ฉากที่ ๓

ชายป่าใกล้อาศรมพระกัณวะ

(พิณพาทย์เปลี่ยนเปนเชิดฉาน. กวางกับท้าวทุษยันต์ออกรำเชิดฉาน. พอลงลา มีฤษีตน ๑ กับพราหมณ์บริวารอีก ๒ คน ออกมา.)

เจรจา

ฤษี ๏ มหาบพิตร์อิศรา, โปรดเถิดเจ้าฃ้า, อย่า ! อย่า ! ฃ้าขอเสียที !
  อันกวางนี้ไซร้ได้หนี มาจนถึงที่ มันเคยได้พึ่งพำนัก.
  ถ้าแม้พระองค์ทรงศักดิ์ แผลงศรมาปัก มฤคอันน้อยตัวนี้.
  ก็เหมือนทรงวางอัคคี บนกองสำลี จะไหม้ในชั่วพริบตา :
  กวางอันอ่อนตัวนี้นา จักม้วยสังฃาร์ โดยฉับโดยพลันฉันนั้น.
  เก็บศรเสียเถิดทรงธรรม์, เอาไว้แผลงลั่น ไปทรงสังหารเหล่าร้าย,
  ผู้จิตจำนงจงหมาย ทำอันตราย แก่คณะพราหมณาจารย์.
  ดีกว่าจะใช้สังหาร สัตว์เดรัจฉาน อันความมุ่งร้ายไป่มี.
ทุษยันต์ ฃ้าขอไหว้พระฤษี และลดศรนี้ ลงตามวาทีไม่ขัด.
ฤษี ๏ ดีแล้วพระเทวะ ฉนี้ละแลเห็นชัด
  เปนบรมกษัตร์ บุรุษรัตน์อาชาไนย
  ชโย ! พระจอมภูว์ ศัตรูจงพินาศกษัย
  พระยศพระเกียรติไกร กระเดื่องพื้นธรณี
  จงมีปิโยรส ดำรงคุณะธรรมมี
  จรรโลงปัถพี เปนจอมจักรพรรดิพงศ์ ฯ
ทุษยันต์ ๏ ฃ้าขอรับพรชัยมง คลเลิดวางลง ด้วยยินดีเหนือเกศา.
  อนึ่งขอพระคุณกรุณา ชี้แจงแก่ฃ้า ให้แจ่มกระจ่างสว่างใจ ;
  พระคุณนี้อยู่แห่งใด, อาศรมอยู่ไหน, และใครเปนพระคณาจารย์.
ฤษี อันอาตมะอยู่สำราญ ในอาศรมสถาน แห่งหิมพานต์ไพรนี้.
  โน่นแลลำน้ำมาลินี ไหลเย็นเปนที่ โสดสรงองค์พระดาบส,
  นามพระกัณวะจอมพรต ฦๅชาปรากฎ เปนยอดแห่งกาศยปะพันธุ์ ;
  เธอเกื้อกรุณาสัตว์อัน อยู่ในไพรสัณฑ์ มิได้เลือกหน้าปรานี.
  นางศกุนตลานารี องค์พระมุนี ท่านเลี้ยงและรักยอดใจ.
  นางนั้นหมั่นเอาใจใส่ แก่ฝูงสัตว์ใน จังหวัดพนัศพนาลี.
  จนสัตว์รักใคร่ไมตรี เหมือนนิ่มนารี ประดุจะเปนมารดา.
  แม้องค์บพิตร์อิศรา ทรงว่างกิจจา ขอเชิญธเยี่ยมอาศรม;
  คงได้ทรงรับประจุคม ตามเยี่ยงนิยม ณแบบโบราณประเพณี.
  แห่งนั้นองค์พระภูบดี จะทรงพบชี ประพฤติสัมมาปฏิบัติ.
  พระกมลบรมกษัตร์ จะได้โสมนัส เบิกบานสราญนักหนา.
  ว่าพระเปนผู้รักษา คณะเหล่าฃ้า แผ่นดินประพฤติดีงาม.
ทุษยันต์ เอวํ ภันเต! มหาพราหมณ์. ตูฃ้าขอถาม อีกคำเพื่อสิ้นกังฃา;
  อันพระมุนีปรีชา ชำนาญฌานกล้า, และเลิดณพราหมณ์วิสัย.
  ท่านอยู่อาศรมหรือไฉน ? ตูฃ้านี้ไซร้ ใคร่รีบไปนอบนมัสการ.
ฤษี องค์พระกัณวะคณาจารย์ ท่านจากสถาน รอนแรมระหว่างกลางไพร.
  โดยท่านประสงค์จงใจ ไปบูชาไหว้ พระผู้เปนเจ้าสถิตย์เสถียร.
  ณเทวะสถานโสมะเตียรถ์, เพื่อบำเพ็ญเพียร ตะบะเสดาะเคราะห์ร้าย.
  อันจะมีมากล้ำกราย ตัวนางโฉมฉาย ศกุนตลามารศรี;
  แต่องค์พระมิ่งมุนี กำชับบุตรี ให้คอยรับแขกแปลกมา.
  ขอเชิญบรมราชา เสด็จยาตรา ยังอาศรมร่มไม้ใหญ่.
  อาตมะมีกิจจำไป หาตัดกิ่งไม้ เพื่อเพิ่มผดุงอัคคี,
  ขอทูลลาพระภูมี ต่อไปทางนี้.
ทุษยันต์ สาธุ ภันเต ! ฃ้าลา.
  (ฤษีจูงกวางเฃ้าโรง, และบริวารก็ตามเฃ้าโรง.)
ทุษยันต์ (เรียก) สารถี!
สารถี (ฃานในโรง) พิจะคะ ! (ออก)
ทุษยันต์ เวลานี้ตวันก็สาย, พลนิกายก็คงจะเหน็จเหนื่อยเมื่อยล้า. กูคิดว่าจะไปพักร่มที่อาศรมพระมุนี ที่แลเห็นอยู่โน่นรำไร.
สารถี พิจะคะ.

บทร้อง-ทุษยันต์

(โยนดาบ)

  ๏ แลดูที่อยู่พระดาบส
  งามงดหาที่ติมิได้
  ดูน่าภิรมย์ร่มไม้
  น้ำใสไหลเย็นเปนขวัญตา
  โน่นฃ้าวปลูกไว้ใช้พลี
  ริมนี้สนามตัดหญ้า
  ควันไฟที่กูณฑ์บูชา
  หอมชื่นนาสากลิ่นสุคันธ์
  ฝูงกวางย่างเยื้องชำเลืองเห็น
  ไม่หลีกเร้นเฉยอยู่ดูไม่พรั่น
  ดูน่าสบายใจครัน
  ทุกสิ่งสรรพ์ควรแก่พระมุนี ฯ

บทร้อง-ทุษยันต์ กับ สารถี

(แขกบรเทศ)

ทุษยันต์์ ๏ กูจะไปอาศรมพระทรงพรต
  อยู่กับรถเถิดนาสารถี
  เฃ้าเขตสถิตย์พระโยคี
  ควรมีเคารพแด่มุนินทร์
  จำกูจะเปลื้องเครื่องทรง
  ถ่อมลงซึ่งยศศักดิ์สิ้น
  เหมือนกูเคารพพรหมินทร์
  คงสมถวิลจินดา ฯ
สารถี ๏ ฃ้าจะสั่งพหลพลไกร
  ให้พักตามร่มไม้ใบหนา
  คอยพระจอมสากลอยู่จนกว่า
  จะเสด็จคืนมาณที่นี้ ฯ

(พิณพาทย์ตีพญาเดิร. ทุษยันต์กับสารถีเฃ้าโรงคนละทาง)

(ปิดม่าน)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ