(๒) พระราชสาส์นสมเด็จพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุทธยา

๏ วัน ๖ ๓ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๗๒ ปีมะเมียโทศก หมื่นสวัสดิ์อักษร จาฤกพระราชสาส์นไปกรุงเวียดนาม ด้วยกระดาษฝรั่ง ๔ แผ่นเปนอักษร ๔๖ บันทัด ปิดตราโลโตประจำศกตรามังกรคาบแก้วประจำต่อตรา $\left. \begin{array}{}\mbox{ไอยราพต } \\[1.4ex]\mbox{มังกรหก }\\[1.4ex]\end{array} \right\}$ ปิดครั่งข้างละดวงประจำปากบอกดวง ๑ ปากถุงดวง ๑ ก้นถุงดวง ๑ พระราชสาส์นใส่พานสองชั้นประดับแว่นฟ้าถุงแพรเหลืองระใบแดง ๒๚

(๒) ๏ พระราชสาส์นสมเด็จพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุทธยา จำเริญพระราชไมตรีมาแจ้งแต่สมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนาม ด้วยองไลโบเสนาบดีผู้ใหญ่มีหนังสือเข้าไปว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนามมีพระไทยวิตกถึงการทื่จะถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงผู้ทรงพระคุณธรรมอันมหาประเสริฐเมื่อใดเปนแน่ให้กำหนดออกมาให้แจ้งนั้นขอบพระไทยยิ่งนัก บัดนี้ได้ให้เจ้าพนักงานเร่งรัดทำเครื่องประดับแลพระเมรุทุกวัน จะได้เชิญเสด็จพระบรมศพออกมาถวายพระเพลิง ณเดือนห้าข้างแรมเดือนหกข้างขึ้น อนึ่งองค์จันทร์บุตรองค์เอง ซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงอภิเศกให้เปนพระรามาธิบดีครอบครองแผ่นดินเขมรตามลำดับสกูลวงษ์ แลพระรามาธิบดีถึงแก่พิราไลยแล้ว องค์จันทร์องค์อิ่มองค์สงวนผู้บุตรยังเยาว์นัก ก็บำรุงเลี้ยงรักษามาจนค่อยวัฒนาจำเริญใหญ่ จึงเศกองค์จันทร์เปนพระอุไทยราชาธิราชให้ครองสมบัติแทนพระรามาธิบดี แต่องค์อิ่มองค์สงวนผู้น้องยังหาได้ยศศักดิ์สิ่งใดไม่ จึงเศกขึ้นครั้งหลังเปนวังหลังวังน่า หวังจะให้ช่วยกันทำนุบำรุงอนาประชาราษฎร รักษาแผ่นดินเมืองกัมพูชาโดยประเพณี แลพระอุไทยราชามีความรังเกียจอิจฉาองค์สงวนองค์อิ่มผู้น้อง ให้จับพระยาจักรี พระยากลาโหมซึ่งเปนเสนาผู้ใหญ่ฆ่าเสียโดยจิตรพยาบาท จะได้มีศุภอักษรเข้าไปยังกรุงพระมหานครศรีอยุทธยาก็หาไม่ นำเอาแต่ความมิจริงแกล้งผูกพันมาทูลสมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนาม ว่าพระยาจักรีพระยากลาโหมกระทำให้ไพร่ได้ความเดือดร้อนกะเกณฑ์กองทัพ จะให้เข้าไปช่วยกรุงพระมหานครศรีอยุทธยารบพม่าฆ่าศึก แลยุยงให้พี่น้องเปนสองแผ่นดินเมืองกะพงสวายซึ่งขึ้นแก่เมืองกัมพูชา ตระเตรียมกองทัพจะยกมาสู้รบ จึงทูลขอกองทัพไปรักษาเมือง สมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนามด้วยยังหาทราบเหตุประการใดไม่ จึงจัดกองทัพให้โดยเมตตา แลดินเตงกรันคำทรายเจิงเกอหั้นลูถูซื่อหึงจันเฮา ขึ้นไปตั้งอยู่ณกะพงหลวงนั้น ให้ขุนนางญวนถือหนังสือไปถึงพระยาอภัยภูเบศร์เปนเนื้อความในหนังสือหลายประการ อนึ่งว่านักถีภรรยาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์เก่าเปนมารดาภรรยาเจ้าเมืองเขมรให้ส่งลงมาโดยเร็ว ครั้นพระยาอภัยภูเบศร์จะขัดขืนไว้ เกลือกจักวิวาทขัดเดืองกัน จึงให้นักถีมาด้วยขุนนางญวนผู้ถือหนังสือ อันครอบครัวเมืองปัตะบองก็ระส่ำระสายไปเปนอันมาก เพราะพระอุไทยราชา มาก่อ เกิดความอิจฉารังเกียจองค์สงวนองค์อิ่มผู้น้องซึ่งร่วมมารดาบิดาเดียวกัน ให้เสียประเพณีธรรมเนียมกระษัตริย์ แล้วมิหนำซ้ำกล่าวมารยา ขอกองทัพสมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนาม ไปรักษาเมืองให้ลำบากแกรี้พล ครั้นกรุงพระมหานครศรีอยุทธยาจะให้ออกมารงับว่ากล่าวตามผิดแลชอบ เกลือกดินเติงกรันคำทรายเจิงเกอหั้นลูถูซี่อหึงจันเฮาซึ่งมาช่วยรักษาเมืองกัมพูชานั้นจะมิปรกติผ่อนปรนกัน ทางพระราชไมตรีก็จะมัวหมอง ด้วย สองพระนครร่วมศุขร่วมทุกข์โดยสัจสุจริตยิ่งนัก แต่พม่ายกมากระทำแก่กรุงพระมหานครศรีอยุทธยา สมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนามยังทรงพระวิตกจะให้กองทัพเข้าไปช่วย ก็ยินดีขอบพระไทยเปนที่หวังอยู่ บัดนี้องค์จันทร์กระทำดังนี้ สมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนามจะไม่ช่วยทรงพระโกรธบ้าง ข้าขอบขันธเสมาเมืองขึ้นทั้งปวงก็ยังมีอยู่เปนอันมาก ด้วยกรุงเวียดนามก็สิ้นเสี้ยนหนามเปนบรมศุขอยู่แล้ว แต่กรุงพระมหานครศรีอยุทธยายังกระทำสงครามกับพม่าอยู่ ยากที่จะผ่อนปรนจึงให้พระยาพิพัฒโกษาราชทูตพระยาราชวังสรรอุปทูต พระยานราราชมนตรีตรีทูต$\left. \begin{array}{}\mbox{ขุนวิเศษวารี } \\[1.4ex]\mbox{ขุนศรีธากร }\\[1.4ex]\end{array} \right\}$ ล่าม จำทูลพระราชสาส์นออกมาเฝ้าสมเด็จพระเจ้าเวียดนามให้ทราบที่สิ่งใดโดยใจสุจริต ได้สั่งมาแต่ทูตานุทูตทุกประการ ฉันใดกรุงพระมหานครศรีอยุทธยากับกรุงเวียดนามอันหาความรังเกียจมิได้ พระราชไมตรีอันสนิทร่วมรักมาแต่ก่อน ขอสมเด็จพระเจ้ากรุงเวียดนามทรงดำริห์ให้พระเกียรติขจรไปแก่ท้าวพระยานา ๆ ประเทศทั่วแหล่งหล้า ให้ปรากฎไว้คู่ฟ้าแลดิน

พระราชสาส์นมาณวันศุกรเดือนสามขึ้นค่ำหนึ่ง จุลศักราชพันร้อยเจ็ดสิบสองปีมะเมียนักษัตโทศก ๚ะ๛

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ