ชุดที่ ๑
(เมื่อเปิดฉาก, พลเมืองยืนอยู่แน่นลานหันหน้าไปทางโบถ, มีทหารยืนรายทางจากประตูโบถไปทางฃ้างขวาโรง, อันเปนทางที่เจ้าเมืองเดินจากวังไปโบถ, ที่ประตูโบถมีตำรวจของเจ้าเมืองยืนยามอยู่คู่ ๑. ประตูโบถเปิดอยู่.)
บทร้องหมู่ –ชาวเมือง
(โยนดาบ)
๏ พวกเราชาวบุรียินดีเหลือ | พระเปนเจ้าเอื้อเฟื้อเราหนักหนา |
จึงแสนสุขสนุกทุกเวลา | ทั้งทิพาราตรีไม่มีภัย |
ถึงเมืองเราเล็กน้อยกระจ้อยจิ๊ด | จะเดือดร้อนจนนิดก็หาไม่ |
ใครอยากโตโอ้อ้างก็ช่างใคร | เราพอใจมั่นเหมาะแล้วเกาะเรา |
อยู่ที่กลางหว่างน้ำสมุทล้อม | เหมือนกำแพงแรงห้อมตีนักเจ้า |
เมื่อยามร้อนลมโชยโรยรื่นเรา | ก็บรรเทาความร้อนระทมกาย |
ถึงยามหนาวลมอ่าวก็พัดอุ่น | หอมกรุ่นๆไออากาศค่อยผาดผาย |
ดังนี้ดังเมืองแมนแสนสบาย | ทั้งหญิงชายสุขสมอารมณ์จินต์. ๚ |
บทสวด (ในโรง, ทางโบถ)
(ลำ – “Onward Christian Soldiers”)
๏ อ้าพระองค์ผู้ทรงฤท | ธิมหิทธิโลกินทร์ |
พระรังฟ้าและรังดิน | นรชาติรังสรรค์ |
๏ ทรงสร้างสัตว์ติรัจฉาน | และประทานชีวัน |
ทรงสร้างพืชผลาพรร | ณ ประดิษฐพฤกษา |
๏ ขอพระองค์พระโลเกษ | สุรเดชทรงอา |
นุภาวะประสาทสา | ระพัตเพิ่มพูลผล |
๏ โปรดรักษาพระองค์รา | ชะวิศาละดล |
อิกรักษะนฤมล | วรราชบุตรี |
๏ ขอให้จงเจริญสุข | นิรทุกข์ยายี |
ให้สองทรงสวัสดี | นิรโรคภัยพาล |
๏ อิกคุ้มครองทั้งผองทวย | นรราษฎร์สุขสานต์ |
คุ้มครองรัฏฐะโอลาร | สิริรุ่งรุจี |
(เมื่อเริ่มบทสวดนี้ บรรดาคนที่อยู่กลางโรงคุกเฃ่าทั้งหมด, เว้นแต่ทหารกับตำรวจซึ่งยืนตรงอยู่, ครั้นเมื่อจบบทสวดแล้ว ทุกคนรอง “สาธุ” แล้วลุกขึ้นยืน บัดนี้ดนตรีเริ่มตีเพลงซึ่งจะร้องต่อไป, และตีเรื่อยจนกว่าจะเริ่มร้อง, ในระหว่างนี้ มีตำรวจประมาณสี่คู่เดินริ้วออกมาจากในโบถ, นำหน้าท้าวมิดัสซึ่งจูงราชบุตรี, มีหัวหน้านักบวชและนักบวชกับขุนนาง, และผู้หญิงออกมาด้วย, คือ แมรี ริดเด็ลล์, เอเลน, โสเฟีย, เปนต้น. ตำรวจเมื่อลงบรรใดถึงพื้นแล้วกลับหลังหัน, ยืนหันหน้าไปทางโบถ, ท้าวมิดัสกับราชบุตรียืนที่บันไดชั้นบน, คำนับพลเมือง, บัดนี้พลเมืองจึ่งเริ่มร้องเพลง.)
บทร้องหมู่ –พลเมือง
(นางนาค)
๏ ไชโยราชาธิบดี ผู้ครองบุรี และเฃตตะแคว้นแดนงาม
๏ ยโศโฉมยงนงราม ประเสริฐเลิศงาม ผู้พระบุตรีศรีสมร
๏ ข้าเจ้าเหล่าชนนิกร อำนวยอวยพร ให้นางสวัสดิ์วัฒนา
๏ จงเจริญพระชนม์พรรษา สุขทุกทิวา ราตรีอย่ามีหมองมล
๏ ขอพระเปนเจ้าสากล จงบันดาลดล ให้นางเกษมเปรมปรีย์
๏ กันภัยอย่าไห้ยายี ประสงค์ใดมี จงได้สัมฤทธิ์สิทธิ์สรรพ์ ๚
บทพากย์ –ท้าวมิดัส
๏ ขอบใจขอบใจท่านครัน ประนอมพร้อมกัน ให้พรแด่พระบุตรี
๏ วันนี้วันงามยามดี คล้ายกับดิถี สมภพแท่งเจ้าธิดา
๏ ตัวเราปลื้มเปรมวิญญา ที่ปวงประชา อุสาหะช่วยอวยพร
๏ บัดนี้โฉมยงองอร จะกล่าวสุนทร มธุรตอบขอบใจ.
บทร้อง –อันโดรเมดา
(นาคราช)
๏ ได้ฟังคำอวยพรสุนทรหวาน | แสนทราบสร้านกมลวิมลใส |
ฃ้าจะฃอกล่าวตอบเพื่อขอบใจ | จงรับไมตรีชอบเพื่อตอบแทน |
ธรรมดาหญิงชายทั้งหลายไซร้ | ถ้าหากไร้เพื่อนยากลำบากแสน |
หากมีมิตร์จิตหายระคายแค้น | รสใดๆไม่แม้นไมตรีรส |
อันฃ้านี้โชคดีเปนหนักหนา | เพราะรู้ว่าท่านเปนมิตร์ทั้งหมด |
ถึงมีทุกข์สักหน่อยก็ถอยลด | เมื่อฟังพจน์มิตรช่วยกันอวยพร |
ขอเทเวศร์ทรงเดชวิเศษศักดิ์ | ช่วยพำนักเหล่าท่านสโมสร |
โปรดบันดาลสุขสวัสดิ์สถาวร | อนุสรสิ่งใดสมใจเทอญ. ๚ |
พิณพาทย์เล่นเพลงพญาเดิน, กระบวนท้าวมิดัสเข้าโรงหายไปทางขวา. เมื่อกระบวนไปพ้นแล้ว พลเมืองต่างคนต่างหายไป, และคนอื่นๆก็หายไปหมด, คงเหลือแต่โยฮันนิสกับคอนสตันติโน๊ส.)
เจรจา
โยฮันนิส – | อย่างไรเพื่อน ? วันนี้เจ้าหล่อนราวกับนางฟ้าเทียวนะ ! |
คอนสตัน. – | (พูดกระชากๆ) ไม่เห็นแปลกอะไรกว่าวันอื่นๆ. |
โยฮันนิส – | เอ๊ะ! นี่อย่างไรกัน ? พุกด้วยดีๆ ก็กระโชกเอาราวกับจะกัด. เปนอะไรไปหรือเพื่อน ? |
คอนสตัน. – | เปนอะไร ๆ ทุกอย่างนอกจากตาย ! |
โยฮันนิส. – | ฮือ ! ก็จะเว้นทำไมอย่างเดียว. |
คอนสตัน. – | ก็ถ้าแกอยากให้ฉันตายนักก็ไม่ยากอะไร. ดาบก็มีอยู่กับมือ ฟันเสียก็แล้วกัน. หรือผลักฉันให้คะมำลงไปจากเขื่อนนี้ก็ได้. |
โยฮันนิส – | ขอบใจที่แนะหนทางให้, แต่ฉันเองก็ยังไม่อยากตาย และถ้าฉันฆ่าแกได้โดยฉันไม่ต้องเสียชีวิตเองด้วย บางทีฉันก็จะทำตามประสงค์ของแกได้, แต่นี้ฉันไม่เห็นตารอด เพราะฉนั้นจำใจต้องขัดใจเพื่อน, ยอมฆ่าเพื่อนไม่ได้จริง ๆ เทียว. |
คอนสตัน. – | นี่แกพูดเปื่อยของแกจบหรือยัง ? |
โยฮันนิส – | อ้าว ! ฟังดูสิ ! กลับหาว่าพูดเปื่อย ! แกจะพูดอะไรก็พูดไปซิ, ฉันไปห้ามปรามอะไรแกฤๅ ? |
คอนสตัน. – | จะช่วยออกความคิดหน่อยไม่ได้ฤๅ ? |
โยฮันนิส – | เรื่องอะไร ? |
คอนสตัน. – | ก็เรื่องเดิมนั่นสิ. |
โยฮันนิส – | ก็ฉันได้ออกความคิดให้ทีหนึ่งแล้วไม่ใช่ฤๅ ? |
คอนสตัน. – | จริงอยู่, แต่มันไม่มีผลอะไรเลย. |
โยฮันนิส – | ทำไม? |
คอนสตัน. – | เพราะผู้หญิงเฃาไม่รักฉันนั่นสิ. |
โยฮันนิส – | อือ! นั่นเปนข้อขัดข้องสำคัญอยู่, แต่ฉันจะช่วยแกอย่างไรอีกก็ไม่ได้, เพราะถ้าฉันจะเกี้ยวเจ้าหล่อนแทน แกก็คงไม่ชอบเปนแน่. |
คอนสตัน. – | การเกี้ยวพาราสีอะไรฉันก็คงจะไม่เลวกว่าแกนัก, แต่ที่ฉันไม่สำเร็งประสงค์ก็เพราะมีข้อขัดขวางสำคัญอัน ๑ |
โยฮันนิส – | อ้ายเครื่องขัดขวางนั้นมันเปนอย่างไร, รูปร่างเปนอะไร ? |
คอนสตัน. – | รูปร่างมันก็เปนผู้ชายนั่นสิ. |
โยฮันนิส – | โอ้โห! ชื่อไหร่ ? |
คอนสตัน. – | ชื่ออันเดร. |
โยฮันนิส – | ฮือ ! แน่ละฤๅ ? แกมันจะหึงษ์มากเกินไปกระมัง. ต้องขอให้เข้าใจว่าอันเดรเฃาเปนเชื้อเจ้าต่างเมืองมา, เจ้านายของเราก็ต้องรับรองอย่างเปนสัมพันธมิตรหรือญาติกันตามแบบ, อันเดรจึงได้ไปมาบ่อย ๆ ที่วัง, ก็ย่อมจะได้มีโอกาสพูดจากับเจ้าหญิงอยู่บ้างเปนธรรมดา. |
คอนสตัน. – | ธรรมดาทำไมต้องเยี่ยมน่าต่างพูดกัน. |
โยฮันนิส – | ธรรมดาคนเราจะที่พูดกันถ้ามีอะไรขวางอยู่ระหว่างกลาง ก็พูดกันไม่ได้ถนัด เพราะฉนั้นเมื่อมีผนังตึกขวางอยู่ ก็ต้องไปโผล่น่าต่าง. |
คอนสตัน. – | เวลานี้ไม่ได้ขอให้แกเล่นตลกเลย, ขอให้ช่วยในความทุกข์ร้อนต่างหาก. – อ้าว ! โน่นแน่มาแล้ว. เราแอบดูเฃาก่อนเถอะว่าเฃาจะออกท่าอย่างไร เมื่อเฃาคิดกลเราจะได้ซ้อนกลของเฃา. |
(คอนสตันติโน๊สพาโยฮันนิสเข้าไปในประตูโบถแล้วหับประตูแง้มดู. อันเดรกับคิริลเดินเข้ามาจากทางซ้ายมือ, คิริลหยุดยืนอยู่ที่พนักหลังเพื่อดูต้นทางให้สหาย, และฝ่ายอันเดรไปยืนตรงน่าต่างวัง เงยหน้าร้องส่งเสียงขึ้นไปที่น่าต่างกลาง.)
บทร้อง – อันเดร
(คลื่นกระทบฝั่ง)
๏ อันโดรเมดาสุดาสวรรค์ | ยิ่งกว่าชีวันเสนหา |
ขอเชิญสาวสวรรค์ขวัญฟ้า | เปิดวิมานมองมาให้ชื่นใจ |
ถึงกลางวันสุริยันแจ่มประจักษ์ | ไม่เห็นหน้านงลักษณ์ยิ่งมืดใหญ่ |
ถึงราตรีมีจันทร์อันอำไพ | ไม่เห็นโฉมประโลมใจก็มืดมน |
อ้าดวงสุรีย์ศรีของพี่เอ๋ย | ขอเชิญเผยน่าต่างนางอีกหน |
ขอเชิญจันทร์ล่องสว่างกลางสากล | เยี่ยมมาให้พี่ยลเยือกอุรา ฯ |
(นางอันโดรเมดาออกมาทางน่าต่างช่องกลางชั้นบน)
บทร้อง – อันโดรเมดา
(บังใบ)
๏ ได้ยินคำสำเนียงเสียงเสนาะ | แสนไพเราะรสรักเปนหนักหนา |
เหมือนยินเสียงหงส์ทองที่ฟ่องฟ้า | กล่อมสุนทรวอนว่าน่ายินดี |
(นางออกมาที่เกยมองลงไปเห็นอันเดร, และร้องต่อไป)
ถึงแม้ว่าจะสนิทนิทรา | ก็ผวาเมื่อสดับศัพท์เสียงพี่ |
ถึงดิฉันร้อนรุ่มกลุ้มฤดี | เสียงเหมือนทิพย์วารีมาประพรม |
แต่โอ้ว่าอนิจจาได้กินหวาน | มิช้านานก็ต้องกลืนทั้งขื่นขม |
พอพี่ไปใจน้องต้องระทม | ยิ่งมาชมก็ยิ่งช้ำระกำใจ. ๚ |
บทร้องคู่ – อันเดรกับอันโดรเมดา
(แขกสาหร่าย)
อันเดร – |
|
||||||
อันโดร. – |
|
||||||
อันเดร – |
|
||||||
อันโดร. – |
|
เจรจา
อันเดร – | แม่ยอดรักของพี่ หล่อนพูดเช่นนี้พี่เสียใจ มิใช่พี่นี้จะแกล้งเมื่อไรเล่าน้องแก้ว มันเปนกรรมของเราแล้วจึ่งไม่สมประสงค์. |
อันโดร. – | อันเดร, นี่เธอน่ะพูดเปนกลอนอย่างนี้เสมอหรือ? หรือเปนแต่มาพูดที่นี่เท่านั้น. |
อันเดร – | พูดเปนกลอนเสมอใครจะไปนึกออกเล่าหล่อนก็. |
อันโดร. – | ถ้าเช่นนั้นทำไมต้องมาพูดเปนกลอนที่นี้ด้วยเล่า ? |
อันเดร – | ประการ ๑ เพราะธรรมเนียมตัวนายโรงเฃาต้องพูดเปนกลอน, อิกประการ ๑ ฉันอุส่าห์นั่งแต่งคำพูดไว้เพราะ ๆ ก็ต้องหาโอกาสพูดเพื่อไม่ให้เสียเวลาที่ใช้สมองแต่ง. |
อันโดร. – | นี่แน่, เธอเลิกเปนนายโรงเสียสักพัก ๑ ไม่ได้หรือ? |
อันเดร – | อ๊ะ ! ก็ถ้าเลิกเปนนายโรงเสียแล้วฉันก็มิไม่ได้กับหล่อนฤๅ ? |
อันโดร. – | ถ้าไม่เลิกก็เห็นจะไม่มีเวลาพูดกันจบละ เพราะเรื่องแต่งกลอนดิฉันแต่งไม่เปนเลย, เพราะฉนั้นพูดกันอย่างคน ๆ ดีกว่า. |
อันเดร – | ก็ตามใจหล่อนสิ. |
อันโดร. – | ดิฉันขอถามว่าเธอมีความคิดอย่างไรบ้าง ? |
อันเดร – | ความคิดน่ะมีหลายอย่างหลายประการนักหล่อน. |
อันโดร. – | อะไรบ้าง ? |
อันเดร – | อย่าง ๑ ฉันนึกว่าจะยกทัพมาล้อมเมืองนี้. |
อันโดร. – | ก็แล้วอย่างไรเล่า ? |
อันเดร – | มีข้อขัดข้องสำคัญอยู่คือ ไม่รู้จะได้กองทัพมาอย่างไร, เพราะเรือของพระบิดาฉันที้มีอยู่ ๓ ลำ ท่านเอาไปขายเฃาเสียแล้ว ในระหว่างเวลาที่ฉันมาอยู่ทางนี้. |
อันโดร. – | ก็ไปหาเช่าเรือคนอื่นเฃาไม่ได้ฤๅ? |
อันเดร. – | ขัดข้อง; เพราะขุนคลังแกเอาเงินไปเข้าหุ้นส่วนแบงก์เสียหมด, แล้วแบงก์ก็ล้มละลายเสียด้วย. |
อันโดร. – | ก็กู้เงินใครเฃาไม่ได้ฤๅ ? |
อันเดร – | ฉันเห็นมีคนที่มีเงินพอที่จะกู้ได้อยู่รายเดียว ก็แต่ท่านพระบิดาของหล่อนเองเท่านั้น, แต่การที่จะกู้เงินของท่านไปเช่าเรือบรรทุกกองทัพมาล้อมเมืองของท่านเอง ดูมันออกจะกระไร ๆ อยู่สักหน่อย. |
อันโดร. – | ถ้าเช่นนั้นทำไมไม่ตรงไปทูลพระบิดา ขอตัวดิฉันตรง ๆ. |
อันเดร – | เออ ! จริงนะ ! ลืมนึกไปได้นี่ ! แต่หล่อนเชื่อหรือว่าท่านจะยอมยกให้ ? |
อันโดร. – | ข้อนั้นดิฉันรับประกันไม่ได้, แต่ก็ยังไม่มีใครได้เคยไปพูดจาสู่ขอโดยตรงเลย, เพราะฉนั้น ถ้าเธอรีบไปพูดดู บางทีจะสำเร็จได้กระมัง ? |
อันเดร – | ถ้าเช่นนั้นฉันจะรีบเข้าไปเดี็ยวนี้ทีเดียว. |
อันโดร. – | ไปเดี๋ยวนี้ไม่เปนประโยชน์, เพราะเวลานี้ยังบรรทมกลางวันอยู่. |
อันเดร – | ก็เมื่อไหร่จะตื่นเล่าหล่อน. |
อันโดร. – | ราวบ่าย ๕ โมง. |
อันเดร – | ตกลง ! บ่าย ๕ โมงฉันจะไปหาท่านทีเดียว. |
อันโดร. – | ดีแล้ว, เวลานี้ไปเสียทีก่อนดีกว่า. |
อันเดร – | ลาทีนะ ! (จูบมือโบกไปให้นาง) |
(นางโบกมือตอบแล้วหายเข้าไปทางน่าต่าง; บัดนี้คิริลจึงเดินมาหาอันเดร) | |
คิริล – | ผมไม่อยากขัดคอ, แต่ผมขอบอกให้เจ้าทราบว่า การที่จะไปขอนางนั้นจะไม่เปนการง่ายเท่าที่เจ้าคิดดอกนะ. |
อันเดร – | ทำไม |
คิริล – | ประการ ๑ ท้าวมิดัสเธอเปนคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมาก, เพราะฉนั้น ถ้าไม่ทำให้เธอโลภอยากได้ทรัพย์, หรือเห่ออยากเปนใหญ่, เธอคงไม่ค่อยเต็มใจ, นอกจากที่จะทำให้เธอตกใจกลัวนั่นแหละ บางทีก็จะสำเร็จได้เหมือนกัน. |
อันเดร – | ก็แล้วอีกประการ ๑ เล่า ? |
คิริล – | อีกประการ ๑ มีผู้ที่เฃาต้องการนางงามนั้นอยู่ด้วยอีกราย ๑ |
อันเดร – | ฉันรู้แล้ว, แต่ฉันไม่รู้สึกว่า เฃาได้เปรียบฉันอย่างไร, มั่งมีก็ไม่มากกว่า. |
คิริล – | เจ้าทราบได้อย่างไรว่าเฃาไม่มีกว่า. |
อันเดร – | ก็ถ้าเฃาไม่ขัดสนอยู่ละก็ทำไมจึงจะตะเกียกตะกายอยากได้นางอันโดรเมดานักเล่า ? |
คิริล – | อ้อ! นี่ใคร ที่อยากได้เจ้าหญิงนั้น แปลว่าต้องการทรัพย์สมบัติของหล่อนทั้งนั้นหรือเจ้า ? |
อันเดร – | ก็อย่างนั้นนะสิ ! |
คิริล – | ขออภัยเถิด, ก็ตัวเจ้าเองละ ? |
อันเดร – | อย่าอึงไปนะ, ที่จริงเมื่อแรกมาฉันเองก็นึกถึงแต่ทรัพย์สมบัติของหล่อนมากกว่าอย่างอื่น, แต่ครั้นมาได้คุ้นเคยกันเฃ้าแล้ว แลเห็นว่าหล่อนออกจะรักฉันจริง ๆ ฉันก็ออกจะเกิดเอ็นดูขึ้นมา จนเลยกลายเปนออกจะรักจริง ๆ แล้ว. แต่อย่ามัวพูดกันเสียเวลาเปล่าเลย, ช่วยกันคิดอุบายที่จะใช้ เพื่อให้ท่านท่าวมิดัสตกลงยกลูกสาวให้เร็วๆหน่อยเถอะ. |
คิริล – | จะเอาเงินไปล่อให้โลภหรือ ? |
อันเดร – | เราก็ไม่มีเงิน ! |
คิริล – | จะบ้อยอด้วยยศหรือ ? |
อันเดร – | เราก็ไม่มีจะให้เธอได้ ! |
คิริล – | ถ้าเช่นนั้นต้องใช้อำนาจทำเอะอะ – |
อันเดร – | เราก็ไม่มีอะไรจะสำแดงอำนาจ. |
คิริล – | มีสิ! |
อันเดร – | ที่ไหน? |
คิริล – | ในอ่าวนั่นอย่างไรละเจ้า. |
อันเดร – | ฉันไม่เข้าใจ ! |
คิริล – |
อะไรไม่เข้าใจ, ก็เรือรบมีอยู่นั่นทั้งลำอย่างไรล่ะ. |
อันเดร – | ก็มันเรือแพนาวาอะไรของเราที่ไหน ? |
คิริล – | แล้วกัน ! ถึงมันไม่ใช่ก็ตี๋ต่างเอาไม่ได้หรือเจ้า ? |
อันเดร – | จะตี๋ต่างตี๋แต่งอะไรได้ เฃาชักธงอังกฤษอยู่ออกโทนโท่ ! |
คิริล – | ก็ตี๋ต่างว่าเราได้ไปทำสัญญาสัมพันธไมตรีกับอังกฤษ แล้วอังกฤษส่งเรือรบมาช่วยเรา อย่างนี้ก็จะแล้วกัน, |
อันเดร – | ชอบกล. น่าลองดู. |
คิริล – | ลองเถอะ! . |
บทร้องคู่ – อันเดรกับคิริล
(แขกหนัง)
อันเดร -
ผู้ใดมีอำนาจวาสนา | ธรรมดาหาอะไรก็หาได้ |
กำหมัดคือยุติธรรมจงจำไว้ | ใครหมัดใหญ่ได้เปรียบเรียบเทียวเกลอ. |
คิริล -
ใครหมัดย่อมต้องถ่อมกายายอบ | ต้องคอยหมอบคอยกราบราบเทียวเหนอ |
คอยระแวงแขยงอยู่ละเออ | มิได้กล้าเผยอขึ้นตึงตัง |
อันเดร -
มีอำนาจวาสนาวาจาสิทธิ์ | พูดสิ่งใดไม่ผิดเพราะฤทธิ์ขลัง |
คิริล -
ถึงพูดผิดกำหมัดซัดลงปัง | กลายเปนพูดถูกจังไปทั้งเพ |
อันเดร – | กำหมัดเล็ก |
คิริล – | ลูกเด็กเถียงได้ |
อันเดร – | จะส่งเสียงเถียงไป |
คิริล – | ไม่ไหวเหว |
อันเดร – | ต้องขอยืมหมัดโต |
คิริล – | ไว้โบ๊เบ๊ |
อันเดร – | เดินโอ้เอ้ |
คิริล – | วางปึ่งให้ถึงดี ? |
(สองสหายเดินจูงมือกันไปทางขวา)
(ขณะนี้ได้เสียงเอะอะในโรงทานฃ้างขวาคือได้ยินเสียงจีนพูดเอะอะว่า “เลี้ยวกัง ! นี่ทำไลอย่างลี้ !” ฯลฯ และเสียงคนอื่นพูดกันต่าง ๆ นานา, แล้วเต๊กหลีจึงออกมาจากทางขวา มีพลเมืองห้อมล้อมมาเปนกลุ่มใหญ่. พอโผล่ออกมา พลเมืองก็ร้องบทต่อไปนี้: –)
บทร้องสลับ
(ชมดงนอก)
ลูกคู่ – | นี่ตัวอะไรอยากใคร่รู้ ดูๆ คล้ายมนุษย์เรานี่หนา |
เซเลีย – | เหมือนมนุษย์พร้อมพรั่งทั้งกายา |
มาร์โคส – | แต่ทว่ามีหางกลางกระบาน |
เซเลีย – | เดินเหมือนคน |
มาร์โคส – | ไม่ซน, เหมือนลิงไพร |
เซเลีย – | พูดก็ได้ |
มาร์โคส – | มากกว่า, เดรฉาน |
เซเลีย – | คนหรือไร ? |
ลูกคู่ – | เฃ้าใกล้ๆ, ไม่ได้การ |
มาร์โคส – | อย่าล้อหนา |
ลูกคู่ – | ท่าจะพล่าน. มากัดตาย ? |
เจรจา
เต๊กหลี – | เลี้ยวกัง ? พวกนี้เซี้ยวทั้งนั้ง ? |
เซเลีย – | นั่นมันพูดหรืออะไร? |
มาร์โคส – | ดูเหมือนพูดหล่อน. |
เต๊กหลี – | ลูเหมืองพูก? ใคลูพูกไล่, ไล่แต่ฟัง, หูไม่เตกก็ฟังพูกเอาซี ! |
เซเลีย – | นี่แกเปนคนฤๅ? |
เต๊กหลี – | อุบ๊ะ? ถามอิไลอย่างนั้น ! ไม่เปนคงจะเปนอิไลล่ะ? |
มาร์โคส – | หมายว่าเปนสัตว์น่ะสิ. |
เต๊กหลี – | เปนสักอิไล ? เปนปู่มึงก็ไล่, ลิยำแท้ ๆ ! |
เซเลีย – | มันก็พูดคล้ายคนนะมาร์โคส, |
เต๊กหลี – | เม่หนูคงนี้ก็พอยเซี้ยวไปล่วย ? ก็อั๊วเปนคงนะสิ, เลี้ยวก็เปนผัวหล่อนก็ไล่ ? |
เซเลีย – | อุ๋ย! ดูสิ พูดอะไรอย่างนั้น ? |
เต๊กหลี – | ทียังงละก็เฃ้าจายละ! ผู้หญิงมันเหมือนกังทั้งน้าน, พูดถึงผัวอีเฃ้าจาย. |
มาร์โคส – | นี่แน่! แกว่าแกเปนคน ทำไมแกมีหางที่หัว? |
เต๊กหลี – | หางที่ไหน ? นี่ผมต่างหาก. |
มาร์โคส – | ผมเฃาก็ไว้อย่างฉันหรือคนอื่น ๆ ซิ, นี่ทำไมยาวเปนหาง. |
เต๊กหลี – | ลื้กนี้เปนคงโง่ยำหมามาก ! ไว้ผมอย่างนี้ลีมาก, ใช้ไล่หลายอย่าง. |
มาร์โคส – | ใช้ได้อย่างไรบ้าง? |
เต๊กหลี – | อั๊วจิเล่าให้ฟัง. ฟังลี ๆ นะ ! |
บทร้อง – เต๊กหลี
เจรจา
มาร์โคส. – | อุ๊วะ ! ฃ้าไม่เห็นดีเลย ! สกปรกจะตาย ! |
เต๊กหลี – | ลือไม่ลู้จักอิไล, ไม่ลู้จักของลี. |
มาร์โคส – | ที่ทางบ้านเมืองแกจะเปนอย่างไรไม่ทราบ แต่ที่บ้านเมืองนี้เฃาไม่ใช่อย่างนั้น. |
เซเลีย – | แกว่าแกมาจากเมืองไหนนะ? |
เต๊กหลี – | มวงจีน. |
เซเลีย – | อะไรนะ ? เมืองตีนหรือ? |
เต๊กหลี – | มวงจีน! ตงฮั้ว ! |
เซเลีย – | นั่นเปนไรเล่า ! ฉันว่าแล้ว ! มาจากดงจริง ๆ แหละ. |
เต๊กหลี – | เลี้ยวกัง! ใครบอกว่ามาจากดง ! อั๊วว่าตงต่างหาก. |
เซเลีย – | รู้แล้ว! แกพูดไม่ชัด จึงพูดว่า “ตง.” ฉันเรียกว่าคง |
คนอื่นๆ – | (พูดกันแซ่) คนป่านะสิ. |
เต๊กหลี – | คนป่าที่ไหน? โง่ แท้ๆ พวกลื้อ. อั๊วมาจากทิเลต่างหาก. |
มาร์โคส – | เอ๊ะ ! ถ้าเช่นนั้นก็เปนผีทเลน่ะสิ! |
เต๊กหลี – | เลี้ยวกัง! เป็งคงแท้ ๆ หาว่าเปนผีทิเล! ยังไม่ทังตายอิไลเป็งผีเสียเลี้ยว. |
คนแก่ผู้ ๑. – | พวกเราระวังให้ดีนะ! ฉันได้เคยได้ยินปู่ย่าตายายท่านกล่าวอยู่ว่า, ถ้าเมื่อไรจะมีภัยมาถึงเมืองเรา, จะมีผีขึ้นมาจากทเล. |
(คนอื่นพากันตกใจ ต่างคนต่างพูดกันต่าง ๆ, และต่างคนต่างหลีกออกไปไห้ไกลเต๊กหลี) | |
เต๊กหลี – | (พูดกับคนดู) โง่เท้ๆ พวกนี้! อีว่าอั๊วเป็งผี อั๊วต้องหลอกให้สินุก (ทำเสียงดุ) เฮ้ย ! อ้ายพวกเหล่านี้! มึงลู้จักกูไหม ? กูเป็งเจ้าทิเล ชื่อจุ๊ยเซียงฮ่องเต้ ! มึงต้องเอาหมูเป็กไก่มาให้กูกิง. ไม่เป็งยังงั้งกูจิกิงพวกมึงทั้งหมก. |
คนแก่. – | เจ้าประคุณ! อย่าโกรธเลย ! ลูกจะไปจัดหาเครื่องเส้นมาให้. |
เต๊กหลี – | ไปเล็วๆ ! กูเฮี้ยนลัก ลู้ไหม ? (พูดกับคนดู) ขออย่าให้พวกทิหางหัวหลั่งมาทางนี้เลย จิมาขักคอ ! |
คนแก่ – | เชิญมาทางนี้เถิดเจ้าฃ้า. |
เต๊กหลี – | ไปไหน? |
คนแก่. – | ไปกินเครื่องเซ่นเจ้าฃ้า. |
เต๊กหลี – | ลีทีเลียว. นำกูไป! |
(ตาแก่กับพลเมืองนำเต๊กหลีไปฃ้างซ้าย, คงเหลือแต่มาร์โคสกับเซเลีย.) | |
มาร์โคส – | เซเลีย, ท่าทางมันจะไม่ได้เรื่องเสียแล้ว. จะเกิดยุ่งกันใหญ่. จะทำอย่างไรดี. |
เซเลีย – | ฉันเห็นว่าควรไปปรึกษาแหม่มอังกฤษดูจะดี, เพราะเฃาเปนคนมีความรู้มาก. |
มาร์โคส – | จริงหล่อน, บางทีแหม่มเฃาจะช่วยคิดอ่านแก้ไขเรียบร้อยไปได้. ไปหาแหม่มดีกว่า. (สองคนพากันไปทางซ้าย) |
(โยฮันนิสกับคอนสตันติโน๊สออกมาจากโบถ) | |
โยฮันนิส – | สำเร็จแล้ว! |
คอนสตัน. – | สำเร็จอะไร? |
โยฮันนิส – | อุบายที่จะซ้อนกลของอันเดร. |
คอนสตัน. – | คืออย่างไร ? |
โยฮันนิส – | เราต้องคิดอ่านยุให้พวกพลเมืองแตกตื่นกลัวผีทเลให้มากๆ. เวลานี้ก็พอบรรจบครบรอบร้อยปี ถึงเวลาที่นิยมกันว่าพระสมุทจะมาทวงสร่วย. |
คอนสตัน. – | .แล้วก็จะเปนประโยชน์อะไรกับเรา ฉันยังแลไม่เห็น. |
โยฮันนิส – | อ้าว! ก็เมื่อพลเมืองตื่นกันเช่นนั้นแล้ว ท่านเจ้าเมืองก็คงจะต้องคิดแก้ไข, ฉันก็จะยุขรัวลุงของฉันให้ทูลเจ้าเมืองว่า ทางที่จะแก้ไขก็มีได้อยู่ทางเดียวคือต้องทำพิธีวิวาหะลูกสาวเจ้าเมืองกับพระสมุท ตามแบบโบราณที่เคยได้กระทำมาทุกๆ รอบร้อยปี. |
คอนสตัน. – | อุ๊วะ! หล่อนก็จมน้ำตายเสียเท่านั้นเอง. บ้าจริง ๆ ความคิดของแก! |
โยฮันนิส – | ก็ฟังให้จบก่อนสิ! พอถึงเวลาจะได้ฤกษ์ ขรัวลุงของฉันก็จะฝันไปว่า, พระสมุทบอกว่า ถ้าให้นางนั้นแต่งงานกับผู้ที่พระสมุทจัดให้มาเปนผัวนางแทนตัวละก็เปนใช้ได้. – |
คอนสตัน. – | ชอบกล ! |
โยฮันนิส – | ธรรมดาผู้มีสติปัญญา, ถ้าเอาชนะไม่ได้ตรงๆ ก็ต้องเอาชนะด้วยอุบาย! |
บทร้องคู่ – โยฮันนิสกับคอนสตันติโน๊ส
(โยสลัม)
โยฮัน. – | ปากเปนเอก |
คอนส. – | เลขเปนโท |
โยฮัน. – | โบราณว่า |
คอนส. – | หนังสือตรี |
โยฮัน. – | มีปัญญา |
คอนส. – | ไม่เสียหลาย |
โยฮัน. – | ถึงรู้มาก |
คอนส. – | ไม่มีปาก |
โยฮัน. – | ลำบากตาย |
คอนส. – | มีอุบาย |
โยฮัน. – | พูดไม่เปน |
คอนส. – | เห็นป่วยการ |
โยฮัน. – | ถึงเปนครูรู้วิชา |
คอนส. – | ปัญญามาก |
โยฮัน. – | ไม่รู้จักใช้ปาก |
คอนส. – | ให้จัดจ้าน |
โยฮัน. – | เหมือนเต่าฝังนั่งซื่อ |
คอนส. – | ฮื้อรำคาญ |
โยฮัน. – | วิชาชาญมากเปล่า |
คอนส. – | ไม่เข้าที |
โยฮัน. – | ใครช่างพูดพลิกแพลงเหมือนแรงมาก |
คอนส. – | คนนิยมลมปากมากเจียวพี่ |
พร้อมกัน – | ถึงรู้น้อยถ้อยคำให้ขำดี คงเปนที่สมคเนที่เฉโก ฯ |
(ร้องจบแล้วพากันไปทางขวา.)
(นางแมรี ริดเด็ลล์. กับนางเอเลนและโสเฟีย, กับมาร์โคสและเซเลีย เดินเข้ามาจากทางซ้าย)
เจรจา
แมรี. – | อ้อ! เปนเรื่องราวชอบกลอยู่. แล้วก็พวกพลเมืองเฃาเชื่อถือกันแน่นอนเทียวฤๅ ? |
มาร์โคส. – | พวกคนสมัยใหม่ที่ไม่เชื่อก็มีมาก, แต่พวกผู้ใหญ่.ๆ เฃาเชื่อ เพราะเถียงเฃาไม่ใคร่ขึ้น. |
เอเลน – | คราวนี้ถ้าแหม่มไม่ช่วยคิดแก้ไขเห็นจะไม่ได้การ. |
โสเฟีย – | เจ้าหญิงจะถูกจับไปแต่งงานกับพระสมุทเสียแน่ละ. |
แมรี – | การแต่งงานกับพระสมุทเฃาทำพิธีกันอย่างไร ? |
เอเลน – | ตามที่ดิฉันได้ทราบมา, คือแต่งพระองค์เจ้าหญิงด้วยเครื่องฃาวเหมือนเจ้าสาวแล้วแห่ลงไปชายทเลในวันที่น้ำขึ้นมากที่สุด, เอาตัวนั่งไว้กับเก้าอี้จนน้ำทเลขนพาเอาเก้าอี้ลอยไปในทเล. |
แมรี – | เอ๊ะ ! ถ้าเช่นนั้นมิจมน้ำตายฤๅ ? |
โสเฟีย – | แล้วแต่คลื่นลม, ถ้าคลื่นลมไม่รู้จัดนัก ก็ช่วยเอากลับขึ้นมาได้ แต่ถ้าคลื่นลมจัดก็ช่วยไม่ได้. |
เอเลน – | แต่ถึงจะช่วยขึ้นมาได้ก็เต็มที, เพราะเมื่อแต่งงานกับพระสมุทแล้วจะแต่งงานกับคนอื่นอีกไม่ได้อีกต่อไป. |
แมรี. – | ลำบากอยู่หน่อย. แต่เรายังไม่ควรจะตีตนก่อนไข้ เพราะบางทีท้าวมิดัสจะไม่ให้ทำตามธรรมเนียมเดิม. |
เอเลน – | ก็ถ้าพลเมืองร้องให้ทำพิธีจะขัดเฃาได้หรือคะ ? |
โสเฟีย – | แล้วเวลานี้ก็พะเอิน จำเภาะครบกำหนดร้อยปีแล้วด้วย. |
เซเลีย – | แล้วก็พะเอินมีอ้ายตัวคนประหลาดมาจากทเลด้วย. |
แมรี. – | เอ! ถ้าเช่นนั้นก็ต้องคิดหาทางแก้, แต่ฉันก็ยังนึกไม่ออกว่าจะแก้อย่างไร. ถ้าเช่นนี้ได้มีใครเปนที่ปฤกษาสักคน ๑ จะดี. |
(พิณพาทย์ทำเพลงกราวนอก, พวกพลเมืองพากันออกมา, โจษกันเอะอะถึงทหารเรือ, และต่างคนต่างยืนเปนกลุ่ม ๆ คอยดู, แล้วแถวทหารเรือจึงเดินออกมา, มีนายนาวาเอก เอ็ดเวอร์ด ไลออน เดินนำหน้า และนายทหารเรืออีก ๒ คนคุมแถว.)
บทร้องทหารเรือ
(กราวนอก)
๏ พวกเราเสนานาวายุทธ์ | ฤทธิรุทรลือลั่นสนั่นหล้า |
ทุกหนย่นย่อไม่รอรา | ระอิดระอาซึ่งนาวี |
ว่องไวใช้จักร์ไม่พักผ่อน | เลี้ยวไล่ดัษกรไปรี ๆ |
ยิงปืนเปรี้ยง ๆ ก็เที่ยงดี | ได้ทีซ้ำปล่อยตอร์ปิโด |
เปรี้ยง ๆ โครม ๆ โหมปืนใหญ่ | แวบ ๆ แสงไฟดูแดงโร่ |
ปัง ๆ เรือถูกลูกปืนโต | เผลาะ ๆ เหมาะโหว่เสียพอแรง |
ฟูดจ๋อมตอร์บิโดไปโร่ไล่ | แยะปังเฃ้าไปไฟวู่แสง |
ถูกเรือข้าศึกตึ๊กตะแคง | พวกเราฤทธิแรงก็ไชโย! |
(ในระหว่างที่ร้อง ทหารเรือย่ำเท้าตามจังหวะ จนเมื่อจบเพลงแล้วจึงหยุดยืนตรง, แล้วนายทหารบอกพัก.)
บทร้อง –นายนาวาเอก ไลออน, กับทหาร
(แขกไทร)
ไลออน – | ทหารราชนาวีดีนักหนา เพราะใจกล้าหาใครจะเปรียบได้ |
เจ้านายใช้ตายไหนก็ตายไป ถึงบรรลัยไว้ชื่อ | |
ทหาร – | ให้ฦๅชา |
ไลออน – | ทุกประเทศเฃตแคว้นแดนมนุษ ทุกสมุทน่านน้ำยำเกรงฃ้า |
เพราะยามรบ ๆ จริงไม่นิ่งช้า ยามเมตตาใจดี | |
ทหาร – | ปราณีคน |
ไลออน – | ไม่กดขี่ข่มเหงคเนงร้าย ทั้งหญิงชายนิยม |
นายทหาร – | ทุกแห่งหน |
ไลออน – | ผู้ชายชอบสนิทเปนมิตร์ตน ผู้หญิงชอบพวกพล |
พลทหาร – | ว่าเจ้าชู้ |
ไลออน – | ยามขึ้นบกยกไว้ให้พวกเรา ไม่มีเหงาเฮใหญ่ |
นายทหาร – | ใครไม่สู้ |
ไลออน – | เที่ยวตลาดโรงร้านชำนาญดู พอยามเย็นหาคู่ |
พลทหาร – | เที่ยวเดินกรอ |
นายทหาร – | แต่ถึงเฟื่องเพียงไร |
พลทหาร – | ไม่หยาบหยาม |
นายทหาร – | ไม่ลวนลามต่อหญิง |
พลทหาร – | จริง ๆ หนอ |
นายทหาร – | ล้วนรู้เลือกรู้รัก |
พลทหาร – | รู้จักพอ |
นายทหาร – | ชอบแต่ล้อสนุก |
พลทหาร – | สุขด้วยกัน. ฯ |
บทร้อง –แมรี
(บุล่ง)
๏ ดิฉันนี้ปรีดิ์เปรมเกษมสานต์ | เห็นทหารอังกฤษฤทธิ์มหันต์ |
ขึ้นมายังแดนเกาะนี้เหมาะครัน | ตัวดิฉันต้อนรับด้วยจริงใจ |
ดิฉันเปนอังกฤษมิตร์บุตรี | แห่งเจ้าครองธานีบุรีใหญ่ |
พะเอินมีเหตุการณ์รำคาญใจ | ขอจงได้เมตตาปรานี |
ทหารเรือขึ้นชื่อและฦๅนาม | ว่าชอบช่วยนงรามผู้หมองศรี |
ขอท่านจงช่วยฃ้าในครานี้ | จะยินดีขอบใจไม่ลืมบุญ. ๚ |
เจรจา
ไลออน – | อ้อ! ถ้าเช่นนั้นจะเปนหล่อนละกระมัง ที่ชื่อมิสแมรี ริดเด็ลล์ ? |
แมรี. – | ถูกแล้ว. |
ไลออน – | ฉันมีความยินดีมากที่ได้พบหล่อน. ตัวฉันชื่อนายนาวาเอก เอ็ดเวอร์ด ไลออน. (จับมือกับแมรี) ฉันขออนุญาตนำนายทหาร ๒ นายนี้ให้หล่อนรู้จัก. –นายเรือเอก วอเตอร์ส –นายเรือโท วอลลิส. (เมื่อออกชื่อผู้ใด, ผู้นั้นเดินออกจากแถวไปจับมือกับแมรี.) เมื่อแต่กี้หล่อนกล่าวว่ามีความรำคาญอะไรอยู่อย่าง ๑ ไม่ใช่ฤๅ? ถ้าฉันจะช่วยแก้ไขได้ฉันจะยินดีทีเดียว. |
แมรี. – | เรื่องราวอยู่ฃ้างจะยืดยาว, แต่ดิฉันขอกล่าวถึงปลายเหตุเสียก่อน. เมื่อแต่กี้นี้เกิดเรื่องประหลาดอะไรขึ้นอัน ๑, คือพวกพลเมืองเกิดลือกันว่ามีผีมาจากทเล |
ไลออน – | เอ๊ะ! หวังใจว่าไม่ได้หมายความว่าพวกทหารของฉัน. |
แมรี. – | ไม่ใช่, เพราะเฃาว่ากันว่ามีหางที่หัว. |
ไลออน – | อ๋อ ! ถ้าเช่นนั่นน่ากลัวจะเปนอ้ายบ๋อยของฉันเสียแน่แล้ว ฉันกลับมาจากเมืองจีน มันติดมากับฉันด้วย. |
แมรี. – | ถ้าเช่นนั้นแน่แล้ว. พลเมืองที่นี่ไม่เคยเห็นจีน จึงเห็นเปนตัวปลาดอะไรอัน ๑, เพราะมีหางที่หัว. |
ไลออน – | ฉันบอกมันหล้ายหนแล้วว่าให้ตัดเปียเสีย มันก็ไม่ยอม; มันว่าถ้าตัดเปียแปลว่าเปนพวกจีนใหม่. คือเปนคนในบังคับริปับลิคจีน, แต่ส่วนตัวมันเปนคนในบังคับอังกฤษ มันจะเอาเปียไว้ให้เปนยี่ฮ่อ. แล้วก็มันมาทำยุ่งอะไรหรือจ๊ะ ? |
แมรี. – | มาตั้งตัวเปนผู้วิเศษอะไรใหญ่โตทีเดียว. |
ไลออน – | ไม่ได้การ, วุ่นใหญ่. เฃ้าแผนของมันอีกแล้ว. ขึ้นบกที่ไหนก่อเหตุที่นั้น ! เดี๋ยวนี้ไปอยู่ไหน หล่อนทราบไหม? |
แมรี. – | มีตาอะไรมาพาตัวไป, ว่าจะไปหาเครื่องเส้นให้. |
ไลออน – | จับมัน! ฉันต่องให้คนไปจับเอาตัวมา, (พูดกับทหาร) ใครไปตามเต๊กหลีสัก ๒ คนเถอะ ! (ทหาร ๒ คนออกมาจากแถวยืนคอยรับคำสั่งต่อไป) มันไปทางไหน ใครรู้บ้าง ? |
แมรี. – | มาร์โคส, ช่วยพาทหารเฃาไปทีเถิด, พวกแกคงมีผู้รู้บ้างว่าจีนนั่นไปทางไหน. |
มาร์โคส – | ได้สิแหม่ม. (พูดกับพลเมือง) ใครเห็นคนมีหางที่หัวอยู่ที่ไหนบ้าง ! (มีผู้ตอบหลายคนว่า “เห็น! อยู่ทางโน้น”) ถ้าเช่นนั้นมาช่วยกันนำทหารเฃาไป. (มาร์โคสกับเซเลียนำทหารเรือ ๒ คนออกไปทางซ้าย พร้อมด้วยพวกพลเมือง.) |
ไลออน – | ทหารพักแถวได้. |
วอเตอร์ส – | พักแถว! (นายและพลทหารต่างคนต่างไปเดินหรือยืนเล่นเปนหมู่ ๆ ทางฃ้างหลังโรง.) |
ไลออน – | ฉันได้ทราบฃ่าวว่า วันนี้เปนวันประสูตรเจ้าหญิงธิดาเจ้าเมืองไม่ใช่ฤๅจ๊ะ ? |
แมรี. – | คะ. เมื่อบ่ายนี้ได้มีงานสวดมนต์ที่วัด ค่ำวันนี้จะมีงานเลี้ยงและมีสโมสรสันนิบาตในวัง, ถ้าเจ้าเมืองทราบคงจะเชิญคุณเปนแน่. |
ไลออน – | ถ้าพวกนายทหารของฉันได้รับเชิญก็จะดีอยู่ เพราะนานมาแล้วไม่ได้กินของดี ๆ. |
แมรี. – | ดิฉันจะให้เฃาไปทูลเจ้าหญิง. (พูดกับเอเลนและโสเฟีย) แม่เล็ก ๆ ทั้ง ๒, วานไปทูลเจ้าหญิงให้ทรงทราบทีเถิด ว่านายนาวาเอกไลออนกับนายทหารเรืออังกฤษขึ้นมาจากเรือรบ อยากจะถวายพระพรวันประสูตร (เอเลนกับโสเฟียไปทางซ้าย) |
ไลออน – | ฉันขออภัยในการที่จะถามอะไรสักอย่าง ๑ หล่อนได้จากบ้านมานานแล้วฤๅ ? |
แมรี. – | สักสามปีมาแล้ว. |
ไลออน – | ไม่คิดถึงบ้านบ้างฤๅ ? |
แมรี. – | ก็คิดถึงสิคะ ! คุณเองต้องลงเรือไปเสียนาน ๆ ไม่คิดถึงบ้างฤๅ ? |
ไลออน – | พุทโธ่! ! ทำไมจะไม่คิดถึงละหล่อน ฉันก็เที่ยวตุรัดตุเหร่อยู่หลายปีแล้วเหมือนกัน นาน ๆ จะได้โผล่กลับไปบ้านครั้ง ๑ ก็ไม่ได้อยู่นาน, ต้องถูกส่งลงเรือไปอีก, แต่นี้ฉันเคราะห์ดี ได้เลื่อนยศเปนนายนาวาเอกแล้ว, ท่าทางจะได้เปนผู้บังคับการเรืออะไรที่อยู่ใกล้ ๆ บ้านสักหน่อย. |
แมรี. – | ถ้าเช่นนั้นคุณกับดิฉันก็เห็นใจกันสิ! |
ไลออน. – | ที่จริงเรื่องคิดถึงบ้านก็คงมีคล้าย ๆ กัน, แต่ผู้หญิงที่ต้องมาอยู่ไกลบ้านเช่นนี้ น่าจะรู้สึกว้าเหว่ยิ่งกว่าผู้ชาย. |
แมรี. – | ก็เปนอยู่, บางวันเมื่อตวันรอน ๆ นึกถึงความสุขที่เคยได้รับมาแล้วที่บ้านชักใจหายพิลึก. |
ไลออน – | จริงหล่อน, ใจมันวับ ๆ หวำ ๆ พิกล ! |
บทร้องคู่ –แมรี กับ ไลออน
(ตะนาวแปลง)
แมรี. – | เมื่อสายัณห์ตวันจะยอแสง...เห็นแสงแดงจับน้ำทเลกว้าง |
ใจตึก ๆ รำฦกถึงบ้านพลาง...แสนอ้างว้างเศร้าจิต | |
ไลออน – | อนิจจา ! |
ไลออน – | เมื่อลมโชยโอยกลิ่นผกากรุ่น...หอมไม่ฉุนรวยรื่นชื่นนาสา |
กลิ่นสุคนธ์ตลบอบอุรา...ยิ่งคิดถึงเคหา | |
แมรี. – | อ้าอกตรม. |
เมื่อยามยินเสียงนกวิหคแว่ว...ร้องแจ้ว ๆ เสียงใสในต้นส้ม | |
คิดถึงเพลงดนตรีที่เคยชม...โอ้อารมณ์ชอกช้ำ | |
ไลออน – | ระกำใจ ! |
เมื่อยินเสียงดนตรีที่เคยเล่น...นึกฝันเห็นความสุขยิ่งทุกข์ใหญ่ | |
นึกถึงคราวเล่นระบำจนหนำใจ...ราวจะไข้เพราะคนึง | |
แมรี. – | ขึ้งอุรา ! |
(ฝรั่งรำเท้า)
ไลออน – | แต่วันนี้วันดี |
แมรี. – | เปนศรีวัน |
ทั้งสอง – | ได้ประสบพบกันควรหรรษา |
ไลออน – | ไม่ควรคิดข้อเศร้า |
แมรี. – | เหงาวิญญา |
ทั้งสอง – | มาหัวเราะดีกว่าสบายใจ |
แมรี. – | ถึงเดี๋ยวนี้ไกลบ้าน |
ไลออน – | รำคาญจิต |
ทั้งสอง – | แม้นคิดจะกลับก็กลับได้ |
แมรี. – | ได้พบเพื่อนร่วมชาติ |
ไลออน – | อันกาจไกร |
ทั้งสอง – | สองใจมิตรจิตสนิทกัน |
เจรจา
เอเลน – | (พูดกับแมรี) เจ้าเมืองเสด็จมาต้อนรับผู้บังคับการเรือรบ. |
ไลออน – | เอ๊ะ ! อย่างนั้นฤๅ ? – ทหารแถว ! (นายเรือเอกเรียกทหารเข้าแถว.) |
(พิณพาทย์ทำเพลงพระยาเดิน, กระบวนแห่ท้าวมิดัสออกมาทางซ้าย, มาหยุดกลางโรง; ทหารวันทิยะหัดถ์. ท้าวมิดัสจับมือกับนายนาวาเอก ไลออน.)
บทร้อง – ท้าวมิดัส
(สารถี)
๏ ฃ้ายินดีต้อนรับคำนับท่าน | นายทหารนาวีผู้มีศักดิ์ |
ที่ท่านพานาวามาสำนัก | เห็นประจักษ์จริงใจซึ่งไมตรี |
กรุงบริเตนเปนใหญ่ในสมุท | ฤทธิรุทรฦๅชาทุกราษี |
มีอำนาจอาจท้าทั่วธาตรี | ส่งนาวีเที่ยวตรวจสำรวจการ |
อันอัลฟะเบตาเปนเกาะย่อม | เคยประนอมไมตรีไม่มีหาญ |
ที่ท่านมาครานี้ไมตรีการ | จะชื่นบานยิ่งกว่าเก่าเราพอใจ |
ขอเชิญท่านทหารและนายพล | ทั่วทุกตนไปยังที่วังใหญ่ |
ฃ้าจะเชิญกินของที่ต้องใจ | ขออย่าให้เสียศรัทธาที่ฃ้าเชิญ ฯ |
บทร้อง –ไลออนกับทหาร
(มอญชมดาว)
ไลออน – | ฃ้าขอขอบพระคุณสุนทรคำ |
ทหาร – | ฃ้าขอขอบพระคุณสุนทรคำ |
ไลออน – | ช่างหวานฉ่ำหนักหนาน่าสรรเสริญ |
ทหาร – | ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร |
ไลออน – | หฤทัยท้าวนี้ดีเหลือเกิน |
ทหาร – | หฤทัยท้าวนี้ดีเหลือเกิน |
ไลออน – | ทหารโห่ขึ้นเทอญ ฮิบฮุเร |
ทหาร – | ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร |
ไลออน – | ที่ฃ้านำนาวามาที่นี้ |
ทหาร – | ทีขำนำนาวามาทัน |
ไลออน – | เพราะไมตรีแม่นมั่นไม่หันเห |
ทหาร – | ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร |
ไลออน – | เหล่าทหารพร้อมพรั่งกันทั้งเพ |
ทหาร – | เหล่าทหารพร้อมพรั่งกันทั้งเพ |
ไลออน – | โห่เฮถวายไท จงไชโย |
ทหาร – | ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร ฮิบฮุเร |
(ในตอนท้ายแห่งบทร้องนี้ ประตูโบถเปิดและคริสโตเฟอร์หัวหน้านักบวช โยฮันนิส และคอนสตันติโน๊ส ออกมาจากโบถ ยืนที่บันได, ทหารร้องจบ คริสโตเฟอร์ร้องต่อทีเดียว)
บทส่ง –ร้องสลับ
คริสโตเฟอร์ (พราหมณ์เฃ้าโบถ)
๏ ดูก่อนราชามหายศ | อีกทวยราษฎร์ทั้งหมดฟังผู้ใหญ่ |
ระวังเถิดจะต้องหม่นหมองใจ | มหาภัยจะมายายี |
แมรีกับผู้หญิง (กำปอ)
๏ หนอยแน่หนอยแน่ท่านแก่เถ้า | มาพูดเย้าเปนบ้าน่าบัดสี |
เฃากำลังตั้งใจต่อไมตรี | มาอู้อี้อื้ออ้าน่ารำคาญ |
คริสโตเฟอร์ (พราหมณ์เฃ้าโบถ)
๏ ราชาระวังอย่าฟังโง่ | พูดโยโสเสรแสร้งแกล้งอวดหาญ |
จงนึกถ้อยคำในตำนาน | ที่โบราณบิดาท่านว่าไว้ |
ทหารเรือ (ปีนตลิ่งนอก)
๏ โฮโฮฮาฮาน่าหัวเราะ | ตาแก่เกราะกำลังจะคลั่งใหญ่ |
โฮโฮฮาฮาบ้าเหลือใจ | ควรรับไปส่งโรงพยาบาล |
คริสโตเฟอร์ (ทำนองพากย์)
๏ ดูดู๋กระไรใจเบา ไม่ฟังเสียงเรา ผู้รู้กระบิลปริญญา
แมรีและผู้หญิง (กำปอ)
๏ เจ้านายเธอจำนงทรงต้อนรับ | และคำนับโยธาผู้กล้าหาญ |
มาพูดยวนกวนใจไม่เข้าการ | จงกลับบ้านเถิดตาอย่าชวนโย |
คริสโตเฟอร์ (ทำนองพากย์)
๏ มัวเหม่อเผลอเรื่อยเฉื่อยชา มีภัยใหญ่มา ราชาอย่านิ่งนอนใจ
ทหารเรือ (ปีนตลิ่งนอก)
๏ ฮือฮือตาขวางท่าทางวุ่น | ฮือฮือแกฉุนจนเดือดพล่าน |
หุยฮาตาแก่แกซมซาน | หุยฮาคางยานเหมือนลิงไพร |
คริสโตเฟอร์ (ศัพไทย)
๏ ฟังซี ผู้หญิงกับกลาสีมาชวนโง่ เกิดภัยใหญ่โต โอไม่รู้ตัว ราชาเชื่อหญิง จะยิ่งยุ่งนัว เกิดภัยไม่กลัว มัวหลงหลับตา เกิดเหตุแรงร้าย กล้ำกรายบีฑา ทั่วทั้งภารา จะว้าวุ่นไป
คนอื่นทั้งหมด (กราวรำ) (ร้องทั้งผู้ชายและหญิง)
๏ โฮโฮฮาฮาน่าหัวเราะ | เฮาะเฮาะแกบ่นเหมือนคนบ้า |
ตาเถ้าชะแรแก่ชรา | หลงแล้วคุณตามาดึงดัน |
ฮือฮือโกรธาจนตาแดง | ชะชะทำแขงจนตัวสั่น |
เกรี้ยวกร้าวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน | เลิกกันดีกว่าคุณตาเอย ฯ |