- คำนำ อธิบดีกรมศิลปากร
- นิทานเรื่องพระศรีเมือง
- นิทานเรื่องพระศรีเมืองต่อจากบทละคอน
- ตอนที่ ๑ พระศรีเมืองเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ หงส์อาสาหาคู่ให้พระศรีเมือง
- ตอนที่ ๓ พระศรีเมืองเข้าเมืองยโสธร
- ตอนที่ ๔ พระศรีเมืองได้นางสุวรรณเกสร
- ตอนที่ ๕ ท้าวพินทุทัตให้ธิดาเสี่ยงคู่
- ตอนที่ ๖ อภิเษกพระศรีเมือง
- ตอนที่ ๗ ท้าวโขมพัสตร์ให้ไปรับพระศรีเมือง
- ตอนที่ ๘ พระศรีเมืองชมสวน
- ตอนที่ ๙ พระศรีเมืองทูลลาท้าวพินทุทัต
- ตอนที่ ๑๐ พระศรีเมืองรบกับพระยาจันทร
ตอนที่ ๙ พระศรีเมืองทูลลาท้าวพินทุทัต
ช้า
๏ พระเสด็จเหนืออาสน์รจนา | จึงมีวาจาปราศรัย |
ด้วยองค์อัคเรศทรามวัย | ดวงใจของพี่คือแก้วตา |
อันสองอนุชาสุริย์วงศ์ | ยกพลจัตุรงค์ซ้ายขวา |
มาบรรลุถึงพระพารา | ก็ช้านานได้หลายราตรี |
องค์พระบิตุเรศมารดร | จะคอยหาอาวรณ์หมองศรี |
จำจะรีบร้นมนตรี | ไปตามดังมีบัญชามา |
ครั้นจะอยู่เนิ่นนานนัก | พระทรงศักดิ์จะโศกซ้ำกันแสงหา |
พรุ่งนี้พี่จะขอลา | แก้วตาเจ้าค่อยอยู่จงดี |
ตรัสพลางพระทางรับขวัญ | กัลยาอย่าเศร้าหมองศรี |
แต่พอไปได้ถวายอัญชลี | สองกษัตริย์แล้วพี่จะกลับมา ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณเกสรเสนหา |
ได้ฟังซึ่งพระบัญชา | กัลยาสลดระทดใจ |
ดังหนึ่งพระยามัจจุราช | มาพิฆาตฟาดฟันให้ตักษัย |
สตินางไม่เป็นใจ | อรไทกราบลงกับบาทา ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ โปรดเกล้า | พระเจ้าจงโปรดเกศา |
พระจะทิ้งน้องไว้ให้เอกา | ฝานฟ้าจะจากเมียไป |
หลัดหลัดพระจะมาซัดหนี | จะปรานีน้องบ้างก็หาไม่ |
ยามพระจะไปเวียงชัย | มิได้คิดอาลัยแต่หลังมา |
เสียแรงน้องจงรักภักดี | แต่แรกเริ่มเดิมทีมาหนักหนา |
คิดจะขอเอาบาทบาทา | ปกเกล้าไปกว่าวันตาย |
มิรู้พระจะมาซัดไว้ | ให้อยู่เดียวเปลี่ยวใจขวัญหาย |
เพราะรำลึกตรึกถึงเพื่อนสบาย | ที่เคยบำเรอถวายทุกเวลา |
จึงรีบรัดจะไปพระนคร | เพราะอาวรณ์ด้วยความเสนหา |
แม้พระไปจากพระพารา | เมียจะครองชีวาไว้ไยมี |
ถึงว่าไปแล้วจะกลับมา | ผ่านฟ้าจะเห็นแต่ซากผี |
สองกรค่อนทรวงเข้าโศกี | เทวีเกลือกกลิ้งนิ่งไป ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระภุชพลมีกมลหม่นไหม้ |
เห็นนางโศกซบสลบไป | ตกใจไม่เป็นสมประดี |
จึงยอกรช้อนเกศนงลักษณ์ | ขึ้นใส่ตักแล้วกันแสงศรี |
โอ้ว่าแก้วตากัลยาณี | เจ้าตายจากพี่แล้วหรือฉันใด |
เจ้าพูดด้วยพี่เมื่อกี้ | มารศรีมาม้วยตักษัย |
ควรหรือมาวินาศขาดใจ | ด้วยพี่จะไปพระบุรี |
เจ้าตัดช่องน้อยแต่พอองค์ | โฉมยงไม่คิดอาลัยพี่ |
พระโศกซ้ำร่ำรักแสนทวี | ภูมีพ่างเพียงจะขาดใจ ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ ครั้นค่อยคลายโศกโศกา | พระผ่านฟ้าก็คิดขึ้นได้ |
จึงยกพระหัตถ์มาลูบไล้ | ประทับไว้กับทรวงนางกัลยา |
อุรพายังมุ่นอุ่นอยู่ | ก็รู้ว่ายังไม่ม้วยสังขาร |
จึงให้เอาสุคนธมาลา | มาลูบโลมพักตราให้เทวี ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | นวลนางพระพี่เลี้ยงสาวศรี |
ตกใจไม่เป็นสมประดี | ทั้งสนมนารีกำนัลใน |
ลางนางบ้างวิ่งไปฝนยา | บ้างเอาสุคนธ์มาชโลมให้ |
บ้างเข้านวดฟั้นอยู่วุ่นไป | ทรามวัยได้สมประดีมา ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองเฟื่องฟุ้งทุกทิศา |
เห็นนางค่อยคืนฟื้นกายา | จึงบัญชาปลอบนางเทวี ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ น้องรัก | เยาวลักษณ์คือดวงเนตรพี่ |
เจ้าอย่าโศกสร้อยโศกี | ใช่พี่มิรักนางกัลยา |
ซึ่งพี่จะจากนางนงคราญ | ใช่จะไปด้วยการเสนหา |
อันองค์พระบิตุเรศมารดา | แม้ว่ามิเป็นกังวลใจ |
ถึงมีที่ประสงค์จงรัก | พี่จะจากเยาวลักษณ์กระไรได้ |
พี่รักเจ้าเท่าดวงหทัย | จะเปรียบนัยน์เนตรก็เหมือนกัน |
เจ้าอย่าถวิลกินใจ | ทรามวัยอย่าพิโยคโศกศัลย์ |
อันรักใคร่ในน้องผูกพัน | ก็แจ้งใจแต่วันนั้นมา |
ใช่ว่าพี่ไปจะไม่คิด | ปลื้มจิตอย่าพะวังกังขา |
จำเป็นจำพี่จะขอลา | แก้วตาอย่าละห้อยน้อยใจ |
พี่ไปก็ไม่อยู่ช้า | จะรีบกลับคืนมาพิสมัย |
จงฟังคำพี่ว่านางทรามวัย | อย่าโศกาลัยเลยนะเทวี ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณเกสรโฉมศรี |
กราบลงกับบาทธุลี | เทวีจึงทูลสนองไป |
ซึ่งพระจะเสด็จไคลคลา | ยังพาราโขมราฐกรุงใหญ่ |
จะไปแต่องค์พระทรงชัย | ละข้าน้อยไว้ในบุรี |
เมียรักจักอยู่กระไรได้ | พระภูวไนยจงโปรดเกศี |
ธรรมดาเกิดมาเป็นสตรี | จะภักดีต่อผัวจนตัวตาย |
เมียไม่ขออยู่พระเวียงชัย | จะขอไปตามเสด็จพระฦๅสาย |
ถึงจะได้ยากลำบากกาย | ชีวิตจะวอดวายไม่อาลัย |
จะได้ถวายอภิวาทบาทบงสุ์ | สองพระองค์ทรงภพเป็นใหญ่ |
พระองค์จงพาเมียไป | ภูวไนยจึงได้เมตตา ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ โฉมเฉลา | เยาวลักษณ์เลิศลํ้าเลขา |
แสนรักสุดรักดังแก้วตา | ใช่ว่าจะไม่คำนึงนาง |
ครั้นพี่จะพาเจ้าไป | ในป่าพงดงใหญ่ไพรกว้าง |
จะถูกละอองต้องลมนํ้าค้าง | มรรคาท่าทางก็กันดาร |
เจ้าไม่เคยยากลำบากใจ | เคยสำราญแต่ในราชฐาน |
จะไปในไพรสณฑ์ทรมาน | เหลือบร่านริ้นร้ายจะราวี |
ขวัญอ่อนจะตระหนกตกประหม่า | ด้วยโขมดมารยาฝูงผี |
จงอยู่ด้วยพระชนกชนนี | แต่ในบุรีรมยา |
พี่จะด่วนเดินรีบรัด | ข้ามเทินเนินพนัสพนมผา |
จะพาไปเป็นห่วงหน่วงช้า | จะพะว้าพะวังกังวลใจ |
ว่าพลางทางตระโบมโลมเล้า | ยุพเยาว์ผู้ยอดพิสมัย |
ประจงกรช้อนชมทรามวัย | ปลื้มใจจงฟังพี่พาที ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ โปรดเกล้า | พระเจ้าจงโปรดเกศี |
แม้ว่าพระไม่ปรานี | ภูมีมิพาเมียไป |
เมียไม่ขออยู่ไยดี | จะสู้ม้วยชีวีตักษัย |
แม้พระจากเมืองไปวันใด | จะกลั้นใจให้ม้วยมรณา |
ว่าพลางนางกราบลงกับบาท | พระสามีธิราชนาถา |
ทอดองค์ทรงโศกโศกา | กัลยาไม่เป็นสมประดี ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองผู้เรืองรัศมี |
เห็นนางโศกศัลย์พันทวี | พระภูมีตริตรึกนึกใน |
ครั้นจะมิผ่อนผันหันหา | โดยดังจินดาก็มิได้ |
น่าที่นางจะม้วยบรรลัย | ที่ไหนเลยจะคงชีวา |
คิดแล้วจึงมีสุนทร | รับขวัญสายสมรกนิษฐา |
ปลอบพลางทางเช็ดชลนา | อย่าโศกานักเลยนางเทวี |
ซึ่งเจ้าจำนงจงรัก | ภักดีจะไปด้วยพี่ |
เป็นเพื่อนยากลำบากในพงพี | พี่มีความยินดีเป็นพ้นไป |
มิเสียทีนักว่ารักพี่ | ทั้งนี้ก็ตามอัชฌาสัย |
ว่าพลางทางชมภิรมย์ใจ | หฤทัยฟั่นฟุ้งปรีดา |
ชวนชื่นหฤหรรษ์บันเทิง | สำเริงรสอมฤตหรรษา |
แล้วเสด็จลีลาศคลาดคลา | พาองค์วนิดาจรลี |
กับสองอนุชานุชนาถ | จากปราสาทรัตนาเรืองศรี |
ขึ้นไปถวายดุษฎี | พระชนกชนนีในทันใด ฯ |
ฯ ๑๔ คำ ฯ
๏ ครั้นถึงปรางค์แก้วแพรวพราย | สี่กษัตริย์ถวายบังคมไหว้ |
พระบิตุเรศมารดาท่านไท | แล้วกราบทูลไปมิได้ช้า ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ โปรดเกศ | พระทรงเดชจงโปรดเกศา |
อันสองพระราชอนุชา | กรีธามาถึงกรุงไกร |
พักพลนิกายก็หลายวัน | ค่อยบรรเทาเบาบางป่วยไข้ |
ลูกรักจักลาพระองค์ไป | ยังพิชัยโขมราฐพารา |
ครั้นจะเนิ่นช้านานนัก | สองพระองค์ทรงศักดิ์จะคอยหา |
อันนางสุวรรณกัลยา | จะลาไปด้วยลูกยังบุรี ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพินทุทัตรัศมี |
ทั้งองค์อัครราชเทวี | ได้ฟังพระศรีเมืองลูกรัก |
ทูลลาจะคืนไปเวียงชัย | สองพระองค์อาลัยเพียงอกหัก |
สร้อยเศร้าเปล่าใจเป็นพ้นนัก | พระทรงศักดิ์จึงมีบัญชา ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ ลูกรัก | ดังดวงจักษุพ่อทั้งซ้ายขวา |
ซึ่งเจ้าจะกลับไปพารา | จะทิ้งบิดาไว้ยังเวียงชัย |
จะอยู่แต่ผู้เดียวเปลี่ยวองค์ | จะปลงใจไว้จิตแก่ใครได้ |
อันสมบัติพัสถานทั้งนี้ไซร้ | พ่อมอบเวนให้เจ้าทุกอัน |
ด้วยไร้ประยูรสุริย์วงศ์ | จะสืบทรงพิภพไอศวรรย์ |
พ่อหวังฝากชีพชีวัน | หรือขวัญเมืองจะจากเมืองไป |
ตัวพ่อจะอยู่อนาถา | ใครจะพยาบาลเมื่อยามไข้ |
แต่นี้ตั้งแต่จะเปลี่ยวใจ | ครั้นจะห้ามเจ้าไว้ก็ผิดที |
ลูกรักจงไปสถาพร | นางสุวรรณเกสรมารศรี |
จะจากอกจากราชธานี | ไปด้วยภูมียังพารา |
พ่อขอฝากองค์นงลักษณ์ | ผิดชอบเบาหนักไปภายหน้า |
สิ่งใดจงได้กรุณา | เห็นแก่บิดาได้ปรานี ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองประณตบทศรี |
ซึ่งบัญชาฝากฝังทั้งนี้ | จะรับใส่เกศีลูกไว้ |
พระองค์จงอย่าอนาทร | อาวรณ์ร้อนรนหม่นไหม้ |
แม้เบาจิตผิดชอบประการใด | มิให้เคืองบาทราคี ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณมาลามารศรี |
วิ่งมากอดองค์พระบุตรี | แล้วมีเสาวนีย์ร่ำไร ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ขวัญเข้าแม่เลี้ยงเจ้ามา | จนพระชันษาเติบใหญ่ |
สิ่งใดมิให้ระคายใจ | หวังจะได้ฝากชีพชีวี |
จะจากแม่จากวังเวียงราช | สุดสวาทจะเอาตัวหนี |
จะทิ้งแม่ไว้ในธานี | แต่นี้จะเห็นหน้าใคร |
อกแม่จะกรมระบมช้ำ | จะกินแต่นํ้าตาโหยไห้ |
ดังเดือนดับแต่จะลับเลื่อนไป | นับวันจะไกลพระมารดา |
แม่ทุกข์ใครเลยจะช่วยได้ | แม่ไข้ใครจะช่วยรักษา |
ไม่เคยได้ไกลอกสักเวลา | ควรหรือแก้วตาจะจากไป |
รํ่าพลางทางกันแสงสอน | สายสมรแม่ยอดพิสมัย |
เจ้าจะไปด้วยองค์พระทรงชัย | จงจำคำแม่ไว้นะลูกรัก |
ตัวเจ้าเป็นบาทบริจา | จอมจักรพัตราอันทรงศักดิ์ |
สิ่งใดห้ามใจเจ้าจงนัก | ภักดีต่อองค์พระทรงธรรม์ |
แสนสาวพระสนมกรมใน | นางใดท้าวรักใฝ่ฝัน |
อย่าทำขึ้งเคียดเกียดกัน | จงผ่อนผันอย่าให้ขัดอัธยา |
ท้าวรักอย่าทำลามลวน | สงวนจิตคิดเกรงโทษา |
อันพระบิตุเรศมารดา | ลูกยาฝากองค์ให้จงดี |
หมั่นเฝ้าเช้าเย็นเป็นนิตย์ | ตั้งจิตปฏิพัทธ์บทศรี |
จงจำคำแม่พร่ำพาที | ไปเป็นศรีสวัสดิ์ทุกเวลา ฯ |
ฯ ๑๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณเกสรเสนหา |
ได้ฟังสมเด็จพระมารดา | โอภาประสาทเสาวนีย์ |
จึงรับเอาโอวาทใส่เกล้า | จบเท้าใส่เกศเกศี |
อาลัยในองค์พระชนนี | นางเทวีกราบบาทลงร่ำไร |
พระคุณล้ำล้นคณนา | เลี้ยงลูกแต่น้อยมาจนใหญ่ |
ยังมิได้ทดแทนประการใด | มาจำไกลพระชนกชนนี |
ลูกเคยปฏิพัทธ์บาทบงสุ์ | อันทรงพระคุณทั้งสองศรี |
โอ้ว่าจะจากพระบุรี | ตั้งแต่นี้ไปจะไกลตา |
ยามกินจะคิดอาวรณ์ | ยามนอนจะไห้โหยหา |
แม้ไม่มอดม้วยชีวา | จะกลับมาสนองพระคุณไป |
ว่าพลางนางทรงโศกี | กอดบาทชนนีร่ำไห้ |
ชลเนตรฟูมฟองนองนัยน์ | อรไทไม่เป็นสมประดี ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพินทุทัตเรืองศรี |
ทั้งนางสุวรรณมาลี | เห็นพระบุตรีโศกา |
จึงตรัสตระโบมโลมไล้ | ปลอบลูกสายใจเสนหา |
แล้วมีพระราชบัญชา | ว่าแก่พระศรีเมืองไป |
ซึ่งเจ้าจะกลับไปพารา | แต่บรรดาโยธาน้อยใหญ่ |
ม้ารถคชสารชาญชัย | สิ่งใดชอบใจลูกรัก |
ทั้งนางนักสนมกรมใน | พ่อยกให้สององค์ทรงศักดิ์ |
อันศฤงคารบริวารตระการนัก | ตามแต่เจ้าจักเอาไป ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองรัศมีศรีใส |
ทั้งพระราชธิดายาใจ | ได้ฟังบิตุเรศกล่าวมา |
มีความยินดีเป็นพ้นไป | รับพระบัญชาใส่เหนือเกศา |
ครั้นแล้วถวายบังคมลา | เสด็จมายังปรางค์ปราสาทชัย ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ จึงมีพระราชบัญชา | ตรัสสั่งเสนาผู้ใหญ่ |
กับทั้งมหาเสนาใน | กรุงพิชัยโขมราฐธานี |
จงเร่งเตรียมพลโยธา | ทั้งม้ารถคชาถ้วนถี่ |
ให้พร้อมกันในวันพรุ่งนี้ | จะยกไปบุรีจงฉับพลัน |
แล้วสั่งนางท้าวเถ้าแก่ | ให้จัดแจงชาวแม่สาวสวรรค์ |
บรรดาจะไปตามเสด็จนั้น | จงพร้อมกันให้ทันเวลา ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | ทั้งสองเสนาแกล้วกล้า |
รับสั่งแล้วพลันมิทันช้า | แข่งกันออกมาทั้งสองนาย |
ต่างตนเร่งรวดตรวจตรา | สารวัดโยธาทั้งสองฝ่าย |
ทุกหมวดตรวจเกณฑ์กันวุ่นวาย | อุตลุดบาดหมายอลวน |
ก็ได้ฉับพลันมิทันนาน | ม้ารถคชสารตัวต้น |
ให้ตั้งกองมั่วสุมชุมพล | อื้ออึงอลหม่านทั้งพารา |
พร้อมพรั่งทั้งทัพโขมราฐ | สองพระนุชนาถเป็นกองหน้า |
รายริ้วทิวธงอลงการ์ | เตรียมท่าเสด็จพระภูวไนย ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | นางท้าวเจ้ายายเป็นใหญ่ |
ก็จัดนางสาวสรรค์กำนัลใน | ตรวจไตรทั่วทุกพนักงาน |
แต่บรรดาฝูงนางนักสนม | ทุกกรมสับสนอลหม่าน |
บ้างวิ่งไปจัดเครื่องอาน | ตามพนักงานบรรดามี |
ลางนางบ้างวิ่งหากระจก | บ้างตกตะลึงก็ลืมหวี |
เครื่องโอโถแป้งนํ้ามันดี | ใส่หีบใส่กลี่อยู่วุ่นวาย |
ลางนางจีบจัดมัดห่อผ้า | บ้างวิ่งมาว่าแหนบน้อยหาย |
อันเครื่องแต่งตัวเจ้าขรัวนาย | จัดใส่กระทายไว้ครบครัน ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงนางศรีประภาสาวสวรรค์ |
ทั้งนางสุดาดวงจันทร์ | ครั้นรู้ว่าสองพระอนุชา |
จะกรีธาทัพกลับไปพระนคร | นางอาวรณ์ร้อนเร่าเป็นหนักหนา |
ดังต้องฟองพิษนาคา | กัลยาไม่เป็นสมประดี |
ด้วยอาลัยในองค์พระทรงศักดิ์ | นงลักษณ์สร้อยเศร้าหมองศรี |
จึงเปลื้องทรงสะพักของเทวี | ใส่ผอบมณีอันรจนา |
ส่งให้พี่เลี้ยงทั้งสอง | พี่เอ็นดูน้องจงอาสา |
ไปถวายทั้งสองพระอนุชา | แจ้งว่าน้องทุกข์ฉุกใจ |
อันความอาลัยไหม้หมอง | ทุกข์ร้อนของน้องเป็นไฉน |
พี่เจ้าก็ย่อมเข้าใจ | จงทูลให้ทราบบาทบาทา ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | สองศรีพี่เลี้ยงเสนหา |
รับผอบใส่ทรงสะพักมา | วันทาแล้วรีบคลาไคล |
ครั้นถึงก้มเกล้าเคารพ | แล้วถวายผอบแจ่มใส |
ทูลสองพระองค์ทรงชัย | ว่าสองอรไทพระบุตรี |
ให้เชิญภูษาทรงสะพัก | มาถวายทรงศักดิ์ทั้งสองศรี |
แจ้งว่าพระจะไปธานี | เทวีพร่ำกินแต่น้ำตา |
สาละวนก่นแต่โศกเศร้า | พระแม่เจ้าได้แต่พระภูษา |
ต่างองค์จงรักภักดีมา | ได้ทราบบาทาพระภูมี ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
(ตอนนี้ต้นฉบับตก)
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองเฟื่องฟ้าดินไหว |
รีบยกโยธาคลาไคล | พระทรงไอยรามากลางพล |
ล่วงเขตเมืองยโสธร | เสียงนิกรกึกก้องโกลาหล |
ข้ามทุ่งทิวป่าอารญ | พักพลมาหลายราตรี |
ถึงแดนเมืองจันทเสมา | พระสุริยาบ่ายคล้อยแสงศรี |
พระให้พักพลโยธี | อยู่ที่ท่ามกลางมรรคา ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา