กระบวรเสด็จพระพุทธบาท

ถ้ามีที่เสด็จไปพระพุทธบาทเช่นการปรกติ (เจ้า) พระยากลาโหม พระสุรเสนา หลวงเทพ (อรชุน) สั่งพันทิพราชให้เกณฑ์หลวง ขุนหมื่น ๒ คน ๓ คนเปนนายกองทำตำหนัก คุมพนักงาน ๔ ตำรวจ สนม (ทหาร) ซ้ายขวา สนมกลางซ้ายขวา ตำรวจนอกซ้ายขวา ไปทำตำหนักฉนวนพระนครหลวง ท่าเจ้าสนุกพระพุทธบาท แลการรับเสด็จของหลวงเจ้าต่างกรม

พระสุรเสนา หลวงเทพ (อรชุน) พันทิพราชไปตรวจตราเร่งรัด ถ้าเปนอำเภอแขวงกรมการ แขวงกรมการได้ทำ เจ้าพนักงานเปนผู้เร่งรัดให้เขวงกรมการทำ ถ้าแขวงกรมการทำไม่ทัน (ฤๅ) จากไม้ไม่พอ เจ้าพนักงานทั้งนี้ต้องหาไม้หาจากทำด้วย

แลตำรวจใหญ่ซ้ายขวาแต่งเรือพระที่นั่งศรีสักหลดก พระที่นั่งกราบ (ลำ) ทรงรับเสด็จ

แลพันพรหมราชกลาโหมได้เกณฑ์เรือพระที่นั่งดั้งกันชักนำเสด็จ เปนเรือพระที่นั่งทองแขวนฟ้า บ้านใหม่ลำ ๑ โพธิ์เรียงลำ ๑ รวม (คู่ชัก) ๒ ลำ เรือดั้งทหารในซ้ายลำ ๑ ขวาลำ ๑ รวม ๒ ลำ เกณฑ์หัดอย่างฝรั่ง ซ้ายลำ ๑ ขวาลำ ๑ รวม ๒ ลำ อาสาวิเศษซ้ายลำ ๑ ขวาลำ ๑ รวม ๒ ลำ รวม (เรือดั้ง) ๖ ลำ เปน ๘ ลำทั้งเรือคู่ชัก เรือกันเรือตำรวจในซ้ายลำ ๑ ขวาลำ ๑ เรือตำรวจใหญ่ซ้ายลำ ๑ ขวาลำ ๑ สัสดีซ้ายลำ ๑ ขวาลำ ๑ เรือ ๑๔ ลำนี้พลพายฝ่ายทหารพันเทพราชได้เกณฑ์ ฝ่ายพลเรือนสัสดีได้เกณฑ์

แลหมื่นอัคนิศร ๑ หมื่นศรสำแดง ๑ เกณฑ์ทนายเลือกปืนลงเรือดั้งเรือกันลำละ ๔ กระบอก

แลเรือพระที่นั่งบัลลังก์รัตนาศน์ ๑ เรือพระที่นั่ง (บัลลังก์) ราชสมเสพ ๑ สองลำนี้ พนักงานตำรวจในซ้ายขวาทำแลรักษา ครั้นมีที่เสด็จทหารในซ้ายขวารับ (ไป) บรรจุพลกันเชียงแล้วเอาไปทอดท่า

แลเรือคฤห์สองตอนสนมพลเรือนซ้ายขวาเกณฑ์ไปตามเสด็จ (เรือฝ่าย) ซ้าย เรือพระภูษาใหญ่ พันวิเศษลำ ๑ เรือพระภูษาน้อย พันสนั่นลำ ๑ เรือพระสมุด พันแกว่นลำ ๑ เรือพระโอสถพันชนะลำ ๑ เรือพิเสศ (เครื่อง) ขุนทิพโอชาลำ ๑ หมื่นโอชาลำพังลำ ๑ รวม ๒ ลำ รวนเปนเรือฝ่ายซ้าย ๖ ลำ เรือฝ่ายขวา เรือที่สรงพันสนลำ ๑ เรืองานใช้พันวันลำ ๑ เรือคลัง พันแผ้วลำ ๑ เรือพิเสศ (เครื่อง) ขุนโอชารศลำ ๑ หมื่นก้อนแก้วลำ ๑ เรือ (เครื่อง) นมัสการ พันศรีรักษาลำ ๑ รวมเรือฝ่ายขวา ๖ ลำเปน ๑๒ ลำ พลพายนั้นสัสดีซ้ายขวาได้เกณฑ์

แลเรือศรีผ้าแดง เรือที่นั่งกราบเจ้ามีกรมแล้ว เจ้ากรมปลัดกรมเกณฑ์พลพายกันเชียงในกรม ถ้าเรือศรีผ้าแดง เรือที่นั่งกราบ เรือมีม่านเจ้าหากรมมิได้ไปตามเสด็จ สนมพลเรือนบอกจำนวนเรือ จำนวนพลพายพลกันเชียงมาแก่สัสดี ๆ เกณฑ์เลขให้

(ล้อมวงที่พลับพลาประทับแรม)

ครั้นเสด็จ ๆ ถึงท่าเจ้าสนุกแล้ว พันเทพราช สัสดียกเอานายเรือ (แล) พลพายเรือดั้งเรือกันขึ้นนอนกองซุ่มน่าฉาน พันพรหมราชเกณฑ์แต่ลำเรือส่งให้เเก่สี่ตำรวจแลอาสาหกเหล่า ทอดทุ่นน่าฉานต่อกันลงไปเสมอลำหนึ่งนาย ๑ ไพร่ ๕ คน

แลล้อมวังแบ่งกันอยู่รักษาวัง บ้างล่วงขึ้นไปตั้งตาริ้ววางขวากเหล็กรอบพระตำหนักกว้าง ๕ ศอก ๑๐ กอง เสมอกองหนึ่ง ปืนตาตระเงินกระบอก ๑ ปืนหามแล่นกระบอก ๑ ปืนทองกระสุนปราย ๒ กระบอก ปืนคาบชุด ๑๐ กระบอก รวมปืน (กองละ) ๑๔ กระบอก ธนู ๕ คัน น่าไม้ ๕ คัน ขวากกระจับ ๕๐ หลุม ฆ้องใหญ่ใบ ๑ ไพร่ ๕๐ ตีฆ้องขานยาม

อาสาวิเศษ ทหารใน นอนนอกล้อมวัง ๔ กอง เปนอาสาวิเศษ ๒ กอง ๑๖ คน ทหารใน ๒ กอง ๑๖ คน รวม ๓๒ คน

แลกรมตำรวจใน ตำรวจใหญ่ ทหารใน สนมทหารซ้ายขวา เจ้าพนักงานเอาปืนล้อไปตั้งประตูละ ๒ กระบอก ชาววังกำกับประตูด้วย แล้วชาวที่ มหาดเล็กวังน่า ชาววังตำรวจในล้อมวง

สัสดียกเอาเลขเรือคฤห์สองตอน เรือศรีผ้าแดง เรือที่นั่งกราบ ไปนอนกองซุ่มท้ายสนม แลฝีพายเรือศรีสักหลาด เรือกราบ (ที่นั่ง) ทรง เรือกราบ (ที่นั่ง) รอง นอนริมฉนวนประจำท่านอกตาริ้วล้อมวัง

แลพันเทพราชเกณฑ์ปี่กลองชนะประโคมยาม

แลกรมช้างเกณฑ์ช้างอยู่โรงในกำแพงล้อมพระตำหนัก แลวงรายในกองซุ่มรอบกำแพงล้อมพระตำหนัก ช้างปืนใหญ่ตั้งริ้วกองเพลิงนอกกองซุ่มตามซ้ายตามขวา แลเจ้ากรมปลัดกรมคุมไพร่ดาบเกย ถือปืนนกโพรงตระเวน ๔ ยามตามซ้ายตามขวา เปนช้าง ๖๒ ช้างใน (ดัง) นี้

ช้างต้นอยู่โรงในพระตำหนัก พลาย ๑ พัง ๑ รวม ๒ ช้าง วงรายรอยกำแพงล้อมพระตำหนัก ๓ ด้าน พลาย ๖ พัง ๖ รวม ๑๒ ช้าง ช้างปืนใหญ่ตั้งริ้วกองเพลิง พวกกองซุ่มเสมอช้าง ๑ ทนายปืนกลาง ช้าง ๑ กรมช้าง (ขี่) คอ ๑ ท้าย รวม ๓ คน ปืนกระสุนนิ้ว (กึ่ง) กระบอก ๑ กระสุนโดด ๑๐ กระสุน กระสุนปราย ๒๐๐ กระสุน หอกซัด ๑๐ เล่ม แหลนซัด ๑๐ เล่ม เปนช้างพังซ้าย ๒๐ ขวา ๒๐ รวม ๔๐ ช้าง

(กอง) ตระเวน ๔ ยาม ซ้ายยาม ๑ พระราชวังเมือง ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ ยาม ๒ หมื่นคชศักดิ์ ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ ยาม ๓ ขุนทรงสิทธิ์ ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ ยาม ๔ หลวงศรีไชยาทิต ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ ขวา ยาม ๑ พระกำแพง ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ ยาม ๒ หมื่นคชสิทธิ์ ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ ยาม ๓ ขุนทรงศักดิ์ ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ ยาม ๔ หลวง (ศรี) สิทธิกรรม์ ๑ ไพร่ดาบเกย ๔ รวม ๕ รวมนาย ๘ ไพร่ดาบเกย (ถือ) ปืนนกโพรง ๓๒ รวม ๔๐ คน ช้างพัง ๘ ช้าง เข้ากันช้างพลาย ๗ พัง ๕๕ รวม ๖๒ ช้าง ระดมมาตระเวน ๔ ยามตามซ้ายตามขวา

ม้าซ้าย ยาม ๑ หลวงปราบพลแสน ๑ ไพร่ถือหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ ยาม ๒ หลวงศรีอัศวเดช ๑ ไพร่ถือหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ ยาม ๓ ขุนสุนทรสินธพ ๑ ไพร่ถือหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ ยาม ๔ หมื่นชำนาญภูเบศร์ ๑ ไพร่ถือหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ ม้าขวา ยาม ๑ หลวงทรงพล ๑ ไพร่ถือหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ ยาม ๒ หลวงพิไชยมนตรี ไพร่ถือหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ ยาม ๓ ขุนวิสูตรอัศดร ๑ ไพร่ถ่อหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ ยาม ๔ หมื่นชำนิภูบาล ๑ ไพร่ถือหอกถือหลาว ๔ รวม ๕ รวมนาย ๘ ไพร่ถือหอกถือหลาว ๓๒ รวมเปน ๔๐ คน ม้า ๘ ม้า

แลหมื่นนรินทรเสนี พันเทพราชกลาโหม หมื่นศรีสหเทพ พันพุฒมหาดไทย ได้เกณฑ์ขุนหมื่นคุมไพร่ทหารถือปืนนกโพรง ไพร่พลเรือนสัสดีเกณฑ์ถือหอกถือหลาว ตั้งกองรอบชั้นนอก ห่างพระตำหนักออกไป ๒๐ เส้น ฟากตวันออก ๒ กอง ฟากตวันตก ๒ กอง รวม ๔ กอง ตระเวนบรรจบถึงกัน เสมอกองหนึ่ง ฝ่ายทหาร นาย ๒ ไพร่หลวงถือปืนนกโพรง ๕๐ รวม ๕๒ พลเรือนนาย ๑ ไพร่หลวงถือหอกถือหลาว ๕๐ รวม ๕๒ คน รวมเปนนาย ๔ ไพร่ ๒๐๐ รวม ๒๐๔ คน

แลเกณฑ์ที่ตั้งคอยเหตุเหนือน้ำท้ายน้ำ ห่างพระตำหนักออกไป ๒๐ เส้น คนฝ่ายทหารเกณฑ์อยู่ท้ายน้ำ กรมอาสาจามนาย ๒ ไพร่ ๒๐ รวม ๒๒ คน พลเรือนเกณฑ์อยู่เหนือน้ำ กรมม้า นาย ๒ ไพร่ ๒๐ รวม ๒๒ คน รวมเปนนาย ๔ ไพร่ ๔๐ รวม ๔๔ คน.

แลบาญชีกองร้อยคอยเหตุชั้นในชั้นนอก ๆ กว่าล้อมวงนั้น หมื่นนรินทรเสนี หมื่นศรีสหเทพ พันเทพราช พันพุฒ ได้งบส่งให้สมุหนายก สมุหพระกลาโหม แต่พอรู้จำนวนไว้ แลกรมพระราชวังบวร ฯ ให้ข้าหลวงไปตรวจ แล้วเอากราบทูลพระกรุณา ฯ ถ้ากรมพระราชวังบวร ฯ ไม่ได้เฝ้า ส่งบาญชีมาให้เจ้าต่างกรมแลตำรวจในพระราชวังหลวงกราบทูลพระกรุณา

แลหมื่นศรีสหเทพเกณฑ์ขุนหมื่นฝ่ายพลเรือนกำกับนครบาล (แล) แขวง ตรวจตราสารวัดตั้งร้านกองเพลิง พันจันท์ได้ตรวจทางให้นครบาลแขวงกรมการทำทาง กรุยหลักลอยแลหลักตอโขดหากตัดไม้ชายไม้เอนทั้งในทางชลมารคแลทางสถลมารคซึ่งกีดทางเสด็จ

(กระบวรทางสถลมารคเสด็จขึ้นพระพุทธบาท)

อนึ่งถ้าเสด็จ ฯ แต่ท่าเจ้าสนุกขึ้นไปประทับแรมพระตำหนักพระพุทธบาท

กลาโหมเกณฑ์นายกองนายงานคุมเจ้าพนักงานขึ้นไปทำพระตำหนักแลทางสถลมารค แต่ท่าเจ้าสนุกถึงบางโขมด พนักงานขุนนครได้ทำ แต่บางโขมดถึงพระพุทธบาท พนักงานกรมการเมืองสระบุรี (แล) พนักงานขุนโขลนได้ทำ พันจันท์ได้เกณฑ์หลวงขุนหมื่นคุมไพร่สัสดีไปช่วยแขวงแลกรมการทำทาง ๔ กอง กองหนึ่ง นาย ๑ ไพร่ ๕๐ รวม ๕๑ คน

พันเทพราชเกณฑ์ทนายคบหอกหมู่ ตำรวจในซ้าย ๔๐ ขวา ๔๐ รวม ๘๐ คน ตำรวจนอกซ้าย ๓๐ ขวา ๓๐ รวม ๖๐ คน ตำรวจใหญ่ซ้าย ๔๐ ขวา ๔๐ รวม ๘๐ คน ทหารในซ้าย ๔๐ ขวา ๔๐ รวม ๘๐ คน ทนายเลือกหอกซ้าย ๒๐ ขวา ๒๐ รวม ๔๐ คน รวมเปน ๓๔๐ คน แลปี่กลองชนะ ๑๐๐ คน แตรฝรั่ง ๔ คู่ แตรงอน ๒ คู่ สังข์คู่ ๑ ธงฉาน ๔ คู่

อนึ่งพันอินทราชเกณฑ์ปืนหามแล่น ตำรวจในซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ ตำรวจใหญ่ซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ อาสา (วิเศษ) ซ้าย ๑ ขวา ๑ รวม ๒ อาสาเดโช ๑ อาสาท้ายน้ำ ๑ รวม ๒ รวมเปนปืนหามแล่น ๑๒ กระบอกตามท้ายพระที่นั่ง.

แลเจ้ากรมปลัดกรมหัวหมื่นตัวศรีตำรวจเลวแห่ริ้วในตำแหน่งแห่น่า (คือ) หลวงเทพอรชุน ๑ หลวงราชนิกูล ๑ นำริ้วชั้นในรวม ๒ ขุนราชมนู พันเทพราชคุมปี่กลองชนะ (รวม) ๒ ตำรวจในซ้ายขวา ตำรวจใหญ่ซ้ายขวา ตำรวจนอกซ้ายขวา ๖ กรม แห่หลัง (คือ) ทหารในซ้ายขวา พลพันซ้ายขวา รักษาองค์ซ้ายขวา เจ้ากรมบ้านใหม่ เจ้ากรมโพธิ์เรียง ทนายเลือกหอกซ้ายขวา (รวมเปน) ๑๐ กรม หมื่นนรินทรเสนี หมื่นศรีสหเทพ (ปลายริ้ว)

กรมวังเกณฑ์เครื่องสูง แห่น่า (คือ) เครื่องสูงห้าชั้น เขียวคู่ ๑ แดงคู่ ๑ เหลืองคู่ ๑ รวม (เครื่องสูง) ๓ คู่ บังแทรกดำคู่ ๑ เหลืองคู่ ๑ รวม (บังแทรก) ๒ คู่ รวม (ทั้งเครื่องสูงบังแทรกแห่น่า) ๕ คู่ แห่หลัง เครื่องสูงห้าชั้น ขาวคู่ ๑ ดำคู่ ๑ รวม (เครื่องสูงแห่หลัง) ๒ คู่ บังแทรกแดงคู่ ๑ รวม (ทั้งเครื่องสูงบังแทรกแห่หลัง) ๓ คู่ ยังพระสูรย์ ๑ พันทอง ขุนราชพิมาน คุม

แลชาวแสง กรมสนมพลเรือน ถือพระแสงหว่างเครื่องสูงน่า (คือ) พระแสงดาบโล่ห์ หมื่นพรสุรินทร์ ๑ หมื่นอินทรจำเริญ ๑ พระแสงหอกด้ามไม้มะเกลือยอดทอง ขุนแสงสรรพยุทธ ๑ กำนันแสงใน ๑ พระแสงดาบไทย กำนันแสงใน ๑ พระแสงเขน กำนันแสงใน ๑ พระแสงหว่างเครื่องสูงหลัง (คือ) พระแสงง้าว ขุนคชนารถภักดี ๑ พระแสงหอกง่าม ขุนแสงสารภาษ ๑

พันพุฒหมายบอกทนายเลือกแสงปืนคาบศิลาตามท้ายพระที่นั่งซ้าย ๕๐ ขวา ๕๐ รวม ๑๐๐ คน

แลให้หมายให้ขุนโจมพลล้าน ๑ ขุนสท้านพลแสน ๑ ขี่ม้านำขุนไชยธุชบโทนหลวงราชนิกูลถือธง ๙ ชายนำทางเสด็จ

กรมช้างซ้ายขวาเกณฑ์ช้างสำหรับกระบวรเสด็จ ฯ ช้างพระที่นั่งทรง ๑ ช้างพระที่นั่งรอง ๑ ช้างนำ ๑ ช้าง (ผูกพระที่นั่ง) หลังคาทอง ๑ ช้าง (ผูกพระที่นั่ง) ประพาศโถง ๑ รวม ๕ ช้าง ช้างดั้งน่า ๓ หลัง ๓ รวม ๖ ช้าง ช้างกันใน ๑๐ (ช้างกัน) นอกกองอาสา ๒๐ รวมช้างกัน ๓๐ ช้างแทรกขุนช้าง ๒ ปลัดช้าง ๒ นายเชือก ๒ ปลัดเชือก ๒ มหาดไทย ๑ กลาโหม ๑ จตุสดมภ์ ๔ หัวหมื่นมหาดเล็ก ๔ รวมช้างแทรก ๑๘ ช้าง ช้างปืน ๒๐ ช้างเครื่องมหาดเล็กซ้าย ๕ ขวา ๕ รวม ๑๐ ช้าง ช้างกูบสำหรับข้างใน ๔๐ ช้างพระประเทียบ พระที่นั่งหลังคาทอง ๑ (ช้างดั้ง) ๑ ข้างน่า ๒ ข้างหลัง ๒ รวม ๕ ช้าง ช้างปืนน่า ๕ ปืนหลัง ๕ รวม ๑๐ รวมช้าง (กระบวร) พระประเทียบ ๑๕ ช้าง รวมเปนช้างกระบวรเสด็จ ฯ ของหลวง ๑๒๙ ช้างกระบวรพระประเทียบ ๑๕ ช้าง รวมทั้งสิ้น ๑๔๔ ช้าง

ช้างพระที่นั่งผูกเครื่องลูกพลู ดาวทองคำ ชาวพระแสงเชิญพระแสงใส่ในเบาะ พระแสงปืนสั้นคู่ ๑ พระแสงพร้าองค์ ๑ กระบี่ม้าผูกข้างเบาะองค์ ๑ นายท้ายช้าง (เปน) ควาญ ๑ พระที่นั่งหลังคาทอง ๔ ตำรวจยกมา กรมช้างผูกช้าง ชาวพระแสงเชิญพระแสงปืนสั้น ๑ พระแสงหอกด้ามเหล็กปิดทองคู่ ๑ พระแสงปืนยาวองค์ ๑ นายท้ายช้าง (ขี่) คอ ๑ ท้าย ๑ รวม ๒ คน ช้าง ๑ พระที่นั่งนำผูกเครื่องลูกพลูดาวทอง ชาวพระแสงเชิญพระแสงกระบี่องค์ ๑ พระแสงพร้าองค์ ๑ รวม ๒ มาผูกทนายเลือกแสงปืนถือปืนคาบศิลากลางช้างกระบอก ๑ นายท้ายช้าง (ขี่) คอ ๑ ท้าย ๑ รวม ๓ คน ช้าง ๑

ช้างดั้งผูกเครื่องมั่น ทนายเลือกแสงปืนถือปืนคาบศิลากลางช้าง ๆ ละคน นายท้ายช้าง (ขี่) คอ ๑ ท้าย ๑ เปนช้างดั้งน่า ๓ หลัง ๓ รวม ๖ ช้าง

ช้างแทรก (เปนช้าง) พัง พระกำแพง ๑ พระราชวังเมือง ๑ รวมขุนช้าง ๒ หลวงคชศักดิ์ ๑ หลวงคชสิทธิ์ ๑ รวมปลัดช้าง ๒ ขุนทรงศักดิ์ ๑ ขุนทรงสิทธิ์ ๑ รวมขุนเชือก ๒ หมื่นศรีสิทธิบาล ๑ หมื่นราชสิทธิกรรม์ ๑ รวมปลัดเชือก ๒ มหาดไทยกลาโหมจตุสดมภ์ ๖ หัวหมื่นมหาดเล็ก ๔ รวมช้างแทรก ๑๘ ช้าง

ช้างปืนใหญ่ หมื่นราชฤทธิ์ ๑ หมื่นราชรงค์ ๑ ตำรวจในทำจำลองสัสดีเกณฑ์เลขส่งให้หมื่นศรีสรเชฐ หมื่นวิเศษสรชาญ คุมหัดเปนทนายปืนกลางช้าง ๆ ละคน นายช้างขี่คอ ๑ นายกองเปนควาญู ๑ เสมอตัวหนึ่ง ทนายปืนกลางช้าง ๑ กรมช้างขี่คอ ๑ ท้าย ๑ รวมเปน ๓ คน ปืนกระสุนนิ้วกึ่งกระบอก ๑ กระสุนโดด ๑๐ กระสุนปราย ๒๐๐ รวม ๒๑๐ กระสุน หอกซัด ๑๐ แหลนซัด ๑๐ รวม ๒๐ เล่ม ธงผุดทองช้างละดอก แดงน่า เขียวหลัง เปนช้างน่า ๑๐ ช้าง หลัง ๑๐ ช้าง รวมเปนช้างพลาย ๒๐ ช้าง

ช้างกันในผูกเครื่องมั่น ทนายเลือกถือปืนคาบศิลากลางช้าง ๆ ละคน ๑ ขุนหมื่นกองช้างนอกขี่คอ ๑ ท้าย ๑ เปนช้างซ้าย ๕ ขวา ๕ รวม ช้างพลายกันใน ๑๐ ช้าง

กองช้างอาสากันชั้นนอก มีทนายถือปืนคาบศิลากลางช้าง หมู่ตำรวจกลางขึ้นนายโชติราช นายไชยราช ตำรวจในเปนทนายปืนเสมอช้าง ๑ ขุนหมื่นชาวกองช้าง (ขี่คอ) ๑ ทนายปืนกลางช้าง ๑ ไพร่นายช้าง (ควาญ) ๑ รวม ๓ คน เปนช้างซ้าย ๑๐ ขวา ๑๐ รวมช้างกันนอก ๒๐

ช้างเครื่องมหาดเล็ก สำหรับพระสุพรรณศรี พระล่วมทองช้าง ๑ สำหรับพระล่วมตะบัน พระโอสถสูบ พานพระชุดช้าง ๑ พระเต้าทองพระเต้าเงินช้าง ๑ หม้อลงพระบังคน กาพระบังคนช้าง ๑ พระตะภาบเงินใส่พระสุธารศ ช้าง ๑ พัชนีทอง พัชนีแพร ช้าง ๑ พระแสงกระสุน พระแสงง้าว พระแสงหอก ช้าง ๑ พระกลดแดด พระกลดฝน ช้าง ๑ พระสมุดพระกระดานชนวน ช้าง ๑ พระปิ่นโตของเสวย ช้าง ๑ รวมเปน ๑๐ ช้าง มหาดเล็กเชิญเครื่อง จ่าหุ้มแพรกำกับเครื่องถวาย

หลวงพรหมบริรักษ์ หลวงสุริยภักดี ขุนสมุหพิมาน ขุนประธานมณเฑียร สนมทหารแต่งจำลองกูบเขียนลายรง ขวาพื้นแดง ซ้ายพื้นดำ

แลหลวงเทพราชา หลวงทิพราชา กรมช้างคุมหมู่จ่าเจียมกรมช้าง เครื่องมือสำหรับช่างปากไม้ ๑๐ (คน) คบเพลิงตัวละ ๒ ดอก ช้างขวา ๔๐ ซ้าย ๔๐ รวมเปน ๘๐ ช้าง.

ช้างพระประเทียบพลาย ๔ พัง ๑๑ รวม ๑๕ ช้าง

ช้างพระที่นั่งหลังคาทอง นายพุฒา นายจันปัญญา สี่ตำรวจเชิญมา กรมช้างผูก นายท้ายช้าง (ขี่) คอ ๑ ควาญ ๑

ช้างดั้งผูกเครื่องมั่น ทนายเลือกแสงปืนคาบศิลากลางช้าง ๆ ละคน เปนช้างดั้งน่า ๒ หลัง ๒

แลช้างปืนใหญ่ เสมอช้างหนึ่ง ทนายปืนกลางช้าง ๑ กรมช้าง (ขี่) คอ ๑ ควาญ ๑ รวมเปน ๓ คน ปืนกระสุนนิ้วกึ่งกระบอก ๑ กระสุนโดด ๑๐ กระสุนปราย ๒๐๐ รวม ๒๑๐ กระสุน หอกซัด ๑๐ แหลนซัด ๑๐ รวม ๒๐ เล่ม ธงผุดทองธงละดอก แดงน่า เขียวหลัง รวม ๒ ธง เปนช้างดั้งน่า ๕ หลัง ๕ รวม ๑๐ ช้าง

แลช้างประทุกที่แลสิ่งของพระคลังข้างน่าแลพระคลังข้างในสำหรับไปตามเสด็จ ฯ นั้น ถ้าข้างน่าพนักงานเจ้ากรมปลัดกรมกราบทูลพระกรุณา สั่งเวรกรมช้างจ่าย ถ้าข้างใน ๆ กราบทูลพระกรุณาส่งหางว่าวให้สนม (พลเรือน) สั่งเวรชาววังเวรมหาดไทย ให้กรมช้างจ่าย กรมช้างจ่ายให้พนักงาน ๆ ปิดตราไว้แก่กรมช้าง จ่ายช้างกระบวรเสด็จ ฯ แลนอกกระบวรเสด็จ ฯ มากน้อยเท่าใด พันภาณ (มหาดไทย) ได้เรียกหางว่าวกรมช้าง ให้พณหัวเจ้าท่านสมุหนายกเอากราบทูลพระกรุณา

กรมม้าเกณฑ์ม้าผูกเครื่องทองคำ (พระที่นั่ง) ทรง ๑ (พระที่นั่ง) รอง ๑ ม้าแซงในถือปืนถือทวน ดาบขัดแล่ง ซ้ายตำรวจ ๑ ขุนหมื่น ๕ ขวาตำรวจ ๑ ขุนหมื่น ๕ รวมตำรวจ ๒ ขุนหมื่น ๑๐ เปน ๑๒ ม้าแซงนอกถือเกาทัณฑ์ดาบขัดแล่ง ซ้ายตำรวจ ๒ จีน ๕ ขวาตำรวจ ๒ จีน ๕ รวมตำรวจ ๔ จีน ๑๐ เปน ๑๔ ถือทวนดาบขัดแล่ง หมื่นพันขี่ ซ้าย ๖ ขวา ๖ รวม ๑๒ รวมแซงนอกซ้าย ๑๓ ขวา ๑๓ เปน ๒๖ ม้า

ม้าทิด ขุนกองขี่ถือทวนดาบขัดแล่ง ปืนนกโพรงผูกข้างม้าตัวละกระบอก ซ้าย ๘ ขวา ๘ รวม ๑๖ ม้า

ม้าสวนทางไปน่ากระบวรแห่ดาบขัดแล่ง ซ้ายหมื่นเทพสารถี ๑ ขวาหมื่นพาชีไชย ๑ รวม ๒ ม้า

ม้าใช้ (กระบวร) หลังดาบขัดแล่ง หมื่นไกรสรแมนขี่ ๑ หมื่นแสนใจเพ็ชรขี่ ๑ รวม ๒ ม้า

ม้านำเสด็จดาบขัดแล่ง ขุนโจมพลล้านขี่ ๑ ขุนสท้านพลแสนขี่ ๑ รวม ๒ ม้า

รวมกระบวรม้า ๒๐ ม้า พันเภา (มหาดไทย) ได้เรียกหางว่าวส่ง พณหัวเจ้ท่านสมุหนายกกราบทูลพระกรุณา

แลขุนสุเรนทรวิชิตคุมฝีพายบ้านใหม่ ๕๐ ขุนอภัยเสนาคุมฝีพายโพธิ์เรียง ๕๐ รวม ๑๐๐ คน หลวงเทพา (สัสดี) คุมเลขเรือดั้งเรือกันซ้าย ๕๐ คน หลวงศรีกาฬสมุด (สัสดี) คุมเลขเรือดั้งเรือกันขวา ๕๐ คน รวม ๑๐๐ คน ถือหอกถือพร้า (เปนกระบวร) ท้ายพระที่นั่ง ๒๐๐ คน

แลสัสดีเกณฑ์ยกเอาเลขฝีพายเรือคฤห์สองตอน เรือศรีผ้าแดง เรือที่นั่งกราบ เรือเจ้าหากรมมิได้ หามปองทหารในซ้ายขวา แสงใน เครื่องนมัสการ คุม

แลหมื่นนรินทรเสนี หมื่นศรีสหเทพ เกณฑ์ขุนหมื่นตามรถสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ (แล) พระเจ้าลูกเธอ ฯ รับเสด็จขึ้นไปพระพุทธบาท เจ้ากรม ปลัดกรมฝ่ายทหาร ขุนพิไชยนุราชรถาจารย์เจ้ากรม ๑ หมื่นมณีราช (รถ) ปลัดกรม ๑ รวมฝ่ายทหาร ๒ ฝ่ายพลเรือน ขุนราช (รถ) ยานบริรักษ์ เจ้ากรม ๑ หมื่นรัถภูบาล ปลัดกรม ๑ รวมฝ่ายพลเรือน ๒ รวมเปน ๔ คน

แลรถพระที่นั่งทรงจตุรมุข พนักงานสี่ตำรวจ รวมกันรถ ๑ พระประเทียบ กรมหลวงพิพิธมนตรี สนมตำรวจซ้ายขวาทำ (รถ) ๑ รถพระราชทานพระสงฆ์ รถสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ รถพระเจ้าลูกเธอหลานเธอ รถฝ่ายทหารเปนพนักงานตำรวจในซ้ายขวา ตำรวจใหญ่ซ้ายขวา ตำรวจนอกซ้ายขวา ทหารในซ้ายขวา สนมทหารซ้ายขวา อาสาหกเหล่า แลรถฝ่ายพลเรือนพนักงานมหาดไทย (น่าที่) ขุนราชอาญา (สมุห์บาญชี) จตุสดมภ์ กรมช้างซ้ายขวา กรมสรรพากรใน กรมสรรพากรนอก กรมล้อมวัง ได้ทำแลกระบือชักรถนั้นกรมนาได้จ่าย

อนึ่งโค (แล) เกวียน (นั้น) พันจันท์เวรทางเกณฑ์กรมการหัวเมือง เมืองมโนรมย์ ๑ เมืองไชยนาท ๑ เมืองสิงห์บุรี ๑ เมืองสรรค์บุรี ๑ เมืองอ่างทอง ๑ เมืองอินทร์ ๑ เมืองพรหม ๑ เมืองลพบุรี ๑ เมืองสระบุรี ๑ แขวงสี่ทิศ ให้เอาโค (แล) เกวียนมาบรรทุกสิ่งของข้างน่าข้างใน ของเครื่องเล่น (มหรศพ) ของดอกไม้เพลิง ของแสงสรรพยุทธ ขึ้นไปพระพุทธบาทตามบาญชี (เจ้าพนักงาน) ข้างใน (คือ) หมื่นเทพขันที หมื่นราชขันที (แล) เจ้าพนักงานข้างน่า๑๐ (แต่จำนวนเกณฑ์) จะเปนเมืองใดมากน้อยเท่าใดจำมิได้ ถ้ามิได้โคเกวียน กรมการแขวงเอาเงินมาให้เจ้าพนักงานชำระโคเกวียน แลเงินค่าโคเกวียนทั้งนี้ กรมการแขวงเรียกเอาแก่ราษฎรเสมอเรือน ๑ เสมอกัน เรือนละบาท ๑ (ค่า) หมายเรือนละ ๒ สลึง (คือ ๕๐ สตางค์) ครั้นอยู่มาทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ราษฎรเสียค่าโคเกวียนแต่เมืองจัดวา แลแขวงหัวเมืองฝ่ายเหนือ นอกกว่านี้มิได้เสียค่าโคเกวียน ให้เฉลี่ยเอาค่าโคเกวียนให้ทั่วจงทุกหัวเมือง คงราษฎรได้เสียค่าโคเกวียน (ครัว) ฉกรรจ์เรือนละสลึง ๑ หม้ายเรือนละเฟื้อง ๑ ได้เงินมากน่อยเท่าใดส่งไว้พระคลัง ต่อเสด็จ ฯ จึงเอาเงินนั้นมาจ่าย ถ้าเหลือส่งเข้าพระคลังหลวง

(ล้อมวงที่พระพุทธบาท)

ครั้นเสด็จฯ ถึงพระพุทธบาท ล้อมวังตั้งตาริ้ววางขวากกระจับเหล็กรอบพระตำหนัก ๕ ศอก (ตั้งเปน) ๑๐ กอง กอง ๑ ปืนตาตะคร่ำเงินกระบอก ๑ ปืนหามแล่นกระบอก ๑ ปืนคาบชุด ๑๐ กระบอก ปืนทองกระสุนปราย ๑๐ กระบอก รวมปืน ๒๒ กระบอก ธนู ๕ คัน น่าไม้ ๕ คัน โล่ห์ ๕ ขวากกระจับ ๕๐ หลุม คนกองละ ๖๐ คน (ฤๅ) ๗๐ คน

ทหารในอาสาวิเศษอยู่นอกล้อมวัง ทหารใน ๒ กอง ๑๖ คน อาสาวิเศษ ๑๖ คน

แลประตูล้อมวังนั้นชาววังได้กำกับรักษาด้วย

แลสัสดี พันเทพราช ยกเลขเรือพระที่นั่ง เรือดั้ง เรือกัน เรือศรีผ้าแดง เรือคฤห์ มานอนซุ่มน่าฉาน แลท้ายสนม

แลกรมช้างกรมม้าเกณฑ์ช้างเกณฑ์ม้าตระเวน ๔ ยามตามซ้ายแลขวา เหมือนอย่างเมื่อเสด็จประทับแรมอยู่ณะพระตำหนักท่าเจ้าสนุก.

อนึ่ง หมื่นนรินทรเสนี พันเทพราช ฝ่ายทหารเกณฑ์ขุนหมื่นไพร่ ถือปืนนกโพรง แลฝ่ายพลเรือน หมื่นศรีสหเทพ พันพุฒเกณฑ์ ขุนหมื่น สัสดีเกณฑ์ไพร่ถือหอก ตั้งกองร้อยคอยเหตุ ตระเวนพิทักษ์รักษาชั้นนอก ห่างพระตำหนักออกไปทาง ๑๕๐ เส้น ๑๐๐ เส้น ๕๐ เส้น ๓๐ เส้น ตระเวนบรรจบถึงกัน เปนคนกองร้อย ๕ กอง ตั้งอยู่ ธารทองแดงกอง ๑ ห้วยวังวากอง ๑ ศิลาดาดกอง ๑ ท้ายเขาตกกอง ๑ พุหลวงกอง ๑ กองตระเวน (อิก) ๕ กอง ตั้งอยู่หนองบัวกอง ๑ หนองสามสิบกอง ๑ ป่าไม้แดงกอง ๑ เขาดินกอง ๑ ทุ่งคีลาดกอง ๑ กองคอยเหตุ ๒ กอง ตั้งอยู่พุนกยุงกอง ๑ หนองคณฑีกอง ๑ กองตั้งเชิงเขา ๒ กอง เสมอกอง ๑ ทหารนาย ๑ ไพร่ถือปืน ๑๐ พลเรือนนาย ๑ ไพร่ถือหอก ถือหลาว ๑๐ รวมเปนกองละ ๒๒ คน เลขกองคอยเหตุกองตั้งทั้งนี้ตระเวนบรรจบถึงกัน พนักงานตำรวจในซ้ายขวา ผู้อยู่เวรได้ตรวจตราเอากราบทูลพระกรุณา ฯ

อนึ่ง ถ้าทรงพระกรุณามิให้เอาช้างบรรทุก ๒ เที่ยว กรมช้างเกณฑ์ขุนหมื่นคุมไพร่ถือหอกถือหลาว พันภาณแต่งนายรองมาตั้งด่าน ห้ามมิให้ช้างกลับ อยู่ที่หนองคณฑีกอง ๑ พุหลวงกอง ๑ พุนกยุงกอง ๑ รวม ๓ กอง กอง ๑ (มี) นาย ๑ นายรอง ๑ ไพร่ ๒๐ รวม ๒๒ คน

อนึ่งดอกไม้เพลิง เครื่องเล่นทั้งปวง สำหรับสมโภชพระพุทธบาท (นั้น) พนักงานพันจันท์ได้กะเกณฑ์ตรวจตราว่ากล่าว

(การรักษาพระนครเวลาเสด็จไม่อยู่)

อนึ่งถ้ามีที่เสด็จไปพระพุทธบาท (ฤๅ) เมืองลพบุริ (ฤๅ) เมืองเพชรบุรี๑๑ นครบาลเกณฑ์รักษากรุง ฯ

กรมล้อมพระราชวัง พระเพชรพิไชยตั้งกองซุ่มอยู่จวนท้องสนามกลาง ขุนหมื่นคุมไพร่ขึ้นรักษาป้อมเชิงเทินรอบพระราชวังกรม ๑

กรมวังนอกอยู่ทิมดาบชาววัง หลวงราชฤทธานนท์ หลวงนนทเสน ขุนหมื่นชาววังนอก เหล่า ๑

กรมวังเกณฑ์ ขุนอินอาญา ๑ ขุนเทพสุภา ๑ ขุนพรหมสุภา ๑ (ตุลาการศาลกรมวัง) ๓ คน อยู่จำหล่อประตูท่าสิบเบี้ย (เหล่า ๑) แล (พนักงาน) อยู่รักษากรุง ตระเวนนอกที่ห้าม ตั้งกองซุ่ม ๓ กอง ตั้งกองรักษาจำหล่อแลตระเวนในกรุงตามอำเภอ ๘ กอง ตระเวนนอกกรุงตามอำเภอ ๘ กอง รวม ๑๙ กอง เปน (คือ)

ขุนสัสดี ๑ ขุนสารวัด ๑ นายตำรวจซ้าย ๑ นายพธำมรง ๔ นายบาญชีกลาง ๑ รวม ๘ นาย ไพร่สม ๘๐ รักษาผู้ร้าย ๘ คุก รวม ๘๘ คน

พระยายมราช ๑ หลวงขุนหมื่น ๑๐ เสมียนทนาย ๒๐ ไพร่สมกำลัง ๒๐๐ รวม ๒๓๑ คน ตั้งกองขัดตาทัพอยู่ท้องสนามน่าพระสพ๑๒ เพลากลางคืนไปตระเวนตรวจตราทั่วกรุง

หลวงรองเมือง ๑ เสมียนทนาย ๑๐ ไพร่สม ๕๐ รวม ๖๑ คน ทั้งอยู่ป้อมเพชรบางกะจะ แลไปตระเวนตรวจตราอำเภอหหาร

ขุนเทพผลู ๑ เสมียนทนาย ๗ ไพร่สม ๓๒ รวม ๔๐ คน ตั้งอยู่ณะจำหล่อตะพานลำเหย ตระเวนอำเภอพลเรือน

(กองตระเวนกรมเมือง) ตั้งกองรักษาจำหล่อ แลตระเวนในกรุง ๔ อำเภอ ขุนญี่สารบุรี ๑ หมื่นญี่สารบุรี ๑ ขุนวิจารณ์ภูธร ๑ ขุนตระเวนรักษา ๑ หมื่นจิตรบริบาล ๑ ขุนภักดีภูวดล ๑ หมื่นภักดีภูวดล ๑ ไพร่สมนายละ ๑๐ คน รวมนายไพร่ ๘๘ คน

(กองตระเวนกรมเมือง) ตระเวนนอกกรุง ตามพนักงาน ๔ อำเภอ ขุนนครภักดี ๑ หมื่นนครภักดี ๑ ขุนจำนงบุรี ๑ หมื่นจำนงบุรี ๑ ขุนแผ้วภูวดล ๑ หมื่นแผ้วภูวดล ๑ ขุนไชยบุรีบาล ๑ หมื่นไชยบุรีบาล ๑ ไพร่สมนายละ ๑๐ รวมนายไพร่ ๘๘ คน

รวม (พนักงานในกรุงเกณฑ์รักษาพระนคร) นาย ๖๑ ไพร่ ๕๒๒ คน เปน ๕๘๓ คน

อนึ่งมีตรารับสั่งให้หาผู้ครอง (แล) ผู้รั้งเมือง (คือ) เมืองวิเศษไชยชาญ ๑ เมืองอินทบุรี ๑ เมืองพรหมบุรี (เมืองสิงห์บุรี) เมืองสรรค์๑๓ ๑ เมืองนครไชยศรี ๑ เมืองสุพรรณบุรี ๑ เมืองราชบุรี ๑ รวม ๘ เมือง เข้า (มา) บรรจบอยู่รักษากรุง ฯ ได้ตระเวนทางเรือรอบกรุง ๘ ลำ เปน (จำนวน) นาย ๘ ไพร่เมืองละ ๕๐ คน รวมเปน ๔๐๘ คน

กรมท่าซ้ายขวาเกณฑ์แบ่งอยู่รักษากรุง ฯ รักษาจำหล่อตระเวนบรรจบถึงกันตามอำเภอ เปน (คือ)

ขุนท่องสื่อ ขุนท่องสมุท อำเภอจีน (รักษา) แต่วัดจีนถึงประตูจีน

ขุนโกชาอิศหาก ขุนราชเศรษฐี อำเภอแขก (รักษา) แต่ตะพานประตูจีนถึงวัดนางมุก เลี้ยวลงไปถึงประตูใต้กาญี

สอรรประรำ๑๔ วิประวาชี อำเภอพราหมณ์เทศ (รักษา) แต่น่าวัดนางมุกมาวัดอำแม ทั้งฉะกุญไปถึงเสาชิงช้า กองตระเวนกรมท่ากอง ๑ นาย ๑ ไพร่ ๑๐ คน ๖ กองรวมเปน ๖๖ คน

ขุนโรงขุนศาลอยู่รักษาช่องจำหล่อตามน่าที่ทุกกรม แลเจ้ากรมปลัดกรมนอกกว่านี้ แบ่งไว้ประจำการรักษาที่เสด็จออก รักษาทิมดาบ รักษาโรงแสง รักษาคลัง รักษาฉาง รักษาศาลาลูกขุน ตามพนักงานทุกกรม

ข้าราชการผู้อยู่ทั้งนี้ พนักงานเสมียนตรากรมพระนครบาลได้เรียกบาญชี เข้างบส่งให้พณหัวเจ้าท่านสมุหนายก แลผู้อยู่ประจำการกรุงฝ่ายทหาร (นั้น) พันเทพราชเรียกบาญชีส่งให้พณหัวเจ้าท่านสมุหพระกลาโหม (แต่ก่อนเสด็จ) ครั้นเสด็จไปแล้ว ข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้อยู่รักษากรุง ฯ บอกเข้าไปยังทัพหลวง

แลการทหารซึ่งหมื่นนรินทรเสนี พันเทพราช พันทิพราช พันอินทราช พันพรหมราช กะเกณฑ์ทั้งนี้ เอาว่าแก่สมุหพระกลาโหม พระสุรเสนา หลวงธรรมไตรโลก หลวงเทพอรชุน ฝ่ายพลเรือน ซึ่งหมื่นศรีสหเทพ พันพุฒ พันภาณ พันเภา พันจันท์ กะเกณฑ์ทั้งนี้ เอาว่าแก่สมุหนายก หลวงอำมาตย์ หลวงราชนิกูล (ต่าง) บังคับบัญชาตามข้อราชการ ขอเดชะ ๚ะ

(จบตำรากระบวรเสด็จเท่านี้)

  1. ๑. ที่ว่ามหาดเล็กวังน่าตรงนี้ คอยดูอธิบายข้างน่าต่อไป

  2. ๒. ทำเนียบเดี๋ยวนี้เปนหลวงพิไชยพาชี จะแก้ใหม่ฤๅหนังสือนี้จะเขียนสร้อยชื่อผิดก็เปนได้

  3. ๓. ความที่เกี่ยวถึงกรมพระราชวังบวร ฯ ตรงนี้ บางทีจะเปนแบบแผนมีขึ้นใหม่ ครั้งเมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากุ้ง กรมขุนเสนาพิทักษ์เปนกรมพระราชวังบวรฯ โดยทำนองจะได้มีน่าที่เปนผู้ตรวจมาแต่ก่อนนั้นแล้ว.

  4. ๔. ท้องที่ตอนนี้เปนยังอยู่ในอำเภอนคร แขวงจังหวัดกรุง ฯ ขุนนครเปนนายอำเภอ.

  5. ๕. ว่าด้วยช้างพระประเทียบตรงนี้ เห็นจะหมายความว่ากระบวรพระมเหษี

  6. ๖. ในต้นฉบับเขียน ลูกพลู อย่างนี้ จะถูกฤๅที่ถูกจะอย่างไรข้าพเจ้าไม่ทราบ.

  7. ๗. ้นฉบับเขียน ทิด อย่างนั้ จะผิดฤๅหมายความอย่างไรสงไสยอยู่

  8. ๘. พระมเหษีของสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐ์.

  9. ๙. แขวงสี่ทิศอยู่ในจังหวัดกรุง ฯ คือแขวงรอบกรุง ๑ แขวงเสนา ๑ แขวงอุไทย ๑ แขวงนคร ๑ รวมเปน ๔ แขวง.

  10. ๑๐. ตรงนี้ต้นฉบับเห็นจะตกชื่อเจ้าพนักงาน

  11. ๑๑. ทั้ง ๓ แห่งนี้เปนที่เสด็จประพาศเนือง ๆ

  12. ๑๒. ที่ว่า น่าพระสพ ตรงนี้ จะเปนตรงไหนสงไสยอยู่

  13. ๑๓. ในต้นฉบับเขียน เมืองสรทบุรี สันนิษฐานว่าจะเปนสรรค์บุรี

  14. ๑๔. ต้นฉบับเขียนอย่างนี้ จะถูกฤๅที่ถูกจะเปนอย่างไร หาทราบไม่

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ