กาพย์ห่อโคลง พระราชนิพนธ์ รัชกาลปัจจุบัน
โคลง
๏ ปางเสด็จประเวศห้วง | ชลธี |
ทรงมหาจักรี | เกียรติก้อง |
พรั่งพร้อมยุทธนาวี | แหนแห่ |
เสียงอธึกทั่วท้อง | ถิ่นด้าวอ่าวสยาม ฯ |
กาพย์
๏ พระเสด็จโดยแดนชล | ทรงเรือต้นงามสดศรี |
มหาจักรีมี | เกียรติก้องท้องสาคร |
๏ นาวาวรายุทธ | อุตลุดแลสลอน |
แห่ห้อมจอมนคร | ราวจะรอนริปูเปลือง |
๏ ธงทิวปลิวระยับ | สีสลับขับแดงเหลือง |
อันธงพระทรงเมือง | เหลืองอร่ามดูงามตา |
๏ ธงตรามหาราช | ผ่องผุดผาดในเวหา |
รูปครุฑะราชา | อ้าปีกกว้างท่าทางบิน |
๏ ธงแดงดังแสงชาด | ลายช้างกาจก่องกายิน |
บอกตรงธงแผ่นดิน | ถิ่นสยามอันงามงอน |
๏ จักรีนารีราช | ทิพอาสน์องค์ภูธร |
สง่าราวอาภรณ์ | เพื่อประดับทัพเรือไทย |
๏ ใหญ่กว่านาวาสรรพ | ในกองทัพพหลไกร |
บรรดานาวาไทย | ในบัดนี้ไม่มีทัน |
๏ ปืนไฟใหญ่ประเภท | สี่นิ้วเศษสุดแขงขัน |
สามารถอาจเหียนหัน | ผันหน้าสู้สัตรูแรง |
๏ อีกศรหกปอนด์หนัก | ก็พร้อมพรักศักดิ์กำแหง |
เตรียมอยู่สู้ศึกแขง | แย้งยื้อยุทธ์สุดกำลัง |
๏ พาลีรั้งทวีป | รีบแล่นตามงามเงื่อนขลัง |
เรือปืนยืนยุทธ์ยัง | ดังกระบี่พาลีหาญ |
๏ เรือแรงกำแหงยุทธ | มกุฎราชะกุมาร |
คอยสู้ศัตรูพาล | ผู้ยื้อยุดมกุฎไทย |
๏ สุครีพครองเมืองศรี | สุรนาวีมุ่งชิงไชย |
เรือปืนยืนยุทธไกร | เหมือนพญาพานะเรนทร์ |
๏ สุริยมณฑลกล้า | นาวากาจลาดตระเวน |
หาญต่อบ่รอเกณฑ์ | สอึกสู้ริปูรอญ |
๏ เรือเสือทยานชล | พิฆาฏพลริปูสยอน |
กั่นกล้าในสาคร | บ่ย่อหย่อนยุทธนา |
๏ เรือเสือคำรนสินธุ์ | พิฆาฏภินอริผลา |
จู่โจมและโถมถา | กล้าประยุทธ์จนสุดแรง |
๏ อีกเรือตอร์ปิโด | วิ่งโร่รี่ฝีเท้าแขง |
ว่องไวไล่ย้อนแย้ง | ยักย้ายลอดดอดเอาไชย |
๏ กระบวนล้วนแล่นล่อง | ไปแทบท้องชลาไลย |
อธึกดูคึกใจ | จิตจักสู้ศัตรูพาล ฯ |
โคลง
๏ ล่องลอยในน่านน้ำ | เจ้าพญา |
จากเทพนครคลา | คลาดเต้า |
ชมวังสพรั่งปรา | สาทรัตน์ |
ชมนครเขตรเค้า | เงื่อนแม้นเมืองราม ฯ |
กาพย์
๏ ล่องลอยในน่านน้ำ | วิเศษลำเจ้าพญา |
จากกรุงเทพมหา | นครราชะธานี |
๏ ค่อยเลื่อนเคลื่อนนาวา | จากน่าท่าวาสุกรี |
ใช้จักร์ล่องนที | นาวีเรื่อยเฉื่อยตามลม |
๏ เหลือบแลชะแง้พิศ | ดูดุสิตวนารมย์ |
เคยเที่ยวลดเลี้ยวชม | ดมบุบผาสารพรรณ |
๏ ชมวังดังวิมาน | ถิ่นสถานมัฆวัน |
เพลินพิศไพจิตรสรร | พะงามเนตรวิเศษชม |
๏ สล้างปรางมหันต์ | อนันตสมาคม |
อัมพรสถานสม | เปนสถานพิมานอินทร์ |
๏ สถานวิมานเมฆ | เอกอาสน์โอ่ท้าวโกสินทร์ |
อภิเศกดุสิตภิญ | โญยศยงองค์ภูบาล |
๏ ตำหนักสำนักตา | จิตรลดาระโหฐาน |
ที่พระอวตาร | สำราญรมย์ภิรมยา |
๏ สะพรั่งวังอนุช | ผู้ทรงสุดเสนหา |
ปารุสก์สุดเพลินตา | สวนกุหลาบปลาบปลื้มใจ |
๏ ตำหนักพระชนนี | มีนามว่าพญาไทย |
อยู่ทางบ่ห่างไกล | ใกล้ดุสิตวนาภา |
๏ นาวาผ่านนิเวศน์ | พระทรงเดชจอมประชา |
พินิจพิศเพลินตา | ตระการตรูดูเลิศดี |
๏ สล้างปรางค์ปราสาท | ประกอบมาศมณีศรี |
ระยับจับระพี | สีสว่างกลางอัมพร |
๏ ปราสาทราชะฐาน | อวตารสโมสร |
ยงยอดสอดสลอน | ยอนยั่วฟ้าน่านิยม |
๏ จักรีพระที่นั่ง | สามยอดตั้งตรูตาชม |
สำราญสถานสม | สถิตย์ถิ่นปิ่นนรา |
๏ ดุสิตปราสาทตั้ง | พระมนงงคะศิลา |
พิมานรัถยา | อุดมอาสน์ราชะฐาน |
๏ มณเฑียรเสถียรศักดิ์ | จักรพรรดิพิมาน |
เคียงใกล้คือไพศาล | ทักษิณที่สุขาลัย |
๏ ฝ่ายน่าสง่าสิ้น | อมรินทร์วินิจฉัย |
พระโรงภูวนัย | ธประศาสน์ราชะการ |
๏ อารามวัดพระศรี | รัตนศาสดาคาร |
มงคลมหาสถาน | ปูชนีย์ที่นิยม |
๏ อันกรุงรุ่งเรืองกิตติ์ | ที่สถิตย์พิโรดม |
เลิศล้วนชวนจิตชม | สมเกียรติ์เลื่องเมืองสยาม |
๏ ถนนสถลมารค | อีกคลองหลากล้วนแลงาม |
รุ่งเรืองดังเมืองราม | จักรพรรดิฉัตรสากล ฯ |
โคลง
๏ แล่นเรือมาแช่มช้า | ตามกระแส |
แลเหลือบเหลียวหลังแล | ไฝ่บ้าน |
ใจโยนประหนึ่งแพ | โดนคลื่น |
ลมเฉื่อยระเรื่อยสร้าน | จิตเศร้าหาศรี ฯ |
กาพย์
๏ เรื่อยเรื่อยเรือลอยลำ | ตามสายน้ำถูกกระแส |
แลเหลือบเหลียวหลังแล | ไฝ่ถึงบ้านสร้านโศกใจ |
๏ เรือนแพแลสพรั่ง | คลื่นโดนฝั่งก็กวัดไกว |
แพโยนโยนเหมือนใจ | เรียมผู้ไฝ่ถึงเคหา |
๏ ผ่านหน้าวัดอรุณ | เคยทำบุญญะบูชา |
ขอบุญการุญพา | ให้ข้าสมอารมณ์หวัง |
๏ ขออย่าให้ข้าศึก | ผู้พิลึกกาจกำลัง |
สามารถอาจภินพัง | พระปรางค์ศรีธานีไทย |
๏ ผ่านทางบางคอแหลม | ชื่อบางแนมเหน็บดวงใจ |
แหลมหลักจักหาไหน | เหมือนแหลมคำเจ้าร่ำวอน |
๏ ปากลัดตัดวิถี | ทางนทีสู่สาคร |
วานลัดตัดทางจร | ดลสู่เจ้าตัดเศร้าใจ |
๏ ยามมองช่องนนทรีย์ | เห็นธานีอยู่ไกล ๆ |
หลังคาเคหาใน | นครยวนชวนจิตผัน |
๏ เห็นเสาวิทยุเด่น | เปนของเลิศประเสริฐครัน |
ถนัดอัศจรรย์ | พูดกันได้ไม่มีสาย |
๏ ดูราวกับสองจิต | มิตร์ต่อมิตร์คิดเหมือนหมาย |
เหมือนตารักตาชาย | ตาเห็นรักประจักษ์ใจ |
๏ ผ่านป้อมเสือซ่อนเล็บ | นึกน่าเจ็บดวงหทัย |
โบราณท่านตั้งไว้ | ให้เล็งเหมาะจำเภาะดี |
๏ ยิงเป้งเผงกลางน้ำ | ไม่ผิดลำถูกนาวี |
อนิจจามาบัดนี้ | ป้อมปรักแลหักพัง |
๏ ผีเสื้อสมุทป้อม | หนึ่งนั้นย่อมดูแขงขลัง |
ยิงปืนครั่นครืนดัง | คำนับองค์พระทรงศร |
๏ สมุททะเจดีย์ | บูชะนีย์ประนมกร |
เอี่ยมโอ่สโมสร | กลางวิมลชลธาร |
๏ นาวามายั้งหยุด | ยังสมุททะปราการ |
ดูเมืองรุ่งเรืองร้าน | ตลาดของที่ต้องใจ |
๏ เรือรอพอเวลา | น้ำขึ้นมามากพอไป |
ก็เลื่อนเคลื่อนคลาไคล | ไปสู่ท้องทเลลม |
๏ ลมเฉื่อยเรื่อย ๆ พา | กลิ่นบุบผามารวยรมย์ |
รื่นรวยราวมวยผม | ที่เคยดมชมชื่นใจ |
๏ ลมพัดไม่จัดจ้าน | พอประมาณไม่แรงไป |
เหมือนยามเจ้าทรามไวย | พัดรำเพยเชยฤดี |
๏ อากาศสอาดโปร่ง | สบายโล่งกลางวารี |
แต่จิตคิดถึงศรี | จิตจึ่งเหงาเศร้าอาดูร ฯ |
โคลง
๏ ฝูงปลาดาดาษท้อง | ทเลหลวง |
ดูชาติมัตสยาปวง | คู่เคล้า |
ยิ่งดูยิ่งโทรมทรวง | แสนโศก |
โอ้คะนึงถึงเจ้า | จิตว้าเหว่ถวิล |
กาพย์
๏ ฝูงปลาดูดาดาษ | ว่ายเกลื่อนกลาดทเลหลวง |
ดูชาติมัตสยาปวง | เคียงคู่เคล้าเย้ายวนเชย |
๏ ยิ่งแลชะแง้พิศ | ยิ่งเศร้าจิตนิจจาเอ๋ย |
ราวปลามาแสร้งเย้ย | ให้เรียมเศร้าเหงาวิญญา |
๏ ปลาทูชื่อดูชวน | หวลคำนึงถึงเคหา |
คำนึงถึงแก้วตา | พธูน้อยผู้กลอยใจ |
๏ กุเราเย้ายวนจิต | คิดถึงมิตร์ชิดหทัย |
เราอยู่คู่พิสมัย | เราทั้งสองครองคู่กัน |
๏ เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ | ฤๅเปรียบเนื้อนางสวรรค์ |
นวลจันทร์ชื่อนวลจันทร์ | ไม่นวลเท่าเจ้านวลแข |
๏ กะพงเปรียบพงชัฏ | อันแออัดในดวงแด |
ห่างเจ้าเฝ้าท้อแท้ | เหมือนบุงพงดงหน่ายหนาม |
๏ โลมามาว่ายล่อ | พอเห็นได้ใต้น้ำงาม |
วานมาหานงราม | ทรามสงวนชวนนางมา |
๏ ตาเดียวลดเลี้ยวลี้ | ก็ยังดีกว่าพี่ยา |
เริศร้างห่างแก้วตา | สองตาแลแพ้ตาเดียว |
๏ ฉลาดตะกลามเหลือ | ว่ายตามเรือรวดเร็วเจียว |
ดูคล้ายชายช่างเกี้ยว | เที่ยวคอยมองหาช่องเชย |
๏ ฉลามอันหยามหยาบ | เสียทีราบละเจ้าเอ๋ย |
น้องเราเจ้าคงเฉย | มิให้ชู้ชิงคู่ครอง |
๏ นางนวลนกทะเล | บินร่อนเร่เหหันมอง |
นางนวลเปรียบนวลน้อง | นกฤๅเท่าเจ้านวลใย |
๏ ดูนกแสนฉลาด | เหมือนอากาศะยานไคล |
ร่อนเร่เหหันไป | เที่ยวตรวจดูหมู่อรี |
๏ เปรียบปลาเหมือนเรือดำ | เดินใต้น้ำสาครศรี |
แล่นลอดดอดมาตี | เรือลำใหญ่ได้บางครา |
๏ นางนวลบินลอยล่อง | มองถนัดมัตสยา |
ไวเจียวเฉี่ยวโฉบปลา | ไปกินเล่นเปนอาหาร |
๏ ดูนกฉกโฉบปลา | ก็เหมือนอากาศะยาน |
สามารถอาจสังหาร | เรือใต้น้ำระยำไป |
๏ อ้านกวิหคหาญ | เราขอวานบ้างเปนไร |
ช่วยถือหนังสือไป | ถึงเรือนเจ้าเยาวพา |
๏ พิราบเขาเลี้ยงไว้ | เขาก็ใช้ถือสารา |
นางนวลชวนเชิญมา | เปนทูตาถึงนวลเชย |
๏ กระไรช่างใจดำ | ไม่ฟังคำเราบ้างเลย |
แดดจ้านิจจาเอ๋ย | เหมือนเพลิงรุมสุมอกกรม |
๏ คำนึงถึงเจ้าพี่ | ราวไฟจี้จ่ออารมณ์ |
เริศร้างห่างเหินชม | ว้าเหว่จิตคิดถวิล ฯ |
โคลง
๏ สีชังชังชื่อแล้ว | อย่าชัง |
อย่าโกรธพี่จริงจัง | จิตข้อง |
ตัวไกลจิตก็ยัง | เนาแนบ |
เสน่ห์สนิทน้อง | นิจโอ้อาดูร ฯ |
กาพย์
๏ สีชังชังแต่ชื่อ | เกาะนั้นฤๅจะชังใคร |
ขอแต่แม่ดวงใจ | อย่าชังชิงพี่จริงจัง |
๏ ตัวไกลใจพี่อยู่ | เปนคู่น้องครองยืนยัง |
ห่างเจ้าเฝ้าแลหลัง | ตั้งใจติดมิตร์สมาน |
๏ บางพระนึกถึงพระ | บูชะนีย์ที่สักการ |
แต่งตั้งยังสถาน | แทบหัวนอนขอพรครอง |
๏ ผ่านทางบางปลาสร้อย | จิตละห้อยละเหี่ยหมอง |
นึกสร้อยสายเพชร์ทอง | คล้องศอเจ้าเย้ากะมล |
๏ บางนี้บุรีงาม | อันออกนามว่าเมืองชล |
แลท้องทเลวน | ชลนัยน์ไหลลงธาร |
๏ อ่างหินนึกอ่างหิน | ที่ยุพินเคยสนาน |
โอ้ว่ายุพาพาล | จะอ้างว้างริมอ่างหิน |
๏ เรือผ่านเกาะกระดาษ | แม้สามารถจะพังภิน |
จะเขียนสาราจิน | ตนาส่งถึงนงเยาว์ |
๏ ถึงอ่าวพุดซาวัน | ริกริกสั่นสิอกเรา |
คิดถึงพุดซาเจ้า | เคยเก็บไว้ให้พี่ยา |
๏ คลุกพริกกับเกลือดี | ไว้ให้พี่จิ้มพุดซา |
เสร็จงานกลับบ้านมา | พอได้ลิ้มชิมชอบใจ |
๏ ครั้นถึงทุ่งไก่เตี้ย | ยิ่งละเหี่ยละห้อยใจ |
นึกยามเจ้าทรายไวย | ปรุงแกงไก่ให้พี่กิน |
๏ เดินผ่านร้านดอกไม้ | ก็ยิ่งไฝ่ใจถวิล |
เคยชวนโฉมยุพิน | ชมดอกไม้ที่ในสวน |
๏ เกาะยอเหมือนยอเจ้า | ยุพเยาว์อนงค์นวล |
แสร้งยอบ่มิควร | เพราะนิ่มเนื้อเหลือเลิศชม |
๏ เข้าถึงสัตะหีบ | รีบหลบลี้หนีคลื่นลม |
นึกยามเจ้าทรามชม | จัดผ้าจีบลงหีบน้อย |
๏ ขบวนเรือประพาศ | ดูดาดาษกลาดเกลื่อนลอย |
ขึงขังดังหนึ่งคอย | จะต่อสู้ศัตรูผลา |
๏ จอดห้อมล้อมเปนวง | รอบเรือองค์พระราชา |
ดูเหมือนเดือนสง่า | อยู่ท่ามกลางหว่างหมู่ดาว |
๏ ดูพลางทางรำพึง | นิ่งคำนึงถึงเนื้อขาว |
นึกนึกรู้สึกราว | ไปงานศึกพิลึกใจ |
๏ แม้มีศึกสงคราม | ถึงสยามในวันใด |
จำพรากจากทรามไวย | ไปต่อสู้ศัตรูพาล |
๏ เกิดมาเปนชาวไทย | ต้องทำใจเปนทหาร |
รักเจ้าเยาวมาลย์ | ก็จำหักรักรีบไป |
๏ จะยอมให้ไพรี | เหยียบย่ำยีแผ่นดินไทย |
เช่นนั้นสิจัญไร | ไม่รักชาติศาสนา |
๏ เพราะรักประจักษ์จริง | จึ่งต้องทิ้งเจ้าแก้วตา |
จงรักภักดีมา | อาสาต้านราญริปู ฯ |
โคลง
๏ รอนรอนอ่อนอกโอ้ | อัษฎงคต์ |
สุริยพระมืดลง | หมดแล้ว |
ยามมืดชืดเย็นองค์ | วายุพัด |
ยิ่งตรึกนึกถึงแก้ว | พี่เศร้าทรวงศัลย์ ฯ |
กาพย์
๏ รอนรอนอ่อนอัษฎงคต์ | ตวันลงลับเหลี่ยมผา |
มืดมลสนธยา | พามืดมัวทั่วดวงใจ |
๏ ชะแง้แลเทือกเขา | เปนเงาเงาอยู่รำไร |
รำพึงคะนึงไป | ชวนให้นึกถึงตึกราม |
๏ ตึกแถวเปนแนวข้าง | ถนนทางนครงาม |
สว่างกระจ่างวาม | ด้วยไฟฟ้าอ่าเอี่ยมแสง |
๏ อีกตามถนนหลวง | ไฟฟ้าดวงรุ่งเรืองแรง |
สว่างกระจ่างแจ้ง | แสงสว่างราวกลางวัน |
๏ ยามเย็นเคยเห็นคน | ขึ้นรถยนตร์ขับอวดกัน |
นารีที่คมสัน | ต่างขันแขงแต่งยวนชาย |
๏ ผ้าม่วงสีช่วงโชติ | เหลืองแดงโรจนสีหลากหลาย |
เสื้อแพรแลดอกลาย | ผ้าแพรห่มล้วนสมสรวย |
๏ หน้านวลนวลแต่น้อย | แช่มช้อยสมกับผมมวย |
อาภรณ์ซ้อนแซมด้วย | แวววับวับพอจับตา |
๏ ดูใครไม่ชื่นจิต | เท่ามิ่งมิตร์วนิดา |
ดูพลางทางจับตา | ชายตารักชักตาชม |
๏ ตาดำขำแก้วพี่ | พอสมดีกับสีผม |
ฟันขาวดูราวชม | แก้วมุกดาน่ายินดี |
๏ หนังสือฤๅเจ้ารู้ | พอควรอยู่แก่สัตรี |
ประเสริฐเลิศนารี | เจ้าไม่ทิ้งสิ่งที่ควร |
๏ กิจการในบ้านช่อง | เจ้าช่ำชองสิ้นทั้งมวล |
ทุกสิ่งยอดหญิงล้วน | จะขยันหมั่นการงาน |
๏ ไม่เหมือนหญิงบางคน | สาละวนไม่เข้าการ |
มัวมุ่งยุ่งแต่งสาร | จนลืมงานการบ้านเรือน |
๏ สำแดงแต่วิชา | หนังสือบ้าจนแชเชือน |
ยุ่งนักชักฟั่นเฟือน | ฟุ้งสร้านไปจนไร้ผัว |
๏ น้องพี่สิฉลาด | แสนสามารถในการครัว |
ช่างชวนและยวนยั่ว | ให้พี่ชิมลิ้มอาหาร ฯ |
โคลง
๏ เข้าต้มอมรสเปรี้ยว | เค็มปน |
เนื้อนกนุ่มระคน | ผักเคล้า |
ร้อนร้อนตักหลายหน | ห่อนเบื่อ |
รสหลาก ๆ รสเร้า | เร่งให้ใฝ่กิน ฯ |
กาพย์
๏ เข้าต้มอมรสเปรี้ยว | ดีจริงเจียวเปรี้ยวเค็มปน |
เนื้อนกนุ่มระคน | ปนผักเคล้ารสเข้าที |
๏ เข้าต้มเนื้อโคกลั้ว | ปนถั่วเขียวกลมเกลียวดี |
มันเทศวิเศษมี | รสโอชาแสนน่ากิน |
๏ สาคูเม็ดใหญ่กลม | แทนเข้าต้มสมถวิล |
รสยวนชวนให้กิน | สิ้นทั้งหมดรสเหลือแหลม |
๏ ขนมจีบเจ้าช่างทำ | ทั้งน้ำพริกมะมาดแกม |
มะเฟืองเปนเครื่องแกล้ม | รสเหน็บแนมแช่มชูกัน |
๏ ขนมเบื้องญวนใหม่ | ประกอบไส้วิเศษสรร |
ทอดกรอบชอบกินมัน | เคี้ยวกรอบ ๆ ชวนชอบใจ |
๏ หมูแนมแกมเครื่องเรี่ยม | หอมกระเทียมผักชีใหม่ |
พริกแดงแซงสอดไว้ | ใบทองหลางวางชิ้นหมู |
๏ เมื่ยงคำน้ำลายสอ | เมี่ยงสมอเมี่ยงปลาทู |
เข้าคลุก ๆ ไก่หมู | น้ำพริกกลั้วทั่วโอชา |
๏ เข้าตังกรอบถนัด | น้ำพริกผัดละเลงทา |
เข้าตังปิ้งใหม่มา | จิ้มน่าตั้งทั้งเค็มมัน |
๏ อีกทั้งขนมเบื้อง | เครื่องช่างเคล้าเข้าเหมาะกัน |
ละเลงเก่งเหลือสรร | ชูโอชาไม่ลาลด |
๏ แกงไก่ใส่เครื่องถม | คลุกขนมจีนแป้งสด |
เข้ามันมันแกมรส | ส้มตำเปรี้ยวชวนเคี้ยวกิน |
๏ ลูกไม้ใส่โถแก้ว | ล้วนเลิศแล้วสมใจจินต์ |
สารพัดจัดให้กิน | เสมอได้ไม่ขัดขวาง |
๏ ทั้งหมดรสอาหาร | เปรี้ยวเค็มหวานไม่จืดจาง |
รสเหมาะเพราะมือนาง | แก้วพี่เคล้าเย้ายวนใจ ฯ |
โคลง
๏ เงียบเหงาเปล่าอกโอ้ | อกครวญ |
หยิบสมุดชุดชวน | อ่านบ้าง |
นอนอ่านอ่านยิ่งหวล | ใจโศก |
น้องพี่เคยเคียงข้าง | ช่วยชี้ชวนหัว ฯ |
กาพย์
๏ เงียบเหงาเปล่าอกหมอง | คิดถึงน้องหมองวิญญา |
จึ่งหยิบหนังสือมา | แก้รำคาญอ่านเรื่อยไป |
๏ อ่าน ๆ รำคาญฮือ | แบบหนังสือสมัยใหม่ |
อย่างเราไม่เข้าใจ | ภาษาไทยเขาไม่เขียน |
๏ ภาษาสมัยใหม่ | ของถูกใจพวกนักเรียน |
อ่านนักชักวิงเวียน | เขาช่างเพียรเสียจริงจัง |
๏ แบบเก๋เขวภาษา | สมมตว่าแบบฝรั่ง |
อ่านเบื่อเหลือกำลัง | ฟังไม่ได้คลื่นไส้เหลือ |
๏ อ่านไปไม่ได้เรื่อง | ชักชวนเคืองเครื่องให้เบื่อ |
แต่งกันแสนฝั้นเฝือ | อย่างภาษาบ้าน้ำลาย |
๏ โอ้ว่าภาษาไทย | ช่างกระไรจวนฉิบหาย |
คนไทยไพล่กลับกลาย | เปนโซ็ดบ้าน่าบัดสี |
๏ หนังสือฤๅหวังอ่าน | แก้รำคาญได้สักที |
ยิ่งอ่านดาลฤดี | เลยต้องขว้างกลางสาคร |
๏ ลองหามาอ่านใหม่ | พะเอินได้เปนบทกลอน |
สมมตบทลคร | ขึ้นชื่อเสียงเฉวียงไว |
๏ พุทโธ่โอ้ใจหาย | เราเคราะห์ร้ายนี่กระไร |
จบหมดบทกลอนไทย | ไม่เปนส่ำระยำมัง |
๏ ทั้งมวลล้วนเหลวแหลก | ทุกแพนกอนิจจัง |
เรื่องเปื่อยเลื้อยรุงรัง | ทั้งถ้อยคำซ้ำหยาบคาย |
๏ กลับหันหาเรื่องดี | ที่เอาไว้ใกล้ ๆ กาย |
อ่านให้ใจสบาย | หายง่วงเหงาเศร้ากระมล ฯ |
โคลง
๏ แถลงปางนางแน่งน้อย | สีดา |
ถูกยักษ์อัประลักษณ์พา | ห่างห้อง |
พระรามพระโกรธา | ยักษ์โหด |
พระจึ่งยกพลก้อง | กึกเข้าไปรอญ ฯ |
กาพย์
๏ กล่าวปางนางสีดา | ถูกพญาทศศีรษ์ |
ลักพาไปธานี | จึ่งเกิดศึกพิลึกหาญ |
๏ เหตุสุรปนขา | บ้ากามาแสนสามาญ |
มุ่งพระอวตาร | ให้เปนผัวเพื่อตัวครอง |
๏ เสแสร้งจำแลงกาย | ให้เฉิดฉายนวลลออง |
ไปเกี้ยวเลี้ยวลดลอง | พรากพธูผู้เคียงกัน |
๏ พระองค์ผู้ทรงศักดิ์ | ไม่จงรักด้วยกับมัน |
หญิงชั่วมั่วโมหัน | มันจะพาเสียราศี |
๏ นางยักษ์เข้าหักหาญ | ราญสีดายอดนารี |
น้องรักพระจักรี | จึ่งบำราบปราบนางมาร |
๏ พระตัดจมูกมัน | อีกทั้งฟันหูแหลกลาญ |
ทาสาแสนสามาญ | ก็รีบรี่หลีกหนีไป |
๏ ไปชวนทั้งทูษณ์ขร | มาราญรอนภูวนัย |
ยักษาปราชัย | ไม่ทนพระบารมี |
๏ เดือดดาลนางมารบ้า | วิ่งไปหาทศศีรษ์ |
กลอกกลับแสนอัปรี | สาระแนยุแหย่ไป |
๏ ท้าวยักษ์ได้ฟังความ | เหมือนไฟกามจ่อจี้ใจ |
ให้คิดพิสมัย | ไฝ่อนงค์องค์สีดา |
๏ ใช้มารีจจำแลง | แปลงเปนกวางร่างโสภา |
พอพบประสบตา | สีดาเจ้าเฝ้าถวิล |
๏ ทูลวอนชอ้อนง้อ | ต่อสมเด็จพระจักริน |
จนองค์พงษ์นรินทร์ | พระเกรงน้องจะหมองหมาง |
๏ จับศรสุรพล | เสด็จด้นไปตามกวาง |
ให้ลักษมณ์พักอยู่พลาง | เปนผู้เฝ้าเจ้าสีดา |
๏ มารีจครั้นถูกศร | ทำเสียงอ่อนด้วยมารยา |
เรียกลักษมณ์อนุชา | มาช่วยพี่ที่ในพง |
๏ ยุพินยินเสียงมัน | ให้สำคัญเคลือบแคลงหลง |
ใช้ลักษมณ์รีบสู่ดง | ช่วงองค์พระอวตาร |
๏ ครานั้นทศศีรษ์ | จึ่งได้ทีเหมือนใจพาล |
เข้ามาหานงคราญ | จำแลงร่างอย่างโยคี |
๏ กล่าวคำร่ำเกลี้ยกล่อม | นางไม่ยอมฟังวาที |
พูดไปไม่ไยดี | พิษเพลิงกามยิ่งลามลน |
๏ ยิ่งขัดยิ่งกลัดกลุ้ม | เข้าโอบอุ้มนฤมล |
พาล่องฟองเวหน | สู่ลงกาธานีมาร |
๏ พระรามกลับศาลา | ไม่เห็นหน้ายอดสงสาร |
องค์พระอวตาร | ก็แสนโศกวิโยคนาง |
๏ ชวนพระอนุชา | รีบลีลาในเถื่อนทาง |
เดินพลางแลครวญพลาง | จนประสบพบพานร |
๏ ช่วยลูกพระอาทิตย์ | รณชิตชิงนคร |
กำแหงพระแผลงศร | ต้องพาลีชีวีลาน |
๏ สุครีพจึ่งจัดพล | พร้อมพหลพลทวยหาญ |
เพื่อพระอวตาร | ผลาญขุนราพณ์ปราบลงกา |
๏ เกิดศึกพิลึกเดช | ก็เพราะเหตุด้วยสีดา |
ชิงรักชักชวนพา | ให้ประยุทธ์สุดเริงรณ |
๏ ยุทธ์แย้งแย่งสีดา | ยังอุส่าห์ยอมเสียชนม์ |
แย่งดินถิ่นถกล | ฤๅจะห่วงหวงชีวัน ฯ |
โคลง
๏ นึกถึงพระร่วงเจ้า | จอมไทย |
แค้นพวกขอมจัญไร | โหดห้าว |
ทนงคิดจงใจ | กู้ชาติ |
กระเดื่องเดชะท้าว | ร่วงผู้ผดุงเสียม ฯ |
กาพย์
๏ นึกถึงพระร่วงเจ้า | ผู้ผ่านเผ่าประชาไทย |
ดำรงทรงราชัย | ในละโว้โอ่เอี่ยมงาม |
๏ คั่งแค้นขอมอัปรี | มันกดขี่ชาวสยาม |
จะคิดทำสงคราม | ฤๅก็อ่อนหย่อนแรงพล |
๏ พระจึ่งคิดอุบาย | และยักย้ายด้วยเล่ห์กล |
เอาเปรียบทุรชน | ด้วยว่องไวใช้ปรีชา |
๏ จักไม้สานชลอม | รูปกลมกล่อมเอาชันยา |
จึ่งตักเอาน้ำมา | สำเร็จได้ดังใจจินต์ |
๏ ความรู้ถึงภูธร | นครขอมจอมนรินทร์ |
จึ่งใช้ให้โยธิน | กรีธาทัพมาจับตัว |
๏ พระร่วงแสร้งหลบไป | เดโชไชยคิดว่ากลัว |
โมหันอันมืดมัว | ไม่เข้าใจในอุบาย |
๏ เชื่อฤทธิ์อิทธิ์กำแหง | จึ่งปลอมแปลงจำแลงกาย |
จำนงจงใจหมาย | ไปสังหารผลาญเจ้าไทย |
๏ ด่วนไปให้ลี้ลับ | ดูราวกับดำดินไป |
ถึงกรุงสุโขทัย | เข้าสถานลานอาราม |
๏ พบพระรูปหนึ่งไซร้ | ขอมจัญไรไม่รู้ความ |
จึ่งไหว้และไต่ถาม | ถึงร่วงเจ้าเธออยู่ไหน |
๏ พระร่วงภิกษุรู้ | ว่าศัตรูไม่รู้นัย |
จึ่งตอบประวิงไป | ว่าจงรอพอเธอมา |
๏ แล้วรีบเรียกโยมวัด | มาจับมัดขอมพาลา |
เดโชโง่หนักหนา | ก็แพ้พระบารมี |
๏ ชาวเมืองก็เลื่องฦๅ | เสียงเฮฮือทั้งธานี |
ไพร่ฟ้าประชาชี | ไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ |
๏ ชีบาเสนามาตย์ | อภิวาทน์บังคมคัล |
เชิญทรงดำรงขัณฑ์ | สุโขทัยอันไพศาล |
๏ พระร่วงรับคำเชิญ | ดำเนินสู่ราชฐาน |
จึ่งทำภิเศกการ | ขึ้นผ่านเผ้าเปนเจ้าไทย |
๏ ต่อมาราชาคิด | รณชิตขอมจัญไร |
กู้แคว้นแดนกรุงไทย | ให้พ้นเอื้อมเงื้อมมือขอม |
๏ ทุกแคว้นแดนนิคม | ก็นิยมระยอบยอม |
ทั้งหมดประณตน้อม | นอบพระร่วงปวงพำนัก |
๏ นึกถึงพระร่วงฤท | ธิมหิทธิ์วิสิฐศักดิ์ |
นามเพราะดูเหมาะนัก | เปนนามาแห่งนาวี |
๏ พระร่วงเรือรบหมาย | ไว้ถวายพระภูมี |
ชื่อดีขอโชคดี | จงประสบเรือรบไทย |
๏ ยามใดใช้แย่งยุทธ์ | ฤทธิรุทจงเกรียงไกร |
เหมือนร่วงขุนหลวงไทย | บำราบศึกพิลึกหาญ ฯ |
โคลง
๏ โครมโครมคะครึกครื้น | ครืนคราน |
ปืนใหญ่ยิงประหาร | ศึกซ้อม |
ซ้อมรบเพื่อชำนาญ | เชิงประชิต |
ยามอริมาห้อม | จักสู้เศิกขลัง ฯ |
กาพย์
๏ โครม ๆ เสียงครื้นครึก | เมื่อยากดึกครืนครานดัง |
ปืนตึงปึงโป้งปัง | ดังสนั่นลั่นสาคร |
๏ เรือตอร์ปิโดไว | เล็ดลอดไปไม่สยอน |
วิ่งจี๋รี่ไปรอน | ราญเรือปืนเสียงครืนคราน |
๏ เรือปืนต่างจอดซุ่ม | เห็นตะคุ่มในท้องธาร |
รอไว้พอได้การ | จึ่งต้านต่อตอร์ปิโด |
๏ เรือตอร์ปิโดวิ่ง | รวดเร็วจริงวิ่งอะโข |
เรือปืน ๆ โต ๆ | ยิงปืนใหญ่มิใคร่ทัน |
๏ อาไศรยความมืดมล | จึ่งประจญได้แขงขัน |
สว่างในกลางวัน | ฤๅจะกล้าเข้าราวี |
๏ เรือเล็กเหมือนเด็กน้อย | ได้แต่คอยดูท่วงที |
ต้องรอพอเหมาะดี | ผู้ใหญ่เผลอเหม่อจึ่งทำ |
๏ จะเข้าไปตรง ๆ | คงต้องปืนครืนกระหน่ำ |
ให้ดีมีหลายลำ | จำต้องมีพี่เลี้ยงไป |
๏ นาวีฝีเท้ารวด | จึ่งจะกวดไปทันได้ |
บัดนี้นาวีไทย | หาลำไหนไม่พอการ |
๏ แต่ดูการซ้อมศึก | ยังต้องนึกร้อนรำคาญ |
ชาวไทยถึงใจหาญ | ไม่มีเรือเหลือสู้เขา |
๏ คนไทยอย่างไรท่าน | ไม่รำคาญหรือไทยเรา |
ไฉนทำใจเบา | จะไม่ช่วยกันด้วยฤๅ ฯ |
โคลง
๏ ขอชวนกันช่วยเร้า | ระดม |
เร่งเพาะความนิยม | อย่าช้า |
นาวีสมาคม | ชวนชัก |
ชวนพวกไทยทั่วหน้า | ปักรั้วกันสยาม ฯ |
กาพย์
๏ ขอชวนกันช่วยเร้า | พวกไทยเรารีบระดม |
เร่งเพาะความนิยม | อย่าชักช้าจะล่าไป |
๏ นาวีสมาคม | แนะนิยมแห่งชาวไทย |
ชวนกันพลันพร้อมใจ | ล้อมรั้วกั้นกันสยาม |
๏ บนบกมีทหาร | คอยเริงราญรุกสงคราม |
เสือป่าสง่างาม | คอยช่วยรบบรรจบพล |
๏ ยังว่างแต่ทางเรือ | เพื่อป้องกันขันผจญ |
ทางที่วิถีชล | ไร้กำลังตั้งรักษา |
๏ จะทิ้งนิ่งเฉยอยู่ | เหมือนประตูเปิดไว้ร่า |
ศัตรูจู่โจมมา | ฤๅจะสู้ศัตรูไหว |
๏ อย่าเหม่อเผอเรอเพลิน | เราขอเชิญช่วยร้อนใจ |
ทำเผินเนิ่นนานไป | จะลำบากยากใจเรา |
๏ ศัตรูเข้าสู่ได้ | จะเอาไฟเที่ยวจุดเผา |
เรือนชานลานเปนเฒ่า | ทรัพย์สมบัติพลัดกระจาย |
๏ ลูกเมียจะเสียหมด | ทุรยศเยินฉิบหาย |
เราอยู่ดูน่าอาย | ตายดีกว่าอย่าเสียศรี |
๏ ตื่นเถิดเราเกิดมา | เปนไทยอย่าให้เสียที |
ช่วยหานาวามี | กำลังขันไว้กันเมือง ฯ |