ตำราลักษณะช้างคำโคลง

บานแผนก

วันจันทร์ เดือน ๙ แรม ๑๐ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๔๔ ปีขาล จัตวาศก (ตรงกับวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๓๒๕) ข้าพระพุทธเจ้า หมื่นทิพกระวี ๑ นายชำนาญอักษร ๑ หมื่นทิพไมตรี ๑ หมื่นเทพไมตรี ๑ หมื่นรัดไมตรี ๑ นายบุญคง ๑ ชุบ ขุนมหาสิทธิโวหาร นายชำนิโวหาร ทานแล้ว

๑ ถวายกรกันพุ่มเพี้ยง บุษบง
เถลิงอุศุภราชทรง เทริดเกล้า
อีกไทพิศณุพงศ์ สุรเทพ
กมลาศพิฆเนศรเจ้า โลกล้ำเลอสรวง
๒ อีกองค์จักรพรรดิไท้ ทศรถ
ขอนิพนธ์โคลงคช- ลักษณ์ไว้
โดยในศาสตรกำหนด บรรราช
สนองพระยศเกียรติไท้ ธิราชผู้เป็นเฉลิม
๓ ไตรตรึงษ์ศักดิราชข้อย ควรยอ
คชลักษณ์อันพึงพอ ร่ำได้
บทบาทพลาดผิดขอ ขมาโทษ
ตกแต่งเป็นโคลงให้ ช่วยแต้มเติมสนอง
๔ สารสวัศดิศรีเศวตแผ้ว เผือกพรรณ
นามชื่อเอราวัณ ยิ่งแท้
เศียรสามสิบสามสรรพ์ ลักษณ์เลิศ
ควรคู่ธิราชแล้ เลิศท้าวอินท์ทรง
๕ หนึ่งคชคิรีเมขล์เรื้อง ฤทธี
เผือกผ่องพิดเพียงสี ดอกคล้า
สามเศียรสี่บาทมี ยศยิ่ง
ปรากฏคชสิทธิหล้า แหล่งนั้นฤาเสมอ
๖ หนึ่งไทเทเวศท้าว เทวา
ยี่สิบหกองค์มา แบ่งบั้น
นิรมิตรคชคชา เผือกผ่อง
ล้วนเทพในช่อชั้น นิมิตรให้เป็นสาร
๗ หนึ่งนามคิรีเมขล์ล้ำ คชเลิศ
หนึ่งเอราวัณประเสริฐ ฝ่ายฟ้า
หนึ่งเทพนิมิตรเกิด คชยิ่ง
คชเศวตสามสารกล้า คู่เจ้าไตรตรึงษ์
๘ จะกล่าวคชลักษณ์ล้ำ เลอสวรรค์
สิบหมู่ในหิมวันต์ ว่าไว้
ควรองค์จักราพรรดิ์ พยุหบาตร
เฉลิมโลกธำรงไท้ ธิราชเรื้องรณรงค
๙ วรภาคเผือกผ่องแผ้ว มีพรรณ
ช้างช่อชาติฉัททันต์ เที่ยงแท้
สีขาวดุจเงินสรรพ์ บริสุทธิ ถ่องนา
เรืองฤทธิกำลังแล้ เลิศล้ำพลาสาร
๑๐ สามคาพยุตโยชน์ห้า สิบมี
สามล้านหกแสนทวี หมื่นไซ้
เทาทางแต่พอสี สูริเยศ อรุณนา
กลับสู่สิงสถิตได้ แต่เช้าโมงสาม
๑๑ อุโบสถคชแกว่นแกล้ว สีสุวรรณ
จักรพรรดิทรงจรจรัล แต่เช้า
รอบขอบจักรพาฬผัน คืนที่
ยังไป่ทันเที่ยงเท้า เหนื่อยนั้นฤามี
๑๒ สีเหลืองศุภลักษณ์ล้วน งามสรัพ
เหมหัดถีบังคับ ชื่อไว้
กำลังฤทธิเรวฉับ ชาญเชี่ยว
ควรคู่ทรงธารไท้ แด่เจ้าจอมเมรุ
๑๓ สารสีดุจดอกไม้ อัญชัน
ศุภลักษณ์เลิศลาวรรณ คู่ท้าว
มงคลหัดถีสรรค์ สวัสดิชื่อ
ฤทธิแกว่นรณรงค์ห้าว เศิกสู้สยองเศียร
๑๔ คชลักษณ์คชเลิศล้ำ สารศรี
นามชื่อคันธหัดถี ว่าไว้
หอมกลิ่นเฉกฉมมี สามสิ่ง
มูตและมูลตัวไซ้ ส่อสิ้นรศหอม
๑๕ ปิงคัลสรรค์ชื่อช้าง ปิงคา
สีหนึ่งกาวิลา เลื่อมแล้ว
ลักษณ์เลิศคเชนทรา หิมเวศ
คชมิ่งมงคลแกล้ว แกว่นกล้ากลางณรงค์
๑๖ สีเทียมสีเทียบแท้ ทองดี
คชลักษณ์ศุภมีสี ผ่องแผ้ว
ชื่อดามพะคชหัดถี แสดงเดช
ปราบศึกสงครามแกล้ว เลิศกล้ากลางณรงค์
๑๗ พรรณภาคเผือกผ่องแผ้ว สีสรรพ์
ดุจหนึ่งไกรลาศพรรณ- เรศแพร้ว
ชื่อบัณฑระลาวรรณ แสดงกล่าว
คชเลิศศุภลักษณ์แล้ว ฮึกห้าวใจหาญ
๑๘ มีนามหนึ่งชื่อช้าง คังไคย
สีดุจชลธีไหล คว่างคว้าง
เป็นหมู่ตระกูลใน คชเลิศ
สถิตถิ่นหิมวันต์กว้าง กลั่นแกล้วกลางสมร
๑๙ ช้างหนึ่งพรรณภาคพร้อม ลักษณา
สีดั่งกลปีกกา เทียบแท้
กาลวะกะหัดถีษา- ธรชื่อ
เสร็จคชหิมวาแล้ เลิศถ้วนสิบตระกูล
๒๐ กำลังทั้งสิบช้าง ไชยสวัสดิ์
อุโบสถสิบสารทัด เท่าได้
กำลังแห่งพญาฉัท- ทันตราช หนึ่งแฮ
เสมอหนึ่งกันจงให้ นับเหนื้องอนุกรม
๒๑ เสร็จสารสิบชาติเชื้อ พรหมพงศ์
จักร่ำอัฐทิศวงศ์ กล่าวไว้
สำหรับมิ่งเมืองมง- คลราช
โดยดั่งลำดับให้ เรื่องรู้ตระกูลสาร
๒๒ ไอยราพตภาพใช้ สูงทัต
ตีนน่ากลมกุลฉัตร เฉกแท้
ท้าวหลังเล็บสองสมรรถ เสมอบาท
สีดั่งสีเมฆแล้ อยู่เบื้องบูรพา
๒๓ สองงายาวใหญ่ขึ้น หนขวา
สองเนตรดุจดวงผกา พฤกษ์แพร้ว
งวงงามหนึ่งกลนา- คินราช
หางบดบังคลองแคล้ว เลิศล้วนสรรพางค์
๒๔ สองหูดูปรบเบื้อง บนหลัง
บรรจบปรบถึงทัง ฝ่ายหน้า
เพียรพิศปริษฎางค์ดัง ธนูมาศ
เศียรโสดโขมดสูงอ้า ปากร้องสังข์เสียง
๒๕ บุณฑริกศรีเศวตแท้ บัวขาว
งาซั่นเล็บเรียบยาว ก่องแก้ว
ท้องทวยยิ่งพนดยาว ยลเลิศ
สถิตทิศอาคเนย์แกล้ว กาจกล้ากลางสนาม
๒๖ หนึ่งนามพราหมณชาติเชื้อ แดงสี
ตัวใหญ่คอกลมดี เพริดแพร้ว
โกญจนาทกาหลตี แตรเป่า
เสยส่ายสงครามแผ้ว สถิตแท้ทักษิณ
๒๗ นามกระมุทบริสุทธิแม้น เหมือนสี
หูอ่อนงอนงาทวี เพริดพร้อม
กลเดือนเมื่อดิถี สามค่ำ
เสียงดั่งแตรงอนซ้อม สถิตด้าวหรดี
๒๘ อัญชันสีดุจแต้ม อัญชัน
งาใหญ่ตรงรังสรร เศกซ้อง
เนาทิศประจิมพรร- ฦๅเดช
เสียงดั่งวายุพาทย์ก้อง ปล่องไม้เวฬู
๒๙ บุษปทันตพันธุชาติเชื้อ กุญชร
สีสลาสุกบวร เทียบแล้ว
งาเล็กฝ่ายขวางอน ขาวผ่อง
ทิศที่พายัพแผ้ว ศึกให้สยบแสยง
๓๐ สารวโภมคชลักษณ์ล้ำ แลเลียบ
สีญ่าแพรกตรุณเปรียบ แม่นแม้น
ตัวกลมใส่สนอบเทียบ อุดรทิศ เนานา
หน้าใหญ่งางอนแตร้น ตรวจก้องโกญจา
๓๑ สุบดิษพิศภาคเพี้ยง สนธยา
สีดั่งปัทุมราชปรา- กฏไว้
ผนดดุจอุระพานา- คาราช
งาชื่อบริสุทธิไซ้ ภาคผ้าขาวผจง
๓๒ มีโรมรุนหมุขนั้น ยังยาว
สรส่งสำเนียงหาว เฉกฟ้า
อัณฑโกศอ่อนรังราว มันนิ่ม เนื้อแฮ
ยศยิ่งคชลักษณ์หล้า สถิตเบื้องอีสาน
๓๓ แสดงลักษณ์อัฐทิศให้ เห็นนาม
โดยรูปพรรณภาคตาม แต่งไว้
จะกล่าวอัฐคชคาม- ภิรภาพ
สืบส่ออนาคตให้ ร่ำรู้ดำราสาร
๓๔ สังขทันต์พรรณภาคแท้ เทียมสุวรรณ
งาผ่องขึ้นขวาสรรค์ ส่อพร้อม
เสียงสารดุจเวสันต์ เสียงอึ่ง ไก่นา
ยืนยุทธ์ดัษกรน้อม นบนิ้วประนมถวาย
๓๕ คชหนึ่งศุภลักษณ์ล้ำ ลาวรรณ
สีดั่งทองแดงฉัน ชาดแท้
ชื่อดามพะหัสดินพัน- ฦๅเลื่อง
เสยส่ายศึกพังแพ้ พ่ายโพ้นพึงแสยง
๓๖ ชมลบสบสิ่งถ้วน ลักขณา
หูปรบประซ้ายขวา โบกพร้อม
ปลายหูโอบพักตร์มา จบจวบ กันแฮ
ปรบค่างหลังถึงค้อม ชื่อนั้นลบชม
๓๗ ครบกระจอกบอกบทเบื้อง เล็บแถลง
ยี่สิบนัขะครบแสดง ว่าไว้
สีเล็บดั่งรัตน์แสง ศรีสวัสดิ งามนา
รูปร่างหางหัวได้ ลักษณ์พร้อมงามตรู
๓๘ พลุกสดำร่ำชื่อช้าง คชลักษณ์
รูปร่างสมตรศักดิ ส่อไซ้
งอนพลุกสดำจักร- พรรดิคู่ ควรนา
กอบกำลังฤทธิไหล้ ศึกผ้ายพังหนี
๓๙ พลุกสดำ - - (ฉะบับลบ)
----เรียกสมญา ร่วมได้
สารสวัสดิคเชนทรา ยศยิ่ง
ควรคู่จักรพรรดิไท้ ปราบเสี้ยนศึกสยอง
๕๐ คชหนึ่งงาผ่องแผ้ว เพียงสังข์
โดยสาตรศุภลักษณ์หวัง ว่าต้อง
กายาคชดำดัง นิลรัตน์ เรืองแฮ
นามชื่อสังขทันต์ซ้อง สวัสดิไว้โรงใน
๔๑ โคบุตรพรรณผิ้วล้ำ เหลืองสี
เป็นบุตรนางโคมี ยศหยิ้ง
เสียงเฉกศุภราชี หางดุจ โคนา
ขนรอบกลมพร้อมพริ้ง รูปคล้ายจามร
๔๒ งางอนควรคู่ไท้ ธราธาร
สบศัตรูแหลกลาญ มอดไหม้
กรรภัยโทษร้ายราญ ปวงปลอด
ผี้พบดุจแสดงไข้ ยศเรื้องเจริญศรี
๔๓ พิศณุพงศ์อัฐคชสิ้น เสร็จสาร
จักต่ออัฐคชาธาร กล่าวอ้าง
นิพนธบทวิศฎาร โดยเลศ
นามตระกูลชาติช้าง กล่าวไว้บูรพา
๔๔ คชหนังนามชื้ออ้อม จักรพาฬ
พลุกสดำโอบงวงสาร รอบอั้น
ทับปลายพลุกเฉวียงมาน หนิดหนึ่ง
งาค่างซ้ายโสดสั้น ชาติเชื้อควรเฉลิม
๔๕ คชลักษณ์กันหัถไซ้ สมญา
งาฝ่ายซ้ายโอบมา กอดเกี้ยว
งวงรอบชดปลายงา ตรงปาก ขวานา
งาฝ่ายขวาอ้อมเลี้ยว ทับเบื้องงาเฉวียง
๔๖ ปลายงาตรงปากซ้าย ดุจเดียว
ชาญชำนิเศิกเสียว พ่ายแพ้
สารสิทธิกำลังเพรียว สามารถ
ศุภลักษณ์มงคลแท้ สวัสดิพร้อมเจริญศรี
๔๗ เอกทนต์งาเอกแท้ เดียวงา
งอกแต่เพดานมา ก่ำแก้ว
เวียดไปฝ่ายงวงขวา เพราเพริด
คชลักษณ์คชเลิศแล้ว แหล่งหล้าฤาเสมอ
๔๘ หนึ่งกายบริสุทธ์เพี้ยง นิลสี
กาลวะกะหัตถี ชื่อไซ้
ปรามปราบศัตรูหนี ราบรื่น
กรรโทษทุรลักษณ์ให้ สุขล้ำเลอเกษม
๔๙ หนึ่งลักษณเสาวภาคพร้อม สมญา
จัตุระศกสองงา หนึ่งแท้
ปลายพลุกสี่สาขา ละออเอี่ยม
ปราบหมู่ศัตรูแล้ เลิศด้วยเดชา
๕๐ ทันตรมภารหนึ่งไซ้ สมสรับ
ต้นพลุกขวามาทับ พลุกซ้าย
ต้นงาไขว่กลายกลับ กันอยู่
ปลายต่อปลายต่างย้าย เปลี่ยนซ้ายมาขวา
๕๑ กำลังมหัตห้าว หาญนัก
ปราบอรินทรบรปักษ์ แหลกผ้าย
โอฬาดิเรกลักษณ์ เพราเพริด
กรรสิ่งสรรพโทษร้าย ส่างสิ้นพูนเกษม
๕๒ สีหชงฆ์ท้ายเทียบแท้ ราชสีห์
เท้ามุขสูงสวัสดี ต่ำท้าย
ดูเรียวสี่เชิงมี ลักษณ์เลิศ
สู้ศึกเร็วรวดร้าย ดีดนิ้วเดียวทลม
๕๓ หนึ่งจุมปราสาทไซ้ นามแถลง
งาเปล่งปลายสีแดง ดั่งแก้ว
มานเดชกำแหงแรง สรรพสิทธิ์
ศุภลักษณ์สมบูรณ์แผ้ว เพริดพร้อมตระกูลพงศ์
๕๔ คชหนึ่งลักษณ์เลิศพร้อม โอฬาร
นามพระพัทจักรพาฬ แกว่นกล้า
เมื่อเดินเชิดงวงปาน บังเมฆ
ทรงกำลังเลิศหล้า แเหล่งคร้ามขยาดหยอน
๕๕ หนึ่งควรพาหนาดไท้ ธรณี
นามอุธรดุมมี ลักษณ์ล้ำ
อกใหญ่พ่วงผายพี แรงเรี่ยว
หาญประจญเศิกล้ำ ส่ายฟุ้งชัยเชวง
๕๖ โสดสารวรลักษณ์พร้อม เพราตา
นามรัตนกุมพลบา เศกสร้อง
ปลายพลุกสดำทับงา เฉวียงคช
ปลายต่อปลายจรดต้อง ดั่งนี้ควรทรง
๕๗ แม่คล้องช้างโทษต้อง พันตน
คล้องถูกรัตนกุมพล สวัสดิแท้
บำบัดโทษในสกล เสียเสร็จ
ทั้งขี่คล้องกรรแก้ โทษช้างกลอยหาย
๕๘ ผิ้ผสมโขลงแขกช้าง คละกัน ก็ดี
คุ้มโทษโพยไภยัน นับร้อย
สมบัติมากครามครัน พูนเพิ่ม มานา
ผลาญศัตรูฤาน้อย เฟื่องฟุ้งฦๅขจร
๕๙ สีสังข์ศรีเศวตสร้อย โสภี
นามเศวตพระภรมี กล่าวไว้
หนึ่งประทุมหัดถี แสดงชื่อ
สีดั่งบัวโรยไร้ เมื่อร้างเดือนแรม
๖๐ หนึ่งเศวตคชรัตนเรื้อง รณรงค์
ตองอ่อนแห้งสีคง เปรียบเพี้ยง
งามสรับคชลักษณ์มง- คลเลิศ
สีส่อสมประกอบเกลี้ยง สวัสดิพร้อมสรรพางค์
๖๑ ประทุมทันต์งวงยกย้าย เห็นงา
เนียมเอกสรรพกายา ซั่นแท้
ดุจจาวแห่งผลนา- ลิเกมาศ
งางอกเสมอไพรแล้ นับนิ้วสองเสมอ
๖๒ ประทุมทันต์สรรพลักษสั้น สมตน
งางอกไพรปากกล ใข่แท้
กำหนดคณนาจน ถึงฮ่า นิ้วนา
ทรงชำนะศึกแก้ ก่อกู้นครคืน
๖๓ ประทุมทันต์มณีจักรแท้ เนียมตรี
สรรพซั่นทั้งอันทรี เพริดพริ้ม
ทรงงาดั่งรูปปลี กัทลิศ
ยาวแต่ไพรปากปิ้ม ฮ่านิ้วโดยตรา
๖๔ กำลัง-- - มหึมา
พาหนะจอมจักรา เลิศผู้
บรบปักษ์พ่ายเดชา ทุกเมื่อ
ชาญชำนิรอบรู้ แกว่นแกล้วกลางสมร
๖๕ นพสุบรรพบอกสิ่งเก้า ลักขณา
เท้าสี่หางงวงงา กล่าวไว้
ลึงจรดแทบพสุธา ถึงที่
เก้าสิ่งพร้อมจรดได้ เดชช้างชาญณรงค์
๖๖ คชหนึ่งกายเลื่อมไล้ เหลืองพรรณ
งาผ่องเพียงสังขทันต์ เทียบแท้
ศุภลักษณ์ดังเทพสรรค์ เสาวภาค
นามปัตหัสดินแล้ เลิศล้ำมงคล
๖๗ พลุกเฉวียงเผดียงชื่อช้าง โดยหมาย
พิฆเนศวรมหาพินาย เลิศหล้า
หน้างวงศุภลักษณ์พราย เพราเพริด
เพียงเพทพระพินายหน้า กำเนิดนั้นงาเดียว
๖๘ มานอานุภาพแกล้ว กลางรณ
ผี้วาคชพันตน ต่อได้
ถีบฉัตส่ายเสยพล เศิกพ่าย
ไชเยศเดชแสดงให้ เรื่องรู้กำลังสาร
๗๙ เฉลิมลาภเป็นปิ่นเจ้า จักรพาฬ
เพราะเพื่อเดชาสาร ส่งเกื้อ
ฑรีฆาพระชนมาน เจริญรุ่ง
สรรพสิ่งอันดรายเรื้อ ราศร้างแรมสกล
๘๐ เถวอโรงมุขธินั่งไว้ เฉลิมเมือง
อรุณรุ่งทัศนาเนือง เสด็จเต้า
เป็นศรีสง่างามเรือง ยศยิ่ง
สมส่อพาหนะเจ้า แผ่นหล้าผดุงธรรม
๗๑ เทพามหาพิฆเนศนั้น พลุกสดำ
ดุจพินายแต่กำ- เนิดนั้น
ฤทธากล่าวโดยคำ- ภีรภาพ
สถิตมุขสิงหาศน์ชั้น กล่าวแล้วดุจกัน
๗๒ นิลทันต์นามหนึ่งไซ้ สมบูรณ์
งาสดำเฉวียงปูน เปรียบได้
คือนิลรัตนเพ็ญพูน โสภาค
หาญหักศัตรูให้ ทบท้อกลางแปลง
๗๓ คชหนึ่งศุภลักษณ์ล้ำ สารสวัสดิ
ตาดั่งนิลารัตน์ เพริดแพร้ว
นิลจักษุนามหัส- ดินเดช
องอาจสามารถแผ้ว เศิกเสี้ยนขจายขจร
๗๔ หนึ่งนามนิลนัขะไซ้ โสภี
เล็บสี่เท้าหัดถี เพริดแพร้ว
สีเพียงนิลาศรี เสาวภาค
สุขสวัสดิมงคลแกล้ว กลั่นไว้เฉลิมเมือง
๗๕ เหมทันต์นามชื่อช้าง มงคล
งาเลื่อมเหลืองเพียงกล มาศแท้
หนึ่งเหมจักษุวิมล เพราเพริด
ตาคชบริสุทธ์แล้ เลิศล้ำสีเหลือง
๗๖ หนึ่งเหมนัขชื่อชี้ โดยสาตร
เหลืองหลากเล็บโอภาษ สี่เท้า
สีไสดั่งนพมาศ บริสุทธ์
เป็นมิ่งมงคลเจ้า แผ่นหล้าฦๅเกษม
๗๗ หนึ่งรัตจักษุนั้น นามา
สบสิ่งสรรพโสภา เพิ่มซ้ำ
ตาแดงดั่งสุริยา อรุโณศ
โดยกล่าวศุภลักษณ์ล้ำ ชาติเชื้อพญาสาร
๗๘ นามรัตนัขะรุ่งเรื้อง ฉายฉัน
แดงเล็บเพียงสุริยัน เยี่ยมฟ้า
หนึ่งนามเศวตทันต์ กุญชเรศ
งาผ่องขาวเพียงผ้า เศวตหุ้มงาสาร
๗๙ คชหนึ่งเล็บผ่องแผ้ว จรูญจรัส
ดูดั่งสังข์สีรัตน์ เรียบไว้
มงคลพิมลสวัสดิ โสภาค
นามรัตนนักขาได้ ชื่อช้างตระกูลพงศ์
๘๐ หนึ่งเศวตจักษุไซ้ มีพรรณ
ตาผ่องเพียงเพ็ชรอัน รุ่งรุ้ง
บริสุทธิ์สิ่งสบสรร- พางคภาค
เฉลิมแผ่นภพดาลฟุ้ง เฟื่องด้วยเดชา
๘๑ คชหนึ่งนามนั้นเทพ คีรี
มีลักษณ์สมบูรณ์ศรี สวัสดิไซ้
พรรณเขียวทั่วอินทรี ปูนเปรียบ
บรรพตสีเมฆได้ ชื่อนั้นโดยตรา
๘๒ คนหนึ่งสรรพเลิศเลื้อง ฦๅขจร
มงคลเลศลักษณบวร มิ่งช้าง
พรรณภาคดั่งศีขร ขาวเรื่อ
จันทะคีรีอ้าง เอี่ยมตั้งสมญา
๘๓ นิลานิโลศล้ำ หัสดิน
ดำดั่งแสงสีนิล รุ่งแท้
เสาวภาคเฉิดโฉมฉิน ศุภลักษณ์
ดุจดอกสำหาวแล้ เลิศล้ำมงคล
๘๔ หนึ่งนามสูวโรชเรื้อง กายา
ศรีดั่งปากสกุณา แขกเต้า
ปากล่างจักอุปรมา ปากแขก เต้าแฮ
ควรคู่จุธาทิพเกล้า กล่อมเกลี้ยงผดุงสาร
๘๕ หนึ่งสารศุภลักษณ์นั้น นามา
กำแพงถนิมคชา ชาติเชื้อ
ควรเป็นมิ่งมงคลา นัคเรศ
กายดั่งสอดสนอบเสื้อ เกราะแท้พึงขาม
๘๖ สมโพงถนิมหนึ่งไซ้ ชาญรณ
กระดั่งดาวดาษดน ทั่วไซ้
ตระกูลเผือกโสภณ เพราเพริด
สรรพสิ่งอันร้ายไร้ โรคร้างพูนเกษม
๘๗ คชหนึ่งรูปร่างพร้อม เพียงวาด
นามชื่อจุมปราสาท เศกซ้อง
โขมดสารกำพดสะอาด ทรงเทริด
โดยดำราตราต้อง สาตรเบื้องเบาราณ
๘๘ คชหนึ่งแขนกล่อมเกลี้ยง กลมดี
นามจัตุรกุมพมี ชาติเชื้อ
ฝักบัวใหญ่สมศรี สมส่อ ลักขนา
เท้าสี่ดุจกลึงเกื้อ ก่อไว้เฉลิมขวัญ
๘๙ โสดสารเสาวภาคพ้น พรรณนา
ขลุมประเจียดสมญา ใช่ช้า
สองหูคเชนทรา มานขอบ
หูงอกเป็นดอกหญ้า อย่างไซ้ศุภผล
๙๐ ดำรีดำรับไว้ โดยเผดียง
พลุกสดำงอนเลิศเฉวียง ดั่งนี้
นามสดำพลุกจำเหียง แสดงเลศ
ศุภลักษณมงคลกี้ ก่อนไว้ระวางสาร
๙๑ สารสวัสดิสารพัดพร้อม สมบูรณ์
นามพิธาเนสูร รอบรู้
ผมดกมากมวนมูน ขุมคู่ เส้นแฮ
เป็นคชาธารผู้ ผ่านหล้าเลอผจง
๙๒ มุขษโรสารประเสริฐไซ้ สรับสม
ร้องดั่งเสียงแตรผลม เกริกก้อง
ผี้เสียงดั่งฟ้าระงม สรรค์ชื่อ เมฆแฮ
เสี่ยงดั่งนกกะเรียนร้อง ชื่อนั้นโกญจสับ
๙๓ ผี้คชโกญจนาทเพี้ยง เสียงสังข์
นามสรสังขโดยหวัง ว่าไว้
ผี้เสียงคชร้องดัง ปานเปรียบ กลองนา
นามศัพทเภรีไท้ ธิราชท้าวควรผดุง
๙๔ คชหนึ่งนามพัทรไซ้ สารสวัสดิ
สูงเจ็ดสอกสันทัด แกว่นกล้า
สิบศอกใหญ่สามรรถ ผิวผ่อง ละเอียดนา
เก้าศอกโดยยาวอ้า อาจรู้กำหนดสาร
๙๕ มทุเรศศรีสดไซ้ สีงา
หลังเปรียบเกาทัณฑ์ปรา- กฏแท้
เท้าหลังดั่งคชบา ทาเถือน
มันตกสีเขียวแส้ สืบเชื้อเถาะเถลิง
๙๖ คชหนึ่งนามมิคล้ำ ลาวรร
ตัวแลงาแดงฉัน ชาดบ้าย
สูงหกศอกสำคัญ อกใหญ่ งามนา
ตัวแปดศอกยาวย้าย ใหญ่เก้าหัษฐา
๙๗ ราวคอราบแนบเนื้อ ผมหนา
ทองไหญ่ขนยาวตา เปรียบได้
ดุจตาราชสีห์ปรา- กฏเกรียด
มันศกเขียวสีไซ้ ชาติเชื้อมฤคา
๙๘ สังคินสูงโสดห้า หัษฐา
ยาวเจ็ดศอกคณนา เลิศช้าง
ตัวใหญ่แปดศอกกา- ยาซั่น
คางซั่นหางเขินค้าง ใหญ่ทั้งตาหู
๙๙ สีงาเหลืองเท่าแท้ เทียมสุวรรณ
เศียรใหญ่กรามทมครัน กล่าวไว้
ศรีเขมาทรัพโทรมมัน ทริมเชื่อง
ตระนักตระกูลนาคได้ ชื่อเชื้อโดยขนาน
๑๐๐ หนึ่งนามกุญชเรศไซ้ สัณฐาน
ท้ายใหญ่กายคชาธาร เล็กแท้
ศุภลักษณ์เลิศสรคราน โสภาค
กอปตระกูลสวาแล้ ลักษณ์ล้ำมงคล
๑๐๑ อัคนิพงศ์สี่สิบไซ้ เศษสอง
ศุภลักษณ์โดยสมพอง กล่าวถ้วน
สรวมแสดงคชลักษณ์สนอง สิบสี่ อีกนา
พงศ์แห่งอัฐทิศล้วน เลิศแท้อำนวยพงศ์
๑๐๒ ไอยราพตร่วมช้าง สรรค์มา
พังชื่ออัพภะมุปรา- กฏไว้
สีกายดั่งเมฆา มั่วหมอก
เกิดอำนวยหนึ่งไซ้ รูปคล้ายไอยรา
๑๐๓ ปรากฏนามเมฆไซ้ สัณฐาน
กายดั่งสีเมฆปาน เปรียบแล้ว
ซ้ายขวาสีงาดาล เล็บผ่อง ขาวนา
หางก็เฟื้อยแรงแกล้ว กลั่นให้เจริญผล
๑๐๔ บุณฑริกรักร่วมด้วย กบิลา
เหลืองและเขียวเจือปรา- กฎไว้
อำนวยสุปรดึกกา- ยาใหญ่ ยาวแฮ
งามโขมดตัวแดงไซ้ ใหญ่สั้นงาสอง
๑๐๕ ผิวหนังละเอียดแน่งเนื้อ สมบูรณ์
เล็บดั่งสีสวายปูน เปรียบแท้
กำลังกำเหลาะภูล ยศยิ่ง
แกล้วแกว่นในณรงค์แล้ เลิศพร้อมมงคล
๑๐๖ คชพราหมณ์สมเสน่ด้วย ปิงคะลา
เหลืองแก่มานบุตรา ลักษณ์ล้ำ
หนึ่งนามนิลพะกายา กลมทาบ
เฉกดอกสำหาวคล้ำ เลิศแท้มีสอง
๑๐๓ หนึ่งนามบิษลักษณ์นั้น โสภา
ตนต่ำกลมกายา เพริดพร้อม
เศียรสอสัพงวงงา เพราภาค
กายดั่งโลหิตย้อม แกว่นร้ายรนหาญ
๑๐๘ กรมุทสมโยคเย้า ยวลกาม
พังอะนูปะกะมานาม กล่าวไว้
ตัวแดงอ่อนละเอียดทราม รักร่วม
มานอำนวยห้าไซ้ โสดพร้อง พรรณนา
๑๐๙ หนึ่งนามมหาปัทมล้ำ บริสุทธ์
ตนดังสีสัตตบุษย์ เบิกสร้อย
กายแวงกระชับอุด- ดมราบ ขนองนา
รนร่านหาญใช่น้อย เดชฟุ้ง คะนองหาญ
๑๑๐ หนึ่งอุลมาลีศเนื้อ ราบสมัถ
กายกระชับยาวหยัด คู่ท้าว
สีตัวดั่งก้านสัต- ตะบุษย์เปรียบ ไว้นา
องอาจกำลังห้าว ฮึกเหี้ยมรณรงค์
๑๑๑ หนึ่งนามจบสระนั้น โสภา
ศรีสำลานกายา ราบเนื้อ
กายยาวเลิศลักขณา โดยกล่าว
ทรงกำลังกาจเกื้อ กอบด้วยสวัสดี
๑๑๒ คชหนึ่งนามห่อนได้ ปรากฏ
ดำกระทั้งกายคช เลิศหล้า
กายยาวกระชับชด เฉิดชื่น
เนื้อราบเสมอหาญกล้า รอบรู้ขบวนสาร
๑๑๓ นิลชานามชื่อช้าง อำนวย
ตัวดั่งสีนิลสวย สอดพร้อย
กายแวงกระชับรวย แรงเรี่ยว
ชาญชำนิแช่มช้อย ราบเนื้อละมุนหลัง
๑๑๔ อัญชันสังวาศเกลี้ย กามี
พังชื่อดามพะวรรณี แน่งเนื้อ
กายแดงดั่งกละศรี ดามพะทั่ว ตนนา
มีอำนวยเกิดเกื้อ ลักษณ์ล้ำเลอสาร
๑๑๕ อปมาถีชื่อได้ โดยตรา
กายดั่งศรีเมฆา ละเอียดพ้น
กายเศียรโสดงวงปรา- กฏใหญ่
มีกำลังเลิศล้น มิ่งแก้วชาญสนาม
๑๑๖ บุษปทันตเชยชิดเชื้อ ชมพัง
นามศุภทันตาหวัง ชื่อไว้
ขนายงามพ่างผิวหนัง คือบุษป ทันนา
มีอำนวยสองไซ้ ชื่อชี้ต่างสอง
๑๑๗ หนึ่งนามพสาหนีศแล้ว ยังมวย
นามสหะสาระสวย สอดคล้อง
สีสังขเสวตรอำนวย สองดูจ กันแฮ
หน้าและปากยาวหว้อง พลุกทั้งสองเหลือง
๑๑๘ ขนองเสมอโสภาคพ้น พรรณนา
มักบำรูงาคนอง รอบรู้
มงคลคู่นัครา เฉลิมมิ่ง
ควรบพิตรท้าวผู้ ธิราชให้ผดุงสาร
๑๑๙ นามพังลิงคณะไซ้ สีตน
เขียวลึกชำอำพล เพริดแพร้ว
สารวะโภมร่วมกามกล เกิดบุตร นึ่งแฮ
นามบุษปทันตเลิศแล้ว ลักษณ์ล้ำสมบูรณ์
๑๒๐ ตากลมกายกล่อมเกลี้ยง สรรพางค์
แดงดั่งบัวหลวงปาง เปรียบไซ้
แวงพักตรพ่วงกว้างขวาง เอกเอี่ยม
เป็นมิ่งมงคลไว้ ก่อเกื้อภูมผล
๑๒๑ สุปดิษสมเสพด้วย อัญฌนา วดีแฮ
สีดั่งอัญชัญปรา- กฏล้น
อำนวยสุปดึกสา- ธรชื่อ
เขียวทั่วสรรพางค์พ้น เพริดพร้อมสงสถาน
๑๒๒ คอกลมสมพ่วงเพี้ยง แมนสมาน
หางปากยาวสมสาร ส่อด้วย
ศุภลักษณ์คชาธาร มงคเลศ
สรรพสิ่งอันตรายม้วย มอดแคล้ว เจริญศรี
๑๒๓ อำนวยอัฐทิศล้วน ลาวรรณ
สิบสี่แสดงสารสรรค์ สืบไว้
โดยในสาตรคชกรรม์ สิทธิภาค
พอจำลักษณะได้ ชื่อช้างตระกูลพงศ์
๑๒๔ คชลักษณ์สิบหมู่พรร้อม พรหมพงศ์- แปดแฮ
เป็นตระกลวิศณุวงศ์ แปดช้าง
ศุภลักษณ์อิศรมง- คลแปด คชนา
อัคนิพงศ์สี่สิบอ้าง เศษไซ้มีสอง
๑๒๕ อำนวยสิบสี่เข้า บรรจบ
เก้าสิบคณนาครบ กล่าวทั้ง
คชสิบหมู่เลิศลบ ตระกูลชาติ
โดยสาตรคชกรรมตั้ง แต่งไว้บริบูรณ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ