เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๔๐

วัน ๖ ๑๑ ค่ำ ปีขาลสัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. เวลาเช้า เสด็จเลี้ยงพิธีสารทถวายเข้าทิพย์โถยาคูของเจ้านายข้างใน เวลาเที่ยงเสด็จขึ้น

๒. รับหนังสือพระยาภาสตอบพระราชหัตถเลขาว่า ซึ่งธรรมเนียมในมหาดเล็กเสียไปดังนี้ ตัวแกมีความผิดพระราชอาญาเป็นล้นเกล้าฯ การนี้แกคิดและพูดไว้ ว่าจะจัดข้อบังคับให้เรียบร้อยมานานแล้ว เพราะธรรมเนียมเสียไป การบังคับบัญชาไม่สิทธิ์ขาดเป็นลำดับไป และผู้อื่นแซกเข้ามาในหน้าที่ซึ่งเป็นไรต์ของมหาดเล็กก็มี ฯลฯ แต่แกเกรงอยู่ว่ายังไม่มีพระกระแสอำนาจที่จะจัดการยังไม่พอ กลัวจะมีเหตุขัดขวางให้เป็นที่ขุ่นเคืองในฝ่าละอองธุลีพระบาท ครั้งนี้ได้พระกระแสแล้ว จะจัดการให้เรียบร้อยเป็นแบบแผนเช่นแต่ก่อนจงได้ แต่ต้องขอพระราชทานให้นายผู้บังคับตามเวร คงมีอำนาจเป็นลำดับกันลงไป ผู้ใดผิดจะได้ว่ากล่าวทำโทษตามแบบเดิม และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดการในกรมเป็นข้อบังคับให้ต้องตามกาลเวลา ซึ่งจะเป็นการผิดเพี้ยนกับธรรมเนียมเดิมไปด้วย เป็นต้นว่าจ่านั้นแต่เดิมมียาม ครั้งนี้ขอรับพระราชทานให้ถอนออกจากยาม ให้เป็นผู้ช่วยนายเวร ๑ มหาดเล็กวิเศษนั้นให้เข้ารับยามสำหรับตั้งเครื่องทุกคน ยกแต่บุตรเสนาบดี แต่หม่อมราชวงศ์แล้วแต่จะโปรด จอรับพระราชทานยกการสบิสเชียลวิเศษ เมื่อผู้ใดเป็นนายยามนายรองถึงยามต้องเข้ามารับราชการไม่ขาดได้ มีธุระสิ่งใดที่จะต้องขาดยามขาดเวรเว้นไว้แต่ป่วยไข้ ก็ให้กราบบังคมทูลพระกรุณาก่อนจึงขาดได้ และการอื่น ๆ จะปรึกษาต่อผู้ใหญ่ในกรม แล้วจะเรียบเรียงเป็นธรรมเนียมข้อบังคับถวาย โปรดเกล้า ฯ อนุญาตแล้วจะได้จัดการต่อไป

๓. ค่ำไม่มีราชการอะไร

วัน ๗ ๑๑ ค่ำ ปีขาลสัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. พระยาไชยสุรินทร เฝ้าถวายจดหมายพระยาสุรเสนาว่าด้วยเงินค่าเช่าตึกหน้าวัดประยูรวงศ์ว่า จดหมายพระยาสุรเสนาแจ้งความมายังพระยาไชยสุรินทร ว่าด้วยเงินค่าเช่าตึกหลวงหน้าวัดประยูรวงศ์นั้น ข้าพเจ้าได้ส่งใช้ทุนที่ยืมพระคลังข้างที่ไปซ่อมแซมตึกครบ ๖๐ ชั่งแล้ว เงินค่าเช่าตึกที่ส่งต่อไปนั้น มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ กับพระโทรเลขไปแจ้งความแก่ข้าพเจ้าว่า เมื่อเงินค่าเช่าตึกมีกำไร จึงจะโปรดเกล้า ฯ จัดให้เจ้าพนักงานรับไว้แจกเจ้าต่อไป บัดนี้ข้าพเจ้าเก็บเงินค่าเช่าตึกได้อีก ๑๒ ชั่ง ๑๐ ตำลึง นำส่งเจ้าพนักงานแห่งใดก็ยังไม่ทราบ ขอท่านได้นำความขี้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ขอท่านได้มีจดหมายมายังข้าพเจ้าทราบด้วย ข้าพเจ้าได้จะส่งเงินให้ถูกต้องตามกระแสรับสั่ง ขอแจ้งความมาณวันอังคารแรม ๓ ค่ำเดือน ๑๐ ปีขาลสัมฤทธิศก

๒. มีพระราชหัตถ์สั่งพระยาไชยสุรินทรฉะบับหนึ่ง ว่าค่าเช่าตึกหน้าวัดประยูรวงศ์นั้นได้แบ่งเป็นส่วนแจกเจ้านายในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า แล้วต่อไปข้างหน้าให้พระยาไชยสุรินทรเก็บเงินแจกทุกปี

๓. รับหนังสือพระยามหามนตรี เรื่องชำระผู้ร้ายฆ่าจีนคอนเจ้าทรัพย์ วันพฤหัสบดีแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ อ้ายขำผู้ร้ายเป็นบ่าวหลวงพิศาลพระอินทรเทพจับมาส่งวานนี้ อ้ายขำรับแต่ว่ามีดที่โจทก์จับได้นั้นเป็นมีดของอ้ายขำ พระยามหามนตรีเห็นพิรุธอยู่ที่ชวนภรรยาหนี ครั้นจะผูกก็จะไม่ขาว จึงได้ไปเอาตัวภรรยามาถาม ก็ว่าเอามีดไปจำนำแล้ว วัน ๑๕ ค่ำ อ้ายแฉ่งอ้ายสุ่นมากินหล้า แล้วชวนกันย่องเบา ครั้นเวลาดึกอ้ายขำมาชวนหนี ว่าเพื่อนไปแทงจีนคงตาย ถามอ้ายขำก็ยังไม่ได้ความว่าใครเป็นผู้ลงมือ จึงได้ไปเขาตัวอ้ายสุ่นเป็นทาสพระภักดีภัทรากร อ้ายแฉ่งผู้คุมรองที่สวนเจ้าพระยาภาณุวงศ์ ให้จมื่นทิพย์เสนาไปกราบเรียนท่านให้เร่งส่งตัวอยู่แล้ว

๔. ฉะบับเล็กอีกฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยไม้ค้ำโพธิ์ ๒๖ ท่อนได้ไปค้ำ วัดบวรนิเวศ ๔ วัดราชประดิษฐ์ ๔ วัดเทพศิรินทร ๔ วัดบรมนิวาศ ๒ วัดราชาธิวาศ ๒ วัดพระเชตุพน ๒ วัดอรุณ ๒ วัดราชโอรส ๒ วัดประทุมวัน ๔ กับล้างพระอุโบสถวัดพระเชตุพนแล้วเสด็จ

๕. กรมขุนบดินทรเฝ้าเรื่องจะตีพิมพ์หนังสือนิทราชาคฤช กับทูลขัดข้องเรื่องความเจ้าขาวกล่าวโทษเจิมพนักงานในพระบรมมหาราชวัง หมายมา พระยาอนุรักษ์ขัดไม่ให้ ว่าผิดกระทรวง (เรื่องพระยาอนุรักษ์ได้ทูลไว้ก่อนเห็นว่าเป็นคนในพระบรมมหาราชวัง ไม่ควรจะให้ว่าที่อื่นๆ รับสั่งว่า ถ้าทูลกระหม่อมแล้วท่านคงหึง) แล้วรับสั่งว่าจะต้องชำระในวัง

๖. มีพระราชหัตถ์ สั่งกรมขุนบดินทร์ เรื่องความหม่อมเจ้าขาวฟ้องกล่าวโทษเจิมมะโหรี ให้ชำระที่กรมวัง

๗. เสด็จออกขุนขาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองเผาศพเจ้าเมือง พระนรินทรอ่านบอกน้ำฝนต้นเข้าเมืองเพ็ชร์บุรี แล้วถวายหนังสือเรื่องอังกฤษยิงเมืองตรังกานูสอบกับกรมกระลาโหมว่าผิดกันอยู่ ๔๘ ฉะบับ แล้วถวายร่างตราถึงพระยามนตรีที่เมืองตรังให้ไปเปลี่ยนพระยาราชวังสรรค์ข้าหลวงเมืองภูเก็ตไปด้วยเรือพิธยัม ให้พระยาราชวังสรรค์กลับมาด้วยเรือมุรธาวสิตสวัสดี

๘. อีกฉะบับหนึ่งถึงพระยาราชวังสรรค์พระยาภูเก็ต ว่าด้วยให้ปล่อยจีน ซึ่งปล้นบ้านกุกู ซึ่งเป็นหัวหน้า ๑๕ คนที่จำไว้ ๗ เดือนนั้น ให้เรียกประกันทานบน แล้วถวายงบเดือนภาษีฝิ่นภาษีร้อยชักสามจำนวนเดือน ๙ และรับริโปตคุก

๙. สุ่นภรรยาพระยานรนารถ ถวายจำนวนปล่อยสัตว์ในการเฉลิมพระชนม์พรรษา โค ๒๖ เงิน ๖ ชั่ง ๕๕ บาท ๔๘ สลึง สุกร ๒๖ เงิน ๕ ชั่ง ๕๖ บาท ๕๖ สลึง เป็ด ๒๖ เงิน ๗ บาท ๓๒ สลึง ห่าน ๒๖ ๗๖ บาท ๔๘ สลึง นกพิราบ ๗๘ เงิน ๒๘ บาท ปลาดุก ๗๘ เงิน ๔ บาท ปลาหมอ ๗๘ เงิน ๒ บาท ปลายาว ๗๘ เงิน ๗ บาท จิตจูล ๒๖ เงิน ๖ บาท ๔๘ สลึง ปูทะเล ๒๖ เงิน ๒ บาท ปลาหางสด ๗๘ เงิน ๑๖ บาท ๔๘ สลึง เสาคำโพธิ์ ๒๖ เงิน ๑๓ บาท รวมเงิน ๑๔ ชั่ง ๔๙ บาท ๘ สลึง ใช้เงินข้างที่

วัน ๑ ๑๑ ค่ำ ถึงวัน ๒ ๑๔ ๑ ค่ำ ไม่ได้จดไว้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ