

๏ เทวีฟื้นสลบแล้ว รำพรรณถึงลูกแก้ว
จอดใจ ฯ  

โคลง ๔

๏ กรรมอะไรช่างเฝ้า ตามสนอง
ปราศจากผัวครอง ครอบเกล้า
ซ้ำพรากลูกรักของ ข้าเดี่ยว
อ้าพระผู้เปนเจ้า ส่งข้าเกิดไย
๏ ไร้ผัวและลูกทั้ง สององค์
ข้าไป่อยากดำรง ชีพแล้ว
ชาติก่อนดนูคง ทำผิด ไฉนฮา
ภวนี้บ่อแคล้ว คลาดพ้นภัยพาล ฯ

โคลง ๒

๏ กานดาแสนโศกเศร้า สยบพักตร์พร่ำเฝ้า
ร่ำร้องบ่วาย ฯ  

โคลง ๓

๏ ฝ่ายกลกันตีโหด เห็นนางโรทน์ร่ำไห้
แสนขุ่นเคืองหยิบไม้ ง่าเงื้อจะตี ฯ

ร่าย

๏ เทวีเช็ดน้ำตา แข็งใจกล้าทอนโศก ดับวิโยกเหือดหาย แล้วโฉมฉายเล่าความ ตามที่เกิดเรื่องร้าย ให้นางนายได้สดับ งามสรรพขอกรุณา ลาเขาไปตอนพลบ เพื่อชักศพลูกรัก สู่สำนักสุสาน ทำการฌาปนกิจ สัมฤทธิ์แล้วไม่ช้า นางจักรีบบ่ายหน้า สู่เหย้ามูลนาย ฯ

โคลง ๔

๏ นางร้ายแทนที่จะ กรุณา
และแสดงอาดูร โศกเศร้า
กลับกำชับสั่งว่า อย่าด่วน
ไปรับศพแห่งเจ้า ลูกยา
๏ จนกว่านางนาฏผู้ ทาสี
เสร็จกิจะการเรือน เรียบร้อย
นายทั้งคู่เข้าที่ ไสยาสน์
จึงจะให้แน่งน้อย ครไล ฯ

โคลง ๒

๏ ทรามวัยบ่คัดค้าน รีบกระทำกิจบ้าน
เสร็จแม้นบัญชา ฯ  

โคลง ๓

๏ ครั้นเวลาค่ำคืน ดึกดื่นถนัดแล้ว
จึงพระเทวีแก้ว สู่ไพร ฯ

ร่าย

๏ ในย่ำราตรีนั้น จันทร์สถิตข้างแรม แจ่มขวัญบ่เห็นหน อนธการมืดมัว ทั่วทุกทิศทุกทาง นางพญาอนุสร ถึงภูธรสวามี อธิบดีเหนือเกศ ด้วยเดชแห่งจงรัก ภักดีในบาทบงสุ์ พระองค์ผู้ทรงสัตย์ ปวงพิบัติพาลภัย ไหนจะกล้ากล้ำกราย โฉมฉายแน่ตระหนัก ว่าความรักยิ่งล้ำ อาจชำนะศัตรู หากมีอยู่แทบทาง แน่งนางคิดฉะนี้ ทำให้มีจิตต์กล้า บุกป่ากาลค่ำคืน งามชื่นจึงจุดไต้ พอได้เห็นมรรคา สู่ป่าโดยผู้เดียว เที่ยวลัดเลาะเสาะค้น จนที่สุดจึงพบ พระศพแห่งลูกน้อย สลดจิตต์โศกสร้อย บ่ได้เหือดหาย ฯ

โคลง ๓

๏ ครั้นโฉมฉายได้สติ จึงตริรอบคอบไซร้
เห็นว่าการร่ำไห้ ปราศผล
๏ นิ่มนฤมลต้องเผา ศพลูกเยาว์แน่แท้
จะโศกพร่ำเพรื่อแล้ ป่วยการ
๏ นงคราญหักโศกสอื้น รวบดุ้นฟืนเสร็จแล้ว
ชักพระศพลูกแก้ว สู่ด้านสุสาน ฯ

โคลง ๔

๏ ถึงสถานป่าช้า บ่นาน
นางส่งเสียงโอดครวญ กึกก้อง
ปราศทุกบุตร, มาร ดาอยู่ ไยแฮ
ปลงชีพเสียบ่ต้อง โศกทรวง
๏ ห่วงอยู่แต่ที่ข้า เปนบ่าว ซื้อเอย
ฆาฏะกรรมตนเอง บ่ได้
ใครเล่าจักรับเอา ภาระ
แห่งดนูรับใช้ กิจผอง
๏ ต้องอยู่ไปกว่าสิ้น เสร็จงาน บ่าวแฮ
มิฉะนั้นเหมือนหนึ่ง ว่าข้า
ทิ้งหน้าที่เปนการ ละเมิด
คำสั่งพระเลิดหล้า หริศจันทร์ ฯ

โคลง ๓

๏ ฉะนั้นจำต้องคง ดำรงชีพเพื่อกู้
เกียรติศักดิ์แห่งผู้ สวามี ฯ

ร่าย

๏ ภูบดีหริศจันทร์ ณ บัดนั้นแว่วเสียง สำเนียงอันโอดครวญ นเรศวรซึมทราบ ว่าเจ้าภาพผู้หนึ่ง นำศพถึงสุสาน เพื่อการฌาปนกิจ ทรงฤทธิ์ต้องเรียกร้อง เอาเงินทองตามระเบียบ อันเฉียบขาดแห่งนาย ฦๅสายถามนางพญา ด้วยวาจาอ่อนหวาน ว่านงคราญคือใคร ไยจึงมาดึกดื่น ของามชื่นบอกข้อย ให้ทราบเหตุสักน้อย หนึ่งบ้างเปนไร ฯ

โคลง ๔

๏ อรไทยเมื่อได้ ฟังถาม
ตอบว่าข้าคนจน ยากไร้
นี่คือลูกเดี่ยวยาม ทุกข์ร่วม แม่แฮ
จะเรียกเงินบ่ได้ จากเผือ ฯ

โคลง ๒

๏ ขอเขือได้โปรดข้า นึกว่าเห็นแก่หน้า
ลูกน้อยแห่งดนู ฯ  

โคลง ๔

๏ ภูธรเศร้าโศกด้วย นางงาม
ครั้นจะอนุโลม ผ่อนให้
เหมือนไม่ปฏิบัติตาม คำสั่ง นายแล
ผิดแบบอย่างซึ่งได้ ประพฤติมา
๏ ราชาจึงตรัสให้ โฉมยง
สู่คฤหาสน์ต่อตอน รุ่งเช้า
จึงค่อยกลับมาปลง ศพลูก
เชื่อพจีข้าเจ้า เถิดพธู
๏ คงมีผู้โอบเอื้อ อารี
ให้ทรัพย์แก่โฉมตรู แม่นหมั้น
เพื่อเปนค่าเผาผี ลูกรัก
ที่จะยกเว้นนั้น อย่าหวัง ฯ

โคลง ๓

๏ คำสั่งนายบ่งชัด สุดจักขัดเล่นได้
มิฉะนั้นข้าไซร้ ผิดข้อสัญญา ฯ

โคลง ๔

๏ นายป่าช้ากล่าวถ้อย อ่อนหวาน
จันทรามาตี นาฏเจ้า
จึงเล่าประวัติการณ์ ทั้งหมด
ตั้งเเต่ต้นตราบเท้า ที่เห็น
๏ ภูเบนทร์ฟังเล่าแล้ว ตระหนัก
นางใช่อื่นเมียรัก ร่วมห้อง
เช่นนั้นพระทรงศักดิ์ กำสรด
แทบจะโฮไห้ร้อง ร่วมด้วยชายา ฯ

โคลง ๓

๏ แต่ว่ากรรมบันดาล เหตุการณ์บังเกิดแล้ว
โศกยิ่งโศกก็แคล้ว คลาดผล ฯ

โคลง ๔

๏ ภูวดลตอบแน่งน้อย นารี
ข้าจะยอมให้แม่ รอดพ้น
จากเงินค่าเผาผี ไป่อาจ ทำเอย
ดนูเสียใจล้น ประมาณ ฯ

โคลง ๓

๏ อ้านงคราญจงปลด ด้ายสมรสเชิดหน้า
ออกจากศอแก่ข้า บัดนี้เถิดนาง ฯ

โคลง ๔

๏ ศรีสอางค์สดับถ้อย ฦๅสาย
รู้ว่าพระภรรดา เทิดเกล้า
ใครอื่นฤเห็นด้าย สมรส
นอกจากสามีเจ้า ครอบครอง ฯ

โคลง ๒

๏ ผ่องพะงาวิ่งเข้า กอดพระบาทพระเจ้า
หริศจันทร์ ฯ  

โคลง ๔

๏ นางรำพรรณร่ำร้อง นานา
แทบบ่มีที่สิ้น สุดได้
นี่ใช่กิจพญา กษัตริย์
สูงศักดิ์เช่นท่านไท้ อโยธยา
๏ ราชาไยจึ่งได้ สู่เข็ญ
ในที่อันอาภัพ เช่นนี้
ทั้งหมดชะรอยเปน ผลแห่ง
กรรมาแต่ชาติกี้ ก่อนกาล
๏ อ้าภูบาลปิ่นแคว้น โกศล
พระจุ่งทอดพระเนตร เด็กนี้
เขาใช่อื่นลูกคน สุดสวาท เราแล
ถูกอสรพิษจี้ วอดชนม์ ฯ

โคลง ๓

๏ ฟังนฤมลพร่ำว่า ราชาจึงร่ำไห้
เกรียมอุระหม่นไหม้ มากแม้นมาระศรี ฯ

ร่าย

๏ ราตรีล่วงเลยไป ใกล้อรุณรุ่งสาง นางจันทรามาตี ลาพระพีรกษัตริย์ นิวัตรยังเคหา ทำหน้าที่ทาสี บ่ให้มีบกพร่อง ทำนองผู้สุจริต ต่อการกิจทั้งหลาย โฉมฉายจึงกราบทูล นเรนทร์สูรภรรดา ขอกรุณาเผาลูก โดยไม่ถูกเรียกค่า ป่าช้าตามธรรมเนียม นางเคียมคัลอ้อนวอน ภูธรเปนหลายครา ขอกรุณาพิเศษ ภูเบศร์หายอมฟัง ดังคำขอนั้นไม่ ท้าวไทต้องปฏิบัติ เคร่งครัดต่อบัญชา จะกรุณาผู้ใด เปนไม่ได้แม่นมั่น มิฉะนั้นเหมือนหนึ่ง ไม่ตึงในหน้าที่ วีระพาหุเถ้า มอบท้าวไททำแทน จึงปิ่นแคว้นโกศล สั่งวิมลรัตน์ชายา กลับเคหาเสียก่อน อ้อนวอนกลกันดี ให้เขามีจิตต์แผ่ มอบเงินแก่โฉมฉาย คงสมหมายแน่แล้ว ทุกสิ่งคงไม่แคล้ว คลาดถวิล ฯ

โคลง ๒

๏ นารินทร์เดินกลับเหย้า ตามรับสั่งแห่งเจ้า
อยู่หัว ฯ  

โคลง ๔

๏ ขรัววิศวามิตรใช้ รากษส หนึ่งนา
แปลงร่างเปนมนุษย์ ลอกเค้า
ประดับเครื่องหมดจด สอาด
สู่นิเวศน์พระเจ้า กาศี
๏ จับปีโยรสให้ ถนัด มั่นแฮ
ลอบประหารชีพแล้ว รวบคว้า
เครื่องทรงรุจิรัตน์ ทั้งหมด
มอบมิ่งเมียเจ้าหล้า หริศจันทร์ ฯ

โคลง ๓

๏ รากษสพลันกระทำ ฆาฏะกรรมเสร็จแล้ว
มุ่งพบนาเรศร์แก้ว ณท้องถิ่นพน ฯ

โคลง ๔

๏ นฤมลพบยักษ์ผู้ ปลอมกาย
ณท่ามกลางมรรคา สู่เหย้า
ยังมืดจวบเพลางาย เรืองเรื่อ
ยักษ์กระทู้แม่เจ้า สู่ไหน
๏ อรไทยเล่าสิ้น คดี
ยักษ์ว่าถ้าประสงค์ ทรัพย์ไซร้
นี่แน่ะเครื่องมณี เพ็ชร์รัตน์
จงรับไปเพื่อใช้ ค่าเผา ลูกแล ฯ

โคลง ๒

๏ โฉมเฉลาปลื้มจิตต์ล้น ตอบขอบใจยักษ์พ้น
คณนา  
๏ ยักษายื่นก่องแก้ว ให้พระเทวิแล้ว
เริดหนี ฯ  

ร่าย

๏ ต่อมามีราชบุรุษ แห่งมงกุฎเกศเจ้า ท้าวกาศีหนึ่งกอง เที่ยวด้อมมองสืบเสาะ ตามละเมาะแนวป่า คร่าห์ตัวผู้ทรยศ เปนกบฎแผ่นดิน ในหินชาติชั่วช้า ฆ่าเจ้านายแห่งตน พลางพบคนแปลงกาย นายกองจึงไต่ถาม เอาความรู้หลักฐาน ประกอบการสืบจับ รากษสรับว่าตน รู้แห่งหนที่อยู่ แห่งตัวผู้ทรยศ จึงบทจรนำหน้า พาราชบุรุษทั้งหลาย ผันผายตามวิถี รีบเร็วรี่บ่ช้า จึงทันนาเรศร์หน้า ผ่องศรี ฯ

โคลง ๔

๏ นางนี้แน่แหละแฮ้ ฆาฏกะ
มนุษย์แปลงทันใด วากย์เว้า
ดูซิเครื่องยุวะ ราชติด มือแฮ
ราชบุรุษกรูเข้า จับกุม
๏ คุมตัวส่งพระเจ้า กาศี
เพื่อกระทำโทษฐาน อุกฤษฎ์
พระจอมจักร์จึงมี ดำรัส
ให้ประหารชีวิต แจ่มจันทร์ ฯ

โคลง ๓

๏ อันว่าหญิงใจร้าย ทำลายชีพเด็กน้อย
ใช่อื่นหญิงต่ำต้อย โหดแม้นรากษสี
๏ ภูมีสั่งราชบุรุษ ฉุดคร่าห์นางนาฏเจ้า
ส่งวิระพาหุเถ้า เพื่อล้างชีวา ฯ

โคลง ๔

๏ วิระพาหุเจ้า เพ็ชฌฆาต
สั่งหริศจันทร์นาย ป่าช้า
ประหารชีพนางกาจ กบฎ
ตามรับสั่งเจ้าหล้า อย่ารอ
๏ หน่อกษัตริย์สุริยะได้ ฟังสั่ง
ทุกข์ใหญ่ทุกข์น้อยเกิด ซับซ้อน
พระอัสสุชลหลั่ง ไหลอาบ พักตร์แฮ
ยืนตะลึงดังก้อน ศิลา
๏ ชายาปลอบพระเจ้า สวามี
อ้าพระผู้อยู่เกศ แห่งข้า
บัดนี้ใช่กาลที่ จักสลด
ชวนดนูบ่กล้า สู่ตาย
๏ ฦๅสายควรจักยืด โอกาศ นี้แล
เพื่อแสดงความสัตย์ เลิดล้น
ต่อหน้าที่ฆ่าอาตม์ ตามสั่ง
นรชาติใครพ้น มฤตยู
๏ ตูข้าปลมจิตต์ด้วย จักตาย
โดยหัตถ์แห่งสามี ครอบเกล้า
เปนบำเหน็จเครื่องหมาย แห่งสัตย์ ซื่อแล
ข้าบาทมีต่อเจ้า อโยธยา
๏ วาระนี้ยิ่งด้วย มงคล
อันจะนำสิริ สู่ข้า
รักสัตย์ยิ่งรักชนม์ เพื่อเทิด
กิตติศักดิ์เจ้าหล้า กระจาย ฯ

โคลง ๓

๏ โอกาศตายเช่นนี้ เปนไม่มีอีกไซร้
ฆ่าเถิดพระอย่าได้ เวทนา ฯ

โคลง ๔

๏ ราชาตรองตริด้วย พระปัญ ญาเอย
ชีวิตย่อมผันแปร ดับได้
จะเปรียบก็เหมือนฝัน ชั่วขณะ
แต่สัตยธรรมนั่นไซร้ อยู่คง
๏ เพื่อดำรงสัตย์ล้ำ ชีวา
ข้าจักทำกรณีย์ กิจให้
เห็นประจักษ์แก่ตา เทวะ
มิฉะนั้นเหมือนไร้ สัจจา ฯ

โคลง ๒

๏ ราชาชักดาพเงื้อ หมายฟาดฟันอะเคื้อ
นิ่มน้องยาใจ ฯ  

โคลง ๓

๏ ทันใดพระดาบส ปรากฎเฉพาะหน้า
ยึดพระหัตถ์เจ้าหล้า จู่เข้าขัดขวาง ฯ

ร่าย

๏ พลางคุกคามภูบาล ไยท่านใจอำมหิด อ้อวิกลจริตไปหรือ ฮือไม่เคยเห็นใคร ใจทารุณกว่าสู ใครเปนครูสั่งสอน ให้ภูธรทำการ ชั่วสามาญไม่มี ที่เปรียบปานแน่แท้ แต่เดิมทีดนู เข้าใจอยู่ว่าท่าน ปรีชาญาณแหลมหลัก รักข้างกุศลมาก บริจาคธนสาร ทักษิณาทานเนืองๆ เลื่องลือนามทุกทิศ บัดนี้สะกิดใจข้า ว่าท่านโง่บัดซบ คบไม่ได้แน่แท้ แม้สตรีเพศอ่อน ยังฟันฟอนประหาร การเช่นนี้บาปมาก หากท่านคิดกลับใจ ข้าไซร้จักช่วยเหลือ ให้เพื่อปลอดจากทุกข์ สืบสุขเช่นก่อนกาล โดยท่านต้องสัญญา รับธิดาโฉมตรู แห่งดนูทั้งสอง เปนคู่ครองชุบเลี้ยง ส่วนเวียงรัตน์อโยธยา และอาณาแว่นแคว้น แดนโกศลทั้งปวง ข้าบ่หวงยกให้ แต่ท่านไท้ต้องยอม รับจอมสุดาข้าสอง ไปปกป้องทนุเลี้ยง และรับเกียรติยศเพี้ยง มหิษี เอกนา ฯ

โคลง ๔

๏ ภูมีว่าข้าแต่ พระครู
ท่านใช่ปุโรหิต แห่งข้า
ไยจึงสั่งสอนดนู อเนก
ปาฐะฟุ้งใช่หน้า ที่เลย
๏ ท่านเอยอันว่าหนี้ นุงถุง
ข้าก็ได้สระสาง แต่กี้
ไยจึงกลับมายุ่ง ข้องแวะ
กับกิจแห่งข้านี้ อีกครา
๏ จอมบาจะเดือดร้อน มากไย
ถึงเรื่องบุญและบาป ชั่วช้า
ใครทำก็ตัวใคร รับผิด ชอบเอย
ขอพระจอมพรตกล้า อย่าขวาง
๏ อันโฉมนางแน่งน้อย นี้ผิด
มีโทษถึงชีวิต แน่แท้
จอมราชปกาศิต ให้ฆ่า
ทำเช่นนายสั่งแล้ บาปด้วยฤไฉน ฯ

โคลง ๒

๏ จงหลีกให้พ้นเน้อ อย่าพร่ำพูดเพ้อเจ้อ
เบื่อหู  
๏ ภูธรขยับอีกเทื้อ จะฟาดฟันอะเคื้อ
แน่งน้อยนวลหงส์ ฯ  

โคลง ๔

๏ องค์อินทร์ปิ่นเทพทั้ง ศจี
ปรากฎเฉพาะพักตร์ นาถเจ้า
เข้ายึดหัตถ์ภูมี โดยด่วน
ศักระวากย์เว้า แถลง
๏ อ้าพระแรงสัตย์ล้ำ กว่าใคร
จงสดับวัจนะ แห่งข้า
การณ์ทุกสิ่งเปนไป เพื่อจะ
พิศูจน์สัตย์เจ้าหล้า ทั้งเพ
๏ ทวยเทวะทั่วทั้ง เราสอง
ได้ประจักษ์แก่ตา ถ่องแท้
ว่าราชะครอบครอง สัตย์มั่น
เปนพระเจ้าสัตย์แล้ เลิดชาย
๏ นายวิระพาหุเถ้า ชรา
ใช่อื่นคือยมะ เทพเจ้า
กลกันติคือกา ลีต่ำ ศักดิ์แฮ
ที่แห่งนี้ใช่เค้า สุสาน
๏ เปนสถานที่ตั้ง บูชา ยัญเอย
อันว่าวิศวามิตร พรตแกล้ว
ก่อเหตุก็เพื่อหา สัจจะ
พระชะนะท่านแล้ว แน่นอน ฯ

โคลง ๓

๏ ภูธรและจันทรา มาตีจึงวิ่งเข้า
กอดบาทแห่งพระเจ้า เทพทั้งมเหษี ฯ

โคลง ๔

๏ ศจีพระแม่เจ้า สรวงสวรรค์
พลางตรัสแก่แน่งนาง เรศร์แก้ว
ด้วยเดชแห่งกตัญ ญูแม่
หริศจันทร์จึงแคล้ว คลาดภัย
๏ ทรามวัยได้ช่วยเจ้า สามี
ด้วยเยี่ยงคนควรชู เชิดไว้
ข้าเห็นจึ่งคิดมี จิตต์รัก
เพราะฉะนั้นจุ่งได้ ขอพร ฯ

โคลง ๒

๏ เอกอรขอลูกเจ้า หริศจันทร์ผ่านเผ้า
ชีพคืน ฯ  

โคลง ๔

๏ ศจีตื้นจิตต์ด้วย ปรีดา
ตรัสว่าเจ้าขอแต่ ลูกท้าว
ส่วนลูกรักตนหา ขอไม่
ส่อว่าน้ำจิตต์เจ้า มุ่งดี ฯ

โคลง ๓

๏ เช่นนี้ข้าอวยพร ให้เด็กอ่อนลูกเจ้า
อีกลูกแห่งท่านท้าว กลับฟื้นกายา ฯ

โคลง ๔

๏ ว่าแล้วปิ่นเทพทั้ง สององค์
พลางแสดงปาฏิหาร หายวับ
ราชะและโฉมยง ระยอบ ตามแฮ
รู้สึกพระคุณจับ หทัย ฯ

ร่าย

๏ ในบัดนั้นนักสิทธิ์ วิศวามิตรจอมบา เข้าหาพระหริศจันทร์ นักธรรม์พลางทูลว่า อ้าราชามหาศาล ตระการคุณสมบัติ ทำนุสัตย์ประเสริฐ เลิกล้ำกว่าชีวี ข้านี้ยอมจำนน ต่อภูวดลทุกสถาน ขอภูบาลได้โปรด อภัยโทษอาตมา ณครานี้ด้วยเถิด จะเลิดด้วยธรรมทาน เกียรติโอฬารบพิตร จะสถิตเฟื่องฟุ้ง คุ้งกัลปาวสาน ขอภูบาลจงรับ โภคทรัพย์จำรูญ มไหศูรย์สมบัติ วัตถุแก้วเงินทอง ที่เปนของพระองค์ จงจิตต์มอบอาตมา ไปครานี้ทั้งหมด ข้าเปนพรตพรหมจรรย์ จะครองขัณฑ์เขตรกว้าง ผิดนิยมแยบข้าง มุนี ฯ

โคลง ๔

๏ ทรงศรีว่าข้าแต่ จอมพรต
ผู้ตระการตะบะ เลิดล้ำ
ข้าได้รับเกียรติยศ เพราะท่าน
ก่อเหตุให้ข้าค้ำ สัจจา
๏ จอมบาทำเช่นนี้ ดีเหลือ
เปนพระคุณข้าจำ จดไว้
ใดเกินล่วงต่อเขือ ข้าขะ มาแฮ
ขอขอบจิตต์ท่านไท้ นักธรรม์
๏ อันราชสมบัติข้า ทั้งมวญ
ได้มอบแก่อาจารย์ หมดแล้ว
จะรับอีกเหมือนรวน เรสัตย์
ขอพระจอมพรตแกล้ว อย่าคืน
๏ ความรื่นรมยะทั้ง ลำบาก
ในราชสมบัติ นั่นไซร้
ข้าได้รับและกราก กรำหมด
ขอมุนีจุ่งได้ ครอบครอง
๏ แม้นมิปองโปรดให้ จอมผะไท หนึ่งเอย
ซึ่งพระครูพอจิตต์ นั่นแล้
ให้ทรงรับซึ่งไอ ศูรยะ
ทนุราษฎร์ไปล่แปล้ สราญ ฯ

โคลง ๒

๏ อาจารย์ชื่นจิตต์เว้า ข้าพอใจพระเจ้า
หริศจันทร์  
๏ ฉะนั้นจงรับแคว้น ปกป้องราษฎร์สุขแม้น
ถิ่นสวรรค์ ฯ  

โคลง ๔

๏ หริศจันทร์สู่ด้าว อโยธยา
พร้อมพระมิ่งมหิษี อะเคื้อ
อีกยุวะราชา ยอดเสน่ห์
อภิเษกอีกเทื้อ สืบวงศ์ ฯ

โคลง ๒

๏ ดำรงราชย์จวบคุ้ง สิบสี่ชั่วโคตรฟุ้ง
เฟื่องนาม ฯ  

โคลง ๓

๏ ยามสวรรคตลง ได้ทรงครองครอบด้าว
กึ่งฟากฟ้าแห่งท้าว วัชรี นั่นแล ฯ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ