เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๔๒
วันที่ ๔๔๘๗ วัน ๒ ๑ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออก หม่อมเจ้าจรเอาข้าวมาถวาย หม่อมเจ้าจังหวัดเข้ามาถวายถังทองเงินใส่ขวดเงินเป็นน้ำเลมโมเนตที่โปรดให้ทำ พระองค์โตเข้ามาถวายของ และพระยาภาส พระนายไวยเฝ้า พระองค์เจ้าเกษมสันต์เข้ามาถวายของ พระองค์เจ้าทองแถมเอาเครื่องก้าไหล่และตลับหลังโมรา และกล้องไม้ราชวังเข้ามาถวายด้วย ทรงพระกรุณาโปรดให้ทำ ทูลกระหม่อมพระองค์น้อยเข้ามาเฝ้า และพระยามนตรีด้วย เวลาบ่ายเสด็จพระเมรุทอดพระเนตรงานตามเช่นเคย เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับ ประทับหอธรรมสังเวช พระยาศรีอ่านบอก พระยาสุจริตส่งบอกพระพิทักษ์อุไทยเขตต์ ว่าด้วยไปชำระความมองตุปิที่เมืองมรแมน แล้วพระมหาเดชวัดโสมนัสถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง พระมหาชูวัดสุทัศน์ถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง แล้วเสด็จไปประทับ ขุนนางเฝ้าถวายผ้าและของ เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วันที่ ๔๔๘๘ วัน ๓ ๒ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาบ่าย ๒ โมง เสด็จออก พระองค์สายเอาครกตำหมากและหีบมีดเข้ามาถวาย พระองค์ทองแถมเข้ามาเฝ้าและพระวุฒิการเฝ้า ทูลกระหม่อมพระองค์น้อยเฝ้า หม่อมเจ้าจรเอาครอบแก้วรูปภาพใหญ่เล็กเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวาย แล้วสั่งหีบลงยาพระราชทานหม่อมเจ้าจรเป็นรางวัล เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จพระเมรุทอดพระเนตรงาน เวลาทุ่มเสด็จกลับประทับหอธรรมสังเวช พระนรินทร์อ่านบอกเมืองกลันตันแต่งให้บุตรเข้ามาเฝ้า แล้วพระมหาเดชเทศนากัณฑ์หลวงพระมหาชูวัดสุทัศน์เทศนากัณฑ์รองทรง เวลายามเสด็จประทับที่ขุนนางเฝ้า ข้าราชการถวายผ้าและสิ่งของ เสด็จขึ้น
วันที่ ๔๔๘๙ วัน ๔ ๓ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จไปประทับพระเมรุแล้ว เดินกระบวน แห่พระบุพโพสมเด็จพระนางเจ้าสนันทากุมารีรัตน์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ แต่หอธรรมสังเวชไปตั้งที่พลับพลาวัดมหาธาตุ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับที่บนพลับพลา แล้วสดับปกรณ์ของหลวงของเจ้าภาพ และของพระบรมวงศานุวงศ์ เสร็จแล้วยกพระบุพโพไปในปรำ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิง แล้วเสด็จประทับพลับพลาครู่หนึ่ง เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก เจ้าพระยามหินทร์เฝ้า ถวายเครื่องเฟื่องพระโกศ และเครื่องห้อยพระภูษาโยงทอดพระเนตร บ่ายพระยามนตรีเข้ามาเฝ้า เวลาวันนี้ไม่ได้เสด็จพระเมรุ เพราะเสด็จแต่เช้าแล้ว พระยาราชรองเมืองเข้าเฝ้า พระยานรรัตน์และพระนายไวยเฝ้า เวลาทุ่มเศษเสด็จออกหอธรรมสังเวช วันนี้ไม่มีราชการ พระเทพกระวีวัดเครือวัลย์ถวายเทศนากัณฑ์หลวง พระมหาบุญวัดสุทัศน์เทพวรารามเทศนากัณฑ์รองทรง พระยาราชรองเมืองเฝ้า แล้วเสด็จประทับที่ขุนนางเฝ้า ข้าราชการถวายผ้าและของแล้วเสด็จขึ้น
วันนี้เปลี่ยนพระโกศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์
วันที่ ๔๔๙๐ วัน ๕ ๔ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลา ๒ โมงเศษ เสด็จออกที่ท้องสนามหลวงประทับพลับพลา ยกยอดพระเมรุใหญ่ และหอสวดเมรุประตู เมื่อเวลายกนั้นประโคมพิณพาทย์ เมื่อเวลานั้นมีสมเด็จกรมพระทูลกระหม่อมพระองค์น้อย พระองค์กมลาศน์ พระองค์เทวัญ เจ้านายอื่น ๆ อีก ขุนนางมีเจ้าพระยาพลเทพ เจ้าพระยามหินทร์ พระยาศรี และขุนนางอื่น ๆ ครั้นยกเสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับพระบรมมหาราชวัง แล้วพระองค์เจ้าเทวัญเฝ้า แล้วเสด็จขึ้น เวลาบ่ายโมงเศษเสด็จออก พระองค์กมลาศน์ พระองค์ศรีสิทธิ์ พระองค์ไชยา พระองค์วัฒนาเข้าเฝ้าถวายของ แล้วพระองค์ประดิษฐ์เอาของเข้ามาถวายพร้อมด้วยหม่อมเจ้าช่าง และเอาพระโกศพระอัฏฐิสมเด็จพระนางเจ้า ส.ก.ร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า ก.พ. เข้ามาถวายทอดพระเนตร พระองค์ทองแถมเฝ้า พระองค์เจ้าดิศวรกุมารเข้ามาเฝ้าถวายหนังสือขอตั้งผู้ว่าการแทนกัปตันและออฟฟิศเซอในกรมทหาร พระพิเทศสันตรพาณิชเฝ้า และมิสเตอรแบตแมนมิสซิสแบตแมนเข้ามาเฝ้าถวายของ แล้วสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เข้ามาเฝ้า เวลา ๕ โมงเศษ เสด็จพระเมรุทอดพระเนตรเมรุตามเคย เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับประทับหอธรรมสังเวช พระนรินทร์ทูลบอกเมืองระนองบอกส่งเงิน แล้วพระเทพกระวีวัดเครือวัลย์ถวายเทศนากัณฑ์หลวง พระมหาบุญถวายเทศนากัณฑ์รองทรงแล้ว สมเด็จกรมพระเฝ้า ข้าราชการถวายผ้าและของ เวลายามเสด็จขึ้น
วันนี้รับหนังสือพระยาอัษฎงค์เรื่องจะมาในการพระศพและหนังสือพระสยามธุรานุรักษ์
วันที่ ๔๔๙๑ วัน ๖ ๕ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๕ โมง เสด็จออกพระเฉลียง พระองค์ประดิษฐวรการเฝ้าแล้ว มาประทับที่ในพระที่นั่ง พระยาศรีเฝ้าแล้ว พระวุฒิการเฝ้า ทูลเรื่องพระครูปลัดวัดราชประดิษฐ์ แล้วเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระเมรุตามเคย พอเสด็จถึงประตูพรหมโสภา มองซิเอออาลอง เอาอิตาเลียนเกรฮานมาถวาย ๒ ตัว แล้วเสด็จพระเมรุ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับประทับหอธรรมสังเวช พระนรินทร์ถวายร่างตอบกงสุลอเมริกัน แล้วพระเทพกระวีวัดเครือวัลย์ถวายเทศนากัณฑ์หลวง พระมหาบุญวัดสุทัศน์เทพวรารามถวายเทศนากัณฑ์รองทรง เวลา .. เสด็จขึ้น
วันที่ ๔๔๙๒ วัน ๗ ๖ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาย่ำเที่ยงเศษ เสด็จออกทรงเครื่องใหญ่ แล้วกรมหมื่นนเรศร์เฝ้า แล้วพระองค์เจ้าประดิษฐ์เฝ้าที่พระเฉลียง แต่งพระโกศพระอัฏฐิทั้งสองแล้ว กรมภูธเรศเฝ้า พระยาโชฎึก และพระองค์ประดิษฐ์เฝ้า หม่อมเจ้าวงกชเข้ามาถวายของ และหม่อมเจ้านิลเอาครอบรูปภาพเข้ามาถวาย พระราชทานรางวัล ๓ ชั่ง กรมหมื่นพิชิตเฝ้ารับสั่งให้ร่างประกาศ
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระนรินทร์นำแขกเมืองไทรปลิดสตูน กลันตันเข้ามาเฝ้า ทูลเกล้า ฯ ถวายผ้าขาวและสิ่งของในการพระศพสมเด็จพระนางเจ้า ส.ก.ร. และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า ก.พ. ทรงปราศัยศรีตะวันกรมการ แล้วเสด็จขึ้น
แล้วเสด็จออกทางประตูพรหมโสภา ทรงพระราชยาน เสด็จทอดพระเนตรงานที่พระเมรุตามเคย เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับประทับหอธรรมสังเวช กรมหมื่นพิชิตเฝ้า
พระเทพกระวีวัดเครือวัลย์ถวายเทศนากัณฑ์หลวง พระมหาบุญวัดสุทัศน์ถวายเทศนากัณฑ์รองทรง แล้วเสด็จไปประทับที่ขุนนางเฝ้า ข้าราชการทูลเกล้า ฯ ถวายผ้าและสิ่งของ
วันที่ ๔๔๙๓ วัน ๑ ๗ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระเมรุทอดพระเนตรการเวลา ๕ โมงเศษเกือบเที่ยงเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เกษมศรี เอาบาตรพระญวนที่ทรงพระกรุณาโปรดให้ทำ และถวายของในการพระเมรุด้วย พระองค์ยุคุนธรถวายของ และข้าราชการก็ถวายผ้าขาวบ้าง สิ่งของบ้าง พระอนุรักษ์โยธา เอาขันและกระโถนทำด้วยศิลาและกล้องเข้ามาถวาย พระไชยศสมบัติถวายเงินเถาที่จะบรรจุสุนันทาลัย แล้วทรงปิดทองอิฐที่จะก่อพระฤกษ์ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกท้องสนามหลวง ทอดพระเนตรงานที่พระเมรุ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับ แล้วออกทางพระที่นั่งพุทธนิเวศน์ วันนี้ทำบุญ วันพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า เวลาเช้าเลี้ยงพระไม่ได้เสด็จออก พระธรรมไตรโลก ถานาอันดับวัดอรุณ ๑๐ พระวัดเขมา ๕ สวดมนต์ หม่อมเจ้าพระธรรมุณหิศธาดาถวายเทศนา
วันนี้ตั้งพระเบ็ญจาที่พระเมรุ และสวดมนต์ที่สุนันทาลัยไม่ได้เสด็จ พระองค์เจ้าเทวัญไปจุดเทียน
วันที่ ๔๔๙๔ วัน ๒ ๘ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้าโมงเศษ เสด็จทรงรถพระที่นั่งไปประทับที่สุนันทาลัย ก่อฤกษ์เอาหีบทองซึ่งใส่เงินเหรียญเถาหนึ่ง เงินบาทเถาหนึ่ง แผนที่สุนันทาลัย ประกาศสุนันทาลัยใส่ในที่ก้อนศิลาแล้วก่อพระฤกษ์ พระสงฆ์มีสมเด็จพระพุทธโฆษาเป็นประธานสวดไชยมงคล ครั้นเสร็จแล้วพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วทรงถวายไทยทาน แล้วถวายอดิเรก ยถาสัพพี แล้วเสด็จกลับไปประทับที่โรงยักษ์หน้าวังพระองค์ประดิษฐ แล้วประทับพระเมรุ แล้วเสด็จกลับ เวลาเที่ยงเสด็จออก แล้วเสด็จขึ้น เวลาบ่ายเสด็จออก พระยาเทพประชุนเฝ้า และข้าราชการอื่นๆบ้าง เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินประทับพลับพลาหน้าพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ปราสาท ทอดพระเนตรหัดทหาร แล้วเสด็จทรงรถพระที่นั่งไปประทับพระเมรุ ทอดพระเนตรงาน วันนี้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์มาเฝ้าที่พระเมรุ วันนี้ไม่ได้เสด็จออกหอธรรมสังเวช
วันที่ ๔๔๙๕ วัน ๓ ๙ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระเมรุทอดพระเนตรงานแล้ว เจ้าพระยาสุรวงศ์มาเฝ้า พระนรินทร์อ่านบอกแล้วข้าราชการทูลเกล้า ฯ ถวายผ้า และพระราชทานรางวัลดุมเพ็ชร์ สมเด็จกรมพระ ทูลกระหม่อมพระองค์น้อย กรมหมื่นภูธเรศ ทรงจัดแจงอื่น ๆ แล้ว เสวยที่พระเมรุ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น กัปตันเรือรบชื่อเอติลบและออฟฟิซเซอรเข้ามาเฝ้า ว่าคอเวอนแมนต์เมืองไซ่ง่อนมาในการพระศพ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกที่ออฟฟิศ พระองค์ชุมพลและเจ้านายอื่นทูลเกล้า ฯ ถวายผ้าขาวและสิ่งของแล้ว เสด็จออกพระเมรุ เสด็จอยู่ที่พระเมรุจนเวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จขึ้นประทับหอธรรมสังเวช พระนรินทร์นำแขกเมือง ๗ เมืองเฝ้า พระเทพกระวีถวายเทศน์กัณฑ์หลวง พระมหาบุญเทศนากัณฑ์เจ้าภาพ เวลายามเศษเสด็จขึ้น
วันที่ ๔๔๙๖ วัน ๔ ๑๐ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระเมรุทอดพระเนตรงานจนเวลาบ่าย สมเด็จเจ้าพระยามาเฝ้า และมิสเตอรปัลเครฟกับมิสเตอรกูลเฝ้า และข้าราชการทูลเกล้า ฯ ถวายน้ำและสิ่งของ เวลาค่ำทุ่มเศษเสด็จกลับประทับหอธรรมสังเวช พระเทพกระวีถวายเทศน์กัณฑ์หนึ่ง พระมหาบุญถวายเทศน์กัณฑ์หนึ่ง เวลายามเศษเสด็จขึ้น ไม่ได้ออกพระที่นั่งข้างใน
วันที่ ๔๔๙๗ วัน ๕ ๑๑ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาย่ำเที่ยงเศษเสด็จพระเมรุ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จกลับแล้ว ประทับหอธรรมสังเวช ทรงทอดผ้าไตรสลับแพร ๑๐๐ ไตร แล้วพระสงฆ์มีกรมพระปวเรศ หม่อมเจ้าพระ พระราชาคณะถานาเปรียญ ๑๐๐ รูป สดับปกรณ์แล้ว จะได้ไปสวดมนต์ที่พระเมรุ ครั้นสดับปกรณ์แล้วเสด็จขึ้นที่หน้าเก๋งวรสภาภิรมย์ ตั้งกระบวนแห่พระบรมธาตุ พระบรมอัฏฐิ พระอัฏฐิ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกทางประตูพรหม เสด็จพระราชดำเนินประทับพระเมรุด้านตะวันออก เร่งกระบวนแห่ แล้วกรมพระราชวังเสด็จมาเฝ้าอยู่ที่นั้น และสมเด็จเจ้าพระยาก็มาเฝ้าอยู่ที่นั้น พระบรมวงศานุวงศ์ก็อยู่พร้อมแล้ว เกือบค่ำจึงได้แห่มา มีทหารและเทวดากลองชะนะธงตามธรรมเนียม มีสามคานรองบุษบกพระเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมธาตุ สามคานรองบุษบกพระพุทธบุษยรัตน์ และพระราเชนทรยานทรงพระโกศพระบรมอัฏฐิ พระราชยานกงทรงพระอัฏฐิแห่มาเข้าประตูเมรุด้านตะวันตก แล้วเชิญบุษบกพระเจดีย์พระธาตุตั้งบนเกรินขึ้นไปตั้งบนชั้นพระเบ็ญจาทองคำด้านเหนือ บุษบกพระพุทธบุษยรัตน์ตั้งด้านใต้ แล้วโปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ซึ่งสดับปกรณ์ที่หอธรรมสังเวช ๑๐๐ รูป ขึ้นมาสวดมนต์บนพระเมรุด้านละ ๕๐ รูป มุขตะวันออกกรมพระปวเรศเป็นประธาน ด้านตะวันตกสมเด็จพระวันรัตน์เป็นประธาน ครั้นพระสงฆ์สวดมนต์จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานดิโปลมากับดวงตราช้างเผือกชั้นที่ ๓ นิภาภรณ์แก่กรมหมื่นพิชิต ๑ กรมหมื่นภูธเรศ ๑ พระองค์เจ้าเทวัญ ๑ แล้วพระราชทานดิโปลมากับตรามหาสุราภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๑ แก่สมเด็จเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ ๑ แล้วพระราชทานดิโปลมากับดวงตรามัณฑณาภรณ์ มงกุฎสยามชั้นที่ ๓ แก่พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ๑ พระองค์เจ้าสวัสดิ์ ๑ พระยาราชสงคราม ๑ พระยาประภากรวงศ์ ๑ พระนรินทร์ ๑ และพระราชทานดิโปลมากับดวงตราภัทราภรณ์ มงกุฎสยามชั้นที่ ๔ แก่พระองค์เจ้ากมลาศน์ ๑ พระองค์เจ้าเกษมศรี ๑ พระองค์เจ้าศรีสิทธิ์ ๑ พระองค์เจ้าทองแถม ๑ พระองค์เจ้าชุมพล ๑ หม่อมเจ้าปรีดา ๑ เจ้าหมื่นศรี ๑ เจ้าหมื่นสรรเพ็ธ ๑ แล้วพระราชทานสัญญาบัตร นายบิ๋นบุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ เป็นหลวงดำรงสุรินทรฤทธิ์ ๑ นายสายเป็นหลวงประสิทธิ์ราชศักดิ์ ๑ นายพุ่มเป็นหลวงบริรักษ์จตุรงค์ ๑ กรมพระกลาโหม จีนโป๊เป็นหลวงสาทรราชายุทธจีนเจ้าภาษี ๑ จีนจีนเป็นหลวงเลขาวิจารณ์กรมช่างสิบหมู่ ๑ แล้วเสด็จประทับพระที่นั่งทรงธรรม เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระบรมอัฏฐิ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้า สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สมเด็จพระนั่งเกล้า สมเด็จพระปฐม ขึ้นสถิตย์บนบุษบกกลาง พระอัฏฐิกรมสมเด็จพระอมรินทร กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทร กรมสมเด็จพระศรีสุลาไลย สมเด็จพระปรมัยกาเธอและพระชนนี กรมสมเด็จพระเทพศิรินทร เหล่านี้ตั้งบนบุษบก ๕ ยอด แล้วสดับปกรณ์ผ้าไตรสังเค็ตตรีไตรเปล่า ผ้าขาว แล้วพระราชทานธงตราแผ่นดินที่สำหรับแห่เสด็จ และธงสำหรับริยแมนแก่พระนายไวย และพระราชทานพร และพระบรมราโชวาทแก่พระนายไวยและออฟฟิซเซอรทั้งปวง แล้วเสด็จออกประทับพลับพลามวย ข้าราชการเฝ้าที่หน้าพลับพลา แล้วทรงจุดดอกไม้เพลิง มีรำโคม สิงห์โตมังกรตามธรรมเนียม เวลา ๒ ยามเสด็จกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง วันนี้สวมเสื้อเยียระบับเข้มขาบ นุ่งสมปักลาย ทหารตำรวจแต่งเต็มยศทั้งสิ้น
วันที่ ๔๔๙๘ วัน ๖ ๑๒ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินจากพระบรมมหาราชวัง เข้าประตูเมรุด้านตะวันออก ประทับบนมุขตะวันออก ทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ครั้นฉันแล้วถวายยถาสัพพีอดิเรก แล้วพระราชทานดวงตรามหาสุราภรณ์แก่ทูลกระหม่อมพระองค์น้อย เพราะเมื่อเวลาคืนนี้พระราชทานแต่สาย แล้วพระราชทานตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๕ วิจิตรากรณ์เก่หม่อมเจ้าฉาย ๑ หม่อมเจ้านิลวรรณ ๑ หม่อมเจ้ายินดี ๑ แล้วเจ้าพระยาสุรวงศ์ขึ้นมาเฝ้าอยู่ในที่นั้น พระนรินทร์นำผู้ช่วยกรมการเมืองพัทลุง เมืองตะกั่วป่า เฝ้าทูลเกล้า ฯ ถวายของในการพระเมรุ
เสด็จพระที่นั่งทรงธรรม มิสเตอรมาติน กรมหมื่นอดิศร ถ่ายพระรูปที่ประทับอยู่บนพระที่นั่งทรงธรรม แล้วพระราชทานตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๕ วิจิตรากรณ์แก่หม่อมเจ้าจังหวัด หม่อมเจ้าอลังการ พระวุฒิการนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นมาสดับปกรณ์พระบรมอัฏฐิพระอัฏฐิแล้ว พระราชทานตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๓ มัณฑณากรณ์แก่พระยาราชประสิทธิ์ ๑ หลวงนายสิทธิ์ ๑ จ่ายง ๑ ตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๔ ภัทราภรณ์แก่พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ๑ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ ๑ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์ ๑ หม่อมเจ้าประวิช ๑ พระวุฒิการ ๑ ตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๕ พระยาราชวงศา ๑ หลวงสรสิทธิ์ ๑ นายราชภัณฑ์ ๑ แล้วพระยาศรีนำเจ้านครหลวงพระบาง เจ้าราชวงศ์แสนท้าว พระยาลาวมาเฝ้า พระราชทานเสื้อเข้มขาบอัตหลัดเสื้อครุย ผ้าสมปักลายแก่เจ้านายเหล่านั้น แล้วพระราชทานตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๔ ภัทราภรณ์แก่หลวงนายฤทธิ์ สังฆการีนำเจ้าพระธรรมุณหิศธาดาถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพลับพลามวย ทรงโปรยผลกัลปพฤกษ์ โปรดให้เทวดาทิ้งทาน แล้วโปรดให้มีรำทวน ๓ คู่ คือนายสนิท นายเล่ห์อาวุธคู่ ๑ นายชิต นายฉันคู่ ๒ นายรองพิจิตร นายรองสรรพวิไชยคู่ ๓ มีมวยคู่หนึ่ง พอค่ำทรงจุดดอกไม้ มีรำโคม สิงห์โต มังกร วันนี้มีการมหรศพ โขน หุ่น งิ้ว หนัง ข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทหน้าพลับพลา เวลายามเศษเสด็จประทับพระที่นั่งทรงธรรม เจ้าพระอรุณนิภาคุณากรถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง และสดับปกรณ์พระบรมอัฏฐิพระอัฏฐิ ในพระเมรุนั้นเจ้าพนักงานตั้งเกรินเชิญบุษบกพระเจดีย์ของพระธาตุและพระพุทธบุษยรัตน์มาขึ้นสามคาน แล้วเชิญพระบรมอัฏฐิพระอัฏฐิมาขึ้นพระราเชนทรยานและพระราชยานกง แล้วแห่เดินกระบวนจากพระเมรุเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง
อนึ่งเวลาออกพลับพลาเมื่อยังไม่ค่ำนั้นมีสิงห์โตจีนบู๊ด้วย
วันที่ ๔๔๙๙ วัน ๗ ๑๓ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระเมรุทางในพร้อมด้วยข้างในทอดพระเนตรพระเมรุ และห้องช่างซึ่งแสดงเครื่องมือฝีมือช่างต่างๆ ซึ่งตั้งภายใต้ร้านดอกไม้ และทอดพระเนตรที่อื่น ๆ จนเวลาเช้า ๕ โมง เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกในพระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬารทรงราชการบ้าง เวลาบ่าย ๔ โมง พระยาอัษฎงค์เข้ามาเฝ้าทรงพระราชปฏิสันถารพอควร
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกประตูพรหมโสภา ทรงพระราชยานออกทางประตูวิเศษไชยศรีเลี้ยวป้อมเผด็จดัสกรไปทอดพระเนตรพระมหาพิไชยราชรถ พระมหาเวไชยยันตราชรถ และกระบวนเครื่องสังเค็ตยอด และรูปสัตว์ต่าง ๆ แบกบุษบกผ้าไตร พระมหาพิไชยราชรถ เวไชยยันตราชรถล้อและดุมชำรุด พระยามหาเทพ พระยามหามนตรีกำลังทำอยู่ รับสั่งกับกรมพิชิต พระยามหาเทพ พระยามหามนตรี เรื่องทำรถทั้งสองสักครู่หนึ่งเสด็จกลับขึ้นมาประทับพระเมรุทอดพระเนตรการต่างๆ แล้ว เสด็จประทับพระที่นั่งทรงธรรม รับสั่งกับทูลกระหม่อมพระองค์น้อย และเจ้านายอื่น ๆ เวลายามเศษเสด็จกลับ ลงไปทอดพระเนตรพระมหาพิไชยราชรถอีกจนเวลา ๔ ทุ่ม เสด็จกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง
วันที่ ๔๕๐๐ วัน ๑ ๑๔ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาก่อนย่ำรุ่ง ที่หอธรรมสังเวช เจ้าพนักงานรื้อพระโกศซึ่งประกับรองพระศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณากรณ์เพ็ชรรัตน์ และจัดกระบวนแห่เตรียมไว้ พอเวลาย่ำรุ่งเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับหอธรรมสังเวช ทรงพระกรุณาโปรดให้เจ้ากรม ปลัดกรม พระตำรวจเชิญพระโกศทั้งสองลงจากหอธรรมสังเวช มาขึ้นพระยานุมาศสามคานที่หน้าหอธรรมสังเวช เจ้าพนักงานประทับพระโกศทองใหญ่ ทรงพระศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระโกศทองน้อยซึ่งโปรดให้หุ้มทองคำใหม่ ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกประตูศรีสุนทรเลี้ยวไปออกประตูพิทักษ์บวรเลี้ยวถนนหว่างอุโบสถวัดพระเชตุพนกับกุฎี ประทับพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพน ขณะนั้นกระบวนแห่เตรียมพร้อมแล้ว เวลาเช้า ๒ โมงเศษโปรดให้แห่พระศพแต่หอธรรมสังเวชไปออกประตูพิทักษ์บวร ไปเลี้ยวถนนหว่างอุโบสถวัดพระเชตุพนกับกุฎี ไปพักหน้าวัดพระเชตุพน เชิญพระศพเทียบกับเกรินไว้ เมื่อเวลาแห่ไปจากหอธรรมสังเวชนั้นมีเทวดาเครื่องสูงกลองชะนะและเสลี่ยงโยงโปรยกับพระยานุมาศสามคาน พระศพและข้าหลวงมหาดเล็กตามเท่านั้น แล้วกรมภูษามาลาเลื่อนพระโกศสมเด็จพระนางเจ้าจากสามคานขึ้นเกรินบันไดนาค ขึ้นไปประทับพระมหาพิไชยราชรถเสร็จแล้ว เลื่อนพระโกศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอจากพระยานุมาศขึ้นเกรินบันไดนาคขึ้นไปประทับเวไชยยันตราชรถ เชิญพระโกศสถิตย์ในรถทั้งสอง เสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าขาว พระพิมลธรรมพระราชาคณะถานาเปรียญสดับปกรณ์หน้ารถทั้งสองพระศพ ในที่นั้นมีสมเด็จกรมพระ ทูลกระหม่อมพระองค์ใหญ่พระองค์น้อย เจ้านายต่างกรม และยังไม่ได้ตั้งกรมเฝ้าอยู่ที่นั้น แล้วสมเด็จเจ้าพระยามาเฝ้าอยู่ที่นั้นด้วย ครั้นสดับปกรณ์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินแต่พลับพลายกวัดพระเชตุพน ไปประทับพลับพลายกหน้าพระเมรุด้านตะวันออก เวลาเช้า ๕ โมงเดินกระบวนแห่ มีทหารและธงชายธงตะขาบธงต่างๆ และเครื่องผ้าเหลืองเครื่องสังเค็ตยอด และรูปสัตว์ต่าง ๆ แบกบุษบกผ้าไตรมีระทาผ้าขาวเหลือง เครื่องบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ เป็นอันมาก มีแรดทรงบุษบกเพลิง เทวดาคู่แห่กลองชะนะ แตรสังข์เครื่องสูงบังแซกคู่เคียงตามโบราณราชประเพณี และมืรถกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงอ่านพระอภิธรรมนำหน้ารถพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าไชยยันตมงคลทรงโปรยรถพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณทรงถือแว่นและโยง ถึงพระมหาพิไชยราชรถเวไชยยันตราชรถซึ่งทรงพระศพทั้ง ๒ กระบวนหลังมีเครื่องและข้าหลวงมหาดเล็ก เครื่องสังเค็ตยอดและเครื่องไทยทานต่าง ๆ ซึ่งจะพระราชทานบริจาคเป็นเอนกอนันต์ ครั้นกระบวนถึงหน้าพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ทหารปืนใหญ่ก็ยิงสลุต ๒๑ นัด ครั้นกระบวนถึงหน้าพระเมรุ ราชรถทั้ง ๒ ประทับหน้าพระเมรุ เจ้าพนักงานตั้งเกรินพาดบันไดนาคเลื่อนพระโกศสมเด็จพระนางเจ้า และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอลงจากพระมหาพิไชยราชรถเวไชยยันตราชรถเลื่อนขึ้นยานมาศสามคานโดยเรียบร้อย แล้วกรมพระปวเรศ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ พระองค์เจ้าไชยยันต์ ก็เสด็จขึ้นยานมาศนำพระศพแห่เวียนพระเมรุโดยอุตราวัตร ๓ รอบตามธรรมเนียมโบราณวิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับมุขพระเมรุด้านตะวันออก แล้วเทียบยานุมาศสามคานพระโกศสมเด็จพระนางเจ้าเข้ากับเกยที่บันไดพระเมรุ เลื่อนพระโกศจากสามคาน ขึ้นบนเกรินเลื่อนไปตามตะพาน ไปขึ้นบันไดนาคขึ้นไปถึงทางแยก ๆ ไปถึงพระเบ็ญจาทองคำ เชิญพระโกศสมเด็จพระนางเจ้าสถิตย์บนพระเบ็ญจาทองคำ ๓ ชั้นด้านเหนือเสร็จแล้ว จึงเชิญพระโกศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอขึ้นไปดังเช่นว่าแล้ว แยกไปตามทางเชิญสถิตย์บนพระเบ็ญจาทองคำด้านใต้เสร็จแล้ว เสด็จประทับพระเมรมุขเหนือ พระบรมวงศานุวงศ์เฝ้า เจ้าพระยาภานุวงศ์นำกงสุลต่างประเทศเฝ้า เวลาบ่าย ๒ โมง ทรงทอดผ้าไตรสังเค็ตสดับปกรณ์ เสด็จพระที่นั่งทรงธรรม
อนึ่งเกรินคราวนี้ทำแปลกกว่าทุกคราว เพราะเกรินนั้นเป็นแบบต้องตั้งด้านเหนือหรือด้านหน้าเท่านั้น คราวนี้จะตั้งด้านเหนือเล่า ก็จะต้องเชิญพระโกศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอขึ้นก่อน ทรงพระราชดำริว่าอยากจะเชิญพระโกศสมเด็จพระนางเจ้าขึ้นก่อน จึงโปรดให้สมเด็จกรมพระคิดตั้งด้านหน้ามุขตะวันออกทำทางแยกไปตามพระเบ็ญจาทั้งสองคิดทำใหม่ใช้ดูเรียบร้อยดี และตะพานซึ่งเลื่อนพระโกศจากสามคานมานั้นก็เป็นของทำใหม่ด้วย เพราะมีพระราชประสงค์จะมิให้รื้อพระโกศประทับอย่างเช่นแต่ก่อนบ่อยๆ ได้รื้อคราวเดียว แต่เมื่อเชิญลงจากหอธรรมสังเวชคราวเดียว
เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จออกประทับพระเมรุด้านตะวันออก พระญวน พระจีนและขุนนางจีนเจ้าภาษีตั้งเครื่อง พระญวนพระจีนสวดกงเต๊ก ครั้นเสร็จแล้ว พระราชทานผ้าไตรญวนบริกขาร แก่พระญวน พระจีน แล้วเสด็จพระราชดำเนินออกพลับพลามวย ทรงโปรยทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการและกงสุลต่างประเทศ แล้วโปรดให้เทวดาทิ้งทานตามต้นกัลปพฤกษ์ทุกต้น มีรำง้าวคู่ ๑ หม่อมราชวงศ์กลมกับนายเสน่ห์ เวลาค่ำทรงดอกไม้เพลิงมีดอกไม้ต่าง ๆ รำโคมสิงห์โตมังกร ตามธรรมเนียม เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จกลับพระเมรุสดับปกรณ์ผ้าไตรสังเค็ต เอก โท สลากแล้วเสด็จกลับประทับพระที่นั่งทรงธรรมมีเทศนา ๒ กัณฑ์ สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ถวายเทศนาพระสังคินี พระพิธีธรรมวัดบวรนิเวศสวดพระสังคินีจบแล้ว พระพิมลธรรมถวายเทศนาพระวิภังค์ พระพิธีธรรมวัดพระเชตุพนสวดพระวิภังค์ จบแล้วเสด็จพระราชดำเนินพระเมรุ เสด็จประทับตรัสกับสมเด็จกรมพระหน่อยหนึ่งแล้ว พระราชทานสลากสมเด็จกรมพระ และคนอื่น ๆ แล้วเสด็จกลับพระที่นั่งทรงธรรม ทรงโปรยสลากเจ้านายเล็กน้อย เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จเข้าพระบรมมหาราชวัง วันนี้มีการมหรศพเต็มที่ โขน ๒ โรง หุ่น ๒ โรง งิ้ว ๑ โรง หนังโรง โรงรำก็เล่นทุกช่องระทา ๑๒ โรง
ข้าราชการนุ่งสมปักลายทองขาว คาดครุยสวมเสื้อขาว ข้าหลวงเดิมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าและในปัจจุบันนุ่งขาว อนึ่งการแจกมะนาวนั้นผู้ใดถวายผ้าขาวแล้วต้องมารับต่อเจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติ ตั้งแจกที่คตพระเมรุหน้าพระที่นั่งทรงธรรม ผู้ที่ถวายของนั้นพระราชทานสิ่งของตอบแทนตามควร เป็นพนักงานไปรเวตสิเกรตารีออฟฟิศ
วันที่ ๔๕๐๑ วัน ๒ ๑๕ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกพระเมรุ เสด็จเข้าประตูด้านตะวันตก ประทับมุขตะวันตก แล้วเสด็จประทับมุขตะวันออก พระญวนพระจีนกับจีนเจ้าภาษีตั้งเครื่องพระญวนสวดกงเต็ก แล้วเสด็จประทับพระที่นั่งทรงธรรม พระราชทานครอบและสิ่งของแก่ข้าราชการในกรุงนอกกรุงตามควร แล้วพระธรรมกิตติถวายพระธาตุกถา พระพิธีธรรมวัดระฆังสวดธาตุกถาจบแล้ว พระปรากรมมุนีถวายบุคลบัญญัติ พระพิธีธรรมวัดหงส์สวดบุคลบัญญัติจบแล้ว พระราชทานรางวัลเจ้านาย และข้าราชการที่ได้ฉลองพระเดชพระคุณในการพระเมรุนี้ และที่ได้ถวายของในการพระเมรุนี้บ้าง แล้วเสด็จขึ้นข้างในพระราชทานรางวัลเจ้านายข้าทูลละออง และภรรยาข้าราชการ ที่ได้ถวายของในการพระเมรุนี้บ้าง
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกพลับพลามวยทรงโปรยสลากและมะนาว แล้วพระราชทานครอบและมะนาวแก่กงสุลต่างประเทศ และชาวต่างประเทศที่ควรจะพระราชทาน โปรดให้เทวดาทิ้งทานต้นกัลปพฤกษ์ทุกต้น มีรำทวน ๒ คู่ เวลาค่ำทรงจุดดอกไม้ มีรำโคมสิงห์โตมังกรและดอกไม้ต่างๆ การมหรศพมีเต็มที่อย่างเช่นว่าไว้แล้วในวันก่อน ๆ
เวลา ๒ ทุ่ม เสด็จกลับประทับในพระเมรุ ทรงทอดผ้าไตรสังเค็ตเอกโท ไตรเปล่าสลาก แล้วเสด็จกลับพระที่นั่งทรงธรรม พระราชทานรางวัลเจ้ากรมพระตำรวจและอื่นๆ ซึ่งเป็นนายด้านทำการพระเมรุครั้งนี้ และพระราชทานรางวัล เจ้านายซึ่งถวายของในการพระเมรุคราวนี้ด้วย และมีพระธรรมเทศนา ๒ กัณฑ์ พระราชมุนีถวายเทศน์พระกถาวัตถุ พระพิธีธรรมวัดสุทัศน์สวดพระกถาวัตถุ จบแล้ว พระเทพกระวีถวายเทศน์พระยมก พระพิธีธรรมวัดมหาธาตุสวดพระยมก แล้วเสด็จในพระเมรุพระราชทานสลากแก่เจ้านาย มีสมเด็จกรมพระเป็นต้น เสด็จกลับพระที่นั่งทรงธรรม ทรงโปรยสลากเจ้านายข้าราชการเล็กน้อย เวลา ๒ ยามเสด็จกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง
อนึ่งเวลาเสด็จกลับจากพลับพลามวย และเวลาเสด็จเข้าพระบรมมหาราชวังนั้น เสด็จขึ้นและเสด็จออกลงทรงพระราชยานทางเกยหน้าพระที่นั่งทรงธรรมด้านนอกเสมอทุกวัน
ข้าราชการสวมเสื้อนุ่งผ้าเหมือนเวลาวานนี้ ข้าหลวงเดิมแผ่นดินพระจอมเกล้า และแผ่นดินปัจจุบันนี้นุ่งขาวทุกวัน
วันที่ ๔๕๐๒ วัน ๓ ๑ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกพระเมรุ เสด็จเข้าประตูด้านตะวันตก แล้วประทับบนพระเมรุมุขตะวันตก แล้วเสด็จมาพระที่นั่งทรงธรรม ทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วมิสเตอรอาลบาสเตอรเฝ้า หม่อมเจ้าปฤษฎางค์นำมิสเตอรตอเรและชาวยุโรปอีกหลายคนเฝ้า พระราชทานครอบมิสเตอรอาลบาสเตอรและชาวยุโรปอื่นๆ แล้วเสด็จพระราชดำเนินเข้าพระเมรุ เสด็จประทับด้านตะวันตกทรงทอดผ้าไตรสังเค็ตเอกโทสดับปกรณ์ แล้วประทับพระเมรุด้านตะวันออก ทอดพระเนตรพระญวนพระจีน และจีนเข้าภาษีตั้งเครื่องพระญวนสวดกงเต๊ก พระนรินทร์นำเจ้าเมืองพระบริสุทธิ์เมืองตะกั่วทุ่ง และพระไทรโยคและเมืองอื่น ๆ เสด็จกลับพระที่นั่งทรงธรรม พระราชทานครอบข้าราชการและพระราชทานรางวัลของเจ้านายข้าราชการและคนอื่น ๆ เวลาบ่ายโมงเศษเสด็จขึ้นข้างในพระราชทานรางวัลของผู้ที่ถวายของในการนี้บ้างตามที่ท่านมาเฝ้า
อนึ่งเมื่อเวลาเพนแล้วมีพระธรรมเทศนา ๒ กัณฑ์ พระเทพโมฬีถวายเทศนามหาปัฏฐาน พระพิธีธรรมวัดราชสิทธิ์สวดมหาปัฏฐานจบแล้ว พระอมรโมฬีถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๑ พระพิธีธรรมวัดพระเชตุพนสวดสังคหปริจเฉท ๑
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพลับพลามวย ทรงโปรยสลากและมะนาว โปรดให้เทวดาโปรยทานตามต้นกัลปพฤกษ์ทั้ง ๘ แล้วโปรดให้พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ทิ้งสลากมะนาวขุนนางท้ายพลับพลา มีรำทวน ๒ คู่ มีตีพลองคู่หนึ่ง เวลาค่ำทรงจุดดอกไม้ และการอื่น ๆ ก็มีเหมือนวานนี้เหมือนกัน
เวลา ๒ ทุ่ม เสด็จขึ้นจากพลับพลามวย ประทับเกยพระที่นั่งทรงธรรม แล้วเสด็จประทับพระเมรุด้านตะวันออก ทรงทอดผ้าไตรสังเค็ตเอกโทและสลากสดับปกรณ์แล้ว เสด็จกลับพระที่นั่งทรงธรรมมีเทศนา พระธรรมภาณพิลาศถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๒ พระพิธีธรรมวัดเทพธิดาสวดสังคหปริงเฉท ๒ จบแล้ว พระประสิทธิศีลคุณถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๓ พระพิธีธรรมวัดหงส์ สวดสังคหปริจเฉท ๓ แล้วทรงโปรยสลากพระราชทานเจ้านายเล็กน้อย เวลา ๒ ยามเศษ เสด็จกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง วันนี้การมหรศพและแต่งตัวเหมือนวานนี้
วันที่ ๔๕๐๓ วัน ๔ ๒ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินพระเมรุเข้าประตูด้านตะวันตก เสด็จขึ้นพระเมรุแล้วไปประทับพระที่นั่งทรงธรรม ฝรั่งผู้หญิงเฝ้าหลายคน พระราชทานครอบและสิ่งของตามควร แล้วคนยุโรปที่เป็นพ่อค้านายห้างเฝ้า พระราชทานครอบและผลมะนาว แล้วประทับที่พระที่นั่งทรงธรรมห้องกลาง พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วเสด็จสดับปกรณ์ด้านตะวันตก แล้วมาประทับด้านตะวันออก พระญวน พระจีนเจ้าภาษีตั้งเครื่อง พระญวน พระจีนสวดกงเต๊ก แล้วเสด็จกลับพระที่นั่งทรงธรรมทรงแจกครอบและสิ่งของแก่ข้าราชการเจ้านายตามควร เสด็จเข้าที่หลวงราโชถวายอยู่งาน ครั้นแล้วเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นมาถวายเทศน์ พระโพธิวงศ์ถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๔ พระพิธีธรรมวัดราชบูรณสวดสังคหปริจเฉท ๔ จบ และพระศรีวิสุทธิวงศ์ถวายเทศน์สังคหปริจเฉท ๕ พระพิธีธรรมวัดสระเกษสวดสังคหปริจเฉท ๕ จบ
เวลาเที่ยงเชิญพระศพสมเด็จพระนางเจ้าและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอลงจากพระเบ็ญจามาตั้งในห้อง ซึ่งกันรักแร้เมรุ มุขตะวันตกและใต้ต่อกัน เจ้าพนักงานภูษามาลาชำระพระศพเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงทอดผ้าไตร พระราชาคณะถานาเปรียญ สดับปกรณ์ปากพระโกศทั้ง ๒ พระศพแล้ว เวลาเกือบค่ำจึงได้เชิญพระศพขึ้นตั้งบนที่พระราชทานเพลิง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์สมเด็จเจ้าพระยา ท่านเสนาบดีกงสุลต่างประเทศ เฝ้าอยู่พร้อมกันอยู่ด้านตะวันออก ครั้นเรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปพระราชทานเพลิงพระศพทั้ง ๒ และพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการฝ่ายหน้าและกงสุลต่างประเทศพร้อมกันขึ้นไปถวายพระเพลิง และสมเด็จพระนางเจ้า พระนางเธอ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายในและคนอื่น ๆ ก็ขึ้นไปถวายพระเพลิงเป็นอันมาก เสียงร้องไห้กึกก้องไปทั้งนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกพลับพลามวย ทรงโปรยผลสลากและมะนาว และโปรดให้ทิ้งทาน มีการเล่นอย่างเช่นทุกวัน พอค่ำทรงจุดดอกไม้ แล้วเสด็จประทับพระเมรุด้านตะวันออก แล้วสดับปกรณ์กองเพลิงทั้ง ๒ แล้วเสด็จพระที่นั่งทรงธรรมเสวย ครั้นแล้วเสด็จออกที่พระเมรุ เสด็จขึ้นไปบนฐานปัทม์ทรงแจกทรงโปรยสลากเจ้านายซึ่งอยู่ที่นั่นบ้าง และทรงโปรยพระราชทานภูษามาลาแล้ว พระราชทานเงินภูษามาลาที่ฉลองพระเดชพระคุณ แล้วเสด็จประทับพระที่นั่งทรงธรรม ทรงแจกสลากเจ้านายข้าราชการ เวลา ๔ ทุ่มเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
อนึ่งตั้งแต่วันชักพระศพมาจนวันนี้ สมเด็จพระนางเจ้า พระนางเธอท่านก็ทรงบริจาคทานถวายสังเด็ต มีเทศน์สดับปกรณ์ถวายเป็นเอนกอนันต์เป็นส่วนเจ้าภาพ และได้พระราชทานของตอบแทนผู้ที่ถวายของและพระราชทานมะนาวแก่ผู้ถวายผ้าเหมือนกัน และไทยทานที่ถวายพระสงฆ์ก็เป็นของดี ๆ โดยทั่วไปทั้งนั้น
วันที่ ๔๕๐๔ วัน ๕ ๓ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาย่ำรุ่งเสด็จพระราชดำเนินออกพระเมรุ เสด็จประทับบนฐานปัทม์ ทอดพระเนตรเจ้าพนักงานภูษามาลาแปรพระรูป แล้วมีสามหาบของหลวง ๖ สำรับ ของสมเด็จพระนางเจ้าและพระนางเธอ ๖ สำรับ ครั้นแปรพระรูปแล้วเวียนสามหาบรอบพระเมรุสามรอบ ผู้หาบนั้นคือ พระยาราชประสิทธิ์ พระยาประสิทธิ์ศุภการ พระยาพิพิธโภไคศวรรย์ พระยาพิพิธไอศูรย์ เจ้าหมื่นไวย เจ้าหมื่นเสมอใจ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ เจ้าหมื่นสรรเพ็ธ นายกวดหุ้มแพร นายพิจารณ์ นายบำรุง หม่อมไกล หม่อมกลม หม่อมปี หม่อมมโนรถ นายสงบ หลวงอังคนิศร์ หลวงบรมนารินทร ขุนเทวีภัติการ ด้วยที่ถือไตรบ้าง หาบสำรับคาวหวานบ้าง ครั้นเวียนครบสามรอบแล้ว จึงทรงทอดไตรแพรสามหาบ สดับปกรณ์พระรูปทั้งสอง พระสงฆ์ราชาคณะผู้ใหญ่มีกรมพระปวเรศเป็นประธาน พระองค์เจ้าพระมนุษย์และราชาคณะผู้ใหญ่ รวม ๑๒ รูป สดับปกรณ์แล้ว ลงมารับพระราชทานฉัน แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า พระนางเธอ ทรงเก็บพระอัฏฐิทั้งสอง เจ้าพนักงานเชิญพระอัฏฐิลงพระลองโมรา แล้วลงพระโกศมณฑปทองคำลงยาประดับเนาวรัตน์อันวิจิตร เชิญพระโกศมณฑปพระอัฏฐิตั้งบนพานทองคำ ๒ ชั้น ตั้งในบุษบกทองคำเชิญขึ้นตั้งบนพระเบ็ญจา ๓ ชั้น ตามเดิมเสร็จแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระที่นั่งทรงธรรม พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเพล แล้วพระราชทานเครื่องศิลามีขันน้ำพานรองกระโถนและโต๊ะเป็นต้น แก่พระสงฆ์ซึ่งถวายของช่วยในการพระเมรุ มีกรมพระปวเรศและพระองค์เจ้าพระมนุษย์และหม่อมเจ้าพระเป็นต้น
เจ้าพนักงานเชิญพระอังคารขึ้นยานมาศมีกระบวนแห่เทวดา เครื่องสูงกลองชะนะไปลงท่าพระ เชิญพระอังคารลงเรือไชย ๒ ลำ มีเรือแห่ไปลอยที่หน้าวัดปทุมคงคาตามอย่างโบราณประเพณี แล้วกระบวนแห่ซึ่งเชิญพระอังคารไปส่งลงเรือแล้ว กลับเข้ามารับพระบรมอัฏฐิจากพระบรมมหาราชวัง เชิญออกพระที่นั่งทรงธรรมสดับปกรณ์อย่างเช่นแต่ก่อน พระบรมอัฏฐิที่เชิญออกมาวันนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ๑ สมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ ๑ เชิญสถิตย์บนบุษบกทองคำเปลวกลางพระที่นั่งทรงธรรม สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย พระองค์เจ้าอิศรวงศ์วรราชกุมาร พระองค์เจ้านภางค์นิพัทธพงศ์ เชิญสถิตย์ในบุษบกห้ายอด แล้วพระราชทานรางวัลเจ้านายข้าราชการที่ถวายของในการพระเมรุ แล้วเสด็จขึ้นข้างใน
เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จออกพลับพลามวย ทรงโปรยสลากมะนาวโปรดให้ทิ้งทานต้นกัลปพฤกษ์ มีรำทวนคู่หนึ่งแล้ว กัปตันลิชลิวเอาทหารเรือเวสาตรี แต่งตัวสวมเครื่องเกราะถือปืนปลายหอกมาทำท่าแทงกันและกันต่าง ๆ โดยแข็งแรงและว่องไว การมหรศพตามอย่างเช่นวันก่อน เวลา ๒ ทุ่มเสด็จขึ้นพระที่นั่งทรงธรรม มีเทศนา ๔ กัณฑ์ พระญาณรักขิตถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๖ พระพิธีธรรมวัดอรุณสวดสังคหปริจเฉท ๖ จบแล้ว พระปริยัติวงศาจารย์ถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๗ พระพิธีธรรมวัดมหาธาตุสวดสังคหปริจเฉท ๗ จบ และพระอมราภิรักขิตถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๘ พระพิธีธรรมวัดระฆังสวดสังคหปริจเฉท ๘ จบแล้ว พระพิศาลสมณกิจถวายเทศนาสังคหปริจเฉท ๙ พระพิธีธรรมวัดอรุณสวดสังคหปริจเฉท ๙ จบแล้ว เสด็จพระราชดำเนินพระเมรุ แล้วเสด็จกลับพระราชทานสลากเจ้านายข้าราชการเล็กน้อย เวลา ๒ ยามเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
วันที่ ๔๕๐๕ วัน ๖ ๔ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินประทับพระเมรุด้านตะวันตก สดับปกรณ์แล้ว เสด็จประทับด้านตะวันออก พระญวน พระจีน เจ้าภาษีตั้งเครื่องแล้ว สดับปกรณ์ไตรสังเค็ตพระญวณ พระจีน แล้วประทับพระที่นั่งทรงธรรม พระราชทานครอบและสิ่งของเจ้านายข้าราชการ แล้วสดับปกรณ์พระบรมอัฏฐิพระอัฏฐิ แล้วเสด็จประทับในพระเมรุด้านใต้ มีแจง สมเด็จพระวันรัตน์ถวายเทศนาอานิสงส์แจงกัณฑ์หนึ่ง พระธรรมวโรดมถวายเทศนาพระวินัยกัณฑ์หนึ่ง แล้วพระสุธรรมธีรคุณ พระคุณาจารยวัตร พระธรรมธานาจารย์ พระธรรมสมาจารย์ ๔ รูปขึ้นเตียงสวดพระวินัย จบแล้ว พระพรหมมุนีถวายเทศนาพระสูตรกัณฑ์หนึ่ง พระวินัยรักขัต พระครูปลัดสัมพิพัฒนสุตาจารย์ พระครูปลัดสัมพิพัฒนศีลาจารย์ พระครูปลัดจุฬานุนายก ๔ รูปสวดพระสูตรจบแล้ว พระธรรมไตรโลกถวายเทศนาพระปรมัตถ์กัณฑ์หนึ่ง แล้วพระมงคลเทพมุนี พระธรรมถาวรพระญาณวิริย พระปัญญาคัมภีรเถร ๔ รูปสวดพระปรมัตถ์ พระสงฆ์ถานาอันดับ ๕๐๐ นั่งแจง ครั้นเทศน์และสวดจบแล้ว เสด็จพระที่นั่งทรงธรรม
บ่าย ๕ โมงเสด็จออกพลับพลามวย ทรงโปรยสลากมะนาวแล้ว โปรดให้เทวดาทิ้งทาน มีรำทวน ๒ คู่ เวลาค่ำจุดดอกไม้ มีการมหรศพตามธรรมเนียมอย่างทุกวัน เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับเข้าพระเมรุสดับปกรณ์ แล้วเสด็จพระที่นั่งทรงธรรม เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
วันที่ ๔๕๐๖ วัน ๗ ๕ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระพุทธนิเวศน์ ทำบุญวันประสูติ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วสดับปกรณ์ ครั้นสดับปกรณ์แล้ว เสด็จทางพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงพระราชยานเสด็จพระราชดำเนินพระเมรุ เลี้ยงพระและสดับปกรณ์เหมือนอย่างทุกวัน วันนี้สมเด็จพระนางเจ้า พระนางเธอ ทรงมีแจง ๕๐๐ เหมือนวันวาน
บ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพลับพลา ทรงโปรยสลากมะนาวแล้วโปรดให้ทิ้งทาน เวลาค่ำทรงจุดดอกไม้ การมหรศพมีเหมือนทุกวัน เวลา ๒ ทุ่มเสด็จขึ้นพระที่นั่งทรงธรรม พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าพระมนุษยนาคมานพถวายเทศนาชาณุโสณีสูตรกัณฑ์หนึ่ง หม่อมเจ้าพระประภากรถวายเทศนาอนิจจลักขณกัณฑ์หนึ่ง หม่อมเจ้าพระพุทธุปบาทปิลันธนถวายเทศนาทุกขลักขณกัณฑ์หนึ่ง พระสาธุศีลสังวรถวายเทศนาอนัตตลักขณกัณฑ์หนึ่ง แล้วออฟฟิซเซอร์และกัปตันเรือรบฝรั่งเศสมาเฝ้าในพระที่นั่งทรงธรรม กรมท่านำ ทรงพระราชปฏิสันถารตามควร เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
อนึ่งผู้ซึ่งรำทวนในงานคราวนี้ คือ
นายสนิทหุ้มแพร
นายเสน่ห์หุ้มแพร
นายเล่ห์อาวุธหุ้มแพร
นายสรรพวิไชยหุ้มแพร
นายชิตหุ้มแพร
นายฉันหุ้มแพร
นายรองชิต
นายรองสรรพวิไชย
นายรองพิจิตร
นายพินมหาดเล็กบุตรพระยาศรีสรราช
นายพรมมหาดเล็กบุตรพระยารัตนโกษา
นายเชยมหาดเล็กบุตรเจ้าพระยาพลเทพ
นายบุญมากมหาดเล็กบุตรพระนรินทรราชเสนี
หม่อมกลม ในพระองค์เจ้าชิตเชื้อพงศ์
วันที่ ๔๕๐๗ วัน ๑ ๖ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
วันนี้เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินออกพระเมรุ เสด็จประทับพระที่นั่งทรงธรรม สดับปกรณ์พระบรมอัฏฐิแล้วเลี้ยงพระ แล้วเชิญพระบรมอัฏฐิพระอัฏฐิขึ้นพระราเชนทรยานและเสลี่ยง มีเครื่องสูงกลองชะนะคู่แห่กลับพระบรมมหาราชวัง เสด็จไปประทับพระเมรุสดับปกรณ์พระอัฏฐิ โปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะถานาเปรียญที่ได้รับพระราชทานสังเค็ตเอกโทของหลวง ของเจ้าภาพทั้งสิ้นให้ถือพัดสังเค็ต รวมพระสงฆ์ ๔๐๐ รูปเศษ สดับปกรณ์ผ้าสลาก แล้วเสด็จแจกของพระที่นั่งทรงธรรม
บ่าย ๒ โมงเศษ เชิญพระโกศพระอัฏฐิสมเด็จพระนางเจ้าและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เชิญขึ้นบุษบกเชิญตั้งบนราชยานุมาศสามคาน เหมือนเมื่อแห่พระธาตุมีเครื่องสูงกลองชะนะคู่แห่ไม่ผิดอะไรเลย แห่จากพระเมรุมาเข้าประตูวิเศษไชยศรี อ้อมกำแพงพระมหาปราสาท เข้าประตูพรหมซ้าย แห่ผ่านพระที่นั่งไปเลี้ยวหัวถนนถึงพระตำหนัก เชิญขึ้นสถิตย์บนเรือนแก้วบนพระตำหนัก แล้วพระสงฆ์เข้าไปสดับปกรณ์ด้วย
วันที่ ๔๕๐๘ วัน ๒ ๗ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร กรมวังกรมท่านำมิสเตอรปัลเครฟเฝ้ากราบถวายบังคมลาไปเมืองญี่ปุ่น รับสั่งให้พระนายเสมอใจไปด้วย แล้วกลับไป
แล้วเสด็จพระมหาปราสาททอดพระเนตรการที่จัดจะทำบุญ ๗ วัน เสด็จขึ้นย่ำค่ำเศษ พระราชทานครอบไปบูชาพระแก้วมรกต พระชินศรีและที่อื่น ๆ
วันที่ ๔๕๐๙ วัน ๓ ๘ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาย่ำเที่ยงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทอดพระเนตรสมเด็จกรมพระ ทูลกระหม่อมพระองค์น้อย กรมหมื่นภูธเรศ จัดชั้นพระเบ็ญจาที่จะตั้งพระอัฏฐิสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์ แล้วทอดพระเนตรพระองค์ทองแขวนระย้าแก้ว มีสมเด็จกรมพระ ทูลกระหม่อมพระองค์น้อย กรมหมื่นเจริญผล กรมหมื่นภูธเรศ พระองค์ทองเฝ้า เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จขึ้นประทับในออฟฟิศ พระองค์เจ้าเทวัญเฝ้า แล้วเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททอดพระเนตรจัดการ แล้วแห่พระอัฏฐิสมเด็จพระนางเจ้า และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเชิญขึ้นบนบุษบกทองคำ เวลาค่ำพระสงฆ์ ๘๐ รูป มีกรมพระปวเรศ หม่อมเจ้าพระ และพระราชาคณะ พระครูเจ้าวัด ถานาเปรียญนอกกรุงในกรุงสวดมนต์ ครั้นสวดจบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับมุขตะวันตก ทอดผ้าไตรพระสงฆ์ ๘๐ รูปสดับปกรณ์ ครั้นเสร็จแล้วถวายอติเรก ถวายพระพรลา แล้วพระพิมลธรรมถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง ครั้นเทศนาจบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตร ๑ ผ้าขาว ๔ พระพิมลธรรม ๑ ถานา ๔สดับปกรณ์แล้วถวายอติเรกถวายพระพรลา หม่อมเจ้าพระอรุณถวายเทศนากัณฑ์ที่ ๒ คมั้นเทศนาจบแล้ว สดับปกรณ์ ผ้าไตรสังเค็ต ๑ ผ้าขาว ๔ พับ แล้วถวายอติเรกถวายพระพรลากลับ แล้วพระราชาคณะถานาเปรียญสดับปกรณ์เรือนร้อย ผ้าขาวพับ
วันนี้มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพยาภานุวงศ์เรื่องเตลิแครฟ
วันที่ ๔๕๑๐ วัน ๔ ๙ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทปรนนิบัติพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วถวายของไทยธรรม พระสงฆ์ถวายยถาสัพพี อติเรกพระพรลา แล้วพระสงฆ์ราชาคณะถานาเปรียญอันดับสามเณรเปรียญสามเณรสดับปกรณ์ผ้าไตร แล้วเสด็จทรงโปรยบนมุข เสด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว พระพรหมมุนีถวายเทศนากัณฑ์ ๑ เทศนาจบแล้ว พระพรหมมุนี ถานา ๔ สดับปกรณ์ผ้าไตรและผ้าขาวทรงถวายของเครื่องกัณฑ์แล้ว พระธรรมวโรดมถวายเทศนา แล้วสดับปกรณ์ผ้าไตรผ้าขาวแล้ว ถวายของเครื่องกัณฑ์ แล้วสดับปกรณ์เรือนร้อย วันนี้พระราชทานรางวัลคนซึ่งคิดฉันท์ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จขึ้น เจ้าพระยาภานุวงศ์เฝ้า เวลาเย็นมิสเตอรมาเควศเปเรรากงสุลโปรตุเกตเฝ้า เวลาย่ำค่ำแล้วเสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สดับปกรณ์เรือนร้อย แล้วพระโพธิวงศ์ถวายเทศนากัณฑ์ ๑ พระศรีสุนทรเฝ้า เทศนาจบสดับปกรณ์ ถวายอติเรกถวายพระพรลา แล้วพระอมรโมฬีถวายเทศนา แล้วสดับปกรณ์ถวายอติเรกถวายพระพรลา แล้วสดับปกรณ์ สลาก และผ้าไตร และผ้าขาว ๓๐ รูป แล้วพระราชทานรางวัลเครื่องอุปโภคต่างๆ แก่อาจารย์ซึ่งบอกหนังสือมคธ หนังสือไทยและเลข แก่ภิกษุสามเณรคฤหัสถ์ทั่วทั้งพระนคร เวลา ๔ ทุ่มเศษ เสด็จทรงจุดดอกไม้ที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกขปราสาทแล้วเสด็จขึ้น
วันที่ ๔๕๑๑ วัน ๕ ๑๐ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมง เสด็จออกพระพุทธนิเวศน์ พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วสดับปกรณ์พระบรมอัฏฐิ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเป็นวันทำบุญประสูติในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า แล้วเวลาบ่ายเสด็จลงพระตำหนัก แล้วสวดมนต์พระสงฆ์ ๑๐ รูป ไม่ได้เสด็จออกทรงธรรมพระพุทธนิเวศน์ รับสั่งให้พระองค์เจ้าจิตรเจริญไปจุดเทียน
วันที่ ๔๕๑๒ วัน ๖ ๑๑ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๕ โมง พระสงฆ์ที่สวดมนต์ในพระตำหนักสมเด็จพระนางเจ้าเข้ามารับพระราชทานฉัน แล้วมีเทศนา ๒ กัณฑ์ คือพระเทพกระวีกัณฑ์ ๑ พระเทพโมฬีกัณฑ์ ๑ ทรงโปรยแล้วเสด็จออกพระที่นั่ง ทรงร่างสำเนาทรงสปิชตอบแล้ว เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม มองซิเออวิกอมแตเดอ ฟอโกละตะคอมมันดันฝรั่งเศสกับออฟฟิซเซอร์เรือรบฝรั่งเศสรวม ๙ นาย เข้ามาเฝ้ากราบถวายบังคมลากลับไปเมืองไซ่ง่อน แล้วพระราชทานตราช้างเผือกชั้นที่ ๓ ชื่อนิภาภรณ์ แก่คอมมันดัน กัปตันเรือรบ ช้างเผือกชั้นที่ ๔ ชื่อภูสนาภรณ์ เสด็จขึ้นเวลาย่ำค่ำ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งน้ำวงด้ายพระสงฆ์ราชาคณะ ๒๐ รูปสวดมนต์พิธีตรุษ แล้วพระนรินทร์อ่านบอกเมืองนครศรีธรรมราช ส่งต้นไม้เงินทองและอื่น ๆ กับหนังสือ ๔ ฉะบับ แล้วนำพระจรูญราชเดชและกรมการเมืองตะวันตกกราบถวายบังคมลากลับไปบ้านเมือง และอ่านบอกเมืองสงขลาเรื่องเดินนาและบอกส่งเงินเสนารวม ๓ ฉะบับ และบอกเมืองกาญจนดิษฐ์บอกส่งเงินภาษีผลประโยชน์
วันที่ ๔๕๑๓ วัน ๗ ๑๒ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เช้า ๒ โมงเศษ เสด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงศีลแล้ว พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงจุดเทียนไชย แล้วเลี้ยงพระเสร็จแล้ว ขุนนางเฝ้า พระยาศรีอ่านบอกพระยาจ่าแสนข้าหลวงสักเลขเมืองตากบอกส่งจำนวนเลขที่ได้สักไปแล้วฉะบับ ๑ อีกฉะบับ ๑ นำหนังสือพระยาแพร่มีมาด้วยเรื่องราชการทางพะม่า พระยานุภาพไตรภพถวายของหล่อต่างๆ เป็นของโบราณมาแต่เมืองเขมร พระยานครนายกทูลลากลับไปรักษาเมืองเวลาบ่าย คอมมันดันเรือรบฝรั่งเศสมาเฝ้า โปรดเกล้า ฯ พระราชทานตราภูสนาภรณ์ แก่มองซิเออเกเลชามบ์สเลฟเตนแนนต์ สตาฟออฟฟิซเซอร์
เวลาทุ่มเศษ เสด็จพระมหาปราสาท สวดมนต์จบแล้วขุนนางเฝ้า พระนรินทร์อ่านบอกพระยาพิไชยชาญฤทธิ์บอกจำนวนเลขเมืองสงขลา เมืองจนะที่ได้รับหนังสือพิมพ์ไปแล้ว บอกพระวิชิตภักดีศรีสุรสงคราม ปลัดผู้ว่าราชการเมืองตะกั่วป่า บอกมา ๓ ฉะบับ ๆ ๑ บอกส่งเงินจีนในเมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง เมืองคิรีรัฐนิคมจำนวนปีเถาะ เอกศก ฉะบับ ๑ ว่าได้ทราบตราพระคชสีห์ โปรดเกล้า ฯ ให้ว่าราชการเมือง มีความยินดีเป็นล้นเกล้า ฯ /*ฉะบับ ๑ ส่งบรรณาการ พระจรูญราชโภคากรเมืองหลังสวนบอกฉะบับ ๑ ว่าได้ผูกพัทธสีมา ขอถวายพระราชกุศล เสด็จขึ้นยามเศษ
วันที่ ๔๕๑๔ วัน ๑ ๑๓ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เช้าเลี้ยงพระที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไม่ได้เสด็จออก บ่ายกรมหมื่นพิชิตเฝ้า เรื่องจะทำปราสาทสุนันทาลัยโปรดให้หม่อมเจ้าต๋งเขียนตัวอย่าง แล้วเสด็จขึ้นเสวย ค่ำนายเสนอถวายกระเฌอเงินที่รับสั่งให้ทำ พวกลาวเมืองเพ็ชรบุรีถวายของ ๕ คน ลาวเหล่านี้เป็นเด็กชา
ย่ำค่ำเศษ เสด็จพระมหาปราสาทสวดมนต์ เสด็จขึ้นเวลา ๒ ทุ่มเศษ ก่อนสวดมนต์จบ
วันนี้เสด็จที่วัด กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ประชวร เสด็จมาไม่ได้ ส่งอาการเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวาย
วันที่ ๔๕๑๕ วัน ๒ ๑๔ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เช้า ๓ โมง ๔๕ มินิต เสด็จพระมหาปราสาท เกษากันต์หม่อมเจ้า ๔ องค์ แล้วเลี้ยงพระ ปีนี้โปรดเกล้า ฯ ให้พระโพธิวงศ์ประกาศเทวดา เสด็จขึ้นเช้า ๕ โมงเศษ
บ่ายพระยารัตนโกษา ถวายบาญแผนกหวย ทรงเซ็นให้หลวงสวามิภักดิ์ภูวนารถทำ
จวนย่ำค่ำเสด็จประทับสนามหญ้าทอดพระเนตรแห่พระ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นประธาน แล้วเสด็จขึ้นบนพระมหาปราสาท สวดมนต์จบแล้ว พระโพธิวงศ์ประกาศเทวดา แล้วสวดธรรมจักร มหาสมัยสูตรจบแล้ว วัดมหาธาตุสวดภาณยักษ์จบ ๑ วัดระฆังสวดภาณพระจบ ๒ วัดบวรนิเวศสวดภาณยักษ์จบ ๓ วัดสุทัศน์สวดภาณพระจบ ๔ เสด็จขึ้น ๕ ทุ่มเศษ
อนึ่งเมื่อเวลาบ่ายสมโภชหม่อมเจ้าที่เกษากันต์
วันนี้ได้ข่าวว่า ฮิส รอแยล ไฮเนส ดุกออฟเยนัว ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระมเหษีพระเจ้ากรงอิตาลี จะเข้ามากรุงเทพ ฯ โปรดให้ทูลกระหม่อมพระองค์น้อย จัดวังสราญรมย์
วันที่ ๔๕๑๖ วัน ๓ ๑๕ฯ ๔ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระมหาปราสาท ทรงประเคนแล้ว พราหมณ์ถวายน้ำสังข์ โหรถวายปฏิทินปีมะเส็ง เลี้ยงพระแล้วพระพิมลธรรมดับเทียนไชย แล้วพระราชทานน้ำสังข์ และทรงเจิมพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จขึ้นย่ำเที่ยง ที่พระมหาปราสาทเวียนเทียน แล้วพระสงฆ์ราชาคณะฝ่ายสมถะเข้าไปประน้ำพระพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง
เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จออกในออฟฟิศ ทรงเรื่องรับดุกออฟเยนัว โปรดให้พระนายไวยจัดทหารรับและอยู่ประจำ รับสั่งให้พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร พระยานรรัตน์ ลงไปรับที่ปากน้ำ รับสั่งให้พระองค์สายจัดเรือเวสาตรีลงไป พระองค์สายก็ไปด้วย เวลาค่ำทรงรับโทรเลข ได้ความว่าเรือรบอิตาลีมาถึงสันดอนแล้ว จะโปรดเกล้า ฯ ให้เรือเวสาตรีลงไปรับพรุ่งนี้เช้า