คำนำ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแขไขดวง ทรงเปนเจ้าภาพจัดการศพหม่อมเจ้าหญิงเป้า ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๑ กรมพระรามอิศเรศ มีรับสั่งมายังหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร ว่ามีพระประสงค์จะทรงพิมพ์หนังสือเปนของแจกในงานพระราชทานเพลิงศพหม่อมเจ้าหญิงเป้าสักเรื่อง ๑ ขอให้กรรมการหอพระสมุด ฯ ช่วยเลือกเรื่องหนังสือแลจัดการพิมพ์ถวาย ข้าพเจ้าเปนผู้เลือก คิดเห็นว่าหม่อมเจ้าหญิงเป้าเปนหลานเธอในพระบาทสมเด็จ ฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งมีพระชนมายุอยู่มาเปนองค์ที่สุด ถ้าหาเรื่องหนังสือซึ่งเนื่องในรัชกาลที่ ๑ ได้จะเหมาะดี พเอิญในเวลาที่เลือกหาเรื่องหนังสือนั้น หอพระสมุด ฯ ได้ร่างหมายรับสั่งการพระราชพิธีโสกันต์พระเจ้าลูกเธอแลหลานเธอครั้งรัชกาลที่ ๑ มา แล้วทราบว่าหมายรับสั่งครั้งโสกันต์เจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี มีอยู่กับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการอิกเรื่อง ๑ ทูลขอได้ประทานมา จึงรวมพิมพ์ไว้ในสมุดเล่มนี้ นับในหนังสือจำพวกลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ เปนภาคที่ ๑๒ ถวายพระองค์เจ้าแขไขดวงทรงแจกในงานศพหม่อมเจ้าหญิงเป้าตามพระประสงค์

ประวัติหม่อมเจ้าหญิงเป้า

หม่อมเจ้าหญิงเป้าหม่อมเจ้าองค์น้อยในพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๑ กรมพระรามอิศเรศ ประสูตรที่วังข้างหลักเมือง เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ปีกุญ พ.ศ. ๒๓๙๔ หม่อมพลับเปนมารดา เมื่อหม่อมเจ้าหญิงเป้ามีชนมายุได้ ๓ ปี กรมพระรามอิศเรศสิ้นพระชนม์ พระบรมวงศ์เธอชั้น ๑ พระองค์เจ้าหญิงพลับเสด็จป้ารับเข้าไปทรงบำรุงเลี้ยงไว้ในพระบรมมหาราชวังต่อมาจนเจริญไวย ได้รับราชการเปนตำแหน่งพนักงานทรงบาตรเมื่อในรัชกาลที่ ๔ ถึงรัชกาลที่ ๕ เปนพนักงานพระสุคนธ์แล้วมาเปนพนักงานรักษาพระราชมณเฑียรฝ่ายใน ได้พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์จตุตถจุลจอมเกล้า แลเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๔ ชั้นที่ ๔ เปนเกียรติยศ

เมื่อรัตนโกสินทรศก ๑๒๘ (พ.ศ. ๒๔๕๒) หม่อมเจ้าหญิงเป้ามีศรัทธาจะบำเพ็ญการกุศลให้เปนถาวรประโยชน์ ทุนทรัพย์มีแต่เครื่องเงินทองของรูปพรรณ จึงนำความขึ้นกราบบังคมทูลแด่พระบาทสมเด็จ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ เพื่อจะสร้างสพานให้เปนประโยชน์แก่มหาชนสักแห่ง ๑ ก็ทรงอนุโมทนาในกุศลเจตนาของหม่อมเจ้าหญิงเป้า โปรด ฯ ให้เจ้าพนักงานจัดการจำหน่ายสิ่งของให้ได้ราคาตามสมควร แล้วพระราชทานทุนทรัพย์ให้กรมศุขาภิบาลสร้างสพานที่ถนนจักรพงศ์ตรงเหนือวัดชนะสงคราม พระราชทานนามว่า “สพานรามบุตรี” เมื่อการสร้างสำเร็จแล้วโปรดให้มีการฉลอง จัดงานหลวงทรงช่วยหม่อมเจ้าหญิงเป้า แลเสด็จพระราชดำเนินไปช่วยในเวลาหม่อมเจ้าหญิงเป้าทำพิธีเปิดสพานรามบุตรี เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ มีรายการพิธีปรากฏอยู่ในหนังสือราชกิจจานุเบกษาดังนี้.

การเปิดสพานรามบุตรี

เจ้าพนักงานได้จัดการปลูกปรำที่กลางถนนต่อเชิงสพานด้านใต้ตอนน่าวัดชนะสงคราม กั้นม่านเปนสองตอน สำหรับหม่อมเจ้าหญิงเป้าพักตอนหนึ่ง สำหรับพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ตอนหนึ่ง แลตั้งอาศนสงฆ์ตั้งโต๊ะหมู่เครื่องบูชาประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งเชิญไปจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งเครื่องนมัสการกระบะมุก แลตกแต่งสพานผูกเชือกแขวนโคมยี่ปุ่นตามต้นโศกสองข้างทางในจังหวัดสพานพร้อมแล้ว

วันที่ ๑๓ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙ พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ ๕ รูป มีพระสุเมธาจารยเปนประธาน เวลาบ่าย ๔ โมง หม่อมเจ้าเป้าได้ขึ้นรถหลวงมาพักยังปรำ ถวายไตรแก่พระสงฆ์ ๕ รูป ๆ ออกไปครองไตรกลับมานั่งณอาศนแล้ว หม่อมเจ้าเป้าจุดเทียนเครื่องนมัสการแลที่โต๊ะหมู่ พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์สัต์ตปริตจบแล้ว หม่อมเจ้าเป้าถวายผ้าสบงหมากพลูธูปเทียนของหลวงแก่พระสงฆ์ ๆ พักรอเสด็จพระราชดำเนินอยู่

ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรถพระที่นั่งไฟฟ้า เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถพระที่นั่งน่าปรำด้านใต้ เจ้าพระยายมราชเสนาบดีกระทรวงนครบาลอ่านรายงานการก่อสร้างสพาน (ดังนี้)

ขอกราบทูล ได้ทรงทราบ

ด้วยตามที่ฝ่าพระบาทนำเงินแลทองรูปพรรณขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ให้ได้สร้างสพานอันเปนสาธารณะประโยชน์แก่มหาชน เปนการโดยเสด็จพระราชกุศลซึ่งเปนพระราชนิยมส่วนหนึ่งนั้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชหฤไทยโสมนัศยินดีทรงอนุโมทนาในส่วนพระกุศลนี้ด้วย จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ให้กรมศุขาภิบาลเลือกหาสพานใดสพานหนึ่งสร้างถวายให้ทันพระประสงค์ แล้วพระราชทานนามว่า “สพานรามบุตรี” เพื่อเเปนครื่องเชิดชูพระเกียรติคุณแห่งพระเจ้าไอยยาเธอ กรมพระรามอิศเรศ แลฝ่าพระบาทอยู่สิ้นกาลนาน

เมื่อกรมศุขาภิบาลได้รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าใส่กระหม่อมฉนี้แล้ว จึงได้จัดสร้างสพานข้ามคลองวัดชนะสงครามในถนนจักรพงศ์นี้ขึ้นโดยกว้าง ๔ วา ๓ ศอก ยาวตามถนน ๒ วา ๑ ศอก ๑ คืบ สูงตั้งแต่ระดับน้ำถึงพื้นสพาน ๒ ศอก ๙ นิ้ว เปนสพานชนิดก่ออิฐพิมพ์ถือสิเมนต์ใช้พนักแลรอดเหล็กอย่างมั่นคงแขงแรง มีลวดลายพอสมควร ได้ใช้จ่ายค่าแรงแลค่าสิ่งของในการสร้างสะพานนี้ครบจำนวนเงิน ๔,๕๙๘ บาท ๔๒ สตางค์ ทีฝ่าพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายนั้น

บัดนี้การสร้างได้เสร็จบริบูรณ์แล้ว แลวันกำหนดที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปิดสพานนี้ เพื่อมหาชนได้เดินไปมาเปนผาศุกต่อไป

ในนามของกรมศุขาภิบาล เกล้ากระหม่อมขอกราบทูลว่าการที่ฝ่าพระบาท ทรงศรัพธาบริจาคทรัพย์สร้างสพานให้เปนสาธารณะทานนี้ ก็นับว่าได้ทรงกระทำประโยชน์ อันบังเกิดแต่โภคสมบัติให้วัฒนาถาวรมิรู้เสื่อมสูญ ทั้งจะเปนประโยชน์เกื้อกูลตามส่งผลในปรโลกสืบไปจนสิ้นกาลนาน

ขอส่วนพระกุศลบุญราศีที่ได้ทรงบำเพ็ญสาธารณะทานในกาลครั้งนี้จงเปนผลสำเร็จตามอภิบาลรักษาฝ่าพระบาท ให้ปราศจากสิ่งซึ่งเปนส่วนแห่งอนิฏฐารมณ์ทั้งหลาย แม้มีพระไทยมุ่งหมายปราถนาสิ่งใด ขอให้สำเร็จสมดังพระประสงค์จงทุกประการ

เกล้ากระหม่อม ขอเชิญฝ่าพระบาททรงตัดแพรอันขึงกั้นทางที่ขวางไว้ แลทรงเปิดผ้าซึ่งคลุมนามสพานออกณบัดนี้ จะได้เปนเครื่องหมายว่าได้ขนานนามสพานตามพระบรมราชานุญาตแล้ว แลจะได้ทรงอนุโมทนาในพระกุศลที่ได้ทรงบำเพ็ญสารประโยชน์นี้สืบไปในกาลบัดนี้

(เมื่อเจ้าพระยายมราชอ่านรายงานจบแล้ว) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้หม่อมเจ้าเป้า เสด็จไปบนสพานตัดแพรแถบที่กั้นสพานให้ขาดออกแลเปิดคลุมนามสพานซึ่งมีอักษรจารึกว่า “สพานรามบุตรี” ในเวลานี้เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์พิณพาทย์ พระสงฆ์สวดไชยมงคลคาถาสมมุติว่าได้เปิดสพานเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เคลื่อนรถพระที่นั่งไปประทับบนสพาน มีพระราชดำรัสแก่เจ้าพระยายมราช แลหม่อมเจ้าเป้าพอสมควรแล้ว เคลื่อนรถพระที่นั่งข้ามสพานเปนมงคลฤกษ์ เสด็จพระราชดำเนินกลับ อนึ่งในวันนี้ได้มีเพลงเล่นการฉลองสะพานนี้ด้วย มีความในหนังสือราชกิจจานุเบกษาดังนี้

ในเวลาต่อมาหม่อมเจ้าหญิงเป้าปราถนาจะบริจาคทรัพย์บำเพ็ญการกุศลอันถาวรประโยชน์เนื่องในพระสาสนา พระบาทสมเด็จ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแนะนำให้อุปการะวัดพระเชตุพน อันเปนพระอารามซึ่งพระบาทสมเด็จ ฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สมเด็จพระไอยกาธิราชของหม่อมเจ้าหญิงเป้าได้ทรงสร้างไว้ ก็ได้ปฏิสังขรณ์กุฎีวัดพระเชตุพนอันชำรุดซุดโซมให้คืนดีขึ้นอิก ๘ หลัง

เมื่อพระบาทสมเด็จ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปประทับอยู่ณพระราชวังดุสิต การรักษาพระราชมณเฑียรในพระบรมมหาราชวังเปลี่ยนเปนอย่างอื่น หม่อมเจ้าหญิงเป้าจึงไปรับราชการเปนพนักงานเครื่องนมัสการมาจนรัชกาลปัตยุบันนี้ ครั้นชราทุพลภาพจึงขอไปรับราชการเปนตำแหน่งพนักงานรักษาหอพระธาตุมณเฑียร อยูในตำแหน่งนี้มาจนสิ้นชีพตักไษย ที่ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อณวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๓ มีชนมายุได้ ๗๐ ปี แลในเวลาเมื่อหม่อมเจ้าหญิงเป้าประชวรอยู่นั้น ได้มอบทรัพย์สมบัติซึ่งเหลือไว้สำหรับทำการปลงศพถวายพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแขไขดวง ขอให้ทรงเปนเจ้าภาพจัดการศพ จึงได้ทรงจัดการตามประสงค์ตั้งแต่สิ้นชีพตักไษยมาจนพระราชทานเพลิงศพณกาลบัดนี้

ข้าพเจ้าขอถวายอนุโมทนากุศลบุญราศีทักษิณานุปทาน ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแขไขดวง ได้ทรงเปนเจ้าภาพศพหม่อมเจ้าหญิงเป้า แลทรงพิมพ์หนังสือเรื่องนี้ให้ได้อ่านกันแพร่หลาย หวังใจว่าท่านทั้งหลายที่ได้รับสมุดเล่มนี้ไป คงจะพอใจและถวายอนุโมทนาด้วยทั่วกัน.

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สภานายก

หอพระสมุดวชิรญาณ

วันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๔

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ