ภาค ๒

ร่าย

๏ ฝ่ายว่าวิศวามิตร พรหมนักสิทธิ์แสนกล จึงล่องหนหายตัว ติดตามทั่วทางจร แห่งภูธรหริศจันทร์ พร้อมจอมขวัญวนิดา โอรสายอดเสน่ห์ อิกเจ้าเล่ห์นักษัตรก์ ทั้งสี่ลัดเลาะป่า มุ่งกาศีแคว้นอุดม จึงพระพรหมสิทธา แปลงมรรคาทางจร ซึ่งแต่ก่อนเรียบราย บัดนี้หยาบขรุขระ ระกะหลุมลึกสลอน ก้อนหินผาสล้าง แทรกแซงหว่างวิถี นอกจากนี้ต้องฝ่า คงหนามหนาเนือง ๆ ส่วนเบื้องเวหนนั้น แสงตวันแผดเผา ระอุอ้าวราวไฟ ทรามไวและโอรส แทบหมดแรงอิดโรย หิวโหยเหลือกำลัง แต่ยังมีมานะ พระวิริยะแรงกล้า ฝ่าลำบากร่วมองค์ สุริยพงศ์นรนาถ จนพระบาทฟกช้ำ ฉวีคล้ำหม่นหมอง สองกษัตริย์อดทน ไม่พร่ำบ่นแต่น้อย หักทุกข์โศกละห้อย เหือดหาย ฯ

โคลง ๓

๏ นายนักษัตรก์แสนกล บ่นอิดออดค่ำเช้า
ว่าหนามไหน่เกี่ยวเท้า มากมาย
๏ จะผายผันต่อไป แม้นมิให้ขัดข้อง
หริศจันทระต้อง ช่วยเอื้อ อุ้มมัน
๏ ราชันทำตามขอ ครั้นต่อมาหน่อยไซร้
มันเริ่มกล่าวแคะไค้ นานา
๏ อ้าพระอุ้มอย่างนี้ เห็นทีจะเหวี่ยงข้า
ลงณเหวเมื่อหน้า กระมัง
๏ จงหยุดยั้งปล่อยข้า เถิดพระราชะเจ้า
แล้วอย่าช้ารีบก้าว ต่อไป
๏ ครั้นภูวไนยเดินหน้า นักษัตรกว่าท่านได้
ทิ้งทอดเขาเพื่อให้ พยัคฆ์กิน
๏ ครั้นภูมินทร์เดินหลัง นักษัตรก์ยังโยกโย้
พูดว่าท่านนี่โอ้ คิดไฉน
๏ ข้านี้ใช่สกุลต่ำ เปนบ่าวสำหรับใช้
นำเสด็จท่านได้ บทจร ฯ

โคลง ๔

๏ มันแสนงอนแง่ซ้ำ เรียกกัน
ผลไม้ที่งอม สุกสล้าง
ครั้นได้เสร็จสมจิน ตนะ
หาว่าดิบจับขว้าง กระจาย
๏ ทำกระหายอยากน้ำ เหลือทน
พระจึ่งวักวารี ยื่นให้
แต่นักษัตรก์แสนกล พลอดว่า
ข้าดื่มจากหัดถ์ไท้ อย่างไร
๏ ข้าไซร้กำเหนิดข้าง เผ่าพราหมณ์
ช้างท่านตระกูลต่ำ กว่าข้า
ฉะนี้จะดื่มน้ำ จากหัดถ์ ท่านนอ
ผิดนิยมทั่วหล้า แหล่งตรี
๏ ครั้นจรลีไม่ช้า นานนัก
เจ้าเล่ห์ว่ากระหาย มากไซร้
ไยเล่าพระทรงศักดิ์ เฉยอยู่
ไม่วักน้ำมาให้ ดื่มพลัน
๏ หริศจันทร์สดับถ้อย นักษัตรก์
ตรัสว่าไยท่านจึง ใส่ร้าย
เมื่อกี้กล่าวว่าขัด นิติ พราหมณ์นอ
ณบัดนี้ยักย้าย วาจนา
๏ ราชาไยยกข้อ นั้นกล่าว
นักษัตรกะจึง คัดง้าง
ข้านี้กระหายราว ดับชีพ
ควรฤยังยึดข้าง แบบพราหมณ์
๏ สามกษัตริย์ยิ่งด้วย อดทน
พร่ำประนอนักษัตรก์ ทุกก้าว
นิดหนึ่งมิได้บ่น ดุว่า มันนา
พระมุนีทราบเค้า เหตุการณ์
๏ ทรงญาณเกรงว่าไท้ หริศจันทร์
ไหนจะตรัสมุสา วาทได้
เพราะเหตุว่าราชัน รักสัตย์
ยอมรับทุกข์เพื่อไท้ สงวนธรรม์
๏ มันคงหาทรัพย์ได้ วันหนึ่ง
ด้วยวิธีสุจริต นั่นแล้
ฝ่ายเราจักต้องถึง อัประยศ
ต้องคิดฆ่าเพื่อแก้ อับอาย
๏ จึงผายพจน์เรียกร้อง รากษส หนึ่งนา
บอกวิธีเดินการ มุ่งร้าย
ให้แต่งร่างหมดจด สอาด
และมุ่นเมาฬีคล้าย ชฎิล
๏ คอยนรินทร์ราชเจ้า แทบผลู
แม้ท่านถามถึงทาง จุ่งชี้
ให้ไปณที่อยู่ รากษส
ทำอย่างข้าสั่งนี้ ฉับพลัน
๏ นักษัตรก์ครั้นทราบซึ่ง อุบาย
ทำประหนึ่งวิงเวียน มืดหน้า
โดยอ้างเหตุกระหาย น้ำแหละ
ร้องช่วยด้วยอย่าช้า เถิดไท
๏ ภูวไนยโอบอุ้ม นักษัตรก์
ขึ้นสะเอวออกเดิน แช่มช้า
หาน้ำทั่วแนวชัฎ บ่เจอะ
ครั้นหน่อยผะเชิญหน้า ฤษี
๏ จึงมีพระกระทู้ ถามไป
ข้าแต่ท่านผู้ทรง พรตกล้า
อันห้วงนทีใส สอาด
อยู่แห่งใดบอกข้า เถิดชี
๏ ฤษีแปลงจึ่งชี้ หนทาง
สู่หลักแหล่งรากษส โหดร้าย
พระอุ้มนักษัตรก์พลาง เดินต่อ
เมียมิ่งโอรสย้าย ยาตรตาม
๏ สามกษัตริย์ไต่เต้า มรรคา
จนจวบถึงสายัณห์ มืดคลุ้ม
เหลือบเห็นพุ่มพฤกษา ไทรอร่าม
เข้าประทับใต้ซุ้ม พักแรม
๏ แจ่มจันทร์โอรสทั้ง นักษัตรก์
พระตรัสให้หลับนอน ทั่วผู้
ส่วนขัตติยะรัช บ่หลับ
เดินตรวจตราเพื่อรู้ เหตุการณ์
๏ ประมาณเที่ยงค่ำนั้น ยักษ์กาจ
ที่แอบอยู่เหนือค่า คบไม้
ต่างปิติถึงขนาด เพราะว่า
มีเหยื่อรออยู่ใกล้ ปากมัน
๏ ชวนกันไต่กิ่งไม้ ลงมา
ทีละตนแนวยาว ยืดเยื้อ
ต่างคนต่างหรรษา เริงรื่น
เพราะจะได้ฉีกเนื้อ มนุษย์กิน
๏ ภูมินทร์ไป่ครั่นคร้าม รณรงค์
พระชักดาบคู่กร ง่าเงื้อ
ได้ที่ฟาดฟันลง ฉาดฉะ
ยักษ์ต่อสู้หลายเทื้อ ไป่หนี
๏ ศรีโกศลราชเจ้า จับยักษ์
ตัดหัดถ์และใบหู ขาดหวิ้น
บ้างถูกบั่นชีพชัก ดุบดุบ
ยักษะแทบทั้งสิ้น วอดวาย
๏ นายเวตาลพระเจ้า รากโษส
แสนเดือดจิตต์ฉุนฉิว แทบบ้า
ว่าเหวยมนุษยโฉด มึงจะ
ลองฤทธิ์กันกับข้า ก็เชิญ
๏ พลางเดินเข้าผลักอก หริศจันทร์
อีกขู่คำรามรณ กึกก้อง
ราชะจึงฟาดฟัน ด้วยดาพ
ถูกประมุขยักษ์ร้อง ขาดใจ ฯ

โคลง ๓

๏ ได้ทราบเรื่องเวตาล พระอาจารย์ขุ่นข้อง
เรียกมหาวาตก้อง นภา
๏ เสียงน่าหวาดเสียวสยอง ฟ้าคนองครั่นครื้น
ฝนตกซู่ซ่าชื้น โชกดิน
๏ นรินทร์และเทวี ปียะบุตรสท้าน
หนาวเยือกเย็นซาบสร้าน วรินทรีย์
๏ เพราะบาระมีค้ำจุน จึงพระบุญโศลกล้น
ฝ่าวิบากปลอดพ้น ภยัน
๏ ครั้นอรุณรุ่งสว่าง วาตะสว่างเสื่อมแล้ว
พระหทัยผ่องแผ้ว ไต่เต้า ต่อไป ฯ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ