- คำนำ อธิบดีกรมศิลปากร
- นิทานเรื่องพระศรีเมือง
- นิทานเรื่องพระศรีเมืองต่อจากบทละคอน
- ตอนที่ ๑ พระศรีเมืองเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ หงส์อาสาหาคู่ให้พระศรีเมือง
- ตอนที่ ๓ พระศรีเมืองเข้าเมืองยโสธร
- ตอนที่ ๔ พระศรีเมืองได้นางสุวรรณเกสร
- ตอนที่ ๕ ท้าวพินทุทัตให้ธิดาเสี่ยงคู่
- ตอนที่ ๖ อภิเษกพระศรีเมือง
- ตอนที่ ๗ ท้าวโขมพัสตร์ให้ไปรับพระศรีเมือง
- ตอนที่ ๘ พระศรีเมืองชมสวน
- ตอนที่ ๙ พระศรีเมืองทูลลาท้าวพินทุทัต
- ตอนที่ ๑๐ พระศรีเมืองรบกับพระยาจันทร
ตอนที่ ๖ อภิเษกพระศรีเมือง
๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวพินทุทัตเรืองศรี |
ชื่นชมโสมนัสพันทวี | ในพระศรีเมืองเรืองชัย |
ด้วยสมดังจิตคิดผูกพัน | จะยกนางสุวรรณเกสรให้ |
พระเร่งเบิกบานสำราญใจ | ดังได้ฟากฟ้าดุษฎี |
จึงปราศรัยไปแก่พระศรีเมือง | เจ้าผู้บุญเรืองรัศมี |
ซึ่งรูปเจ้าเท่ากันทั้งนี้ | พ่อมีความยินดีพ้นนัก |
ดังได้ดวงแก้วจักรพรรดิ | อันล้ำเลิศกษัตริย์ทั้งไตรจักร |
ด้วยไร้สุริย์วงศ์รังรักษ์ | จะพำนักแก่ฝูงประชาไป |
พ่อจะยกเจ้าขึ้นเป็นเอก | อภิเษกลูกแก้วให้เป็นใหญ่ |
สืบสนองครองราชโภไคย | ไพร่ฟ้าประชาชนมนตรี |
ตัวพ่อเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง | ตั้งใจไว้หวังจะฝากผี |
สององค์จงทรงธรณี | เป็นศรีเมืองเรืองยศสืบไป ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ ครั้นแล้วจึงมีพระบัญชา | ตรัสสั่งโหราผู้ใหญ่ |
ให้เร่งหาฤกษ์งามยามชัย | ที่จะได้เสกสองกษัตรา ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | โหรเฒ่ารับสั่งใส่เกศา |
ก้มเกล้ากราบลงได้สามลา | จึงดูตามตำราในทันใด |
ขับไล่ใส่สอบทุกคัมภีร์ | จะเห็นมีอันตรายก็หาไม่ |
ชอบด้วยนามเมืองอันเรืองชัย | พระชันษาทรามวัยก็ต้องกัน |
ได้ทั้งราชโชคโยคยาม | จะงามเมืองงามภพไอศวรรย์ |
จึงกราบทูลพระองค์ทรงธรรม์ | พรุ่งนี้เป็นวันอุดมดี |
ซึ่งจะให้ตั้งการสยมพร | จะถาวรสวัสดิ์จำเริญศรี |
จะปรากฏเกียรติยศทุกธานี | พระพันปีจงทราบบาทา ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพินทุทัตวงศา |
ได้ฟังโหรเฒ่าทูลมา | มีความปรีดาพ้นไป |
จึงมีพระราชบัญชา | แก่มหาเสนาผู้ใหญ่ |
ให้เร่งรัดจัดการจงฉับไว | จะให้ตั้งอภิเษกพระบุตรี |
สั่งเสร็จพระเสด็จย่างเยื้อง | พาพระศรีเมืองเรืองศรี |
เข้ายังปรางค์รัตน์มณี | พระภูมีเบิกบานสำราญใจ ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | เสนีผู้มีอัชฌาสัย |
ครั้นรับสั่งองค์พระทรงชัย | ก็รีบออกไปยังศาลา |
ให้หมายบอกทุกเจ้าพนักงาน | ทั้งทหารพลเรือนซ้ายขวา |
ตามมีพระราชบัญชา | ทั้งข้างหน้าข้างในพร้อมกัน ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | ฝ่ายเจ้าพนักงานคนขยัน |
แจ้งหมายแล้ววิ่งอยู่เป็นควัน | เกณฑ์กันอุตลุดเป็นโกลี |
บ้างปลูกโรงงานมหรสพ | สารพันครันครบถ้วนถี่ |
ชาววังวางวิ่งเป็นสิงคลี | มาแต่ที่มหาปราสาทชัย |
ให้รายริ้วทิวแถวราชวัติ | ทั้งฉัตรนาคฉัตรเงินงามไสว |
ฉัตรทองรองเรืองอำไพ | ธงชัยไพโรจน์รูจี |
ตั้งเบญจาแก้วรจนา | ตรงหน้าพระมหาปราสาทศรี |
อันในมนเทียรรัตน์มณี | ลาดพรมสุจหนี่แพรวพราย |
พระยี่ภู่ปูอาสน์อันบรรจง | สำหรับสุริย์วงศ์ทั้งหลาย |
เพดานม่านรูดพรรณราย | พู่พรายห้อยย้อยด้วยลำยวน |
หว่างกลางวางรัตนบัลลังก์ | ตั้งรูปพระปรเมศวร |
ตั้งเครื่องบูชาโดยควร | ถ้วนถี่ธูปเทียนมาลา |
ตั้งน้ำวงด้ายสายสิญจน์ | เป็นทักขิณวัฏเวียนขวา |
ตั้งทั้งสังข์กลศรจนา | อันใส่ปัญจมหานที |
สำหรับมุรธาภิเษกสรง | ตรงหน้าพระอิศรังศรี |
ชาวแสงแจ้งเจนในพิธี | ก็ทอดที่พระแสงอัษฎา |
พนักงานการใครไม่ข้องขัด | รีบรัดจัดแจงพร้อมหน้า |
ก็แล้วฉับพลันมิทันช้า | ตามในตำราครบครัน ฯ |
ฯ ๑๘ คำ ฯ
๏ ครั้นเอยครั้นรุ่ง | พวยพุ่งอรุณแรงแสงฉัน |
เสนาข้าเฝ้าทั้งนั้น | บรรดาเกณฑ์แห่มากมี |
แต่งตัวดูงามตามขนาด | มาพร้อมกันเดียรดาษอยู่ตามที่ |
แตรสังข์กังสดาลดนตรี | พิณพาทย์เภรีนี่นัน |
งานแสงก็เชิญพระแสงชัย | เข้าในกระบวนจัดสรร |
ชาวเครื่องเชิญเครื่องเนื่องกัน | อยู่ตามอันดับกันไป |
กลดกลิ้งกรรชิงชุมสาย | อภิรุมเรียงรายงามไสว |
เตรียมท่าอยู่หน้าเกยชัย | คอยพระภูวไนยจะยาตรา ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวพินทุทัตวงศา |
ครั้นจะใกล้พิชัยเวลา | จะไปยังมหาปราสาทชัย |
จึงให้พระศรีเมืองเรืองยศ | พระโอรสสุดแสนพิสมัย |
ให้แต่งองค์ทรงเครื่องอันอำไพ | สระสรงสนานในมิทันนาน ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองเรืองเดชดังสุริย์ฉาน |
พระเข้าที่สรงสหัสนัทีธาร | นํ้าอบโอฬารกำจายจร |
ทรงสุคนธรังสีลูบไล้ | ฟุ้งไปด้วยพื้นเกสร |
สนับเพลาเรืองรามงามงอน | อลงกรณ์แจ่มจัดจำรัสองค์ |
ภูษิตวิจิตรโจงจังหวัด | จีบจัดชายเฟือยเลื้อยหางหงส์ |
ชายไหวปลายสะบัดบรรจง | ชายแคลงแสงส่งจินดาดี |
สังวาลเพชรเก็จแก้วกุดั่นดวง | โชติช่วงร่วงรุ้งรัศมี |
สร้อยสนวิมลรัตน์รูจี | ทับทรวงมณีนิลใน |
ตาบทิศวิจิตรจำรูญ | เกยูรระยับจับสุริย์ใส |
สอดทรงพาหุรัดตรัสไตร | ทรงกรอำไพแพรวพราย |
ทรงมหาพิชัยมงกุฎ | ผาดผุดดังดวงพระสุริย์ฉาย |
ขัดพระขรรค์ทรงศรกรกราย | มาถวายบังคมพระบิดา ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณมาลีเสนหา |
จึงให้พระราชธิดา | สระสรงคงคาในทันใด |
อันพระพี่เลี้ยงทั้งสี่องค์ | ให้ช่วยเข้าสีสรงสนานให้ |
ชาวแม่พนักงานนางใน | ให้จัดเครื่องไปถวายบุตรี ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณเกสรมารศรี |
บังคมสมเด็จพระชนนี | มาเข้าที่สระสรงคงคา ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ชำระสระสนานสำราญองค์ | ทรงสุคนธ์ปนปรุงกฤษณา |
กลิ่นกลบตลบโอฬาร์ | ผ่องผัดพักตราแจ่มจันทร์ |
พระสำอางสางสวยสนองเกศ | กวดกันพระจุเรศเฉิดฉัน |
ภูษิตวิจิตรพรายพรรณ | สะอิ้งองค์กุดั่นบรรจง |
สังวาลเพชรเก็จกิ่งพริ้งพราย | จำหลักลายทองฉลุกุก่ง |
สะพักกรองทองทอลออองค์ | ทรงสร้อยมรกตรจนา |
ตาบประดับทับถันพรรณราย | ทองกรสุกรีกลายซ้ายขวา |
พาหุรัดบรรจงอลงการ์ | ทรงมหาธำมรงค์เนาวรัตน์ |
ทรงโมฬีเกศเก็จกิ่ง | กรรเจียกจรยงยิ่งแจ่มจัด |
กุณฑลวิมลดอกไม้ทัด | จำรูญเรืองจำรัสรจนา |
ทรงเสร็จเสด็จลีลาศ | พี่เลี้ยงราชห้อมล้อมซ้ายขวา |
ทอดกรนวยนาดยาตรา | มาถวายบังคมพระชนนี ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพินทุทัตเรืองศรี |
ทั้งนางสุวรรณมาลี | สองกษัตริย์ยินดีปรีดา |
พระบิตุรงค์องค์พระโอรส | บทจรจากอาสน์อันเลขา |
พระชนนีนำพระบุตรีมา | พี่เลี้ยงซ้ายขวาก็ตามไป ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ ครั้นถึงเกยรัตน์มณี | มนตรีกราบเกล้าอยู่ไสว |
พระทรงยานุมาศอันอำไพ | สุกใสไพโรจน์รูจี |
พระศรีเมืองให้ทรงราเชนทร์แก้ว | อันเพริศแพรวจำรัสแสงศรี |
ฝ่ายองค์สมเด็จพระชนนี | ทรงสีวิกากาญจน์รจนา |
พระธิดาขึ้นทรงพระวอทอง | ปิดป้องกำบังซ้ายขวา |
สนมกรมในนานา | จ่าข้าเถ้าแก่แจจัน |
อีกทั้งนางท้าวเจ้านาย | เรียงรายเดินหน้านางสาวสรรค์ |
จึงให้เลื่อนเคลื่อนคลามาพลัน | พระกำนัลแห่ห้อมล้อมไป ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ ครั้นมาถึงหน้าปรางค์มาศ | อันโอภาสจำรัสแสงใส |
ให้เทียบราเชนทร์แก้วแววไว | ทั้งวอทองอำไพพระบุตรี |
ท้าวพินทุทัตสุริย์วงศ์ | กับองค์พระอัครมเหสี |
ให้สองกษัตริย์ธิบดี | จรลีขึ้นยังเบญจา ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | ชาวพ่อชีพราหมณ์พร้อมหน้า |
ทั้งบัณฑิตปโรหิตโหรา | พระยาราชครูพฤฒาจารย์ |
บ้างเข้าถวายอาเศียรพาท | สวดโศลกไสยศาสตร์มหาศาล |
รดนํ้าทำตามพิธีการ | อ่านพระเวทถวายชัยทั้งสองรา ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | จึงชาวเครื่องต้นพระภูษา |
ก็ถวายเครื่องทรงอลงการ์ | แก่สองกษัตราทันใด ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ครั้นแล้วสำเร็จเสร็จสรง | สองพระองค์ทรงภพเป็นใหญ่ |
จึงนำสองลูกยาคลาไคล | เข้าในปราสาทแก้วรูจี ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ให้นั่งเหนือแท่นทองกองแก้ว | อันลาดแล้วด้วยหนังราชสีห์ |
ภายใต้เศวตฉัตรมณี | สุริย์วงศ์พงศ์พีก็พร้อมใจ ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เวียนเอยเวียนเทียน | ให้เวียนไปตามพิธีไสย |
สุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ทั้งนั้นไซร้ | พระสนมกรมในนานา |
ราชครูผู้เฒ่าก็เรียงราย | รับแว่นเวียนไปซ้ายมาขวา |
ครั้นถ้วนเสร็จเจ็ดรอบโดยอัตรา | พระโหราให้ดับเทียนชัย |
แล้วโบกควันไปต้องสองกษัตริย์ | ศิวภัศม์จุณเจิมเฉลิมให้ |
ต่างองค์อำนวยอวยชัย | ให้สองกษัตริย์สวัสดี |
องค์พระบิตุเรศมารดร | ก็อวยพระพรชัยศรี |
ให้สององค์ทรงภพธาตรี | เป็นศรีพระนครสืบไป |
อันศัตรูหมู่มารปัจจามิตร | ทั่วทั้งทศทิศอย่าต่อได้ |
ให้รุ่งเรืองอิทธิ์ฤทธิไกร | ปรากฏในไตรโลกา |
อันโรคโรคาอย่ามาพาน | ให้ชนมานยืนร้อยพระวัสสา |
จงปกป้องครองราษฎร์ประชา | เป็นบรมผาสุกทุกราตรี |
แล้วให้ประโคมแตรสังข์ | กังสดาลบัณเฑาะว์อึงมี่ |
ทั้งฆ้องกลองดุริยางค์ดนตรี | อึงอินทเภรีนี่นัน |
(พอได้เพลาอุดมฤกษ์) | (เอิกเกริกแซ่ซ้องก้องสนั่น) |
(พนักงานการละเล่นทั้งนั้น)[1] | ก็เล่นขึ้นพร้อมกันในทันใด |
หกคะเมนไต่ลวดประกวดกัน | หุ่นประชันกับโขนโรงใหญ่ |
นางระบำรำฟ้อนละคอนใน | ก็ทอดกรอ่อนละไมไปมา ฯ |
ฯ ๑๘ คำ ฯ
๏ ครั้นเสร็จอภิเษกสองกษัตริย์ | ท้าวพินทุทัตวงศา |
ทั้งพระมเหสีโสภา | สุริย์วงศ์พงศาก็ยินดี |
ต่างองค์ต่างเสด็จลีลาศ | จากอาสน์สุวรรณอันเรืองศรี |
เข้ายังปรางค์รัตน์มณี | พระภูมีชื่นชมภิรมย์ใจ ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองรัศมีศรีใส |
พระสมสู่อยู่ด้วยทรามวัย | ในมนเทียรรัตน์รูจี |
แต่พะนึงคลึงเคล้าเย้ายวน | ชวนสนิทพิศวาสเกษมศรี |
ไม่นิราศคลาดคลาสักนาที | ได้หลายราตรีทิวามา |
พระมีจิตคิดถึงพระยาหงส์ | พระโฉมยงโศกสร้อยละห้อยหา |
จึงเสด็จลีลาศยาตรา | มายังบัลลังก์รัตนามัย |
ตรัสเรียกพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ | เข้ามาพาทีแถลงไข |
ว่าตัวน้องมาอยู่ในเวียงชัย | ก็ได้หลายราษราตรี |
แต่พระยาราชหงส์อันจงรัก | ยังสำนักพักอยู่ในสวนศรี |
ทั้งยายมาลาตามาลี | ก็มีคุณแก่น้องแต่เดิมมา |
บัดนี้การเราก็สำเร็จ | สรรพเสร็จดังความปรารถนา |
ควรปูนบำเหน็จแก่ยายตา | ด้วยเสื้อผ้าเงินทองเป็นรางวัล |
พี่เจ้าผู้มีอัชฌาสัย | จงรีบออกไปยังสวนขวัญ |
ให้หาสองเฒ่ามาเฝ้าพลัน | กับพระยาหงส์นั้นเข้ามา ฯ |
ฯ ๑๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงรับสั่งใส่เกศา |
ก็พากันรีบไคลคลา | ไปสวนมาลาในทันใด ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ครั้นถึงจึงบอกพระยาหงส์ | ว่าพระองค์ทรงสวัสดิ์เป็นใหญ่ |
รำลึกตรึกถึงคะนึงใน | ให้มารับไปพระพารา |
ทั้งสองตายายผู้ใจภักดิ์ | พระทรงศักดิ์คิดถึงเป็นหนักหนา |
ซึ่งได้มีคุณแต่หลังมา | ความชอบพ้นคณนาไป ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนี้รับสั่งให้ออกมา | หาสองยายตาไปจงได้ |
อย่าช้ามาจะเข้าไป | จะมีลาภใหญ่ทั้งสองรา ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | สองเฒ่าได้ฟังพี่เลี้ยงว่า |
ทั้งพระยาหงส์ราชสกุณา | ต่างตนปราโมทย์เป็นพ้นไป |
ตายายสำรวลสรวลร่า | ด้วยยินดีปรีดาแจ่มใส |
ตาเรียกยายเข้ายังห้องใน | เร็วเร็วเราจะไปอย่าได้ช้า |
จึงฉวยผ้าตาโถงนั้นเข้านุ่ง | เสวียนละว้าพันพุงโอ่อ่า |
ทาจันทน์แล้วใส่น้ำมันปลา | สะพายย่ามละว้าเข้าสมตัว |
ฝ่ายยายล้วงโอ่งน้ำมันยาง | ขยี้มือพลางแล้วเสยหัว |
ห่มผ้าตาระกอกมัวซัว | ผัวเมียก็พากันออกมา |
เดินตามพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ | หม่อมตามาลีนั้นขึ้นหน้า |
ทั้งพระยาหงส์ทองอันรจนา | ก็โผผินบินมายังวังใน ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระทรงภพจบสกลเป็นใหญ่ |
ครั้นเห็นสองเฒ่าเข้าทันใด | กับพระยาสกุไณก็ยินดี |
ยกพระหัตถ์มาตรัสปรามาส | ลูบโลมชมราชปักษี |
หรรษาปราโมทย์พันทวี | เสนหาสกุณีเป็นพ้นไป |
แล้วตรัสประภาษโอภา | แก่ยายตาอันมีอัชฌาสัย |
สองราอารีมีน้ำใจ | ได้ทำคุณไว้แต่หลังมา |
แล้วช่วยป้องกันอันตราย | ขอบใจตายายเป็นหนักหนา |
มิเสียทีมีจิตเมตตา | จะพรรณนาความชอบพันทวี |
ตรัสแล้วจึงให้พระราชทาน | ศฤงคารบริวารถ้วนถี่ |
เงินทองกองโกยมากมี | เสื้อผ้ากำมะหยี่แพรพรรณ |
ทั้งเครื่องใช้สอยน้อยใหญ่ | สารพัดจัดให้ทุกสิ่งสรรพ์ |
โคควายไร่นาสารพัน | ครบครันทั้งข้าหญิงชาย ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | สองเฒ่ากราบก้มบังคมถวาย |
ได้รับของประทานมากมาย | ตายายชื่นชมภิรมย์ใจ |
มีความยินดีปรีดา | พ้นที่จะอุปมาได้ |
จึงกราบทูลไปพลันทันใด | ซึ่งพระภูวไนยกรุณา |
ให้ประทานสิ่งของนองนันต์ | ทั้งเครื่องใช้แพรพรรณวัตถา |
ด้วยทรงพระราชเมตตา | แก่ข้าสองราบัดนี้ |
ขอยกเอาพระภูเบศร์ | ใส่ไว้เหนือเกศเกศี |
จะขอเอาบาทธุลี | ปกเกล้าข้านี้สืบไป |
ทูลแล้วถวายบังคมลา | ทั้งสองยายตาก็กราบไหว้ |
ให้ขนของจากท้องพระโรงชัย | ออกไปยังสวนอุทยาน ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองเรืองดังสุริย์ฉาน |
ครั้นค่ำย่ำสนธยากาล | พระภูบาลเข้าที่ไสยา |
จึงมีมธุรสพจนารถ | บัญชาประภาษปรึกษา |
ด้วยองค์อัคเรศชายา | ว่าแก้วตาของพี่คือดวงใจ |
ตัวพี่จำนงจงรัก | ในนงลักษณ์เยาวยอดพิสมัย |
อุตส่าห์บุกป่าพนาลัย | โยธาข้าใช้ก็ไม่มี |
แต่สี่พี่เลี้ยงผู้ร่วมใจ | เป็นเพื่อนยากมาในพนาศรี |
จนลุถึงราชธานี | บัดนี้ก็ได้ดังจินดา |
ส่วนพี่มีความผาสุก | แต่เพื่อนทุกข์มิได้หรรษา |
อันสี่พี่เลี้ยงนางกัลยา | ก็ร่วมคิดกิจจาเสมอกัน |
ควรสองครองตามประเพณี | ร่วมชีวีกันกว่าจะอาสัญ |
ตามที่มีความชอบนั้น | ขวัญเข้าจะเห็นประการใด ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณเกสรศรีใส |
ได้ฟังบัญชาพระภูวไนย | จึงทูลสนองไปมิได้ช้า ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ โปรดเกศ | ซึ่งพระทรงเดชปรึกษา |
เห็นต้องตามคลองบุราณมา | สุดแต่ผ่านฟ้าจะปรานี ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองผู้เรืองรัศมี |
ได้ฟังอัคเรศพาที | มีความชื่นชมภิรมย์ใจ |
พระยอกรตระกองประคององค์ | โฉมยงพี่ยอดพิสมัย |
มิเสียทีพี่รักนางทรามวัย | ดังดวงใจนัยน์เนตรก็เหมือนกัน |
ว่าพลางทางตระโบมโลมเล้า | เย้ายวนชวนชมเกษมสันต์ |
พาดพิงอิงแอบพัลวัน | จนพระสุริยันอโณทัย ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ครั้นรุ่ง | พวยพุ่งอรุณแรงแสงใส |
พระเสด็จลีลาคลาไคล | ยังท้องพระโรงชัยรูจี ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ พร้อมด้วยเสนาพฤฒามาตย์ | องค์พี่เลี้ยงราชทั้งสี่ |
จึงปรึกษามหาเสนี | ว่าสี่พี่เลี้ยงผู้ร่วมใจ |
เป็นเพี่อนยากมาจากพระพารา | ทนทุกข์ทรมาในป่าใหญ่ |
อันความขอบประกอบทั้งนี้ไซร้ | ควรจักให้ปันอันใดดี ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | เสนาประณตบทศรี |
จึงปรึกษากันทันที | แล้วทูลพระภูมีไป |
อันพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ | ภักดีต่อพระองค์เป็นใหญ่ |
ควรปูนบำเหน็จให้ถึงใจ | ตามในความชอบซี่งมีมา ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระทรงยศยิ่งทศทิศา ฯ |
ได้ฟังมหาเสนา | ปรึกษามาต้องทำนองใน |
พระเร่งไพบูลย์พูนสวัสดิ์ | จึงจัดสิ่งของประทานให้ |
อันสมบัติพัสถานทั้งนั้นไซร้ | พระรางวัลปันให้เสมอกัน |
ทั้งศฤงคารบริวารมากมี | ครบครันถ้วนถี่ทุกสิ่งสรรพ์ |
พระพี่เลี้ยงทั้งสี่นางนั้น | ก็ให้ครองกันตามประเวณี ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ครั้นเสร็จพระเสด็จยุรยาตร | จากอาสน์สุวรรณรังสี |
เข้ายังปรางค์รัตน์มณี | พระภูมีสุขเกษมเปรมปรา ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | ฝ่ายว่าสี่องค์พระเชษฐา |
ได้รับของประทานนานา | ทั้งวัตถาลังการ์ครบครัน |
ต่างตนยินดีปรีดา | ดังได้ฟากฟ้าเมืองสวรรค์ |
สมบัติพัสถานนองนันต์ | ชวนกันอยู่เป็นผาสุกใจ ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
[๑] ที่วงเล็บไว้ ต้นฉบับขาด