ฉากที่ ๑

ในป่า, ใต้ร่มไม้ไทรย้อย

(มีรถอยู่ใต้ร่มไม้ไทร, ไม่มีม้าเทียม, ท้าวทุษยันต์นั่งอยู่บนรถ, และเสนาบริวารนอนแวดล้อม, กับมีทหารรักษายามตามสมควร.)

[ก่อนเปิดม่าน, คนเสียงเริ่มร้อง “ช้า” ในโรง]

บทร้อง-คนเสียง

(ช้า)

  ๏ เมื่อนั้น
  องค์ท้าวทุษยันต์นาถา
  บรรทมร่มไม้ในพนา
  สุฃาภิรมย์ฤดี
  เมื่อยล้าล่าเนื้อมาหลายวัน
  แรมกลางไพรสัณฑ์สุขี
  จนจวนจะสิ้นราตรี
  ภูมีพลิกฟื้นตื่นนิทรา ฯ

[เปิดม่าน]

บทร้อง-ทุษยันต์

(แขกมอญ)

  ๏ แลดูอรุณไขแสง
  แสงแดงเรื่อเรืองเวหา
  ดูแฉล้มเหมือนแก้มกัญญา
  โสภาแรกรุ่นดรุณราม
  ดาวเดือนเลื่อนลับเวหน
  สุริยนผ่องพื้นภูมิ์สาม
  แสงจับยอดไม้ใบงาม
  วาม ๆ น้ำค้างเคลือบใบ
  แสงจับรถแก้วแวววับ
  แสงจับเกราะทหารน้อยใหญ่
  ดูพลสพรั่งพร้อมไป
  ผ่องใสราวพลเทวัน ฯ

(กระบอก)

  ๏ ตื่นเถิดเสนาอย่าช้าที
  สุริย์ศรีแจ่มกระจ่างกลางสวรรค์
  จับอาวุธสาตราอย่าช้าพลัน
  จะได้รีบพากันเฃ้าสู่ดง ฯ

(ระหว่างนี้เสนาตื่นขึ้นและนั่งประนมมือคอยฟังรับสั่ง)

(สร้อยสนตัด)

  ๏ จงแบ่งปันสรรพลทั้งหลาย
  แยกย้ายกันเฃ้าไพรระหง
  ไล่ต้อนมฤคในดง
  กูจำนงยิงเล่นเช่นวันวาร
  จะขับรถจรดเลี้ยวไป
  ตามทางที่ในไพรสาณฑ์
  อีกออกทุ่งแจ้งแหล่งลาน
  เปนที่สำราญวิญญา ฯ

(เสนารับสั่งแล้วแยกย้ายกันไป. เชิดฉิ่ง. สารถีเอาม้ามาเทียมรถเสร็จแล้ว, พอเสนาเฃ้าโรง รถพระก็เคลื่อนตามเฃ้าโรงไป.)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ