ตำรากระบวรเสด็จ ครั้งกรุงเก่า

๏ วัน ๖ ๑๒ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๔๒ ปีชวดโทศก เจ้าพระยาจักรีรับสั่งใส่เกล้า ฯ สั่งว่า ขนบธรรมเนียมราชการทุกวันนี้ฟั่นเฟือนให้

เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช

เจ้าพระยาราชาบริรักษ์

เจ้าพระยาราชนายก

พระยาราชสุภาวเี ลคร

พระยาราชทูต

พระยาสุรเสนา กรมท่า

พระยาธรรมไตรโลก

พระสุรเสนา

พระมหาอำมาตย์

พระอินทราช

พระนิลพล นอกราชการ

หลวงศรีกาฬสมุด

หมื่นนรินทรเสนี นอกราชการ

หมื่นศรีสหเทพ นอกราชการ

พันเทพราช

พันพุฒ

พันภาณ

พันเภา

พันจันท์

นายหงส์ เสมียนนครบาลแต่ก่อนคนเก่า ๒๐ คน มาพร้อมกันณโรงพระแก้วมรกฎ บอกขนบธรรมเนียมราชการตามอย่างแต่ก่อน

(กระบวรเสด็จโดยทางชลมารค)

แต่ที่จำได้นั้นว่า ถ้ามีที่เสด็จ ฯ ทางชลมารคไปประพาศแห่งใดมิได้ประทับแรม

พันทิพราชกลาโหมเวรพระตำหนัก คุมเจ้าพนักงานสี่ตำรวจทำฉนวนทำพลับพลารับเสด็จของหลวง แลสนมตำรวจทำฉนวนทำพลับพลาเจ้าต่างกรมข้างน่าข้างใน

แลเรือพระที่นั่งศรีสักหลาด (ลำ) ทรง แล (ลำที่นั่ง) รอง เปนพนักงานหลวงอินทรเทพ หลวงพิเรนทรเทพ หมื่นไชยภูษา หมื่นไชยาภรณ์ ได้แต่งเรือแลเกณฑ์บโทน พันหัว พันท้าย ฝีพายสำหรับ (ลำ)

แลน่าเรือพระที่นั่ง (นั้น) มหาดเล็ก หัวหมื่น (ฤๅ) นายเวรลงคน ๑ ชาวแสงปืนต้น ถือปืน (ฤๅ) กระสุน หมื่นอัคเนศร (ฤๅ) หมื่นศรสำแดง กำนันพระแสงลงคน ๑ ท้ายเรือพระที่นั่ง มหาดเล็กหุ้มแพร (ฤๅ) มหาดเล็กเลว คุมพระเต้าลงพระบังคน หีบใส่เงิน พระแสงกระสุนไปคน ๑ ชาวพระภูษามาลาเอาถุงสักหลาดใส่พระภูษาพระมาลาไปคน ๑ (มหาดเล็กกับภูษามาลาที่ลงท้ายเรือพระที่นั่ง) ๒ คนพายเรือด้วย

แลเรือพระที่นั่งทองแขวนฟ้าแลเรือดั้งนั้น พันพรหมราชกลาโหม ได้เกณฑ์รับเสด็จ ฯ เปนเรือพระที่นั่งทองแขวนฟ้าบ้านใหม่ ขึ้นหลวงสุเรนทรวิชิต ลำ ๑ โพธิ์เวียง ขึ้นหลวงภัยเสนา ลำ ๑ เรือดั้งทหารในขวาขึ้นหลวงวิสูตรโยธามาตย์ ลำ ๑ ซ้ายขึ้นหลวงราชโยธาเทพ ลำ ๑ เรือเกณฑ์หัดอย่างฝรั่งขึ้นแก่หลวงพิพิธเดชะเจ้ากรม ขวาขุนพิพิธณรงค์ ปลัดกรม ซ้ายขุนทรงวิไชยปลัดกรมรวมกันลำ ๑ เรือดั้งอาสาวิเศษลำขวาขึ้นหลวงเสนานนท์ ลำ ๑ ลำซ้ายขึ้นหลวงพลอาศรัยลำ ๑ รวม (เปนเรือ) ๓ ลำ

แลหมออยู่งานลงเรือพระที่นั่งทองแขวนฟ้า (ด้วย) คน ๑

พลพายเรือพระที่นั่งทองแขวนฟ้า ๒ ลำ เรือดั้งทหารใน ๒ ลำ เรือเกณฑ์หัดอย่างฝรั่งลำ ๑ พันเทพราชได้เกณฑ์ ๕ ลำ (แต่) เรือดั้งอาสาวิเศษซ้ายขวา สัสดีเกณฑ์ ๒ ลำ รวม ๗ ลำ

ชาวแสงเกณฑ์ทนายเลือก ถือปืนคาบศิลาลงเรือดั้ง ๕ ลำ ลำละ ๔ บอก

พันพรหมราชกลาโหมเวรเรือได้ตรวจตราว่ากล่าวบอกหางว่าวแก่นายเวรกลาโหมส่งชาววัง ชาววังส่งมหาดเล็ก

แลเรือข้าทูลลออง ฯ มีตำแหน่งนำแลตำแหน่งตามเสด็จนั้นนำเสด็จ มหาดไทย หลวงราชนิกูล ลำ ๑ เจ้ากรม (ฤๅ) ปลัดกรม ตำรวจผู้อยู่เวรลำ ๑ รวม (เรือนำเสด็จ) ๒ ลำ เรือตามเสด็จตำรวจในขวา หลวงมหามนตรี ลำ ๑ หมื่นทิพเสนาปลัดกรมลำ ๑ ตำรวจในซ้าย หลวงมหาเทพ ลำ ๑ หมื่นราชามาตย์ปลัดกรม ลำ ๑ ตำรวจนอกขวา หลวงราชรินทร์ ลำ ๑ หมื่นทิพรักษาปลัดกรม ลำ ๑ ตำรวจนอกซ้าย หลวงอินทรเดช ลำ ๑ หมื่นราชาบาล ปลัดกรม ลำ ๑ ตำรวจใหญ่ขวา หลวงพิเรนทรเทพ ลำ ๑ ตำรวจใหญ่ซ้าย หลวงอินทรเทพ ลำ ๑ ทหารในกลาง พระราชสงคราม ลำ ๑ ทหารในขวา หลวงวิสูตรโยธามาตย์ ลำ ๑ ทหารในซ้าย หลวงราชโยธาเทพ ลำ ๑ บ้านใหม่ หลวงสุเรนทรวิชิตเจ้ากรม ลำ ๑ โพธิ์เรียง หลวงอภัยเสนาเจ้ากรม ลำ ๑ กรมวัง หลวงรักษมณเฑียร ลำ ๑ หลวงบำเรอภักดิ์ ลำ ๑ จมื่นจงขวา ลำ ๑ จมื่นจงซ้าย ลำ ๑ ปลัดวังขวา ลำ ๑ ปลัดวังซ้าย ลำ ๑ รวมเรือตามเสด็จ ๒๑ ลำ รวมทั้งสิ้น ๒๓ ลำ

แลเรือสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าหลานเธอ ข้าทูลลออง ฯ นอกกว่านี้ล่วงเรือตำรวจแลเรือชาววังขึ้นไปมิได้

เรือใช้ ทนายเลือกหอก ขวาขุนภักดีอาสาลำ ๑ ซ้าย ขุนโยธาภักดี ลำ ๑ ทนายเลือกปืน ขวาหมื่นอัคนิศร ลำ ๑ ซ้าย หมื่นศรสำแดง ลำ ๑ ตำรวจใหญ่ หลวงอินทรเทพ ลำ ๑ หลวงพิเรนทรเทพ ลำ ๑ ทหารใน ขวาหลวงวิสูตรโยธามาตย์ลำ ๑ หลวงราชโยธาเทพลำ ๑ เข้ากัน ๘ ลำนี้ เจ้ากรมปลัดกรมได้แต่งพันทนายไปลำละ ๖ คน

ข้าทูลลออง ฯ ผู้นำผู้ตามทั้งนี้ นายเวรมหาดไทย นายเวรกลาโหมบอกหางว่าวส่งชาววัง ชาววังส่งมหาดเล็กผู้รับเวร ถึงที่ประทับกรมวังได้ตรวจเอาบาญชีเรือข้าทูลลออง ฯ ผู้ตามเสด็จชั้น ๑ ชั้น ๒ แลเรือผู้ใดทัน (ฤๅ) มิทันเสด็จ เอากราบทูลพระกรุณา ฯ

ล้อมวงณที่ประพาศ

แลพันเทพราชกลาโหมได้เกณฑ์พันทนายคบหอก หมู่ตำรวจในซ้าย ๑๖ ขวา ๑๖ รวม ๓๒ หมู่ตำรวจใหญ่ ซ้าย ๑๖ ขวา ๑๖ รวม ๓๒ หมู่ตำรวจนอกซ้าย ๑๐ ขวา ๑๐ รวม ๒๐ หมู่ทหารในซ้าย ๑๖ ขวา ๑๖ รวม ๓๒ หมู่ทนายเลือกหอกซ้าย ๑๐ ขวา ๑๐ รวม ๒๐ รวมทั้งสิ้น ๑๓๖ คน ล้อมวงชั้ขันในชั้นนอก

พันอินทราช (กลาโหม) เกณฑ์ปืนหามแล่น หมู่ตำรวจในซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ กระบอก หมู่ตำรวจใหญ่ซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ กระบอก อาสาเดโช กระบอก ๑ อาสาท้ายน้ำกระบอก ๑ อาสาซ้ายกระบอก ๑ อาสาขวากระบอก ๑ รวม ๑๒ กระบอก ล่วงไปล้อมวงชั้นใน

แลหมื่นนรินทรเสนี พันเทพราชได้เกณฑ์เจ้ากรมปลัดกรมอาสา ๖ เหล่า อาสาจาม ตั้งกองรายล้อมวงชั้นนอก.

แลหมื่นนรินทรเสนี เกณฑ์หลวง ขุน หมื่น ฝ่ายทหารขึ้นวัดขึ้นสวนขึ้นมะม่วง ครั้นแสด็จถึงที่ประกับฉนวนแล้ว ผู้คนเอากราบทูลพระกรุณา ฯ

ถ้าข้างในไปตามเสด็จด้วย ขุนจันทราทิต ขุนอินทราทิต ขุนรักษานารถ ขุนราชบำเรอ สนมซ้ายขวา (เปน) เจ้าพนักงานเกณฑ์เรือคฤห์สองตอน ขวา ที่สรงพันสันลำ ๑ งานใช้พันวันลำ ๑ พิเสศใน ขุนโอชารศลำ ๑ รวมขวา ๓ ลำ ซ้าย พระภูษาน้อยพันสนั่นลำ ๑ พิเสศใน ขุนเทพโอชาลำ ๑ รวมซ้าย ๒ ลำ รวม (เรือคฤห์สองตอน) ๕ ลำ เรือกราบม่านใหญ่ ขวาขุนรักษานารถลำ ๑ ซ้ายขุนราชบำเรอลำ ๑ รวม (เบ็ดเสร็จ) ๗ ลำ สัสดีเกณฑ์พลพายทุกลำ

อนึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าลูกเธอทรงพระเยาว์มิได้ยื่นเลขไว้แก่สัสดีจะได้ไปตาม (เสด็จ) ข้างในสั่งสนมพลเรือน สนมพลเรือนสั่งมหาดไทย มหาดไทยหมายบอกสัสดี สัสดีเกณฑ์พลพายให้

(ถ้าแล) สั่งให้ข้าทูลลออง ฯ ชักเรือสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระเจ้าลูกเธอ เถ้าแก่สั่งสนม (พลเรือน) สนมสั่งชาววัง ชาววังสั่งมหาดไทย กลาโหม แลหมื่นนรินทรเสนี หมื่นศรีสหเทพเกณฑ์ข้าทูลลอองชัก ทหารลำ ๑ พลเรือนลำ ๑ รวม ๒ ลำ

(เสด็จทางสถลมารค กระบวรราบ)

อนึ่งถ้าเสด็จทางสถลมารค ออกจากพระราชวังไปวัดวาอาราม ถ้าไปแห่งใด ๆ มิได้ประทับแรม

หมื่นนรินทรเสนี เกณฑ์หลวง ขุน หมื่นตำรวจใน ตำรวจนอก ตำรวจใหญ่ อาสา ๖ เหล่า ค้นวัดวาอารามสุมทุมพุ่มไม้ คอยกราบทูลพระกรุณา ฯ

พันทิพราชกลาโหมคุมเจ้าพนักงานสี่ตำรวจ ตำรวจนอก สนมตำรวจ ไปทำฉนวนแลพลับพลา

พันเทพราช (กลาโหม) เกณฑ์ทนายคบหอก หมู่ตำรวจในซ้าย ๒๐ ขวา ๒๐ รวม ๔๐ หมู่ตำรวจใหญ่ ซ้าย ๒๐ ขวา ๒๐ รวม ๔๐ หมู่ตำรวจนอก ซ้าย ๑๕ ขวา ๑๕ รวม ๓๐ ทหารใน ซ้าย ๒๐ ขวา ๒๐ รวม ๔๐ ทนายเลือกหอก ซ้าย ๑๐ ขวา ๑๐ รวม ๒๐ รวมทั้งสิ้น ๑๗๐ คน แลปี่กลองชนะธงฉาน (ชั้น) นอก เจ้ากรมปลัดกรมหัวหมื่นตัวสี่ตำรวจเลวแห่เสด็จ ฯ

พันอินทราช (กลาโหม) เกณฑ์ปืนหามแล่นตามท้ายที่นั่ง ให้เจ้าหมู่ตำรวจใน ซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ กระบอก ตำรวจใหญ่ ซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ กระบอก อาสาเดโช กระบอก ๑ อาสาท้ายน้ำ กระบอก ๑ อาสาซ้าย กระบอก ๑ ขวากระบอก ๑ รวม ๒ กระบอก ตามเสด็จ ฯ

พันเทพราช (กลาโหม) สั่งมาให้พันพุฒ (มหาดไทย) หมายบอกหมื่นอัคนิศร หมื่นศรสำแดง เกณฑ์ทนายเลือกแสงปืนตามท้ายพระที่นั่ง ซ้าย ๔๐ ขวา ๔๐ รวม ๘๐ คน

(ให้พันพุฒ) หมายให้ขุนโจมพลล้าน ๑ ขุนสท้านพลแสน ๑ ขี่ม้านำ พันไชยธุชบโทนหลวงราชนิกูลถือธง ๙ ชายนำทางเสด็จ แลเจ้ากรมปลัดกรมหัวหมื่นตัวสีตำรวจเลวแห่ริ้วชั้นในตามตำแหน่ง.

(กระบวร) แห่น่า หลวงเทพอรชุน ๑ หลวงราชนิกูล ๑ นำริ้วชั้นใน ๒

ขุนราชมนู ๑ พันเทพราช ๑ คุมปี่กลองชนะ ๒

ตำรวจในซ้ายขวา ตำรวจใหญ่ซ้ายขวา ตำรวจนอกซ้ายขวา รวม (แห่น่า) ๖ กรม

แห่หลัง ทหารในซ้ายขวา รักษาองค์ซ้ายขวา สนมกลางซ้ายขวา พลพันซ้ายขวา เจ้ากรมบ้านใหม่ เจ้ากรมโพธิ์เรียง ทนายเลือกหอกซ้ายขวา หมื่นนรินทรเสนี ๑ หมื่นศรีสหเทพ ๑ รวม (ทั้งกระบวนน่าหลัง) ๑๘ กรม

แลกรมวังได้ตรวจตราเกณฑ์ชาวเครื่องถือเครื่องสูง ขุนราชพิมาน พันทอง ตัวสี คุมแห่น่า เครื่องสูงห้าชั้น เขียวคู่ ๑ แดงคู่ ๑ เหลืองคู่ ๑ รวม ๓ คู่ บังแซก ดำคู่ ๑ เหลืองคู่ ๑ รวม ๒ คู่ คุมแห่ หลังเครื่องสูงห้าชั้น ขาวคู่ ๑ ดำคู่ ๑ รวม ๒ คู่ บังแซก แดงคู่ ๑ รวมเปน ๓ คู่ รวมทั้งน่าหลังเปน ๘ คู่ บังพระสูรย์ ๑

สนมพลเรือนแลชาวแสงแห่ในหว่างเครื่องสูง แห่น่าพระแสงดาบโล่ห์ หมื่นพรสุรินทร์ ๑ หมื่นอินทรจำเริญ ๑ รวมสนม ๒ พระแสงหอกด้ามไม้มะเกลือยอดทอง ขุนแสงสรรพยุทธ ๑ กำนันพระแสงใน ๑ รวม ๒ พระแสงดาบไทย กำนันแสงใน ๑ พระแสงเขนกำนันพระแสงใน ๑ รวมแห่น่า ๖ แห่หลัง พระแสงง้าวขุนคชนารถภักดี ๑ พระแสงหอกง่ามขุนแสงสารภาษ ๑ รวมแห่หลัง ๒

ถ้าในพระราชวัง มหาดเล็กถือ (?) แลหลวงบำเรอภักดี หลวงรักษมณเฑียร จมื่นจงซ้าย จมื่นจงขวา ปลัดวังซ้าย ปลัดวังขวา เคียงพระวด

แลกระบวรเสด็จทั้งนี้ หมื่นนรินทรเสนี พันเทพราชกลาโหม ได้งบบาญชีให้สมุหพระกลาโหมกราบทูลพระกรุณา ฯ

(เสด็จทางสถลมารค กระบวรช้าง)

ถ้าเสด็จทรงช้าง กรมช้างเกณฑ์ช้างพลาย ๗ ช้างพัง ๖๕ รวม ๗๒ ช้าง

พระที่นั่งทรงโถง ผูกเครื่องลูกพลู เครื่องดาวทองคำ ชาวพระแสงเชิญพระแสงใส่ในเบาะ พระแสงปืนสั้นองค์ ๑ พระแสงพร้าองค์ ๑ กระบี่มา (ม้า) ผูกข้างเบาะองค์ ๑ รวม ๓ องค์ ท้ายช้างควาญ ๑

พระที่นั่งหลังคาทอง สี่ตำรวจเชิญมาผูก ชาวแสงเชิญพระแสงมาผูก (คือ) ปืนสั้นคู่ ๑ หอกสั้นด้ามเหล็กปิดทองคู่ ๑ นายท้ายช้าง คอ ๑ ท้าย ๑ รวม ๒ คนช้าง ๑

พระที่นั่งประพาศ สี่ตำรวจเชิญมาให้นายท้ายช้างผูก ชาวพระแสงเชิญพระแสงมาผูก (คือ) ปืนสั้น ๑ ปืนยาว ๑ หอกสั้นด้ามเหล็กปิดทองคู่ ๑ นายท้ายช้าง คอ ๑ ท้าย ๑ รวม ๒ คนช้าง ๑

พระที่นั่งรอง ผูกเครื่องดาวทอง ชาวพระแสงเชิญพระแสงกระบี่ ๑ พร้า ๑ มาผูก ชาวพระแสงปืนถือปืนคาบศิลากลางช้าง ๑ นายท้ายช้าง คอ ๑ ท้าย ๑ รวม ๓ คนช้าง ๑

ช่างดั้งผูกเครื่องมั่น ทนายเลือกแสงปืนคาบศิลากลางช้าง ๆ ละคน เปนช้างดั้งน่า ๓ หลัง ๓ รวม ๖ ช้าง นายท้ายช้างขี่คอเปนควาญ ๖

ช้างแทรก (เปนช้าง) พัง มหาดไทยช้าง ๑ กลาโหมช้าง ๑ จตุสดมภ์ ๔ ช้าง สัสดีกลางช้าง ๑ คลังมหาสมบัติช้าง ๑ มหาดเล็กหัวหมื่น ๔ ช้าง นายเวร ๔ ช้าง ขุนช้าง ๒ ช้าง ปลัดช้าง ๒ ช้าง ขุนเชือก ๒ ช้าง ปลัดเชือก ๒ ช้าง รวม ๒๔ ช้าง

ช้างเครื่องมหาดเล็ก ๑๐ ช้าง

ช้างปืนใหญ่ หมื่นราชฤทธิ์ หมื่นราชรงค์ หมื่นเพชร (ฦๅ) ไชย หมื่นทรงพิไชย ท้ารวจนอกทำจำลอง สัสดีเกณฑ์เลขส่งให้หมื่นกรินศรเชฐ ๑ หมื่นวิเศษศรชาญ ๑ คุมเกณฑ์หัดเปนทนายปืนแลนายช้างขี่คอ ๑ ชาวกองขี่ท้าย ๑ เสมอช้าง ๑ คนทนายปืนกลางช้าง ๑ กรมช้างซ้าย ๑ ขวา ๑ ปืนกระสุนนิ้วกึ่งกระบอก ๑ กระสุนโดด ๑๐ กระสุน กระสุนปราย ๒๐๐ กระสุน หอกซัด ๑๐ แหลนซัด ๑๐ ธงผุดทองฉลุดอกแดงน่า ๑ เขียวหลัง ๑ รวม ๒ คัน

ช้างกันผูกเครื่องมั่น ช้าง ๑ ทนายเลือกปืนคาบศิลากลางช้าง ช้างละกระบอก ๑ ขุนหมื่นกองช้างขี่คอ ๑ นายช้างเปนควาญ ๑ ซ้าย ๑๐ ช้าง ขวา ๑๐ ช้าง รวม ๒๐ ช้าง แลทนายเลือกนั้น หมื่่นอัคนิศร ๑ หมื่นศรสำแดง ๑ ได้เกณฑ์ใส่ช้างตามพนักงาน

ถ้าข้างในจะไปตามเสด็จด้วย ข้างในบอกหางว่าวสนมพลเรือนสั่งเวร ชาววัง มหาดไทย กลาโหม ให้กรมช้างเกณฑ์ช้าง (แล) หลวงพรหมบริรักษ์ หลวงสุริยภักดี ขุนสมุหพิมาน ขุนประธานมณเฑียร สนมทหารแต่งจำลองแลกูบเขียนลายรง ขวาพื้นแดง ๑ ซ้ายพื้นดำ ๑

แลหลวงเทพราชา หลวงทิพราชา กรมช้างคุมหมู่ จำเจียมตำรวจนอก เครื่องมือสำหรับช่างปากไม้ ๑๐ คน คบเพลิงตัวละ ๒ ดอก เปนช้างซ้าย ๒๐ ขวา ๒๐ รวม ๔๐ ช้าง

เข้ากัน (ทั้งกระบวร) ช้างพลาย ๗ ช้างพัง ๖๕ เปน ๗๒ ช้าง พันภาณ (มหาดไทย) ได้เรียกหางว่าวยื่นสมุหนายกกราบทูลพระกรุณา ฯ

(เสด็จทางสถลมารคกระบวรม้า)

กรมม้าเกณฑ์ม้าพระที่นั่งผูกเครื่องทองคำ พระที่นั่งทรง ๑ พระที่นั่งรอง ๑

ม้าแซงใน (นายม้าขี่) ถือปืนดาดขัดแล่ง (ฤๅ) ถือทวนดาบขัดแล่ง ซ้าย ๓ ขวา ๓ รวม ๖ ม้า

ม้าแซงนอก (นายม้าขี่) ถือเกาทัณฑ์ดาบขัดแล่ง ซ้าย ๕ ขวา ๕ รวม ๑๐ ม้า (นายม้าขี่) ถือทวนดาบขัดแล่ง ซ้าย ๖ ขวา ๖ รวม ๑๒ ม้า รวมม้าแซงนอก ๒๒ ม้า รวมม้าแซง (ทั้งสิ้น) ๒๘ ม้า

ม้าสวนทางไปน่า แห่ซ้ายหมื่นเทพสารถี ๑ แห่ขวาหมื่นพาชีไชย ๑ รวม ๒ ม้า

ม้าใช้ (ไปข้าง) หลัง ซ้ายหมื่นไกรพลแมน ๑ ขวาหมื่นแสนใจเพชร์ ๑ รวม ๒ ม้า

ม้านำเสด็จ ซ้ายขุนสท้านพลแสน ๑ ขวาขุนโจมพลล้าน ๑ รวม ๒ ม้า

กระบวรม้ารวมทั้งสิ้น ๓๖ ม้า ม้าทั้งนี้พันเภามหาดไทย ได้เรียกหางว่าวยื่นสมุหนายกกราบทูลพระกรุณา ฯ

จุกช่องรายทาง

พันเทพราชกลาโหมเกณฑ์ทนายหอกตำรวจในซ้ายขวา จุกช่องแต่พ้นกำแพงพระราชวังออกไปช่องละ ๒ คนตามซ้ายขวารายทางไปจนถึงที่ประทับ

แลพันจันท์มหาดไทย ว่าแก่นายเวรนครบาลแขวง (ให้) ชำระทาง ตัดไม้ชายเอนตามทาง

  1. ๑. พระยาราชสุภาวดีคนนี้ ได้เปนเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐ์ เมื่อปีจอ พ.ศ. ๒๒๘๕ ต่อมาถึงแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ มีความผิดต้องออกจากตำแหน่งเมืองนคร เจ้านครฯเปนปลัดจึงได้รั้งเมืองมาจนเสียกรุงฯ

  2. ๒. ทำนองจะว่าที่โกษาธิบดี.

  3. ๓. ที่ว่าคนเก่า คือเคยเปนข้าราชการมีตำแหน่งเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเปนราชธานี.

  4. ๔. เรือคู่ชักมักเรียกกันว่าเรือขวานฟ้าลำ ๑ เรือบ้าบิ่นลำ ๑ แต่ในหนังสือนี้เรียกว่าเรือพระที่นั่งทองแขวนฟ้าทุกแห่ง

  5. ๕. ตรงนี้เห็นจะหมายความว่า ขึ้นตรวจที่เสด็จประพาศก่อนเสด็จไปถึง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ