การทดลองอดวิสกี้โดยทุนของไอ้เผือก หรือเหล้าเถื่อน ดำเนินไปโดยวิธีเดียวกันเช่นนี้ได้สามวัน สุริยาก็ยอมแพ้ ถึงกับตั้งปณิธานขึ้นในใจ ในตอนเช้าวันที่สี่ว่า จะไปเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องโดยสารรถไฟออกจากป่ามหาเสน่ห์ในวันนี้ให้จงได้ หากแต่ว่าพรหมลิขิตบัญญัติไว้เสียอีกทางหนึ่ง จึงจำเพาะเมื่อวานเย็นนี้ นายสุวรรณผู้มีจิตอารีอยู่ต่อเขา ก็ยังบังเอิญได้รับคำสั่งจากบริษัททางโทรศัพท์ ให้ยกกองเป็นการด่วน ออกสำรวจเพื่อเปิดป่าด้านหนึ่งทางชายแดนจังหวัดระยอง ซึ่งจะต้องไปรอนแรมกลางป่าเป็นเวลานับเดือน ดังนั้นนายสุวรรณ จึงได้ออกเดินทางไปเสียแต่เช้ามืดของวันรุ่งขึ้นนั้นเอง ตามวิสัยผู้มีระเบียบวินัยและการเตรียมพร้อมจะปฏิบัติงานด่วนประเภทนี้ ฉะนั้นก่อนจะจากหมื่นจิตต์ไป นายด้านผู้รอบคอบยังได้จดหมายสั่งผู้แทนไว้ว่า ถ้ามีชายรูปพรรณสัณฐานอย่างนั้น ๆ มาอ้างนามเขา ขอโดยสารรถไฟกลับศรีราชา ก็ให้อนุญาตด้วย แต่นายผู้แทนซึ่งเป็นเพียงเสมียนเก่าถูกส่งขึ้นไปจากบริษัทศรีราชา เพื่อทำการแทนชั่วคราว มิได้มีส่วนรู้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มผู้พลัดถิ่นและตัวนายด้านอยู่ก่อน จึงหาได้เอาใจใส่สืบถาม ให้ความสะดวก หรือช่วยเหลือแก่เขาสมดังความปรารถนาดีของนายสุวรรณไม่ ด้วยประการฉะนี้ ปณิธานในใจของสุริยาจึงเป็นแต่เพียงสิ่งที่คาดหมายไว้เท่านั้นเอง

และการอาศัยอยู่บ้านนายมุ้ยต่อมาด้วยจำนวนเงินซึ่งมีติดตัวอยู่ ๓๐๐ กว่าบาทนั้น สุริยาก็ได้ใช้เป็นค่าเลี้ยงดูสมัครพรรคพวกใหม่ ๆ อยู่ทุกวัน ในวันแรก ๆ ตอนเมื่อลืมตาขึ้นรับอรุณเขาตั้งใจไว้เด็ดขาดว่า จะขออาศัยรถกลับศรีราชาในเย็นวันนั้นให้จงได้ ครั้นถึงเวลาไปกินอาหาร ณ ร้านค้า ซึ่งปรุงอาหารสดเปลี่ยนได้ไม่กี่อย่าง และประกอบทั้งรู้สึกคอแห้งผากมาแต่คืนก่อน ก็อยากจะจิบยาบำรุงอาหารเสียก่อน เมื่อหนึ่งแล้วสองสามก็ตามไป ยิ่งกว่านี้อีก นายมุ้ยเจ้าของบ้านซึ่งถือว่าเทวดาโปรยเศรษฐีลงมาในบ้านแกนั้น ก็ได้พยายามปรนนิบัติผู้เป็นแขกของแกอย่างเต็มที่ สุริยาเคยบ่นเข้าหูว่าไอ้เผือกกลิ่นแรงน่ารังเกียจ นายมุ้ยก็เร่งดับกลิ่นตามความรู้ของแกโดยเร็ว กล่าวคือ ใช้ยาจีนประมาณ ๑ กำมือ กรอกใส่ขวดตั้งทิ้งไว้คืนหนึ่ง เช้าขึ้นไอ้เผือกก็คลายกลิ่น ดื่มได้สนิทสนมเหมือนบรั่นดีฝรั่งบางชนิด นอกจากกลิ่นที่มักเป็นที่รังเกียจแก่ผู้ดื่มไอ้เผือกใหม่ ๆ แล้ว นักวิสกี้ทั้งหลายที่หันมาสู่เหล้าชนิด ‘โรง’ นี้ มักประสบกรรมอีกอย่างหนึ่งคือ มักมีอาการ ‘โอ้ก’ เวลาตื่นนอน ดังนี้เช้าวันใดที่สุริยาบังเอิญโอ้กขึ้นมา นายมุ้ยก็ริน ‘ชองดา’ ฝีมือแกเอง ให้ถึงปากเขาทันทีทุก ๆ เช้า ด้วยประการฉะนี้ ความรู้สึกฝ่ายสูงอันจะบันดาลชีวิตไปสู่ทางที่ควร ซึ่งถูกบดบังอยู่เบื้องหลังหมอกควันไอ้เผือก และซึ่งฉายรัศมีแหวกออกมาได้แต่ตอนรุ่งอรุณเป็นครั้งคราวนั้น จึงกลับมาถูกกลบแสงให้สิ้นไปด้วย ‘ชองดา’ ในความเอาใจใส่ของนายมุ้ยเป็นกิจวัตร

วันคืนล่วงไป ชีวิตของสุริยาก็ยังคงดำเนินไปเลื่อนลอยปราศจากจุดหมายปลายทางอื่นใดนอกจากเหล้า เมาแล้วก็แสดงความวิตถารกับพลายมลิวัลลิ์ ช้างที่ดีที่สุดในจำนวนช้างที่บริษัทมีอยู่ และก็เป็นอภินิหารจริง ๆ ที่เขาแสดงได้โดยไม่ถูกคร่าชีวิต แต่เงินซึ่งมีอยู่ ๓๐๐ กว่าบาท สามารถให้ความสะดวกแก่เขาได้เพียงสองเดือนเศษก็หมดไปตามกฎของธรรมชาติ คือสิ่งที่ไหลออกแต่อย่างเดียวไม่มีไหลเข้าก็ย่อมหมดไป

ตามธรรมดา หรืออย่างน้อยในสังคมแห่งนครหลวง เมื่อหมดเงิน ก็หมดเพื่อน แล้วก็อด นี่คือบทบัญญัติที่แน่นอนที่สุดของสังคมที่ว่ากันว่าเจริญแล้ว แต่บทบัญญัติข้อนี้ไม่ใช้กันในป่าชัฏของศรีราชา สุริยาหมดเงินแล้ว แต่ไม่หมดเพื่อน หรือต้องอดทั้งเหล้ายาและอาหาร นายมุ้ยซึ่งบำเพ็ญตัวเป็นเพื่อนกินของเขาได้เกือบสามเดือน โดยไม่ต้องชักเนื้อตัวเลย ก็รีบกลับเข้าทำงานเพื่อเพื่อนของเขาจะได้ไม่ต้องอนาทรร้อนใจ และคนอื่น ๆ ที่ได้เคยรับเลี้ยงของสุริยาเล่า ก็ไม่ยอมน้อยหน้ากัน ต่างก็พยายามตอบแทนผู้มีคุณ ซึ่งพวกเขานับถือและนิยมชมชอบด้วยสุจริตใจ และยินดีเสียสละกันคนละเล็กละน้อย เพื่อมิให้เขาต้องลงมือทำงานต่ำ ๆ ซึ่งคงจะไม่เคยทำมาเลยในชีวิต จนกว่านายสุวรรณ นายด้านผู้อารีจะกลับ และหางานอันควรให้แก่เขาทำต่อไป แต่สุริยาก็เป็นสุภาพบุรุษพอ เขาอาจลืมลูกลืมเมียและบ้านช่อง เพราะพิษเหล้าเข้ากลบสมอง แต่บางครั้งบางคราวเมื่อเขารำลึกได้แจ่มแจ้งนั้น ก็บังเกิดความตะขิดตะขวงใจบางประการขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยให้เขาเกิดมีอาการลังเลวินิจฉัยไม่เด็ดขาด เวลาจะล่วงเลยไปเท่าใด สุริยาไม่เคยคิดหรือรู้ แต่ที่จะยอมให้คนอื่นทำงานมาเลี้ยงตนโดยวิธีเรี่ยไรกันเช่นนั้น ไม่ใช่วิสัยชาย ไม่ว่าขี้เมาหรืออย่างใด

ด้วยมูลเหตุอันนี้ ภายในเวลาไม่ช้าสุริยาก็ได้เข้าทำงานในหน้าที่หนึ่ง ซึ่งต้องใช้ภูมิความรู้ในการวิศวกรรมบ้าง และเขาทำได้เป็นอย่างดี จริงอยู่ งานนั้นเป็นตำแหน่งต่ำและมีรายได้ผิดกับที่เคยได้รับมาลิบลับ แต่ถ้าเป็นรายได้สำหรับอยู่กลางดงกลางป่า และในหมู่เพื่อนบ้านที่เป็นกันเองเช่นนั้น ก็เพียงพอจะดำรงชีวิตไปได้ ถ้าหากพลายมลิวัลลิ์ที่เขารักและรักเขาไม่ทำเหตุขึ้น

ด้วยความที่มันมีวิสัยมากด้วยความริษยานั่นเอง คำทำนายของนายสุวรรณจึงกลายเป็นความจริงขึ้นเป็นครั้งแรก กล่าวคือ พลายมลิวัลลิ์ เริ่มจะไม่ชอบหน้านายมุ้ยขึ้นมา และกลายเป็นเกลียดชัง ดังที่จะเห็นกันได้แจ่มแจ้ง

เพราะฉะนั้น นายมุ้ยจึงต้องระวังตัวกลัวภัยอยู่ทุกฝีก้าว โดยเฉพาะในสมัยที่เงินรายได้จำนวนน้อยนี้ ไม่สามารถซื้อน้ำขาว หรือไอ้เผือก ไปบำเรอมลิวัลลิ์ได้สมใจนั้น มันก็ยิ่งอาละวาด ทำฤทธิ์ต่าง ๆ จนบางครั้งสุริยาเอาไว้แทบไม่อยู่ ต้องร้อนถึงหมอช้างบ่อย ๆ เป็นที่น่ารำคาญมิใช่น้อยทีเดียว ในที่สุดเมื่อสุริยาออกนึกระอาความเห็นแก่ตัวของพลายมลิวัลลิ์เหลือประมาณ จึงรับปากนายมุ้ยเรื่องอพยพกันไปหางานทำทางป่าด้านคลองใหญ่ ดังนั้นภายในเวลาอีกไม่กี่วัน สองสหายก็ออกจากหมื่นจิตต์ มุ่งหน้าไปคลองใหญ่ และก็เป็นคราวเคราะห์ดีได้ทำงานในกองรถแทรกเตอร์ที่ด้านนั้นทั้งสองคน

ด้วยประการฉะนี้ เมื่อสิ้นเดือนที่สี่ นายสุวรรณกลับจากป่าด้านระยอง มิได้พบชายหนุ่มหน้าผู้ดีคนนั้น จึงเข้าใจว่าเขาคงกลับกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้วในที่สุด และก็ด้วยประการฉะนี้ หม่อมเจ้าสุริยา เยี่ยมสกล จึงถูกแทงบัญชีตายตามกฎหมาย โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้และก็ไม่เอาใจใส่ เหตุที่เป็นไปเช่นนี้ก็เพราะ เธอวินิจฉัยเสน่ห์ของไอ้เผือกผิดไปเท่านั้นเอง ความจริงเสน่ห์ของน้ำเมาประเภทไอ้เผือกนั้น ลงจับใครได้แล้วที่จะคลายเกลียวนั้นยากนัก

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ