เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๔๙

วัน ๑ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาย่ำค่ำแล้ว เสด็จออกขุนนางในห้องออกขุนนาง หลวงเสนาภักดีนำบอกพระยาวิเศษไชยชาญ เมืองอ่างทองว่า ณ วัน ๕ ๑๔ ๖ ค่ำ ปีกุน นพศก เวลาสองยาม มีอ้ายผู้ร้ายปล้นเรือนหลวงแห่ง เก็บทรัพย์สมบัติแลเงินค่านาของหลวงแพ่งรวม ๔๙ ชั่ง ๗ ตำลึง ทองรูปพรรณหลายสิ่ง แล้วยิงนายโอฐบุตรหลวงแพ่งตาย บ่าวไพร่ป่วยเจ็บ ๓ คน ฟ้องให้เรียกคนมีชื่อ ๗ คน เพื่อน ๓๐ ยังชำระอยู่ ถ้าได้ความประการใด จะมาบอก

พระวิจารณอาวุธอ่านบอกพระวิชิตชาญณรงค์ เมืองปรานบุรีว่า มีตราให้พระสัจจาภิรมย์ออกไปทำทางสายโทรเลข ให้จัดคนช่วยจ่ายเงินค่านาเป็นเสบียงอาหาร ได้จัดกรมการคุมไพร่กองละ ๒๐ คน ๔ กอง ตัดเสาถางทางสิ้นเขตแดน ๑๒๐๒ เส้นแล้วทาง ๖๐๒ เส้น ตัดเสา ๗๐๐ คน วัน ๗ ๖ ค่ำ เกิดพายุกล้าแต่บ่าย ๒ โมงจนบ่าย ๕ โมง บ้านเรือนเจ้าเมืองกรมการราษฎรหักพัง ๓๐ หลัง ชำรุด ๓๐ หลังเศษ ต้นไม้หักทับทางโทรเลขมาก เรือในทะเลเสีย ๘ ลำ คนตายลอยติดฝั่ง ๘ คน วัน ๒ ๑๑ ๖ ค่ำ ฝนตก น้ำบ่าลงจากเขาท่วมเมืองที่ลุ่ม ๓, ๔ ศอก ที่ดอน ๑, ๒ ศอกบ้าง ต้องรอการทำโทรเลข ถ้าได้ลงมือเมื่อใด จะบอกมา

พระยาศรีสิงหเทพ นำพระยาราชารานุกูล หลวงไกรนารายซึ่งไปราชการทัพ กลับมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ดำรัสพระราชปฏิสันถารพอควรแล้วเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาย่ำค่ำแล้ว พระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับพระที่นั่งพุดตานทองคำภายใต้พระมหาเศวตฉัตร ณ ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดีมนตรีมุขมาตยา ข้าทูลละอองธุลีพระบาทเฝ้าตามตำแหน่งถ้วนทุกกระทรวง เจ้าพนักงานประโคมตามขัตติยราชประเพณี ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว เจ้าพนักงานกรมวัง กรมมหาดไทยนำท้าวบุญคงว่าที่พระวิเศษสุรฤทธิ เมืองบริคัณหนิคม ท้าวเพี้ย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายต้นไม้ทองเงิน พระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสปฏิสันถารพอควร แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จออกประทับห้องดรอริงรูม เจ้าพนักงานกรมวังแลกรมท่า นำ เคาน์ ชาล์ ชาลุศกี อัครราชทูตวิเศษกรุงออสเตรีย ๑ กงสุลออสเตรียในกรุงเทพ ฯ ๑ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท อัครราชทูตวิเศษกราบถวายบังคมลาที่จะกลับไปยุโรป มีพระราชดำรัสปฏิสันถาร ถึงการที่ราชทูตได้เข้ามารักษาทางพระราชไมตรี โดยทางเรียบร้อย มีอัธยาศัยเรียบร้อยเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย แลโปรดพระราชทานเครื่องราชอิสริยยศมงกุฎสยาม ชั้นที่ ๔ ภัทราภรณ์ แต่มิสเตอร์ อาเธอ กูต ซอลส์ กงสุลออสเตรียกรุงเทพ ฯ ๑ กับพระราชทานเครื่องราชอิสริยยศมงกุฎสยาม ชั้นที่ ๕ วิจิตราภรณ์ ให้ราชทูตนำไปให้ฟรานเซสโค คาราตู ไปรเวตสิเกรตารี ราชทูต เป็นของพระราชทาน ๑ แล้วราชทูตถวายคำนับกลับออกมา พระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น ไม่ได้ออกขุนนาง

วัน ๔ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาย่ำค่ำแล้ว เสด็จออกขุนนางในห้องออกขุนนาง หลวงเสนาภักดีนำใบบอกพระไชยบูรณ์ ปลัดเมืองพิษณุโลก ว่าได้เร่งเงินส่วยกองหลวงไพรรณรักษามาไว้จ่ายทำคลังปืน ๘ ชั่ง ๑๑ ตำลึง หลวงไพรรณรักษาส่งมา ๖ ชั่ง ยังไม่ครบ ได้เร่งอีกก็ยังไม่ได้ ตัวหลวงไพรรณว่าลงมากรุงเทพ ฯ จึ่งออกเงินรองอีก ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึง ๒ บาท ๑ สลึง ทำคลังปืน เสร็จแล้วได้นำปืนของสำหรับเมือง แลปืนกองทัพที่ฝากไว้เข้าคลังเสร็จแล้ว มีการสวดมนต์เลี้ยงพระเสร็จแล้ว แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง เสด็จขึ้น

วัน ๕ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนางตามธรรมเนียม ไม่มีบอกข้าราชการอันใด แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนางตามธรรมเนียม หลวงเสนาภักดีนำใบบอกอุปฮาอราชบุตร เมืองบริคัณหนิคม ว่าได้ทำบาญชีสำมะโนครัวคนเมืองเชียงขวาง ซึ่งยกมาตั้งเมืองบริคัณหนิคม แลมาแต่เมืองหนองคาย แลครัวพวนที่แตกฮ่อมารวม ๒๒๙๑ คน กับว่าได้เฉลี่ยเก็บเงินได้ ๕ ชั่ง ๙ ตำลึง ๓ บาท ได้ส่งให้พระยาราช ๑ ชั่ง ๑๑ ตำลึง ๓ บาท จ่ายในครัวที่สมัครมาแต่เมืองจะลายเป็นเสบียง ๑ ชั่ง ๑๔ ตำลึง แลจัดหาต้นไม้ทองเงิน สิ้นจำนวนเงินที่เก็บได้แล้ว

แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง เสด็จขึ้น

วันนี้กรมหมื่นศิริธัช ฯ กรมหมื่นสมมต ฯ เสด็จกลับจากสิงคโปร์

วัน ๗ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วันนี้กรมหมื่นศิริธัชสังกาศ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ เข้าไปเฝ้าข้างใน ในการที่กลับจากส่งกรมหลวงเทวะวงศ์เมืองสิงคโปร์

เวลาค่ำแล้ว เสด็จออกขุนนาง ไม่มีใบบอกข้อราชการ

วัน ๑ ๘ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

ไม่มีอันใด ไม่ได้เสด็จออก

วันนี้หล่อเทียนพรรษาข้างใน

วัน ๒ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วันนี้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ ซึ่งทรงประชวรเสาะแสะมาแต่ข้างขึ้นอ่อน ๆ นั้นอาการมากลง ประชุมหมอหลวงบนพระที่นั่ง อาการเป็นมูกเลือด แลมีพระองค์ร้อนด้วย ไม่ได้เสด็จออก โปรดให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จออกทรงหล่อเทียนพรรษาที่มุขพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

วัน ๓ ๑๐ ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาเช้าวันนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ซึ่งประชวรพระอาการมากลงอีก โปรดให้ชุมนุมหมอเชลยศักดิ์ มาถวายพระโอสถ พระอาการทรุดลงโดยลำดับ จนเวลา ๗ ทุ่ม ๒๔ นาที สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สิ้นพระชนม์บนพระที่นั่ง ซึ่งอยู่กับพระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร เป็นที่ทรงพระอาลัยเศร้าโศกแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แลพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ซึ่งเป็นพระชนนีเป็นที่ยิ่ง ขณะเมื่อสิ้นพระชนม์ แลเมื่อทรงพระประชวรมาก คือตั้งแต่เวลาเช้ามา พระบรมวงศานุวงศ์ได้เข้าไปประชุมอยู่ ณ ที่นั้นพร้อมกันหลายพระองค์ พระชันษาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอที่สิ้นพระชนม์นี้ นับโดยปีตามสุริยคติ ปี ๑ กับ ๖ เดือน ๔ วัน ตามจันทรคติ ๑ ปี ๖ เดือน ๑๙ วัน ตามลำดับวัน ๕๕๐ วัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประชวรพระวาโยเป็นอันมาก อนึ่งวันนี้เป็นวันดิถีที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ แลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์สิ้นพระชนม์ โดยทางสุริยคติการ โปรดให้มีการสวดมนต์เลี้ยงพระ มีเทศนาในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ไม่ได้เสด็จออก โปรดให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จออกบำเพ็ญพระราชกุศล.

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ