ตอนที่ ๖ อภิเษกพระศรีเมือง

๏ เมื่อนั้น ท่านท้าวพินทุทัตเรืองศรี
ชื่นชมโสมนัสพันทวี ในพระศรีเมืองเรืองชัย
ด้วยสมดังจิตคิดผูกพัน จะยกนางสุวรรณเกสรให้
พระเร่งเบิกบานสำราญใจ ดังได้ฟากฟ้าดุษฎี
จึงปราศรัยไปแก่พระศรีเมือง เจ้าผู้บุญเรืองรัศมี
ซึ่งรูปเจ้าเท่ากันทั้งนี้ พ่อมีความยินดีพ้นนัก
ดังได้ดวงแก้วจักรพรรดิ อันล้ำเลิศกษัตริย์ทั้งไตรจักร
ด้วยไร้สุริย์วงศ์รังรักษ์ จะพำนักแก่ฝูงประชาไป
พ่อจะยกเจ้าขึ้นเป็นเอก อภิเษกลูกแก้วให้เป็นใหญ่
สืบสนองครองราชโภไคย ไพร่ฟ้าประชาชนมนตรี
ตัวพ่อเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ตั้งใจไว้หวังจะฝากผี
สององค์จงทรงธรณี เป็นศรีเมืองเรืองยศสืบไป ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

๏ ครั้นแล้วจึงมีพระบัญชา ตรัสสั่งโหราผู้ใหญ่
ให้เร่งหาฤกษ์งามยามชัย ที่จะได้เสกสองกษัตรา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บัดนั้น โหรเฒ่ารับสั่งใส่เกศา
ก้มเกล้ากราบลงได้สามลา จึงดูตามตำราในทันใด
ขับไล่ใส่สอบทุกคัมภีร์ จะเห็นมีอันตรายก็หาไม่
ชอบด้วยนามเมืองอันเรืองชัย พระชันษาทรามวัยก็ต้องกัน
ได้ทั้งราชโชคโยคยาม จะงามเมืองงามภพไอศวรรย์
จึงกราบทูลพระองค์ทรงธรรม์ พรุ่งนี้เป็นวันอุดมดี
ซึ่งจะให้ตั้งการสยมพร จะถาวรสวัสดิ์จำเริญศรี
จะปรากฏเกียรติยศทุกธานี พระพันปีจงทราบบาทา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวพินทุทัตวงศา
ได้ฟังโหรเฒ่าทูลมา มีความปรีดาพ้นไป
จึงมีพระราชบัญชา แก่มหาเสนาผู้ใหญ่
ให้เร่งรัดจัดการจงฉับไว จะให้ตั้งอภิเษกพระบุตรี
สั่งเสร็จพระเสด็จย่างเยื้อง พาพระศรีเมืองเรืองศรี
เข้ายังปรางค์รัตน์มณี พระภูมีเบิกบานสำราญใจ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น เสนีผู้มีอัชฌาสัย
ครั้นรับสั่งองค์พระทรงชัย ก็รีบออกไปยังศาลา
ให้หมายบอกทุกเจ้าพนักงาน ทั้งทหารพลเรือนซ้ายขวา
ตามมีพระราชบัญชา ทั้งข้างหน้าข้างในพร้อมกัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น ฝ่ายเจ้าพนักงานคนขยัน
แจ้งหมายแล้ววิ่งอยู่เป็นควัน เกณฑ์กันอุตลุดเป็นโกลี
บ้างปลูกโรงงานมหรสพ สารพันครันครบถ้วนถี่
ชาววังวางวิ่งเป็นสิงคลี มาแต่ที่มหาปราสาทชัย
ให้รายริ้วทิวแถวราชวัติ ทั้งฉัตรนาคฉัตรเงินงามไสว
ฉัตรทองรองเรืองอำไพ ธงชัยไพโรจน์รูจี
ตั้งเบญจาแก้วรจนา ตรงหน้าพระมหาปราสาทศรี
อันในมนเทียรรัตน์มณี ลาดพรมสุจหนี่แพรวพราย
พระยี่ภู่ปูอาสน์อันบรรจง สำหรับสุริย์วงศ์ทั้งหลาย
เพดานม่านรูดพรรณราย พู่พรายห้อยย้อยด้วยลำยวน
หว่างกลางวางรัตนบัลลังก์ ตั้งรูปพระปรเมศวร
ตั้งเครื่องบูชาโดยควร ถ้วนถี่ธูปเทียนมาลา
ตั้งน้ำวงด้ายสายสิญจน์ เป็นทักขิณวัฏเวียนขวา
ตั้งทั้งสังข์กลศรจนา อันใส่ปัญจมหานที
สำหรับมุรธาภิเษกสรง ตรงหน้าพระอิศรังศรี
ชาวแสงแจ้งเจนในพิธี ก็ทอดที่พระแสงอัษฎา
พนักงานการใครไม่ข้องขัด รีบรัดจัดแจงพร้อมหน้า
ก็แล้วฉับพลันมิทันช้า ตามในตำราครบครัน ฯ

ฯ ๑๘ คำ ฯ

๏ ครั้นเอยครั้นรุ่ง พวยพุ่งอรุณแรงแสงฉัน
เสนาข้าเฝ้าทั้งนั้น บรรดาเกณฑ์แห่มากมี
แต่งตัวดูงามตามขนาด มาพร้อมกันเดียรดาษอยู่ตามที่
แตรสังข์กังสดาลดนตรี พิณพาทย์เภรีนี่นัน
งานแสงก็เชิญพระแสงชัย เข้าในกระบวนจัดสรร
ชาวเครื่องเชิญเครื่องเนื่องกัน อยู่ตามอันดับกันไป
กลดกลิ้งกรรชิงชุมสาย อภิรุมเรียงรายงามไสว
เตรียมท่าอยู่หน้าเกยชัย คอยพระภูวไนยจะยาตรา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ท่านท้าวพินทุทัตวงศา
ครั้นจะใกล้พิชัยเวลา จะไปยังมหาปราสาทชัย
จึงให้พระศรีเมืองเรืองยศ พระโอรสสุดแสนพิสมัย
ให้แต่งองค์ทรงเครื่องอันอำไพ สระสรงสนานในมิทันนาน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระศรีเมืองเรืองเดชดังสุริย์ฉาน
พระเข้าที่สรงสหัสนัทีธาร นํ้าอบโอฬารกำจายจร
ทรงสุคนธรังสีลูบไล้ ฟุ้งไปด้วยพื้นเกสร
สนับเพลาเรืองรามงามงอน อลงกรณ์แจ่มจัดจำรัสองค์
ภูษิตวิจิตรโจงจังหวัด จีบจัดชายเฟือยเลื้อยหางหงส์
ชายไหวปลายสะบัดบรรจง ชายแคลงแสงส่งจินดาดี
สังวาลเพชรเก็จแก้วกุดั่นดวง โชติช่วงร่วงรุ้งรัศมี
สร้อยสนวิมลรัตน์รูจี ทับทรวงมณีนิลใน
ตาบทิศวิจิตรจำรูญ เกยูรระยับจับสุริย์ใส
สอดทรงพาหุรัดตรัสไตร ทรงกรอำไพแพรวพราย
ทรงมหาพิชัยมงกุฎ ผาดผุดดังดวงพระสุริย์ฉาย
ขัดพระขรรค์ทรงศรกรกราย มาถวายบังคมพระบิดา ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น นางสุวรรณมาลีเสนหา
จึงให้พระราชธิดา สระสรงคงคาในทันใด
อันพระพี่เลี้ยงทั้งสี่องค์ ให้ช่วยเข้าสีสรงสนานให้
ชาวแม่พนักงานนางใน ให้จัดเครื่องไปถวายบุตรี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น นางสุวรรณเกสรมารศรี
บังคมสมเด็จพระชนนี มาเข้าที่สระสรงคงคา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ชำระสระสนานสำราญองค์ ทรงสุคนธ์ปนปรุงกฤษณา
กลิ่นกลบตลบโอฬาร์ ผ่องผัดพักตราแจ่มจันทร์
พระสำอางสางสวยสนองเกศ กวดกันพระจุเรศเฉิดฉัน
ภูษิตวิจิตรพรายพรรณ สะอิ้งองค์กุดั่นบรรจง
สังวาลเพชรเก็จกิ่งพริ้งพราย จำหลักลายทองฉลุกุก่ง
สะพักกรองทองทอลออองค์ ทรงสร้อยมรกตรจนา
ตาบประดับทับถันพรรณราย ทองกรสุกรีกลายซ้ายขวา
พาหุรัดบรรจงอลงการ์ ทรงมหาธำมรงค์เนาวรัตน์
ทรงโมฬีเกศเก็จกิ่ง กรรเจียกจรยงยิ่งแจ่มจัด
กุณฑลวิมลดอกไม้ทัด จำรูญเรืองจำรัสรจนา
ทรงเสร็จเสด็จลีลาศ พี่เลี้ยงราชห้อมล้อมซ้ายขวา
ทอดกรนวยนาดยาตรา มาถวายบังคมพระชนนี ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวพินทุทัตเรืองศรี
ทั้งนางสุวรรณมาลี สองกษัตริย์ยินดีปรีดา
พระบิตุรงค์องค์พระโอรส บทจรจากอาสน์อันเลขา
พระชนนีนำพระบุตรีมา พี่เลี้ยงซ้ายขวาก็ตามไป ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงเกยรัตน์มณี มนตรีกราบเกล้าอยู่ไสว
พระทรงยานุมาศอันอำไพ สุกใสไพโรจน์รูจี
พระศรีเมืองให้ทรงราเชนทร์แก้ว อันเพริศแพรวจำรัสแสงศรี
ฝ่ายองค์สมเด็จพระชนนี ทรงสีวิกากาญจน์รจนา
พระธิดาขึ้นทรงพระวอทอง ปิดป้องกำบังซ้ายขวา
สนมกรมในนานา จ่าข้าเถ้าแก่แจจัน
อีกทั้งนางท้าวเจ้านาย เรียงรายเดินหน้านางสาวสรรค์
จึงให้เลื่อนเคลื่อนคลามาพลัน พระกำนัลแห่ห้อมล้อมไป ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ ครั้นมาถึงหน้าปรางค์มาศ อันโอภาสจำรัสแสงใส
ให้เทียบราเชนทร์แก้วแววไว ทั้งวอทองอำไพพระบุตรี
ท้าวพินทุทัตสุริย์วงศ์ กับองค์พระอัครมเหสี
ให้สองกษัตริย์ธิบดี จรลีขึ้นยังเบญจา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น ชาวพ่อชีพราหมณ์พร้อมหน้า
ทั้งบัณฑิตปโรหิตโหรา พระยาราชครูพฤฒาจารย์
บ้างเข้าถวายอาเศียรพาท สวดโศลกไสยศาสตร์มหาศาล
รดนํ้าทำตามพิธีการ อ่านพระเวทถวายชัยทั้งสองรา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น จึงชาวเครื่องต้นพระภูษา
ก็ถวายเครื่องทรงอลงการ์ แก่สองกษัตราทันใด ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ครั้นแล้วสำเร็จเสร็จสรง สองพระองค์ทรงภพเป็นใหญ่
จึงนำสองลูกยาคลาไคล เข้าในปราสาทแก้วรูจี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ให้นั่งเหนือแท่นทองกองแก้ว อันลาดแล้วด้วยหนังราชสีห์
ภายใต้เศวตฉัตรมณี สุริย์วงศ์พงศ์พีก็พร้อมใจ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เวียนเอยเวียนเทียน ให้เวียนไปตามพิธีไสย
สุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ทั้งนั้นไซร้ พระสนมกรมในนานา
ราชครูผู้เฒ่าก็เรียงราย รับแว่นเวียนไปซ้ายมาขวา
ครั้นถ้วนเสร็จเจ็ดรอบโดยอัตรา พระโหราให้ดับเทียนชัย
แล้วโบกควันไปต้องสองกษัตริย์ ศิวภัศม์จุณเจิมเฉลิมให้
ต่างองค์อำนวยอวยชัย ให้สองกษัตริย์สวัสดี
องค์พระบิตุเรศมารดร ก็อวยพระพรชัยศรี
ให้สององค์ทรงภพธาตรี เป็นศรีพระนครสืบไป
อันศัตรูหมู่มารปัจจามิตร ทั่วทั้งทศทิศอย่าต่อได้
ให้รุ่งเรืองอิทธิ์ฤทธิไกร ปรากฏในไตรโลกา
อันโรคโรคาอย่ามาพาน ให้ชนมานยืนร้อยพระวัสสา
จงปกป้องครองราษฎร์ประชา เป็นบรมผาสุกทุกราตรี
แล้วให้ประโคมแตรสังข์ กังสดาลบัณเฑาะว์อึงมี่
ทั้งฆ้องกลองดุริยางค์ดนตรี อึงอินทเภรีนี่นัน
(พอได้เพลาอุดมฤกษ์) (เอิกเกริกแซ่ซ้องก้องสนั่น)
(พนักงานการละเล่นทั้งนั้น)[1] ก็เล่นขึ้นพร้อมกันในทันใด
หกคะเมนไต่ลวดประกวดกัน หุ่นประชันกับโขนโรงใหญ่
นางระบำรำฟ้อนละคอนใน ก็ทอดกรอ่อนละไมไปมา ฯ

ฯ ๑๘ คำ ฯ

๏ ครั้นเสร็จอภิเษกสองกษัตริย์ ท้าวพินทุทัตวงศา
ทั้งพระมเหสีโสภา สุริย์วงศ์พงศาก็ยินดี
ต่างองค์ต่างเสด็จลีลาศ จากอาสน์สุวรรณอันเรืองศรี
เข้ายังปรางค์รัตน์มณี พระภูมีชื่นชมภิรมย์ใจ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระศรีเมืองรัศมีศรีใส
พระสมสู่อยู่ด้วยทรามวัย ในมนเทียรรัตน์รูจี
แต่พะนึงคลึงเคล้าเย้ายวน ชวนสนิทพิศวาสเกษมศรี
ไม่นิราศคลาดคลาสักนาที ได้หลายราตรีทิวามา
พระมีจิตคิดถึงพระยาหงส์ พระโฉมยงโศกสร้อยละห้อยหา
จึงเสด็จลีลาศยาตรา มายังบัลลังก์รัตนามัย
ตรัสเรียกพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ เข้ามาพาทีแถลงไข
ว่าตัวน้องมาอยู่ในเวียงชัย ก็ได้หลายราษราตรี
แต่พระยาราชหงส์อันจงรัก ยังสำนักพักอยู่ในสวนศรี
ทั้งยายมาลาตามาลี ก็มีคุณแก่น้องแต่เดิมมา
บัดนี้การเราก็สำเร็จ สรรพเสร็จดังความปรารถนา
ควรปูนบำเหน็จแก่ยายตา ด้วยเสื้อผ้าเงินทองเป็นรางวัล
พี่เจ้าผู้มีอัชฌาสัย จงรีบออกไปยังสวนขวัญ
ให้หาสองเฒ่ามาเฝ้าพลัน กับพระยาหงส์นั้นเข้ามา ฯ

ฯ ๑๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น พระพี่เลี้ยงรับสั่งใส่เกศา
ก็พากันรีบไคลคลา ไปสวนมาลาในทันใด ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงจึงบอกพระยาหงส์ ว่าพระองค์ทรงสวัสดิ์เป็นใหญ่
รำลึกตรึกถึงคะนึงใน ให้มารับไปพระพารา
ทั้งสองตายายผู้ใจภักดิ์ พระทรงศักดิ์คิดถึงเป็นหนักหนา
ซึ่งได้มีคุณแต่หลังมา ความชอบพ้นคณนาไป ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนี้รับสั่งให้ออกมา หาสองยายตาไปจงได้
อย่าช้ามาจะเข้าไป จะมีลาภใหญ่ทั้งสองรา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บัดนั้น สองเฒ่าได้ฟังพี่เลี้ยงว่า
ทั้งพระยาหงส์ราชสกุณา ต่างตนปราโมทย์เป็นพ้นไป
ตายายสำรวลสรวลร่า ด้วยยินดีปรีดาแจ่มใส
ตาเรียกยายเข้ายังห้องใน เร็วเร็วเราจะไปอย่าได้ช้า
จึงฉวยผ้าตาโถงนั้นเข้านุ่ง เสวียนละว้าพันพุงโอ่อ่า
ทาจันทน์แล้วใส่น้ำมันปลา สะพายย่ามละว้าเข้าสมตัว
ฝ่ายยายล้วงโอ่งน้ำมันยาง ขยี้มือพลางแล้วเสยหัว
ห่มผ้าตาระกอกมัวซัว ผัวเมียก็พากันออกมา
เดินตามพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ หม่อมตามาลีนั้นขึ้นหน้า
ทั้งพระยาหงส์ทองอันรจนา ก็โผผินบินมายังวังใน ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระทรงภพจบสกลเป็นใหญ่
ครั้นเห็นสองเฒ่าเข้าทันใด กับพระยาสกุไณก็ยินดี
ยกพระหัตถ์มาตรัสปรามาส ลูบโลมชมราชปักษี
หรรษาปราโมทย์พันทวี เสนหาสกุณีเป็นพ้นไป
แล้วตรัสประภาษโอภา แก่ยายตาอันมีอัชฌาสัย
สองราอารีมีน้ำใจ ได้ทำคุณไว้แต่หลังมา
แล้วช่วยป้องกันอันตราย ขอบใจตายายเป็นหนักหนา
มิเสียทีมีจิตเมตตา จะพรรณนาความชอบพันทวี
ตรัสแล้วจึงให้พระราชทาน ศฤงคารบริวารถ้วนถี่
เงินทองกองโกยมากมี เสื้อผ้ากำมะหยี่แพรพรรณ
ทั้งเครื่องใช้สอยน้อยใหญ่ สารพัดจัดให้ทุกสิ่งสรรพ์
โคควายไร่นาสารพัน ครบครันทั้งข้าหญิงชาย ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

๏ บัดนั้น สองเฒ่ากราบก้มบังคมถวาย
ได้รับของประทานมากมาย ตายายชื่นชมภิรมย์ใจ
มีความยินดีปรีดา พ้นที่จะอุปมาได้
จึงกราบทูลไปพลันทันใด ซึ่งพระภูวไนยกรุณา
ให้ประทานสิ่งของนองนันต์ ทั้งเครื่องใช้แพรพรรณวัตถา
ด้วยทรงพระราชเมตตา แก่ข้าสองราบัดนี้
ขอยกเอาพระภูเบศร์ ใส่ไว้เหนือเกศเกศี
จะขอเอาบาทธุลี ปกเกล้าข้านี้สืบไป
ทูลแล้วถวายบังคมลา ทั้งสองยายตาก็กราบไหว้
ให้ขนของจากท้องพระโรงชัย ออกไปยังสวนอุทยาน ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระศรีเมืองเรืองดังสุริย์ฉาน
ครั้นค่ำย่ำสนธยากาล พระภูบาลเข้าที่ไสยา
จึงมีมธุรสพจนารถ บัญชาประภาษปรึกษา
ด้วยองค์อัคเรศชายา ว่าแก้วตาของพี่คือดวงใจ
ตัวพี่จำนงจงรัก ในนงลักษณ์เยาวยอดพิสมัย
อุตส่าห์บุกป่าพนาลัย โยธาข้าใช้ก็ไม่มี
แต่สี่พี่เลี้ยงผู้ร่วมใจ เป็นเพื่อนยากมาในพนาศรี
จนลุถึงราชธานี บัดนี้ก็ได้ดังจินดา
ส่วนพี่มีความผาสุก แต่เพื่อนทุกข์มิได้หรรษา
อันสี่พี่เลี้ยงนางกัลยา ก็ร่วมคิดกิจจาเสมอกัน
ควรสองครองตามประเพณี ร่วมชีวีกันกว่าจะอาสัญ
ตามที่มีความชอบนั้น ขวัญเข้าจะเห็นประการใด ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น นางสุวรรณเกสรศรีใส
ได้ฟังบัญชาพระภูวไนย จึงทูลสนองไปมิได้ช้า ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ โปรดเกศ ซึ่งพระทรงเดชปรึกษา
เห็นต้องตามคลองบุราณมา สุดแต่ผ่านฟ้าจะปรานี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระศรีเมืองผู้เรืองรัศมี
ได้ฟังอัคเรศพาที มีความชื่นชมภิรมย์ใจ
พระยอกรตระกองประคององค์ โฉมยงพี่ยอดพิสมัย
มิเสียทีพี่รักนางทรามวัย ดังดวงใจนัยน์เนตรก็เหมือนกัน
ว่าพลางทางตระโบมโลมเล้า เย้ายวนชวนชมเกษมสันต์
พาดพิงอิงแอบพัลวัน จนพระสุริยันอโณทัย ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ ครั้นรุ่ง พวยพุ่งอรุณแรงแสงใส
พระเสด็จลีลาคลาไคล ยังท้องพระโรงชัยรูจี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ พร้อมด้วยเสนาพฤฒามาตย์ องค์พี่เลี้ยงราชทั้งสี่
จึงปรึกษามหาเสนี ว่าสี่พี่เลี้ยงผู้ร่วมใจ
เป็นเพี่อนยากมาจากพระพารา ทนทุกข์ทรมาในป่าใหญ่
อันความขอบประกอบทั้งนี้ไซร้ ควรจักให้ปันอันใดดี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น เสนาประณตบทศรี
จึงปรึกษากันทันที แล้วทูลพระภูมีไป
อันพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ ภักดีต่อพระองค์เป็นใหญ่
ควรปูนบำเหน็จให้ถึงใจ ตามในความชอบซี่งมีมา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระทรงยศยิ่งทศทิศา ฯ
ได้ฟังมหาเสนา ปรึกษามาต้องทำนองใน
พระเร่งไพบูลย์พูนสวัสดิ์ จึงจัดสิ่งของประทานให้
อันสมบัติพัสถานทั้งนั้นไซร้ พระรางวัลปันให้เสมอกัน
ทั้งศฤงคารบริวารมากมี ครบครันถ้วนถี่ทุกสิ่งสรรพ์
พระพี่เลี้ยงทั้งสี่นางนั้น ก็ให้ครองกันตามประเวณี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ ครั้นเสร็จพระเสด็จยุรยาตร จากอาสน์สุวรรณรังสี
เข้ายังปรางค์รัตน์มณี พระภูมีสุขเกษมเปรมปรา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บัดนั้น ฝ่ายว่าสี่องค์พระเชษฐา
ได้รับของประทานนานา ทั้งวัตถาลังการ์ครบครัน
ต่างตนยินดีปรีดา ดังได้ฟากฟ้าเมืองสวรรค์
สมบัติพัสถานนองนันต์ ชวนกันอยู่เป็นผาสุกใจ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ


[๑] ที่วงเล็บไว้ ต้นฉบับขาด

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ