เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๔๕

วัน ๓ ๔ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมง โปรดเกล้า ฯ ให้มิสเตอรอาลบาสเตอ เข้าไปเฝ้าณพระที่นั่งอุทธยานภูมิเสถียรสักชั่วโมง ๑ กลับออกมา เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกที่สวดมนต์เหมือนเวลาวานนี้ ทรงศีลแล้ว พระสงฆ์สวดสมัยสูตรและสัตตปริตรโดยสังเขป เสด็จออกประทับที่พระเฉลียง พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการเข้าเฝ้า วันนี้ไม่มีราชการเป็นแต่รับสั่งกับคนโน้นบ้างคนนี้บ้างเล็กน้อย สวดมนต์จบแล้วเสด็จขึ้นเวลา ๒ ทุ่ม

วัน ๔ ๔ ค่ำ เวลาเช้า ๑ โมงเศษ พระสงฆ์และเจ้าพนักงานพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการเข้าไปพร้อมกันในพระที่นั่งอุทธยานภูมิเสถียร หม่อมราชวงศ์ซึ่งจะเกษากันต์แต่งเครื่องถอดมาเตรียมพร้อม เสด็จออกมาทรงศีลแล้วได้พระฤกษ์เวลาเช้า ๒ โมง ทรงจรดกรรไกรตัดจุกหม่อมราชวงศ์ทั้ง ๒ คน แล้วโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จกรมพระตัดจุก พระสงฆ์สวดไชยมงคลโกนแล้วไปรดน้ำที่เตียงมณฑลข้างพระที่นั่ง โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้านายต่างกรมไปรดน้ำทุกพระองค์ แล้วเสด็จประเคนพระสงฆ์ ๑๐ รูปรับพระราชทานฉัน แล้วหม่อมราชวงศ์แต่งตัวมาถวายของ พระสงฆ์โมทนาแล้วเสด็จขึ้น เป็นเสร็จการ

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ทำขวัญที่ข้างในมีบายศรีเงินบายศรีทองรวม ๒ สำรับ ข้าราชการข้างหน้าเข้าไปแต่ที่พนักงาน เสด็จออกทำขวัญด้วยเงินพระราชทาน ทำขวัญหม่อมราชวงศ์ส่อศรี พระคลังมหาสมบัติ ๑๐ ตำลึง พระคลังข้างที่ ๑ ชั่ง รวม ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึง หม่อมราชวงศ์สงบ พระคลังมหาสมบัติ ๑๐ ตำลึง พระคลังข้างที่ ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึง รวม ๒ ชั่ง เพราะทำราชการจึงพระราชทานเพิ่มขึ้นอีก เลิกทำขวัญแล้วไม่มีราชการอันใด อนึ่งวันนี้ยกรูปพระอินทร์เป่าสังข์รูปเบญจสีขรเทวบุตรดีดพิณ ซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้หล่อใหม่ด้วยทองเหลืองปิดทองประดับกระจก ขึ้นตั้งบนซุ้มประตูพระอุโบสถวัดนิเวศนธรรมประวัติ เปลี่ยนรูปซึ่งทำด้วยปูนซึ่งตั้งอยู่แต่ก่อน

วัน ๕ ๔ ค่ำ วันนี้เวลาเช้าเลี้ยงพระที่วัดนิเวศนธรรมประวัติ ในการอุป สมบทสามเณรชมเปรียญ ๔ ประโยคเป็นภิกษุ แต่ไมได้เสด็จพระราชดำเนิน เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออก เสด็จทรงเรือพระที่นั่งเก๋งจากท่าพระราชวังไปประทับวัดนิเวศนธรรมประวัติ เสด็จเข้าในพระอุโบสถ ทรงประเคนผ้าไตรให้สามเณรชมห่มแล้ว เข้าไปขอนิสสัยและอุปสมบทเป็นภิกษุ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอมราภิรักขิตเป็นกรรมวาจา เสร็จอุปสมบทกรรมบอกอนุสาสน์แล้ว ถวายของพระที่นั่งหัตถบาส ไตรแบ่งเหมือนอย่างทรงผนวชหม่อมเจ้า แล้วรับสั่งว่าพระมหาชมสึกไปเสียทีหนึ่งแล้ว จะรับตาลิปัตรใหม่ครานี้เหมือนตั้งเปรียญใหม่ให้พระสงฆ์สวดชยันโตด้วย แล้วพระราชทานตาลิปัตรและเครื่องบริกขารเหมือนอย่างเครื่องทรงผนวชหม่อมเจ้า พระสงฆ์สวดชยันโตเสร็จแล้ว ยถาสัพพีอนุโมทนา แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับจากวัดนิเวศนธรรมประวัติ เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้นข้างใน เวลาบ่าย ๕ โมงเศษสมเด็จพระนางเจ้า เสด็จวัดนิเวศนธรรมประวัติพร้อมด้วยข้างในถวายผ้าพระมหาชมแล้วเสด็จกลับ วันนี้สมเด็จกรมพระถวายคำลูกขุนปรึกษาเรื่องความทหารยิงปืนที่พระพุทธบาท ปรึกษาให้ลงโทษริบราชบาตรประหารชีวิตอ้ายเผื่อนลุตเตอแนนต์ อ้ายหรุ่นลุตเตอแนนต์ อ้ายแสง อ้ายข้อ อ้ายเดื่อ ทหารไปรเวตทั้ง ๕ คน แค่เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์นั้นได้รับราชการมาช้านานพึ่งมีความผิด และเป็นราชตระกูลอยู่ สุดแล้วแต่จะโปรด นายน่วมกัปตัน นายนิลกัปตัน หม่อมราชวงศ์ท้วมลุตเตอแนนต์ นายอยู่พิจารณาไม่ได้ความว่าล่วงพระราชอาชญาประการใด ขอให้สังกัดมุลนายรับตัวไป ทรงเซ็นพระราชหัตถเลขาว่า ลูกขุนว่าหาถูกต้องแล้ว แต่การเสด็จพระราชดำเนินพระพุทธบาทคราวนี้เป็นการพระราชกุศลไม่ควรจะฆ่าผู้ฟันคน ให้ยกโทษริบราชบาตรประหารชีวิตอ้ายมีชื่อ ๕ คนเสีย ให้เฆี่ยนอ้ายเผื่อน ๒ ยก ๖๐ ทีจำคุกจนตาย เฆี่ยนอ้ายหรุ่น อ้ายแสงคนละ ๒ ยก ๖๐ ทีจำคุก ๗ ปี เฆี่ยนอ้ายเดื่อ อ้ายข้อ คนละ ๕๐ ทีจำคุก ๓ ปี เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์นั้นก็มีโทษมาก แต่ทรงเห็นว่ารับราชการมาช้านานโปรดยกโทษพระราชทาน แต่ให้ถอดจากผู้บังคับการและถอดจากหัวหมื่น นอกนั้นให้ทำตามคำลูกขุนปรึกษา

วัน ๖ ๔ ค่ำ เวลาบ่ายวันนี้ตระลาการกรมพระตำรวจนำนักโทษที่ยิงปืนที่พระพุทธบาทมาพร้อมกันที่ใต้ต้นมะม่วงหน้าพระที่นั่งวโรภาศพิมาน อ่านคำปรึกษา และพระราชหัตถเลขาทรงสั่งแล้ว ลงพระราชอาชญาเฆี่ยนตามพระราชหัตถ์

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งวโรภาศพิมาน กรมหมื่นพิชิตขึ้นมาเฝ้าด้วยการต่าง ๆ ที่จะขึ้นไปราชการเชียงใหม่ครั้งนี้ รับสั่งอยู่จนเกือบทุ่มเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออกไม่มีราชการอะไร

วัน ๑ ๔ ค่ำ วันนี้เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งวโรภาศพิมาน พระราชทานเทียนให้มหาดเล็กไปจุดที่ศาลพระเจ้าปราสาททอง แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งสตรูลำใหม่ เวลาเช้า ๔ โมงครึ่งออกจากท่าพระราชวังล่องลงไปทางท้ายเกาะ ถึงเรือพระที่นั่งเวสาตรีซึ่งลงไปจอดอยู่ท้ายเกาะเกิด เพราะข้างบนขึ้นมาน้ำตื้นจึงต้องถอยไปจอดอยู่ที่ลึก ประทับเรือพระที่นั่งเสด็จขึ้นเรือพระที่นั่งเวสาตรี เวลาเช้า ๕ โมงออกจากท้ายเกาะเกิดล่องลงมาตามลำน้ำ มาถึงท่าราชวรดิษฐเวลาบ่าย ๔ โมงครึ่ง ประทับเรือพระที่นั่งเสด็จขึ้นพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ตรัสกับข้าราชการที่มารับเสด็จ พระยามหาอมาตย์อ่านบอกเมืองนครนายก ว่าด้วยพวกตองซูเข้ามาตั้งกองอยู่ตามป่าแขวงเมืองนครนายก จับเอาราษฎรในแขวงเมืองนครนายกไปฆ่าเสีย ๓ คน รับสั่งให้พระยามหาอมาตย์เป็นข้าหลวงออกไปสืบจับ แล้วเสด็จพระราชดำเนินมาตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ที่มารับเสด็จแล้ว เสด็จกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง ประทับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เสด็จขึ้น

วัน ๒ ๔ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกประทับห้องขุนนางประทับพระแท่น สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์ กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นอดิศร กรมหมื่นศิริธัช กรมหมื่นเทววงศ์ เจ้าพระยาภาณุวงศ เจ้าพระยามหินทร เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์เฝ้า ด้วยวันนี้เป็นวันประชม ทรงเล่าเรื่องทหารหน้ายิงปืนถูกคนตายที่พระพุทธบาท แล้วรับสั่งกับเจ้าพระยาภาณุวงศ์ เรื่องมิสเตอกูสจะไปเชียงใหม่ และเรื่องความบาดหลวงเมืองจันทบุรีและความชั่วของบาดหลวงต่างๆ และให้มีหนังสือกงสุลสยามเมืองรางงูน ว่าด้วยกรมหมื่นพิชิตจะเสด็จไปเชียงใหม่ และรับสั่งถามกรมหมื่นพิชิตเรื่องเรือจม และกำหนดวันที่จะเสด็จขึ้นไปเชียงใหม่ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จขึ้น ไม่มีราชการอื่น ๆ ค่ำไม่ได้ออกขุนนางไม่ได้เสด็จออก

วัน ๓ ๔ ค่ำ ไม่ได้เสด็จออก ไม่มีราชการอะไร

วัน ๔ ๔ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกประทับห้องซิตติงรูม สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์เฝ้าเรื่องจะทรงทำบุญในคราวพระชันษาเท่ากรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ พระยาโชฎึกนำพระพิศาลเฝ้าถวายเครื่องทหารญี่ปุ่น ๔ เครื่อง กรมหมื่นพิชิตเฝ้าเรื่องจะไปราชการเชียงใหม่ พระองค์สวัสดิเฝ้าทรงหนังสือราชการต่าง ๆ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระพิเรนทรเทพข้าหลวง พระยาพิเศษฦาไชยเมืองฉะเชิงเทรา ฉะบับ ๑ ว่าได้หาตัวขุนระวังไพรีซึ่งขุนอินทรนายอากรหานั้นมาชำระไม่รับและทำทัณฑ์บนไว้ และส่งคนที่ต้องหามาชำระก็ไม่รับ ได้สืบจับจีนที่ต้องหามาชำระรับ ๒ คน ซัดเพื่อนได้ตัวมาชำระรับบ้าง อีกฉะบับ ๑ บอกพระยาวิเศษว่าขุนกำจัดจีนทานทำเรื่องราวกล่าวโทษ ว่าขุนระวังไพรีบังผู้ร้ายฆ่าคนไว้ ได้หาตัวมาชำระให้การแก้ความได้ส่งตัวเข้ามา

พระนรินทร์อ่านบอกพระยารัตนเศรษฐีเมืองระนอง พระจรูญราชโภคากรเมืองหลังสวน ถวายพระราชกุศลที่พระราชทานสิ่งของในการฝังศพ พระยาดำรงสุจริต จางวางเมืองระนอง

พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระเทพสงคราม ปลัดเมืองจันทบุรี ส่งส่วยกฤษณาเร่ง ได้จำนวนฉลูนพศก ๔๘ ชั่ง ๘ ตำลึง ขาลสัมฤทธิศก ๗๐ ชั่ง เถาะเอกศก ๕๗ ชั่ง ๘ ตำลึง มะโรงโทศก ๕๐ ชั่ง ๘ ตำลึง บอกพระยาราชพงศานุรักษ์เมืองสมุทรสงครามว่า มีโจทก์กล่าวโทษขุนท่องนัทีและจีนกังว่า ตีพระเชียง พระสือ พระเชียงตาย ขุนท่องให้การว่าพระเที่ยวกลางคืนเกิดวิวาทกัน พระจะแทงจึงตีจับไปส่งยกกระบัตร เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่งเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๑๐ ๔ ค่ำ วันนี้เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกประทับซิตติงรูม กรมหมื่นภูธเรศเฝ้าทูลว่าบ่าวพระยามหาเทพ คุมกระบือเดินทางมา ไม่มีตั๋วรูปพรรณ อำเภอรับได้โปรดให้สอบถามพระยามหาเทพ แล้วกรมหมื่นภูธเรศนำกาขาว ๒ ตัวถวาย แต่เป็นลูกกา กาน้สีขนเหมือนนกยาง ในตาแดงทีเดียว ปากและเท้าแดงสลัวสีชมภูอ่อน พระราชทานรางวัลเจ้าของกา ๑ ชั่ง พระองค์ดิศวรกุมารนำช่างในทหารมหาดเล็กสองคนเฝ้าด้วยได้ทำดุมงาอย่างจีนถวาย พระราชทานรางวัลคนหนึ่ง ๑ ชั่ง คนหนึ่ง ๑๐ ตำลึง ทรงหนังสือราชการจนบ่าย ๔ โมงเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกประทับพระแท่นห้องออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระยาคทาธรเมืองพระตะบอง ว่าด้วยพระพลยื่นบัญชีคนทำบ่อพลอย ปีมะแมเบญจศก คน ๘๔๕ เรียกภาษีคนละ๒ สลึง ได้เงิน ๒๑ ชั่ง ๒ ตำลึง ๒ บาท ได้รวมกับเงินเหลือจ่ายราชการ ปีมะเมียจัตวาศก มาจ่ายเงินเดือนเสมียนโทรเลขและล่ามเสียเหลือ ๑๐ ตำลึง เสมียนโทรเลขส่งเงินค่าบอกโทรเลข ๑๐ เดือนเงิน ๖ ชั่ง ๑๐ ตำลึง ๑ บาท ๓ สลึง ๑ เฟื้อง จ่ายซื้อกระดาษและอื่นๆ ๑๓ตำลึง ๒ บาท ๒ บาท ๑ เฟื้อง ยังเหลือ ๕ ชั่ง ๑๖ ตำลึง ๓ บาท ๑ สลึง ฉะบับ ๑ จัดได้ผ้าม่วงต่างสี ๑๐ ผืน ขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวาย จัดได้ผ้าม่วงราชวัตร ๑๐ ผืน พลอยนิลพระตะบอง ๑๐ เม็ด ถาดสัมฤทธิ์ ๑ ขันสัมฤทธิ์ ๑ ผลกระวาน ๑,๐๐๐ ช่อ ทูลเกล้า ฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้า แล้วพระยาศรีนำพระยาณรงค์เรืองฤทธิ์ปลัดเฝ้าทูลเกล้า ฯ ถวาย ผ้าม่วง ๑๐ ผืน ถวายสมเด็จพระนางเจ้า ม่วงราชวัตร ๑๐ ผืน ครอบสัมฤทธิ์ ๑

พระนรินทร์อ่านบอกพระยาราชบุรี ว่าด้วยอ้ายชื่นเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย ตีชิงวิ่งราว กรมการได้บนมีผู้รับสินบนนำจับได้ตัวพวกเพื่อน ๖ คน แต่อ้ายชื่นโดดเข้ามาสู้แทงเสมียนมีบาดแผลได้ยิงอ้ายชื่นผู้ร้าย จึงจับได้ อ้ายชื่นขาดใจตาย

พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระยานนท์ ถวายพระราชกุศลนำศพหลวงรามัญนนทเขตต์คดีปลัด ฉะบับ ๑ บอกหม่อมเจ้าขาว พระสุริยภักดี ข้าหลวงชำระความเมืองจันทบุรี ว่าชำระความทนายเกตหากรมการว่าเป็นผู้ร้ายนายซ่องลักม้ากระบือ ราษฎรได้สืบพะยานสมจริง จึงได้จำตรวนขุนศรีรองเมือง ขุนท่าหอมและพวกไว้ แต่โจทก์นั้นโกรธตระลาการหนีไปเสีย ยังชำระเอาพวกต่อไป แล้วกรมหมื่นพิชิตเสด็จยืนขึ้น กราบทูลถวายบังคมลาไปจัดราชการเมืองเชียงใหม่ แล้วพระยาศรีนำหลวงขุนข้าราชการที่จะไปตามเสด็จ กรมหมื่นพิชิตถวายบังคมลา แล้วนำพระยามหาอมาตย์ หลวงเสนีพิทักษ์ จ่าแรงรับราชการ กราบถวายบังคมลาไปชำระความตองซูปล้นฆ่าคนเมืองนครนายก แล้วทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานน้ำพระมหาสังข์และทรงเจิม แล้วทรงสรวมตรามหาสุราภรณ์แก่กรมหมื่นพิชิต แล้วพระราชทานตราช้างเผือกที่ ๓ นิภาภรณ์ ให้กรมหมื่นพิชิตไปพระราชทานพระยาสุจริต แล้วพระราชทานสัญญาบัตรขุนรัตนสมบัติ เป็นพระอุภัยพิพากษาคลังมหาสมบัติ ๑ นายเพิ่มเป็นหลวงราญรอนอริราชทหารมหาดเล็ก ๑ ขุนสัณหการโกศล เป็นลุตเตอแนนต์ ด้วยจะขึ้นไปด้วยกรมหมื่นพิชิต เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่ ๑ เสด็จขึ้น

วัน ๖ ๑๑ ๔ เวลาเช้าเสด็จพระราชดำเนินออกทางประตูเทวาพิทักษ์ พร้อมด้วยกระบวนข้างใน เสด็จวัดราชบพิธทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าวัสสาวาสิกพัตรตามกาลสมัยเช่นเคยมาทุกปี และเสด็จสดับปกรณ์พระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภา และพระศพพระองค์เจ้าอรองค์อรรคยุพาแล้วเวลาเที่ยงเศษเสด็จกลับ

กลางคืนไม่เสด็จออก กรมหมื่นพิชิตและพระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปเฝ้าข้างใน พระราชทานธำมรงค์มีตลับพระเกษาแก่กรมหมื่นพิชิตปรีชากรวง ๑ ในการที่จะเสด็จขึ้นไปราชการเชียงใหม่ เวลาเย็นวันนี้เจ้าพนักงานเชิญพระอัฏฐิกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ ทรงเสลี่ยงกลีบบัวมีตำรวจกลองชะนะแห่ไปลงเรือศรีที่ท่าราชวรดิษฐ แห่ไปวังสมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์ ด้วยท่านทรงทำบุญพระอัฏฐิในการที่พระชันษาพระองค์ท่านเสมอด้วยพระชันษาในกรมสมเด็จพระเทพศิรินทร์ในปีนี้

ที่วังกรมหมื่นพิชิตมีการสวดมนต์ที่จะเสด็จไปเชียงใหม่

วัน ๗ ๑๒ ๔ ค่ำ เวลาบ่ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกห้องออกขุนนางพระราชทานสัญญาบัตร นายแช่มมหาดเล็กบุตรนายจรพรหมธิบาล เป็นขุนประชาคดีกิจ มีตำแหน่งราชการในกรมมหาดไทย ด้วยจะขึ้นไปราชการเชียงใหม่พร้อมด้วยกรมหมื่นพิชิตปรีชากรแล้วเสด็จขึ้น

อนึ่งเวลาเช้า ๕ โมง ที่วังกรมหมื่นพิชิตปรีชากรเลี้ยงพระสงฆ์ที่สวดมนต์เวลาวานนี้ ครั้นได้พระฤกษ์บ่าย ๒ โมงกรมหมื่นพิชิตปรีชากรทรงภูษาขาวทรงสะพักขาวเสด็จขึ้นที่สรงสรงน้ำพระพุทธมนต์ ขณะนั้นพระสงฆ์สวดชัยมงคล เจ้าพนักงานประโคมพิณพาทย์ฆ้องไชยขึ้นพร้อมกัน แล้วกรมพระปวเรศ กรมหมื่นวชิรญาณ และพระราชาคณะผู้ใหญ่ถวายน้ำพระพุทธมนต์ แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ที่มีพระชนม์แก่กว่าพระองค์ท่าน และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอทั้ง ๒ พระองค์ ทรงรดน้ำพระพุทธมนต์ และเสนาบดีเจ้าพระยา และพระครูพราหมณ์ถวายน้ำมนต์น้ำสังข์ ครั้นเสร็จแล้วเสด็จจากเตียงสรง ทรงผลัดผ้าทรงดำตามวัน พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาเสร็จ พอได้มงคลฤกษ์ กรมหมื่นพิชิตเสด็จทรงรถพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ แล้วเจ้านายและข้าราชการก็ขึ้นรถตามไปถึงท่าออฟฟิศโทรเลขและไปรษณีย์ เสด็จรถไปประทับที่ศาลาท่าน้ำครู่หนึ่งจึงเสด็จลงเรือปิกนิก เรือไฟจูงเสด็จจากท่า ขณะนั้นพระสงฆ์ที่จะมาคอยที่ท่าก็สวดชัยมงคลพร้อมกัน พระองค์เจ้าชุมพล พระองค์จันทรทัตตามลงเรือไปส่ง ว่าจะไปถึงปากน้ำโพ แต่เจ้านายนอกนั้นส่งเพียงท่าแล้วกลับกัน

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงเรือพระที่นั่งกลีบสมุทรพร้อมด้วยกระบวนนำและตามเสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารคไปประทับพระราชวังเดิม เสด็จประทับท้องพระโรง สมเด็จกรมหลวงทั้งสองพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าพร้อมกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตร ๒๘ พระสงฆ์สดับปกรณ์

พระอัฏฐิกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ แล้วทรงทอดผ้าฉลาก ๑๐๐ สดับปกรณ์ แล้วพระราชทานเงินสมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์ ๒๘ ชั่ง เท่าปีพระชันษาปีละ ๑ ชั่ง แล้วพระราชทานเงินพระคลังข้างที่อีก ๑๐๐ ชั่ง ให้ทรงแจกพระองค์เจ้า หม่อมเจ้า โอรสและธิดาของท่าน แล้วสมเด็จกรมหลวงถวายฉลากทรงโปรดแล้วเสด็จเข้าไปข้างใน แล้วเสด็จทอดพระเนตรงิ้วของกรมพระราชวังบนพลับพลา เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในคราวนี้เป็นการใน ทรงจัดการแข็งแรงมากนัก วานนี้ทรงมีสวดมนต์การทำบุญพระอัฏฐิ เช้าวันนี้ฉัน ค่ำวันนี้สวดมนต์การพระชันษาพรุ่งนี้ฉัน มีเทศนาและการมหรสพเป็นเอนกอนันต์ ทรงเริ่มมีการแต่เวลาวานนี้มา

วัน ๑ ๑๓ ๔ ค่ำ ไม่มีราชการ ไม่ได้เสด็จออก

วัน ๒ ๑๔ ๔ ค่ำ ยังไม่ทรงสบาย ไม่ได้เสด็จออก

วัน ๓ ๑๕ ๔ ค่ำ ไม่มีราชการ

วัน ๔ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก ไม่มีราชการสิ่งใด วันนี้โปรดให้กรมขุนเจริญผลไปเปลื้องเครื่องพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกต ซึ่งทรงเครื่องอาภรณ์อย่างเหมันตฤดูนั้นแล้ว สรงน้ำหอมแล้วประดับอลังการาภรณ์อย่างคิมหันตฤดู แล้วให้พราหมณ์เบิกแว่นเวียนสมโภชตามเคย

วัน ๕ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก

ในวันนี้เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ พระยาอนุชิตชาญไชยณเมรุวัดสระเกศ ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนิน มีของพระราชทานในการศพตามธรรมเนียม

ในเวลาวันนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประทับพระราชลัญจกรในท้ายพระราชหัตถเลขาแทนทรงเซ็นด้วยทรงเซ็นพระราชหัตถ์ไม่ถนัด เพราะทรงพระประชวรพระโรคเริม ต่อหายประชวรแล้วทรงเซ็นพระราชหัตถ์ได้เมื่อใดจึงจะเลิกการที่ประทับพระราชลัญจกรแทนทรงเซ็นพระราชหัตถเลขาเมื่อนั้น

วัน ๖ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก ไม่มีราชการสิ่งใด

วัน ๗ ๔ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์เสด็จเข้าไปเยี่ยมพระประชวรที่ข้างใน

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จพระราชดำเนินออกออฟฟิศกรมหมื่นเทววงศ์ พระองค์เจ้าสาย หมอกาแวนเฝ้ารับสั่งด้วยเรื่องพระอาการ ประมาณครู่หนึ่ง เสด็จขึ้น

วันนี้เป็นวันชักศพ พระยาธรรมจรรยา ออกสู่เมรุณวัดกัลยาณมิตร

วัน ๑ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก

ในเวลาวันนี้เป็นวันทำบุญวันประสูติในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีการเลี้ยงพระสวดพระพุทธมนต์และสดับปกรณ์มีพระธรรมเทศนาตามธรรมเนียม แต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินออกบำเพ็ญพระราชกุศล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเสด็จออกไปทำบุญ

วัน ๒ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก

ในวันนี้เป็นวันพระราชทานเพลิงศพพระยาธรรมจรรยา ณเมรุวัดกัลยาณมิตร แต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนิน มีของพระราชทานในการศพตามธรรมเนียม

วัน ๓ ๔ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก

เวลาบ่าย เจ้าพระยาภาณุวงศ์เข้าไปเฝ้าที่ข้างใน

วัน ๔ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก ไม่มีราชการสิ่งใด

วัน ๕ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก ไม่มีราชการสิ่งใด

วัน ๖ ๑๐ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินออก

ในเวลาวันนี้เป็นวันทำบุญวันประสูติในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเลี้ยงพระสวดพระพุทธมนต์และสดับปกรณ์มีพระธรรมเทศนาตามธรรมเนียม แต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินออกบำเพ็ญพระราชกุศล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเสด็จออกไปทำบุญ

ในวันนี้พระราชทานเพลิงศพท้าวยศมณเฑียรณวัดสระเกศ มีของพระราชทานในการศพตามธรรมเนียม

วัน ๗ ๑๑ ๔ ค่ำ เวลาเช้าโมงหนึ่ง วันนี้พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าอนงค์นพคุณสิ้นพระชนม์ ประชวรเป็นพระโรคปัจจุบัน ตั้งแต่วัน ๕ ๔ ค่ำ เวลาสามยาม หมอประกอบยาถวาย พระอาการไม่คลายมาจนถึงเช้าวันที่สิ้นพระชนม์ พระชนมพรรษา ๒๗ ปี พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าฝ่ายในพร้อมกันสรงน้ำพระศพแล้ว เชิญลงพระโกศแห่มาไว้ที่หอธรรมสังเวช พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมทั้งกลางวันกลางคืน กว่าจะพระราชทานเพลิง

วันนี้เป็นวันตั้งน้ำวงด้าย เริ่มพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ เจ้าพนักงานได้จัดที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เวลาค่ำโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเสด็จไปจุดเทียน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

เวลาทุ่มเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ประทับที่พระแท่นห้องเสด็จออกขุนนาง กรมหมื่นเทววงศ์เฝ้า แล้วทรงราชการต่าง ๆ ต่อไป เสด็จขึ้น ๔ ทุ่มเศษ

วัน ๑ ๑๒ ๔ ค่ำ เวลาเช้าโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปเลี้ยงพระก่อนพระฤกษ์ จุดเทียนไชยต่อเวลาบ่าย ครั้นเวลาบ่ายโมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงจุดเทียนไชย แล้วพระสงฆ์สวดภาณวารต่อไป กว่าจะเสร็จการพระราชพิธี ประทับตรัสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอด้วยราชการต่าง ๆ แล้วเสด็จขึ้น

เวลาค่ำสวดมนต์พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปจุดเทียน ไม่ได้เสด็จออก

วันนี้พระราชทานเพลิงศพหลวงยศรักษากรมพระกลาโหมที่วัดโสมนัสวิหาร พระราชทานหีบศิลาหน้าเพลิง ที่ศพพระสมปัตยานุรักษจางวางคลัง และพระเรืองฤทธิรักษาราษฎร์ ผู้ช่วยราชการณเมืองตะกั่วป่า

วัน ๒ ๑๓ ๔ ค่ำ วันนี้ไม่ได้เสด็จออก พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์เลี้ยงพระเช้า ค่ำสวดมนต์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เสด็จออกไปจุดเทียนทั้ง ๒ เวลา

วัน ๓ ๑๔ ๔ ค่ำ เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททางข้างใน ทรงนมัสการแล้วทรงศีล ได้พระฤกษ์เช้า ๓โมง ๑๕ นาฑี ทรงจรดกรรไกรเกษากันต์หม่อมเจ้าหญิงจำรัสศรี ในพระราชวรวงศ์เธอ กรมขุนบดินทรไพศาลโสภณ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลากรมพระบำราบปรปักษ์ กับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรศักดาพิศาล ทรงจรดกรรไกรต่อไป ปีนี้มีหม่อมเจ้าเกษากันต์องค์เดียว เกษากันต์แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ ที่เขาไกลาสและที่เตียงมณฑล ข้างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตามเคย แล้วเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว พระโพธิวงศ์ประกาศเทวดา เสด็จพระราชดำเนินมาประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการอยู่จนประกาศเทวดาแล้ว พระสงฆ์ถวายยถาสัพพี เสด็จขึ้นเวลาเช้า ๕ โมงเศษ

อนึ่งในพระราชวังบวรมีโสกันต์พระองค์เจ้าในกรมพระราชวังบวร ๒ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าชายกัลยาณประวัติ ๑ พระองค์เจ้าหญิงอัปสรศรีราชธิดา ๑ เกษากันต์หม่อมเจ้าชายในพระวรวงศเธอ พระองค์เจ้ายุคนธรองค์หนึ่ง แต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนิน

เวลาบ่ายสมโภชหม่อมเจ้าที่เกษากันต์ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เวลาย่ำค่ำโปรดเกล้า ฯ ให้แห่พระมาพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไม่ได้เสด็จออกทอดพระเนตรกระบวนแห่ คราวนี้เติมทหารรักษาพระบรมมหาราชวังอีกพวกหนึ่ง กับเติมปืนใหญ่ทหารรักษาวัง ซึ่งแต่งเป็นทหารดับเพลิงอีกสองพวก นอกนั้นเหมือนอย่างในปีก่อน ๆ มา แล้วโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เสด็จไปจุดเทียนที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ต่อจบแล้วจึงเสด็จออกทางใน พระโพธิวงศ์ประกาศเทวดาแล้ว พระครู ๔ องค์สวดธรรมจักกัปปวัตนสูตรสำรับหนึ่ง มหาสมัยสูตรสำรับหนึ่ง แล้วพระพิธีธรรมสวดอาฏานาฏิยสูตรภาณยักษ์ ยิงปืนครั้งแรก ๔ ทุ่มเศษ ประทับอยู่จน ๕ ทุ่มภาณยักษ์จบแรกยังไม่จบเสด็จขึ้น พระพิธีธรรมได้ผลัดเปลี่ยนกันสวดอาฏานาฏิยสูตรภาณยักษ์ภาณพระสลับกันไป และเจ้าพนักงานกรมต่างๆ ได้ยิงปืนในที่ต่าง ๆ ไปกว่าจะสว่าง

วัน ๔ ๑๕ ๔ ค่ำ เช้า ๕ โมงเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เสด็จไปเลี้ยงพระที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ดับเทียนไชย เป็นเสร็จการพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ในวันนี้ พระราชาคณะฝ่ายรามัญและฝ่ายวิปัสสนาเข้าไปประน้ำพระพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง

เวลาบ่ายโมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พราหมณ์ถวายน้ำพระมหาสังข์ โหรถวายปฏิทินปีวอก แล้วเสด็จขึ้น ค่ำไม่เสด็จออก สวดมนต์ที่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ๓๘ รูป พระสงฆ์ซึ่งจะสดับปกรณ์ในเวลาพรุ่งนี้มาสวด โปรดให้พระเจ้าลูกเธอไปจุดเทียน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ