ท้องพระโรง, กรุงหัสดิน
(ท้าวทุษยันต์นั่งอยู่บนแท่น, มีร่มขาวปักกั้น, มหาดเล็กอยู่งานแส้จามรีคน ๑, อยู่งานพัดคน ๑, กับมีขุนนางนั่งเฝ้าอยู่ตามตำแหน่ง. แล้ววาตายนจึ่งออก, คลานเฃ้าไปถึงน่าที่นั่งและถวายบังคม.)
เจรจา
วาตายน |
ขอเดชะ, มีพราหมณ์มาสองตน, |
|
กับนารีสองคน, คนหนึ่งผู้ใหญ่, |
|
อีกคนสาว, กล่าวว่ามาแต่ไกล |
|
จะขอเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท |
|
บรมนาถจอมนรามหาศาล, |
|
รับฉันทะองค์พระกัณวาจารย์. |
|
สุดแท้แต่ภูบาลจะปราณี. |
ทุษยันต์์ |
เออ, จงบอกโสมราตปุโรหิต |
|
ให้ทำกิจประจุคมสมควรที่. |
|
แล้วรีบเชิญเฃาเฃ้ามาในนี้. |
วาตายน |
พิจะฃ้า. |
ทุษยันต์์ |
อย่าช้าที, เชิญเฃามา. |
(วาตายนเฃ้าโรงไปนำโสมราตปุโรหิต, โคตมีพราหมณี, ศกุนตลากับพราหมณ์ทั้ง ๒ ออกมา, และต่างคนนั่งตามที่อันควร, คือโสมราตกับวาตายนไปนั่งคู่กันที่หัวแถวขุนนาง, และโคตมี, ศกุนตลา, กับ ๒ พราหมณ์นั่งต่อลงมาเปนลำดับ.)
บทร้อง-ทุษยันต์ กับ พราหมณ์
(เขมรปากท่อ)
ทุษยันต์์ |
๏ ดูก่อนสองพราหมณ์และนารี |
|
ท่านมาครานี้ในแนวป่า |
|
เปนที่เกษมสุขทุกเวลา |
|
หรือว่ามีเหตุอนาทร |
พราหมณ์ |
เทวะ! อันพระบารมี |
|
ปกเกล้าเกศีสโมสร |
|
เดินทางกลางป่าพนาดร |
|
บมิได้เดือดร้อนอย่างใด |
ทุษยันต์ |
ตัวท่านเปนทูตพระดาบส |
|
พระทรงพรตอยู่ดีหรือไฉน |
|
หรือว่ามีเหตุเกทภัย |
|
ร้ายดีอย่างใดแจ้งคดี |
พราหมณ์ |
ณ อาศรมรมยาในอารัณย์ |
|
เปนที่เกษมสันติ์สุขี |
|
องค์พระกัณวะมุนี |
|
เธอนั้นอยู่ดีไม่มีภัย |
|
เธอให้พาธิดาโฉมฉาย |
|
มาถวายทรงฤทธิ์อดิศัย |
|
อีกทั้งสั่งทูลพระทรงชัย |
|
ขอให้ทรงสดับวาจา ฯ |
บทร้อง-พราหมณ์
(สามไม้ใน)
|
๏ พระจันทรวงศ์ทรงขรรค์ |
|
กับนางนวลจันทร์เสนหา |
|
ได้ร่วมรักสมัคสมานมา |
|
พระสิทธายินยอมด้วยยินดี |
|
พระภูมินทร์เปนปิ่นโปรพ |
|
เกียรติตระหลบทั่วธรณีศรี |
|
โฉมศกุนตลานารี |
|
คือสัตรีผู้ยอดนงคราญ |
|
พระพรหมาเมตตาทั้งสองศรี |
|
จึ่งบันดาลสวัสดีสองสมาน |
|
ขอพระองค์จงรับเยาวมาลย์ |
|
ไว้ฐานชายาร่วมฤทัย ฯ |
บทร้อง-ทุษยันต์
(นาคราช)
|
๏ ประหลาดเหลือ |
|
ไม่น่าเชื่อว่าจะเปนเช่นนี้ได้ |
|
ยิ่งแลดูโฉมงามทรามไวย |
|
ยิ่งมีใจฉงนสนเท่ห์นัก |
|
นี่แน่พราหมณ์มีความเฃ้าใจผิด |
|
เราเพ่งพิศนางดูไม่รู้จัก |
|
จริงแล้วโฉมยงนงลักษณ์ |
|
ผ่องพักตร์ผิวพรรณดังจันทรา |
|
แต่กษัตร์ฤๅว่าจะเปนชู้ |
|
ชิงคู่ชายอื่นเสนหา |
|
ที่จริงนางงามครันเปนขวัญตา |
|
แต่จะเคยเห็นหน้านั้นไม่มี |
|
ตัวเราเปนเผ่าพงศ์กษัตริย์ |
|
จะรับนางเซซัดไม่ควรที่ |
|
ไฉนพราหมณ์ตู่เล่นกันเช่นนี้ |
|
ฃ้ามิใช่สามีของนวลจันทร์ ฯ |
บทร้อง - โคตมี
(แป๊ะสองชั้น)
|
๏ ฃ้าแต่ภูวเนตร์เดชกำแหง |
|
หม่อมฉันจะทูลแถลงไม่แสร้งสรร |
|
ขอพระองค์ทรงคนึงถึงครานั้น |
|
เมื่อทรงธรรม์เสด็จไปในพงพี |
|
ได้เสด็จไปสู่พระอาศรม |
|
อันรื่นรมย์ของพระมหรรษี |
|
ทรงประสบพบตัวแม่สาวนี้ |
|
ริมฝั่งมาลินีชลธาร |
|
ได้ทรงชวนภิรมย์สมสอง |
|
เปนคู่ครองร่วมรักสมัคสมาน |
|
สมรสอย่างคนธรรพสรรพสราญ |
|
ขอภูบาลรำฦกให้จงดี ฯ |
เจรจา
ทุษยันต์ |
เอ๊ะ ! อย่างไร ? |
|
อัศจรรย์เหลือใจ ! ไฉนนี่ ? |
โคตมี |
พระองค์วายพระเมตตาต่อนางนี้, |
|
จะขับไล่ไม่ใยดีรับรอง. |
|
ดูจะผิดคลองธรรมจริยา |
|
แห่งราชาเชื้อกษัตริย์ทั่วทั้งผอง. |
ทุษยันต์ |
ขออภัยเถิดพราหมณ์. ความมุ่งปอง |
|
ของท่านกล่าวเช่นนี้มีอย่างไร ? |
โคตมี |
เช่นนั้นสิ ! พระองค์ผู้ทรงราชย์ |
|
ก็มัวเมาในอำนาจอันเปนใหญ่, |
|
จนทรงลืมธรรมะ, พระหฤทัย |
|
ก็อาจพลิกแพลงไปได้ทุกทาง. |
ทุษยันต์ |
ดูหรือพราหมณ์ ! |
|
ช่างกล่าวความเหิมหาญ, ท่านพูดขวาง. |
|
แต่ท่านเปนพราหมณ์ชีมีเวทางค์, |
|
จะพูดพรางแพลงพลิกกระดิกไป |
|
เราก็จำต้องนิ่ง, กริ่งเกรงบาป. |
|
ท่านพูดหยาบเราก็งดอดโทษให้ |
โคตมี |
นี่แน่ศกุนตลาจงว่าไป, |
|
ทูลเองบ้างเปนไร, ลองดูที. |
บทร้อง - ศกุนตลา
(คำหวาน)
|
๏ โอ้ว่าทรงภพโปรพราช |
|
องอาจดังพระยาราชสีห์ |
|
เสด็จยังฟากฝั่งมาลินี |
|
แทบที่สำนักสิทธาจารย์ |
|
รื่น ๆ ชื่นจิตติดนาสา |
|
หอมกลิ่นมัลลิกาอ่อนหวาน |
|
ภุมรินกลั้วกลิ่นสุคนธาร |
|
กลิ่นประสานรสรักสมัคกัน |
|
โอ้ว่าบุษบากลื่นหอมโหย |
|
มาราโรยราวสิ้นยามวสันต์ |
|
โอ้รักหักได้ในเร็วพลัน |
|
ยังมิทันจะได้กี่เดือน |
(โอ้ปี่)
|
๏ โอ้ศกุนตลานิจจาเอ๋ย |
|
กระไรเลยอาภัพยิ่งกว่าเพื่อน |
|
เสียแรงรักมั่นใจไม่แชเชือน |
|
รักมาเลือนลับไปไม่นำภา ฯ (โอด) |
บทร้อง-ทุษยันต์
(พราหมณ์ดีดน้ำเต้า)
|
๏ เก่งจริง |
|
เปนยอดหญิงแสนกลพ้นจะหา |
|
นางนี้ช่างพูดเต็มประดา |
|
กลางป่าใครฝึกฝนนาง |
|
ดูดู๋ชุลมุนวุ่นวาย |
|
ช่างไม่นึกลอายใจบ้าง |
|
ขอเลิกกันเท่านี้ทีเดิดนาง |
|
จะเปนอย่างเยี่ยงชั่วต่อไป ฯ |
เจรจา
ศกุนตลา |
ราชะ ! |
|
จะว่าฃ้าแกล้งกล่าวเล่นไฉน ? |
|
ฃ้ามีธำมรงค์ของทรงชัย |
|
ประทานไว้เพื่อเปนพยานรัก. |
|
(แลดูนิ้วไม่เห็นแหวน, ตกใจ. พูดกับโคตมี.) |
|
ตายจริงป้า ! ตูฃ้ายังจำได้, |
|
นิ้วนี้ไซร้สรวมแหวนของทรงศักดิ์; |
|
แหวนหายไปเมื่อไร, เอะใจนัก ! |
|
ใครแอบลักเอาไป ? |
โคตมี |
ไม่ได้การ ! |
|
ตลอดทางเวลาเดินป่าดง |
|
ป้ายังเห็นธำมรงค์อยู่นะหลาน; |
|
ป้าได้คอยระวังกลางทางกันดาร |
|
จนถึงศักราวะตารศาลเทวัน. |
|
หล่อนวักน้ำยุมะนามารดเศียร |
|
ที่ตำบลศะจิเตียรถ์, และที่นั่น |
|
ธำมรงค์ขององค์พระทรงขรรค์ |
|
คงหลุดตกไปพลันในท้องธาร. |
ทุษยันต์ |
(ตบมือหัวเราะ) น่าขัน ! |
|
ช่างนัดกันมาตู่ดูเหิมหาญ, |
|
ชะ ๆ เก่งแท้, แม่ตัวการ, |
|
องค์พยานของเจ้าลืมเอามา ! |
|
เจ้าอยากได้ราชาเปนสามี |
|
จึงแสร้งแต่งวาทีเหิมกล้า; |
|
รูปร่างกระทัดรัดไม่ขัดตา, |
|
เสียแต่บ้ากามาไม่มีอาย ! |
บทร้อง -ศกุนตลา
(โอ้โลมนอก)
|
๏ ทรงภพ |
|
ผู้ปิ่นโปรพฦๅสาย |
|
พระองค์เองไม่มียางอาย |
|
พูดง่ายย้อนยอกกลอกคำ |
|
มาหลอกดมชมเล่นเสียเปล่า ๆ |
|
ทิ้งฃ้าคอยสร้อยเศร้าทั้งเช้าค่ำ |
|
เด็ดดอกไม้ไปดมชมจนช้ำ |
|
ไม่ต้องจดต้องจำนำภา |
|
เหมือนผู้ร้ายย่องเบาเฃ้าลักทรัพย์ |
|
กลัวเฃาจับวิ่งปร๋อไม่รอหน้า |
|
จงทรงพระเจริญเถิดราชา |
|
ฃ้าขอลาแต่บัดนี้ไป ฯ |
บทร้อง-ทุษยันต์์
(ศัพท์ไท)
|
๏ ดูซี |
|
นางคนนี้พูดจาเปนบ้าใหญ่ |
|
ยิ่งนิ่งฟังไป ขัดใจยิ่งทวี |
|
นี่แน่ฟังเรา ยายเถ้าพราหมณี |
|
อีกทั้งสองชี ที่พานางมา |
|
อันนางคนนี้ นารีแพศยา |
|
พาไปเสียนา หาไม่เคืองกัน ฯ |
เจรจา
โสมราต |
เทวะ! |
|
จงทรงพระกรุณา, อย่าหุนหัน. |
|
ฃ้าขอกราบทูลเตือนพระทรงธรรม์, |
|
อันพระราชครูโหราจารย์ |
|
ได้กราบทูลทำนายถวายไว้ |
|
ว่าพระองค์ทรงชัยมหาศาล |
|
จะได้มีโอรสยอดกุมาร |
|
เปนภูบาลจักรพรรดิครองปัถพี. |
|
บัดนี้นางศกุนตลาวิลาวัณ |
|
ก็ทรงครรภ์, ฃ้าขอรับโฉมศรี |
|
ไปอยู่ยังเคหากว่าเทวี |
|
จะมีบุตร์บุญปลอดคลอดออกมา. |
|
ถ้าบุตร์ต้องลักษณะมหาบุรุษ |
|
มีลายกงจักร์ผุดสุดสง่า |
|
ขึ้นที่ทั้งสองหัดถ์และบาทา, |
|
ตูฃ้าจะเคารพอภิวันทน์. |
|
จะเห็นว่านางนั้นเปนเทวี, |
|
มเหษีแห่งองค์พระทรงขัณฑ์ |
|
แล้วจะเชิญโฉมเฉลาเสาวพรรณ |
|
รีบผายผันเฃ้าสู่มณเฑียรทอง. |
|
แต่ถ้าแม้กุมารที่คลอดใหม่ |
|
บมิได้มีลักษณะต้อง |
|
ตามแบบมหาบุรุษสุดทำนอง, |
|
ฃ้าจะต้องจัดนางส่งคืนไป. |
ทุษยันต์ |
ปุโรหิต. |
|
แม้ท่านยังมีจิตคิดสงสัย, |
|
จะรับนางไปเหย้า, เราตามใจ. |
|
เรามอบให้เสร็จสิ้นดังจินดา. |
โสมราต |
เอวํ เทวะ! |
(โคตมี, ศรรณคะรพ, ศารัทวัต ถวายบังคมท้าวทุษยันต์แล้ว, โสมราตก็พาออกจากหน้าที่นั่ง. พิณพาทย์ทำพราหมณ์ออก, พราหมณ์และนางเฃ้าโรง. รัว. เสียงคนเอะอะอย่างแสดงความประหลาดใจ, และโสมราตรีบออกมา, คลานเฃ้าไปเฝ้าถวายบังคมทูล.)
โสมราต |
เทวะ! |
|
ขอเดชะพระบารมีปกเกศฃ้า, |
|
เมื่อกี้นี้ที่กลางพระชลา |
|
ได้เกิดเหตุเห็นน่าอัศจรรย์. |
|
ฃ้าพระบาทนำนางศกุนตลา |
|
ออกจากหน้าพระที่นั่งพระทรงขัณฑ์. |
|
แลเห็นได้ถนัดตาว่านางนั้น |
|
มีทุกข์ศัลย์โศกพ้นพรรณนา. |
|
ฃ้าจึ่งตั้งสัตย์อธิษฐาน |
|
ขอให้เทพบันดาลประจักษ์ว่า |
|
ถ้าแม้นางกล่าวจริงทุกสิ่งมา |
|
พอขาดคำก็ถนัดมหัศจรรย์ |
|
เวหาคลุ้มชะอุ่มควันเหมือนเมฆฝน, |
|
แล้วมีนางฟ้ามาจากเบื้องบน |
|
โอบอุ้มองค์นฤมลลี้ลับไป. |
ทุษยันต์ |
เออ ! ก็อัศจรรย์เปนหนักหนา. |
|
ดูคลับคล้ายคลับคลาแทบจำได้ |
|
แต่นางหายไปแล้วก็แล้วไป, |
|
เปนหมดท่วงหมดใยเสียสักที. |
(ลุกจากเตียง. พิณพาทย์ทำเสมอ. ฃ้าราชการถวายบังคม. ท้าวทุษยันต์รำหมดท่าแล้วหายเฃ้าโรง.)
ปิดม่าน