๑๓

ความอยากทำอะไรตามใจตนเอง หรือนัยหนึ่งความเห็นแก่ตัวอันเป็นสันดานของมนุษย์ปุถุชนนั้น จะปรากฏออกมามากหรือน้อย ก็สุดแต่โอกาสจะอำนวยให้ หรือสุดแต่ภาวะแวดล้อมจะกระตุ้น จะชักนำให้เป็นไป การใช้อำนาจก็เช่นเดียวกันเมื่อโอกาสได้เปิดให้บุคคลผู้ถืออำนาจ ใช้อำนาจได้โดยปลอดจากอุปสรรคหรือความหวั่นเกรงว่าจะเกิดผลร้ายแก่ตนเอง บุคคลก็มักจะมีความโน้มเอียงไปในทางที่จะใช้อำนาจนั้นตามใจตนเอง ความหวั่นเกรงว่าจะได้รับคำครหานินทาหรือความละอายว่าจะเป็นการผิดศีลผิดธรรม มักไม่มีกำลังพอที่จะต้านทาน และมักจะพ่ายแพ้ต่อโอกาสที่เปิดไว้ให้บุคคลทำอะไรได้ตามใจตนเอง เพราะว่าความอยากตามใจตนเองหรือความเห็นแก่ตัวของบุคคลนั้น เป็นเหมือนกระแสน้ำที่ไหลพุ่งลงมาจากที่สูง ย่อมต้องการที่ทางจะหลั่งไหลเป็นปกติธรรมดาอยู่แล้ว เมื่อมีช่องทางที่จะหลั่งไหลต่อไปได้ ก็จะมิละเว้นเลย เมื่อบุคคลได้รับโอกาสให้ใช้อำนาจตามความอยากตามใจตนเองได้เสียครั้งหนึ่ง โดยไม่เกิดผลร้ายหรือความเดือดร้อนแก่ตน อันเป็นผลเฉพาะหน้าแล้วเขาก็จะเกิดความเคยชินในการใช้อำนาจตามใจตนเอง เคยชินกับการใช้อำนาจปรนปรืออารมณ์ชั่วร้ายของตนเอง จนกระทั่งได้ตกลงไปในถังสุราแห่งอำนาจ

รัฐบาลคณะราษฎร ซึ่งได้ก่อตั้งระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาแทนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เมื่อได้ติดตั้งเครื่องยนต์กลไกของระบอบใหม่ด้วยน้ำใสใจจริงตามเจตนาเดิม อันเป็นเจตนาดีต่อประเทศชาติไปได้ระยะหนึ่ง ต่อมาเมื่อกำลังของเจตนาดีต่อประเทศชาติได้อ่อนลง เพราะขาดจิตใจอันมั่นคงในอุดมการของการปฏิวัติ และขาดความรู้อย่างถ่องแท้ในการดำเนินการตามเป้าหมายของการปฏิวัติ ประกอบกับเมื่อได้นั่งอยู่เหนือบัลลังก์แห่งอำนาจอันโอ่โถงนานเข้า ความคิดถึงตนเอง คิดถึงความรุ่งโรจน์ของตนเอง คิดถึงลาภยศและผลประโยชน์ของตนเอง ก็ค่อย ๆ แผ่ขยายออกไปในจิตใจของบุคคลบางส่วนในคณะนั้นและค่อย ๆ เบียดความคิดถึงประเทศชาติที่เคยมีที่อยู่อันกว้างขวางพอในจิตใจ ให้เหลือเล็กลงเป็นลำดับ อนึ่ง เมื่อได้ปราบพรรคพวกของอำนาจเก่าได้แล้วครั้งหนึ่ง และแน่ใจว่าไม่มีเสี้ยนหนามที่มีกำลังพอจะมาขัดขวางความอยากทำอะไรตามใจตนเองได้อีกแล้ว รัฐบาลก็ใช้อำนาจด้วยความตามใจตนเองยิ่งขึ้นเป็นลำดับ จนในที่สุด ก็ได้มีการจับกุมบุคคลที่รัฐบาลถือว่าเป็นศัตรูของรัฐบาล เป็นการจับกุมที่ก่อความตกตะลึงและตื่นเต้นขนานใหญ่ในวงการทั่วไป เพราะว่าในจำนวนผู้ที่ถูกจับในครั้งนั้น มีทั้งเจ้านายชั้นสูง, คนสำคัญในคณะราษฎรเองและผู้ทรงเกียรติคุณในวงราชการของระบอบเก่า

และในจำนวนนี้ มีศิริลักษณ์ เนติบัณฑิตหนุ่ม ซึ่งเพิ่งกลับจากอังกฤษได้ราวสองปีรวมอยู่ด้วย

นิทัศน์, จันทา, และเซ้งได้พบปะสอบถามข่าวและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับการจับกุมครั้งนี้ด้วยความวิตกกังวลในสถานการณ์ของบ้านเมือง ที่กำลังจะตีตนออกห่างจากหลักการประชาธิปไตยที่เขารักยิ่งขึ้นทุกวัน ชายหนุ่มทั้งสามได้เฝ้าติดตามความคลี่คลายของเหตุการณ์ด้วยความสนใจ นิทัศน์ได้นิทัศน์ได้พบกับท่านขุนวิบูลวรรณวิทย์และได้อภิปรายเรื่องนี้กับครูของเขา ครูก็ได้แต่จะกล่าวว่า มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจ และไม่เป็นคุณแก่ประชาธิปไตย แต่ครูก็ไม่อาจอธิบายเหตุการณ์ได้แจ่มแจ้งนัก ทั้งไม่อาจคาดเหตุการณ์ของอนาคตด้วย ดังนั้น ในค่ำวันหนึ่งเขาทั้งสามจึงไปชุมนุมอยู่ที่บ้านครูอุทัย เพื่อที่จะฟังข้อเท็จจริงและความเห็นของครู และเพื่อที่เขาจะแสดงความคิดเห็นของเขาแก่ครูด้วย เขามีข้อข้องใจในพฤติการณ์ของรัฐบาลอยู่หลายประการ เขาใคร่ที่จะอภิปรายข้อข้องใจของเขากับครูด้วย

บัดนี้ครูอุทัยได้มีครอบครัวแล้ว และได้ย้ายจากบ้านเช่ามาอยู่บ้านหลังใหม่ซึ่งเป็นบ้านของครูเอง มิตรสหายในคณะผู้ก่อการได้ตั้งหลักฐานและกำลังดำเนินไปสู่ฐานะของผู้มั่งคั่งหลายคนแล้ว แต่สำหรับครูอุทัยนั้นยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงชนิดกลับหน้ามือเป็นหลังมือ ครูยังคงดำเนินชีวิตตามแนวทางเดิม คือชีวิตที่ไม่ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ และยังคงทำงานด้วยจิตใจที่มั่นคงในอุดมการอยู่ แม้ครูจะได้พบว่ามิตรสหายในคณะของครูจะค่อย ๆ ปลีกตัวออกไปจากอุดมการของการปฏิวัติคนแล้วคนเล่า และโผเข้าหาความสุขสำราญส่วนตัว แล้วก็โอบรัดไว้อย่างไม่ยอมคลาย

ภายในห้องรับแขก ณ บ้านใหม่ของครูอุทัย มีโต๊ะเก้าอี้รับแขกที่สะอาดเรียบร้อย มีไฟฟ้าสว่างกว่าที่บ้านเดิม มีเครื่องตกแต่งที่เพิ่มความงามอย่างกระจุ๋มกระจิ๋ม เช่นกระถางต้นไม้ลายครามและภาพเขียนแสดงพุทธศิลป์ และภาพเขียนแสดงภูมิภาพในต่างประเทศรวมสองภาพ และมีชั้นใส่หนังสือที่เจาะเข้าไปในผนัง ไม่มีเครื่องตกแต่งที่หรูหราราคาสูง จันทาและเซ้งนั่งอยู่ด้วยกันบนเก้าอี้ยาว เก้าอี้ของนิทัศน์และของครูอุทัย รายรอบโต๊ะกลม บนโต๊ะมีป้านชาและถ้วยชาจีนสี่ถ้วยและจานใส่ขนมหวานสำหรับรับประทานกับน้ำชา แต่ในเวลานั้นยังไม่มีผู้ใดแสดงความสนใจในการที่จะรับประทานขนมเลย

“คุณครูครับ, ข่าวที่หนังสือพิมพ์ลงว่า ผู้ต้องหาคนหนึ่งที่ถูกคุมตัวมาจากภาคใต้ และในระหว่างทางได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมมายิงตาย เพราะพยายามจะหลบหนี และได้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่นั้น, ข่าวเรื่องนี้ประชาชนสงสัยกันมากครับ และก็ออกจะไม่เชื่อในคำแถลงของทางราชการ สิ่งที่เขาเชื่อนั้นคือ เพราะรัฐบาลถือว่าบุคคลผู้นั้นเป็นศัตรูของรัฐบาล และต้องการจะกำจัดเสีย แต่เมื่อไม่สามารถจะหาหลักฐานฟ้องร้องดำเนินแก่เขาได้ ตามทางของกฎหมาย ก็หาเรื่องยิงทิ้งเสีย คนโดยมากเชื่อกันอย่างนี้ทั้งนั้นแหละครับ” นิทัศน์พูด ตลอดเวลาที่พูดสีหน้าของเขาเคร่ง และคิ้วของเขาขมวด

“แล้วพวกเธอมีความเห็นว่ากระไร?” ครูอุทัยย้อนถาม

“เรื่องมันเกี่ยวกับข้อเท็จจริงครับ พวกผมก็ไม่อาจลงความเห็นได้ เพราะผมยังไม่ทราบรายละเอียดของเรื่อง และทางราชการก็ใช้วิธีการแถลงอย่างรวบรัด แต่พวกผมก็แคลงใจเหมือนกันครับ เมื่อพิจารณาพฤติการณ์บางอย่างของรัฐบาลในระหว่างนี้ ซึ่งเป็นไปในทางใช้อำนาจตามอำเภอใจ ยิ่งกว่าจะเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย”

“ในเรื่องนี้ ครูก็ให้ความกระจ่างไม่ได้มากไปกว่าที่เธอเข้าใจ” ครูอุทัยตอบ

“ทางหนังสือพิมพ์ของเรา ได้รับจดหมายจากผู้อ่านหลายรายครับ, คุณครู มีข้อความตรงกันว่า เขาไม่เชื่อถือคำแถลงของทางราชการ” เซ้งเสริม “เขาเชื่อกันว่าตำรวจยิงทิ้งผู้ต้องหา เรื่องนี้กระทบกระเทือนชื่อเสียงของรัฐบาลมาก”

“เรื่องที่กระทบกระเทือนชื่อเสียงของรัฐบาลนั้น มันเกิดขึ้นหลายเรื่องแล้วแหละเธอ จนดูเหมือนว่าพวกรัฐบาลเองก็จะชินๆ กันไป” ครูอุทัยพูดอย่างอ่อนใจ

“มีข่าวว่าจะตั้งศาลพิเศษพิจารณาคดีนี้ ถ้ารัฐบาลจัดตั้งศาลพิเศษขึ้นแล้ว รัฐบาลก็จะเลือกเอาพวกของรัฐบาล เป็นผู้พิพากษาคดีเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นว่า โจทก์ได้เป็นผู้พิพากษาคดีนี้เสียเอง” จันทาปรารภขึ้น

“ครูไม่เห็นด้วยเลยในการตั้งศาลพิเศษ พิจารณาคดีที่ไม่มีลักษณะพิเศษอะไรเลย” ครูอุทัยตอบ พร้อมกับสั่นศีรษะ “ไม่ทราบว่าเขาเห็นดีเห็นชอบกันไปได้อย่างไร”

“นี่เป็นการล้มล้างระบบความยุติธรรม” นิทัศน์วิพากษ์ “นี่ไม่เพียงเป็นข้อสงสัย เช่นเดียวกับเรื่องยิงทิ้งผู้ต้องหาเสียแล้วนะครับ มันเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะได้กระทำกันจริง ๆ ทีเดียว ใครๆ ย่อมเห็นได้ว่าผู้ต้องหาว่ากระทำผิดทางการเมือง จะไม่ได้รับหลักประกันความยุติธรรมจากรัฐบาลนี้เลย ผมได้ยินนักกฎหมายพูดกันเช่นนี้ทั้งนั้นแหละครับ”

“การที่ต้องการให้ตั้งศาลพิเศษเขาไม่ใช้บทกฎหมายนี่เธอ” ครูอุทัยพูดอย่างแตกดัน

“ผู้อ่านคนหนึ่งเขาเขียนมาว่า บ้านเมืองของเรากำลังจะดำเนินไปสู่ความไม่มีเสรีภาพ” เซ้งยืมคำของผู้อ่านมาตั้งเป็นข้อสังเกต

“ผมเกรงว่า ด้วยวิธีการเช่นนี้ จำเลยในคดีนี้จะไม่รอดอาชญาไปได้สักคนเดียว” นิทัศน์พูดด้วยน้ำเสียงแสดงความสลดใจ

“น่าสงสารศิริลักษณ์” จันทาเสริม

“คุณครูครับ ทำไมพวกผู้ก่อการที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่ไม่ชอบด้วยทำนองคลองธรรมเช่นนี้ จึงไม่พากันทัดทาน?” นิทัศน์ถามด้วยความข้องใจ

“พวกที่ไม่เห็นด้วย ส่วนมากเป็นพวกพลเรือน เวลานี้อำนาจการปกครองบ้านเมืองอยู่ในมือของพวกทหาร”

“เวลานี้ บ้านเมืองของเราก็ปกครองตามแบบเผด็จการ โดยคณะทหาร และไม่ใช่ปกครองตามแบบประชาธิปไตยน่ะซีครับ”

“ถ้าจะพูดกันตรง ๆ ครูก็เห็นว่ามันกระเดียดไปในทางเผด็จการมากกว่าจะเป็นไปในทางประชาธิปไตย ในระยะสองสามปีมานี้ ครูเห็นว่ามีเหตุการณ์ที่ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่นการห้ามจำหน่ายหนังสือบางเล่ม ที่นอกจากจะไม่เป็นภัยแก่ระบบประชาธิปไตยแล้ว ยังเป็นหนังสือที่ส่งเสริมประชาธิปไตยเสียด้วยซ้ำ การห้ามนั้นเกิดจากความเขลาของผู้มีอำนาจและยังมีการขัดขวางความเคลื่อนไหวของพวกกรรมกรที่จะปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของเขาให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นความชอบธรรมอย่างยิ่งของพวกกรรมกร ฝ่ายตำรวจก็ได้ทำตนเป็นเครื่องมือของพวกนายจ้าง และยังมีการคุกคามเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อีก สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่แสดงถึงจิตใจที่เหลือเดนมาจากระบบเก่า ซึ่งยังกวาดล้างไม่หมด และกำลังจะได้รับการบำรุงให้งอกงามต่อไป สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเสี้ยนหนามของประชาธิปไตย ถ้าไม่กวาดล้างให้ไปหมดแล้ว ก็เป็นการยากที่ประชาธิปไตยจะงอกงามต่อไปได้”

“ในด้านการทำนุบำรุงราษฎรให้ได้รับความสะดวกสบายในชีวิตเพิ่มขึ้น ก็มีเสียงบ่นกันหนาหูว่า รัฐบาลไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ รัฐบาลมัวไปสนใจอยู่แต่ในการบำรุงกิจการทหาร แต่ในด้านเศรษฐกิจ และการศึกษารัฐบาลมิได้ให้ความสนใจ สมตามน้ำหนักคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อประชาชนในวันปฏิวัติ ชีวิตของพวกชาวนาและกรรมกรก็ยังคงอยู่ในภาวะเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าเก่าเลยเช่นนี้ครูมีคำชี้แจงที่มีเหตุผลที่จะกล่าวแทนรัฐบาลบ้างไหมครับ?” นิทัศน์ถาม

“ครูเองก็ต้องการจะถามรัฐบาลด้วยคำถามเช่นเดียวกับที่เธอได้ตั้งขึ้นถามครูเหมือนกัน” ครูอุทัยตอบ “ครูคิดว่า คำชี้แจงที่เธอต้องการจะฟังจากรัฐบาลนั้น ถ้าหมายถึงคำชี้แจงที่มีเหตุผลแล้ว รัฐบาลก็เห็นจะหาได้ยากเหมือนกัน”

“เดี๋ยวนี้ ครูพอจะตอบได้ไหมครับว่า การปฏิวัติที่ได้กระทำกันนั้น คณะราษฎรได้กระทำเพื่อราษฎรหรือเพื่อใคร?” จันทาถาม

ครูยกมือขึ้นกุมขมับทั้งสองข้าง และพูดช้าๆ

“ครูคิดว่า ในชั้นแรกผู้ที่เข้าร่วมในการปฏิวัติทุกคน ก็คงมีความตั้งใจที่จะทำการปฏิวัติเพื่อประชาชน ผลที่ปรากฏในเวลานี้ ก็ดูจะไม่ตรงกับเป้าหมายเสียแล้ว”

“คุณครูครับ พวกเราไม่เข้าใจเลยว่า ศิริลักษณ์ถูกจับเพราะเหตุอะไร?” เป็นคำถามของเซ้ง สีหน้าของเขาแสดงความสงบในดวงตาของเขามีแววแห่งความเห็นใจเห็นใจ “เท่าที่เราทราบ ศิริลักษณ์ได้เขียนความเห็นไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางฉบับ เรื่องของเขาโดยมากเป็นเรื่องของประชาธิปไตย เขาเคยตำหนิพฤติการณ์บางอันของรัฐบาลว่ามีท่าทีไปในทางเผด็จการ—”

นิทัศน์ได้พูดสอดขึ้นว่า

“ครั้งหนึ่ง เมื่อศิริลักษณ์พบกับผม เขาบอกผมว่า ท่านผู้ใหญ่บางคนที่ทราบว่าเขาเขียนความเห็นไปลงหนังสือพิมพ์ ได้เตือนเขาว่า รัฐบาลไม่ชอบให้ใครตำหนิว่ารัฐบาลปกครองแบบเผด็จการ และเราก็มีความเห็นตรงกันว่า เราจำเป็นต้องเขียนไปตามความเป็นจริง ถ้ารัฐบาลไม่ชอบให้ใครพูดถึงรัฐบาลในสิ่งที่ไม่ดี รัฐบาลก็จะต้องไม่ทำในสิ่งนั้น รัฐบาลต้องแก้การกระทำของรัฐบาล ไม่ใช่มาเรียกร้องให้เราแก้การเขียนหนังสือของเราที่เขียนไปตามความเป็นจริง”

และเซ้งได้เสริม

“แต่ถึงอย่างไรก็ดี ความเห็นของศิริลักษณ์ก็ยังไม่หนักเท่าความเห็นของนิทัศน์ที่เขียนอย่างตรงไปตรงมาในหนังสือพิมพ์ของผม และยังเบากว่าความเห็นของหนังสือพิมพ์อื่น ๆ ในเรื่องเดียวกัน ทำไมศิริลักษณ์จึงถูกจับ?”

“ครูก็เสียใจมากที่ศิษย์ที่รักของครูต้องถูกจับ” ครูพูดด้วยความจริงใจ “แต่เท่าที่ครูได้รับคำบอกเล่า การจับกุมศิริลักษณ์ประกอบด้วยเหตุหลายอย่าง ครูมิได้เห็นด้วยกับข้ออ้างเหล่านั้น แต่จะกล่าวตามที่เขาว่าเมื่อเรียนอยู่ในอังกฤษ ศิริลักษณ์เคยพูดติเตียนรัฐบาลคณะราษฎรว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เขาว่าศิริลักษณ์พูดด้วยความรู้สึกเจ็บแค้น ที่ครอบครัวของเขาและตัวเขาเสียประโยชน์จากการปฏิวัติ เขาว่าข้อวิพากษ์รัฐบาลของศิริลักษณ์ ไม่ใช่ข้อวิพากษ์ที่มีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่หมาย แต่เป็นข้อวิพากษ์ที่ระบายความขมขื่นของเขา และมีผลประโยชน์ของชนชั้นสูงเป็นที่หมาย ศิริลักษณ์เคยเขียนเรื่องการปฏิวัติล้มระบอบกษัตริย์ในประเทศอังกฤษแล้วกล่าวติเตียนพวกรัฐสภาที่มีครอมเวลเป็นหัวหน้า และเปนพวกที่ล้มระบอบกษัตริย์ว่า เมื่อล้มกษัตริย์แล้ว พวกใหม่ก็ปกครองแบบเผด็จการ ในที่สุด ประชาชนก็ทนไม่ได้กลับหันไปหาการปกครองแบบมีกษัตริย์อีก การแสดงความรู้ความเห็นเช่นนี้ เขาว่าเป็นการแสดงอย่างมีเลศนัย และเขาไม่เชื่อว่า จะเป็นการแสดงความเห็นเพื่อประชาธิปไตยโดยสุจริตใจ”

“แต่การปฏิบัติของรัฐบาลที่มีท่าทีไปในทางเผด็จการเช่นในเวลานี้จะเรียกว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อประชาธิปไตยโดยสุจริตใจ ก็เรียกไม่ได้เหมือนกันใช่ไหมครับ?!” นิทัศน์แย้ง

“ก็ถูกของเธอ” ครูอุทัยยอมรับ

เซ้งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ และด้วยท่าทีอันเยือกเย็น

“กรณีนี้ เราก็ยังไม่ทราบว่าศิริลักษณ์ได้แสดงความเห็นของเขาโดยความสุจริตใจ แต่สมมุติว่าเขาแสดงความเห็นโดยไม่สุจริตใจ ฝ่ายรัฐบาลซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้ไม่สุจริตใจอยู่แล้ว จะมี สิทธิไปกล่าวหารือแสดงความสงสัยในความสุจริตใจของผู้อื่นได้หรือครับ?” เขามองดูครูด้วยดวงตาที่ดื่มเอาความดีงามไว้อย่างเต็มเปี่ยม “มีคำสอนในพระคัมภีร์ว่า คนชั่วย่อมไม่มีสิทธิที่จะตั้งข้อกล่าวหาและลงอาชญาความชั่วของผู้อื่น”

ครูอุทัยยิ้ม พลางพยักหน้ารับรองถ้อยคำอันชอบธรรมของเขา และจันทาได้แสดงข้อสังเกตของเขาทางวิชากฎหมาย

“ความผิดทางอาญานั้น จะต้องประกอบด้วยองค์ความผิดที่กฎหมายได้บัญญัติไว้อย่างครบถ้วน ศิริลักษณ์จะเขียนด้วยความในใจอย่างไรนั้น ไม่เป็นเหตุที่ตำรวจจะไปจับกุมและตั้งข้อกล่าวหาแก่เขาได้ ตำรวจจะต้องมีหลักฐานประกอบข้อหาตามสมควร”

“ในเรื่องนี้ ทางฝ่ายจับกุมเขาจะมีหลักฐานอะไรอีก ครูก็ไม่ทราบ ได้ยินแต่เขากล่าวกันว่า ศิริลักษณ์ได้ไปเฝ้าเจ้านายบางองค์ที่ถูกจับในคราวนี้เป็นครั้งคราว และหนังสือพิมพ์ที่เขาส่งเรื่องลงพิมพ์ ก็เป็นหนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนพวกเจ้า แต่ทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องการติดต่อโดยปกติธรรมดาก็ได้ อาจเป็นเรื่องที่ระแวงสงสัยกันไปโดยไม่มีมูลความผิดอะไรเลยก็ได้ ถ้าศิริลักษณ์ถูกฟ้อง เขาก็มีโอกาสต่อสู้ป้องกันตนในศาล แต่น่าเสียดายที่มันเป็นศาลพิเศษ--”

ครูอุทัยถอนใจ ในขณะที่นิทัศน์ได้โพล่งออกมาว่า

“ต่อสู้ในศาล ที่โจทก์ขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ของผู้พิพากษาเสียเองน่ะหรือครับ?”

“ก็คงเป็นการต่อสู้ชนิดที่เรียกว่าถูกมัดมือชก” จันทาเสริม

“ถ้าศิริลักษณ์ถูกฟ้อง และถูกพิพากษาจำคุก ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก” เซ้งปรารภ “เขาเพิ่งแต่งงานได้ปีเดียว”

ความสงัดบังเกิดขึ้นในที่ชุมนุมขณะหนึ่ง สีหน้าของทุกคนสลดลง ในที่สุดมีเสียงเบา ๆ ของครูอุทัยแหวกความเงียบขึ้นมา

“เราก็ได้แต่จะคอยดูกันไป”

“ผลของคำพิพากษาคดีเรื่องนี้จะเป็นคำประกาศให้ประชาชนทราบว่า รัฐบาลได้ตกลงใจหย่าขาดจากประชาธิปไตยแน่นอนหรือยัง” นิทัศน์ตั้งข้อสังเกต.

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ