เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๔๐

วัน ๓ ๒ ค่ำ ปีขาลสัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. เจียมภรรยาพระยานนทบุรีนำเรื่องราวพระยานนทบุรีทูลเกล้าฯ ถวาย ขอรับพระราชทานโทษ

๒. พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ทำเรื่องราวถวายขอรับพระราชทานโทษคนโรงสี อ้ายเฉย ๑ อ้ายกระ ๑ อ้ายตดก ๑ อ้ายพัน ๑ อ้ายวัน ๑ อ้ายแก้ ๑ รวม ๖ คนมาไว้เป็นช่างไม้ในกรมช่างกระจก

๓. พระองค์เจ้ากาพย์กระหนกรัตน์ถวายจดหมายบัญชีคนซึ่งเข้ามารับราชการในกรมทหารมหาดเล็กกรมปนีทหารม้า นายเถาบุตรนายหนูใหญ่ นายเฉยซายันนำ อายุได้ ๒๒ ปี คลองสามเสน ๑ นายพ่วงบุตรหม่อมหลวงสอนนายอิ่มนำ อายุ ๒๑ ปี บ้านอยู่บางอ้อ ๑ นายชื่นบุตรนายเทศยายอิ่มนำ อายุ ๑๙ ปี บ้านอยู่บางอ้อ ๑ นายแปลกบุตรหลวงภักดีนายบุตรนำ อายุได้ ๒๔ ปี บ้านอยูวัดดาวดึงษ์ ๑ นายมากบุตรนายเอี่ยม นายบุตรนำ อายุ ๒๔ ปี บ้านหลังวัดดุสิต ๑

๔. พระยาพิทักษ์ภูบาลเฝ้าทูลเรื่องเลขที่จะซ่อมแซมพระที่นั่งมูลมณเฑียร เดิมโปรดเกล้า ฯ จะให้ทำตำหนักทูลกระหม่อมฟ้าชายใหม่เปิดให้ใหญ่ออกไป รับสั่งให้กรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์คิดตัวอย่างทำเป็น ๓ ชั้น ครั้นจะให้ทูลกระหม่อมฟ้าทั้ง ๓ พระองค์ประทับอยู่ที่นั้นก็จะถูกละอองปูนอยู่นานกว่าจะแล้ว จึงโปรดเกล้า ฯ ให้ประทับอยู่ที่พระที่นั่งมูลมณเฑียรก่อน แต่พระที่นั่งนั้นชำรุดและรั่วด้วย จึงโปรดเกล้า ฯ ให้พระยาพิทักษ์ภูบาลซ่อมให้ทันเดือน ๓ พระยาพิทักษ์ภูบาลไปตรวจชำระเลขรักษาพระองค์ จดหมายถวายเลขรักษาพระองค์ปืนทองปราบ ซึ่งมาเข้าประจำเดือนยี่ขวา ๙๓ ซ้าย ๑๐๐ จ่ายประจำการขวา ๙๖ ซ้าย ๙๔ เหลือ ๖ คน ชักมาประจำซองข้างขวา ๓ คน ยังคงให้ศาลาอยู่ ๓ คน จึงโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าหมื่นสรรเพ็ธภักดีจ่ายเลขศาลาให้ให้พอกับการ

๕. มีพระราชหัตถ์ประทานพรสมเด็จเจ้าพระยาแซยิด ๗๐ ความท่อนต้นตามธรรมเนียม ลงใหม่ว่า ทรงมีความยินดีจัดได้หีบทองคำหลังลงยาประดับเพ็ชร์เป็นอักษร แสดงเวลาซึ่งทรงมีความยินดีในกำหนดสำคัญความเจริญของท่านครั้งนี้หีบหนึ่งมาบูชาเป็นของขวัญให้เป็นมงคลแก่วงศ์ตระกูลสืบไป ขอให้ท่านมีความเจริญ ฯลฯ

๖. บ่าย ๕ โมงเศษทรงฉลองพระองค์ อิฟนิงเดรสเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้า เสด็จบ้านสมเด็จเจ้าพระยาทรงเรือพระที่นั่งเก๋งทองทั้งแท่ง ขึ้นที่ท่าบ้านเจ้าพระยาภาณุวงศ์ ทรงพระราชยานประทับบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เข้าทางหน้าบ้าน ท่ามมารับเสด็จที่ประตูบ้าน แล้วประทับตรัสที่หอนั่ง พระราชทานพระราชหัตถ์ประทานพรกับหีบ ทรงปรึกษาเรื่องออฟฟิศเซออังกฤษที่จะขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ จะมาว่าด้วยเรื่องไรท่านก็ยังไม่ทราบ แต่ไม่ไช่เรื่องความมองใบ กับทรงเล่าด้วยเรื่องเมืองโคราชเหลวใหล รับสั่งว่าทรงพระราชดำริว่า จะให้พระยามหาอำมาตย์ขึ้นไปจัดเสียสักครั้ง แล้วท่านทูลว่าจะขอขึ้นไปเอง ต้องคิดอ่านเอาหัวลงเสียบ้างราษฎรจึงจะกลับ แล้วท่านเชิญเสด็จไปหลังบ้านเสวยที่เรือนทำใหม่ ว่าเป็นเรียนคุณหญิงพัน มีโต๊ะเสวยมีท่านด้วย ๑ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ ๒ กรมขุนทั้งสาม แล้วมีโต๊ะเลี้ยงเจ้านาย ขุนนางข้างนอก เวลาเกือบ ๔ ทุ่มเสด็จกลับทางบกมาลงเรือท่าเก่า ของไทยทานสมเด็จเจ้าพระยาแซยิดวันนี้เรือโบต

วัน ๔ ๒ ค่ำ ปีขาลสัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. พระยาภาสกรวงศ์นำหนังสือเซอรอบบิลซัน ฉะบับ ๑ เลดีฉะบับ ๑ กับหนังสือมากับสมุดหนังสือทูลเกล้า ฯ ถวาย หนังสือเซอรอบบิลซัน ว่าวันนี้ซ้อมแห่ประสมข้างใน พระองค์เจ้าไม่ได้ทรง ฯ

๒. พระยาศรีอ่านบอกเมืองอุทัยธานี ๔ ฉะบับๆ ๑ ส่งผู้ร้ายปล้นเมืองกาญจนบุรีทูลเกล้า ฯ ถวาย โปรดเกล้า ฯ ให้ส่งไปให้กรมพระกลาโหมชำระ ฉะบับ ๑ ว่าด้วยมีผู้กล่าวโทษพระแม่กลองภูผาเมืองขึ้นเมืองอุทัยธานี ฉะบับ ๑ ว่าด้วยจับกระบือไม่มีตั๋วฎีกา ฉะบับ ๑ ว่าด้วยผู้ร้ายปล้นแมืองสิงห์ แล้วทูลพระยานครสวรรค์ พระยาอ่างทอง พระยาไชยนาท พระยาพิทักษ์อุทัยเขตต์ปลัดเมืองอุทัยธานี ลงมาเฝ้าในการโสกันต์ พระยานครสวรรค์ส่งเงินค่าตอไม้แม่วงด้วย กับพระยาจ่าแสนบดีทูลเจ้าเมืองพนมศก มีหนังสือส่งเงินมาสมโภชโสกันต์ ๔ ชั่ง ปลัด ๒ ชั่ง

๓. พระราชทานสัญญาบัตรตั้งหลวงวาสุเทพเป็นพระยารามกำแหง ตั้งนายสุจินดา (อ้น) เป็นพระอนุรักษ์โยธา นายบำเรอบรมบาทเป็นหลวงอินทรโกษา นายไม้มหาดเล็กเป็นขุนอมรินทรรักษา นายเล่ห์อาวุธเป็นเจ้าเมืองตะกั่วทุ่ง

๔. มีพระบรมราชโองการสั่งพระยาศรีให้ทูลสมเด็จกรมพระว่า หัวเมืองลงมามากให้แจกเสื้อผ้าเสียก่อน เขาจะได้ใส่การโสกันต์

๕. พระยาจ่าแสนถวายริโปตความกรมมหาดไทย เดือน ๙ ๑๐, ๑๑, ๑๒ รวม ๔ เดือน ความค้างอยู่เดิม ๙๕ แล้ว ๓๔ คง ๖๑ เรื่อง

๖. นายเสนองานประภาษถวายรายงานคุกเดือนอ้าย กับคนโทษถึงกำหนด ๒ คน

๗. เย็นสวดมนต์ถวายผ้าจำนำพรรษาวัดอรุณราชวราราม

๘. ของไทยทานสมเด็จเจ้าพระยาวันนี้ เรือมาดสำปนีประทุน

๙. กงสุลเดนหมาร์คเฝ้าเมื่อเวลาบ่าย ๔ โมง ทูลลาไปนอก ราชการฝากมิสเตอนอกซ์

๑๐. หลวงนายเดชถวายริโปตความมรดก ตั้งแต่เดือน ๖ ยกศาลไปวังสราญรมย์ จนถึงเดือน ๑๐ ความเดิม ๒๒ แล้ว ๙ ยัง ๑๑ ส่งต่างศาล ๒

วัน ๕ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. เวลาเช้า ๔ โมงเสด็จวัดอรุณเลี้ยงพระถวายผ้าจำนำพรรษา เวลาเที่ยงเสด็จพระราชดำเนินกลับ

๒. รับหนังสือพระยาราชถวายนฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระสยามปลัดเมืองสระบุรีลงมาแจ้งความว่า ที่บอกลงมาว่าด้วยผู้ร้ายปล้นเมืองณวันอาทิตย์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนอ้ายนั้น ได้แต่งให้กรมการออกสืบจับได้ตัวอ้ายผู้ร้ายชื่ออ้ายหนูๆ ซัดพวกเพื่อนอีก ๗ คนยังสืบต่อไป

๓. เย็นออกซ้อมแห่เวลาบ่าย ๔ โมง ฯ ค่ำสวดมนต์ถวายผ้าจำนำพรรษาวัดราชโอรส

วัน ๖ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. เวลาเช้า ๔ โมง เสด็จวัดราชโอรสเลี้ยงพระถวายผ้าจำนำพรรษา เลี้ยงพระแล้วเสด็จไปวิหารพระพุทธไสยาศน์ แล้วกลับมาทรงบูชาเทพารักษ์ที่ต้นหว้าแล้วเสด็จกลับ

๒. กัปตันลอฟตัสเฝ้า ถวายแผนที่เรือพระที่นั่งกลไฟ เป็นของกัปตันลอฟตัสเองคิดขึ้นอางใหม่ สำหรับแม่น้ำเดินน้ำตื้นได้ แล้วจดหมายถวายขนาดและอย่างเรือไฟ

๓. เย็นซ้อมแห่โสกันต์ ค่ำสวดมนต์ถวายผ้าจำนำพรรษาวัดราชประดิษฐ์

๔. มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ฉะบับ ๑ ว่าการโสกันต์พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ครั้งนี้ ควรจะต้องมีหนังสือถึงกงสุลทุกประเทศ กำหนดวันงานและเวลาแห่และที่ซึ่งจะยอมให้เขาดู และห้ามไม่ให้ตัดผ่าเบียดกระบวนในที่ล้อมวง ให้ท่านบอกกำหนดลงไปเสีย

วัน ๗ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. เวลา ๕ โมงเช้าเสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงรถไปเลี้ยงพระวัดราชประดิษฐ์ ถวายผ้าจำนำพรรษา ทรงพระราชทานเงิน ๔ ชั่ง แก่พระสาสนโสภณเป็นเบี้ยหวัดตามเคย เวลาเที่ยงเสด็จกลับ

๒. กรมท่าส่งสำเนาหนังสือพระสยามธุรารักษ์ กงสุลเมืองปารีสบอกมาว่าเมื่อวันที่ ๒๑ ออกโตเบอ มาแซนแมกมาฮ่อนเปรซิเดนแจกตราและดิโปลมาแก่ผู้ตั้งของเอกษหิบิเชน ตัวแกป่วยให้บุตรไปรับแทน กับส่งจดหมายเหตุมากับสำเนาหนังสือมิสเตอนอกซ์ มีขึ้นมาว่าด้วยรับหนังสือคอเวอนแมนต์อินเดีย ว่าตั้งเมเยอสตริชเข้ามาตรวจความใมเมืองเชียงใหม่ ว่าจะเข้ามาณต้นเดือนแยนุวารี จะเข้ามาในกรุงเทพฯ ก่อน เมื่อปรึกษากันตกลงแล้วจึงจะให้ไปเมืองเชียงใหม่

๓. บ่าย ๔ โมงเสด็จออกซ้อมแห่ตั้งกระบวนที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ มาขึ้นเกยแล้วซ้อมเวียนเขาแห่กลับเข้าวัง เมื่อประทับอยู่ที่เกยเขา รับสั่งกับสมเด็จกรมพระว่า ท่านจะต้องเป็นพระอิศวรกระบวนข้างล่างไม่มีใครช่วย ให้ท่านเอากรมหมื่นนเรศรไปช่วยอีกสักคนหนึ่ง แล้วเสด็จขึ้นไปรับกระบวนข้างใน ค่ำสวดมนต์ถวายผ้าจำนำพรรษาวัดราชบพิธ

วัน ๑ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. เวลาเช้า ๒ โมง เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมพร้อมด้วยข้างใน ออกทางประตูแถลงราชกิจ เสด็จประพาสสวนสราญรมย์ก่อน ประทับอยู่จน ๔ โมงเช้าจึงเสด็จไปวัดราชบพิธ เลี้ยงพระถวายผ้าจำนำพรรษา แล้วเสด็จกลับเวลาเที่ยง

๒. มีพระราชหัตถเลขาถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ ว่าด้วยส่งหนังสือกงสุลอังกฤษมีมา ว่าด้วยออฟฟิศเซออินเดียจะขึ้นไปเมืองเชียงใหม่นั้นได้ทราบแล้ว กรมมหาดไทยได้มีตราไปถึงเมืองตาก และหัวเมืองรายทางให้เตรียมพาหนะที่จะไป และทำที่พักไว้ตลอดแล้ว กับว่าไวซ์กงสุลเมืองมาเซนที่แครฮานขอมานั้นตั้งเสียก็ได้ จะมีตราตั้งด้วยหรือไม่ ถ้ามีให้ท่านจดหมายชื่อส่งให้อาลักษณ์ทำตราตั้งตามเคย

๓. พระดิษฐการถวายริโปตความกรมท่า เดือนอ้าย ความเดิม ๑๙ ใหม่ ๑๔ รวม ๓๓ นั้น จำหน่ายส่งกระทรวง ๑ แล้ว ๑๐ รวม ๑๑ ค้าง ๒๒

๔. พระองค์เจ้ากาพย์กระหนกรัตน์ จดหมายทูลขออนุญาตซื้อผ้าห่มแบลงเกตจ่ายทหาร กับนายนิลสับเลบเตอแนนค์ป่วยจุกเสียดทูลลาไปรักษาตัว

๕. รับโทรเลขเรือเข้ามา ๑ ลำ ออก ๒ ลำ

๖. รับสั่งกับกรมหมื่นนเรศรว่า ให้ช่วยสมเด็จกรมพระจัดแห่โสกันต์ กรมหมื่นเรศรสงสัยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่าโปรดเกล้าฯ ให้ช่วยแต่ที่เวียนเขาหรือฉลองพระเดชพระคุณทุกเวลา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับสั่งว่า ที่ตรงตัวกรมหมื่นนเรศรไม่ทรงพระรังเกียจให้ช่วยท่านทุกเวลาเถิด ด้วยสมเด็จกรมพระท่านก็ทรงพระชราแล้ว เดินมากเห็นจะไม่ไหว

๗. บ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกซ้อมแห่ เวลาย่ำค่ำแล้วเสด็จขึ้น

๘. พระยาศรีทูล พระสวรรคโลก พระยากำแพงเพ็ชร พระยาเพ็ชรบูรณ พระยานครนายก พระพยุหาธิบาล พระปลัดเมืองสุพรรณ หลวงสัตพันธ์เมืองพระพุทธบาท ปลัดเมืองพิจิตร ปลัดเมืองสุโขทัย พระสรรค์ผู้ช่วยเมืองสิงห์ ปลัดเมืองอินทร ยกระบัตรเมืองอ่างทอง มาเฝ้าพร้อมกันในการโสกันต์ และถวายของต่างๆ กับหลวงภักดีณรงค์ ซึ่งไปทางโคราชกลับลงมาด้วย

๙. สมเด็จกรมพระให้กราบบังคมทูลพระกรุณา ขอรับพระราชทานให้พระยาสุจริตรักษากลับขึ้นไปเมืองตาก จัดการรับออฟฟิศเซออินเดีย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต

๑๐. พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองจันทบุรี ๒ ฉะบับส่งส่วยรงฉะบับ ๑ ส่วยกฤษณาฉะบับ ๑ กับทูลพระยาจันทบุรี พระขลุง พระยาระยอง พระยาบางระมุง พระยาชล เข้ามาเฝ้ามาในการโสกันต์

วัน ๒ ๒ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. รับสำเนาหนังสือกงสุลเยอรมัน ว่าเขาได้รับพระราชสาสน์เอมเปอเรอเยอรมันมีมาถวาย ขอบพระทัยที่ได้ส่งของไปพระราชทานเจ้าหญิงปรุซเซียในการแต่งงาน เขาขอกำหนดวันเฝ้าถวายพระราชสาสน์

๒. เจ้าหมื่นสรรเพธภักดีจดหมาย ถวายกราบบังคมทูลพระกรุณาขอรับพระราชทานซื้อแพรไว้จ่ายราชการ

๓. บ่ายเสด็จออกซ้อมแห่ วันนี้คู่เคียงเข้าประสมด้วย ย่ำค่ำเสด็จขึ้น

๔. ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองเขมราฐ ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ส่งเงินรายพระยามหาอำมาตย์ไปชำระเหลือจากซื้อช้างเงิน ๒๐๐ ชั่งเศษ ฉะบับ ๑ ขอราชวงศ์เป็นอุปฮาช ขอราชบุตรเป็นราชวงศ์เมืองอำนาจเจริญ กับทูลพระศรีสุนทรเทพปลัดเมืองอุทัยธานี พระพิศาลคีรีเจ้าเมืองลับแล พระยาปลัดเมืองโคราช พระปลัดเมืองปราจินบุรี พระอุตรดิษฐาธิบาลลงมาเฝ้าในการโสกันต์

๕. พระนรินทรอ่านบอกหลวงไกรนารายน์ ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าล่องลงมาแต่เมืองเมียดตา วันพุธขึ้น ๑๓ ค่ำเดือนอ้าย หลวงนราข้าหลวงกับนายเล็กล่ามป่วยต้องเข้ามาส่ง แล้วคอยรับกับตันเฮนอยู่บ้านอำลำ ฉะบับ ๑ ว่า กับตันเฮนมาถึงจัดคนล่วงหน้าไปเข้าแดนก่อนภายหลังเขาจึงจะตามไป ให้คนถางทางยอดเขาไว้จะขึ้นไปส่องกล้อง กับพระยากาญจนบุรีบอกอาการหลวงนราเข้ามา กับจัดคนไปรับข้าหลวงฉะบับ ๑ แล้วทูลพระเสนหามนตรีผู้ช่วยเมืองนครกับปลัดเมืองกาญจนดิษฐ์ มาเฝ้าในการโสกันต์ กับทูลว่าพระสุวรรณคิรีกะเหรี่ยงเจ้าเมืองสังขลาบุรีคุมเครื่องราชบรรณาการเข้ามาเฝ้าทูลละอองฯแต่ก่อนเคยเฝ้าที่พระที่นั่งสุทไธศวริย์ ครั้งนี้จะโปรดให้เฝ้าที่ใดแล้วแต่จะโปรด โปรดเกล้าฯ ให้เฝ้าวันตั้งน้ำวงด้ายที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วรับสั่งให้กรมหมื่นนเรศรไปทูลสมเด็จกรมพระให้จัดซื้อผ้าพระราชทานในการโสกันต์

๖. พระยาพิพัฒนโกษาทูล พระยาพิพิธพิสัยสุนทรการผู้ว่าราชการเมืองตราดมาเฝ้าในการโสกันต์

๗. เช้าวันนี้แห่ชิงช้า พระยาจ่าแสนบดีเป็นผู้แห่

วัน ๓ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. รับคำโทรเลขเรือออกไปลำหนึ่ง

๒. ท้าวราชกิจถวายต้นหนังสือกงสุลฝรั่งเศส เป็นหนังสือตอบเจ้าพระยาภาณุวงศ์เรื่องบอกกำหนดการโสกันต์ ขอให้ห้ามปรามคนอย่าให้เบียดแซกผ่ากระบวนและอื่น ๆ เขาตอบจะทำตาม คัดสำเนาไว้

ไม่มีราชการสิ่งใด วันนี้วันพระ

วัน ๔ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑ สมเด็จกรมพระฝากบัญชีเสื้อผ้าพระราชทานหัวเมืองในการโสกันต์กับบัญชีหัวเมืองในมหาดไทยสมโภชโสกันต์เข้ามาถวาย โปรดเกล้า ฯ ว่าเสื้อผ้านั้นให้แจกตามที่ท่านทรงกะมาเถิด แต่พระยาระนองนั้น บ้านเมืองจำเริญดีใหญ่โตขึ้นแล้ว ขอให้ให้เสื้อครุยสัมรศทองเส้นหยาบ

๒. รับหนังสือเจ้าพระยาสุรวงศ์ว่าโขนหลวง ซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้เล่นในการฉลองวัดนิเวศธรรมประวัตินั้น ท่านให้พระสุนทราตรวจของ พระสุนทราทำบัญชียื่นฉะบับ ๑ ของชำรุดขาดมาก ด้วยโขนไม่ได้เล่นมากว่า ๘ ปีแล้ว จะขอรับพระราชทานสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง

๓. มีพระราชหัตถ์ตอบเจ้าพระยาสุรวงศ์จะบับ ๑ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สร้างขึ้นตามที่ขอ

๔. พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ว่าด้วยกงสุลเยอรมันจะขอเฝ้าถวายพระราชสาสน์ ขอผัดไปงานโสกันต์แล้วจึงจะรับได้

๕. เมื่อก่อนเสด็จออก เบลี่ยนภรรยาพระยาภาสนำบัญชีของที่จะแถมพกโสกันต์เข้าไปทูลเกล้า ฯ ถวาย บ่าย ๕ โมง เสด็จออกพระที่นั่งสุทไธศวริย์ทอดพระเนตรแห่ชิงช้า พระยาจ่าแสนรับพระราชทานผลกัลปพฤกษ์แล้วหัวเมืองเฝ้า เสด็จกลับทางหน้าวัดพระแก้วเข้าไปทอดพระเนตรเขาไกรลาศ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับขึ้น

วัน ๕ ๑๐ ๒ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑. วันนี้เป็นวันตั้งน้ำวงด้ายพระราชพิธีโสกันต์ เจ้าพนักงานจัดการพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และที่เขาไกรลาศพร้อมทุกพนักงานตามอย่างพระราชพิธีโสกันต์ใหญ่ รับสั่งให้กรมหมื่นเรศรทูลสมเด็จกรมพระให้ทำบัญชีคนทำเขาไกรลาศมาถวาย จะพระราชทานรางวัลและรับสั่งกับสมเด็จพระองค์น้อย ให้ท่านทำบัญชีช่างที่ทำการในท่านมาถวายด้วย ในกลางวันไม่มีราชการอะไร เวลาเกือบค่ำเสด็จออกทางประตูพรหมขึ้นเขาไกรลาศทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการบนบุษบกกลางและเครื่องทองน้อยที่บุษบกด้านเหนือ ด้านใต้ แล้วพระรามัญ ๔ รูป เจริญพระพุทธมนต์ แล้วเสด็จขึ้นบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระสงฆ์เชิญพระพุทธมนต์ขุนนางขึ้นไปเฝ้า พระนรินทรทูลพระสุวรรณคิรีกะเหรี่ยงเฝ้าถวายเครื่องราชบรรณาการ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานแจกเสื้อผ้าหัวเมืองชั้นนอก ประเทศราชตามผู้ใหญ่ผู้น้อยตามบัญชีกะ ภายหลังโปรดเกล้าฯ ว่าหัวเมืองชั้นในเขาสมโภชมาก ควรจะต้องแจกให้เขาด้วย จึงโปรดเกล้า ฯ ให้แจกพรุ่งนี้เช้า เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระสวดมนต์จบแล้วเสด็จขึ้น

๒. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์อิฟนิงเดรส ทรงเครื่องราชอิศริยยศมหาวราภรณ์ เจ้านายสรวมเสื้ออิฟนิงเดรสติดตรา แต่ข้าราชการสวมฟรอกโค๊ตด้วยไม่มีหมาย วันนี้สมเด็จพระองค์น้อย ท่านมาประทับที่เขาไกรลาศ กะให้ผู้ต้องเกณฑ์เครื่องกลมาแต่งวางที่ทุก ๆ แห่งจนรอบเขา เป็นเรื่องต่างๆ

๓. รับริโปตความกรมพระกลาโหมเดือนอ้าย ความ เดิม ๓๘ ใหม่ ๔ รวม ๔๒ นั้น แล้วเก่า ๕ ใหม่ ๓ รวม ๘ คงค้างเก่า ๓๑ ใหม่ ๑ รวม ๓๒ เรื่อง มีหนังสือเจ้าพระยาสุรวงศ์นำด้วย

๔. รับริโปตพระพิเรนทรเดือนอ้าย เดิม ๒๙๗ ใหม่ ๕ รวม ๓๐๒ นั้น แล้ว ๒ คงส่งปรับ ๙ ลูกขุนปรึกษา ๘๐ ชำระ ๑๓๐ รวม ๓๐๐ งดชำระ ๑๘

วัน ๖ ๑๑ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

เวลาเช้า ๒ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทรงศีลแล้วถวายเทียนชะนวน กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงจุดเทียนไชย แล้วเลี้ยงพระฉัน แล้วทรงถวายไตรย่ามพัดรองกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ถวายต่อไป รวมพระสงฆ์ ๒๐ รูป แล้วทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการบนเตียงสวด พระราชาคณะสวดท้องภาณ แจกเสื้อผ้าหัวเมืองแล้วเสด็จขึ้น เช้าวันนี้ ทรงฉลองพระองค์ฟรอกโค๊ตทหารสตานพรัตน์ เจ้านายข้าราชการตามธรรมเนียม บ่าย ๒ โมงครึ่งกรมหมื่นนเรศร์มาที่วังสมเด็จกรมพระแล้วเข้าไปพร้อมกับท่าน คอยนำกระบวนเข้าไปในวังอยู่ที่ประตูพระสำราญ บ่าย ๓ โมง เสด็จลงท้องฉนวนแล้วเรียกกระบวน เจ้าคุณกลางเจ้าคุณเป้าเป็นผู้ประคองพระเจ้าลูกเธอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งพระเจ้าลูกเธอลงพระราชยานเดินกระบวน แล้วเสด็จออกทางพระที่นั่งอมรินทวินิจฉัย ทรงพระราชยานเสด็จพระราชดำเนินมาคอยรับกระบวนที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมขปราสาท ครั้นกระบวนมาถึงทรงรับพระกรพระเจ้าลูกเธอ แล้วเสด็จขึ้นบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ เวลาบ่าย ๕ โมงครึ่งพระสวดมนต์จบแล้ว เสด็จมาส่งแห่บนพระที่นั่งอาภรณ์พิโมขปราสาทแล้ว เสด็จเข้าไปรับกระบวนที่ท้องฉนวนตามเคย ครั้นทรงรับพระกรพระเจ้าลูกเธอแล้ว ทรงแจกเงินสมเด็จกรมพระกรมหมื่นนเรศรและคู่เคียงแล้วเสด็จขึ้น คู่เคียงครั้งนี้ คู่ที่ ๑ เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ คู่ที่ ๒ พระยาภาสกรวงศ์ พระยาศรีสรราช คู่ที่ ๓ พระยาเพ็ชรบุรี พระยาราชบุรี คู่ที่ ๔ พระยานานาพิธภาษี พระยาไชยสุรินทร คู่ที่ ๕ พระยาพิพัฒนโกษา พระยาอาหารบริรักษ์ คู่ที่ ๖ พระยาสมุทสาคร พระยาอมรวิสัยสรเดช อนึ่ง เมื่อวันนี้รับสั่งกับสมเด็จกรมหลวงให้บอกเจ้านายมาช่วยกันเลี้ยงพระเวลาเช้าทั้งสามเวลา ด้วยไม่เคยเสด็จออก อนึ่งเมื่อสวดมนต์บ่ายวันนี้นั้น ที่เขาไกรลาศรับสั่งให้พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณไปจุดเทียนนมัสการ บ่ายวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระภูษาเขียนทอง ฉลองพระองค์เยียรบับ เครื่องราชอิศริยยศสายสพายมหาสุราภรณ์ พระสังวาลจุลจอมเกล้า เจ้านายนุ่งเยียรบับเขียนทอง เสื้อเข้มขาบ คาดครุย เจ้านายดูแห่ที่ทิมดาบตำรวจหน้า ข้าราชการเสนาบดีกับขุนนางพานทอง ดูบนนศาลาหน้าโรงทองทำด้วยไม้ขึ้นใหม่แทนศาลาปูน ขุนนางผู้น้อยและหัวเมืองนั่งหน้าเก้าอี้ในสนามหญ้าต่อศาลาจอกไป ที่หน้าพระที่นั่งใหม่อีก ๒ ศาลา เจ้านายข้างในประทับศาลาหมึ่ง พวกเจ้าจอมมารดาเก่าและราชนิกูลศาลาหนึ่ง คนยุโรปดูที่โรงทอง การเล่นต่าง ๆ ตั้งตามเคย

วัน ๗ ๑๒ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

เวลาบ่าย ๒ โมงครึ่ง ไปที่ประตูราชสำราญ คอยนำกระบวนเหมือนวานนี้ บ่าย ๓ โมงเดินกระบวนถึงพระที่นั่งอาภรณ์พิโมข พระราชยานประทับเกย โปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นอคิศรถ่ายพระรูป บ่าย ๕ โมงสวดมนต์จะแห่กลับ เมื่อจะเดินกระบวนชักพระรูปอีกพระรูปหนึ่ง วันนี้สมเด็จกรมพระกับสมเด็จพระองค์น้อย ทรงสายสร้อยจุลจอมเกล้าด้วยทั้ง ๒ องค์ แต่สมเด็จกรมพระนั้นสายสร้อยทำในนี้ กลางวันไม่มีราชการอะไร

วัน ๑ ๑๓ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

เวลาเช้า ๓ โมงเศษเสด็จออกทอดพระเนตรเขาไกรลาศพร้อมด้วยข้างใน กรมหมื่นนเรศรฝากสายสร้อยเพ็ชรเข้ามาถวายทอดพระเนตร เวลาบ่าย ๒ โมงครึ่งกระบวนเข้าไปคอย เวลาบ่าย ๓ โมงแห่มาทรงฟังพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เวลาบ่าย ๕ โมงแห่กลับ

วันนี้เจ้าพระยาภาณุวงศ์มีหนังสือมาทูลเกล้า ฯ ถวายฉะบับ ๑ ว่าเรือรบอเมริกันเข้ามาลำหนึ่ง ถึงกรุงเทพ ฯ ทอดอยู่หน้าบ้านกงสุลอเมริกัน เช้าวันนี้มาหาท่านว่าไม่มีธุระอะไรมาเยี่ยมกงสุลตามธรรมเนียม เวลาบ่ายจะเข้ามาดูแห่ด้วย

วัน ๒ ๑๔ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

วันนี้ ๑๑ ทุ่มครึ่งกระบวนแห่พร้อมตั้งที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ เวลาย่ำรุ่งเสด็จออกส่งพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ลงพระยานมาศ แล้วเสด็จพระราชดำเนินทางหน้าพระที่นั่งใหม่ ไปพระที่นั่งอาภรณ์พิโมขแล้วจึงได้เดินกระบวน พระเจ้าลูกเธอเสด็จขึ้นแล้วทรงผลัดเครื่องทรง ๆ เครื่องถอดแล้วเสด็จออกไปทรงศีล แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถวายของไทยทาน โปรดให้พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ ถวาย ๑๐ รูป แล้วเจ้าพนักงานภูษามาลาแย่งพระเกษาตามธรรมเนียม เวลาเช้าโมง ๑ กับ ๓ นาฑีได้พระฤกษ์พระราชทานข้าพระมหาสังข์ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรศักดาพิศาล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมขุนภูวนัยนฤบาล จรดพระกันไกร แล้วหลวงเทพาภรณ์ถวายพระกันบิดต่อไป ครั้นโสกันต์เสร็จแล้ว โปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ เลี้ยงพระสงฆ์ แล้วพระพิมลธรรมดับเทียนไชย เสด็จไปคอยรับพระกรพระเจ้าลูกเธอที่เขาไกรลาศ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จกรมพระส่งลงพระราชยานที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมข ครั้งพระเจ้าลูกเธอประดัยเกยเขาแล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้เข้าประทับที่สรง ๆน้ำออกจากปากสัตว์ ทั้ง ๔ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำพระเต้าต่างๆและน้ำพระมหาสังข์อย่างตามธรรมเนียมแล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการผู้ใหญ่ถวายน้ำต่อไป ที่ ๑ กรมพระราชวังบวร ที่ ๒ กรมหลวงวรศักดา ที่ ๓ สมเด็จกรมพระ ที่ ๔ กรมขุนภูวนัย ที่ ๕ กรมขุนบดินทร ที่ ๖ กรมขุนเจริญ ที่ ๗ สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์ ที่ ๘ สมเด็จพระองค์น้อย ที่ ๙ กรมหมื่นนเรศร ที่ ๑๐ กรมสมเด็จพระสุดารัตน ที่ ๑๑ พระองค์เจ้าแม้นเขียน ที่ ๑๒ พระองค์เจ้าเสงี่ยม ที่ ๑๓ พระองค์เจ้าสุบงกช ที่ ๑๔ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ ที่ ๑๕ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ที่ ๑๖ เจ้าพระยาสุรวงศ์ ที่ ๑๗ เจ้าพระยาภาณุวงศ์ ที่ ๑๘ เจ้าพระยาธรรมา ที่ ๑๙ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ ที่ ๒๐ เจ้าพระยามหินทร ที่ ๒๑ เจ้าคุณกลาง ที่ ๒๒ เจ้าคุณเป้า แล้วเสด็จขึ้นเปลื้องเครื่อง ขณะเมื่อเจ้านายข้าราชการถวายน้ำนั้นช้า พระเจ้าลูกเธอทรงหนาวมาก พอหมดก็รีบให้เสด็จขึ้นเปลื้องเครื่องเสีย พราหมณ์หาทันได้ถวายน้ำไม่ ต่อทรงเครื่องแล้วพราหมณ์จึงได้ไปถวายน้ำต่อภายหลัง

ครั้นทรงเครื่องเสร็จแล้วโปรดให้ท่านเจ้าพระยาสุรวงศ์ เจ้าพระยาภาณุวงศ์ไปรับเสด็จจูงพระกรขึ้นบนเขา มีพราหมณ์โหรนำเสด็จ ครั้นถึงประตูสมเด็จกรมพระซึ่งแต่งพระองค์เป็นพระอิศวร เสด็จมารับที่ประตู ขณะนั้นโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นอดิศรถ่ายพระรูป ๆ หนึ่ง แล้วเสด็จเข้าไปจุดเทียนนมัสการพระอิศวรแล้ว เสด็จเข้าไปทรงเครื่องในวิมาน

ครั้นเวลาเช้า ๓ โมง ทรงเครื่องต้นแล้วทรงชฎามงกุฎทรงเดิม สมเด็จกรมพระจูงพระกรส่งให้เจ้าพระยาทั้งสองทางประตูหลักเขา กรมหมื่นอดิศรถ่ายพระรูปอีกพระรูปหนึ่ง แล้วเสด็จลงมาประทับเกย สมเด็จกรมพระส่งลงพระราชยานแล้ว เดินกระบวนเวียนเขา ๓ รอบ แล้วแห่กลับ เช้าวันนี้ กระบวนแห่เมื่อเวลากลับเปลี่ยนแต่งเครื่องชมภู พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นมารับเกยข้างใน

เช้าวันนี้เลี้ยงเจ้านายที่พระที่นั่งอมรินทร ข้าราชการเสนาบดีเลี้ยงที่โรงกระสาปน์ใหม่ ข้าราชกาผู้น้อยที่โรงกระสาปน์เก่า พระองค์เจ้ากาพย์เป็นผู้เลี้ยงเจ้านาย เจ้าหมื่นสรรเพธ เจ้าหมื่นศรีสรรักษเป็นผู้เลี้ยงข้าราชการ บ่าย ๒ โมง สมเด็จกรมพระกับเจ้าพนักงานกรมภูษามาลาเข้าไปทรงเครื่องพระเจ้าลูกเธอ เวลาบ่าย ๓ โมงครึ่งเดินกระบวน บ่ายวันนี้พระเจ้าลูกเธอทรงชฎา ๕ ยอด ครั้นเสด็จขึ้นเกยดุสิตมหาปราสาทแล้ว เจ้านายข้าราชการขึ้นไปเวียนเทียนๆแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ทักขิณาวัตร และทรงเจิมพระราชทานแล้วพระราชทานของสมโภชแหวนเพ็ชรทั้งเมล็ด ๔ วงสำรับ ๑ พานหมากทองคำลงยาราชาวดีเครื่องในพร้อมสำรับ ๑ ขันน้ำมีฝาครอบจอกลอยลงยา ๑ หีบหมากเสวยพานรองลงยาสำรับ ๑ บ้วนพระโอฐลงยา ๑ กาน้ำเสวย ทองคำมีตราพระเกี้ยว ๑ เงินพระคลังมหาสมบัติวันละ ๑๐ ชั่ง เงินพระคลังในวันละ ๑๐ ชั่ง รวม ๓ วัน ๖๐ ชั่ง แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้ใหญ่เสนาบดีเจิมถวาย คือ ที่ ๑ กรมพระราชวัง ที่ ๒ กรมหลวงวรศักดา ที่ ๓ สมเด็จกรมพระ ที่ ๔ กรมขุนภูวไนย ที่ ๕ กรมขุนบดินทร ที่ ๖ กรมขุนเจริญ ที่ ๗ ทูลกระหม่อมพระองค์ใหญ่ ที่ ๘ ทูลกระหม่อมพระองค์น้อย ที่ ๙ สมเด็จเจ้าพระยา ที่ ๑๐ เจ้ารพระยาสุรวงศ์ ที่ ๑๑ เจ้าพระยาภาณุวงศ์ ที่ ๑๒ เจ้าพระยาธรรมมา ที่ ๑๓ กรมสมเด็จพระสุดารัตน์ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษแห่กลับ

วันนี้เจ้าพนักงานรับเงินสมโภชข้างหน้าที่เก๋งวรสภาภิรมย์ พระยาภาสเป็นผู้จัดของแถมพก ข้างในรับที่ปราสาท เปลี่ยนภรรยาพระยาภาสจัดของแถมพก

เย็นวันนี้ทูลกระหม่อมพระองค์น้อยกับพระยามหามนตรีต่อพื้นเขาไกรลาศด้านหน้าออกมาเล่นลครพระยามหามนตรีเมื่อกรุงพานชมกินนร

วัน ๓ ๑๕ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

เวลาบ่าย ๓ โมง กระบวนแห่พร้อม ได้แห่บ่าย ๔ โมง พระองค์เจ้าศรีวิลัยทรงชฎามงกุฎเก่า เวียนเทียนสมโภชแล้ว พระราชทานเงินและทรงเจิมเหมือนวานนี้ แต่วันนี้วังหน้าไม่เสด็จมา เวลาเกือบย่ำค่ำแห่กลับ

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นอดิศรมาถ่ายพระรูปอีกเวลา ๑ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นนเรศรเข้าไปหยิบของเครื่องถม ให้เปลี่ยนภรรยาพระยาภาสไปทำของแถมพกวันพรุ่งนี้

ลครพระยามหามนตรีเล่นเหมือนวานนี้

วัน ๔ ๒ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

เวลาบ่าย ๓ โมงกระบวนเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง เวลาบ่าย ๓ โมงครึ่งเดินกระบวนพระเจ้าลูกเธอทรงชฎาพระกลีบ แต่ไปถึงเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมขแล้วกรมหมื่นอดิศรถ่ายพระรูป แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการขึ้นไปเวียนเทียนบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขณะเมื่อสมโภชนั้นพระองค์เจ้าศรีวิลัยประชวรลมปวดพระเศียร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถอดพระชฎาพระราชทานให้ สมเด็จกรมพระไปคอยถวายทรงสวมที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมข ต้องเสด็จไปพักอยู่ที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมขครู่หนึ่ง ทรงสบายแล้วจึงได้แห่กลับชักพระรูปอีกพระรูปหนึ่ง

อนึ่งเมื่อกำลังสมโภชอยู่บนปราสาทนั้น ทรงปรึกษากับสมเด็จเจ้าพระยา และเจ้าพระยาสุรวงศ์ เจ้าพระยาภาณุวงศ์ ด้วยเรื่องออฟฟิศเซอที่จะขึ้นไปเชียงใหม่ มิสเตอนอกซ์มาเตือนว่า ให้รีบจัดการเสียก่อนนั้น ท่านจะเห็นอย่างไร สมเด็จเจ้าพระยาท่านเห็นควรจะให้พระยาเจริญเป็นข้าหลวงขึ้นไป ด้วยพระยาเทพเป็นผู้รู้เรื่องความและในบ้านเมืองเมืองเชียงใหม่ จะได้แก้ไขชี้แจง ส่วนพระยาเจริญเป็นผู้ทำหนังสือสัญญามา ถ้าขัดข้องอย่างไรจะได้แก้ไขชี้แจง จึงรับสั่งถามเจ้าพระยาภาณุวงศ์ว่า ที่เขาพูดนั้นว่าจะมาจัดเรื่องไร เจ้าพระยาภาณุวงศ์ทูลว่าทีเหมือนอย่างจะมาไขข้อสัญญา สมเด็จเจ้าพระยาว่าดี จะได้พ้นบ่า แต่เจ้าพระยาสุรวงศ์ว่ายอมไม่ได้ ก็ยังไม่ตกลงกันทรงพระวิตกมาก

วัน ๕ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

๑ วันนี้เวลาเช้า ๕ โมงเศษเสด็จออกสังเวยเทวดาบนพระที่นั่งอาภรณ์พิโมขปราสาท แล้วทอดพระเนตรลครพระยามหามนตรี เล่นเรื่องเงาะ โรงปลูกสนามหน้าหน้าเขาไกรลาศ เวลาเที่ยงเสด็จขึ้น

๒ เวลาบ่าย ๓ โมงแห่พระเกษาไปลอยออกประตูศรีสุนทรลงท่าขุนนาง

๓ รับคำโทรเลขเรือมา ๒ ลำ

๔ เวลาย่ำค่ำเสด็จออก ทอดพระเนตรลครบนพระที่นั่งอาภรณ์พิโมขปราสาท จนเวลายามเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

ท้าวราชกิจถวายสำเนาหนังสือมิสเตอนอกซ์ กงสุลอังกฤษว่าด้วยการห้ามปรามคนในบังคับอังกฤษเรื่องโสกันต์ เขายอมทุกอย่าง เขาขอให้คอเวอนเมนต์ไทยเป็นธุระดูการถนนบ้างคือไม่มีใครป้องกันรักษาอันตรายห้ามปรามเรื่องรถเรื่องม้า และมีงิ้วปลูกโรงคร่อมถนน และการจุดประทัดเป็นที่น่ากลัวม้ารถจะตื่นเป็นอันตราย และทิ้งของลงบนถนนเป็นที่โสโครก แล้วว่าด้วยถนนไม่ดีสะพานชำรุด ขอให้คอเวอนแมนต์ไทยเป็นธุระคิดทำขึ้นให้ดี แล้วมีพระราชหัตถ์ถึงพระยารองเมืองคัดสำเนาหนังสือกงสุลอังกฤษส่งไป ให้คิดจัดการเสียอย่าให้เขาติเตียนอย่างนี้อีกได้

บ่าย ๔ โมงกรมท่านำพวกเรือรบอเมริกันเฝ้าไปรเวต

เวลาย่ำค่ำเสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สวดมนต์ฉลองพระพุทธปฏิมากรยืนห้ามสมุทเงินหล่อใหม่แทนพระที่หายแล้วเสด็จ ได้เข้ามาตั้งในการพระราชพิธีโสกันต์ แล้วเลยฉลองทีเดียว ครั้นสวดมนต์จบแล้วเสด็จประทับพลับพลายกหน้าโรงลครทอดพระเนตรลคร และทรงจุดดอกไม้เพลิง เวลา ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

เวลาเช้าไม่ได้เสด็จออก โปรดให้พระเจ้าลูกเธอเสด็จไปจุดเทียนและปฏิบัติพระสงฆ์ แล้วถวายของไทยทาน เวลาบ่ายเจ้าพนักงานเวียนเทียนสมโภช

เช้า ๕ โมงเสด็จออกสังเวยเทวดาที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมข แล้วทอดพระเนตรลคร แล้วพระราชทานตรามันฑนาภรณ์ พระยาอินทราธิบดี ความชอบชำระผู้ร้ายลักพระ และผู้ร้ายต่าง ๆ หลายเรื่อง เวลาบ่ายโมงเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

พระองค์เจ้าประดิษฐ์จดหมายถวายว่าด้วยการกาหลั่ยพระพุทธรูปและพระสาวกวัดนิเวศธรรมประวัติ ได้ปรึกษากับพระสุพรรณรัตนพิจิตร คิดจะแช่แท่นให้ทองน้อยลง พระสุพรรณไม่ยอมว่าแช่นั้นทองไม่ลงในพระ หมดสูญไปด้วยน้ำแช่น้ำชุบแล้วไม่ทันด้วย เห็นว่าสู้กาหลั่ยไม่ได้ ด้วยทองไม่บ่าไปที่อื่นๆ แกจึงคิดจะกาหลั่ยแท่นพระให้บางหน่อยให้ทองน้อยลง เดิมกะไว้พระประธานองค์พระหนัก ๘ ตำลึง แท่น ๑ ชั่ง ๕ ตำลึง พระสาวกองค์ละ ๕ ตำลึง ๘ องค์ ทอง ๒ แท่นๆ ละ ๓ ตำลึง รวมทอง ๑ ช่าง ๔ ตำลึง รวมทั้งหมด ๔ ชั่ง ๑๗ ตำลึง จะลดแท่นพระลง พระประธานจะกาหลั่ยแต่เพียง ๑ ชั่ง แท่นพระสาวกกาหลั่ยแต่เพียงแท่นละ ๒ ตำลึง ๒ บาท รวม ๑ ชั่ง รวมทั้งสิ้น ๔ ชั่ง ๘ ตำลึง กับจะคิดผ่อนดูเมื่อกาหลั่ยอีก และพระคราวนี้เล้ก จะเข้ามากาหลั่ยโรงทอง

มีพระราชหัตถ์เส้นดินสอตอบไปว่า พระสาวก ๘ องค์จะตั้งตามทิศนั้นให้ปิดทอง กาหลั่ยพระอรรคสาวก ๒ องค์เท่านั้น

พระยาอาหาร เอาเยียรบับนุ่งมาถวายทอดพระเนตร ๓ ผืน ทรงซื้อไว้ทั้งนั้น พื้นขาว ราคา ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึง พื้นม่วง ราคา ๑ ชั่ง ๙ ตำลึง พื้นแดง ๑ ชั่ง ๙ ตำลึง รวม ๓ ผืน ๔ ชั่ง ๘ ตำลึง พระราชทานหนังสือสำคัญ

กรมหมื่นนเรศรนำเรื่องราวลาวนายกองส่วยกองด้าน เมืองหนองคายเข้าชื่อกันยื่นหางว่าวเลขชายหญิง ๓๐๐๐ เศษ กล่าวโทษพระยาประทุมเทวาว่าคุมเหงแต่งคนไปปล้น ไม่ขอสมัครขึ้นเมืองหนองคาย จะมาขอขึ้นเมืองปราจิน สมเด็จกรมพระให้กรมหมื่นนเรศรนำเข้ามาถวายเป็นไปรเวตก่อนจะทรงพระราชดำริอย่างไรแล้วแต่จะโปรด และให้กราบทูลพระกรุณาว่า การครั้งนี้เป็นการใหญ่โตรวบรวมกำลังมาก ต้องทรงพระราชดำริมาก ๆ ด้วยการบ่อทองเป็นกำลังแรง ที่จะยอมให้พวกเลขหมู่นี้มาเป็นกำลังเห็นจะไม่ได้ และก็หนีการหนักมาหาการเบา ประการหนึ่งอยู่บ้านเมืองไกล ถ้ามีราชการจะลำบากมาก โปรดให้มีมาทางราชการจะต้องเขาพระยาประทุมเทวามาถาม แล้วจึงค่อยผ่อนผันจัดเลขเหล่านี้ให้แยกย้ายกันอยู่ในตัวเมืองเหล่านั้น

ออกขุนนาง พระยาศรีนำพระยาไชยนาท พระยาอ่างทอง พระยานครนายก พระปรีชา พระสรรค์ กราบถวายบังคมลาไปรักษาเมือง พระนรินทรนำพระยากาญจนบุรี กราบถวายบังคมลากลับไปเมือง

พระยาพิพัฒนอ่านบอกเมือจันทบุรี ๓ ฉะบับๆ ๑ ส่งส่วยรงปีชวดอัฐศก ปีฉลูนพศก เงิน ๖๗ ชั่ง ๑๒ ตำลึง ไม้แดงฉะบับ ๑ จำนวนปีมะโรง ๑๒๓๐ มะเส็ง ๑๒๓๑ เงิน ๑๓ ชั่ง ๒ ตำลึง ๒ บาท ฉะบับ ๑ ผลไม้ ๕ อย่าง จำนวนปีระกา ๑๒๓๕ ปีจอ ๑๒๓๖ เงิน ๑๑ ชั่ง ๑๘ ตำลึง กับส่วยไม้ ๕ อย่าง เมืองขลุงด้วย แล้วนำพระยาจันทบุรี พระยาตราษ พระยาระยอง พระยาบางละมุง พระยาขลุง พระปลัดจันคิรีเขตต์ กราบถวายบังคมลากลับไปบ้านเมือง พระราชทานพรพวกหัวเมืองทั้งปวงมาช่วยการโสกันต์ครั้งนี้ดีแล้ว ขอบใจทุกคน กลับไปให้มีความเจริญอุสาห์รักษาบ้านเมืองให้เรียบร้อยเถิด

พระองค์เจ้ากาพย์มีจดหมายทูลว่า เจ้าพระยาภาณุวงศ์ ให้พระยาศรีธรรมสาสน์มาแจ้งว่า ทุ่นเหล็กซึ่งจะได้ปักที่ปากน้ำบางปกงนั้นได้ทำแล้ว ขอกับตันลอฟตัสไปปักเสากว่าจะสำเร็จ โปรดให้ไปทำ

วัน ๒ ๒ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๔๐

เวลาเช้า ๕ โมง โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จกรมพระแต่งพระองค์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัย ถ่ายพระรูปทรงมงกุฎเก่า ถ่าย ๒ พระรูป ยืน ๑ นั่ง ๑

กงสุลเยอรมันเฝ้าถวายพระราชสาสน์ของเอมเปอเรอเยอรมันตอบขอบพระทัยที่พระราชทานของเจ้าที่แต่งงานใหม่ ๒ องค์ ลงวันที่ ๒๖ ออกโตเบอ ๑๘๗๘ ฉะบับหนึ่งหนังสือปรินส์เฟรเดริกชาลกับมาเรียแอนจอบพระทัยที่ได้ของลงวันที่ ๒๖ เหมือนกัน ฉะบับหนึ่งหนังสือปรินส์แชลอสแฮดิเตอรี ลงวันที่ ๒๗ ออกโตเบอ ฉะบับหนึ่งหนังสือปรินซิสอลิสะเบิกแฮดิเตอรี ลงวันที่ ๓ โนเวมเบอ ขอบพระทัยที่พระราชทานของ

พระองค์เจ้าเกษมสันต์จดหมายถวาย ด้วยพระองค์เจ้าไชยานุชิตฟ้องว่าบ่าวตีเธอบนรถแต่ไม่ถูก เอาตัวบ่าวมาถามรับเป็นสัตย์แล้วทูลปากเปล่าขอให้มีพระราชอาญา ถ้าตัวจะทำเองกลัวจะเป็นที่สงสัยแก่ผู้อื่นไป รับสั่งว่าไม่เป็นไรให้เฆี่ยนเสียสัก ๕๐,๖๐ ทีก็แล้วกัน ขอกรมหมื่นพิชิตไปเป็นผู้นั่งด้วย

ออกขุนนาง พระยาศรีนำพระยากำแพงเพ็ชร พระยาอุตรการโกศล กราบถวายบังคมลาไปเมือง กับพระพรหมยกระบัตรโคราชเข้ามาเฝ้ามาว่าความ พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองนครไชยศรี ผู้ร้ายปล้นรายหนึ่ง

วัน ๓ ๒ ค่ำ ถึงวัน ๕ ๑๕ ๓ ไม่ได้จดอะไร

  1. ๑. ยอดไม่ตรง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ