หมายรับสั่งพระราชพิธีโสกันต์ ในรัชกาลที่ ๑ ฉบับที่ ๗

๏ ด้วยเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช รับสั่งใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า หลวงโลกทีปโหรมีชื่อคำนวณพระฤกษ์ทูลเกล้า ฯ ถวาย ว่าพระฤกษ์จะได้ตั้งพระราชพิธีมงคลการโสกันต์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จะได้ตั้งพระราชพิธีสงฆ์พิธีพราหมณ์พร้อมกัน พระสงฆ์ ๕๐ รูป จะได้เจริญพระพุทธมนตร์ณวันเดือน ๔ ขึ้น ๑๕ ค่ำแลแรมค่ำ ๑-๒ ค่ำปีมะโรงสัมฤทธิศก เพลาบ่าย ๒ โมง ๖ บาท จะได้เชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า ฯ ซึ่งจะโสกันต์ แห่เสด็จฟังพระสงฆ์สวดพระพุทธมนตร์ ๓ วัน ครั้นรุ่งขึ้นณวันศุกร์ เดือน ๔ แรม ๓ ค่ำเพลาเช้า ๑ โมง ๓ บาทพระฤกษ์จะได้จรดพระกรรบิดกรรไกร แปรพระภักตร์ไปทิศอาคเณย์เปนกำหนดพระเกษฉินทฤกษ์ จรดพระกรรบิดกรรไกรแล้วจะได้เชิญเสด็จและนิมนต์พระสงฆ์ไปรดน้ำพระพุทธมนตร์ สรงน้ำบนพระแท่นเชิงเขาไกรลาศ น้ำออกจากปากราชสีห์ แล้วพระสงฆ์กลับขึ้นไปรับพระราชทานฉัน

ครั้นณวันเดือน ๔ แรม ๓ ค่ำ ๔ ค่ำ ๕ ค่ำ เพลาบ่าย ๒ โมง ๙ บาท พระฤกษ์จะได้แห่สมโภชเวียนพระเทียนณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ๓ วันเปนคำรบ ๖ วัน

ให้ชาวพระราชยานเชิญพระราชยานเข้าไปทางถนนท้องฉนวนประตูสวน ไปประทับรับเสด็จณเกยพระที่นั่งในพระราชวัง ให้แบ่งกระบวนแห่เข้าไปกับพระราชยาน ตั้งกระบวนในพระราชวังรับเสด็จ

กระบวนน่า

คู่แห่ เด็กศีศะจุก ๘๐ ถือต้นเชือกปลายเชือก ๔ รวม ๘๔

แตรฝรั่ง ๔ แตรงอน ๔ สังข์ ๑ รวม ๙

เครื่องสูง ๒๖ บังพระสูริย์ ๑ รวม ๒๗

เชิญพระแสงหว่างเครื่อง ๔ เชิญพระกลด ๑ ขับไม้บัณเฑาะว์ ๒ รวม ๗

พราหมณ์โปรยเข้าตอก ๑ พราหมณ์ถือดอกไม้ ๑ รวม ๒

เคียงพระราชยาน ๑๒

อินทรพรหม ๑๖

หามพระราชยาน ๑๐

รวม (กระบวนน่า) ๑๖๗ คน

กระบวนหลัง

เครื่องสูง ๘

เชิญพระแสง (หว่างเครื่อง) ๒

รวม (กระบวนหลัง) ๑๐ คน

รวมทั้งสิ้น ๑๗๗ คน

ครั้นแสด็จลงพระราชยาน ให้เป่าสังข์ คู่แห่นั่งประนมมือ สิ้นเสียงสังข์เป่าแตร สิ้นเสียงแตรสารวัดตีกรับ คู่แห่กราบถวายบังคมพร้อมกัน สารวัดรัวกรับให้ลุกขึ้นเดิน ถ้าจะเดินเร็วให้สารวัดรัวกรับให้เดินเร็วไป ครั้งออกไปถึงประตูราชสำราญให้เป่าสังข์แตรขึ้น คู่แห่ซึ่งตั้งกระบวนไว้รับเสด็จอยู่นอกประตู

คู่แห่ผู้ใหญ่ ๘๐

แตรงอน ๒๖ แตรฝรั่ง ๑๖ รวม ๔๒

กลองชนะ ๔๐

รวมทั้งสิ้น ๑๖๒ คน กราบถวายบังคมแล้วลุกขึ้นบรรจบกับต้นเชือกต่อกับเครื่องสูงเปนกระบวนเดียวกัน แห่ตามทางปักราชวัตรฉัตรเบญจรงค์รายทางไป ถึงมุมโรงแสงข้างใต้ให้เป่าสังข์แตรครั้งหนึ่ง ครั้นไปถึงมุมพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดารามข้างใต้ให้เป่าสังข์แตรครั้งหนึ่ง ครั้นไปถึงป้อมเผด็จดัษกรให้เป่าสังข์แตรครั้งหนึ่ง ถึงประตูกลางพระระเบียงข้างเหนือให้เป่าสังข์แตรครั้งหนึ่ง ถึงประตูวิเศษไชยศรีเป่าสังข์แตรครั้งหนึ่ง ครั้นเข้าประตูพิมานไชยศรีเป่าสังข์แตรครั้งหนึ่ง เลี้ยวตามถนนไปน่าทิมดาบตำรวจใน ถึงมุมโรงนาฬิกาข้างตวันตกให้เป่าสังข์แตรครั้งหนึ่ง คู่แห่ยกมือประนมพร้อมกันทุกครั้ง ครั้นถึงกำแพงแก้วพระมหาปราสาทให้คู่แห่ผู้ใหญ่ตรงขึ้นไปตามประตูกำแพงแก้วพระมหาปราสาท แต่แตรงอนแตรฝรั่งกลองชนะซึ่งมิได้เข้าไปในพระราชวังนั้น ให้หยุดอยู่ในราชวัตรเหนือประตูกำแพงแก้วพระมหาปราสาทด้านตวันออก คู่แห่เด็กนั้นให้เลี้ยวตามถนนริมกำแพงแก้วลงไปข้างใต้ ถึงเกยแล้วเลี้ยวออกไปหว่างกระถางต้นไม้ตรงไปเข้าเขาไกรลาศ ปลายเชือกคู่แห่ข้างใต้หมายเอาฉัตรมุมข้างใต้ ปลายเชือกคู่แห่ข้างเหนือหมายเอาฉัตรกระไดนาคข้างเหนือ หยุดอยู่ทั้ง ๒ แถวให้แยกแถวออกไว้ ให้กว้างแล้วให้นั่งลงผินหน้ากลับเข้ามาข้างเกยทั้ง ๒ แถว และเครื่องสูง แตรฝรั่งแตรงอนสังข์ เชิญพระแสง กระบวนน่าซึ่งเข้าไปในพระราชวังนั้น ให้ตามคู่แห่เด็กเข้าไปกลางหว่างแถว คู่แห่เด็กนั้นให้นั่งตามกระบวน ผินหน้ากลับเข้าไปข้างเกยให้พร้อมกัน

ครั้นพระราชยานประทับเสด็จขึ้นเกย พระราชยานคู่เคียง อินทรพรหม เชิญพระกลด บังพระสูริย์ ขับไม้ พราหมณ์เลี้ยวตามคู่แห่เด็กไปหว่างคู่แห่ ให้หยุดอยู่ในคู่แห่ตามกระบวน แล้วจึงเป่าสังข์แตรขึ้น แตรงอนแตรฝรั่งซึ่งอยู่ริมกำแพงแก้วก็เป่าขึ้นพร้อมกันตามแตรงอนแตรฝรั่งนั้น สารวัดตีกรับ คู่แห่กราบถวายบังคมพร้อมกัน ชาวนาฬิกาเอาเสื่อผ้าลาดพระบาทปูรับเสด็จแต่เกยไปจนถึงอัฒจันท์ท้ายพระมหาปราสาท และเครื่องสูง เชิญพระแสงหลังนั้นตรงขึ้นไปตามประตูกำแพงแก้วพระมหาปราสาทตามคู่่แห่ผู้ใหญ่ นางแต่งตัวสระตรงไปตามถนนเข้าประตูพรหมภักตร์ฝ่ายขวาเข้าในพระราชวัง แล้วจึงให้ยกเอาคู่แห่เด็กกลับมาตามทางเข้าไปตั้งกระบวนอยู่มุมกระถางต้นไม้ตรงประตูชลาพระมหาปราสาท แล้วคู่แห่ผู้ใหญ่จึงมาตั้งกระบวนต่อเด็กออกไป เครื่องสูง แตรฝรั่ง แตรงอน สังข์ เชิญพระแสง ขับไม้ พราหมณ์ กระบวนน่านั้นให้เข้าตามกระบวน ผินหน้ากลับเข้าไปข้างเกยให้พร้อมกัน ถ้าพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์จบแล้ว ชาวพระราชยานเชิญพรมเสลี่ยงน้อยรับเสด็จมาแต่อัฒจันท์พระมหาปราสาท เชิญพระราชยานใหญ่เข้าประทับรับเสด็จณเกย

ครั้นเสด็จลงพระราชยานแล้ว เป่าสังข์เป่าแตร สารวัดตีกรับ คู่แห่กราบถวายบังคมพร้อมกัน ครั้นสารวัดรัวกรับให้ลุกขึ้นเดินไปตามทางซึ่งแห่มานั้น ครั้นถึงประตูราชสำราญให้คู่แห่ผู้ใหญ่ตรงไป ให้หยุดตั้งกระบวนอยู่ณท้ายโรงหล่อจวนกลาง ให้แยกออกเปน ๒ แถว กลับหน้าเข้ามา และแตรฝรั่งแตรงอนซึ่งอยู่ในกระบวนนอกนั้นให้ตรงไปตามคู่แห่ผู้ใหญ่ หยุดอยู่ในคู่แห่ตามกระบวน ผินหน้ากลับเข้ามาเหมือนกันกับคู่แห่ ครั้นพระราชยานถึงประตูราชสำราญแล้ว เป่าสังข์เป่าแตรงอนแตรฝรั่ง สารวัดตีกรับ คู่แห่ผู้ใหญ่กราบถวายบังคมพร้อมกัน คู่แห่เด็กกับเครื่องสูง เชิญพระแสง แตรงอน แตรฝรั่ง สังข์อินทรพรหมคู่เคียงแห่เสด็จเข้าไปในพระราชวัง แลเครื่องสูง เชิญพระแสงหลังตามเสด็จเข้าไปด้วยตามกระบวนซึ่งแห่ออกมานั้น ครั้นส่งเสด็จแล้วเชิญพระราชยานกลับออกมาตามท้องฉนวน กระบวนแห่น่าแห่หลังก็กลับออกไปพร้อมกัน.

ให้เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช เข้าไปจัดแจงในพระราชวัง พระยายมราชอยู่จัดแจงที่ประตูราชสำราญข้างนอก เจ้าพระยามหาเสนาอยู่จัดแจงที่ประตูวิเศษไชยศรีข้างใน เจ้าพระยาธรรมา อยู่จัดแจงที่เกยพระมหาปราสาท

แต่เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช ๑ เจ้าพระยามหาเสนา ๑ พระยายมราช ๑ ให้ตามกระบวนไปด้วย

ครั้นถึงณวันศุกร เดือน ๔ แรม ๓ ค่ำ เพลาเช้า ตามกระบวนมาถึงที่แล้วให้ไปอยู่เขาไกรลาศ เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราชอยู่จัดแจงมุมตวันออกข้างใต้ เจ้าพระยามหาเสนาอยู่จัดแจงมุมตวันออกข้างเหนือ เจ้าพระยาธรรมาอยู่จัดแจงมุมตวันตกข้างใต้ พระยายมราชอยู่จัดแจงมุมตวันตกข้างเหนือ ครั้นโสกันต์แล้วถวายผ้าสบง เสด็จกลับเข้าไปทางประตูท้ายพระ เสด็จเลี้ยวไปทรงตักบาตรที่ชลาท้ายพระมหาปราสาท สนมพลเรือนผูกม่านสกัดกั้นแต่กำแพงแก้วมาถึงพระมหาปราสาทตรงเข้าในพระราชวัง ทรงตักบาตรที่ชลาริมพระราชมณเฑียร จึงเชิญพระราชยานกับคู่เคียง เครื่องสูง แตรสังข์ ขับไม้ เชิญพระแสง อินทรพรหม ไปตั้งกระบวนสงบไว้เตรียมรับเสด็จอยู่ณเกยเขาไกรลาศข้างตวันออก แตรงอน แตรฝรั่ง กลองชนะ นั้นให้ไปอยู่น่าพระราชวัง นั่งกลาบาตแต่โรงนาฬิกาไปจนถึงมุมทิมดาบชั้นใน แต่คู่แห่นั้นให้ไปตั้งกระบวนอยู่ ผู้ใหญ่อยู่นอกประตูพิมานไชยศรี เด็กอยู่ในประตูพิมานไชยศรี

ครั้นทรงบาตรแล้วเสด็จกลับออกมาทางเสด็จเข้าไปนั้น ชาวพระราชยานเชิญพระเสลี่ยงน้อยเข้าประทับรับเสด็จณประตูท้ายพระ ครั้นเสด็จขึ้นทรงพระเสลี่ยงแล้ว ขับไม้ พราหมณ์นำเสด็จ เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช ๑ เจ้าพระยาธรรมา ๑ คู่ ๑ พระยาบำเรอภักดี ๑ พระยารักษมณเฑียร ๑ คู่ ๑ รวม ๒ คู่ เคียงพระเสลี่ยงไปสรงน้ำ ณแท่นเชิงเขาไกรลาศ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์เปนพระอิศวร เสด็จขึ้นไปทรงเครื่องอยู่บนเขาไกรลาศชั้นแท่นบุษบก ชาววังเอาม่านลายทองแผ่ลวดพื้นสักหลาดผูกบังรอบทั้ง ๔ ด้าน แล้วเอาม่านพื้นทองคาดพุ่มเข้าบิณฑ์บนบุษบกไขทั้ง ๔ ด้าน ชาววังคอยชักไขข้างละคน แล้วเอาเสื่ออ่อน พรม พระยี่ภู่ผืนใหญ่ พระเขนยลาย กระบวนแต่งที่บุษบก พื้นชั้นแท่นบุษบกชาววังปูเสื่อ ตั้งเตียง สนมพลเรือนปูพรม คู่เคียงไปคอยเคียงเข้ากระบวนซึ่งตั้งสงบไว้นั้น แต่ขับไม้ พราหมณ์ อยู่ในที่สรง สรงแล้วชีพ่อพราหมณ์ถวายน้ำกรด น้ำสังข์ แล้วเสด็จเข้าในพลับพลาเปลื้องเครื่อง ทรงผลัดพระภูษาเสื้อผ้าถอดแล้ว ทรงผลัดพระภูษาเสด็จขึ้นบนยอดเขาเฝ้าพระอิศวร ๆ เสด็จลงไปรับถึงกลางบันไดนาค ขึ้นไปถึงชั้นพระแท่นพระอิศวรเสด็จขึ้นไปเข้าในบุษบก ชาววังชักม่านไขปิด สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ฯ เสด็จเลี้ยวไปทรงเครื่องที่มุมตวันตกข้างเหนือ ชาวพระภูษามาลาประดับพระองค์เสร็จแลว จึงเสด็จขึนไปเฝ้าพระอิศวร ชาววังชักม่านไขเปิดทั้ง ๔ ด้าน พระอิศวรจำเริญพรประทานแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ฯ เสด็จกลับลงไปข้างตวันออก ขับไม้ พราหมณ์ ไปเข้ากระบวน

ครั้นเสด็จถึงเกยทรงพระราชยานแล้ว จึงเป่าสังข์ คู่แห่ประนมมือขึ้นพร้อมกัน สงบเสียงสังข์เป่าแตร แตงสงบเสียงแล้วสารวัดตีกรับ ให้กราบถวายบังคมพร้อมกัน ๓ หน ครั้นสารวัดรัวกรับให้ลุกขึ้นเดินพร้อมกัน แตรงอน แตรฝรั่ง กลองชนะ ซึ่งอยู่น่าพระราชวังก็ให้เป่าขึ้นรับแตรสังข์ในกระบวนนั้น แต่กลองชนะนั้นให้ประโคมไปกว่าจะเวียนแล้ว ครั้นเวียนเขาไกรลาศซ้ายไปขวา ๓ รอบแล้ว คู่แห่ตรงไปออกประตูพิมานไชยศรี เสด็จกลับเข้าในพระราชวังไปเข้าประตูราชสำราญตามทางแห่มานั้น.

ให้ผู้เข้ากระบวนแห่แลผู้ได้จัดแจงทำตามหมายรับสั่งมานี้ ถ้ามิแจ้งให้ไปถามกรมวัง

ให้มหาดไทย กลาโหม พระสัสดี หมายบอกให้ทั่วอย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

  1. ๑. ข้าราชการผู้ใหญ่ซึ่งปรากฏนามในหมายรับสั่งนี้ คือ

    เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช บุญรอด ต้นสกุล บุญรัตพันธุ์

    เจ้าพระยามหาเสนา ปิ่น ต่อมาเปนเจ้าพระยาอภัยราชา บิดาเจ้าพระยาบดินทรเดชา สิงห์เสนี

    เจ้าพระยาธรรมา ฯ สด

    พระยายมราช บุญมา ต่อมาเปนเจ้าพระยามหาเสนา เปนพี่เจ้าพระยามหาเสนา บุนนาค

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ