ฉากที่ ๔
สวนสำนักพระเทพบิดร
(พระกศปเทพบิดร กับพระอทิติเทพมารดานั่งเตียง, มีบริวารอยู่งานพัดและแส้, กับมีบริวารเฝ้าตามสมควร. ทุษยันต์กับมาตะลีออก, คลานเฃ้าไปถวายบังคม.)
บทร้อง-พระเทพบิดร
(ตวงพระธาตุ)
๏ นี่ฤๅองค์ท้าวทุษยันต์ | |
ผู้เกียรติสนั่นบรรฦๅศักดิ์ | |
ช่างกระไรราชาแสนน่ารัก | |
เห็นประจักษ์เปนยอดขัตติยา | |
ดูกรทุษยันต์โปรพ | |
ท้าววาสพผู้เปนลูกฃ้า | |
ได้บอกเรื่องราวฃ่าวมา | |
ว่าราชาไปช่วยราวี | |
ปราบกาลเนมีห้าวหาญ | |
แรงลานแพ้ฤทธิ์ป่นปี้ | |
ตัวกูก็พลอยยินดี | |
เธอมีความชอบจะตอบแทน | |
กูมีนางงามทรามสวาท | |
จะประสาทให้เธอไม่หวงแหน | |
จะหาไหนไม่สู้ในดินแดน | |
ถึงแม้ในเมืองแมนไม่เทียมทัน | |
ดูกรอทิติเสนหา | |
จงตามแก้วกัลยาเลอสรร | |
เราจะยกให้ทุษยันต์ | |
เพื่อครองกันเกษมเปรมปรีย์ ฯ |
(พระอทิติเฃ้าโรง, แล้วจูงนางศกุนตลากับภรตกุมารออกมา. ศกุนตลากับทุษยันต์ต่างตกตลึงอยู่ครู่ ๑, แล้วนางจึ่งเฃ้าไปหาผัว, โอด.)
เจรจา
พระเทพบิดร | ราชะ, |
เธอจะว่าอย่างไร ? นางโฉมศรี | |
ที่เราให้ราชาณครานี้, | |
ต้องฤดีของเธอหรืออย่างไร ? | |
ทุษยันต์ | อันพระกรุณาพระบิดร |
ดุจมหาสาครอันกว้างใหญ่. | |
อันตูฃ้าชั่วช้าเสียเหลือใจ, | |
เมื่อพบนางจึ่งมิได้รู้จักนาง. | |
จนภายหลังเห็นแหวนให้แทนรัก | |
จึ่งชงักนึกได้ใจหม่นหมาง, | |
แต่นั้นตั้งแต่คนึงถึงนวลนาง | |
บ่ได้ว่างเว้นเสียดายฟายน้ำตา. | |
พระเทพบิดร | นั้นก็เพราะอำนาจคำแช่ง |
แห่งทุรวาสฤษีชีป่า, | |
บัดนี้เคราะห์เปลื้องปลดหมดพาลา | |
ขอราชากับยุพินจงยินดี. | |
จงรับนางร่างวิไลยไปนิเวศน์ | |
เปนเอกองค์อัคเรศร์มเหษี, | |
เจริญสุขทุกทิวาราตรี | |
อย่าได้มีภัยพิบัติมากล้ำกราย. | |
แม้สิ่งใดข้องขัดประหัดประหาร | |
จงอันตรธานสูญหาย, | |
ปวงเหล่าประจามิตร์คิดร้าย | |
จงแพ้พ่ายบุญญาบารมี. | |
พระอทิติ | อันพระพรพระบิดรทรงประสิทธิ์ |
จงสัมฤทธิ์ทุกอันอนันต์ศรี. | |
ส่วนศกุนตลายอดนารี | |
ผู้มิ่งมหิษีของทรงธรรม์. | |
จงเจริญชนมาอายุยั่ง, | |
อีกสุขังปลื้มเปรมเกษมสันต์, | |
ฉวีนวลอล่องฉ่องผ่องพรรณ, | |
แรงอนันต์ไร้โศกและโรคภัย. | |
พระเทพบิดร | ส่วนเยาวกุมารโอรส |
จงพูนยศฦๅฤทธิ์อดิศัย, | |
เปนจอมจักรพรรดิ์บรรฦๅชัย | |
ในเขตสากลเมทินิน | |
เหวยเหล่าคนธรรพ์อันสามารถ | |
จงนวยนาฎวาดกรสุนทรศิลป์, | |
ถวายพรแด่องค์พระภูมินทร์, | |
กับยุพินบุญปลอดยอดนารี. |
(พวกคนธรรพ์ออกมาจับระบำอย่างแบบรำโคม, คือรำทำท่าพลางร้องพลาง.)
บทร้อง-พวกคนธรรพ์
(นางนาค)
๏ ขอกษัตร์โปรพภพนาถ | |
ทรงราชย์เกษมสุขี | |
ชยะชัยชำนะไพรี | |
อย่ามีเหตุร้ายบีฑา | |
อนึ่งนางเกาศิกามารศรี | |
เทวีผู้ยอดเสนหา | |
จงเจริญสิริสุขทุกทิวา | |
อย่ามีเวลาอนาทร | |
ฝ่ายเยาวกุมารโอรส | |
จงพูลเพิ่มเสริมยศสโมสร | |
เปนใหญ่ในปวงประชากร | |
เปนเอกอดิศรสมพันธุ์ ฯ |
(ฝรั่งรำเท้า)
๏ บัดนี้ประนมบังคมคัล พระองค์ทรงธรรม์ จรรโลงพิภพภูมิไทย
๏ รามาธิบดีศรีสมัย พระเกียรติเกรอกไกร ทรงชัยชำนะสงคราม
๏ พระองค์ทรงนำชาติสยาม ดำเนิรสู่ความ เปนอารยะยิ่งยง
๏ จอมปราณเปรียบปานว่าธง นำจัตุรง คะเสนะเฃ้าสู่สมร
๏ เปนปิ่นเสนางค์นิกร อีกเปนอีศร ประมุขประชาชาวไทย
๏ บำรุงพุทธศาสน์ผ่องใส ให้ยั่งยืนไว้ เปนศรีสยามงามงอน
๏ เหล่าฃ้าเสวีภูธร รำถวายกร บำเรอยุคลบทศรี
๏ ทุกตนเกษมเปรมปรีดิ์ จงรักษ์ภักดี ถวายพระพรราชา
๏ ทรงพระเจริญชนมา ยิ่งร้อยพรรษา โรคาอย่ามีแผ้วพาล
๏ ขอให้เสวยสุขเกษมสานต์ สิทธิกิจการ ศัตรูกษัยไชโย ฯ
ขอเดชะ ฯ