ฉากที่ ๓

วิมานพระอินทร์

(พระอินทร์นั่งเตียง. มีมาตะลีเฝ้าอยู่.)

บทร้อง-พระอินทร์

(ยานี)

  ๏ ดูก่อนมาตะลีมีปัญญา
  ท่านก็รู้อยู่ว่าเรานี้ไสร้
  มีเหตุอนาทรร้อนใจ
  เพราะจอมกรุงไกรหัสดิน
  ถูกพระทุรวาสแช่งไว้
  จนหลงไหลเคลิบเคลิ้มหมดสิ้น
  พบศกุนตลายอดนาริน
  ภูมินทร์ไม่รู้จักนงเยาว์
  ครั้นนางพ้นภูวดลได้เห็นแหวน
  รำฦกได้ใจแสนจะโศกเศร้า
  ครั้นเราจะช่วยทุกข์บันเทา
  เราก็ขยาดเพราะนักธรรม์
  แต่มาบัดนี้หลายปีแล้ว
  เห็นจะแผ้วปลอดภัยทุกสิ่งสรรพ์
  จำเราจะช่วยทุษยันต์
  ให้พลันได้สมอารมณ์รัก
  พะเอินทานพเนมี
  หมู่นี้กำเริบเอิบหนัก
  จะเชิญเธอบำราบปราบยักษ์
  แล้วพบนงลักษณ์ผู้ยาใจ
  วันนี้ฤกษ์งามยามดี
  มาตะลีดูราอย่าช้าได้
  รีบไปหัสดินเวียงชัย
  แล้วรับจอมไผทขึ้นมา ฯ

(มาตะลีถวายบังคม, แล้วคลานถอยออกมา. พิณพาทย์ทำเสมอแล้วเชิด. พระอินทร์กับมาตะลีเฃ้าโรงคนละทาง.)

บทร้อง-คนเสียง (ในฉาก)

(เชิดฉิ่ง)

  ๏ เลื่อนลอยมาโดยนภากาศ
  โอภาสผ่องเพียงแขไข
  เสร็จปราบอสูรจัญไร
  โสมะพงศ์ทรงชัยแสนยินดี (รับ)
  ทูลลาสมเด็จอมเรศร์
  เพื่อคืนสู่เขตกรุงศรี
  ล่องลอยเวหนด้นเมฆี
  ชมเทพวิถีทางจร (รับ)
  งามเมฆใหญ่เยี่ยมมหิมา
  ดูราวภูผายอดสิงขร
  สีแดงแสงจับทินกร
  ภูธรชมเพลินจำเริญตา (รับ)
  ลิ่ว ๆ ประหนึ่งลมพัด
  รถรัตน์แล่นกลางหว่างเวหา
  เรื่อย ๆ รถตรงลงมา
  ยังผาเหมะกูฎคีรี ฯ (รับ)

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ