คำนำ

นายแม้นฟุ้ง เนียวกุล ผู้มิตรของข้าพเจ้า ได้มาปรารภว่า อยากให้ข้าพเจ้าแต่งหนังสือให้สักเรื่องหนึ่ง เพื่อพิมพ์แจกในงานศพ น.ร. เสถียร เนียวกุล บุตรชาย.

ข้าพเจ้าไม่ใช่นักเลงหนังสือ และเจ้าบทกลอนโดยนิสสัย; ชอบแต่จะอ่านของคนอื่นมากกว่าที่จะคิดแต่งเองร่ำไป. ฉะนั้นที่จะแต่งอะไรขึ้นให้สำเร็จรวดเร็วทันความประสงค์ในชั้นนี้ จึงใคร่จะระงับความพยายามไว้ก่อน, ทั้งติดธุระทางอื่นมาก แต่มีศิษย์หลายคนมาบอกว่า หนังสือ “จันทรามาติลิลิต” ที่ข้าพเจ้าได้เคยพิมพ์แล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ เพื่อช่วยงานท่านเจ้าพระยารามราฆพ ผู้มีอุปการะคุณนั้น น่าจะยังมีผู้ต้องการอ่านอีก อยากให้พิมพ์ขึ้นครั้งนี้. ข้าพเจ้าตกลง. ที่ตกลงทั้งนี้ใช่จะสำคัญว่า หนังสือข้าพเจ้าวิเศษถึงแก่มีคนกระหายอ่านนั้นหามิได้ แต่ตกลงเพราะจะให้เปนที่ระลึกถึงเสถียรเปนมูลเหตุ ด้วยเสถียรได้มีส่วนช่วยตรวจตัวสกดการันต์มากเมื่อจะพิมพ์หนังสือนี้ขึ้นเปนครั้งแรก

น.ร. เสถียร เนียวกุล เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๐ เปนบุตรหัวปีของนายแม้นฟุ้งและนางแผ้ว เนียวกุล เปนนักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์อยู่ ๘ ปี ต่อมาได้สมัคไปเปนนักเรียนราชวิทยาลัย เรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมปีที่ ๕ ถึงปีที่ ๘ เปนเวลา ๔ ปี. มามีเหตุที่น่าสมเพชเกิดขึ้น คือในฤดร้อนตอนโรงเรียนปิดต้น พ.ศ. ๒๔๖๙ เธอได้เริ่มเปนโรคเส้นประสาทพิการ และในที่สุดได้ถึงแก่กรรมลงณวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๙ คำนวณอายุได้ ๑๙ ปีหย่อน ๒๕ วัน.

ข้าพเจ้าและครูบาอาจารย์ อีกทั้งนักเรียนราชวิทยาลัยทั้งปวงมีความรักใคร่เสถียร ไม่น้อยไปกว่าวงศาคณาญาติของเธอ, เพราะเธอเปนผู้มีกิริยาสุภาพอ่อนโยนน่าเอ็นดู ทั้งรักชื่อเสียงแห่งคณะและประพฤติตนควรแก่ความรักนั้น ๆ ดีทุกสถาน. การเล่าเรียนของเธอเปนปานกลาง, ถนัดไปทางภาษาและวาดเขียน มีนิสสัยชอบความสรวยงามและความประณีตเรียบร้อย. ในการกิฬาแม้เธอไม่เด่นเยี่ยมเหมือนบางคน ก็ยังได้อยู่ในคณะฟุตบอลชุด ๒ ด้วยความพยายาม. ยิ่งกว่านั้น, โรงเรียนราชวิทยาลัยมีการแข่งขันกีฬากับที่ไหน ครั้งใด เพื่อนนักเรียนเปนต้องอปโลกน์ให้เธอเปน “ยกระบัตร” ทุกครั้งไป เพราะอ้างว่าเธอเอาใจใส่ดูแลสัมภาระและอาหารการกิน, เปนการช่วยบำรุงน้ำใจให้มีชัยชนะดีนัก, ความจริงก็เปนเช่นนั้น เมื่อเธอมาถึงแก่กรรมแต่ในขณะเยาว์วัยเช่นนี้ ใครเลยที่รู้จักเธอจะไม่ฟังเศร้าเสียใจ.

ก็และกุลบุตรผู้ถึงพร้อมด้วยความอุตสาหะเล่าเรียนและรู้จักผิดชอบชั่วดี ครองชีวิตอยู่ด้วยความบริสุทธิ์ผ่องใสในสันดาน มาถึงแก่กรรมลงแม้ในเมื่อยังมิได้ทำประโยชน์แก่บ้านเกิดเมืองบิดรเช่นนี้ก็จริง ข้าพเจ้ายังไม่เคยได้ยินพระท่านเทศน์ติเตียนเคยได้ยินแต่สรรเสริญ, โคลงในสุภาสิตโลกนิติ์บทหนึ่งก็ว่า

“คนใดยืนอยู่ร้อย พรรษา
ใจบ่มีปรีชา โหดไร้
เดือนเดียวเด็กเกิดมา ใจปราชญ์
สรรเพชญ์บัณฑูรไว้ เด็กนั้นควรยอ”

หนังสือเล่มนี้ ข้าพเจ้าได้เรียบเรียงขึ้นตามเค้านิยายของมัธยมประเทศจากฉบับภาษาอังกฤษ เปนคติสั่งสอนเด็ก. ข้อความบางตอนมีฝอยจากของเดิมบ้าง เพื่อให้เข้ารูปโครงลิลิต แต่ไม่เสียความเดิม.

กุศลใดๆ ที่ข้าพเจ้าจะพึ่งได้จากการแจกหนังสือเรื่องนี้ เพื่อสาธารณประโยชน์ กุศลนั้น ๆ ข้าพเจ้าขออุทิศให้แก่ น.ร เสถียร เนียวกุล ทั้งหมด.

ครูผู้ระลึกถึงศิษย์

พระราชธรรมนิเทศ

วันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๐

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ