ฉากที่ ๓

ท้องพระโรง, กรุงหัสดิน

(ท้าวทุษยันต์นั่งอยู่บนแท่น, มีร่มขาวปักกั้น, มหาดเล็กอยู่งานแส้จามรีคน ๑, อยู่งานพัดคน ๑, กับมีขุนนางนั่งเฝ้าอยู่ตามตำแหน่ง. แล้ววาตายนจึ่งออก, คลานเฃ้าไปถึงน่าที่นั่งและถวายบังคม.)

เจรจา

วาตายน ขอเดชะ, มีพราหมณ์มาสองตน,
  กับนารีสองคน, คนหนึ่งผู้ใหญ่,
  อีกคนสาว, กล่าวว่ามาแต่ไกล
  จะขอเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท
  บรมนาถจอมนรามหาศาล,
  รับฉันทะองค์พระกัณวาจารย์.
  สุดแท้แต่ภูบาลจะปราณี.
ทุษยันต์์ เออ, จงบอกโสมราตปุโรหิต
  ให้ทำกิจประจุคมสมควรที่.
  แล้วรีบเชิญเฃาเฃ้ามาในนี้.
วาตายน พิจะฃ้า.
ทุษยันต์์ อย่าช้าที, เชิญเฃามา.

(วาตายนเฃ้าโรงไปนำโสมราตปุโรหิต, โคตมีพราหมณี, ศกุนตลากับพราหมณ์ทั้ง ๒ ออกมา, และต่างคนนั่งตามที่อันควร, คือโสมราตกับวาตายนไปนั่งคู่กันที่หัวแถวขุนนาง, และโคตมี, ศกุนตลา, กับ ๒ พราหมณ์นั่งต่อลงมาเปนลำดับ.)

บทร้อง-ทุษยันต์ กับ พราหมณ์

(เขมรปากท่อ)

ทุษยันต์์ ๏ ดูก่อนสองพราหมณ์และนารี
  ท่านมาครานี้ในแนวป่า
  เปนที่เกษมสุขทุกเวลา
  หรือว่ามีเหตุอนาทร
พราหมณ์ เทวะ! อันพระบารมี
  ปกเกล้าเกศีสโมสร
  เดินทางกลางป่าพนาดร
  บมิได้เดือดร้อนอย่างใด
ทุษยันต์ ตัวท่านเปนทูตพระดาบส
  พระทรงพรตอยู่ดีหรือไฉน
  หรือว่ามีเหตุเกทภัย
  ร้ายดีอย่างใดแจ้งคดี
พราหมณ์ ณ อาศรมรมยาในอารัณย์
  เปนที่เกษมสันติ์สุขี
  องค์พระกัณวะมุนี
  เธอนั้นอยู่ดีไม่มีภัย
  เธอให้พาธิดาโฉมฉาย
  มาถวายทรงฤทธิ์อดิศัย
  อีกทั้งสั่งทูลพระทรงชัย
  ขอให้ทรงสดับวาจา ฯ

บทร้อง-พราหมณ์

(สามไม้ใน)

  ๏ พระจันทรวงศ์ทรงขรรค์
  กับนางนวลจันทร์เสนหา
  ได้ร่วมรักสมัคสมานมา
  พระสิทธายินยอมด้วยยินดี
  พระภูมินทร์เปนปิ่นโปรพ
  เกียรติตระหลบทั่วธรณีศรี
  โฉมศกุนตลานารี
  คือสัตรีผู้ยอดนงคราญ
  พระพรหมาเมตตาทั้งสองศรี
  จึ่งบันดาลสวัสดีสองสมาน
  ขอพระองค์จงรับเยาวมาลย์
  ไว้ฐานชายาร่วมฤทัย ฯ

บทร้อง-ทุษยันต์

(นาคราช)

  ๏ ประหลาดเหลือ
  ไม่น่าเชื่อว่าจะเปนเช่นนี้ได้
  ยิ่งแลดูโฉมงามทรามไวย
  ยิ่งมีใจฉงนสนเท่ห์นัก
  นี่แน่พราหมณ์มีความเฃ้าใจผิด
  เราเพ่งพิศนางดูไม่รู้จัก
  จริงแล้วโฉมยงนงลักษณ์
  ผ่องพักตร์ผิวพรรณดังจันทรา
  แต่กษัตร์ฤๅว่าจะเปนชู้
  ชิงคู่ชายอื่นเสนหา
  ที่จริงนางงามครันเปนขวัญตา
  แต่จะเคยเห็นหน้านั้นไม่มี
  ตัวเราเปนเผ่าพงศ์กษัตริย์
  จะรับนางเซซัดไม่ควรที่
  ไฉนพราหมณ์ตู่เล่นกันเช่นนี้
  ฃ้ามิใช่สามีของนวลจันทร์ ฯ

บทร้อง - โคตมี

(แป๊ะสองชั้น)

  ๏ ฃ้าแต่ภูวเนตร์เดชกำแหง
  หม่อมฉันจะทูลแถลงไม่แสร้งสรร
  ขอพระองค์ทรงคนึงถึงครานั้น
  เมื่อทรงธรรม์เสด็จไปในพงพี
  ได้เสด็จไปสู่พระอาศรม
  อันรื่นรมย์ของพระมหรรษี
  ทรงประสบพบตัวแม่สาวนี้
  ริมฝั่งมาลินีชลธาร
  ได้ทรงชวนภิรมย์สมสอง
  เปนคู่ครองร่วมรักสมัคสมาน
  สมรสอย่างคนธรรพสรรพสราญ
  ขอภูบาลรำฦกให้จงดี ฯ

เจรจา

ทุษยันต์ เอ๊ะ ! อย่างไร ?
  อัศจรรย์เหลือใจ ! ไฉนนี่ ?
โคตมี พระองค์วายพระเมตตาต่อนางนี้,
  จะขับไล่ไม่ใยดีรับรอง.
  ดูจะผิดคลองธรรมจริยา
  แห่งราชาเชื้อกษัตริย์ทั่วทั้งผอง.
ทุษยันต์ ขออภัยเถิดพราหมณ์. ความมุ่งปอง
  ของท่านกล่าวเช่นนี้มีอย่างไร ?
โคตมี เช่นนั้นสิ ! พระองค์ผู้ทรงราชย์
  ก็มัวเมาในอำนาจอันเปนใหญ่,
  จนทรงลืมธรรมะ, พระหฤทัย
  ก็อาจพลิกแพลงไปได้ทุกทาง.
ทุษยันต์ ดูหรือพราหมณ์ !
  ช่างกล่าวความเหิมหาญ, ท่านพูดขวาง.
  แต่ท่านเปนพราหมณ์ชีมีเวทางค์,
  จะพูดพรางแพลงพลิกกระดิกไป
  เราก็จำต้องนิ่ง, กริ่งเกรงบาป.
  ท่านพูดหยาบเราก็งดอดโทษให้
โคตมี นี่แน่ศกุนตลาจงว่าไป,
  ทูลเองบ้างเปนไร, ลองดูที.

บทร้อง - ศกุนตลา

(คำหวาน)

  ๏ โอ้ว่าทรงภพโปรพราช
  องอาจดังพระยาราชสีห์
  เสด็จยังฟากฝั่งมาลินี
  แทบที่สำนักสิทธาจารย์
  รื่น ๆ ชื่นจิตติดนาสา
  หอมกลิ่นมัลลิกาอ่อนหวาน
  ภุมรินกลั้วกลิ่นสุคนธาร
  กลิ่นประสานรสรักสมัคกัน
  โอ้ว่าบุษบากลื่นหอมโหย
  มาราโรยราวสิ้นยามวสันต์
  โอ้รักหักได้ในเร็วพลัน
  ยังมิทันจะได้กี่เดือน

(โอ้ปี่)

  ๏ โอ้ศกุนตลานิจจาเอ๋ย
  กระไรเลยอาภัพยิ่งกว่าเพื่อน
  เสียแรงรักมั่นใจไม่แชเชือน
  รักมาเลือนลับไปไม่นำภา ฯ (โอด)

บทร้อง-ทุษยันต์

(พราหมณ์ดีดน้ำเต้า)

  ๏ เก่งจริง
  เปนยอดหญิงแสนกลพ้นจะหา
  นางนี้ช่างพูดเต็มประดา
  กลางป่าใครฝึกฝนนาง
  ดูดู๋ชุลมุนวุ่นวาย
  ช่างไม่นึกลอายใจบ้าง
  ขอเลิกกันเท่านี้ทีเดิดนาง
  จะเปนอย่างเยี่ยงชั่วต่อไป ฯ

เจรจา

ศกุนตลา ราชะ !
  จะว่าฃ้าแกล้งกล่าวเล่นไฉน ?
  ฃ้ามีธำมรงค์ของทรงชัย
  ประทานไว้เพื่อเปนพยานรัก.
  (แลดูนิ้วไม่เห็นแหวน, ตกใจ. พูดกับโคตมี.)
  ตายจริงป้า ! ตูฃ้ายังจำได้,
  นิ้วนี้ไซร้สรวมแหวนของทรงศักดิ์;
  แหวนหายไปเมื่อไร, เอะใจนัก !
  ใครแอบลักเอาไป ?
โคตมี ไม่ได้การ !
  ตลอดทางเวลาเดินป่าดง
  ป้ายังเห็นธำมรงค์อยู่นะหลาน;
  ป้าได้คอยระวังกลางทางกันดาร
  จนถึงศักราวะตารศาลเทวัน.
  หล่อนวักน้ำยุมะนามารดเศียร
  ที่ตำบลศะจิเตียรถ์, และที่นั่น
  ธำมรงค์ขององค์พระทรงขรรค์
  คงหลุดตกไปพลันในท้องธาร.
ทุษยันต์ (ตบมือหัวเราะ) น่าขัน !
  ช่างนัดกันมาตู่ดูเหิมหาญ,
  ชะ ๆ เก่งแท้, แม่ตัวการ,
  องค์พยานของเจ้าลืมเอามา !
  เจ้าอยากได้ราชาเปนสามี
  จึงแสร้งแต่งวาทีเหิมกล้า;
  รูปร่างกระทัดรัดไม่ขัดตา,
  เสียแต่บ้ากามาไม่มีอาย !

บทร้อง -ศกุนตลา

(โอ้โลมนอก)

  ๏ ทรงภพ
  ผู้ปิ่นโปรพฦๅสาย
  พระองค์เองไม่มียางอาย
  พูดง่ายย้อนยอกกลอกคำ
  มาหลอกดมชมเล่นเสียเปล่า ๆ
  ทิ้งฃ้าคอยสร้อยเศร้าทั้งเช้าค่ำ
  เด็ดดอกไม้ไปดมชมจนช้ำ
  ไม่ต้องจดต้องจำนำภา
  เหมือนผู้ร้ายย่องเบาเฃ้าลักทรัพย์
  กลัวเฃาจับวิ่งปร๋อไม่รอหน้า
  จงทรงพระเจริญเถิดราชา
  ฃ้าขอลาแต่บัดนี้ไป ฯ

บทร้อง-ทุษยันต์์

(ศัพท์ไท)

  ๏ ดูซี
  นางคนนี้พูดจาเปนบ้าใหญ่
  ยิ่งนิ่งฟังไป ขัดใจยิ่งทวี
  นี่แน่ฟังเรา ยายเถ้าพราหมณี
  อีกทั้งสองชี ที่พานางมา
  อันนางคนนี้ นารีแพศยา
  พาไปเสียนา หาไม่เคืองกัน ฯ

เจรจา

โสมราต เทวะ!
  จงทรงพระกรุณา, อย่าหุนหัน.
  ฃ้าขอกราบทูลเตือนพระทรงธรรม์,
  อันพระราชครูโหราจารย์
  ได้กราบทูลทำนายถวายไว้
  ว่าพระองค์ทรงชัยมหาศาล
  จะได้มีโอรสยอดกุมาร
  เปนภูบาลจักรพรรดิครองปัถพี.
  บัดนี้นางศกุนตลาวิลาวัณ
  ก็ทรงครรภ์, ฃ้าขอรับโฉมศรี
  ไปอยู่ยังเคหากว่าเทวี
  จะมีบุตร์บุญปลอดคลอดออกมา.
  ถ้าบุตร์ต้องลักษณะมหาบุรุษ
  มีลายกงจักร์ผุดสุดสง่า
  ขึ้นที่ทั้งสองหัดถ์และบาทา,
  ตูฃ้าจะเคารพอภิวันทน์.
  จะเห็นว่านางนั้นเปนเทวี,
  มเหษีแห่งองค์พระทรงขัณฑ์
  แล้วจะเชิญโฉมเฉลาเสาวพรรณ
  รีบผายผันเฃ้าสู่มณเฑียรทอง.
  แต่ถ้าแม้กุมารที่คลอดใหม่
  บมิได้มีลักษณะต้อง
  ตามแบบมหาบุรุษสุดทำนอง,
  ฃ้าจะต้องจัดนางส่งคืนไป.
ทุษยันต์ ปุโรหิต.
  แม้ท่านยังมีจิตคิดสงสัย,
  จะรับนางไปเหย้า, เราตามใจ.
  เรามอบให้เสร็จสิ้นดังจินดา.
โสมราต เอวํ เทวะ!

(โคตมี, ศรรณคะรพ, ศารัทวัต ถวายบังคมท้าวทุษยันต์แล้ว, โสมราตก็พาออกจากหน้าที่นั่ง. พิณพาทย์ทำพราหมณ์ออก, พราหมณ์และนางเฃ้าโรง. รัว. เสียงคนเอะอะอย่างแสดงความประหลาดใจ, และโสมราตรีบออกมา, คลานเฃ้าไปเฝ้าถวายบังคมทูล.)

โสมราต เทวะ!
  ขอเดชะพระบารมีปกเกศฃ้า,
  เมื่อกี้นี้ที่กลางพระชลา
  ได้เกิดเหตุเห็นน่าอัศจรรย์.
  ฃ้าพระบาทนำนางศกุนตลา
  ออกจากหน้าพระที่นั่งพระทรงขัณฑ์.
  แลเห็นได้ถนัดตาว่านางนั้น
  มีทุกข์ศัลย์โศกพ้นพรรณนา.
  ฃ้าจึ่งตั้งสัตย์อธิษฐาน
  ขอให้เทพบันดาลประจักษ์ว่า
  ถ้าแม้นางกล่าวจริงทุกสิ่งมา
  พอขาดคำก็ถนัดมหัศจรรย์
  เวหาคลุ้มชะอุ่มควันเหมือนเมฆฝน,
  แล้วมีนางฟ้ามาจากเบื้องบน
  โอบอุ้มองค์นฤมลลี้ลับไป.
ทุษยันต์ เออ ! ก็อัศจรรย์เปนหนักหนา.
  ดูคลับคล้ายคลับคลาแทบจำได้
  แต่นางหายไปแล้วก็แล้วไป,
  เปนหมดท่วงหมดใยเสียสักที.

(ลุกจากเตียง. พิณพาทย์ทำเสมอ. ฃ้าราชการถวายบังคม. ท้าวทุษยันต์รำหมดท่าแล้วหายเฃ้าโรง.)

ปิดม่าน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ