เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๔๕

จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน

พระราชนิพนธ์

ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ปี มะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕ (พ.ศ. ๒๔๒๖)

----------------------------

วัน ๓ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้า ๕ โมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดเทียนนมัสการทรงศีลแล้วเสด็จทรงประเคน แล้วเสด็จมาทรงปักตั๋วชื่อพระที่โถยาคู โปรดให้ยกโถไปตั้งถวายพระ โถพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์เป็นทรงประเคนถวายกรมพระปวเรศร โถพระองค์เจ้าโสมาวดีถวายกรมหมื่นวชิรญาณ นอกนั้นก็เรียงเป็นลำดับพระสงฆ์ไปตามควรทั่วกัน โถวันนี้เป็นปานกลาง ได้โปรดให้ถ่ายรูปเหมือนกัน พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว เสด็จทรงประเคนผ้าเหลือง พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาถวายพระพรลาไป พระมหาราชครูพิธีถวายน้ำพระมหาสังข์ตามพระราชพิธีซึ่งเคยมา เสด็จประทับมุขเหนือ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบากครู่หนึ่งเสด็จขึ้น วันนี้สดัปกรณ์พระบรมอัฐิพระอัฐิที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตามเคย

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระ ว่าด้วยฝรั่งจะขอทำสัญญาจัดการสิทธิขาดในทะเลสาป ได้ทรงร่างตราถามเมืองพระตะบองเมืองเสียมราฐ ขอให้ทรงไต่สวนดูจะเดินตราทางบกได้หรือไม่ ให้รีบมีตราถามเสียส่งร่างไป สำเนาร่างตราถึงเมืองพระตะบองเมืองเสียมราฐ ว่าด้วยฝรั่งเศศจะขอทำสัญญาจัดการสิทธิขาดในทะเลสาป ได้ทรงผัดไว้เพราะยังมิได้รู้ผลประโยชน์ของเมืองพระตะบองเมืองนครเสียมราฐในทะเลสาปนั้นจะมีการใด จะด่วนยอมรับก็จะเสียผลประโยชน์ของพระยาพระเขมรไป ถ้าไทยจะไม่ยอมก็ต้องยกเหตุที่เป็นความลำบากให้เขารู้ให้เห็นจริง ถ้าชี้แจงไม่จริงเขาโต้เถียงได้ก็จะต้องยอมแก้ผิด ๆ ถูก ๆ ไป ให้พระยาคธาธร พระยานุภาพ ชี้แจงการที่หาปลาและราคาซื้อขาย และได้มากน้อยเท่าไรพิกัดภาษีอย่างไร ลูกค้าที่มาค้าขายมากน้อยประการใดให้บอกโดยละเอียด

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระว่าที่จะมีตราให้พระยาพิไชย พระสุโขทัยยกขึ้นไปหลวงพระบางนั้น เมืองหลวงพระบางก็ยังไม่มีบอกข่าวศึกเลย จะเกณฑ์ไปทั้ง ๒ คนพลถึง ๑๐๐๐ ถำไม่มีเหตุการณ์ก็จะเป็นเราตื่นเต้น ไพร่ก็จะลำบาก สะเบียงก็กันดาร หรือจะให้แต่พระยาสุโขทัยไปไปแต่ผู้เดียว พระยาพิไชยนั้นให้เตรียมพร้อมไว้ จะได้คอยกะเกณฑ์ขึ้นไปเพิ่นเงิม ถ้าได้ข่าวให้ยกตามไป และจะต้องมีผู้คอยเกณฑ์เพิ่มเติม จะปล่อยแต่กรมการกลัวจะไม่ตลอด

หนังสือสมเด็จกรมพระตอบพระราชหัตถ์ ว่าด้วยจะงดการที่จะให้ พระยาสุโขทัย พระยาพิไชย ยกพลเมืองละ ๕๐๐ ไปเมืองหลวงพระบางนั้น เห็นว่าฮ่ออยู่ใกล้เมืองหลวงพระบางมาก ถ่าจู่โจมเข้ามาก็จะเสียทีจะเรียกกองทัพก็ไม่ทัน จะให้แต่พระยาสุโขทัยขึ้นไปอยู่ก็ไม่สู้คุ้นเคยกับเมืองหลวงพระบาง ขอให้ยกขึ้นไปเมืองละ ๓๐๐ ก่อน และให้เมืองพิไชยเตรียมไว้อีก ๕๐๐ และส่งบอกพระยาสุจริต ๕ ฉะบับเรื่องป่าไม้เมืองตาก

หนังสือสมเด็จกรมพระตอบพระราชหัตถ์ที่ส่งเรื่องราวหลวงสรจักรนั้นได้ชำระแต่ในปีมะเส็งตรีศก ได้จำนวนคน ๑๙๕๘ คน เจ้าหมู่สมุหบัญชีผู้นำสักก็ตายตัวคนไม่รู้ว่าอยู่แห่งไร จึงรอไว้จะสืบเสาะไป

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระว่าราษฎรกล่าวโทษเจ้าภาษีเรือถึง ๑๐๐๐ คนแล้ว ที่สั่งให้เลิกด่านวัน ๑๒ ๑๐ ค่ำ นั้นเลิกหรือเปล่า ? ที่ให้ปรับนั้นตัดสินแล้วหรือยัง ? การที่ให้ชำระว่าตั้งแต่ชำระได้เรียกภาษีในระวางอีกนั้นชำระหรือเปล่า ? และทรงทราบว่าราษฎรจะต้องเสียภาษีในวัน ๑๓ ๑๐ ค่ำอีก จะให้ยอมเสียอำนาจเพียงไรจึงเป็นดี และจะรออีกวัน ๑ แล้วจะต้องคิดรักษาอำนาจอย่างอื่นต่อไป

หนังสือสมเด็จกรมพระว่าด้วยกงสุลฮอลันดาส่งเรื่องราวจีนหลิมฟอกเซนกล่าวโทษบุตรขุนเฉลิมกรมการพระพุทธบาทว่าฆ่าจีนไตหลีตาย ได้ให้ตระลาการชำระสืบพะยานๆ เบิกความว่าผู้ตายระบุชื่อว่าขุนรักษาบุรีจีนยี่แทงตาย จะเอาขึ้นลูกขุนปรึกษา โจทก์ไม่ยอม จะขอให้เอาคำตราสินขึ้นหารือด้วย ได้มีตราไปยังไม่กลับมา กงสุลก็มีหนังสือเตือนมาว่าถ้าไม่ชำระจะเข้ามาทูล

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ส่งหนังสือกงสุลเยอรมัน ๓ ฉะบับ ว่าด้วยแอดมิราลเรือรบจะเข้ามาฉะบับ ๑ ส่งหนังสือดอกเตอร์ฮารมันสตาเนียสถวายฉะบับ ๑ เตือนท้องตราให้จีนเฮงหลงไปรับสิ่งของของมิสเตอร์ราชสตแมนฉะบับ ๑

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ ว่าราชทูตออสเตรียจะกลับไปวันเสาร์จะขอเฝ้าถวายบังคมลา

วัน ๔ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้าไม่มีการอะไรไม่ได้เสด็จออก เวลาค่ำเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองอินทรบุรีรายงานน้ำฝนต้นข้าวฉะบับ ๑ เมืองสรรคบุรีรายงานน้ำฝนต้นข้าวฉะบับ ๑ บอกเมืองอุทัยธานี ๒ ฉะบับ รายงานน้ำฝนต้นข้าว ฉะบับ ๑ ถวายพระราชกุศล ทำการเฉลิมพระชนม์พรรษา พระนรินทร์อ่านบอกเมืองราชบุรีส่งเงินปี้จีนปีมะเมียจัตวาศก ครั้งนี้ได้จิน ๓๙๒ คน เงินค่าแรง ๑๙ ชั่ง ๑๑ ตำลึง ๒ บาท พระไพรัชอ่านบอกพระยานนท ๒ ฉะบับถวายพระราชกุศลทำการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ ๑ ถวายพระราชกุศลผูกพัทธสีมาวัดจาก แล้วพระราชทานตรามงกุฎสยามที่ ๒ จุลสุราภรณ์แก่พระยาศรีสิงหเทพ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเสด็จประทับห้องซิตติงรูมทรงหนังสือราชการจนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

หนังสือพระยาภาสกรวงษ์ว่าด้วยการภาษีขาเข้าร้อยชักสามนั้น ว่าได้ขออินสตรักชันที่จะประพฤติต่อเจ้าพระยาสุรวงษ์ก็ยังไม่ได้ จะบังคับการไปก็ไม่ได้ และว่าหลวงบริบูรณ์โกษาจดหมายมาว่ามีจีนลักฝิ่นเถื่อนห่อผ้าคาดเอวขึ้นมาจากเรือเมล์มงกุฎ ผู้ตรวจเห็นแปลกปลาดขอดู จีนนั้นแก้ผ้าทิ้งวิ่งหนีไป มีฝิ่นอยู่ ๑๐ ตลับหนัก ๕๐ ตำลึงจีน และมีความเห็นที่จะกันคนลักลอบของต้องห้ามเข้าออกมาด้วยความพิสดารมาก

หนังสือเจ้าพระยาสุรวงษ์ว่าจีนลูกจ้างเรือต่าง ๆ มักลักของต้องห้ามมีอาวุธดินปืนฝิ่นเข้ามาเสมอ ขอให้คิดจัดการรักษาขอเรือไฟเรือรบมีทหารออกไปจอดกำกับที่ปากน้ำที่เกาะสีชังลำ ๑ เพราะเรือมักไปบรรทุกของที่เกาะสีชั่งทั้งนั้น เมื่อเรือลำเลียงกลับจากเกาะสีชังมักลักลอบของเข้ามา แต่นี้ให้ทหารกำกับเข้ามา ๒ คน ถ้าถึงด่านเมืองสมุทรปราการจะได้พร้อมกันตรวจการลักลอบของต้องห้ามจะได้เบาบางลง ได้ร่างหนังสือคำร้องถึงเจ้าพระยาภาณุวงษ์ให้มีหนังสือบอกกงสุลต่างประเทศและให้กรมท่าซ้ายประกาศพ่อค้าจีนด้วย

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์ ว่าการที่จัดการรักษาคนลักของหนีภาษีนั้นชอบแล้ว การที่จะบอกกงสุลเป็นคำร้องนั้นไม่ควร เป็นแต่ประกาศให้รู้เท่านั้น และได้ทรงทราบว่า เมื่อเรือถึงปากน้ำเจ้าภาษีขาเข้าคุมมาพอขนของหมดตระวางก็ไปหมด เมื่อบรรทุกเจ้าภาษีขาออกก็กำกับจีนนั้นลักฝิ่นขึ้นได้ เพราะภาษีขาออกไม่ได้ระวังด้วยไม่ใช่พนักงาน และที่คิดจัดการรักษานั้นดีแล้วแต่ยังไม่รอบคอบ และภาษีร้อยชักสามนี้ที่ทำมานั้นหลวมนัก ขอให้ตริตรองรักษาให้รอบคอบ และภาษีทั้งสองนี้ควรรวมกัน และให้เรียกพระยาภาสไปปรึกษาจัดการรวมกันเสียควรมีข้อบังคับอย่างไรก็ให้มีเสีย

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ว่าด้วยได้เรียกทัณฑ์บนพระไพรัชแล้ว แต่ถำทำอีกต้องขอให้รับพระราชอาญาหลวงจะได้เข็ดหลาบ และมีความยินดีนักแต่เห็นว่าพระไพรัชเป็นคนลนลานอยู่กลัวจะไม่ตลอด

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ตอบว่าถ้าพระไพรัชยังขืนประพฤติชั่วอยู่ จะทรงลงโทษ และก็ไม่มีตัวแล้ว จะต้องประคับประคองไป

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระที่จะให้พระยาพิไชยยกขึ้นไปหลวงพระบางนั้น ราชการเมืองพิไชยสำคัญให้มอบการผู้ใดผู้หนึ่งไว้รักษาการ

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระเรื่องเลขกรมแสงกรมภูษามาลานั้น จะขอเอามาเป็นทหาร ท่านจะเสด็จขึ้นไปราชการเสียจะทรงมอบให้ใครชำระต่อไป

หนังสือนายสรพลว่าด้วยจับคนร้ายเข้าไปซ่อนอยู่ในบ้านในเวลากลางคืนจับตัวได้ ถามว่าเป็นบ่าวหลวงกำแหง ทรงพระกรุณาโปรดให้กรมหมื่นภูธเรศรชำระ

เรื่องราวราษฎรกล่าวโทษภาษีเรือ ๑ ฉะบับ

พระยานครราชสีมาถวายหนังสือไปรเวตกล่าวโทษพระภักดีนุชิต เหมือนกับใบบอกที่บอกวางเวรกรมมหาดไทย

หนังสือเจ้าพระยามหินทร์ขัดข้องว่าพระนายไวยจะให้หักเลขวัดอรุณที่สักแล้วเป็นทหาร และว่าพระนรินทรไม่ยอมหักเลขหัวเมืองขั้นกรมพระกระลาโหมให้มาเป็นทหารว่าถ้าไม่มีพระราชหัตถ์ยังไม่ยอม

วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกห้องซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้า ทรงหนังสือราชการจนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกห้องดรออิงรูม เคาน์ซาลุศกีราชทูตออสเดรีย ๑ มิสเตอรริชแมน กงสุลออสเตรีย ๑ เข้ามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เชิญมาประชุมเลี้ยงพระราชทานเป็นเกียรติยศแก่ราชทูตออสเตรีย แล้วเสด็จเข้าไปพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และราชทูตออสเตรียข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยประทับห้องเสวย มีพระนามและชื่องผู้เข้ามาประชุมดังจะลงต่อไปข้างท้ายนี้

<img>

จมื่นวิชิต ๑ เจ้าหมื่นสรรเพธ ๒ พระยาศรีธรรมสาส์น ๓ พระไพรัช ๔ พระยามหามนตรี ๕ พระยานรรัตน ๖ พระยามนตรี ๗ พระยาประภา ๘ เจ้าพระยาภาณุวงศ ๙ ราชทูต/*ออสเตรีย ๑๐ พระยาภาส ๑๑ พระยามหาเทพ ๑๒ กงสุลออสเตรีย ๑๓ พระวิสูตรสาครดิฐ ๑๔ หมอกาวัน ๑๕ หลวงฤทธิ์นายเวร ๑๖ หลวงสรสิทธิ์ ๑๗ พระสุธรรมไมตรี ๑๘ หม่อมเจ้าอลังการ ๑๙ พระองค์ขจร ๒๐ พระองค์จันทรทัต ๒๑ กรมหมื่นเทวะวงษ์ ๒๒ พระองค์ชุมพล ๒๓ กรมหมื่นประจักษ์ ๒๔ กรมหมื่นพิชิต ๒๕ สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิ์ ๒๗ กรมหมื่นอดิศร ๒๘ กรมหมื่นภูธเรศร ๒๙ พระองค์ทองแถม ๓๐ พระองค์สวัสดิ ๓๑ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ ๓๒ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๓๓ จมื่นสรฤทธิ์ ๓๔

ครั้นเลี้ยงแล้วเสด็จขึ้นไปบนพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ราชทูตก็ตามเสด็จขึ้นไปด้วย แล้วเสด็จมาทางพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เสด็จออกมาเพียงนั้น แล้วราชทูตก็กราบถวายบังคมลากลับออกมาทางริมห้องออกขุนนาง เสร็จการวันนี้

วัน ๖ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมบเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกห้องดรออิงรูม เจ้าพนักงานกรมพระตำรวจทหารมหาดเล็ก เฝ้าอย่างเช่นกงสุลถวายพระราชสาสน์ เจ้าพนักงานกรมท่า กรมวัง และราชเอดเดอแกมป์นำเคาน์ซีซาลุศกี ราชทูตออสเตรียเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบถวายบังคมลา ทรงพระราชปฏิสันถารตามสมควรแล้วกราบถวายบังคมลาออกมา แล้วกรมหมื่นเทวะวงษ์และราชเอดเดอแกมป์ กรมวัง กรมท่า นำราชทูตออสเตรียเข้าไปเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชเทวีที่พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ แล้วกราบถวายบังคมลากลับไป มีทหารยืนกาดออเนอ รับแตรวง ๑ ทหารปืน ๑๐๐

เวลาค่ำมีสวดมนต์ที่พระนั่งสุทไธสวรรย์ พระราชาคณะพระครูฝ่ายไทย ๕ ฝ่ายรามัญ ๕ ตั้งเครื่องช้างต้นม้าต้นและเครื่องศาสตราวุธต่าง ๆ อย่างเช่นเคยมาทุกปี เวลาพรุ่งนี้เช้าจะได้รับพระราชทานฉันตามพระราชพิธีคเชนทรัศวสนานทุกปีมา วันนี้ไม่เสด็จออกขุนนาง

หลวงอินทรมนตรีถวายเรื่องราวขอทำแร่ดีบุก ทองแดง ทองคำ ในเขตต์เมืองชุมพร ๓๐ ปี ใน ๑๐ ปีที่ ๑ จะถวายร้อยละ ๕ สิบปีที่ ๒ จะถวายร้อยละ ๗ ครึ่ง สิบปีที่ ๓ ร้อยละ ๑๐

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์ว่าด้วยหลวงอินทรมนตรีจะขอทำแร่เมืองชุมพร ๓๐ ปี ทรงเห็นว่าให้ทำดี แต่อย่าให้กำหนดปีดีกว่า จะเห็นอย่างไรให้ตอบมา

หนังสือเจ้าพระยาสุรวงษ์ว่าด้วยได้รับพระราชหัตถ์เมื่อวัน ๑๔ ๑๐ ค่ำ ส่งหนังสือทิ้งกล่าวโทษพระยาเพ็ชร์นั้น ข้าหลวงก็มีบอกเข้ามา ๔ ฉะบับว่าด้วยชำระผู้ร้าย ๆ ซัดคนโทษและบ่าวพระยาเพ็ชร์ ๆ ขัดขวางไม่ส่งผู้ร้ายและให้กรมการไปจับผู้ร้ายราชบุรี พระสัจจาขัดขวางไม่นำจับ ท่านจะขอเรียกผู้ร้ายที่ชำระแล้วเข้ามาให้ลูกขุนปรึกษา การที่จะจัดบ้านเมืองต่อไปนั้นท่านจะเข้ามาเฝ้าเอง

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์ ว่าด้วยส่งบอกข้าหลวงเมืองเพชร์ และจะขอเรียกความมาให้ลูกขุนปรึกษาโทษนั้นไม่ควร ควรจะเรียกมาชำระที่ข้อขัดแข็งให้ส่งผู้ร้ายก่อน ถ้านิ่งเสียจะเป็นเยี่ยงอย่างให้เกะกะต่อราชการต่อไป เมื่อเสร็จแล้วจึงให้เอาขึ้นลูกขุนปรึกษา

หนังสือพระองค์เจ้าขจร ว่าด้วยสืบได้ตัวฎีกาที่ภาษีเรือเรียกทีหลังวันห้าม ๔ ฉะบับ ถามจีนโหม้งเหมง ๆ ให้การว่าได้ห้ามแล้วแต่หลงจู๊จะยังเรียกอยู่ ได้บังคับให้ส่งตัวหลงจู๊แล้ว

พระราชหัตถ์สั่งให้ถามหลงจู๊ ถ้าเจ้าภาษีห้ามแล้วหลงจู๊ผิด ถ้ายังไม่ได้ห้ามเจ้าภาษีผิด ที่ราษฎรร้องผิด ที่เจ้าภาษีเรียกถูกแล้วนั้นเดิมสั่งให้ปรับให้เจ้าภาษี บัดนี้ราษฎรอ้างว่ามีผู้ป่าวร้องให้มาฟ้องต้องพิจารณา ถ้าหรือว่าให้มาร้องจึงได้มาร้องเพราะราษฎรเซอะซะนั้นให้ถอนชื่อเสียอย่าให้ปรับ ถ้าดื้อดึงจึงปรับ และให้ทำบัญชีผู้ร้อง ถูกเท่าไร ร้องผิดพิกัดเท่าไร

พระราชหัตถ์ถึงพระนายไวย ให้เชิญคอมมิตตีประชุมจัดการสกูลวังนันทอุทยานต่อไป ด้วยสัญญาหมอแมกฟาลันเกือบสิ้นแล้ว

เรื่องราวแขกคะเด แขกซอ อาษาจามผู้ร้ายปล้นกระบือฆ่าเจ้าของตายขอออกจากคุกทรงเซ็นให้กรมหมื่นภูธเรศรสอบว่าครบกำหนดโทษหรือยัง

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงษ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ส่งหนังสือกงสุลฝรั่งเศสมีมาว่า ญวนคนโทษที่เกาะปลอกองดอรซึ่งหนีนั้นจับได้ที่อ่าวบินทวนแล้ว และว่าได้มีหนังสือบอกไปเมืองไซ่ง่อนว่าทรงพระกรุณาโปรดให้หัวเมืองตะวันตกตะวันออกช่วยจับด้วย

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ส่งหนังสือกงสุสสวิเดนโนเว ส่งพระราชสาสน์กรุงสวิเดนโนเวตอบพระราชสาสน์ที่ตั้งพระองค์เจ้าปฤษฎางค์เป็นเอนวอยเอกษตราออดินารีมินิศเตอเปลนิปอเตนฉารีไปยังกรุงสวิเดนโนเว

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ ว่านิวแมนมีหนังสือมาว่าด้วยความจีนตันมาบุ๋นฟ้องพระยาภูเก็ต เจ้าพระยาสุรวงษ์ตัดสินจีนตันมาบุ๋นไม่ยอมได้โต้ตอบกัน กงสุลขอให้นำคอเรศปอนเดนกถวาย ส่งคอเรศปอนเดน ๕๐ ฉะบับเข้ามา

หนังสือพระองค์สวัสดิ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงษ์ ว่าให้ตอบกงสุลสวิเดนนอร์เวย์ที่ส่งพระราชสาสน์เรื่องกงสุลฝรั่งเศส บอกมาว่าญวนที่หนีจับได้แล้วนั้นให้งดท้องตราถึงเจ้าเมืองกรมการเสีย

หนังสือพระองค์สวัสดิ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงศว่า กงสุลฝรั่งเศสมีหนังสือมาว่าจับญวนที่หนีได้แล้วให้งดท้องตราเสีย

หนังสือพระองค์สวัสดิถึงเจ้าหมื่นไวยว่าเจ้าพระยามหินทรยื่นขัดข้องว่าพระนายไวยจะให้หักเลขวัดอรุณที่สักแล้วเป็นทหาร ๓ คนนั้น ทรงเห็นว่าเป็นบาปอยู่และไม่เคยหักเลขเช่นนี้ไปกรมใด ผิดธรรมเนียมคราวก่อนที่ทรงตัดสินให้นายเที่ยงเลขวัดอรุณมาเป็นทหารนั้น เพราะเป็นคนข้อมือขาว ครั้งนี้เป็นคนสักแล้ว เหตุไรจึงรับไว้

วัน ๗ ๑๑ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก ประทับห้องซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการต่าง ๆ กรมหมื่นพิชิตเฝ้าทรงปรึกษาเรื่องความต่างๆ แล้วมิสเตอร์แบตแมนเข้ามาเฝ้าด้วยกลับเข้ามาจากเมืองนอก ครู่หนึ่งเสด็จขึ้น เวลาบ่ายโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเสด็จไปทอดพระเนตรแห่คเชนทรัศวสนานที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ อนึ่งวันนี้พระยาศรีสุนทรถวายสัญญาบัตรทรงเซ็นพระราชหัตถ์ ๔ ฉะบับ

เวลาบ่าย ๒ ทุ่มเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกพระยาสุจริตรักษาเมืองตากส่งเงินปี้จีนปีมะเมียจัตวา๑๕ศก ได้จีนรับฎีกา จีนคงเมือง ๙๖ จีนจร ๖ เงินค่าแรง ๕ ชั่ง ๒ ตำลึง ๓ บาท ฉะบับ ๑ บอกหลวงภักดีผู้ช่วยเมืองสิงหบุรี ส่งเงินค่านาปีมะเมียจัตวา๑๕ศก ๔๕ ชั่ง ยังเก็บไม่เสร็จ บอกพระยาเมืองอุทัยธานี ส่งเงินค่านาปีมะเมียจัตวา๑๕ศก ๑๓๐ ชั่ง ยังไม่เสร็จ บอกพระยาวิเศษฦาไชยถวายพระราชกุศลทำการเฉลิมพระชนม์พรรษาเมืองฉะเชิงเทรา ฯ

พระนรินทรอ่านบอกเมืองเพ็ชรบุรี ทำการเฉลิมพระชนม์พรรษาที่พระนครคีรีถวายพระราชกุศล ฯ พระไพรัชอ่านบอกเมืองนครไชยศรีว่าจีนอั้งยี่คุมกันปล้นบ้านอำแดงจิว ๆ จำหน้าสู้ร้ายได้ กรมการเอาตัวจีนเฉียหงวนหัวหน้ามา รับไปสืบได้ความว่าชื่อจีนไฉหงวนจีนไซยี้ จะได้พร้อมกับกรมการหัวหน้าไปจับเอามาชำระ

แล้วพระราชทานสัญญาบัตร พระศรีเป็นพระยามหาอำมาตย์ ๑ หลวงเสนีพิทักษ์เป็นพระยาศรีสิงหเทพ ๑ จีนโอจิวเป็นหลวงชลภูมิพานิช ๑ จีนฮะสูนเป็นหลวงบำรุงรัตนบุรีแล้วเสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศครู่ ๑ เสด็จไปประทับห้องซิตติงรูมทรงหนังสือราชการอยู่จนเวลา ๔ ทุ่มเศษ

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงศ ว่าเจ้าพระยาภาณุวงศส่งคอเรสปอนเดนเรื่องจีนตันมาบุ๋นกับพระยาภูเก็ตนั้น เห็นว่าพระยาภูเก็ตอ้างเอาบาญชีค้าขายของพระยาภูเก็ตและตั๋วกู้เงินเป็นหลักฐานว่าจีนตันม้าบุ๋นเป็นหนี้ จินตันม้าบุ๋นว่าใช้เสร็จแล้วได้ตั๋วใบเสร็จ ๒ ฉะบับ และติดใจบาญชีพระยาภูเก็ต ส่วนบาญชีจีนตันม้าบุ๋นว่าใช้ที่ยื่นให้คนกลางตรวจไม่มีความชัดว่าอย่างไร มีแต่คำพระยาภูเก็ตติดใจบาญชีว่าทำใหม่ คำที่ตุลาการเห็นว่าจีนตันม้าบุ๋นยังเป็นหนี้พระยาภูเก็ตนั้นด้วยเหตุใด คำตัดสินความนั้นก็ไม่ชัดจึงเป็นที่สงสัยกันไป ขอให้ชี้แจงความเห็นมา

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระเรื่องความที่พระพุทธบาทนั้นกงสุลฮอลันดายังไม่ได้มาว่ากระไรอีก ได้ทรงตรวจแล้วเห็นว่าที่ผัดเรียกคำตราสินนั้น พอให้เขารอฟังได้ แต่ที่สืบพะยานรางวัดนั้นให้แต่กรมการสืบคำพะยานห่างเหิน กงสุลคงติเตียนคงขอให้สืบใหม่กลัวจะต้องสืบให้ เพราะเดิมไม่ได้แต่งข้าหลวงที่สมควรไปสืบ แต่ถึงจะได้จริงว่าคนอื่นฆ่า ก็คงต้องสืบเอาตัวผู้ร้ายให้จงได้ ให้ทรงตริตรองเสีย

พระราชหัตถ์ถึงพระยาสุจริต เรื่องพระอินทคิรีขอเก็บค่าน้ำซื้อไม้ขายไม้นั้นจะทรงชี้แจงตามที่ทรงเห็น ที่พระยาสุจริตหาผู้มาทำป่าไม้เสียให้เป็นเจ้าของกัน ใครทำได้ทำเอาก็เป็นการดี แต่ค่าตอที่จะขึ้นลงนั้น ถ้าจัดเสียอย่างหนึ่งจะไม่เกี่ยวแก่เจ้าเมืองมรแมนและอื่น ๆ เพราะป่าไม้เมืองตากเป็นป่าหลวงทั่วไป ถ้าใครจะตัดต้องขออนุญาตแล้วจึงตัดได้ ถ้าใครเงินสูงก็ได้ทำา ค่าตอไม้คงมาก คิดดังนี้ขัดข้องอย่างใดให้มีอธิบายไปรเวตลงมา

พระราชหัตถ์ถึงกรมพระราชวัง ขอให้เกณฑ์ขอแรงต่วนฮยีอาษาจามวังหน้ามาช่วยห่อปัสตันในการทัพคราวนี้บ้าง ถ้าได้คนเท่าใดให้มาทำการที่ที่พระองค์สายจะได้ทันการ

คำรับสั่งเรื่องความจีนตันม้าบุ๋นพระราชทานกรมหมื่นพิชิตมีความว่า ที่เกิดความสงสัยทั้งปวงนี้เพราะชำระสั้นตัดสินสั้นในเรื่องความเอ็ง ก็น่าสงสัยคำตัดสินหลายอย่าง ๑ เรื่องค่าเช่าตึกจีนตันม้าบุ๋นว่าเงินมาก พระยาภูเก็ตว่าน้อย ตุลาการตัดสินตามบาญชีพระยาภูเก็ต ส่วนบาญชีจีนตันม้าบุ๋นนั้นว่าคัดทำทีหลังแล้วก็ไม่คัดขึ้นในคำตัดสิน ๒ ข้อที่ว่าจีนตันม้าบุ๋นเป็นหนี้พระยาภูเก็ต ๘๒๗๐๓ เหรียญตามบาญชีพระยาภูเก็ต จีนตันม้าบุ๋นไม่รับและอ้างตั๋ว ๒ ฉะบับที่พระยาภูเก็ตทำให้ ซึ่งพิจารณาว่าเป็นแต่ค่าเช่าตึกอย่างเดียวจึงตัดสินแพ้พระยาภูเก็ต คำตัดสินเรื่องค่าเช่าตึกนี้ก็พอใช้ใด้ แต่รายเงินกู้ควรจะเรียกสำคัญที่จีนตันม้าบุ๋นใหม่ที่ควรแก้หนังสือกู้ของพระยาภูเก็ต ๓ การที่พิจารณาตัดสินนี้เห็นว่าแต่เรื่องกู้เงินและค่าเช่าตึก แต่ค่าเช่าเหมืองค่าสวนไม่ได้ความว่าพิจารณาเลย การเหล่านี้ไม่ควรจะถึงส่งนอกความยังบกพร่องอยู่ ยังมีทางพิจารณาอยู่ ให้กรมหมื่นพิชิตตรวจ

เรื่องราวราษฎรมีชื่อ ๒๔๗ คนกล่าวโทษเจ้าภาษีเรือ ว่ากดขี่ข่มเหง

เรื่องราวราบฎรมีชื่อ ๒๘๐ คนกล่าวโทษเจ้าภาษีเรือ ว่ากดขี่ข่มเหง

หนังสือพระนายไวยตอบพระองค์เจ้าสวัสดิเรื่องเจ้าพระยามหินทรขัดข้องรายเลขวัดอรุณนั้น ว่าเลขวัดอรุณ ๓ คนที่สักแล้วนี้นำลูกมาสมัครเป็นทหารแล้วคนละ ๓ คน ครบบุตรสัก ๓ คน ๓ คนนี้มาร้อง จึงสั่งให้ยื่นหักคน ๓ คนนี้ต่อสัสดีหักคน ๓ คนนี้เป็นบุตรสัก ๓ ตามพระราชบัญญัติ

วัน ๑ ๑๑ ค่ำ ปีมะแม เบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลากลางวันวันนี้ไม่ได้เสด็จออก เวลาค่ำเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกกรุงเก่ารายงานน้ำฝนต้นข้าวฉะบับ ๑ บอกหลวงยกกระบัตรผู้ว่าที่พระอร่ามปลัดเมืองสระบุรีขอที่พัทธสีมาวัดคุ้งกว้าง ๑๑ ศอก ยาว ๖ วา

พระไพรัชอ่านบอกเมืองสมุทรปราการ รายงานน้ำฝนต้นข้าวแล้ว เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศครู่หนึ่งเสด็จไปประทับห้องซิตติงรูม รับสั่งให้พระยามหาอำมาตย์เข้าเฝ้ารับสั่งถามด้วยการเมืองพระตะบองและการที่พระยาคชาธรพระยาปลัดได้ประพฤติอยู่และการเรื่องเมืองลาวต่าง ๆ แล้วทรงหนังสือราชการต่างๆ เวลา ๔ ทุ่มเสด็จขึ้น

มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระตอบเรื่องใบบอกพระยาสุจริตที่ถวายมา ๕ ฉะบับนั้น เรื่องที่มีหนังสือไปมรแมนนั้นถูกตามคำสั่งแล้ว ฉะบับที่ ๒ การด่านทางพระยาสุจริตเป็นผู้รับผิดชอบต้องยอมให้จัดการตามความเห็น เรื่องส่งสัญญาป่าไม้มานั้นให้รติไฟ แต่ที่จะบังคับราษฎรซึ่งไม่ได้ทำสัญญาให้ขายไม้ให้น้อยบุนทานั้น ให้มีตราน้อยตอบไปว่าทรงเห็นควรจะให้ว่ากล่าวปราณีประนอมกัน หรือควรจะประกาศกำหนดให้ชักลากไม้ไปเสียโดยเร็วจะดีกว่า

สมเด็จกรมพระถวายหนังสือว่าด้วยการที่จะไปเมืองลาวนั้น เดือน ๑๒ ช้างจะยังมาไม่ทัน จะกำหนดขึ้นไปแรม ๓ ค่ำเดือนอ้าย พระยาราชจะให้ขึ้นไปเดือน ๑๒ ถ้าช้างมาถึงจะต้องให้พระยาราชขึ้นไปก่อน และขอทูลลาไปตามเสด็จกรุงเก่าลพบุรีด้วย และว่าพระยาศรี (มหาอมาตย) นำหนังสือนักดิศมาส่ง และว่าหลวงวิชิตภักดีน้องพระยาคชาธรเป็นคนจงรักภักดีมากและทำการโทรเลขแข็งแรงควรได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสสริยยศ

พระราชหัตถ์ตอบไป ว่าการที่ทรงเลื่อนกำหนดไปนั้นการจำเป็นอยู่เอง แต่พระยาราชอยากให้ขึ้นไปเร็ว สมเด็จนั้นจะเสด็จไปเที่ยวก่อนก็ได้ หนังสือนักดิศที่ว่าส่งมานั้นยังหาได้รับไม่ หลวงวิชิตภักดีนั้น พระราชทานตราทิพยากรณ์

กรมหมื่นภูธเรศถวายริโปตว่าด่วยการแห่เจ้าวันนี้ได้จัดเจ้าพนักงานกำกับเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์อันใด

พระยานรรัตนถวายหนังสือของคนที่พระองค์สายมาเป็นครูหัดทหารลาดตระเวนเรือทางเหนือ

เจ้าแฉ่ถวายหนังสือเตือนที่บ้าน

พระองค์สวัสดิ์มีหนังสือถึงเจ้าพระยามหินทร ว่าด้วยสอบถามพระนายไวยเรื่องข้าพระวัดอรุณนั้น พระนายไวยว่าเป็นคนบุตรสักสาม แต่ขัดข้องที่เจ้าพระยามหินทรยื่นนั้น ไม่มีชื่อคนสามคนที่ว่าพระนายไวยจะหักมาให้จดชื่อเลขวัดอรุณ ๓ คน ที่ว่าบุตรสักสามมาและว่าธรรมเนียมเลขวัดนั้น ไม่หักบุตรสักสามหรือเรื่องเลขกรมพระกระลาโหมที่พระนรินทร์ไม่ยอมให้หักเป็นทหารนั้นคนบุตรสักสามหรือหัวหน้าให้จดเข้ามา

วัน ๒ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกประทับพระแท่นห้องออกขุนนางด้วยวันนี้เป็นวันประชุม ท่านผู้ที่เข้ามาเฝ้าในที่ประชุมวันนี้ คือ กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นภูธเรศ กรมหมื่นประจักษ์ กรมหมื่นพรหม กรมหมื่นศิริธัช กรมหมื่นเทววงศ์ เจ้าพระยาภาณุวงศ์ เจ้าพระยาพลเทพ เจ้าพระยามหินทร เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์

ทรงเล่าพระอาการพระองค์เจ้าศรีวิลัยประชวรทรงอาเจียรเป็นโลหิตให้เจ้าพระยาภาณุวงศ์ฟัง เจ้าพระยาภาณุวงษ์ถวายหนังสือเรื่องความพระเทพสงครามเมืองจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดให้กรมหมื่นพิชิตชำระ

ทรงเล่าเรื่องกำปนีโทรเลขอังกฤษไปขอร่างสัญญาต่อราชทูตที่ลอนดอน แล้วมีหนังสือถึงสมเด็จกรมหลวง จะขอทำทางสายน้ำเข้ามาต่อกับคอเวอนแมนตสยาม และทรงเล่าเรื่องเจ้าพระยาสุรวงษ์ตัดสินความพระยาภูเก็ตกับจีนสัปเยกต์นั้นไม่ถูก เวลา ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาค่ำออกขุนนาง พระนรินทร์อ่านบอกพระปลัด กรมการเมืองนครเขื่อนขันธ์ถวายพระราชกุศลทำการเฉลิมพระชนมพรรษา พระไพรัชอ่านบอกพระยาราชพงษานุรักษ์เมืองสมุทรสงครามว่าด้วยอ้ายหมาผู้ร้ายฆ่านายเอี่ยมตาย ถามรับว่าฟันตายจริงแต่ว่านายเอี่ยมฟันเอามีบาดแผล แล้วเสด็จขึ้น ประทับออฟ ฟิศครู่หนึ่งเสด็จไปประทับห้องซิตติงรูม เวลา ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น

เจ้าพระยาภาณุวงศ์ส่งคอเรสปอนเดนต์เรื่องความนายบุญทองกล่าวโทษจีนสุนที่เมืองชลบุรีว่า จีนสุนเกาะกุมเอาตัวไปลงเอาเงิน ผู้ว่าราชการส่งความเข้ามาจีนสุนอ้างว่าเป็นสัปเยกต์โปรตุเกศ นายบุญทองว่าไม่ใช่ เจ้าพระยาภาณุวงษ์ได้มีหนังสือไปมากับกงสุลโปรตุเกศ ๆ ยืนยันว่าจีนสุนเป็นสัปเยกต์โปรตุเกศ ในที่สุดกงสุลว่า ได้บอกไปยังราชทูตโปรตุเกศที่เมืองมเกาจะรอฟังคำสั่งราชทูต เจ้าพระยาภาณุวงษ์ก็ได้มีหนังสือไปถึงราชทูตโปรตุเกศด้วยแล้ว

โปรดให้พระองค์สวัสดิ์ตอบไปว่า ความเรื่องนี้ควรมีหนังสือไปให้กงสุลสยามที่มเกาทราบความไว้

กรมหมื่นภูธเรศถวายหนังสือพระสุริยภักดีว่าด้วยจำนวนเงินหลวงยังค้างนายพุ่มพิศณุโลกนายอิ่มไชยบูรณ์ ๑๗๙ ชั่ง ๑๐ ตำลึง ๒ บาท นายพุ่มนายอิ่มตีราคาที่บ้านและสิ่งของบุตรภรรยาเป็นเงิน ๕๘ ชั่ง ใช้แทนเงินหลวง ท่านเห็นว่าถึงราคาจะแพงไปก็ดีควรรับไว้

มีพระราชหัตถ์สั่งให้รับที่นั้นไว้ แล้วให้หม่อมเจ้าอุไทยอยู่อาศรัย กับมีพระราชหัตถ์สั่งเจ้าหมื่นเสมอใจให้แจกเงินค่าเช่าตึกหน้าวัดประยูรวงศ์จำนวนปีนี้ตามกำหนด

หนังสือเจ้าพระยามหินทรตอบพระองค์สวัสดิ์ เรื่องเลขวัดพระนายไวยขอหักนั้นสอบเจ้ากรมวัดอรุณชื่อไม่ต้องกัน ขอให้สอบพระนายไวย กับว่าธรรมเนียมเลขวัดถ้าบุตรสักสามคงกรมหักได้ เรื่องเลขกรมพระกระลาโหมนั้นหัวหน้าหรือบุตรสักสามไม่ได้ความชัด และว่าไพร่หลวงเมืองเพ็ชรบุรีสมัครเป็นทหารรักษาวัง ๒ คน ได้มอบตัวไปแล้ว แต่จะรอขัดข้องเลขกรมพระกระลาโหมตกลงเสียก่อน

เจ้าพระยาภาณุวงศ์ถวายขัดข้องเรื่องผู้ร้ายที่ปล้นเราษฎรเมืองนครไชยศรี ๒ ราย ซึ่งข้าหลวงชำระเป็นสัตย์นั้น ส่งเข้ามาถึงบางกอกผู้ร้ายกลับคำไม่รับ กับเรื่องความนายเกดอีกเรื่องหนึ่งขอให้ยกมาชำระที่อัฏฏวิจารณ์ศาลา

พระองค์ขจรกราบทูลเรื่องภาษีเรือว่า ได้ตัวหลงจู๊ปากลัดวัดไซ มาถามให้การว่า ได้เลิกด่านแล้วได้ทำปฏิญญาณทัณฑ์บนไว้ ได้ตรวจตั๋วฎีการาษฎรมายื่นต้องในพิกัดเจ้าภาษี เก็บถูก ๘๔ ฉะบับเงิน ๔๔๓ บาท ๒ สลึง ๑ เฟื้อง เก็บผิด ๑๗๖๑ ฉะบับเงิน ๓๕๗๓ บาท ๑ สลึง ๑ เฟื้อง ทั้งที่ได้ปรับให้ราษฎรไปแล้วรวม ๑๘๔๕ ชื่อ ได้ถามราษฎรว่ามีผู้ป่าวร้องให้มาร้องฎีกา ๆ ทรงเซ็นว่าหลงจู๊ ๒ คนว่าเลิกด่านแล้วให้ตรวจตั๋วฎีกาในวันหลัง ถ้ามีอีกให้ถามจะว่าประการใด ราษฎรที่แพ้เจ้าภาษีนั้นเพราะเชื่อคำป่าวร้องไม่รู้อะไรให้ยกปรับเสีย ถ้าเจ้าภาษีแพ้ให้ปรับให้ตามตัดสินเดิม

วัน ๓ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาวันนี้ไม่มีราชการอะไรไม่ได้เสด็จออก ทรงพระราชหัตถ์ตอบหนังสือสมเด็จกรมพระที่ถวายเมื่อเวลาคืนนี้ว่านายแก้วถวายฎีกากล่าวโทษพระยอดเมืองขวาง โปรดให้ชำระนั้นได้หาตัวลงมาชำระที่ศาลาในวังท่าน พระยอดเมืองขวางเถียงกับนายแก้วโจทก์ แล้วลุกขึ้นตบเตะเอานายแก้ว ๆ ร้องบอกกล่าว เห็นว่าเป็นการหมิ่นประมาทด้วยเป็นความรับสั่ง ข้อที่ละเมิดออฟฟิศนั้นท่านเห็นควรให้ทำขวัญออฟฟิศและทำขวัญนายแก้วเสีย แต่ข้อละเมิดนั้นแล้วแต่จะโปรด ในพระราชหัตถ์ตอบให้โบยหลังพระยอดเมืองขวาง ๕๐ จำตรวน ว่าความจนแล้ว

กรมพระราชวังตอบพระราชหัตถ์เรื่องแขกอาสาจามวังหน้านั้น ได้ให้ช่วยพระองค์สายทำการห่อปัสตันแล้ว และยังติดตามต่อไป

หนังสือสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงษ์ว่าด้วยการที่ไปเมืองเพ็ชร และว่ากำหนดวันกลับกรุงเทพ ฯ

หนังสือพระองค์สวัสดิถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์เรื่องความนายบุนทองให้มีหนังสือบอกกงสุลสยามเมืองมะเกา

วัน ๔ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้าก่อนโมงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประพาสสวนสราญรมย์พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี พระราชเทวีและข้างใน เวลาเช้า ๒ โมงเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

เวลาค่ำเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกพระยาพิสุทธิ์ธรรมธาดาเมืองลพบุรีถวายพระราชกุศล ทำการเฉลิมพระชนม์พรรษาฉะบับ ๑ บอกพระยาไชยนาทถวายพระราชกุศลทำการเฉลิมพระชนม์พรรษา

พระไพรัชอ่านบอกพระสยามพลภักดีเมืองนครไชยศรี ว่าจีนเฉียหงวนหัวหน้านำกรมการไปจับอ้ายจีนผู้ร้ายซึ่งปล้นบ้านอำแดงจิวไม่ได้ตัว ได้แต่จีนเจ้าสำนัก ๓ คน ถามไม่รับ ครั้นจะผูกเฆี่ยนก็ไม่มีพิรุธ และจีนเฉียหงวนรับนำกรมการไปจับจีนไซจี้อีกแต่ยังไม่กลับมา ฯ บอกพระยานนทว่ากำนันมาแจ้งความว่านายพ่วงเมาสุราแทงอำแดงอิ่มมีครรภ์ตาย เอาตัวมาถามรับเป็นสัตย์ ฉะบับ ๑ รายงานน้ำฝนต้นข้าวแล้วเสด็จขึ้น ประทับในออฟฟิศครู่ ๑ เสด็จไปประทับห้องซิตติงรูม กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นเทววงศ์ พระยาภาษ เฝ้าพระองค์สวัสดิ์ถวายหนังสือราชการทรง เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

เวลาเย็นวันนี้สวดมนต์ที่โรงเรือท่าขุนนาง ด้วยพรุ่งนี้จะเอาเรือเอนกชาติภุชงค์ลงน้ำ

เจ้าพระยาสุรวงศ์ถวายหนังสือและคำสอบถามหวันมหมัดสามัญด้วยเรื่องเขตต์แดนเมืองไทรเมืองแปรักได้ความว่าคลองเกรียนคลองสลามา ฝั่งซ้ายเป็นเขตต์เมืองไทร ยกเอาความแขกเรื่องหนึ่งซึ่งอยู่บ้านข้างฝั่งซ้ายคลองสลามาเป็นผู้ร้าย คอเวอนแมนปรักยอมให้เมืองไทรตัดสินทำโทษ ความเรื่องนี้ยกเป็นพะยานรายเขตต์แดนได้

มีพระราชหัตถ์ตอบไปว่า คำที่ถามนั้นยังไม่ตลอดทั่วถึงไป ถ้าเรียงความที่จะลงพิมพ์แล้วให้ส่งร่างมาถวายทรงสงสัยเห่งใดจะทรงจัดไปให้ถามต่อไป แต่ในคำให้การนั้นใช้ได้ และที่รับสั่งกับพระนรินทรให้ถามหวันมหมัดสามัญ ด้วยการลำบากในการที่เขตต์แดนซึ่งยังไม่ตกลงกัน เพราะจะไม่ยกขึ้นพูดให้อังกฤษตัดสินเรื่องเขตต์แดนให้เป็นการเด็ดขาด ให้ถามเสียอีกครั้งหนึ่ง

เจ้าพระยาภาณุวงศ์มีหนังสือส่งหนังสือนิวแมนส่งหนังสือคอเวอนแมนอินเดีย ว่าด้วยการโทรเลขฝ่ายอังกฤษจวนจะแล้ว และในหนังสือนิวแมนว่าเมื่อเขาได้มาเฝ้าได้รับสั่งด้วยเรื่องออฟฟิศโทรเลขจะร่นเข้ามาตั้งที่กาญจนบุรีไทยไม่ขัดขวาง เขาได้บอกไปยังเคาวแมนอินเดียตามที่รับสั่งนั้น

มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์ ว่าได้รับสั่งไว้กับนิวแมนตแต่ก่อนเรื่องสเตชันนั้น บัดนี้เขามีหนังสือมาหางกรมท่าว่าได้บอกไปที่คอเวอนแมนตอินเดีย ตามที่รับสั่งนี้ การที่รับสั่งนั้นเพราะทรงเห็นความ ๒ ข้อ ข้อหนึ่งถ้าจะตั้งสเตชันที่โป่งสะแกก็ต้องตั้งทั้งสองฝ่าย ที่นั้นไข้เจ็บก็ชุม ถ้าฝ่ายใดเลิกเสียก็จะเสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย อีกอย่างหนึ่งจะถือว่าถ้ามาตั้งที่กาญจนบุรีจะเป็นการเคลือบคลุมเขตต์แดน ถ้าดังนี้เห็นว่าที่โปงสะแกจะน่ากลัวว่าทรงเห็นดังนี้จึงได้รับสั่งไป

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์อีกฉะบับ ๑ ความคล้ายกัน และให้คัดหนังสือเคาวแมนตอินเดียส่งสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงษ์ด้วย

เจ้าพระยาภาณุวงศ์มีหนังสือมาเรื่องความนายบุนทองกล่าวโทษจีนสุนว่าได้มีหนังสือไปถึงกงสุลสยามเมืองมเกา แล้วส่งสำเนามาด้วย

มีฎีกากล่าวโทษเจ้าภาษีเรือ ๓ ฉะบับ ทรงเซ็นให้พระองค์ขจรชำระ

วัน ๕ ๑๐ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้าพระสงฆ์ ๑๐ รูปซึ่งสวดมนต์เมื่อเวลาวานนี้ฉันที่โรงเรือแล้ว พอได้พระฤกษ์พระยามหามนตรีและเจ้าพนักงานพร้อมกันเลื่อนเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ซึ่งทำใหม่ลงจากโรงเรือออกไปจอดอยู่เหนือท่าราชวรดิฐ

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกห้องซิตติงรูม พระยามนตรีสุริยวงษ์ ถวายผ้าหน้าโขนเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ โปรดให้เอาไปผูกเรือเสีย พระยารัตนโกษาเฝ้าถวายเพ็ชร์ ทอดพระเนตรโปรดให้ซื้อไว้ พระองค์ทองแถมเฝ้าถวายศิลาทองหลังกล่อง ๒ สำรับ แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงทรงพระที่นั่งราชยานไปประทับเกยพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ทอดพระเนตรม่านเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ แล้วเสด็จลงไปประทับท่าราชวรดิฐ โปรดให้พระยามหามนตรีเรียกเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ให้พายลงมาประทับท่า เรือพระที่นั่งลำนี้โปรดให้ทำขึ้นด้วยเป็นเรือแต่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทำค้างไว้ โปรดให้ต่อโขนใหม่ สลักลายนาคทั่วไปทั้งลำ พื้นกระจกขาวลายนาคนั้น เป็นทองพื้นท้องทาสีชมภู ผูกภู่และหน้าโขนปักดิ้นลายนาคตั้งพระแท่นติดหลังคา มีพลพายแต่งตัวอย่างทหารฝีพายพร้อมทั้งลำ โปรดให้ออกไปพายล่องลงไปแล้วกลับขึ้นเหนือน้ำแล้ว โปรดให้เรียกเข้ามาประทับท่า เสด็จลงประทับในเรือพระที่นั่งล่องน้ำไปถึงหน้าวัดอรุณแล้วกลับขึ้นมาเสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย รับสั่งกับพระยามนตรีสุริยวงษ์หน่อยหนึ่ง เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง วันนี้พระยาศรีสุนทรถวายสัญญาบัตรทรงเซ็น ๒ ฉะบับ

เวลาค่ำ ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกพระยาบริรักษ์ภูธรเมืองพังงา ๓ ฉะบับ ส่งเงินภาษีผลประโยชน์ปีมะเสง ๓ งวด ปีมะเมีย ๒ งวดเงิน ๑๘๐ ชั่ง ๑๓ ตำลึง ๑ บาท ๑ สลึง ๑ เฟื้อง ฉะบับ ๑ ส่งเงินส่วยปีมะเสง ปีมะเมีย ๑ ชั่ง ๘ ตำลึง ๓ บาท ๒ สลึง ฉะบับหนึ่ง ส่งเงินค่านาปีมะเมียจัตวาศก ๓ ชั่ง ๔ ตำลึง ๑ สลึง

บอกพระวิชิตภักดีศรีสุรสงคราม ปลัดเมืองตะกั่วป่า ส่งเงินภาษีผลประโยชน์เมืองตะกั่วป่าปีมะเมียจัตวาศก ๔๕๘ ชั่ง ๖ ตำลึง ๑ สลึง เมืองตะกั่วทุ่ง ๖๖ ชั่ง ๖ ตำลึง เมืองคีรีรัฐนิคม ๒๗ ชั่ง ๖ บาท ๓ สลึง

แล้วพระราชทานสัญญาบัตร พระไพรัช เป็นพระยาพิพัฒโกษา ๑ นายพรบุตรพระยามหาอมาตย์ เป็นหลวงเสนีพิทักษ์ ๑ เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศครู่ ๑ เสด็จไปประทับห้องซิตติงรูม ทรงหนังสือราชการเวลา ๓ ยามเศษเสด็จขึ้น

พระยาจ่าแสนถวายหนังสือขอให้หลวงสุริยามาตย์ไปเข้ากองทัพพระยาราชวรานุกูลแทนตัวไปฉลองพระเดชพระคุณแทนตัวในกองทัพ ฯ มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระส่งเรื่องราวและว่าแล้วแต่จะทรงเห็นชอบ

กรมหมื่นภูธเรศถวายหนังสือส่งสำเนาหนังสือเจ้าพระยาสุรวงษ์ นำเรื่องราวหลวงวุธสรเดชเจ้ากรมทหารแม่นปืนใหญ่ว่าด้วยอ้ายหนูบุตรเป็นโทษซื้อดินปืนหลวงต้องจำคุกมา ๗ ปีแล้วจะขอรับพระราชทานโทษอ้ายหนู มีพระราชหัตถ์สั่งให้พ้นโทษไป

พระยาประทุมธานี ถวายหนังสือขอทำป่าไม้ขอนสักในแขวงเมืองสรรคกำหนด ๑๐ ปี จะเสียค่าตอต้นละ ๙ สลึง

มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระให้ทรงตรวจดูถ้าไม่ขัดขวางอันใดก็ให้อนญาตให้นำ แต่ให้กำหนดตามควรไม่ต้องตามเรื่องราวก็ได้

เจ้าพระยาภาณุวงศ์มีหนังสือส่งสำเนาหนังสือกงสุลเยอรมัน ว่าด้วยเรื่องเงินอากรสวนค้างคนสับเยกต์ที่มีหนังสือไปนั้น เจ้าพนักงานไม่ว่ากล่าวเสียแต่แรกจนบัดนี้ ๑๕ ปีแล้วเกินกำหนดและสวนนั้นก็ขายซับซ้อนกันหลายเจ้าของ เป็นการลำบากยากที่จะเก็บเงินได้

โปรดให้พระองค์สวัสดิ์มีหนังสือถึงพระยาภาษว่าการเรื่องนี้เห็นจะต้องยกพระราชทานเสียพระยาภาษจะเห็นอย่างไรให้คิดดู

พระนายไวยถวายหนังสือส่งริโปดนายจ่ายวดว่าด้วยจัดทหารขึ้นไปราชการทัพเป็นริโปด ๓ อย่าง ๆ ที่หนึ่งว่าด้วยออฟฟิศเซอและทหารเป็นปัตโยนหนึ่ง ๘๐๕ คน ชั้นที่ ๒ ว่าด้วยคอมมิวชันนอนคอมิชันออฟฟิศเซอร์เลือกสันว่าผู้ใดควรรับการอย่างไรรับยศอย่างไร มีอัธยาศัยมีความรู้อย่างไรในราชการ เรื่องที่ ๓ ว่าเลือกคัดหาทหารที่แข็งแรงจัดเป็นตอน ๆ ตั้งเป็นกองขึ้นเต็มอัตราและจัดนายบังคับตามกำหนด กับว่าทหารปัตโยน ๑ เดิมกะไว้ ๗๓๔ จะต้องเติมอีก ๗๑ คนเป็น ๘๐๕ คน และเรื่องตำแหน่งยศออฟฟิศเซอร์อย่างไทยนั้น พร้อมกันว่าต่อกลับจากราชการจึ่งจะรับพระราชทานและออฟฟิศเซอร์ครั้งนี้เตมใจจะไปหมด ตำเหน่งยศนั้นแล้วแต่จะโปรด

เจ้าพระยาสุรวงษ์ถวายหนังสือ ว่าด้วยได้ยืมเงินเหรียญภาษีเมืองตะวันตกซื้อฝิ่นที่สิงคโปร์ ๑๕๙๗๔๕ เหรียญ จะขอคิดค่าเทียบร้อยละ ๗ ครึ่งใช้เงินหลวงเป็นเงิน ๒๔๙ ชั่ง ๑๒ ตำลึง ๑ เฟื้อง และเงินค่าเทียบรายนี้จะโปรดให้ส่งผู้ใด

เรื่องราวหลวงบำรุงราชากร หลวงเจริญราชธน ถวาย ว่าด้วยเงินอากรรังนกยังค้างอยู่ ๑๘๓๑ ชั่ง ๕ ตำลึง ๓ บาท ๓ สลึง ๑ เฟื้อง ขอลดเสีย ๕๐๐ ชั่ง จะส่งแต่ ๑๓๓๑ ชั่ง ๕ ตำลึง ๓ บาท ๓ สลึง ๑ เฟื้อง ส่งให้เสร็จ

วัน ๖ ๑๑ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จออกห้องซิตติงรูม สมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงษ์เข้ามาเฝ้าด้วยกลับมาแต่เพ็ชรบุรี แล้วพระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการ นายพลพันถวายกล่องนากซึ่งโปรดให้ทำมาถวาย พระยามหาเทพถวายใบสั่งจ่ายเงิน เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกพระนครศรีบริรักษ์ปลัดส่งเงินค่านาเมืองนครศรีธรรมราช ปีมะเมียจัตวาศก ๖๘ ชั่ง และส่งเป็นเงินตรา ๖๐ ชั่ง เงินเหรียญ ๘ ชั่ง และยังเก็บต่อไปยังไม่เสร็จ และส่งหนังสือพระยาจางวาง พระยากลันตันเข้ามาฉะบับ ๑ ในหนังสือมีความว่า ได้วานรเผือก ๑ เห็นว่าเป็นของประหลาดขอถวายเข้ามากรุงเทพ ฯ

เจ้าพระยาสุรวงษ์ถวายหนังสือ ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ตอบพระราชหัตถ์เรื่องที่รับสั่งกับนิวแมนเรื่องสเตชันที่โปรดให้ตั้งที่กาญจนบุรี เห็นชอบตามที่รับสั่งไปนั้นแล้ว ฉะบับ ๑ ส่งใบบอกพระยาไทรเรื่องเขตต์แดนเข้ามาถวายเพื่อจะได้ทรงที่ทรงสงสัยจะได้ถามต่อไป และเห็นควรมีหนังสือถึงมิสเตอรนิวแมนส่งสำเนาใบบอกและหนังสือต่าง ๆ ไปให้เขาทราบเสียด้วย

เจ้าพระยาภาณุวงษ์ส่งหนังสือกงสุลฝรั่งเศส ว่าด้วยเรื่องราคาค่าบอกคำโทรเลขในระหว่างเมืองไซ่ง่อนกับกรุงสยาม

มีพระราชหัตถ์สั่งกรมหมื่นพิชิตให้ยกความนายเกตมาชำระที่ศาลฎีกา

มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์เรื่องที่จะคิดค่าเทียบร้อยละ ๗ ครึ่งใช้เงินภาษีที่มียืมไปซื้อฝิ่นนั้น เงินในเวลานั้นต้องใช้เงินเหรียญมาก แต่เงินเหรียญไม่มี ต้องจ่ายเงินบาทเสียค่าเทียบถึงร้อยละ ๙ การที่จะใช้ค่าเทียบร้อยละ ๗ ครึ่งนั้นเป็นที่เสียอยู่ เพราะเป็นเงินแผ่นดินแต่ไม่ทรงสงสัยว่าฉ้อฉลอันใด การต่อไปให้เจ้าพนักงานคลังผู้รับเงินทองรู้เห็นเสียด้วย เมื่อจะหยิบยืมก็ให้เจ้าพนักงานรู้เสียด้วยจึงจะดี เงินค่าเทียบครั้งนี้ให้ส่งเจ้าพนักงานผู้รับเงินที่หอรัษฎากรพิพัฒน์

ถึงพระนายไวยอีกฉะบับ ๑ สรรเสริญในการที่ทหารมีความรื่นเริงกล้าหาญในการที่จะไปทัพเป็นนิมิตรอันดีที่จะมีไชยแก่ข้าศึก การที่ออฟฟิศเซอรจะขึ้นไปราชการเสียก่อนจึงจะกลับบารับยศชอบแล้ว แต่พวกเมืองลาวมักนับถือชื่อยศมากจึงจะโปรดตั้ง กับให้ทำข้อบังคับสำหรับนายทหาร เพื่อจะประพฤติราชการกับแม่ทัพ มิให้เป็นการเกี่ยงแย่งกันแล้วให้เอามาถวายทรงตรวจ อีกฉะบับ ๑ ว่าด้วยทหารที่จะไปทัพเป็นพวกลาวสีไม้มากและลาวพวกนี้เป็นชาวเมืองพวนรักถิ่นถานบ้านเรือนมาก ราชการทัพครั้งนี้ก็ขึ้นไปใกล้เมืองพวนให้ระวังอย่าให้หนีไปได้

วัน ๗ ๑๒ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๔ โมง เสด็จออกห้องซิตติงรูม พระยาโชฎึกเฝ้าทูลขอเบิกงาช้างส่งไปเมืองจีนทำเครื่องโต๊ะงา พระนายศรีเฝ้าถวายหนังสือฉะบับ ๑ แล้วเสด็จออกมาประทับห้องดรออิงรูม กรมหมื่นเทววงศ์นำมิสเตอรนิวแมน ผู้แทนกงสุลอังกฤษ ๑ มิสเตอร์เฮลรีเวลด์บลันเดลล์ ญาติพี่น้องของเซอรเฟเดริก วลอรลัส เวลด์ คอเวอเนอสิงคโปร์ ๑ เข้ามาเฝ้า ทรงพระราชปฏิสันถารตามสมควร แล้วกราบถวายบังคมลากลับไป เสด็จประทับห้องซิตติงรูม ทรงหนังสือราชการต่าง ๆ เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองตากถวายพระราชกุศล ทำการเฉลิมพระชนม์พรรษา พระยาปราจีนบุรีบอกถวายพระราชกุศล ทำการเฉลิมพระชนม์พรรษา

พระนรินทร์อ่านบอกพระยาภูเก็ตว่าด้วยเก็บเงินภาษีเกาวแมนตจำนวนปีมะเมีย จัตวาศก คือค่าดีบุก ค่าตีตราดีบุก ตีตราฝิ่นและภาษีอื่น ๑๓ เดือนทั้งอธิกมาศ เก็บได้เงิน ๔๗๗๙๓๕-๔๙ เหรียญ คิดเป็นเงินตรา ๙๙๕๖ ชั่ง ๑๖ ตำลึง ๓ บาท ๑ เฟื้อง หักจ่ายราชการและการบ้านเมือง ๘๖๓ ชั่ง ๒ ตำลึง ๑ บาท ๑ เฟื้อง คงเหลือเงิน ๙๐๙๓ ชั่ง ได้ส่งครั้งก่อนเป็นตั๋วฎีกาและตัวเงิน ๔๑๖๖ ชั่ง ๑๓ ตำลึง ๑ บาท ๑ สลึง ๕๓๓ ไพ ส่งคราวนี้ฎีกา ๑๗ ฉะบับ จ่ายเรือรบเงินเดือนกงสุลสยามปินังและคงหัวเมืองมารักษาการเมืองภูเก็ต ๒๖๙ ชั่ง ๑ บาท ๒ สลึง ส่งตัวเงิน ๒๙๘๗ ชั่ง ๕ ตำลึง ๑ บาท ๒ สลึง ๑ เฟื้อง ๕๓๓ ไพ แต่ส่งเป็นเงินเหรียญ ๑๕๓๓๙๙-๒ ยืมจ่ายใช้และค้างจีนเจ้าภาษี ๘๐๒๐๔-๑๑ เหรียญ จะเร่งส่งภายหลัง

พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระเทพสงครามปลัดเมืองจันทบุรี ถวายพระราชกุศลเฉลิมพระชนมพรรษา อีกฉะบับ ๑ ว่าจีน ๒ พวกต่างฟ้องแย้งต่อกันว่าฆ่ากันตายทั้งสองฝ่ายด้วยเกิดวิวาทตีกันตายทั้งสองฝ่าย เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศครู่ ๑ เสด็จประทับห้องซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการต่าง ๆ เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

สมเด็จกรมหลวงพระองค์น้อยถวายหนังสือว่าด้วยเจ้าจอมมารดาสังวาลย์เอาพระราชหัตถ์ถึงพระองค์ทองแถมจะให้บอกโทรเลขขึ้นไปบางปอิน ท่านเห็นว่าเป็นการผิดแบบอยู่

มีพระราชหัตถ์ตอบไปว่า พระราชหัตถ์ที่ไม่ได้สั่งไปให้กรมโทรเลขบอกโทรเลขแล้ว จะถือเอาเป็นคำโทรเลขบอกไม่ได้ ไม่ควรบอกเลย

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ ส่งร่างหนังสือให้มีตอบนิวแมนเรื่องสเตชันโทรเลข ว่าการที่จะตั้งสเตชันฝ่ายอังกฤษที่กาญจนบุรี ก็ไม่เป็นที่ทรงรังเกียจสิ่งใด แต่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงภาณุพันธวงษ์ทรงเห็นว่าควรจะตั้งในแดนทวายจะเป็นการไม่ลำบาก

เจ้าพระยาภาณุวงษ์มีหนังสือส่งหนังสือหลวงโธรัยหสยามรัฐ กงสุลสยาม ว่าด้วยได้รับสัญญาบัตรและเครื่องราชอิสสริยยศ จากพระองค์เจ้าปฤษฎางค์แล้ว ขอบพระเดชพระคุณ กับหนังสือมิสเตอรชาเลฟอบผู้ว่าการกงสุลสยามเมืองบอมเบ ว่ากงสุลคนเก่าหายไปนานแล้ว ถ้าจะให้มีกงสุลต่อไปเขาจะรับเป็น ขอตราตั้งออกไป กับหนังสือพระสยามธุรานุรักษ์ขอเงินเดือนเติมและบอกข่าวด้วยทูตพะม่าไปถึงกรุงฝรั่งเศสจะไปทำสัญญา

เรื่องกงสุลบอมเบนั้นโปรดให้ถามกรมท่าว่า กงสุลคนเก่าได้ลาออกแล้วหรืออย่างไร ที่จะตั้งอย่าให้ซ้อนเป็นสองกงสุลได้

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ว่าเรื่องทูลขอหลวงเจริญสมบัติเป็นปลัดเมืองตราดนั้นโปรดเกล้า ฯ ประการใด ตอบไปว่าทรงทราบข่าวมีผู้กล่าวโทษว่า หลวงเจริญสมบัติเป็นคนสูบฝิ่นกินเหล้า จึงยังไม่โปรดตั้ง

พระยาภาษจดหมายเป็นความเห็นเรื่องจะจัดการในกรมพระคลังสวนให้ดีขึ้น มิให้เงินอากรค้างดังแต่ก่อน โปรดให้นัดให้เข้ามาเฝ้า

วัน ๑ ๑๓ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกห้องซิตติงรูม พระยามหามนตรีเฝ้ารับสั่ง เรื่องเรือเอนกชาติภุชงค์และทูลเรื่องเรือที่จะเสด็จพระราชดำเนินพระกฐิน หลวงวรนารถกภักดีถวายต้นไม้กรอต๋นต้นเล็ก ๆ ใส่กระถางหลายกระถาง พระนายไวยเฝ้าถวายหนังสือฉะบับ ๑ และถวายตัวอย่างธงและเครื่องทหารที่จะไปราชการทัพครั้งนี้ พระยานรรัตนเฝ้าพระองค์สวัสดิ์เฝ้า ทรงหนังสือราชการ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น วันนี้พระราชทานเพลิงศพหลวงจักรยานานุพิจารณ์ พระราชทานหีบศิลาหน้าเพลิงขึ้นไปพระราชทานเพลิงศพพระศรีธงไชย เจ้าเมืองปักธงไชย

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระยาประสิทธิ์ศุภการ ว่าด้วยชำระความนาที่กรุงเก่าแล้ว ๑๑๔ เรื่อง ค้าง ๖๕ เปรียบเทียบไม่ยอมจะไปฟ้องตามกระทรวง ๒๐ ส่งตระลาการเดิม ๑๑ และถวายพระราชกุศลทำการเฉลิมพระชนม์พรรษาที่วังจันทรเกษม บอกพระยาวิเศษฦาไชยรับสารภาพที่ออกเงินให้นายร้อยแสงสุริยาค่ากระบือซึ่งผู้ร้ายปล้นไปก่อนได้ตัวผู้ร้ายนั้นเป็นการผิด บอกพระยาสังขว่าพระศรีขรภุมมานุรักษ์ตาย ได้ให้ยกกระบัตรเมืองสังขะไปว่าการ ขอยกกระบัตร์เป็นพระศรีขรภุมมานุรักษ์เจ้าเมืองศรีขรภูม แล้วนำพระยาวิเศษฦาไชยเฝ้ารับสั่งเรื่องชำระผู้ร้ายว่าแข็งแรง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เลื่อนเครื่องราชอิสสริยยศที่ได้แล้วขึ้นอีกชั้น ๑ จะได้ว่าต่อวันพระราชทาน อนึ่งในบอกพระยาวิเศษนั้นส่งตัวผู้ร้าย ๑๕ คน ยังไม่ได้ตัวผู้ร้าย ๒ ผู้ซื้อ ๔

พระนรินทร์อ่านบอกพระศิริธรรมบริรักษ์ ส่งต้นไม้ทองเงินเมืองนครศรีธรรมราชจำนวนปีมะแมเบ็ญจศก ๖ ต้น และเครื่องราชบรรณาการเข้ามาด้วย ฯ บอกเมืองประทุมธานีส่งเงินค่านาปีมะเมียจัตวาศก ๙๒ ชั่ง ๓ บาท ๒ สลึง ๔๒๐ ไพ เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศรับสั่งกับกรมหมื่นเทววงศ์ครู่ ๑ เสด็จไปประทับห้องซิตติงรูม ทรงหนังสือราชการจนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

สมเด็จกรมหลวงพระองค์น้อยถวายหนังสือ ว่าด้วยได้รับริโปดเมืองเปินได้ความว่าคอเวอนแมนต์อินเดียบอกไปว่าสายโทรเลขฝ่ายอังกฤษที่ทำมาถึงโป่งสะแกนั้นแล้วหลายเดือนแล้ว ฝ่ายเราทำการแล้วนานแล้วแต่หาได้แจ้งความไปเมืองเปินไม่เพราะไหวพริบไม่ทันอังกฤษ ได้ปรึกษาอาลบาสเตอร์เห็นว่าควรบอกไปว่าสายของเราแล้ว เมื่อสายแล้วทั้งสองฝ่ายเหตุใดจึงใช้ไม่ได้ เมืองเปินก็จะต้องสอบสวนเอาความจริง และว่าการโทรเลขฝ่ายเราบัดนี้ก็แล้วหมด ยังแต่สายที่จะข้ามน้ำ มองซิเออเบตเทอเลียว่าทำสายบกดีกว่า เดวิซันรับทำสายน้ำ สายบกกลัวจะกีดเรือ ตกลงเป็นทำสายน้ำจะลงมือใน ๗ วันนี้ กับว่าพระยาสยามได้จ้างคนไว้พร้อมแล้ว ท่านเห็นว่าเวลานี้ก็ไม่มีคนก็จะปรึกษาข้างฝ่ายอังกฤษ ขออนญาตมีโทรเลขเรียกคนที่จ้างไว้เข้ามา

ฉะบับ ๑ ว่าเจ้าพระยาภาณุวงศ์ส่งหนังสือนิวแมนที่ว่าด้วยโปรดอนุญาตให้อังกฤษตั้งสเตชันที่กาญจนบุรี และหนังสือคอเวอแมนต์อินเดียว่าด้วยสายโทรเลขฝ่ายอังกฤษจะแล้ว ๒-๓ วิกนี้ ท่านเห็นว่าสายฝ่ายตะวันตกควรต่อสายกันที่เขตต์แดนไม่ต้องตั้งสเตชันติดต่อรับส่งคำโทรเลขกันทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก

โปรดให้พระองค์สวัสดิ์ตอบว่าเรื่องนี้ได้โปรดให้เจ้าพระยาภาณุวงษ์มีหนังสือตอบนิวแมนไปแล้ว

วัน ๒ ๑๔ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้า ๓ โมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์ทรงจุดเทียนนมัสการพระไชย และทรงนมัสการพระบรมอัฐิในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วทรงศีล พระสงฆ์ ๒๐ รูปถวายพรพระเสร็จแล้ว เสด็จทรงทอดผ้าไตรสดัปกรณ์ แล้วทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วถวายอนุโมทนาถวายพระพรลากลับไป สดัปกรณ์ ๑๐๐ ตามธรรมเนียม แล้วพระราชทานเงินสลึงพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จขึ้น การจัดแต่งตั้งเหมือนทุก ๆ ปีมา วันนี้เป็นดิถีประสูติมงคลสมัยในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เวลาก่อนยามเสด็จออกทรงจุดเทียนนมัสการ พระสงฆ์ ๒๐ รูปสวดธรรมจักกัปวัตนสูตรเสร็จแล้วเสด็จทรงทอดผ้าเช็ดปากธูปเทียนสดัปกรณ์อีก ๒๐ แล้วพระเทพโมฬีถวายเทศนาทานมัยกัณฑ์ ๑ แล้วเสด็จทรงประเคนไตรและเครื่องบริขารพระสงฆ์ถวายอติเรก ถวายพระพรลากลับไป เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จลงลอยประทีปณเรือบัลลังก์ตามธรรมเนียมโบราณจารีต เวลาเกือบ ๒ ยามเสด็จขึ้น

เจ้าพระยาภาณุวงศ์ส่งคอเรศปอนเดนส์ เรื่องนายนุ่มฟ้องจีนเตกช่วงว่าตบตีภรรยานายนุ่ม จีนเตกช่วงอ้างว่าเป็นสับเยกต์ฝรั่งเศส กงสุลฝรั่งเศสไม่รับว่าเป็นสับเยกต์จีนเตกช่วงกลับว่าเป็นสับเยกต์โปรตุเกศ เจ้าพระยาภาณุวงษ์ได้มีหนังสือ ถามกงสุลโปรตุเกศ รับว่าเป็นสับเยกต์โปรตุเกศ ได้มีหนังสือถึงกงสุลอีกว่า แต่ก่อนจีนเตกช่วงอ้างว่าเป็นสับเยกต์ฝรั่งเศส ภายหลังอ้างว่าเป็นสับเยกต์โปรตุเกศ เชื่อไม่ได้ขอให้พิจารณา กงสุลตอบมาว่า จะบอกไปยังเกาวนามะเกาก่อนเมื่อได้ความประการใดจะบอกให้ทราบ ภายหลังผู้ว่าการกงสุลโปรตุเกศส่งหนังสือสําหรับตัวจีนเตกช่วงมาได้มีหนังสือตอบไปยังสงสัยว่ามิใช่สับเยกต์ และได้มีหนังสือกงสุลสยามเมืองมะเกาบอกแก่เกาวนามะเกา บัดนี้กงสุลตอบมาว่าเกาวนามะเกาจะเข้ามาสําแดงตราตั้งในเดือนออกโตเบอแล้วจะมาพูดการเรื่องนี้ให้ตลอดไปด้วย

สมเด็จกรมหลวงพระองค์น้อยถวายหนังสือ ๔ ฉะบับ ฉะบับ ๑ จะขอเรียกมิสเตอรคเนดิลนสเป็นคนเคยรับการอยู่ที่โปสตออฟฟิศเมืองสิงคโปร์เข้ามารับการไปรษณีย์กรุงเทพฯ

ฉะบับ ๑ ว่าด้วยเรื่องราคาคําโทรเลขกรุงเทพ ฯ กับเมืองไซ่ง่อน

ฉะบับ ๑ ว่าด้วยสัญญาโทรเลขกับกอมปนี อยากจะให้ได้ประชุมปรึกษาเสียก่อนกฐิน

ฉะบับ ๑ ว่าด้วยเจ้าพระยาภาณุวงษ์ส่งหนังสือกงสุลสยามที่ไซ่ง่อนส่งบิลต่าง ๆ มาเอาเงินใช้ค่าที่รองไปในการโทรเลข ท่านขอรับพระราชทานตั๋วยืม

วัน ๓ ๑๕ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เวลาเช้า ๓ โมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์ ทรงจุดเทียนนมัสการเเล้วทรงศีล พระสงฆ์สวดถวายพรพระเสร็จแล้ว เสด็จทรงทอดผ้าไตรสมเด็จพระวันรัตและถานาเปรียญอันดับวัดราชประดิษฐ์ ๑๙ รูป รวม ๒๐ รูป สดัปกรณ์ด้วยวันนี้นับว่าเป็นดิถีที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต แล้วทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ครั้นฉันแล้วถวายอนุโมทนาถวายพระพรลากลับไป สดัปกรณ์ ๑๐๐ ตามธรรมเนียม

วันนี้กำหนดที่จะได้เปลี่ยนกรรมสัมปาทิกสภาผู้จัดการหอสมุดวชิรญาณใหม่ เจ้านายซึ่งเป็นผู้มีส่วนในหอสมุดนั้นพร้อมกันโวดเลือกต่าง ๆ กัน แต่ที่ตกลงนั้น พร้อมกัน ๑๐ พระองค์เลือกกรมหมื่นพิชิตเป็นสภานายก พร้อมกัน ๙ พระองค์เลือกพระองค์เจ้าชุมพลเป็นเลขาธิการ แล้วกรมหมื่นพิชิตปรีชากรสภานายกเลือกกรรมสัมปาทิก ๔ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าเกษมศรี ๑ กรมหมื่นศิริธัช ๑ พระองค์เจ้าไชยา ๑ พระองค์เจ้าไชยัน ๑ อุปนายกนั้นเจ้านายข้างในที่มีส่วนในหอสมุดเลือกพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณเป็นอุปนายก แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเงินค่าเช่าตึกหน้าวัดประยูรวงศ์แก่เจ้านาย ซึ่งมีส่วนในตึกนี้ แล้วทรงแจกเงินสลึงพระบรมวงศานุวงศ์ตามเคย พระราชทานสัญญาบัตรหลวงนายศักดิ์ เป็นพระยาประสิทธิสุภการ ๑ นายจ่ายงเป็นหลวงนายศักดิ์ ๑ นายราชภัณฑ์เป็นนายจ่ายง ๑ นายสรพลเป็นจมื่นไชยาภรณ์ ๑ นายฉันทเป็นนายจ่ารงค์ ๑ นายพลพ่ายเป็นนายฉันท ๑ นายสนองเป็นหลวงอินทโกษา ๑ นายชวนเป็นนายพลพ่าย ๑ นายเชตเป็นนายราชภัณฑ์ภักดี ๑ แล้วเสด็จขึ้น

เวลาเกือบยามเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์ทรงจุดเทียนนนัสการพระสงฆ์ ๒๐ รูป สวดอนัตตลักขณสูตรจบแล้ว เสด็จทรงทอดผ้าเช็ดปากธูปเทียนสดัปกรณ์อีก ๒๐ แล้วหม่อมเจ้าพระประภากรถวายเทศนาศีลมัยกัณฑ์ ๑ แล้วเสด็จประเคนไตรและเครื่องบริขาร พวะสงฆ์ถวายอติเรกถวายพระพรลากลับไป เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จลงลอยประทีปณเรือบัลลังก์อย่างเช่นเวลาวานนี้ เวลา ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้าวันนี้ทรงพระกรุณาโปรดให้เลี้ยงพระเสียก่อน เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระบรมอัฐิพระอัฐิขึ้นตั้งบนพระที่นั่งเศวตฉัตรและโต๊ะจีน เวลา ๕ โมงเศษเสด็จออกทรงทอดผ้าสดัปกรณ์พระบรมอัฐิพระอัฐิตามเคย พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาอติเรกถวายพระพรลากลับไป สดัปกรณ์อีก ๕๐๐ รูป แล้วพระราชทานสัญญาบัตรนายเลกบุตรพระยาราชประสิทธิ์ เป็นนายสนองราชบรรหาร ๑ แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้น เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระบรมอัฐิพระอัฐิเข้าสู่หอพระธาตุมณเฑียรตามเดิม

เวลาค่ำโปรดให้พระเจ้าลูกเธอไปมีเทศน์ที่พระที่นั่งอมรินทร์พระอมรโมฬีถวายเทศนาภาวนามัยกัณฑ์ ๑ เวลา ๕ ทุ่มเสด็จพระราชดำเนินลงลอยพระประทีปที่เรือบัลลังก์อย่างเวลาวานนี้ เวลาเกือบ ๒ ยามเสด็จขึ้น

สมเด็จกรมพระถวายหนังสือนำศุภอักษรและใบบอกเมืองเชียงใหม่ ศุภอักษรพระเจ้าเชียงใหม่ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าด้วยรับเงินค่าตอไม้จำนวนปีมะโรง ปีมะเส็ง ปีมะเมีย ๓ จำนวน เป็นเงิน ๗๒๔๑๕ รูเปีย จ่ายราชการให้ข้าหลวงใน ๓ จำนวน เงิน ๘๘๐๐๑ รูเปีย ๒ สลึง ไม่พอได้ออกเงินแทน ๙๐๕๗ รูเปีย ฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระยาเทพเสนาท้าวเสมอใจคุมพะม่าลาวพวกแมงซา ๙ คนขึ้นไปเรียกสัญญาทัณฑ์บนไว้แต่พวกเมืองเชิงตุง ๕ คน แสนรามเทศมาขอตัวไป บอกพระยาราชสัมภารากรวางเวรฉะบับ ๑ ว่าด้วยเจ้าเมืองผาปูนมีหนังสือมาว่าคนในบังคับเขาเป็นความกันสืบพะยาน ๆ อยู่เมืองแม่ฮ่องสอนส่งหนังสือซามันมาขอพะยานที่มีชื่ออ้างได้ให้ท้าวพระยาเหนือสนามนีหนังสือไปถึงพระยาสิงหนาท ๆ ตอบมาว่าคนที่จดชื่อมานั้นไปเมืองอื่นหมดแล้ว อยู่คนเดียวจะให้มาเมืองเชียงใหม่ก็เป็นคนลูกเต้าเล้าอ่อน จึงถามคำให้การส่งมา ได้ส่งไปให้เจ้าเมืองผาปูนแล้ว ใบบอกไปรเวท ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่านายแกร่งมหาดเล็กป่วยเป็นไข้ถึงแก่กรรม ฉะบับ ๑ ว่าเรื่องราชวงศ์นั้นเมื่อเจ้านครและขุนแผลงสท้านมาช่วยพระเจ้าเชียงใหม่ฉลองตราก็ได้ตักเตือน แล้วภายหลังมีหนังสือเตือนขุนแผลงสท้านยังหาได้คำตอบมาประการใดไม่ เรื่องความหนานขัติยฟ้องเจ้าลำปางนั้น ได้มีหนังสือไปถึงเจ้าลำปางให้ไว้ความให้พระยาไชยสงครามมาว่าความกับหนานขัติย เรื่องหนึ่งพระเจ้าเชียงใหม่มาปรึกษาเรื่องมองเล็กกล่าวโทษพระยาเขื่อนเมืองพร้าวว่า พระยาเขื่อนเอาลูกจ้างของมองเล็กมาจำไว้และว่าจับเอาช้างมาด้วย พระยาราชสัมภารากรให้พระเจ้าเชียงใหม่ว่ากล่าวไกล่เกลี่ยกับมองเล็ก ความเป็นเสร็จกัน

สมเด็จกรมหลวงถวายหนังสือฉะบับหนึ่งว่าด้วยสั่งนาฬิกามาเรือนหนึ่ง ราคา ๙๐ ปอนต์ จะตั้งไว้สำหรับออฟฟิศไปรษณีย์ ฉะบับ ๑ ว่าด้วยปรึกษากับอาสบาสเตอรเห็นว่าที่จะบอกไปเมืองเปินนั้น ถ้าแกล้งรีบทำโทรเลขให้ได้ใช้โดยเร็วในสองสามวันจะลำบากมากจะเรียกคนอังกฤษที่ว่าจ้างนั้นมาโดยเร็ว กับส่งความเห็นเบตเทอเลียว่าสายโทรเลขทางทวายควรไปต่อที่โรงภาษี ไม่ต้องเรียกคนเติมอีกก็ได้ มีพระราชหัตถ์เลขาสั่งพระนายเสมอใจให้เป็นผู้เก็บเงินค่าเช่าตึกหน้าวัดประยูรวงศาวาส มีพระราชหัตถ์ถึงกรมขุนภูวไนยพระราชทานพรในวันแซยิดครบ ๕๗ รอบ

วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จออกห้องซิตติงรูม พระยาเจริญเฝ้าทูลขัดข้องเรื่อง ความศาลต่างประเทศแล้ว สมเด็จกรมพระและภูษามาลาเชิญเครื่องต้นเข้ามาลอง ด้วยปีนี้จะเสด็จพระราชดำเนินพยุหยาตราและพระราชทานตั๋วสำคัญเงิน ๓ ชั่งสมเด็จกรมพระไปพระราชทานรางวัลช่างซึ่งซ่อมแซมพระมหากฐินใหญ่ พระองค์สวัสด์เฝ้าทรงหนังสือราชการต่าง ๆ เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกท้าวเหมา ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าด่วยพระวิชิตชลหารผู้ช่วยเก็บเงินส่วยของหลวงจำนวนปีมะเส็งและปีมะเมียและปีก่อน ๆ มาจำหน่ายใช้สอยคบนักเลงสิ้น ท้าวเหมาจะเอาตัวมาเร่ง ท้าวหนูขัดเสีย ฉะบับหนึ่ง ว่านายด่านเมืองคำเกิดคำมวนมีหนังสือมาว่าฮ่อตีเมืองหมอกแตก จะให้พระวิชิตชลหารไปสืบราชการ ท้าวหนูท้าวพ่วงขัดเสีย จะตรวจปืนหลวงก็ขัดเสีย และส่งหนังสือเมืองประชุมชนาไลยบอกข่าวฮ่อตีเมืองหมอกและเมืองอื่น ๆ

พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระยาราชพงษานุรักษ์ว่าด้วยพระยามหิศรราชสัมพันธ์ถึงแก่กรรม ฉะบับหนึ่งว่าอ้ายผู้ร้ายแทงนายแย้มตาย บอกพระยานนทบุรีบอกว่าเมียนายแดงผู้ตายฟ้องว่าอ้ายพุ่มหงอนแทงนายแดงตาย ได้ตัวมาถามรับเป็นสัตย์ส่งลงมากรุงเทพ ฯ บอกพระสยามพลภักดิ์ส่งเงินปี้จีน ๑๐ ชั่ง ยังเร่งอยู่อีก แล้วพระราชทานตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๓ มัณฑนาภรณ์ ม.ม. พระยาวิเศษฦาไชย แล้วเสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศรับสั่งกับกรมหมื่นเทววงศ์ พระยาภาษเรื่องความเงินอากรสวนค้างคนต่างประเทศ แล้วเสด็จไปประทับห้องซิตติงรูม ทรงหนังสือราชการต่าง ๆ เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระ ว่าด้วยส่งใบบอกพระยาสุจริต ๒ ฉะบับ ศุภอักษรเชียงใหม่ ๒ บอกพระยาราชสัมภารากรวางเวร ๑ ไปรเวต ๒ นั้นได้ทรงตรวจแล้ว ศุภอักษรเรื่องเงินค่าตอไม้เป็นการเรียบร้อยแล้วแต่ที่เงินไม่พอใช้ราชการนั้น จะเป็นเพราะเงินค้างหรือเงินสำหรับราชการไม่พอใช้เอง ถ้าไม่พอเองต้องหาเงินขึ้นอีกหรือลดค่าโปลิศเสีย แต่จะให้ข้าหลวงพูดที่บนก็จะเฟือนไปรอไว้เมื่อควรจัดจึงจัดครั้งนี้เป็นแล้วไป เรื่องแมงซานั้นทำเรียบร้อยมากสมควรจะชมเขา บอกพระยาราชสัมภารากรเรื่องมองซายะฟ้องมองยันมองซวยเจนั้นทำเรียบร้อยแล้วแต่คัดหนังสือมาไม่หมด ไปรเวตเรื่องเมืองนครนั้นดูเฉื่อยแฉะนัก เมื่อเจ้านครดื้อดึงเห็นจะทำไม่ตลอดก็ควรบอกเล่า เรื่องมองเล็กกล่าวโทษพระยาเขื่อนพระยาราชสัมภารากรแนะให้พระเจ้าเชียงใหม่ไกล่เกลี่ยนั้นเป็นการชอบ เรื่องนายแกร่งตายนั้น ถึงเป็นมหาดเล็กเลวก็จริงแต่ไปราชการควรมีพระราชทานเพลิง

หนังสือพระยามหาอำมาตย์ถวายถ้วยศิลาอ่อนซึ่งเป็นศิลาเกิดเมืองอัตปือและแปที่ใช้ต่างอัฐเมืองพัตบองเมืองเสียมราฐและลาดที่ใช้ต่างอัฐต่างเงินในเมืองลาวตะวันออก และเหล็กหางกุ้งที่ใช้ในเมืองข่าระแด ทูลเกล้า ฯ ถวายเป็นตัวอย่าง

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงษ์ส่งหนังสือพระองค์เจ้าปฤษฎางค์จะขอเลือกเอาของเอกษฮิบิเชนที่เมืองแอมสเตอแดม ซึ่งโปรดให้ขายนั้นเข้าไว้มิวเซียมเอมสเตอแดม กับว่าที่บอกไป ว่ากงสุลเยอรมันบอกกำหนดเลื่อนประชุมคอนเดรสคราทเบอลินนั้นทราบแล้ว ถ้าถึงกำหนดจะให้ใครแทนคอวอนแมนด์สยามขอให้รู้และหนังสือพระสยามธุรานุรักษ์ว่าด้วยกรมหมื่นนเรศรกับพวกจะไปถึงปารีส มีหนังสือกำหนดวันไป

หนังสือสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ ตอบที่มีไปเรื่องจ้างมิสเตอคเนลินนั้น โปรดแล้ว แต่ให้ไล่คนอื่นเอาเงินมาจ้างอย่าให้ชักเงินหลวงนั้น ตกลงไล่จีนล่ามคนหนึ่งเงินเดือนและค่าที่อยู่ ๑๐๐ บาท ฝรั่งคนหนึ่งเงินเดือนและค่ารถ ๘๐ บาท พอจ้างคเนดิน เรื่องเงินพระยาอัษฎงค์นั้น เมื่อสอบสวนว่าเป็นเงินสกูล์แล้วท่านจะขอตั๋วยืมใช้ และส่งริโปดไดเรกเตอเยเนอราลโทรเลขเมืองญี่ปุ่นว่าด้วยการโทรเลขเจริญและส่งหนังสือเบจีชี้แจงผลประโยชน์โทรเลข

หนังสือมองป๊อกยื่นพระยาเทพว่าด้วยป่าไม้เมืองยมที่ยอมตกลงกับจ่าตกานุเพราะเห็นแก่พระเจ้าเชียงใหม่ บัดนี้จะขอทำป่าไม้เมืองยมอีก ๓ ปี พระเจ้าเชียงใหม่ยังไม่โปรด ทำอย่างไรจึงจะได้ทำ

หนังสือพระยาอนุรักษ์ขอพระราชทานโทษ ทรงเซ็นว่ายังไม่พอไม่ให้ออก

พระครูพิรามถวายเรื่องราวขอนายจุ๊บุตรเป็นลูกขุนโปรดให้กรมหมื่นพิชิตไล่เลียงความรู้

สมเด็จกรมหลวงพระองค์น้อยถวายหนังสือว่าด้วยนิวแมนขึ้นมาปรึกษาชี้แจงด้วยการสัญญาโทรเลขกับกำปนี ได้ถามถึงราคาพิกัดเรียกเงินของกำปนี นิวแบนขอให้มีหนังสือไปถึงเขา ๆ จะถามไปยังกำปนีอีกครั้งหนึ่ง และขอรับพระราชทานทราบกระแสพระราชดำริอีกครั้งหนึ่ง มีพระราชหัตถ์ตอบไปว่า ทรงเห็นว่าการที่คิดกันไว้เป็นการดีอยู่แล้ว ให้พูดไปตามทางที่คิดไว้แต่เดิมเถิด

วัน ๖ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมง เสด็จออกห้องซิตติงรูม พระอินทรเดชเฝ้าทูลเรื่องความพระยานครนายกที่ค้างอยู่และได้ทราบว่าโจทก์ถวายฎีกา พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการต่างๆ กรมหมื่นศิริธัชเฝ้าทรงฎีกาของราษฎร ๑ ฉะบับ เสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่ม เสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระพรหมบริรักษ์ว่าด้วยไปถึงเมืองชัยนาทพร้อมกับกรมการถือน้ำพระพิพัฒน์ แล้วไปต่อไปอีกถึงนครสวรรค์ พระพลจัดเรือถ่อขึ้นไปส่ง บอกพระยานุภาพไตรภพ ๓ ฉะบับๆ หนึ่งทำการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ ๑ ว่าเมื่อวัน ๙ ค่ำ กลางคืนได้ยินเสียงปืน ๑๑ ๑๒ นัด วัน ๙ ค่ำ ได้ยินเสียงปืน ๔๐ ๕๐ นัด ได้สืบก็ไม่ได้ความ จึงให้ไปสืบที่เมืองพนมเป็ญ ได้ความว่า เคาวเนอเมืองไซ่ง่อนให้ฝรั่งเศสมาเก็บเงินประจำปีแก่นโรดม ๓๐ หมื่นเหรียญ และให้ยืมไปใช้ในการทัพที่ฝรั่งเศสรบญวน ๖ แสนเหรียญ นโรดมกับฝรั่งเศสสลูตรับกัน อีกฉะบับหนึ่งว่าด้วยโปรดให้รับเงินที่ช่วยการโทรเลขไว้เป็นเงินส่วยแทนนั้นขอบพระเดชพระคุณ และว่าถ้าจะทำโทรเลขทางเมืองศรีโสภณเมื่อใดจะเกณฑ์เสาหรือไม่ขอให้ทราบ โปรดให้ตอบเล่าเรื่องภูเขาไฟถล่มและเรื่องโทรเลขนั้นยังไม่ได้ทำ บอกพระยาพิสุทธิธรรมธาดาเมืองลพบุรีว่าด้วยซ่อมแซมพระนารายน์ราชวังและจัดการรับรองที่จะเสด็จพระราชดำเนิน

พระนรินทร์อ่านบอกเมืองราชบุรีรายงานน้ำฝนต้นข้าวแล้วพระราชทานตราตั้งกรมหมื่นพิชิตเป็นสภานายกหอสมุดวชิรญาณ พระองค์ชุมพลเป็นเลขาธิการ พระองค์เจ้าเกษมศรี ๑ กรมหมื่นศิริธัช ๑ พระองค์ไชยา ๑ พระองค์ไชยันต์ ๑ เป็นกรรมสัมปาทิก แล้วพระราชทานตราทิพยากรณ์หลวงวิชิตภักดี ผู้ช่วยเมืองพระตะบอง ๑ เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศรับสั่งกรมหมื่นเทวะวงษ์ครู่ ๑ เสด็จไปประทับห้องซิตติงรูมทรงหนังสือราชการ เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

หนังสือโตภรรยาพระยานครราชสีมาว่าพระยานครราชสีมาให้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต ว่าถ้ามีราชการจะขอบอกไปรเวตเข้ามาถวายทีเดียว ทรงเซ็นว่าถ้าเป็นราชการต้องวางเวรตามธรรมเนียม จะืรงตอบเองไม่ได้ ราชการมาก ถ้าเป็นความลับมีไปรเวตได้ไม่ห้าม

หนังสือสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ตอบ เรื่องขอตั๋วเงินบาญชีแตกนั้นยังสอบอยู่แล้วจะส่งมา เรื่องนาฬิกาใหญ่นั้นเดิมท่านสั่งเป็นของท่าน แต่เวลานี้กระสับกระส่ายอยู่ จึงขอขายกรมไปรษณีย์และโทรเลข ไม่ได้มาสำหรับกรมก่อนพระบรมราชานุญาตดอก และส่งหนังสือพระองค์เจ้าปฤษฎางค์อีกฉะบับ ๑ ว่าด้วยรับคำสั่งให้ประชุมปรึกษาตั้งกฎหมายพิกัดค่าบอกคำโทรเลขและมีความยินดีที่เปิดทางใช้โทรเลข และว่ามิสเตอรเป็นเตออิสเตอนเอกษเตชันกำปนีเตลิคราฟ มาหาพูดตามเมโมเรนดำซึ่งมิสเตอเวอนีจดไว้ และเตือนว่าจะให้ตกลงที่ลอนดอนหรือจะให้ส่งมากรุงเทพ ฯ และว่าพระยาสยามจะจ้างอินสเปกเตอคนอังกฤษไว้สำหรับเข้ามาทำโทรเลข

หนังสือสมเด็จกรมพระว่าด้วยจะยกเศวตฉัตรพระศรีสากยมุนีวัดสุทัศน์ การสวดมนต์นั้นจะโปรดให้เป็นการหลวงหรืออย่างไร และว่าพระแท่นที่ทำถวายนั้นจะโปรดให้ตั้งวันใด วันดีมี ๒ วัน คือ วัน ฯ๙ ๑๑ ค่ำเท่านั้น และว่าพระยาศรียังไม่ได้เครื่องยศ โต๊ะกาทองคำมีอยู่แล้ว

สมเด็จกรมพระส่งเรื่องราวจีนคีเจ้าภาษีน้ำมันมะพร้าวน้ำมันปลา ขอคืนภาษีว่าผลมะพร้าวแพงไม่มีใครทำน้ำมัน ไม่มีที่เรียกภาษี จะซื้อมะพร้าวเมืองนครศรีธรรมราช เมืองไชยามาทำน้ำมัน เจ้าเมืองกรมการก็ขัดเสียห้ามไม่ให้ราษฎรขาย

มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์ ว่าสมเด็จกรมพระส่งเรื่องราวเจ้าภาษีน้ำมันมะพร้าวน้ำมันปลาว่ามะพร้าวแพงไปขอซื้อตามเมืองนคร เมืองไชยา เกาะสมุย เกาะพงัน เจ้าเมืองห้ามไม่ให้ราษฎรขาย ทรงเห็นว่าเป็นการซื้อขายธรรมดา ให้มีตราบังคับให้ยอมให้ราษฎรขายให้แก่เจ้าภาษีตามราคา

มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระว่า พระนมของทูลกระหม่อมชายมหาวชิรุณหิศเป็นเมียปลัดเมืองเพ็ชรบูรณ์มาทูลว่า พระปลัดเมืองเพ็ชรบูรณ์มาเปนความอยู่ ครั้งนี้พระยาเพ็ชรบูรณ์จะขึ้นไปทัพ ปลัดจะต้องรักษาเมือง ความที่เป็นอยู่นั้นเป็นอย่างไรบ้างขอให้ทรงบังคับไปเสียให้แล้ว

อีกฉะบับ ๑ ว่าพระองค์ดิศขอหลวงศรสำแดงฤทธิ์ไปในการทำแผนที่ด้วยเดิมถูกเกณฑ์เข้ากองทัพพระยาราช ให้ถอนมาไว้กองแผนที่

เจ้าพระยาภาณุวงษ์ถวายหนังสือว่าปีนี้หาคนพายเรือตามเสด็จกฐินไม่ทัน ได้เที่ยวหาก็ไม่ได้ จะขอไปรับวัด มีพระราชหัตถ์ตอบไปว่าให้ขอคนทหารปืนปากน้ำที่พระองค์สายไปพาย

มีพระราชหัตถ์สั่งพระองค์สายให้จ่ายคนให้เจ้าพระยาภาณุวงษ์ไปพายเรือด้วย

วัน ๗ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกห้องซิตติงรูม พระยารัตนโกษาเฝ้าถวายแหวนเพ็ชรซึ่งโปรดให้ทำ แล้วพระยานรรัตนเฝ้าถวายหีบทองคำ ๒ ใบ พระองค์สวัสดิเฝ้าทรงหนังสือราชการต่าง ๆ พระยามหามนตรีเฝ้าถวายบาญชีเรือพระที่นั่งที่จะเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพระกฐินแล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระนรินทร์อ่านบอกพระบริสุทธิ์โลหภูมินทร์เมืองตะกั่วทุ่ง ว่าได้ส่งเงินภาษี ๕ อย่างให้พระวิชิตภักดีศรีสุรสงครามปลัดเมืองตะกั่วป่าส่งเข้ามา และจัดได้ผ้าขาว ๑๐๐ พับ ผ้าพื้น ๑๐๐ ผืนเข้ามาถวาย

พระราชทานสัญญาบัตรนายทวนบุตรเจ้าพระยาสุรวงษ์ เป็นหลวงจักรยานานุพิจารณ์ ๑ ขุนธรณีบาลเป็นหลวงกำจัดโสณทุจจริต ๑ เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศครู่ ๑ เสด็จขึ้นไปประทับบนมุขกระสันด้านตะวันออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงเครื่องใหญ่ ๕ ทุ่มเสด็จขึ้นข้างใน

ขรัวชริบอาลีถวายหนังสือพระยาสายมีมาถึงขรัวว่าอยากจะเข้ามาเฝ้า โปรดให้บอกเจ้าพระยาสงขลาและเจ้าพระยาสุรวงษ์ตามทางราชการ

หนังสือสมเด็จกรมหลวงถึงพระองค์สวัสดิ์เตือนหนังสือที่ถวายเข้ามาหลายฉะบับยังหาทราบพระกระแสไม่ กับว่ามองซิเออเบตเทอเลียนหนังสือว่าฝรั่งในโทรเลขเจ็บ ตามหมอกาวันไม่ได้ตัว ได้ไปหาหมอดอยเซอมารักษา เงินค่าหมอใครจะเป็นผู้เสีย จะโปรดเกล้า ฯ ประการใด จะได้ตั้งเป็นแบบอย่างสืบไป โปรดให้ตอบเรื่องหมอว่า ถ้าเรียกหมอกาวันไม่ได้ ก็ควรจะทูลท่าน ถ้าไม่ทูล ไปหาหมอได้เองดังนี้ได้ร่ำไป จะคลาดจากสัญญาเสียหมด

พระองค์ขจรถวายขัดข้องเรื่องภาษีเรือ ว่าจำตรวนจีนโม่งเหมงไว้เร่งเงินค่าปรับให้ราษฎรก็นิ่งเฉยเสียร้องว่าไม่มีและไม่ส่งตัวหลงจู๊ตำบลวัดไซรตำบลฉะเชิงเทรามาชำระ ร้องว่าหนีขัดข้อง

เจ้าอุทัยถวายหนังสือขอรื้อเรือนที่วังเก่า ไปปลุกที่บ้านนายอิ่มไชยบูรณที่พระราชทาน โปรดทระราชทานพระบรมราชานุญาต

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมหลวง เรื่องที่จะบอกเมืองเปินคงต้องบอก สายที่ข้ามน้ำสองแห่งยังไม่แล้วจะบอกไปว่าแล้วไม่ได่หรือ แต่อังกฤษยังไม่แล้วเลย เขายังบอกว่าแล้ว เรื่องกลัวอังกฤษจะแกล้งให้แล้วในสองสามวันนัน ถ้าริโปตเบตเทอเลียที่ว่าคนมีพอใช้สองสายนั้น ถ้าเป็นการจริงก็น่าเสียดายนักที่ต้องเรียกคนเข้ามาให้เปลือง ข้อซึ่งกลัวว่าจะเอาคนในบังคับอังกฤษไปใช้สายฝรั่งเศสๆมาใช้สายอังกฤษจะเกิดความ จึงต้องแยกเป็นสองฝ่ายนั้นเปลืองนัก อนึ่งถ้าจะต้องบอกข่าวอินเตอเนชัลนัล ในสายของเราเองจะต้องแบ่งเป็นอังกฤษและฝรั่งเศสคนละสายป่วยการมาก แต่ที่จะให้ไปต่อที่โรงภาษีนั้นไม่ควร ทั้งมีผู้พูดว่ากงสุลฝรั่งเศสลักบอกได้ไม่เสียเงินต้องตรวจดู ที่จะเรียกคนนั้นก็โปรดให้เรียก แต่ต้องพิจารณาควรเรียกมากน้อยเท่าไร แต่การเรียกคนคงต้องเรียกทางหนังสือ การทั้งปวงนี้ให้คิดดูให้ดี

อีกฉะบับ ๑ ว่าด้วยเรื่องริโปตเมืองญี่ปุ่นนั้นขอให้อ่านดูแล้วเทียบกับของเราจะผิดกันอย่างไรบ้าง เมมโมเรนดำเบจีเบื้องต้นชี้แจงประโยชน์พอฟังได้ แต่ท้ายนั้นไม่เห็นจะเป็นได้เลย

วัน ๑ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จลสกราชี ๑๒๔๕

เวลาเที่ยงเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงรถพระที่นั่งเทียม ๔ ม้าพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระเจ้าลูกเธอ มีทหารและตำรวจขี่ม้านำเสด็จ ทหารม้ามหาดเล็กตามเสด็จแต่พระบรมมหาราชวังเสด็จประทับวัดบวรนิเวศที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายกวดทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ทรงจุดเทียนนมัสการแล้วทรงถวายกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอปโลกสมมติถวายกรมพระปวเรศ แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบแล้ว เสด็จทรงประเคนผ้าไตรปีเจ้าพระราชาคณะถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าเสร็จแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงประทับรถพระที่นั่งไปวัดมหรรณพารามที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายเล่ห์อาวุธทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ทรงนมัสการและถวายกฐินพระสงฆ์รับแล้วอปโลกสมมติให้พระพินิจวินัย แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนผ้าไตรปีถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้วพระสงฆ์กราลกฐินแล้ว โปรดให้หม่อมเจ้าพรประสิทธิ์ถวายของบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับทรงรถพระที่นั่ง เสด็จประทับวัดบุรณศิริที่ ๓ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงมนัสการและถวายกฐินพระสงฆ์อปโลกให้พระวินัยรักขิตแล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีหม่อมเจ้าพระดำเกิงถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้า แล้วโปรดให้กรมหมื่นภูธเรศรถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับทรงรถพระที่นั่งเสด็จประทับวัดมหาธาตุที่ ๔ เสด็จพระราชดำเนิน ประทับพระอุโบสถ นายพิจิตรทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ทรงนมัสการและถวายพระกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้พระคุณาจาริยวัต แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีพระราชาคณะถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้กรมหลวงวรศักดาถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงรถพระที่นั่งกลับพระบรมมหาราชวัง เวลาบ่าย ๓ โมง

อนึ่ง วัดบุรณศิรินั้นยังมิได้ออกชื่อผู้ทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา คือนายพลพัน

วันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์อย่างทหารมหาดเล็ก ทรงเครื่องราชอิสสริยยศมหาจักรีบรมราชวงศ์และดวงสตาอื่น ๆ พระบรมวงศานุวงศ์ทรงฉลองพระองค์สำหรับราชตระกูล ทรงเครื่องราชอิสสริยยศตามที่ทรงได้รับพระราชทาน ข้าราชการสวมเสื้ออย่างข้าราชการพลเรือน และทหารตำรวจก็แต่งเต็มยศของกรมนั้น ๆ ประดับตราเครื่องราชอิสสริยยศตามที่ได้รับพระราชทาน

สมเด็จกรมหลวงถวายหนังสือ ๓ ฉะบับๆ หนึ่งตอบพระราชหัตถ์เรื่องตรวจริโปดโทรเลขเมืองญี่ปุ่นเห็นการผิดกันกับเมืองไทย เพราะคนญี่ปุ่นเป็นคนเล่าเรียนรู้มาก ฉะบับ ๑ ว่าด้วยเรื่องจะตอบเมืองเบิน จะคิดร่างหนังสือมีไป เรื่องจ้างคนอังกฤษมาทำการโทรเลขนั้น จะเรียกแต่คนที่พระยาสยามได้จ้างไว้แต่ก่อนนอกนั้นจะคิดผ่อนผัน เรื่องกงสุลฝรั่งเศสลักบอกโทรเลขเป็นการยากที่จะสอบสวน ฉะบับ ๑ ว่าด้วยการเอกษหิบิเชนได้เรียกบาญชีที่นายด้านก็ไม่สำเร็จ ขอให้มีกอมมิตตีชำระเงินกับจดหมายเหตุในการเอกษหิบิเชน เดิมกรมหมื่นนเรศรเป็นผู้จะทำ บัดนี้กรมหมื่นนเรศรก็ไม่อยู่ ขอให้มีกอมมิตตีด้วย

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ฉะบับ ๑ ให้คัดสำเนาหนังสือราชการต่าง ๆ ในกรมท่าที่เกี่ยวข้องกับกงสุลต่างประเทศ ส่งไปให้ราชทูตทั้งสองแห่งให้ทราบไว้ด้วย

วัน ๒ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเที่ยงเศษเสด็จพระราชดำเนินทางพระที่นั่งจักรี เสด็จทรงพระราชยานพร้อมด้วยกระบวนนำกระบวนตามเสด็จเป็นกระบวนราบ แต่พระบรมมหาราชวัง ประทับวัดราชประดิษฐ์ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการแล้วทรงถวายกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอปโลกถวายสมเด็จพระพุทธโฆษาจาริย์แล้วสวดญัตติทุติยกรรม จบแล้วเสด็จทรงประเคนไตรปีถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้สมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงษ์ถวายของบริขารแล้ว พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา วัดนี้นายกวดทูลรายงานเหมือนกัน

เสด็จพระราชดำเนินจากวัดที่ ๑ ไปออกประตูพระนคร ประทับวัดจักรวรรดิที่ ๒ ทรงจุดเทียนนมัสการทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้พระวรญาณมุนีแล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบแล้ว เสด็จทรงประเคนไตรปีพระราชาคณะ ถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้กรมหมื่นพิชิตถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา วัดนี้นายเล่ห์ อาวุธทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา เสด็จทอดพระเนตรวิหารพระบางเก่าด้วย

เสด็จพระราชดำเนินจากวัดที่ ๒ ไปประทับวัดสัมพันธวงษ์เป็นที่ ๓ เสด็จประทับพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้พระสมุห์แลสวดญัตติทุติยกรรมจบแล้ว เสด็จทรงประเคนไตรปีถานา พระสงฆ์ครองผ้าเสร็จแล้ว โปรดให้กรมหมื่นพรหมถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จออกมานอกพระอุโบสถพระราชทานไตรพระกฐินให้กรมหลวงวรศักดาไปทอดวัดประทุมคงคาที่ ๔ ด้วยเวลาบ่ายแล้ว เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง วัดที่ ๓ นี้นายพลพันทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา

วันนี้ทรงฉลองพระองค์อย่างทหารหน้าทรงเครื่องราชอิสสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าและทรงดวงพระดาราอื่น ๆ อีก พระบรมวงศานุวงศ์ทรงฉลองพระองค์เยียรบับ ข้าราชการฝ่ายพลเรือนสวมเสื้อเยียรบับเข้มขาบ ฝ่ายทหารตำรวจสวมเสื้อเต็มยศของกรมนั้นๆ ประดับเครื่องราชอิสสริยยศทั้งเจ้านายข้าราชการตามที่ได้รับพระราชทาน เวลาค่ำโปรดให้หมอกาแวนไปดูพระอริยมุนีวัดเทพศิรินทร์เป็นอหิวาตกโรค กลับมาถวายริโปดว่าอาการมากเห็นจะไม่หาย เวลา ๑๑ ทุ่ม พระอริยมุนีถึงแก่มรณภาพ

มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระว่าด้วยพระองค์ขจรถวายขัดข้องเรื่องภาษีเรือ ความเรื่องนี้แต่ก่อนมาถ้าชำระได้ตัวว่าเจ้าภาษีเก็บผิดพิกัดก็เคยเฆี่ยน ครั้งนี้ทรงพระกรุณาอยู่จึงมิได้ลงพระราชอาญาเป็นแต่ให้เสียเงินค่าปรับ ก็หาส่งเงินค่าปรับไม่ อนึ่งเลิกด่านเก็บภาษีผิดพิกัดก็รับว่าจะให้เลิก ครั้นราษฎรมาร้องบังคับให้ส่งหลงจู๊ที่มีเชิงสู้ก็ส่งมา ที่ไม่มีเชิงสู้ก็จำหน่ายว่าหนี เมื่อไม่ได้ตัวหลงจู๊มาก็ต้องฟังเอาตั๋วฎีกาที่ราษฎรมาร้อง เจ้าภาษีไม่ทำตามบังคับต้องมีโทษ อนึ่งทรงรับเรื่องราวอีกฉะบับ ๑ ว่าเจ้าภาษียังเก็บเงินผิดพิกัดอยู่จนวัน ๑๑ ค่ำ ทรงเห็นว่าจะให้ทำต่อไปไม่ได้ ให้เฆี่ยนจีนโม่งเหมงเจ้าภาษี ๕๐ ที แล้วจำเร่งเงินให้แก่ราษฎร ส่วนภาษีเรือนั้นให้ออกประกาศให้คนทำภาษีใหม่

พระสัจจาถวายริโปดเรื่องความผู้ร้ายที่ติดตามคนในเมืองเพ็ชรบุรีกับราชบุรี มีพระราชหัตถ์ไปถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์ว่าการเรื่องนี้ได้มีพระราชหัตถ์สั่งไปแต่ก่อนแล้ว ให้เรียกความมาชำระในกรุงเทพ ฯ ทรงเห็นว่าในกรุงจะเอาตัวผู้ร้ายบังคับไปก็คงได้

สมเด็จกรมพระถวายหนังสือนำหนังสือกงสุลอังกฤษมีมาถึงกรมท่า เรื่องสั่งคำตัดสินความมองโอลงไปนั้นยังไม่เห็นชอบด้วยในคำตัดสินนั้น

วัน ๓ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จออกห้องซิตติงรูม พระองค์ขจรเฝ้าถวายพระที่นั่งโทรนและโต๊ะวางข้างและราวพระแสงสำหรับเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ เจ้าบงกชถวายเรื่องราวกล่าวโทษบ่าวพระศรีเสนา ว่าแทงเอานายจันบ่าว โปรดให้กรมภูธเรศชำระ แล้วเสด็จประทับห้องดรออิงรูม อาลบาสเตอรนำมิสเตอรเฟพี่ภรรยาเฝ้าถวายบังคมลากลับไปเมืองอังกฤษ แล้วสมเด็จกรมพระเฝ้าลองพระเครื่องต้น ซึ่งจะทรงพรุ่งนี้ เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้น เวลาค่ำไม่เสด็จออก

ที่วัดสุทัศน์สวดมนต์ที่วิหารพระศรีสากยมุนี ด้วยพรุ่งนี้จะยกเศวตฉัตรกั้นพระศรีสากยมุนี

หม่อมเจ้าบงกชกถวายเรื่องราวฉะบับ ๑ ว่าอ้ายพันบ่าวพระศรีเสนาแทงบ่าวเจ้าบงกชที่หน้าบ้าน ทรงเซ็นให้กรมหมื่นภูธเรศชำระ

เจ้าพระยาภาณุวงษ์มีหนังสือถวายพระองค์สวัสดิ์เรื่องกงสุลสยามเมืองบอมเบ ว่าเดิมมิสเตอรซาเลฟอบมีหนังสือมาว่ามิสเตอรลีศกงสุลเดิมกลับไปลอนดอน ได้มอบการให้ตัวเป็นผู้ว่าการ กับว่าตราตั้งมิสเตอรลีศที่ส่งไปนั้นได้รับแล้ว จะส่งไปให้มิสเตอรลีศที่ลอนดอน แล้วพระยาสยามธุรพาหะมีหนังสือมาว่าฟอเรนออฟฟิศที่ลอนดอน ขอให้มิสเตอรลีศแสดงตราตั้ง ได้มีหนังสือเตือนไปที่มิสเตอรชาเลฟอบให้ส่งตราตั้งไปให้มิสเตอรลีศแล้วก็หาได้ข่าวต่อไปอีกไม่ มิสเตอรลีศก็ไม่ได้ลาออก การที่ให้มิสเตอรชาเลฟอบเป็นผู้ว่าการกงสุลนั้นก็หามีตราตั้งไม่ เป็นแต่มีหนังสืออนุญาตไป

โปรดให้พระองค์สวัสดิ์ตอบไปยังกรมท่า ว่าการเรื่องนี้ให้ไต่สวนดูให้ตลอด เมื่อได้ความชัดว่ามิสเตอรลีศจะไม่เป็นกงสุลต่อไปก็ได้ จะโปรดตั้งมิสเตอรชาเลฟอบเป็นกงสุลต่อไปก็ได้ มีกงสุลดีกว่าไม่มี

มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมหลวงพระองค์น้อยเรื่องเอกษหิบิเชนนั้น การชำระบัญชีให้พระยามหาเทพพระยาพิพิธเป็นผู้ชำระ เรื่องจดหมายเหตุทรงเห็นว่าพระยาภาษพระยาศรีสุนทรพอจะทำได้ กับให้ท่านช่วยตรวจตรา มีพระราชหัตถ์สั่งพระยามหาเทพพระยาพิพิธด้วย

วัน ๔ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้าวันนี้เลี้ยงพระ ๑๐ รูปที่วัดสุทัศน์เทพวรารามในวิหารพระศรีสากยมุนี

เวลาเช้า ๕ โมงเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับห้องพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท กรมภูษามาลาเฝ้าถวายเครื่องต้น ทรงแต่งพระองค์ทรงเครื่องต้นและทรงพระมหากฐินองค์ใหญ่ทรงพระแสงขรรค์ เสด็จขึ้นเกยที่บรรไดพระที่นั่งจักรี เสด็จประทับพระที่นั่งพุดตาล ขณะนั้นเจ้าพนักงานประโคมสังข์แตรมะโหระทึกกลองชะนะ จมื่นจงซ้ายตีกรับ ตำรวจและมหาดเล็ก ซึ่งแห่สี่สายและคู่เคียงคู่แห่ถวายคำนับ ๓ ครั้ง แล้วเลื่อนพระที่นั่งพุดตาล เดินกระบวนเป็นสี่สาย อย่างพยุหยาตราเช่นเคยมีมาแต่ก่อน เสด็จออกจากพระบรมมหาราชวังไปตามถนนเวลาเที่ยงเศษ เสด็จถึงวัดพระเชตุพนเป็นที่ ๑ เสด็จประทับเกยเสด็จเข้าไปเปลื้องเครื่องที่ศาลา ทรงฉลองพระองค์เยียรบับขาว พระภูษาเยียรบับแดง ด้วยวันนี้เป็นวันพระทรงเครื่องราชอิสสริยยศสายช้างเผือกและดวงตราอื่น ๆ มีนายรองเชิญพระแสง ๔ คน หุ้มแพรเชิญพระแสงขรรค์อีกคนหนึ่งเสด็จประทับในพระอุโบสถ นายฉันทูลรายงานพระสงฆ์ทรงนมัสการแล้วถวายกฐิน พระสงฆ์อัปโลกให้พระพิมลธรรมแล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงทอดไตรพระราชาคณะและถานาพระอัฐิกรมสมเด็จพระปรมา สดัปกรณ์พระอัฐิกรมสมเด็จพระปรมาแล้ว ทรงประเคนไตรปีพระราชาคณะถานาเปรียญอื่น ๆ ต่อไป ครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้กรมขุนภวไนยถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จออกประทับศาลา ทรงเครื่องต้นเหมือนเมื่อเสด็จจากพระบรมมหาราชวัง เสด็จขึ้นเกยทรงพระที่นั่งพุดตาล พนักงานประโคมเหมือนเมื่อออกจากพระบรมมหาราชวัง เดินกระบวนไปประทับวัดราชบุรณเป็นที่ ๒ เสด็จขึ้นหลับพลาเปลื้องเครื่อง ทรงเครื่องอย่างวัดที่หนึ่งประทับในพระอุโบสถ นายสนิททูลรายงานวัด ทรงนมัสการแล้วถวายกฐิน พระสงฆ์อัปโลกให้พระโพธิวงศ์แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีพระราชาคณะถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้กรมหมื่นศิริธัชถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับประทับพลับพลา ทรงฉลองพระองค์ครุย ทรงพระชฎาเดินหนเสด็จขึ้นเกย ทรงพระที่นั่งพุดตาลเดินกระบวนกลับ ขึ้นมาประทับวัดราชบพิธที่ ๓ ประทับพลับพลาทรงเปลื้องฉลองพระองค์และพระมหาชฎาเสด็จประทับพระอุโบสถ นายไชยขรรค์ทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงมนัสการแล้วถวายกฐิน พระสงฆ์อัปโลกถวายเจ้าพระอรุณนิภาคุณากรแล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีเจ้าพระเปรียญถานา พระสงฆ์ครองผ้าแล้วโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับประทับพลับพลาเสวยเครื่องว่าง แล้วทรงฉลองพระองค์ครุยทรงพระชฎาพระกลีบเสด็จประทับพระที่นั่งพุดตาล เดินกระบวนไปประทับวัดสุทัศน์เป็นที่ ๔ ประทับพลับพลา เปลื้องฉลองพระองค์ครุยและพระมหาชฎาพระกลีบ เสด็จประทับในวิหารทรงนมัสการ ครั้นได้มงคลฤกษ์ทรงชักสายรอกยกเศวตฉัตรขึ้นกั้นพระศรีสากยมุนี ขณะนั้นพระธรรมวโรดม พระราชาคณะ ถานาเปรียญ ๑๐ รูปถวายไชยมงคล เจ้าพนักงานประโคมพิณพาทย์แตรสังข์ครั้นเสด็จแล้วทรงประเคนไทยธรรมพระสงฆ์ แล้วเสด็จไปประทับพระอุโบสถ ทรงนมัสการ นายพิไนยทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้ พระธรรมวโรดม สวดญัตติทุติยกรรมจบแล้ว เสด็จทรงประเคนไตรปีพระราชา คณะถานาเปรียญ พระสงฆ์ ครองผ้าแล้วโปรดให้กรมขุนบดินทรถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับประทับพลับพลา ทรงเครื่องต้น ทรงพระมหาพิไชยมงกุฎ เสด็จทรงพระที่นั่งพุดตาล ตั้งกระบวนแห่กลับเข้าพระบรมมหาราชวัง เวลาเกือบค่ำ ด้วยกระบวนพยุหยาตราคราวนี้มากกว่าทุกคราวมา ทหารซึ่งแห่นั้นมากนัก แต่ทหารหน้าและกรมแสงนั้นก็กว่าพัน ยังทหารอาสาต่าง ๆ ก็มากกว่ามากเหลือทีจะพรรณา

พระบรมวงศานุวงศ์วันนี้ทรงฉลององค์เยียรบับขาวผ้าทรงเยียรบับแดงทรงเครื่องราชอิสสริยยศต่าง ๆ กันตามที่ทรงรับ ข้าราชการฝ่ายพลเรือนสวมเสื้อเยียรบับ ที่มีได้เข้ากระบวนนุ่งม่วง ที่เข้ากระบวนนุ่งเยียรบับหรือถมปักลายประดับตราตามที่ได้รับ

มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงษ์ ส่งร่างให้ตอบกงสุลฝรั่งเศสเรื่องราคาค่าคำโทรเลขในระหว่างกรุงสยามกับเมืองญวนฝรั่งเศส ว่าจะมีคำสั่งถึงราชทูตให้รับทำสัญญาพิกัดค่าคำโทรเลขคำละ ๑๐ อัฐ ในครั้งหนึ่งคราวหนึ่ง

วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่ายโมงเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานเสด็จลงท่าราชวรดิษฐ ทรงแต่งพระองค์ทรงเครื่องต้นทรงพระมหากฐินองค์ใหญ่ ฉายพระรูปที่ท่าราชวรดิษฐ แล้วเสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งประทับบนบุษบกเรืออนันตนาคราช พร้อมด้วยเครื่องสูงต้นไม้ทองเงินบังสูรย์พัดโบกเครื่องสูง ๗ ชั้น ๕ ชั้น ทั้งหน้าและท้าย หัวหมื่นมหาดเล็กเชิญพระแสง ๔ คน ในเรือนั้นมีราชเอดเดอแกมป์จางวางมหาดเล็กและเจ้าพนักงานอื่นๆ เต็มที่ พลพายสวมเสื้อแดงกางเกงดำพายทองเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ทรงผ้าไตร พระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์เป็นเรือพลับพลา เรือพระที่นั่งเพชรรัตนดารารายเป็นที่นั่งรอง เสด็จจากท่าราชวรดิษฐเป็นกระบวนพยุหยาตราเรือคู่ชักเป็นเรือไชยมีกลองชะนะอยู่ในเรือ เรือดั้งเป็นเรือรูปสัตว์บ้างเรือดั้งกันยาบ้าง พร้อมด้วยเรือนำและเรือตามคือตำรวจและทหาร เสด็จประทับวัดอรุณราชวรารามที่ ๑ เปลื้องเครื่องแล้วทรงฉลองพระองค์เยียรบับ พระภูษาเยียรบับ ทรงสะพายสายเครื่องราชอิสสริยยศมงกุฎสยามและดวงตราอื่น ๆ ทรงพระราชยานไปประทับแล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ นายกวดทูลวัด ทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้พระสากยบุตและสวดญัตติจบ ทรงประเคนไตรปีพระราชาคณะถานาแล้วพระสงฆ์ครองผ้ากราลกฐิน โปรดให้สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิประเคนบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับประทับเรือพลับพลาทรงฉลองพระองค์ครุยทรงพระมหาพิไชยมงกุฎ เสด็จประทับเรืออนันตนาคราช เสด็จไปประทับวัดโมฬีโลกยารามเป็นที่ ๒ ทรงเปลื้องเครื่อง แล้วเสด็จประทับพระอุโบสถ นายเล่ห์อาวุธทูลวัดทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกญัตติทุติยกรรมให้พระเทพมุนี ทรงประเคนไตรปีถานาครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้กรมหมื่นเทวะวงศ์ถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับประทับเรือพลับพลาทรงเครื่องดังเก่าเสด็จไปประทับวัดหงษารามที่ ๓ เปลื้องเครื่องแล้ว ประทับในพระอุโบสถ ทรงถวายกฐิน พระประสิทธิศีลคุณครอง กรมหมื่นบริรักษ์ถวายบริขาร เสด็จออกมาประทับหน้าพระอุโบสถรับสั่งกับสมเด็จกรมพระว่ากระบวนพยุหยาตรานี้ยังไม่ได้เคยทอดพระเนตรเลย คราวนี้จะทอดพระเนตรให้สั่งเรือกระบวนให้เข้าไปอยู่ข้างในให้หมดแล้วให้พายออกมาเป็นคู่ เสด็จประทับเรือพลับพลา สมเด็จกรมพระไปจัดเสร็จแล้ว ให้เดินกระบวนออกมาถวายตัว ถือเรือประตูหน้าพระนรินทร์พระยาศรี เรือโบดทหารหน้าพาย ๔ ลำ เรือกันยาเมเยอทหารหน้า ๑ ลำ เรือแหวดทหารปืนใหญ่ ๔ ลำ เรือกันยาพระอมร ๑ หลวงสรวิเสศ ๑ เรือกรรเชียงกองมอญ ๖ ลำ เรือราชามาตยนำ ๑ ลำ เรือพระอนุรักษ์นำกลองนอก ๑ ลำ เรือเสือทยานปืนปากน้ำ ๒ ลำ เรือดั้งกันยา ๖ คู่ เรือกระบี่รานรอนราบ กระบี่ปราบเมืองมาร ดั้ง ๑ คู่ เรืออสุรปักษา อสุรวายุพักตร์ ดั้ง ๑ คู่ เรือดั้งเหล่านี้ทหารหน้าลง แล้วเรือพาลีล้างทวีปสุครีพครองเมือง ดั้ง ๑ คู่ กลองชะนะลง เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ทรงผ้าไตร ๑ เรือกันยาพระยารามกำแหงนำกลอง ๑ ลำ เรือไชยคู่ชักกลองชะนะ ๑ คู่ แล้วพระราชทานผ้าไตรกฐินให้สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิไปทอดวัดราชสิทธิ์ที่ ๔ เสด็จประทับเรืออนันตนาคราชทรงฉลองพระองค์ครุยทรงพระมหากฐินใหญ่กลับพระบรมมหาราชวัง กระบวนหลังนั้นมีเรือตำรวจทหารมหาดเล็กเรือกันยามากกว่ามาก เรือประตูหลัง พระภิรมยราชา หลวงอำนาจสุรเสนี

อนึ่ง วันนี้พระบรมวงศานุวงศ์ทรงฉลองพระองค์ผ้าทรงเยียรบับทรงเรือกราบตามเสด็จพระราชดำเนิน ข้าราชการแต่งตัวเหมือนวานนี้

หนังสือเจ้าพระยาสุรวงษ์นำหนังสือบอกพระยาพิไชยสงคราม พระยาสมบัติภิรมย์ ๒ ฉะบับ

บอกพระยาพิไชยสงครามพระยาสมบัติภิรมย์ ว่าด้วยพบกับเซอยุโลและบอกระยะทางที่ไปตรวจเขตต์แดนทางเมืองราห์มันเมืองตานีซึ่งเกี่ยวกับเมืองแปรัก อีกฉะบับ ๑ ว่ามิสเตอแมกคาตีลาไปทำแผนที่บ้านประโลมบอกว่าจะไป ๑๕ วันเกินกำหนดแล้วยังไม่กลับ และว่ากลมเกลียวกับเซอยุโลมาก และว่าพระยาราห์มันกลับจากตรวจการเขตต์แดนป่วยเป็นไข้หนัก คนที่ไปด้วยก็เจ็บป่วยล้มตายหลายคน แต่ข้าหลวงไม่เป็นไรและส่งคำบังอุลูการาโอ

คำให้การบังอุลูการาโอว่าด้วยเขตต์แดนเมืองราห์มันเป็นของเมืองตานีไม่ใช่เขตต์ของแปรัก

สมเดจกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ว่ามองซิเออลวมไดเรกเตอเมืองฝรั่งเศสมีหนังสือมาให้ไทยใช้เงินเดือนมองซิเออเบียวค่าตรวจทางสายโทรเลขออกไปไซ่ง่อน ๑๐๓๒ เหรียญ เดิมกงสุลฝรั่งเศสว่าไม่ต้องเสียเงินเดือน เสียแต่ค่ากิน มองซิเออเบียววันละ ๕ เหรียญ เขมรคนหนึ่ง ๖๗ เซนต์ มองซิเออเบียวแกล้งทำช้าไปเงินจึงขึ้น ท่านได้สั่งให้กงสุลสยามใช้แล้ว กับพระยาคธาธรส่งสัญญามองซิเออเปรียนกลับมา ว่ามองซิเออเปรียนไม่ยอมลงชื่อว่าผิดสัญญา การเรื่องนี้ยอมไม่ได้ เพราะว่ามองซิเออเปรียนเกะกะนัก จะมีคำสั่งให้มองซิเออเบตเทอเลียบังคับให้มองซิเออเปรียนทำตามสัญญา ถ้าไม่ทำต้องไล่

สมเด็จกรมพระว่าด้วยพูดกับเจ้าพระยาสุรวงษ์เรื่องเมรุสมเด็จเจ้าพระยา ตกลงไม่ทำเป็นเมรุดอกไม้ รับพระราชทานเบญจาหลวง

หนังสืออาลบาสเตอ ว่าด้วยการโปสตไม่ได้เงินเดือนพอใช้ คนที่ทำการได้เงินเดือนน้อย

วัน ๖ ๑๐ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเที่ยงเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเสด็จลงประทับท่าราชวรดิษฐ เสด็จลงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร เรือพระที่นั่งจักรพรรดิภิรมย์เป็นรอง เรือศรีสุนทรไชยทรงผ้าไตร พร้อมด้วยกระบวนนำมีเรือดั้งและประตูคือคู่ชักเรือกลองเป็นต้น เรือตามนั้น เรือตำรวจ เรือทหารและเรือประตูเป็นต้น เสด็จไปประทับท่าวัดประยูรวงศ์ ทรงพระราชยานพร้อมด้วยตำรวจและทหารนำตามเสด็จพระราชดำเนินประทับวัดประยูรวงศ์ที่ ๑ ประทับในพระอุโบสถ นายกวดทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงนมัสการแล้วถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้พระธรรมภาณพิลาศ แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีถานาเปรียญครอง ผ้า แล้วกราลกฐิน โปรดให้เจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ถวายของบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับทรงเรือพระราชยานไปประทับวัดบุบผารามที่ ๒ ประทับในพระอุโบสถ นายเล่ห์อาวุธทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงนมัสการและถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้พระวิเชียรมุนีแล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีถานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้พระองค์เกษมศรีถวายของบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จกรมพระ พระยาอรรคนีถวายตัวอย่างเมรุสมเด็จเจ้าพระยา รับสั่งให้หาเจ้าพระยาสุรวงษ์เข้าไปเฝ้ารับสั่งเรื่องเมรุนี้ แล้วเสด็จกลับทรงพระราชยานไปประทับวัดพิชัยญาติการามที่ ๓ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายพลพันทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงนมัสการแล้วถวายกฐิน พระอริยกวีครอง โปรดให้เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ถวายของ แล้วเสด็จวัดอนงคารามที่ ๔ นายพิจิตรทูลวัด พระธรรมธราจารย์ครอง โปรดให้พระองค์เกษมศรีถวายของพระ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับลงเรือพระที่นั่งที่ท่าวัดอนงคาราม เสด็จกลับโดยชลมารคประทับท่าราชวรดิษฐกลับพระบรมมหาราชวัง

หนังสือสมเด็จกรมพระว่า ๕ ๑๑ ค่ำ เวลาสองยามเศษ หม่อมเจ้าเนตรวิวาทตีหม่อมราชวงศ์หญิงฉัตรเสียงตึงตังขึ้น ท่านทราบแล้วได้ให้พระยารองเมืองไปดู เห็นหม่อมราชวงศ์ฉัตรนอนเจ็บพูดไม่ได้ กลับมาทูล ได้ให้หมอไปแก้ไม่คลาย หม่อมราชวงศ์หญิงฉัตรตาย ได้จำหม่อมเจ้าเนตรไว้แล้วให้พระองค์จรถามรับว่าตบตีคุณฉัตร ได้ให้กรมหมื่นภูธเรศชำระเป็นคำให้การ

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาสุรวงษ์ ตอบเรื่องที่เกรียนว่าหนังสือเรียบเรียงมานั้นเป็นพอใช้ได้แล้ว แต่อยากทรงทราบว่าที่คลองสลามาคลองมหังนั้นเดี๋ยวนี้ใครเป็นอำเภอดูแล ใครบังคับบัญชา ถ้าจะกะเกณฑ์ยังใช้ได้คล่องแคล่วหรือ และที่ว่าด้วยเขตต์เมืองไทรทิศใต้ถึงลำน้ำกุเรานั้นมีก็อ้างอิงหรือไม่ ให้ชี้แจงให้เราเข้าใจเสีย

อีกฉะบับ ๑ ให้บังคับให้พระยาพิไชยสงคราม พระยาสมบัตภิรมย์ให้ทำริโปดยื่นไว้เป็นเครื่องอ้างอิง

วัน ๗ ๑๑ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๒ โมงเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี เสด็จทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิษฐ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งเพ็ชรรัตนดาราราย เรือพระที่นั่งรัตนดิลกเป็นรอง เรือพระที่นั่งศรีประภัศรไชยทรงผ้าไตร พร้อมด้วยเรือนำเรือตาม เสด็จไปเข้าคลองบางกอกน้อยประทับวัดศรีสุดารามที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายฉันทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อุปโลกให้พระครูธรรมวิจารณ์แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ ทรงประเคนไตรปีถานา พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้พระองค์สวัสดิ์ประวัติถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับออกมาประทับวัดสุวรรณารามที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายสนิททูลรายงานพระสงฆ์ ทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกให้พระศิลาจารย์พิพัฒน์และสวดญัตติทุติยกรรมจบ ทรงประเคนไตรปีถานาเปรียญครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้พระองค์ศรีเสาวภางค์ถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา พระราชทานไตรพระกฐินให้กรมขุนเจริญไปทอดวัดระฆังซึ่งเดิมกำหนดว่าเป็นที่ ๓ ไม่เสด็จ แล้วเสด็จกลับลงเรือพระที่นั่งไปประทับวัดบพิตรพิมุขเป็นที่ ๓ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายไชยขรรค์ทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงถวายกฐิน พงะสงฆ์อปโลกให้พระอมรโมฬีสวดญัตติทุติยกรรมจบ ทรงประเคนไตรปีถานาครองผ้าแล้ว โปรดให้พระองค์จันทรทัตถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแล้ว เสด็จทรงเรือพระที่นั่งกลับพระบรมมหาราชวังเวลาเกือบค่ำ

วันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์อย่างขัตติยตระกูล คือที่เรียกเสื้อเจ้าณกาลนี้ ทรงสะพายเครื่องราชอิสสริยยศอันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และดวงสตาอื่น ๆ เจ้านายทรงฉลองพระองค์อย่างขัตติยตระกูล ทรงเครื่องราชอิสสริยยศตามที่ทรงรับ ข้าราชการสวมเสื้อยศทั้งฝ่ายพลเรือนและตำรวจทหารอย่างวันกฐินวัดบวรนิเวศ

หนังสือสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ ส่งตัวอย่างและเอศติเมตซุ้มนาฬิกาที่ออฟฟิศโทรเลขและไปรษณีย์

หนังสือเจ้าพระยาสุรวงษ์ ว่าด้วยความจีนตันมาบุ๋นกับพระยาภูเก็ตนั้นตระลาการบังคับให้โจทย์จำเลยหาหัวหน้ามาแปลสืบตั๋วฎีกาบาญชีแล้วตระลาการได้เรียงคำตัดสินเสนอท่านแล้ว และว่าพระสวัสดิทำความเห็นมายื่น ส่งความเห็นมาด้วย

ความเห็นพระยาราชวังสรร พระสวัสดิ์ชี้แจงความเรื่องพระยาภูเก็ต จีนตันมาบุ๋นโดยพิสดาร

วัน ๑ ๑๒ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรีเสด็จทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิษฐเสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกรเป็นรอง เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ทรงผ้าไตร พร้อมด้วยเรือนำเรือตาม เรือพาลีล้างทวีป เรือสุครีพครองเมืองเป็นคู่ชัก เสด็จไปเข้าคลองผดุงกรุงเกษม ประทับวัดนามบัญญัติที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถ เสด็จขึ้นประทับบนเกยหน้าพระประธานทรงปิดทองพระประธาน พระสงฆ์สวดไชยมงคล เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์พิณพาทย์ แล้วนายฉันทูลรายงานพระสงฆ์แล้วทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกและญัตติทุตยกรรมให้พระกิติสารมุนีครอง ทรงประเคนไตรปีกรมหมื่นวชิรญาณฐานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้วโปรดให้สมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงษ์ถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จรอฝนหน่อยหนึ่งเสด็จลงเรือพระที่นั่ง เสด็จไปประทับวัดโสมนัสที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถ ทรงถวายกฐิน พระสงฆฺอปโลกและญัตติทุติยกรรมถวายสมเด็จพระวันรัต แล้วโปรดให้นิมนต์พระพระยาเทพประชุนลงมาเฝ้า รับสั่งปราศรัยตามควรแล้วทรงประเคนหมากพลูบุหรี่ฝรั่งผ้าเช็ดหน้าขวดดอกไม้ธูปเทียนแล้วทรงประเคนไตรปีพระราชาคณะฐานาเปรียญ พระสงฆ์ครองผ้าแล้วโปรดให้กรมหมื่นพิชิตปรีชากรประเคนบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งไปประทับวัดมหาพฤฒารามที่ ๓ นายไชยขรรค์ทูลรายงานพระสงฆ์ ทรงถวายกฐิน พระสงฆ์อปโลกและญัตติทุติยกรรมให้พระครูธรรมจริยาภิรมย์ครอง ทรงประเคนไตรปีถานาครองผ้าแล้วกราลกฐิน โปรดให้กรมหมื่นภูธเรศถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา โปรดให้พระองค์เจ้าภัทรายุวดี พระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ ไปทอดกฐินวัดกัลยาณมิตร ซึ่งกำหนดว่าที่ ๔ นั้น เวลาค่ำไป ไม่เสด็จ แล้วเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง วัดที่ ๒ นั้นนายสนิททูลรายงานพระสงฆ์

วันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์อย่างทหารหน้า ทรงสุหร่ายสายเครื่องราชอิสสริยยศจุลจอมเกล้า และดวงตราอื่น ๆ เจ้านายขุนนางแต่งอย่างเวลาวานนี้

เจ้าพระยาภาณุวงศ์มีหนังสือถึงพระองค์สวัสดิ์ส่งหนังสือกงสุลฝรั่งเศสว่าด้วยคอเวอนแมนต์สยามจะมีคำสั่งให้ราชทูตปรึกษาเรื่องจะเรียกราคาบอกโทรเลขคำละ ๑๐ อัฐ และว่าราชทูตจะได้รับคำสั่งตลอดที่คอเวอนแมนต์สยามเห็นว่า ซึ่งจะให้ประเทศทั้งสองเก็บเงินที่จะได้รับเป็นค่าบอกไว้นั้นใช้ไม่ได้อย่างไร

หนังสือสมเด็จกรมพระว่าด้วยจัดเรือดั้งเรือกลองแห่เสด็จกฐินหัวเมืองและเรือกฐินข้างใน

หนังสือสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุ์ส่งบาญชีเงินที่ใช้การโทรเลขทางเมืองไซ่ง่อน

หนังสือสมเด็จกรมพระขัดข้องว่าความสับเยกต์ฝรั่งเศสฟ้องจีนวันและสมี โป๊ พลอย ห้อย ว่าเป็นผู้ร้าย แต่ยังไม่ได้บวช ความถึงสืบพยาน สมีทั้ง ๓ อุทธรณ์พยานจะขอให้พิจารณาก่อน โจทย์ก็ไม่ยอมจะขอให้สืบพยานให้เสร็จก่อน

วัน ๒ ๑๓ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุถศักราช ๑๒๔๕

วันนี้ไม่ทรงสบายไม่เสด็จพระราชทานพระกฐินและไม่เสด็จออก โปรดพระราชทานพระกฐินซึ่งจะเสด็จวันนี้เสีย คือวัดสระเกศที่ ๑ พระราชทานสมเด็จกรมพระบำราบปรปักษ์ วัดบรมนิวาศที่ ๒ พระราชทานสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช วัดประทุมวนารามที่ ๓ พระราชทานกรมหมื่นเทววงศวโรปการ

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงษ์ทูลลาไปทอดกฐินพระราชทาน และว่าไปถึงเมืองจันทบุรีจะไปหาไม้มาดเรือเส้นมาทูลเกล้า ฯ ถวาย

อีกฉะบับ ๑ ส่งหนังสือพระยาอัษฎงค์มีมาส่งบาญชีสินค้าเข้าออกในพระราชอาณาเขตต์กรุงเทพ ฯ และเมืองสิงคโปร์ ตั้งแต่ยูไลยถึงเสบเตมเบอ ๑๘๘๓

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงษ์ถึงพระองค์สวัสดิ์ว่าด้วยพระยาอัษฎงค์มีหนังสือมาว่าได้ให้อนุญาตห้างเอแอลยอนสตอนบรรทุกดินปืน ๕๐ หาบของคอเวอนเมนตสยามและส่งหนังสือหลวงจินาสันกงสุลสยามเมืองมเกาว่าได้รับหนังสือสิเกรตารีคอเวอนเนอมเการาชทูตเลื่อนกำหนดที่จะเข้ามากรุงสยาม

หนังสือพระองค์สวัสดิ์ตอบเจ้าพระยาภาณุวงศ์ อนุญาตให้ไปเที่ยว

หนังสือสมเด็จกรมพระว่าด้วยจัดเรือและกำหนดการแห่พระศรีอาริย์ขึ้นไปเมืองลพบุรีและทูลลาไปกรุงเก่า

ตรางเกณฑ์กองทัพพระยาราชวรานกูล พระบรมมหาราชวัง พระยา ๑ หลวงขุนข้าราชการ ๙ ขุนหมื่น ไพร่หลวงไพร่ในตัว ๒๒๗ ทหารหน้านายไพร่ ๗๓๖ ทหารอาสา ๑๒๒ เจ้าเมืองกรมการขุนหมื่นไพร่ ๑๒๕ พระราชวังบวรทั้งทหารและพลเรือนทั้งขุนนางและไพร่ ๙๒ รวมในกรุง ๑๑๕๘ หัวเมือง ๑๒๕ กองนอก ๒๙ รวม ๑๓๑๒ คน

วัน ๓ ๑๔ ๑๑ ค่ำ ปีมะแมเบ็ญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้ไม่ได้เสด็จออก เพราะยังไม่ใคร่จะทรงพระสบายและเป็นวันพระด้วย กฐินในคลองบางกอกใหญ่ไม่เสด็จ โปรดพระราชทานเสีย คือ วัดนางชี ที่ ๑ พระราชทานพระองค์เจ้าจรูญ วัดหนัง ที่ ๒ พระราชทานกรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์ วัดนางนองที่ ๓ พระราชทานกรมขุนบดินทร์ วัดราชโอรสที่ ๔ พระราชทานพระองค์เจ้าจิตรเจริญ

มีพระราชสาสน์ถึงสมเด็จพระเจ้าอาลฟองโสที่ ๑๒ กรุงสเปญ พระราชททานพรในการอาวาหมงคลเจ้าดอนามาเรียดิลาปาส์กรุงสเปญ กับเจ้าลุยแฟระนันโดของกรุงบาเวเรีย

พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติ ขึ้นเงินเดือนสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ เดิม ๑๕๐ ชั่ง ขึ้นเป็นปีละ ๒๖๐ ชั่ง แต่เดือน ๑๒ .ไป อีกฉะบับ ๑ ว่าสมเด็จกรมหลวงได้ยืมเงินไป ๒๓๑ ชั่ง แล้วให้หักเงินรายรวมส่วนสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ ปีละ ๒๐๐ ชั่งนั้น หักไว้ปีละ ๑๑๐ ชั่งไปกว่าจะครบ ๖๓๐ ชั่ง

พระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระตอบเรื่องขัดข้องความสับเยกต์ฝรั่งเศสฟ้องสมี ๓ องค์นั้น ถ้าตามกฎหมายต้องพิจารณาความอุทธรณ์พยาน ถ้าว่าตามยุตติธรรมแล้วจะเป็นช่องผู้ร้ายธุรความให้ช้าไป เพราะฉะนั้น ให้ทรงตัดสินให้ชำระพร้อมกันทั้งความอุทธรณ์ความเดิมพร้อมกัน และความรายนี้เดิมชำระจำเลยฝ่ายคฤหัสถ์ศาลต่างประเทศ จำเลยเป็นพระ ศาลธรรมการแยกกันอยู่ให้มารวมกันชำระเสีย

มีพระราชห์ตถ์ถึงสมเด็จกรมพระอีกฉะบับ ๑ กะโปรแกรมการเสด็จบางปอิน กรุงเก่า ลพบุรี

หนังสือพระองค์สวัสดิ์มีหนังสือนำร่างตอบกงสุลอังกฤษ ตอบที่ว่าคำตัดสินเรื่องมองโอไม่ถูกนั้นด้วยเหตุไร ขอให้ชี้แจงความมา

หนังสือพระองค์สวัสดิ์ถึงสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ ว่าโปรดให้งดการที่จะทำโรงนาฬิกาไว้ก่อน หนังสือพระองค์สวัสดิ์ตอบสมเด็จกรมหลวงเรื่องการโทรเลขอีกฉะบับ ๑

หนังสือพระนายไวยขออนญาตซื้อปืนที่คิดขึ้นใหม่ๆ มาเป็นตัวอย่างสำหรับกรมทหารหน้า

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ