แหล่เทศน์มหาชาติ ของพระกว้าง วัดประยุรวงศ์

๏ รูปจะริเริ่มเพิ่มนิพนธ์ สาธุชนจงวิจารณ์
โดยข้อคำร่ำขาน ในพงศาวดารฝ่ายอุดร
๏ แต่ครั้งกรุงไทยยังอยู่ไกลเหลือ แรกเมืองเหนือตั้งนคร
กษัตริย์ลำดับมาซับซ้อน ผลัดเปลี่ยนนครมามากมี
๏ จนถึงเชียงแสนเปนแว่นแคว้นใหญ่ อำนาจแผ่ไปทุกธานี
กษัตริย์ดำรงทรงบุรี ทรงนามพระศรีธรรมไตร
๏ ปิฎกชำนาญพระผ่านสมบัติ์ เปนจอมกษัตริย์อันยิ่งใหญ่
ให้จ่าทั้งสองที่ต้องพระไทย ไปสร้างเมืองใหม่อิกธานี
๏ เสด็จสถิตอยู่พิษณุโลก อิกนามหนึ่งโอฆบุรี
ทรงสร้างพระธาตุเจดีย์ วิหารสี่งามสูงทรง
๏ จะทรงหล่อพระประดิษฐาน ไว้ในวิหารอิกสามองค์
ให้หาช่างที่อย่างยิ่งยง ได้เสร็จประสงค์ทั้งห้าพราหมณ์
๏ ท้าวทรงสร้างเปนอย่างกันไป สุดแต่พระไทยที่เห็นงาม
ปั้นรูปเข้าดินสิ้นทั้งสาม แล้วเริ่มพระนามตามพระไทย
๏ แต่พระชินราชขนาดที่อ้าง หน้าตักกว้างโดยกล่าวไว้
ห้าศอกคืบยังสืบไข ห้านิ้วในมีเศษนา
๏ แต่พระชินศรีนี้ท่านบอก ว่ากว้างห้าศอกสี่นิ้วหนา
กำหนดขนาดพระศาสดา ว่ากว้างหนึ่งวาหกนิ้วตรง
๏ ให้หาสำรองล้วนทองสำริด ได้เสร็จกิจสมประสงค์
ครั้นหล่อเสร็จสำเร็จลง ให้ต่อยองค์พระปฏิมา
๏ พระทั้งสองทองแล่นดี คือพระชินศรีกับพระศาสดา
แต่พระชินราชประหลาทนักหนา พอต่อยออกมาไม่เปนองค์
๏ ทรงหล่อสามคราดูน่าอนาถ ไม่สมพระราชประสงค์
จอมกษัตริย์ขัตติยพงศ์ ท้าวเธอทรงโทมนัสใน
๏ ทรงตั้งสัจจาด้วยบารมี กับพระราชเทวีร่วมพระไทย
อำนาจพระองค์ที่ทรงเลื่อมใส เห็นผลได้ในปัจจุบัน
๏ มีปะขาวนั้นเข้ามาช่วย ทำการด้วยช่างทั้งนั้น
ไม่หย่อนหยุดสุดขยัน จนแล้วทันไม่ช้าที
๏ วันเมื่อหล่อพระชินราช วิสาขมาสขึ้นอัฐมี
วันพฤหัสบดิ์เปนสวัสดี นพศกปีมะเสงนา
๏ พุทธกาลล่วงนานไม่น้อย ได้พันห้าร้อยพระวัสสา
ส่วนปะขาวก็ก้าวไคลคลา ไปทางอุตราแล้วหายพลัน
๏ ที่ปะขาวหายจึงได้เรียกขาน ติดชื่อบ้านมาจนทุกวัน
ฝ่ายพระองค์ทรงธรรม์ รับสั่งช่างนั้นโดยจำนง
๏ รวมทองชนวนล้วนเศษเชื้อ แล้วหล่อพระเหลือขึ้นอิกองค์
ปลูกโพธิ์สามเส้าบอกเค้าตรง ที่หล่อองค์พระปฏิมา
๏ กล่าวย่อย่อพอเปนสมาส พระชินราชองค์อุตรา
พอรู้เรื่องเริ่มองค์เดิมมา ช่างงามนักหนาหาไม่มี
๏ กษัตริย์องค์สร้างเปนอย่างปรากฎ พระเกียรติยศรุ่งเรืองศรี
พระชนม์ไม่น้อยร้อยห้าสิบปี พระบารมีมากสามารถ
๏ กษัตริย์พระองค์ใดมีพระไทยปราโมทย์ เสด็จไปสมโภชพระชินราช
ทรงพระอุส่าห์เปนสามารถ ย่อมเรืองพระอำนาจทุกพระองค์มา
๏ พระเจ้าอยู่หัวเราทั่วทุกท่าน ในรัชกาลที่ท้า
รัตนโกสินทร์มหินทรา ปกสยามาทั่วมณฑล
๏ ทรงสร้างอารามนามเบญจมะ ทรงหาพระประธานโสภณ
ทั่วรอบอารามสยามมณฑล ไม่พอพระกมลราชฤทัย
๏ ทรงเห็นแต่พระชินราช พระสิริวิลาสเลิศวิลัย
ต้องพุทธลักษณ์พระพักตร์ประไพ ควรจำลองไว้เปนพระประธาน
๏ ให้หลวงประสิทธิไปประดิษฐปั้นถ่าย ให้เหมือนละม้ายทุกประการ
แล้วตีสายแจ้งรายงาร ตามข้อการเนืองเนืองมา
๏ จะเสด็จจรดลทางชลมารค เวลาน้ำหลากเมื่อในพรรษา
ให้พระราชมุนีพิธีมหา ขึ้นไปจำพรรษารับราชการ
๏ วันจะเสด็จเตรียมเสร็จพร้อมพรั่ง เอาเรือพระที่นั่งเข้ามาขนาน
พระวงศาข้าราชการ พร้อมกรมทหารทั้งบกทั้งเรือ
๏ ที่นั่งกลไฟพอได้เวลา ก็เคลื่อนจากท่าขึ้นทางเหนือ
บ้างนำบ้างตามออกหลามเหลือ บ้างลากเรือแล่นดูแน่นเนือง
๏ พอถึงตำบลมณฑลมหาดไทย ก็ตกแต่งไว้รับทุกเมือง
ดูสอาดสอ้านเปนการรุ่งเรือง เปนที่ประเทืองยกประเทศไทย
๏ พระเจ้าน้องยาเสนาบดี ท่านทรงถ้วนถี่ตั้งพระไทยใส่
มิให้เรี้ยวรกสกปรกขึ้นได้ มีกำนันผู้ใหญ่คอยให้ตรวจตรา
๏ พอเสด็จถึงที่บุรีโอฆ พิษณุโลกประทับทอดท่า
ตวันชายบ่ายเวลา เสด็จขึ้นวันทาพระชินราช
๏ ทรงปิดทองผุดผ่องโสภณ พระราชกมลยิ่งใสประสาท
พร้อมอามิสบูชิตพระชินราช พระภูษาทรงคาดอิกสายสังวาลย์
๏ เวียนเทียนสมโภชอุโฆษประดัง มีละคอนแลหนังข้าราชการ
พิธีที่หล่อเตรียมรอฤกษ์วาร ตั้งตามโบราณที่ท่านก่อนทำ
๏ ได้ฤกษ์เททองทุกกองเตรียมเสร็จ เปนเดือนสิบเอ็ดขึ้นแปดค่ำ
วันรวิเปนสิริล้ำ ฉลูประจำตกในศกตรี
๏ พุทธกาลล่วงนานไม่น้อย สองพันสี่ร้อยสี่สิบสี่
ถ้าใช้วันปัจจุบันนี้ ยี่สิบที่เดือนตุลาคม
๏ โกสินทร์ศกตกร้อยยี่สิบ ต้องยกหยิบตามอย่างนิยม
เศษทองหล่อพระให้รวมสะสม โดยพระบรมราชโองการ
๏ ให้หล่อพระเหลือตามเชื้อก่อนเก่า เก็บอิฐที่เตามาก่อเปนฐาน
ปลูกโพธิ์สามเส้าอย่างเค้าโบราณ ดุจก่อนกาลที่ท่านทำมา
๏ จำลองเสร็จสิ้นพระชินราช แล้วเชิญเคลื่อนคลาดลงนาวา
ล่องกรุงเทพพลันมิทันช้า ประทับทอดท่าหน้าโรงหล่อ
๏ เชิญขึ้นติดแต่งมากแรงเร่งรัด บ้างถูบ้างขัดมิได้รีรอ
แล้วทรงปิดทองเอี่ยมอ่องลออ ดังเทพหล่อเหมือนองค์บน
๏ เชิญลงนาวามหามณฑป เครื่องสูงครันครบรอบมณฑล
สมโภชหนึ่งคืนครึกครื้นในชล ตระเตรียมเกลื่อนกล่นขุนนางต่างกรม
๏ ย่ำรุ่งเริ่มแห่เรือแลออกหลาม วันที่สิบสามธันวาคม
พอเช้าโมงกึ่งเสียงอึงขรม แตรสังข์ระงมในชลธาร
๏ หน้ากระบวรล้วนเปนคู่คู่ มีเรือประตูแลเรือทหาร
เรือเสือเรือสีห์รูปกระบี่ทยาน เสียงเส้าประสานกับเสียงคน
๏ เต็มอย่างแบบหมดยศแห่พระ เหมือนอย่างพยุหะทรงเครื่องต้น
นำเรือพระพุทธสุทธิโสภณ สถิตในมณฑลมณฑปทอง
๏ งามเศวตฉัตรอย่างขัตติยะ งามสักการะรุ่งเรืองรอง
งามเครื่องประดับจับสีทอง ต่างแซ่ซ้องสาธุการ
๏ ทั้งชายหญิงบนตลิ่งแลเรือ แลล้นเหลือดูออกลาน
ทั้งหน้าแพแลหน้าบ้าน ตั้งเครื่องสักการพุทธบูชา
๏ ต่างพร้อมจิตต์คิดประสาท ในพระชินราชทุกถ้วนหน้า
พึ่งได้ประสบพบวันทา เปนบุญตาได้เห็นพระองค์
๏ ช่างงามจริงจริงเปนยิ่งยอดงาม มีเรือแต่งตามล้วนจอมสงฆ์
ดูประดุจพระพุทธองค์ เมื่อพระยังทรงพระชนมาน
๏ จะเสด็จแห่งใดก็ดูดาษดื่น มีสงฆ์สองหมื่นเปนบริวาร
เพื่อประโยชน์มาโปรดเราท่าน ให้พ้นกันดารสิ้นทั้งสี่กอง
๏ เหมือนพระองค์สถิตอยู่พิษณุโลก ลงมาดับโศกเราสิ้นทั้งผอง
ได้ยินพระนามแต่เปนความขัดข้อง สุดที่จะปองขึ้นไปวันทา
๏ พระเดชพระคุณเราบุญถ้วนทั่ว พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงพระอุส่าห์
จำลองเหมือนองค์แล้วเชิญลงมา ให้เราถ้วนหน้าได้นมัสการ
๏ กระบวรหลังพรั่งพร้อมพรัก คิดแต่งเยื้องยักดูวิถาร
ล้วนพลพายแลลายลาน ดูแน่นขนานในนที
๏ บ้างแต่งเรือดูเหลือหลาย ทำส้อนคนพายดูเข้าที
เปนสัตว์ว่ายในวารี บ้างเปนพาชีแลคชา
๏ บ้างทำเปนรูปพระสิทธัตถ์ ขึ้นทรงกัณฐัศว์หนีพระพิมพา
ประหัดประหารมารทั้งห้า เห็นสังขาราเปนอนิจจัง
๏ บ้างทำเปนรูปมารประจญ ยกมารพลมาคับคั่ง
ขึ้นทรงคชาดาประดัง จะแย่งบัลลังก์ให้ล่มจม
๏ บ้างทำเปนนางพสุนธรี มาบิดโมลีมวยผม
เปนชลธารมารล่มจม ต้องน้อมประนมกรวันทา
๏ โขนโรงใหญ่เรือไฟจูงลาก ดูหลายหลากที่ในชลา
บ้างทำบัลลังก์นั่งเทศนา บ้างทำท่าเปนที่โรงหล่อ
๏ ตั้งสูบตั้งเตาบอกเค้ากรม คิดแต่งให้สมตามยี่ห้อ
ต้องรวบรัดตัดแต่ข้อ เนื้อความย่อย่อมิให้ยืดยาว
๏ กระบวรหน้านาวาเบน เข้าคลองสามเสนเสียงอื้อฉาว
เข้าแคบคับคั่งเรือดั้งเย้อวยาว กลองแตรเกรียวกราวมามากมี
๏ สิ่งใดเกะกะที่เรอะระรกราน ต้องรื้อสพานกิมเซ่งหลี
กระบวรหน้าไม่ช้าที พอถึงที่เปนสี่ทาง
๏ ต้องแบ่งกระบวรไม่ถ้วนเต็ม เลี้ยวล่องคลองเปรมมาข้างล่าง
นำเรือพระพุทธสุดสำอาง ประทับทอดรางหน้าอาราม
๏ พอห้าโมงกึ่งแล้วจึงเชิญพระ ขึ้นวัดเบ็ญจมะสถิตแท่นงาม
ควรชนชมประนมประนาม มิได้มีความขัดราคี
๏ เปนที่สังเกตว่าพระเดชพระคุณ จะแผ่ไพบุลย์รุ่งเรืองศรี
พระชนม์ยืนยงทรงพระบารมี เหมือนสมเด็จพระศรีธรรมไตร
๏ แล้วทรงถวายสายนพรัตน์ เอาทรงพระหัดถ์ดูงามวิลัย
เปนพุทธบูชาน่าเลื่อมใส ด้วยพระราชหฤทัยที่ทรงศรัทธา
๏ ทรงโปรดโอกาสให้ราษฎร ชาวพระนครทุกถ้วนหน้า
ผู้ดีไพร่มิได้ว่า ที่มีศรัทธาเข้ามาปิดทอง
๏ แล้วทรงโปรดสมโภชสี่คืน การเล่นครึกครื้นมหกรรมฉลอง
ไม้หกโมงครุ่มมือกุมกระบอง ละคอนโขนร้องอิกดอกไม้ไฟ
๏ พระวงศาข้าราชการ โชว์พระโบราณตั้งเรียงไป
เครื่องแก้วบูชิตชนิดเจียระไน ของเก่าของใหม่ล้วนแต่งงามดี
๏ ออกร้านขายของเปนท่องเปนแถว ดุจการแล้วที่เคยมี
ราชาทุกวัดจัดของดีดี เปรียญพิธีพระครูถานา
๏ เต็มจิตต์เลื่อมใสมิได้ย่อหย่อน แห่เครื่องถาวรวัตถุบูชา
พระชินราชประสาทหรรษา เต็มจิตต์ศรัทธาถ้วนทั่วองค์
๏ ทรงพระประสาทราชดำเนิรเทียน ทรงแวดเวียนพรั่งพร้อมพระวงศ์
ทั้งชินบุตร์สุดจอมสงฆ์ ประทักษิณวงตามกำหนดการ
๏ ถานาอันดับดูนับหลายร้อย สามเณรใหญ่น้อยเนื่องแน่นขนาน
เปนการเคารพครบตติยวาร เปนที่เบิกบานทั่วกมลชน นั้นแหล่ ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ