ย่อเรื่องมัทนะพาธา

ยังมีเทวบุตรองค์หนึ่งชื่อสุเทษณ รักนางฟ้าชื่อมัทนา แต่นางไม่รับรัก เปนเหตุให้ใจเศร้าหมองไม่สบาย เทพสารถีของเธอชื่อจิตรรถรับอาสาแก้ไข พาเอาวิทยาธรชื่อมายาวิน มาทำวิทยามนตร์โยคนิทรา (ฮิบโนติสัม) เรียกนางมัทนามาสู่สำนักพระสุเทษณ ท้าวเธอดีพระไทย ตรัสโลมนางเชอญเปนมเหษี แต่ดูนางไม่มีสติตอบเหลวไหลเหมือนคนมเมอพูด รับสั่งถามเหตุแก่มายาวินได้ความว่าเปนเพราะผูกไว้ด้วยมนตร์ จึงตรัสสั่งให้คลายมนตร์ นางก็รู้ตัวเปนคนปรกติ จึ่งตรัสโลมเล้าเชอญนางเปนมเหษีอีกครั้งหนึ่ง นางกล่าวตัดรอนไม่รับรัก ทำให้กริ้วกราดตรัสสาบให้นางไปเกิดเปนดอกกุหลาบอยู่ในแดนมนุษย ถึงวันเพญให้เปนรูปตามเดิมครั้งหนึ่ง จนกว่าจะมีใจรักผู้ชาย จึ่งมิให้กลับเปนดอกกุหลาบอีก แลเมื่อรู้สึกได้ความทุกข์ ทูลวอนแก่พระองค์ จะทรงพระเมตตาโปรสให้พ้นทุกข

ด้วยอำนาจคำสาบนั้น นางมัทนาลงมาเกิดเปนต้นกุหลาบมีดอกเดียวอยู่ในกลางหิมวันต์ ส่งกลิ่นหอมไปถึงพระฤษีกาลทรรศิน ให้ศิษยมาตามหาพบจึงขุดเอาไปปลูกไว้ที่กุฎี ถึงวันเพญดอกกุหลาบก็กลับรูปเปนนางมัทนาปฏิบัติพระฤษี มีปรุงอาหารที่อร่อยถวายเปนต้น พระฤษีรักบำรุงเลี้ยงดุจว่าเปนบุตรี

ยังมีท้าวชัยเสน เปนเจ้ากรุงหัสตินาปุระ เสดจไปประพาสป่าล่าเนื้อหลงไปถึงกุฎีฤษี วันนั้นผเอิญเปนวันเพญ พระกาลทรรศินกับนางมัทนาต้อนรับท้าวชัยเสน เกิดมีความรักแก่กันขึ้น ถึงเวลาค่ำท้าวชัยเสนลอบไปแอบอยู่น่ากุฎี นางมัทนานอนไม่หลับ ออกมาดูเดือนบ่นพิไรรักท้าวชัยเสนอยู่ที่น่ากุฎี ท้าวชัยเสนได้ทีก็ตอบคำพิไรด้วยความรักแล้วเข้าไปหา ทั้งสองต่างปรีดาปลงใจเปนสามีภริยาแก่กัน พากันไปวักน้ำหมั้นในธาร รุ่งขึ้นรูปนางก็มิได้คืนเปนดอกกุหลาบ จึ่งพากันเข้าไปขอโทษพระฤษี ฝ่ายพระฤษีก็ปิติ ทำพิธีเษกสมรสให้ทั้งสองครองกัน แล้วท้าวชัยเสนก็ลาพระฤษีพานางกลับเข้าเมือง แต่มิได้เข้าสู่วัง ประทับอยู่ ณ สวนขวัญ

จะกล่าวถึงนางวราลีค่อม เปนข้าใช้พระนางจัณฑี ผู้เปนมเหษีท้าวชัยเสนออกมาเก็บดอกไม้ ได้ทราบรหัสจึงนำความไปทูล พระนางจัณฑีก็เสด็จออกมายังสวนด้วยโทษะ พบสององค์อยู่ด้วยกัน กล่าวคำปรามาทด้วยความหึงส์หวง แล้วกลับเข้าวังคิดกับนางวราลี ส่งข่าวสารไปถึงพระราชบิดา ซึ่งเปนพระราชาผู้ครองมคธราษฎร์ ให้พาพลมาตีเมืองหัสตินรปุระเพื่อแก้แค้น ท้าวชัยเสนต้องยกพลออกไปตั้งรับ ได้รบกันพักหนึ่งก็มีข่าวออกไปว่านางมัทนาประชวร ท้าวชัยเสนจึ่งมอบพลให้เสนาผู้ใหญ่รักษาขัดตาทัพอยู่ ส่วนพระองค์กับสุภางค์ผู้เปนทหารสนิทคู่พระไทย เสด็จกลับเข้ามาเพื่อจะเยี่ยมนางมัทนา ณ สวนขวัญ

ครั้นมาถึงก็พบวิทูรพราหมณ์ กำลังกองกูณฑ์บริกรรมทำพิธีอยู่กับนางเกศินีผู้เปนข้าพระนางจัณฑี มีพระบัญชาตรัสไต่สวน พราหมณ์แลทาสีให้การใส่ไคล้ว่านางปริยัมวทา ผู้เปนนางกำนัลของท้าวชัยเสนซึ่งอยู่ด้วยนางมัทนาให้หามาทำอาถรรพณ์ ตรัสสั่งให้ค้นก็ได้รูปสามรูป รูปหนึ่งนั้นเปนรูปชายมีหนามปักอยู่ที่อก อีกสองรูปเปนหญิงกับชายกอดกัน รับสั่งให้ซักถาม ทาสีให้การว่า รูปชายที่มีหนามปักอกคือรูปท้าวชัยเสนจะทำให้สิ้นพระชนมเสีย รูปหญิงชายกอดกันนั้น รูปหญิงคือนางมัทนา รูปชายคือสุภางค์จะทำให้ได้อยู่ร่วมรักกันโดยผาสุก ท้าวชัยเสนตรัสใช้มหาดเล็กให้พานางมัทนากับนางปริยัมวทามา ก็ได้ตัวมาแต่นางปริยัมวทาว่านางมัทนาเวียนพระเศียรมามิได้ รับสั่งถามนางปริยัมวทาก็ปฏิเสธไม่รู้ไม่เหน แต่นางทาสียืนยันเอาว่านางปริยัมวทาใช้ไป ท้าวชัยเสนตั้งกระทู้ถามสุภางค์ แต่สุภางค์ก็ปฏิเสธแลอ้างว่าถ้ามีความรักใคร่กับนางมัทนาแล้ว จะมิฉวยโอกาศที่รับสั่งให้อยู่พิทักษรักษานางนั้นอยู่กับนางเสียแล้วฤๅ นี่ก็หาได้ยอมอยู่ตามรับสั่งไม่ อุตส่าหตามเสดจไปด้วยความกตัญญู จึงรับสั่งว่า ถ้าเช่นนั้นจงไปตัดสีสะนางมัทนามาถวายเปนการพิสูจน์ สุภางค์ก็จนใจไม่ทำได้ ซึ่งมีรับสั่งให้ให้นันทิวรรธนะอมาตย์ผู้ใหญ่เอาตัวสุภางค์กับนางมัทนาไปฆ่าเสีย ให้ขับนางปริยัมวทาไปเสียจากเมือง ให้จำนางทาสีสามปี ให้ตเวนวิทูรพราหมณแล้วนิรเทศไปให้พ้นอาณาจักร

ครั้นท้าวชัยเสนพิพากษาโทษแล้ว ก็เสด็จกลับออกทำสงครามต่อไปจนได้ชัยชนะ จับพระเจ้ามคธราษฎรได้ พอดีวิทูรพราหมณไปเฝ้า ณ ค่ายหลวง ทูลลุแก่โทษว่า ตามที่ทูลว่านางปริยัมวทาหามาทำอาถรรพ์ โดยรับสั่งนางมัทนานั้นไม่จริง ที่จริงพระนางจัณฑีอุบายใช้ให้ทำให้ซัด เพื่อจะกำจัดนางมัทนาเสีย การก็สมหมายเกินไปจนถึงผู้ไม่มีผิดต้องตาย รู้สึกว่าเปนอกุศลกรรมอันใหญ่ เพื่อจะลดหย่อนผ่อนบาปลงเสียบ้าง จึ่งมาทูลสารภาพโทษแล้วแต่โปรส ท้าวชัยเสนทรงทราบว่าเสียรู้ก็เสียพระไทย ชักพระแสงออกจะแทงพระองค์ แต่นันทิวรรธนะเข้ายุดไว้แลทูลเล้าโลม แล้วขอประทานโทษสารภาพผิดว่า หาได้ฆ่านางมัทนาตามรับสั่งไม่ พาออกไปถึงประตูเมืองมีพราหมณ์มาถามเหตุแล้วขอนาง ตนเหนว่าพระองค์ไม่โปรสนางแล้ว จะฆ่าเสียฤๅให้พราหมณพาเข้าสู่ป่าสูญหายไปก็ได้ผลอย่างเดียวกัน จึ่งให้นางแก่พราหมณไป รับสั่งถามว่าพราหมณนั้นชื่อไร อมาตย์ทูลว่าชื่อโสมทัตก็เบาพระไทย เพราะว่าโสมทัตนั้นเปนหัวน่าศิษย์ของพระกาลทรรศิน ตรัสถามถึงสุภางค์ อมาตย์ก็ทูลว่าไม่ได้ฆ่า ได้อนุญาตหลบลี้ไป แต่เขาไม่ไป เขายอมตายด้วยกตัญญู แต่จะตายให้เปนประโยชน์สนองพระคุณ เขาจึงลัดแลงแฝงกายอยู่ในค่ายหลวง ถึงเวลารบ เขาออกนำพลเข้าต่อสู้ข้าศึก ถูกรุมฟันแทงตาย ได้ทรงทราบก็พอพระทัยเพราะศุภางค์ตายโดยได้เกียรติยศอย่างชาติทหาร รับสั่งถามถึงนางปริยัมวทา อมาตย์ทูลว่าไปกับนางมัทนา

ท้าวชัยเสนรับสั่งให้ตั้งการปฐมกรรม ตัดเศียรพระเจ้ามคธราษฎร์เอาเลือดล้างพระบาท แล้วส่งเศียรไปให้นางจัณฑีทูลกระบาลไปสู่แคว้นมคธราษฎร์ วราลีค่อมนั้นให้เฆี่ยนสามยกสักน่าตัดหูตัดจมูก นิรเทศออกไปนอกเขตรแดน ศพสุภางคนั้นให้จัดการทำฌาปกิจกอปรด้วยเกียรติยศใหญ่ แล้วพระองค์เสด็จด้วยแสนยาไปในราวป่าตามหานางมัทนา

ฝ่ายนางมัทนามีความทุกข์ร้อน ตั้งพิธีกองกูณฑ์บูชาสุเทษณเทพ ขอพรให้โปรสช่วยจงพ้นทุกข พระสุเทษณก็มาปรากฎฉเพาะน่า มีพระวาจาตรัสประทานพรให้พ้นทุกข จะทรงพาขึ้นไปเลี้ยงเปนมเหษีให้อยู่เปนสุขบนฟากฟ้า แต่นางก็ดื้อไม่ยอมเปนมเหษีอยู่อย่างก่อน จึ่งตรัสสาปให้เปนดอกกุหลาบไปอย่างเก่าอยู่เปนนิรันดร ไม่มีเวลากลับเปนคน ท้าวชัยเสนตามมาถึงสินางเปนดอกกุหลาบไปเสียแล้ว จึงขุดต้นกุหลาบกลับเข้าสู่พระนคร บำรุงรักษาไว้เปนอย่างดี ให้สืบพืชพันธุ์มาจนทุกวันนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ