เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๔๕

วัน ๗ ๒ ค่ำ ปีมะแมเบญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เวลาเช้า ๒ โมงถึงปากน้ำเวล์เมืองขลุงบุรี เวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าและพระนางเธอ เสด็จทรงเรือสตรูลำใหม่ เสด็จเข้าปากน้ำแล่นเข้าไปตามลำน้ำ เวลาเช้า ๕ โมงเศษถึงเมืองขลุง เสด็จขึ้นจากท่า เสด็จพระราชดำเนินไปประทับบ้านพระขลุงบุรานุรักษ์ ทรงพระราชปฏิสันถารตามที่ทรงพระมหากรุณาแล้วพระราชทานเสื้อตัวหนึ่งเงิน ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึง เวลาเที่ยงครึ่งเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งแล่นออกมา เวลาบ่าย ๒ โมงเศษถึงเรือพระที่นั่ง เวลาบ่าย ๓ โมงออกเรือพระที่นั่งมาจอดที่หน้าอ่าวเมืองขลุง

เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียงแต่ติดใบเสีย โปรดให้กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นเทววงศ์ พระองค์ชุมพล ลงเรือพระที่นั่งแล่นใบไปที่เกาะจิกใหญ่ เวลาเกือบทุ่มเสด็จกลับเรือพระที่นั่งเวสาตรี

เวลาตี ๑๑ ออกเรือพระที่นั่ง

วัน ๑ ๒ ค่ำ ปีมะแมเบญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้า ๒ โมงถึงเกาะช้าง หยุดเรือพระที่นั่งที่เกาะด้านในตรงคลองมะยม เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระนางเธอทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียงไปเข้าคลองมะยม เข้าไปตามลำคลองหน่อยหนึ่งถึงท่าซึ่งเคยเสด็จขึ้น เสด็จทรงพระราชดำเนินขึ้นไปตามริมลำธาร ครั้นถึงธารน้ำตก กรมการทำสะพานข้ามไปตามลำธารหลายแห่ง ครั้นถึงชวากซึ่งเป็นอ่างใหญ่ ที่เคยประทับ เสด็จประทับที่นั้นครู่หนึ่งแล้วเสด็จขึ้นไปตามเขาข้างทางน้ำตกซึ่งสูงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง ด้วยยังไม่ได้เสด็จขึ้นเลย คราวนี้พระชลยุทธให้ทหารขึ้นมาหาทาง ทำทางไว้พอเสด็จได้ แต่สมเด็จพระนางและพระนางทั้งเจ้าจอมข้างในทั้งนั้น ไม่ได้ขึ้น หยุดอยู่ข้างล่าง เสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปถึงอ่างแห่งหนึ่ง ประทับสรงน้ำ แล้วเสด็จต่อขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง ประทับอยู่จนเวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จกลับลงเรือโบต เสด็จกลับเรือพระที่นั่งเวสาตรี เวลาบ่าย ๓ โมงออกเรือพระที่นั่งเวสาตรีแล่นไป เวลาบ่าย ๕ โมงเศษถึงบ้านสลักเพ็ชร ทอดเรือพระที่นั่งที่นั้น

วัน ๒ ๒ ค่ำ ปีมะแมเบญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียง พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าและข้างในออกเรือพระที่นั่งไปผูกเรือสตรูจูงเรือพระที่นั่งและเรือเจ้านายจูงเข้าไปตามลำคลอง เรือสตรูใหม่จูงเรือข้างในที่มาเรืออรรคราช แล่นเข้าไปตามทางแคบเข้าเพราะเป็นลำธาร เรือสตรูติดตื้นปล่อยเรือพระที่นั่งแล้วเรือไฟเล็กพระยาประภาลากเข้าไปตามลำธารสลักเพ็ชร แต่เรือข้างในที่มาแต่เรืออรรคราชนั้นตีกรรเชียงเข้าไป ครั้นถึงท่าบ้านสลักเพ็ชรเสด็จขึ้น อนึ่งหลวงสลักเพ็ชรพัฒนกิจได้มานำเสด็จตั้งแต่เรือพระที่นั่งเวสาตรี หลวงสลักเพ็ชรได้ลงเรือเจ้านายซึ่งเป็นเรือนำเสด็จพระราชดำเนิน แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปที่บ้านหลวงสลักเพ็ชร ไผ่ภรรยาหลวงสลักเพ็ชรและบุตรคอยเฝ้าอยู่ที่นั้นถวายของต่าง ๆ แล้วเสด็จไปประทับที่สนามทุ่งสลักเพ็ชร บางคนเรียกห้วยตังเม เพราะห้วยอยู่ริมนั้น เสด็จประทับครู่หนึ่ง แล้วเสด็จไปตามทางริมธาร ทางนี้หลวงสลักเพ็ชรทำไว้รับเสด็จ เสด็จไปประทับห้วยดินเหนียวซึ่งหลวงสลักเพ็ชรทำที่ประทับไว้รับเสด็จ เสด็จประทับที่นั่น ราษฎรชายหญิง จีนญวนไทยประมาณ ๕๐ กว่าเอาของต่างๆ มาถวาย สัตว์มีเต่ากระ เป็นต้น ของอื่นๆ คือ แฝกหอม เนื้อไม้ ว่านอังคำ มัน ฟัก เบี้ยต่างๆ ไม้ต่างๆ เป็นต้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงินรางวัลราษฎรชายหญิงที่ถวายของคนละ ๑๐, ๘, ๕, ๔, ๓, บาทบ้างตามมากและน้อย บางทีพระราชทานถึง ๔, ๕ ตำลึง แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับที่ทุ่งริมห้วยตังเม โปรดให้ทหารหน้าถ่ายรูปหลวงสลักเพ็ชรพัฒนกิจ แล้วพระชลยุทธเอาเต๊นต์เล็กมาปถูกถวายเสด็จประทับในนั้น โปรดให้เจ้านายและทหารและมหาดเล็กเข้าไปนั่งริมเต๊นต์ โปรดให้ถ่ายอีกแผ่นหนึ่ง แต่สมเด็จพระนางเจ้าและข้างในยังเล่นอยู่ที่ห้วยดินเหนียว แล้วเสด็จมาต่อภายหลังมาอยู่ที่เสด็จประทับนั้นด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเสื้อสักหลาด ๑ เงิน ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึง แก่หลวงสลักเพ็ชร แล้วพระราชทานเสื้อสักหลาด ๑ เงิน ๖ ตำลึงแก่ไผ่ภรรยาญวนที่นำทาง ๒ คน พระราชทานเสื้อสักหลาดคนละตัว ญวนนี้ถวายของด้วย พระราชทานเงินอีกคนละ ๔,๓ ตำลึง คนทำทางบ่าวหลวงสลักเพ็ชร ๑๐ คน พระราชทานเงินคนละ ๔ บาท แล้วเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียงตีกลับออกมา เวลาบ่าย ๓ โมงครึ่งถึงเรือพระที่นั่งเวสาตรี เวลาบ่าย ๔ โมงเกือบ ๕ โมงออกเรือพระที่นั่งจากสลักเพ็ชรไปเวลาย่ำค่ำแล้วถึงเกาะหมาก หยุดเรือพระที่นั่งด้านหน้าเกาะหมาก

วัน ๓ ๒ ค่ำ ปีมะแมเบญจศก จุลศักราช ๑๒๔๕

วันนี้เวลาเช้า เรือพระที่นั่งแล่นมาจากเกาะหมากแต่เวลาคืนนี้ เวลาตี ๑๑ เข้าจอดเกาะหมากด้านใต้ เวลาเช้าไม่เสด็จขึ้น เวลาเที่ยงพระองค์สายให้ทหารเรือพระที่นั่งเวสาตรีและเรือสตรูขึ้นไปไล่เนื้อบนเกาะหมาก เกาะกระดาด จนเวลาบ่ายไม่ได้เนื้อ ด้วยราษฎรมาไล่เสียหมด แต่ราษฎรคนหนึ่งกับเพื่อนอีกคนหนึ่งเขามีสุนัขไล่เนื้อตัว ๑ กำลังมีท้องจะเอามาถวาย พระองค์สายให้เรือบดรับมาถวายที่เรือพระที่นั่ง พระราชทานเงินคนที่เอามาถวายคนละ ๖ บาท

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระนางเธอและข้างใน เสด็จทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียง เรือสติมลอนหลวงจักรยานานุพิจารณ์จูงเสด็จไปขึ้นเกาะกระดาด เสด็จประพาสตามถนนหาดและเกาะเล็กซึ่งติดต่อกันนั้นจนเวลาค่ำเสด็จกลับเรือพระที่นั่ง วันนี้แรมที่นี้เวลาตี ๑๑ ออกเรือพระที่นั่ง

วัน ๔ ๒ ค่ำ เวลาเช้าเรือพระที่นั่งยังแล่นในทะเล เวลาเที่ยงเศษถึงปากอ่าวจันทบุรี เรือพระที่นั่งเข้าไปทอดในอ่าวที่หน้าด่าน พระสุธรรมไมตรีนำกรมการเมืองจันทบุรี มีพระวิเศษสงคราม จางวางกองด่าน และนายพินผู้ว่าที่ผู้ช่วยกรมการอื่น ๆ อีกรวม ๙ คนมาเฝ้าถวายผ้าพื้นต่างสี เสื่อจันทบุรี และสะเบียง มีสุกร เป็ดไก่ ผลไม้ต่างๆ มีแตงอุลิตเป็นต้น กรมการที่มาเฝ้าจอดเรือริมเรือพระที่นั่ง ทรงพระราชปฏิสันถารโดยควรแล้วโปรดพระราชทานเสื้อสักหลาดกรมการคนละตัว แล้วกรมหมื่นเทววงศ์นำจีนนายอากรสุราบ่อนเบี้ยเมืองจันทบุรี เฝ้าถวายผ้าพื้นต่างสี และสิ่งของอื่นๆ โปรดพระราชทานเสื้อสักหลาดคนละตัวเสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ ออกเรือพระที่นั่งมาในทะเล เวลา บ่าย ๕ โมงเศษ พบเรือนฤเบนทรบุตรีแล่นออกมาแต่กรุงเทพ ฯ รอเรือพระที่นั่งให้เรือสตรูไปรับหนังสือ ได้หนังสือและสิ่งของมาแต่กรุงเทพ ฯ เรือนฤเบนทรนั้นท่านผู้หญิงอิ่มภรรยาเจ้าพระยาสุรวงศ์มาในเรือนั้น แล่นเรือพระที่นั่งต่อมาเวลาทุ่มเศษถึงทุ้งยายมัน จอดเรือพระที่นั่งที่นั้นด้วยเป็นที่บังลม แรมที่ทุ่งนี้คืนหนึ่ง

รับหนังสือสมเด็จกรมพระ ส่งใบบอกพระยาราชสัมภารากรวางเวร ๒ ฉะบับ ว่าด้วยรับตราพระราชสีห์โปรดให้ไปชำระความผู้ร้ายฆ่ามองบันดอนั้น และโปรดให้ช่วยพระพรหมบริรักษ์จัดการเมืองนครลำปาง กับเมืองลองนั้นกำหนดจะไปวัน ๕ ๑๒ ค่ำ และว่าด้วยมีตราโปรดพระราชทานเหรียญที่ระลึกงานสมโภชศิริราชสมบัตินั้น ข้าหลวงทั้งปวงได้รับแล้ว แต่นายแกร่งตายได้ส่งเหรียญนั้นคืนมา และว่าเรื่องมิสเตออีเอมปาสแกนั้นได้ทราบตามท้องตราแล้ว ถ้ายื่นเรื่องราวเมื่อไรจะรับพิจารณาต่อไป อีกฉะบับ ๑ ว่าด้วยข่าวทัพพะม่ารบเชียงตุงโดยพิสดาร และว่าได้ปรึกษาพร้อมกันให้เจ้าราชภาคิไนย เจ้าราชภาติกวงศ์ เจ้านายท้าวพระยาเมืองเชียงใหม่ ผลัดกันคุมไพร่ออกไประวังรักษาการปลายเขตต์แดนทางเมืองฝางเมืองงาย และว่าได้มีหนังสือกำชับเมืองลำพูนลำปางให้ตระเตรียมศาตราวุธผู้คนไว้ และว่าเจ้านครลำปางมีหนังสือมา ๔ ฉะบับ ว่าด้วยมองป๊อกมองซวยบัว ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ว่านายขำคนเมืองสวรรคโลกไปกดขี่ข่มเหงแสนสุทธิกับบ่าวได้จับนายขำจำไว้ ฉะบับ ๑ ส่งทนายมาว่าความกับหนานขัตติย ศุภอักษรพระเจ้านครเชียงใหม่ ส่งหนังสือเมืองเชียงแสนเชียงรายบอกข่าวทัพพะม่ายกมารบเมืองเชียงตุงและเมืองลาวอื่นๆ ที่กระด้างกระเดื่องต่อพะม่านั้นโดยพิสดาร ศุภอักษรเจ้านครลำพูนบอกข่าวพะม่ายกมาตั้งอยู่ เมืองหนอง เมืองจิตร เมืองนาย และพวกเชียงตุง และฟ้าเมืองนาย เมืองเรือน เมืองจิตร เมืองหนอง ฟ้าดอกจอกยกไปตั้งรับทัพพะม่าฝั่งน้ำคงโดยพิสดาร คล้ายกับศุภอักษรพระเจ้านครเชียงใหม่ ใบบอกกรุงเก่าว่ามีผู้ร้ายปล้นอำกดงทิมบ้านท้ายเกาะบางปะอิน สืบชำระได้ตัวรับเป็นสัตย์

หนังสือกรมหมื่นประจักษ์ว่าด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าบริพัตร และองค์จันทราประชวรพระองค์ร้อน

หนังสือกรมหมื่นภูธเรศว่าด้วยเกิดเพลิงไหม้ที่วัดลาวและที่ตลาดพลูดับได้ การกรุงเทพ ฯ เรียบร้อย

หนังสือเจ้าพระยาสุรวงศ์ว่าด้วยราชการกรุงเทพ ฯ เรียบร้อย

ทรงพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระ กรมหมื่นภูธเรศ กรมหมื่นประจักษ์ เจ้าพระยาสุรวงศ์ ความเหมือนกันแทบทุกฉะบับ บอกข่าวที่เสด็จประพาสทะเลเกาะฝั่งตะวันออก ๔ ฉะบับ

วัน ๕ ๒ ค่ำ เวลาย่ำรุ่งได้เลื่อนเรือพระที่นั่ง แต่ทุ้งยายมันมาอยู่ที่แหลมทองหลาง เวลาเช้า ๒ โมงเศษ เสด็จทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียง พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า และพระนางเธอ และข้างในตามเสด็จในเรือนั้น เสด็จไปขึ้นหาดแหลมทองหลาง ประพาสหาดทรายและโปรดให้มหาดเล็กและทหารตัดไม้เกด แล้วราษฎรบ้านห้างเจ๊กตู้เอาสิ่งของมาถวาย โปรดพระราชทานเงินตามสมควร เวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จกลับประทับเรือพระที่นั่งเวสาตรี วันนี้เสวยเช้าบนแหลมทองหลาง เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ ออกเรือพระที่นั่งจากแหลมทองหลาง เวลาบ่าย ๕ โมงถึงช่องเกาะเสม็ด ไม่ได้หยุดเรือพระที่นั่งแล่นต่อมา เวลา ๑๐ ทุ่มครึ่งถึงแหลมกระบังหยุดเรือพระที่นั่งที่นี่

วัน ๖ ๒ ค่ำ เวลาเช้า ๓ โมงเศษเสด็จทรงพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียง สมเด็จพระนางเจ้าและพระนางเธอและข้างในตามเสด็จ เรือพระที่นั่งแล่นไปผูกเรือสตรูจูงแล่นไป เรือสตรูนี้ลากทั้งเรือข้างในเรือทหารเรือเจ้านาย แล่นไปถึงหน้าบ้านนาเกลือแขวงเมืองบางลมุง แก้เรือพระที่นั่งตีกรรเชียงเข้าไปถึงท่าเสด็จขึ้นไปประพาสบนบ้านราษฎร มีตลาดดีกว่าเมืองขลุง เสด็จประพาสตลอดไปแล้ว เสด็จมาประทับบ้านจีนอยู่ชาวบ้านนั้นด้วยใกล้ท่า ขุนขจรชลธีนายอำเภอกับราษฎรชาวบ้านมากกว่ามากเอาของต่างๆ มาถวายมีแตงอุลิต กล้วย มะพร้าว ข้าวฟ่างเป็นต้น พระราชทานเงินทุกคนตามมากและน้อย หญิงคนหนึ่งถวายหนังเสือดำและกระดูกเสือตัวนั้นยังเปนร่างอยู่ พระราชทานเงินโดยสมควร มีชายคนหนึ่งถวายลูกกวางตัว ๑ ยังเป็นอยู่ พระราชทานเงิน ๘ บาทและพระราชทานเสื้อ สักหลาดขุนขจรชลธีนายอำเภอตัว ๑ จีนอยู่ตัว ๑ แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งตีกรรเชียงออกมาผูกเรือสตรู จูงออกมาถึงเรือพระที่นั่งเวสาตรี แต่เรือพระที่นั่งเวสาตรีนั้นเดิมจอดอยู่แหลมกระบัง พอเสร็จแล้วลมจัดจึ่งแล่นมารับเสด็จหน้าบ้านนาเกลือ เวลาบ่าย ๒ โมงออกเรือพระที่นั่งจากบ้านนาเกลือนี้ไป เวลาบ่าย ๕ โมงเศษถึงอ่าวกระสือ พระองค์สายทูลว่า จอดเรือพระที่นั่งเสีย ต้องดับไฟแก้หม้อที่นั้น เวลา ๒ ทุ่มเศษออกเรือพระที่นั่งจากอ่าวกระสือ เวลา ๕ ทุ่มถึงอ่างศิลา จอดเรือพระที่นั่งที่นี้

วันนี้เวลาเช้าที่กรุงเทพ ฯ แห่พระยาโชฎึกราชเศรษฐียืนชิงช้าตามอย่างเช่นเคยแห่ชิงช้าทุกปีมา พราหมณ์กระทำพิธีตรียำพวาย พระสงฆ์รับพระราชหานฉันที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ๑๕ รูป จะได้สวดมนต์ ๓ วัน วันละ ๕ รูป

วัน ๗ ๒ ค่ำ เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า และพระนางเธอและข้างใน ทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กรรเชียงไปผูกเรือสตรูจูงไปประทับสะพานยาวหน้าเมืองชลบุรี สะพานยาวนี้พระยาชลบุรีบอกว่ายาว ๑๗ เส้น เป็นของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ทำไว้ แต่กรมหมื่นเทววงศ์วัดประมาณได้ ๑๑ เส้น แต่เรือข้างในที่มาแต่เรืออรรคราช และเรือเรือทหารนั้นตีกรรเชียงเข้าไป เสด็จขึ้นไปตามสะพานพอหมดสะพานถึงปะรำมีพื้นและฝา พระยาชลบุรีปลูกรับเสด็จ เสด็จประทับครู่หนึ่ง รับสั่งกับท่านผู้หญิงอิ่มภรรยาท่านเจ้าพระยาสุรวงศ์ ซึ่งมาเฝ้าอยู่ที่นั้น และทรงพระราชปฏิสันถารมารดาภรรยาพระยาชลและสายภรรยาพระยาชลซึ่งมาเฝ้าอยู่ที่นั้น มารดาภรรยาพระยาชลและภรรยาถวายของสิ่งต่าง ๆ แล้วเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรตลาดเมืองชลบุรี ทรงซื้อสิ่งของต่าง ๆ เสร็จแล้วเสด็จมาประทับปะรำที่นั้นอีก มารดาภรรยาและสายภรรยาพระยาชลถวายผลมะพร้าวและของอื่นๆ และเลี้ยงมะพร้าวและอื่น ๆ ข้างใน และเจ้านายข้าราชการ และพระยาชลบุรีกรมการผู้ใหญ่ผู้น้อยจีนพ่อค้าและจีนนายอาการเมืองชลบุรีถวายผ้าพื้นต่างสีเป็นอันมาก โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเสื้อสักหลาดแก่พระยาชลบุรีและกรมการ จีนพ่อค้า จีนนายอากร ที่ถวายของคนละเสื้อแล้ว เสด็จกลับมาทรงเรือพระที่นั่งโบตกลับออกมาเรือผูกเรือสตรูจูงออกมาเรือพระที่นั่งเวสาตรีถึงเวลาบ่าย ๒ โมงเศษ

เวลาบ่ายพระยาชลตามเอาของสะเบียงต่างๆ มาถวายที่เรือพระที่นั่ง เวลาเย็นเวลาค่ำเสด็จออกทรงแจกผ้าพื้นหมวกสานเจ้านายข้าราชการที่มาตามเสด็จในเรือพระที่นั่งและเรือประเทียบเรืออื่น ๆ แล้วเสด็จขึ้น เวลาสามยามออกเรือพระที่นั่งจากเมืองชลบุรี

วัน ๑ ๒ ค่ำ เวลารุ่งแล้วถึงสันดอน พระชลยุทธว่าน้ำน้อยเข้าปากน้ำไม่ได้ หยุดเรือพระที่นั่งอยู่จนเวลา ๒ โมง เช้าออกเรือพระที่นั่ง เช้า ๓ โมงเรือพระที่นั่งเข้าปากน้ำหยุดที่หน้าป้อมผีเสื้อสมุทร ทหารบนป้อมยิงสลุต ๒๑ นัด พระยาสมุทรปลัดยกกระบัตรเมืองสมุทรปราการมาเฝ้า พระราชทานเทียนไปบูชาพระสมุทรเจดีย์ แล้วหลงจู๊มาและผู้หญิงหลายคนมีภรรยาพระยามหาอรรคนิกรเป็นต้น มาถวายของต่างๆ อย่างเช่นเมื่อเสด็จออกมานั้น ทรงพระราชปฏิสันถารพอควร แล้วโปรดให้ออกเรือพระที่นั่งแล่นขึ้นมา เวลาบ่ายโมงถึงท่าราชวรดิษฐประทับเรือพระที่นั่งเรียบร้อยแล้ว เสด็จพระราชดำเนินขึ้นพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า และพระนางเธอ แล้วเสด็จประทับตรัสกับเสนาบดีและข้าราชการอื่น ๆ ที่มาคอยรับเสด็จ แล้วเสด็จมาประทับตรัสกับต่างกรมและพระองค์เจ้า ซึ่งมารับเสด็จอยู่ที่นั้นแล้ว เสด็จพระราชดำเนินขึ้นมาประทับเกยหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เสด็จประทับบนมุขอัฑฒจันทร์ โปรดให้กรมหมื่นเทววงศ์เปิดหีบของต่างๆ มีหีบไดอรีและอื่นๆ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระเจ้าลูกเธอเสด็จทรงรถพระที่นั่งรถประเทียบแต่หน้าพระที่นั่งจักรีไปทอดพระเนตรแห่ถีบชิงช้าณพลับพลาวัดสุทัศนเทพวราราม

เวลาบ่าย ๕ โมงเชษเสด็จออกพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ โปรดให้เรียกกระบวนเดินกระบวนแห่พระยาโชฎึกยืนชิงช้า กระบวนปีนี้มากกว่าปีก่อนเดินเรียบร้อยดี กระบวนนั้นมีพิณพาทย์เล่าโก๊และของอื่นล้วนแต่เป็นของจีนโดยมาก มีธงเขียวต่าง ๆ ล้วนแต่จีนแทบทั้งนั้น มีตะเภาและมังกรสิงห์โตเป็นอันมาก ครั้นพระยาโชฎึกมาถึงท้ายพระที่นั่ง ลงจากเสลี่ยงเดินมาถึงหน้าพระที่นั่งถวายบังคมแล้ว พระราชทานผลมะนาว ถวายบังคมแล้วเดินไปขึ้นเสลี่ยงเหนือพระที่นั่งแห่ไปยืนชิงช้า ในที่สุดกระบวนนั้นมีเจ้าภาษีนายอากรจีนพ่อค้าต่าง ๆ มีพระสวัสดิ์และหลวง ๆ เจ้าภาษีเป็นต้นแต่งตัวเต็มยศอย่างจีนขี่รถเที่ยมคู่บ้างรถเดี่ยวบ้างรถคนลากอย่างฮ่องกงบ้างตามไป ครั้นถึงหน้าพระที่นั่งลงจากรถเข้ามากุ๋ยถวายคำนับอย่างจีนแล้วไปขึ้นตามแห่ไป เสด็จมาประทับตรัสกับสมเด็จกรมพระเรื่องบ่อนเบี้ยเมืองชลหน่อยหนึ่ง แล้วพระมงคลเทพเข้ามาเฝ้าถวายพระพรลาไปจัดการพระพุทธบาท เสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จ ลงสมโภชเดือนพระเจ้าลูกเธอซึ่งประสูติวัน ๑ ค่ำ ปี ๑๒๔๕ พระราชทานพระนามว่า พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าวุฒิชัยเฉลิมลาภ แล้วเสด็จตำหนักกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร

วัน ๒ ๑๐ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกซิตติงรูม กรมหมื่นภูธเรศเฝ้าถวายหนังสือฉะบับ ๑ พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการต่าง ๆ แล้วนายเล่ห์อาวุธถวายใบสั่ง เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาเกือบยามเสด็จออกประทับพระแท่นห้องออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระยาสระบุรี ๔ ฉะบับว่าด้วยจับโคกระบือม้าไม่มีตั๋วฎีกาและไม่มีหนังสือเดินทางทั้ง ๔ ฉะบับส่งเจ้าของลงมา โปรดให้รีบไต่สวนว่ากล่าวและปล่อยไป อย่าให้โคกระบือมาล้มตายเสียประโยชน์ค้าขาย แล้วพระยาศรีกราบทูลว่า พระยาพิทักษทวยหาญจะขอทำป่าไม้เมืองสวรรค ๑๐ ปี รับสั่งว่าช้านัก ถ้าจะยอมอย่างช้าเพียง ๓ ปี

พระนรินทร์อ่านบอกพระยาราชบุรีว่า เงินค่านาปีมะโรงได้ส่งสองคราวแล้ว ครั้งนี้ส่ง ๓๐ ชั่ง รวม ๓ ครั้ง ๒๑๐ ชั่ง ยังไม่เสด็จ อีกฉะบับ ๑ ส่งค่านาปีมะเส็่งตรีศก ๘๐ ชั่ง ยังไม่เสร็จ อีกฉะบับส่งเงินค่านาปีมะเมียจัตวาศก ๔๐ ชั่ง ยังไม่เสร็จ

บอกพระยาพิทักษ์เมืองประทุมธานีส่งเงินค่านาปีมะเมียจัตวาศก ๑๘ ชั่ง ๑๑ ตำลึง ๓ บาท ๒ สลึง พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระยาราชพงศานุรักษ์ขอพัทธสีมาวัดบางนางลี ยาว ๑๓ วา กว้าง ๙ วา บอกพระเทพสงครามปลัดเมืองจันทบุรี ส่งเงินส่วยลง ๔ กอง ๆ ละ ๙ จำนวน ๓ กอง กองหนึ่ง ๒ จำนวน รวม ๔ กอง เงิน ๔๘ ชั่ง ๑๗ ตำลึง ๑ บาท บอกพระยาสมุทรสาครผู้ร้ายปล้นบ้านอำแดงขำมาทำตราสินว่า อำแดงแช่มจำหน้าได้ว่ามะเงินมะทองมะปานได้ตัวมาถามไม่รับ

พระอินทรเทพ จมื่นพิทยเสนา จมื่นไชยาภรณ์ถวายคำสอบถาม เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศครู่หนึ่ง รับสั่งกับกรมหมื่นเทววงศ์แล้วเสด็จขึ้นข้างใน

วัน ๓ ๑๑ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จซิตติงรูม พระยาอภัยรณฤทธิ์เฝ้าถวายเรื่องราวฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยช้างของเจ้าพระยาภูธราภัยเป็นมฤดกตกมา พระยาราชว่า เป็นช้างหลวงเกณฑ์ไปทัพเสีย พระราชทานไปให้สมเด็จกรมพระว่ากล่าว พระยารัตนโกษาเฝ้าถวายเครื่องเพ็ชรที่โปรดให้ทำ พระยานรรัตนเฝ้าถวายหนังสือขอซื้อเรือไฟสำหรับกองตระเวนลำน้ำราคา ๖๐ ชั่ง พระองค์เจ้าสวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการ และเจ้าพระยาสุรวงศ์มาเฝ้ารับสั่งเรื่องการศพสมเด็จเจ้าพระยา และเรื่องมิสเตอร์เยรนีนายทหารหน้าลักบรรทุกดินไดนาไมต์เข้ามา เจ้าภาษีร้อยชักสามจับได้นั้นจะโปรดให้ชำระ แล้วเสด็จประทับดรออิงรูม พระองค์เจ้าพระพัฒนาเฝ้าทูลลาผนวชจากภิกษุในวัน ๒ ค่ำ แล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จออกประทับห้องออกขุนนางพระยาศรีอ่านบอกเมืองพิบณโลก ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ถวายพระราชกุศลทอดกฐินวัดมหาธาตุเมืองพระพิษณุโลก ฉะบับ ๑ ขอผูกพัทธสีมาวัดศีร์ษะขาว กว้าง ๕ วา ยาว ๑๐ วา วัดบางระกำ กว้าง ๘ วา ยาว ๑๐ วา ฉะบับ ๑ บอกพระพรหมเนื่องพรหมบุรีขอผูกพัทธสีมาวัดโพดา กว้าง ๗ วายาว ๙ วา ฉะบับ ๑ บอกพระยาอุไทยมนตรีเมืองปราจีนขอผูกพัทธสีมา กว้าง ๖ วายาว ๘ วา ๒ ศอก ฉะบับ ๑ บอกพระยาพิสุทธิธรรมธาดาเมืองลพบุรีขอผูกพัทธสีมาวัดโคกสลุด กว้าง ๑๐ วา ๒ ศอก ยาว ๑๐ วา ๒ ศอก

พระนรินทร์อ่านบอกพระอร่ามปลัดเมืองกาญจนบุรีว่าหลงจู๊กัวมาขอกรมการไปจับสุราเถื่อนได้ตัวจีนอ่อนกับสุราและเครื่องมาส่งว่าต้มสุราเถื่อน ถามจีนอ่อนไม่รับและว่าเป็นจีนเข้ารีตส่งความเข้ามา

พระยาพิทักษ์อ่านบอกพระยาราชพงศานุรักษ์ ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ว่า อำแดงแสงบ้านคลองเตยฟ้องว่านายเอี่ยมฟันผัวตาย นายเอียมหนี ได้แต่ตั๋วจำนำฉะบับ ๑ อำแดงคงฟ้องว่ามีผู้ร้ายยิงนายหว่างผัวตายมีสาเหตุกับนายชุ่มกับพวก ได้ตัวมาถามไม่รับ บอกพระยานนท์ว่า มะลุยฟันมะออกตาย มะลุยหนีเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศรับสั่งกับกรมหมื่นเทววงศ์และอื่น ๆ แล้ว ทรงพระราชหัตถ์อื่น ๆ หน่อยหนึ่ง เสด็จไปประทับที่ห้องออกขุนนางทรงหนังสือครู่หนึ่งเสด็จขึ้น

วันนี้ประทับสัญญาบัตรในกรุงหนึ่ง กงสุลสยามสตอกโฮมหนึ่ง แอมสเตอร์แดมหนึ่ง วิบลอตาหนึ่ง ดิมอลตาหนึ่ง รวม ๕ ฉะบับ

วัน ๔ ๑๒ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกซิตติงรูม เจ้าพระยาสุรวงศ์เฝ้าอีก เพราะเวลาวานนี้ท่านมาเฝ้าจวนเวลาเสด็จขึ้นเสียแล้วไม่ได้รับสั่งหมดเรื่อง จึงทรงนัดให้มาเฝ้าอีก รับสั่งเรื่องเรือซาฮิดมหมัดเจ้าภาษีจับไว้เรือจมที่ปากน้ำ และเรื่องความจีนตันมาบุ๋นและเรื่องราษฎรร้องขอพระยาสุดารัตนเป็นพระยากาญจนบุรี แล้วกรมหมื่นเทววงศ์นำมิสเตอแมกคาทีคนทำแผนที่เฝ้าถวายแผนที่เมืองราห์มันและริโปตการที่ไปทำแผนที่เขตต์แดนราห์มันกับแปรักนั้น รับสั่งเรื่องจะให้ขึ้นไปทำแผนที่เมืองหลวงพระบางและเมืองอื่น ๆ รับสั่งถึงจะโปรดให้เป็นพระรับราชการ กรมหมื่นภูธเรศเฝ้า เสด็จขึ้นเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จลงส่งพระกรพระเจ้าลูกเธอ ๓ พระองค์ที่เกยต้นชมภู่ ทรงพระยานุมาสเดินกระบวนซ้อมทั้งข้างหน้าข้างในเดินออกประตูราชสำราญเลี้ยวมาตามถนนรอบริมกำแพงในพระราชวังแล้ว เสด็จมาประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ทอดพระเนตรซ้อมกระบวน กระบวนเดินเข้าประตูพิมานไชยศรี มาทรงรับพระกรพระเจ้าลูกเธอขึ้นหมดแล้ว รับสั่งกับสมเด็จกรมพระครู่หนึ่ง เสด็จขึ้นไม่ได้ซ้อมขากลับด้วยเวลาค่ำแล้ว และกระบวนทหารก็ไม่ได้ซ้อมด้วย

วัน ๕ ๑๓ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกดรออิงรูมทรงสับนาคเพลิง พระราชทานเพลิงศพหม่อมเจ้าหญิงแฉล้มซึ่งเป็นบริจาริกในพระองค์เจ้าจันทรทัต พระราชทานสังเคดและไทยธรรมอื่น ๆ ช่วยด้วย และพระราชทานเพลิงศพ พระวิชิตชลธารหนึ่ง หม่อมราชวงศ์มุ้ยกัปตันทหารเรือ ๑ หลวงรักษราชหิรัญ ๑ ขุนศรีธรรมภาณ ๑ แล้วทรงหนังสือราชการในห้องนั้น

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกมาประทับดรออิงรูม เจ้าพนักงานกรมวังกรมท่าราชเอดเดอแกมป์นำมองสิเออเรอเกอการาเด็กกงสุลคอมมิแซรฝรั่งเศสหนึ่ง มองสิเออเลยูที่ ๒ หนึ่งเข้ามาเฝ้า ทรงพระราชปฏิสันถารโดยสมควร กงสุลกราบทูลว่าไม่มีราชการอะไร เป็นแต่กงสุลมีความระลึกถึงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ไม่ได้เฝ้านานแล้วจึงขอเฝ้าเท่านั้น แล้วกราบถวายบังคมลากลับไป เสด็จประทับซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการ เวลาเกือบบ่าย ๕ โมง เสด็จขึ้น

เวลาย่ำค่ำแล้วเสด็จลงซ้อมแห่เกยต้นชมภู่ แล้วเสด็จมารับพระกรพระเจ้าลูกเธอที่พระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ ครั้นแห่มาถึงแล้วพระเจ้าลูกเธอเสด็จขึ้นแล้ว โปรดให้เลิกเพราะเวลาค่ำแล้ว พรุ่งนี้ให้ตั้งกระบวนแต่ทางนี้ไป แล้วพระราชทานสัญญาบัตรพระสุนทรา เป็นพระยาศรีสรราชภักดีเจ้ากรมพระกลาโหมหนึ่ง เสด็จขึ้นมาประทับออฟฟิศรับสั่งกับกรมหนึ่นเทววงศ์เรื่องต่าง ๆ ครู่หนึ่งเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๑๔ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกประทับซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการ เวลาบ่าย ๔ โมงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์เครื่องยศทหาร ทรงประดับดวงสตาบ้าง เสด็จประทับดรออิงรูม มีตำรวจมหาดเล็กทหารมหาดเล็กแต่งตัวเต็มยศเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ที่พระที่นั่ง มีทหารยืนรับ ๒๐๐ แตรวงหนึ่งรับตามเคย

เจ้าพนักงานกรมวังกรมท่า ราชเอดเดอแกมป์นำมิสเตอร์วอนเกรงกีกงสุลเยอรมันและล่ามเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กงสุลถวายพระราชสาสน์ของเอมเปอเรอเยอรมันนี ถวายตอบพระราชสาสน์พระราชทานพรที่พระเจ้าหลานเธอของเอมเปอเรอประสูติ ทรงพระราชปฏิสันถารโดยควรแล้ว ถวายบังคมลา เสด็จประทับห้องซิตติงรูม ทรงหนังสือราชการ จวนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาเกือบย่ำค่ำเสด็จออกพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ ทรงซ้อมกระบวนแห่โสกันต์ทรงส่งพระกรพระเจ้าลูกเธอ ๓ พระองค์ทรงพระยานมาศแล้วให้เดินกระบวนไปเข้าประตูราชสำราญ เสด็จไปรับพระกรพระเจ้าลูกเธอที่เกยหน้าท้องฉนวนริมต้นชมภู่

เวลาค่ำพระนางเธอเสาวภาผ่องศรีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลบนพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระสงฆ์ไทย ๕ ฐามัญ ๕ เจริญพระพุทธมนต์ ด้วยเมื่อสมัยประสูติของพระองค์ท่าน ไม่ได้ทรงทำบุญเพราะเสด็จประพาสอยู่ในทะเล

วัน ๗ ๑๕ ๒ ค่ำ เวลาเช้าพระสงฆ์ไทยรามัญ ๑๐ รูปที่สวดมนต์เมื่อเวลาวานนี้รับพระราชทานฉันในนั้น

เวลาย่ำค่ำแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าจันทราสรัทวาร พระองค์เจ้าสุวภักตรวิไลพรรณ พระองค์เจ้าเยาวมาลนฤมลทรงประเคนไตรแพรแก่พระสงฆ์ ๓๐ รูป มีกรมพระปวเรศกรมหมื่นวชิรญาณเป็นต้น แล้วพระสงฆ์ถวายอดิเรกเสด็จขึ้น

วันนี้ประทับสัญญาบัตรขุนนาง ๑ ทหารมหาดเล็ก ๔

วัน ๑ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เยียรบับ ทรงพระภูษาเขียนทองทรงเครื่องราชอิสสริยยศสุราภรณ์มงกุฎสยามและสตาอื่นๆ เสด็จลงประทับเกยหน้าท้องฉนวนต้นชมภู่ ตั้งกระบวนแห่ที่นั้น ทรงส่งพระกรพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าจันทราสรัทวาร ลงทรงพระยานุมาศเป็นที่ ๑ พระองค์เจ้าสุวภักตรวิไลพรรณเป็นที่ ๒ พระองค์เจ้าเยาวมาลนฤมลเป็นที่ ๓ ทรงพระยานุมาศแล้วเดินกระบวนออกทางประตูราชสำราญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ปราสาท หน้าพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์มีปะรำข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้าที่นั่น พระบรมวงศานุวงศ์ทอดพระเนตรแห่ที่ทิมดาบตำรวจ กระบวนแห่เดินตามถนนริมกำแพงชั้นในเหมือนทุกคราว มาเข้าประตูพิมานไชยศรี กระบวนแห่คราวนี้ก็ไม่แปลกประหลาดกว่าการคราวก่อน ๆ แต่ขุนนางที่เป็นคู่เคียงนั้นเปลี่ยนบ้างได้จดชื่อไว้ข้างหน้าแล้ว ตามริมราชวัฏชั้นนอกมีพิณพาทย์รายทางและมีกรมอาษาต่าง ๆ แต่งตัวยืนกลาบาตเป็นกอง ๆ ตามระยะ ครั้นกระบวนแห่มาถึงข้างนอกมีกระอั้วแทงควาย สิงห์โตหกคะเมน ไต่ลวด ไม้ต่ำสูง ตามเคย ครั้นกระบวนเดินเข้ามาถึงชั้นในมีระเบง โมงครุ่ม หน้าประตูพรหมมีละครข้างในแต่งตัวรำดอกไม้ทองเงิน ๒ คู่รับกระบวนที่ปากม่าน ครั้นพระยานุมาศมาถึงเกยพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ ทรงรับพระกรพระเจ้าลูกเธอขึ้นจากพระยานุมาศทั้ง ๓ พระองค์แล้วเสด็จทอดพระเนตรอยู่จนสิ้นกระบวนแล้ว เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงนมัสการแล้วกรมพระปวเรศถวายศีล พระสงฆ์ ๓๐ รูปเจริญสัตตปริตร เสด็จพระราชดำเนินมาประทับมุขเหนือ พระราชทานสัญญาบัตรมิสเตอรแมกคาที เป็นพระวิภาคภูวดลเจ้ากรมเซอเวทางและทำแผนที่ ๑ หลวงศรสำแดงฤทธิ์เป็นหลวงกำจัดไพรินทรปลัดกรมกองแก้วจินดา ๑ มิสเตอรบุช บตรพระวิสูตรเป็นสับลุตเตอแนนต์ ๑ หม่อมเฉลิม ๑ นายศรี ๑ เป็นสับลุตเตอแนนต์ในกรมแผนที่ทั้ง ๓ ครั้นพระสงฆ์สวดมนต์จบแล้ว เสด็จไปประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ ส่งพระเจ้าลูกเธอทั้ง ๓ พระองค์ทรงพระยานุมาศ แล้วเดินกระบวนแห่กลับทางเดิม พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์นั้นขึ้นไปถวายไชยมงคลในเวลาเมื่อเดินกระบวนแห่กลับ สิ้นกระบวนแล้ว เสด็จทรงพระราชยานกลับขึ้นทางพระที่นั่งจักรีเสด็จไปรับพระกรข้างใน ทรงแจกเงินพระราชทานกระบวนแห่แล้วเสด็จขึ้น

วันนี้พราหมณ์กระทำพิธีแห่พระอิศวรตามเคยทุกปี

วัน ๒ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกในออฟฟิศหลวงพระที่นั่งจักรีครู่หนึ่งเสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จลงเกยต้นท้องฉนวนข้างใน ส่งพระกรพระเจ้าลูกเธอทั้ง ๓ พระองค์ทรงยานุมาศเหมือนวานนี้แล้วเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานไปประทับเกยพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ ครั้นกระบวนแห่มาถึงก็มีมหรสพอย่างวานนี้ ทรงรับพระกรพระเจ้าลูกเธอทั้ง ๓ พระองค์ขึ้นแล้วเสด็จทอดพระเนตรหน่อยหนึ่งเสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงนมัสการทรงศีล แล้วพระสงฆ์ ๓๐ รูปเจริญธรรมจักกัปปวัตนสูตร เสด็จประทับมุขเหนือ พระยาศรีสิงหเทพนำพระวิภาคภูวดล ๑ หลวงกำจัดไพรินทร ๑ นายศรีสับลุตเตอแนนต์ ๑ มิสเตอบุชสับลุตเตอแนนต์ ๑ กับออฟฟิศเซอทหารมหาดเล็ก ๒ มิสเตอลุยโลโนเวน กัปตันทหารม้าหน้า ๑ กัปตันและออฟฟิศเซอ ๔ คน กราบถวายบังคมลาไปทำแผนที่เขตต์แดนทางเมืองลาวตะวันออก แล้วเสด็จกลับประทับมุขตะวันออก ครั้นพระสงฆ์สวดมนต์จบเสด็จประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์แห่กลับเหมือนวานนี้ พระสงฆ์ขึ้นมาถวายไชยมงคลเหมือนกันแล้ว เสด็จขึ้นทางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เสด็จลงทรงรับพระกรที่เกยหน้าห้องฉนวนเหมือนวานนี้ วันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์เยียรบับ ทรงเครื่องราชอิสสริยยศจุลจอมเกล้าและดวงสตาอื่นๆ พระภูษาเขียนทอง เจ้านายข้าราชการฝ่ายพลเรือนทรงฉลองพระองค์เยียรบับ สวมเสื้อเยียรบับเข้มขาบ ทรงเขียนทองนุ่งสมปักลาย ฝ่ายตำรวจทหารแต่งเต็มยศ

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกห้องออกขุนนางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระมหาราชครูพิธีพระครูอัษฎาจารย์ หลวงราชมุนี หลวงศรีวาจารย์ พราหมณ์ขุนหมื่นถวายน้ำสังข์ข้าวตอกและของอื่น ๆ ซึ่งเข้าพระราชพิธี แล้วพระราชทานเงินตามเคยทุกปีมา

วัน ๓ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จลงส่งพระองค์เจ้าทรงพระยานุมาศที่เกยท้องฉนวนแห่เหมือนวานนี้ แล้วเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ปราสาท ครั้นแห่มาถึงมีการมหรสพอย่างเช่นวานนี้ พอพระยานุมาศมาถึงทรงรับพระกรพระองค์เจ้าทั้ง ๓ พระองค์ แล้วทอดพระเนตรกระบวนหลังต่อไปจนถึงมหาดเล็กแล้ว เสด็จขึ้นบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททรงนมัสการทรงศีลแล้ว พระสงฆ์ ๓๐ รูปเจริญมหาสมัยสูตรจบแล้ว เสด็จลงมาประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ ส่งพระเจ้าลูกเธอทรงพระยานุมาศแล้วแห่กลับ ต้องจุดไฟเหมือนกันทั้งสามวัน แล้วเสด็จกลับตามทางเดิม เสด็จขึ้นแล้ว เสด็จลงไปรับพระกรพระองค์เจ้าที่เกยท้องฉนวน และ พระราชทานแจกเงินกระบวนแห่แล้วเสด็จขึ้น วันนี้ทรงฉลองพระองค์และพระภูษาเยี่ยรบับ ทรงเครื่องราชอิสสริยยศจักรีบรมราชวงศ์และดวงสตาอื่น ๆ เวลาค่ำไม่ได้เสด็จออก

วัน ๔ ๒ ค่ำ เวลาเช้า ๒ โมงเศษเสด็จลงส่งพระเจ้าลูกเธอที่เกยหน้าท้องฉนวน แห่ออกประตูราชสำราญเหมือนวันก่อน ๆ ด้วยพระฤกษ์สาย ถ้าพระฤกษ์เช้าแล้วเคยแห่แต่พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ไป ทรงส่งพระกรแล้วเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ พอกระบวนแห่มาถึงมีการมหรสพตามธรรมเนียม พอพระยานุมาศมาถึงทรงรับพระกรพระเจ้าลูกเธอขึ้นทั้ง ๓ พระองค์ แล้วทอดพระเนตรกระบวนแต่ไม่ทันหมด เสด็จขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระองค์เจ้าผลัดเครื่องทรงเครื่องถอดเสร็จแล้วเสด็จออกไปประทับข้างนอก แบ่งพระเกษาเป็นสามส่วนแลัวครั้นเวลาเช้า ๓ โมง ๕๐ นาฑีได้พระฤกษ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศีลแล้วทรงจรดพระกรรไกรตัดพระเมาลีพระเจ้าลูกเธอทั้ง ๓ พระองค์ องค์ละส่วน อีกสองส่วนทรงพระกรุณาโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ ทรงตัดคั่นกันไปดังนี้ พระองค์เจ้าจันทราสรัทวาร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ และกรมขุนภูวนัยทรงตัดพระองค์เจ้าสุวภักตรวิไลพรรณ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ และกรมหลวงวรศักดิ์ทรงตัด พระองค์เจ้าเยาวมาลนฤมล กรมขุนบดินทร์ และกรมขุนเจริญผล โสกันต์เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปที่ที่สรง พระองค์เจ้าสรงน้ำที่เขาไกรลาศแล้วเสด็จขึ้นที่สรง พระราชทานน้ำพระพุทธมนต์แล้ว กรมพระราชวังบวรสถานมงคล แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นต่างกรมในพระบรมมหาราชวังทรงรดทุกพระองค์ แล้วเสนาบดีเจ้าพระยาทั้ง ๕ คนถวายน้ำพระพุทธมนต์ พระครูพราหมณ์ทั้งปวงถวายน้ำกลศน้ำสังข์ พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ฝ่ายในทรงรดด้วยแล้วเสด็จออกทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน เมื่อโสกันต์นั้นพระสงฆ์ถวายไชยมงคล เจ้าพนักงานประโคมดุริยางคดนตรีตามธรรมเนียม เมื่อเวลาสรงก็ประโคมเหมือนกัน พระสงฆ์ฉันแล้วพระเจ้าลูกเธอทั้ง ๓ พระองค์ แต่งพระองค์ทรงสะไบตาดผ้าทรงจีบเสด็จออกมาเฝ้า ทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์พระราชทานแล้ว โปรดให้ถวายของพระสงฆ์องค์ละ ๑๐ รูป แล้วเสด็จมาประทับพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ พระองค์เจ้าแต่งพระองค์ทรงชฎา ๕ ยอด ทั้ง ๓ พระองค์เสร็จแล้วแห่กลับ เวลาเที่ยงเศษ กระบวนแห่แต่งเครื่องขาวเป็นเครื่องศรี และเสด็จขึ้นรับพระกรที่เกยท้องฉนวน เวลาเช้านี้พระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์เยียรบับพระภูษาเขียนทอง ทรงเครื่องราชอิสสริยยศสะพายนพรัตนราชวราภรณ์

เวลาบ่ายตั้งกระบวนแห่ตามทางเดิมกระบวนแห่มาถึงเกือบค่ำ เพราะแห่เกือบค่ำแล้ว เสด็จออกทางพระที่นั่งจักรีเหมือนกัน เสด็จมาทรงรับพระกรพระเจ้าลูกเธอขึ้นไปสมโภชบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนถ้วนเบญจวาร แล้วพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ด้วยน้ำพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏ และทรงเจิม แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าฝ่ายในและเสนาบดีเจ้าพระยาถวายทรงเจิมเป็นลำดับ คือกรมพระราชวังบวร กรมหลวงวรศักดา สมเด็จกรมพระ กรมขุนภูวนัย สมเด็จกรมหลวง ๒ พระองค์ สมเด็จพระนางเจ้า พระองค์แม้นเขียน เจ้าพระยาสุรวงศ์ เจ้าพระยาภาณุวงศ์ เจ้าพระยาพลเทพ เจ้าพระยามหินทร เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ ของพระราชทานสมโภชเงินพระคลังมหาสมบัติ ๕ ชั่ง พระคลังใน ๒๐ หีบ หมากเสวยลงยาหีบ ๑ พระธำมรงค์เพ็ชรสำรับ ๑ เหมือนกัน ๓ พระองค์ สมโภชแห่แล้วกลับเกือบทุ่ม เวลาเย็นนี้พระเจ้าลูกเธอทรงพระมงกุฎทั้ง ๓ พระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสะพายเครื่องราชอิสสริยยศช้างเผือก

วันนี้พระวิภาคภูวดล และข้าหลวง ออฟฟิศเซอทหารมหาดเล็กและออฟฟิศเซอทหารหน้า ทหารหน้า ๒๐๐ ไปทำแผนที่พระราชอาณาเขตต์ ทางเมืองลาวตะวันออก ออกจากกรุงวันนี้

วัน ๕ ๒ ค่ำ กลางวัน ๆ นี้ไม่ได้เสด็จออก เวลายาม ๑ เสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระพิเรนทรเทพข้าหลวง พระยาวิเศษฦาไชยกรมการเมืองฉะเชิงเทรา ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ว่าได้ชำระความรายจับสุรา ได้เอาตัวจีนที่ต้องหามาถามได้ความว่า ขุนระวังไพรีแนะนำให้ต้มสุราเถื่อนจะช่วยป้องกัน และสืบพะยานได้ความว่าเวลานายอากรไปจับจีนต่อสู้ ขุนระวังไพรีเรียกจีนช่วย พวกนายอากรสู้ไม่ได้หนีมา แต่พวกจีนที่ต้องหายังไม่ได้ตัว มีผู้รับส่งบ้างยังบ้าง ฉะบับ ๑ ว่ามีผู้กล่าวโทษว่าขุนระวังไพรีไม่ถือน้ำ ชำระถามแก้ว่ามาเสมอเว้นแต่เจ็บ ตรวจหางว่าวไม่มี พระยาวิเศษถอดขุนระวังไพรีเสียตั้งคนอื่นแทน

พระนรินทร์อ่านบอกเมืองภูเก็ต ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ว่ามิสเตอรเลนเซน ถือหนังสือหลวงทวีปสยามกิจมาว่า มิสเตอรเลนเซนจะขอมาตั้งสกูลสอนหนังสือในเมืองภูเก็ต พระยาภูเก็ตเห็นว่ายังไม่เคยมีใครมาตั้งแต่ก่อนมาจึงมีบอกเข้ามา โปรดให้อนุญาตให้ตั้ง แต่ให้ระวังอย่าให้มาตั้งเป็นบาดหลวงสอนศาสนาขึ้นได้ ฉะบับ ๑ ว่าคลื่นซัดทุ่นเหล็กกับสายโซ่มาติดอยู่ที่หาดทรายเมืองภูเก็ตได้เอามารักษาไว้ ภายหลังเมืองถลางบอกมาว่ามีทุ่นเหล็กกับสายโซ่กับขวดใบหนึ่งมาติดที่หาดทรายเมืองถลาง พระยาภูเก็ตได้เอามารักษาไว้ บอกเมืองประจวบคิรีขันธ์ ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ถวายพระราชกุศล ทำบุญปลงศพพระพิไชยชลสินธุ์เจ้าเมือง ที่เมืองเพ็ชรบุรี ฉะบับ ๑ บอกส่งเครื่องยศพระพิไชยชลสินธุ์ พระนรินทร์นำพระพลเมืองเพ็ชรกับหลวงพิไชยสงครามเมืองประจวบเฝ้า เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง เวลาเกือบ ๒ ทุ่มเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๒ ค่ำ วันนี้เดิมว่ากงสุลวิลันดาจะเฝ้าแล้วไม่ทรงสบาย โปรดให้นัดเลื่อนไป บ่าย ๔ โมงเสด็จออกซิตติงรูม พระยาโชฎึกนำหลวงภาษีวิเศษเฝ้าถวายของตรุษจีน จีนกิมเต๊กถวายของและเรื่องราวขอทำอากรค้างพริกไทย เสด็จขึ้นก่อน ๕ โมง เวลาค่ำไม่ได้เสด็จออกไม่ทรงพระสบาย

วัน ๗ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเสด็จออกออฟฟิศหน่อยหนึ่ง ทรงสั่งให้เลิกประชุมแล้วเสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๔ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ครึ่งยศทหาร ทรงดวงตราเครื่องราชอิสสริยยศจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จออกประทับพระที่นั่งพุดตาลพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทตามตำแหน่ง เจ้าพนักงานประโคมแตรมโหรทึก ทหารแตรสรรเสริญพระบารมี แล้วเจ้าพนักงานกรมมหาดไทยนำเจ้าราชวงศ์แสนท้าวพระยาลาวเมืองน่านกราบถวายบังคมลากลับบ้านเมือง พระราชทานเงิน ๓ ชั่ง เสื้อผ้าแล้วเสด็จขึ้น ค่ำไม่ได้ออก

วัน ๑ ๒ ค่ำ ไม่มีราชการอะไร

วัน ๒ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ เมงเศษ เสด็จออกซิตติงรูม รับสั่งถามกรมหมื่นประจักษ์ด้วยเรื่องเจ้าหมื่นไวยกราบบังคมทูล ว่ากรมหมื่นประจักษ์เที่ยวพูดว่าที่เรื่องดินไดนาไมต์นั้นเจ้าหมื่นไวยสั่งเข้ามาและว่าคิดกบฏด้วย

เวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จออกประทับดรออิงรูม เจ้าพนักงานกรมวังกรมท่าราชเอดเดอแกมป์นำมิสเตอบีเอสฮาเมล์กงสุลวิลันดากับภรรยาเข้ามาเฝ้ากราบถวายบังคมลากลับไปเมือง ทรงพระราชปฏิสันถารโดยควรกับที่ทรงคุ้นเคย และถวายแผนที่แผ่นดินยาวาและเกาะที่เกิดภูเขาไฟระเบิดแผ่นหนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานตราจุลสุราภรณ์แก่กงสุลดวงหนึ่ง แล้วกราบถวายบังคมลาเข้าไปเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชเทวี ที่ห้องดรออิงรูมในพระที่นั่งสมมติเทวราช สมเด็จพระนางเจ้าพระราชทานที่ปักดอกไม้ถมแก่ภรรยากงสุลคู่ ๑

สมเด็จกรมหลวงนำเจ้าราชสัมพันธวงศ์เมืองเชียงใหม่เข้าเฝ้าถวายแหวนพลอยทับทิม ๗๐ วง กับหวีทำด้วยทองคำประดับพลอยทับทิมหวี ๑ พระยาโชฎึกนำเจ๊สัวนายอากรถวายของตรุษจีน พระวุฒิการถวายบัญชีพระสงฆ์ที่จะตั้งตำแหน่ง และทูลว่าเณรชมเปรียญมจะบวช เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๑๐ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกประทับซิตติงรูม ปลัดวังซ้ายนำนายกองปลัดกองญวนถวายของตรุษจีน แล้วพระยามหามนตรีเฝ้าทูลเรื่องเรือที่จะเสด็จพระราชดำเนินพระพุทธบาท แล้วกรมหมื่นศิริธัชเฝ้ารับสั่งเรื่องความพระนายไวยหากรมหมื่นประจักษ์ ว่าเที่ยวพูดว่าพระนายไวยสั่งดินไดนาไมต์และว่าคิดกบฏ ซึ่งโปรดให้สืบพะยานไม่สมว่ากรมหมื่นประจักษ์พูดดังพระนายไวยหา พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จขึ้น

เวลาค่ำไม่ได้เสด็จออก

วัน ๔ ๑๑ ๒ ค่ำ เวลากลางวันไม่ได้เสด็จออก เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองนครจำปาศักดิ์ถึงพระยาวาปีไพบูลย์เมืองนครเพงเมืองขึ้นเมืองนครจำปาศักดิ์ ไปสืบราชการทัพฮ่อส่งสำเนาหนังสือเมืองสองคอนดอนดงมา ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ว่า เมืองไลได้ความว่าฮ่อตั้งอยู่เมืองงาน ๒,๐๐๐ เศษ ราชการสำคัญอยู่ให้พร้อมกันแต่งท้าวเพี้ยออกรักษาด่านทางจงกวดขัน ฉะบับ ๑ ว่าฮ่อตีเมืองงานเพราะโกรธท้าวขัตติย ๆ ฆ่าฮ่อตาย ๖๐ คนเศษ และส่งหนังสือเมืองทองคำใหญ่ถึงเมืองจำปาศักดิ์ว่าเมืองสองคอนดอนดงมีหนังสือมาว่า ท้าวไชยสารเมืองอุบลบอกมาว่าฮ่อจะยกมาตีเมืองบริคัณหนิคม ให้เกณฑ์คนเมืองมุกดาหารเมืองสองคอนดอนดง ๓๕๐ ไป เจ้านครจำปาศักดิ์เห็นว่าเป็นราชการสำคัญได้แต่งท้าวพระยาคุมไพร่ ๑๕๐ คน ขึ้นไปฟังราชการ และกำหนดจะเดินช้างสำคัญลงมาในเดือน ๓ ปีนี้ จะโปรดให้เจ้าจำปาศักดิ์ลงมาหรือจะให้อยู่รักษาเมือง หรือจะให้เจ้าอุปราชอยู่แล้วแต่จะโปรด บอกพระยาโคราชส่งเงินปี้จีนปีะเมียจัตวาศกจีน ๑,๐๒๒ คน เงินค่าแรง ๕๑ ชั่ง ๒ ตำลึง ค่าฎีกา ๒ ตำลึง ๒ บาท ลงมาไม่รับพระราชาานค่าสิบลด บอกกรมการเมืองเพ็ชรบูรณ์ว่า พระเพ็ชรพืชภูมิ์ปลัดและกรมการ ๑๑ นาย ไพร่ ๒๐๐ ลงมาเข้ากองทัพใหญ่ พระเพ็ชรพืชภูมิ์ปลัดลงมาอยู่ที่สระบุรี ป่วยอาเจียรโลหิต ๖ ครั้ง แล้วถึงแก่กรรม บอกพระยาชัยนาท ขอหมื่นทิพรัตนสมบัติ เป็นหลวงกำแหงพลล้านปลัด หมื่นทิพรัตนสมบัติลงมาเฝ้าด้วย พระยาศรีนำพระกำแหงพราหมณ์ปลัด พระพิทักษภูธรยกกระบัตรเมืองสุโขทัยทูลลา พระนรินทร์นำพระยาสมบัติภิรมย์ พระอนุรักษโยธา ทูลลา พระอนุรักษ์ไปชำระความจีนตันมาบุ๋น พระยาสมบัติภิรมย์ไปรักษาการบ้านเมือง

และพระยาศรีได้นำจมื่นสมุหพิมานถวายบังคมลาไปชำระความผู้ร้ายฆ่ากันตายที่พระพุทธบาท เรื่องที่กงสุลฮอลันดามากราบทูลด้วย

วัน ๕ ๑๒ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จออกประทับซิตติงรูม ทรงสับนากเพลิงพระราชทานเพลิงศพ หม่อมเจ้าพระญาณวราภรณ์ หม่อมเจ้าพระสังวรประสาทน์ หม่อมเจ้าลม้ายพนักงานที่ หลวงเทพราชธาดา แล้วกรมหมื่นประจักษ์ พระยานรรัตน์ พระนายสรรเพ็ธเฝ้า กราบทูลด้วยการที่จะจัดวอและม้ารถและการที่จะจัดการกำกับพระประเทียบที่จะตามเสด็จพระราชดำเนินนมัสการพระพุทธบาทและพระฉาย กรมหมื่นเทววงศ์เฝ้าถวายเพ็ชรที่สั่ง พระองค์ทองแถมถวายแผนที่บางปะอินที่จะทำงาน เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเกิดเพลิงไหม้ถนนเจริญกรุง หลังตึกจีนจิ๋วในบ้านพระสถลรัถยาธิบาล และบ้านราษฎรเป็นอันมาก เพลิงไหม้แต่หลังโรงพิมพ์ซึ่งเป็นออฟฟิศกรมพระนครบาลจนถึงริมหลังตึกแถวตลอดถึงกำแพงวังกรมขุนภูวไนย เสด็จพระราชดำเนินแต่พระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งไชยชุมพล แล้วเสด็จไปประทับทอดพระเนตรที่ป้อมสัญจรใจวิง จนไฟโซมแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับเวลายาม ๑

วัน ๖ ๑๓ ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกซิตติงรูม พระยาภักดีภัทรากรหลวง ๆ เจ้าภาษีถวายของตรุษจีน แล้วกรมขุนบดินทรเฝ้าทูลเรื่องความในศาล เจ้าและหม่อมราชวงศ์ถวายหนังสือเรื่องความ ๒ ฉะบับ พระยามหาเทพถวายใบสั่งฎีกา พระยาศรีสุนทรถวายสัญญาบัตร ๙ ฉะบับ วิสุงคามสีมา ๕ ฉะบับ ทรงเซ็นพระราชหัตถเลขา แล้วหลวงนายศักดิ์ หลวงนายสิทธิ์ จ่าเรศ จ่ารง ถวายบาญชีเบี้ยหวัดมหาดเล็ก ๔ เวร พระองค์สวัสดิเฝ้าทรงหนังสือราชการจนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาย่ำค่ำพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างใน เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกจะออกขุนนาง แต่ขุนนางกลับไปเสียหมด เสด็จประทับในออมฟิศ รับสั่งกับกรมหมื่นเทววงศ์เรื่องความต่าง ๆ มีเรื่องจีนตันมาบุ๋นและเรื่องมิสเตอรราสตแมน และเรื่องการโทรเลขไปรษณีย์และอื่น ๆ พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงพระราชหัตถ์และอื่นๆ แล้วโปรดให้กรมหมื่นศิริธัชสอบถามคนที่ร้องฎีกาขอพระยาสุดารัตน์เป็นพระยากาญจนบุรี ว่าคนที่เข้าชื่อนั้นเขารู้เห็นด้วยแน่หรือ แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๑๔ ๒ ค่ำ เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เสด็จประทับทรงจุดเทียน นมัสการ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายศีล ทรงศีล โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอไปจุดเทียนสังเวยเทวดา อาลักษณ์อ่านประกาศ พระราชาคณะ ๒๐ รูปถวายพรพระจบ เสด็จทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน มีขนมจีนและอื่นๆ ตามกาลสมัยตรุษจีนเช่นเคยมาทุกปี พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วเสด็จทรงประเคนหมากพลูธูปเทียน พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาถวายพระพรลา แล้วโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปปล่อยปลา แล้วเสด็จประทับกลางพระที่นั่ง เจ้าพระยา พระยา พระ หลวง ข้าราชการ ผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้ารับสั่งกับเจ้าพระยาพลเทพ เรื่องจะคิดกันคนในเมืองเหนือคบคิดกับผู้ร้ายลักไม้ขอนสักของผู้ที่ทำป่าไม้

แล้วพระยาศรีอ่านบอกเมืองอุทัยธานี ขอศิลาหน้าเพลิงเผาศพพระพิทักษอุทัยเขตต์ บอกพระยานครราชสีมาว่า พระภักดีศรีสุริยวงศ์เจ้าเมืองประโคนไชยตาย ขอศิลาหน้าเพลิงเผาศพ บอกอุปฮาดราชวงศ์เจ้าเมืองสาลวัน ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ขอศิลาหน้าเพลิงเผาศพเอกราชเจ้าเมืองฉะบับ ๑ ส่งเงินส่วยเมืองสาลวัน ๖ ชั่ง

พระนรินทร์อ่านบอกพระศรีโลหภูมิพิทักษ์ ผู้ช่วยเมืองระนอง ส่งเงินภาษี ๕ อย่างปีมะเส็งตรีศก หักจ่ายใช้ราชการเงินเดือนเรือรบและอื่น ๆ เมื่อปีมะเมีย ๒๒๑ เหรียญ คงส่ง ๙๘๗๘ ๗๕ }เหรียญ

พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระเทพสงครามปลัดเมืองจันทบุรีขอที่ผูกพัทธสีมาวัดสมุทรคงคาฉะบับ ๑ บอกพระยานนท์ ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ว่าได้แต่งกรมการแทนเสนาเดินเก็บค่านาจำนวนปีมะเมียจัตวาศก ฉะบับ ๑ ว่าอ้ายสิงฟันอำแดงสุกตาย อ้ายสิงหนีไม่ได้ตัว เสด็จกลับขึ้นมาถึงหน้าหอราชพิธีกรรม พระยาโชฎึกนำจีนเจ้าภาษีถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นมาประทับหน้าท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรี หลวงนายสิทธิ์ถวายกะบะหมากและเครื่องในทองคำสำรับ ๑ แล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษ กรมหมื่นเทววงศ์ตั้งกล้องเห็นดาวหาง จดหมายถวาย เสด็จออกมาทอดพระเนตรดาวหางที่ออฟฟิศ ครู่หนึ่งเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๑๕ ๒ ค่ำ เวลาเช้า ๕ โมงเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี เสด็จทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ทรงจุดเทียนนมัสการ สมเด็จพระวันรัตถวายศีลแล้วเสด็จทรงประเคน พระราชาคณะพระครูฐานา ๒๐ รูปรับพระราชทานฉัน ครั้นฉันแล้วพระวุฒิการนำพระสงฆ์ที่จะรับสัญญาบัตรเข้ามา เสด็จทรงประเคนสัญญาบัตรและไตรแพรให้พระครูวิเศษสีลคุณเป็นพระวินัยมุนี ราชาคณะ นิตยภัตร ๓ ตำลึง พระราชทานตาลิปัตรแฉกหักทองขวางพัดรองและบริกขารอื่น ๆ เป็นเครื่องยศสำหรับพระราชาคณะเป็นอันมาก คงอยู่วัดอมรินทร์ ๑ และทรงประเคนสัญญาบัตรไตรแพรให้มหาศุขเปรียญ ๔ ประโยค เป็นพระประสิทธิสุดคุณพระราชาคณะนิตยภัตร ๔ ตำลึง พระราชทานตาลิปัตรแฉกหักทองขวางและอื่น ๆ เหมือนกัน คงอยู่วัดอมรินทร์ ๑ แล้วทรงประเคนสัญญาบัตรผ้าไตรสลับแพรให้พระครูวิสุทธิสาร ฐานากรมหมื่นวชิรญาณ แต่อยู่วัดบุรณศิริเป็นพระครูเขมาภิมุขธรรม นิตยภัตร ๒ตำลึง พระราชทานตาลิปัตรพุดตาลหักหองขวางและบริกขารอื่น ๆ เป็นเครื่องยศ ไปอยู่วัดเขมาภิรตาราม ๑ ให้พระสมุหบุบผะขะมะวัดบางพูดใน เป็นพระครูรามัญสนณคุต นิตยภัตร ๒ ตำลึง พระราชทานตาลิปัตรพุดตาลหักทองขวางและอื่น ๆ เหมือนกัน ไปอยู่วัดกระวิศราราม ๑ ให้พระอาจารย์กลักเป็นพระครูสาธุธรรมคุณาธาร นิตยภัตร ๑ ตำลึง ๒ บาท พระราชทานตาลิปัตรพุดตาลและอื่น ๆ เหมือนกัน คงอยู่วัดทองธรรมชาติ ๑ แล้วทรงประเคนสัญญาบัตรและผ้าไตรให้เจ้าอธิการต่าย เป็นพระครูธรรมาภิรัต พระราชทานตาลิปัตรพุดตาลอัตลัดเลวบริกขารเล็กน้อย คงอยู่วัดกันมาตุยาราม ๑ ให้พระปลัดสุดวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระครูสังฆปาโมกข์เจ้าคณะใหญ่ พระราชทานตาลิปัตรเปลวเพลิงทองแผ่ลวดและของอื่น ๆ ไปอยู่วัดท่าธานีเมืองสุโขทัย ๑ ให้พระสมุห์ชุ่มเป็นพระครูสังฆปาโมกข์เจ้าคณะใหญ่ พระราชทานตาลิปัตรเปลวเพลิงหักทองขวางและอื่น ๆ คงอยู่วัดเขาพลอยแหวนเมืองจันทบุรี ๑ ให้เจ้าอธิการเรืองวัดสว่างอารมณ์ เป็นพระครสิงหมุนีเจ้าคณะใหญ่เมืองสิงห์ พระะราชทานตาลิปัตรพุดตาลทองแผ่ลวด และของอื่นๆ คงอยู่วัดเดิม ขณะนั้นพระสงฆ์สวดไชยมงคลขึ้นพร้อมกัน ครั้นครองผ้าเสร็จแล้ว เสด็จทรงประเคนหมากพลูธูปเทียน พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ทรงพระกรุณาโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปปล่อยปลา แล้วเสด็จออกขุนนางที่นั่น พระยาศรีอ่านบอกพระยาลพบุรี ขอเบิกเงินค่าข้าวสารจ่าย เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเมืองลพบุรีฉะบับ ๑ บอกกรมการกรุงเก่า ว่าด้วยผู้ร้ายปล้นบ้านอำแดงเกิดอำแดงทิมสืบจับยังไม่ได้ ยังติดตามอยู่ แล้วเสด็จขึ้น เวลาค่ำไม่ได้เสด็จออกอีก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ