ทุคคตะสอนบุตร

ขอแจ้งเรื่องเบื้องโบราณนิทานหลัง โดยคดีที่ได้ตรับสดับฟัง ตามกำลังกล่าวกลอนไว้สอนใจ แต่แรกเริ่มเดิมที่มีบุรุษ ทุฐรุตยากจนพ้นนิสไสย เต็มประดาแทบชีวาบรรลัยไป ด้วยความไข้โรคามายายี ภรรยาขาแข้งก็แข็งขัด สารพัตรคับแค้นแสนบัดสี จะทำมาหากินก็สิ้นที เพราะไม่มีเรี่ยวแรงให้แพลงเพลีย ผลกรรมทำไว้แต่ป่างหลัง จึงเซซังขัดสนเป็นคนเปลี้ย ประจวบกันทันตัวทั้งผัวเมีย เป็นง่อยเพลียยับเยินจนเกินการ ทั้งสองคนมีบุตรสุดที่รัก เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงมาน่าสงสาร จนพี่ชายใหญ่กล้าปรีชาชาญ จะประมาณคราวสักเก้าปี แต่น้องนุชสุดท้องยังเด็กนัก อายุสักเจ็ดขวบประจวบที่ วันหนึ่งย่ำสนธยาเป็นราตรี สุริย์ศรีลับเหลี่ยมพระเมรุทร ผัวกับเมียคลาไคลเข้าไสยาสน์ แล้วเอนอาตม์ เอียงประทับลงกับหมอน ถวิลหวาดวิญญาให้อาวรณ์ สะท้อนถอนทรวงเศร้ากำสรดครวญ แล้วปรึกษากันตามเนื้อความทุกข์ ไม่มีสุขยากแค้นแสนกำสรวล ตั้งแต่นี้นับวันจะรัญจวน เข้าของห้วนหดเหี้ยนจนเตียนตา จนสุดสิ้นแล้วจะได้ที่ไหนเล่า ครั้งนี้เราเห็นชีวังจะสังขาร์ คิดคิดไปอยู่ใยนะน้องอา สู้ก้มหน้ามวยชนม์ให้พ้นทุกข์ อันพี่น้องญาติกาก็หาไม่ ระกำใจเคืองเข็ญไม่เป็นสุข ทั้งโรคร้ายรำคาญเฝ้ารานรุก จะนั่งลุกเหลือยากลำบากกาย ฝ่ายทารกพี่น้องทั้งสองศรี ครั้นราตรีดับดวงอุทัยฉาย เข้าที่นอนร้อนใจไม่สบาย ให้ระคายคันตัวทั่วทั้งตน ฟังบิดาพาทีถึงข้อทุกข์ นิราสสุขสารพัตรจะขัดสน สองสดับตรับความตามยุบล มีกระมลเบิกบานสำราญรมย์ ด้วยหมายแม่นว่าจะแทนพระคุณสนอง แต่ตรึกตรองนึกจำนงประสงค์สม จนดึกดื่นเดือนสว่างน้ำค้างพรม สองทรามชมเจ้าก็หลับระงับไป พอแสงทองส่องฟ้านภากาศ ภาณุมาศเยื้องเยี่ยมเหลี่ยมไศล กุมารากุมารีก็ดีใจ จึงคลาไคลเข้าไปหาบิดาพลัน แล้วกราบไหว้วิงวอนอ่อนสิโรตม์ แม้นมิโปรดลูกยาจะอาสัญ จงเอ็นดูลูกน้อยกลอยชีวัน ด้วยหมายมั่นมุ่งมาตรไม่ขาดคิด จะขอให้บิดาพาไปขาย ไว้กับนายใดใดให้เป็นสิทธิ์ แม้นได้ทรัพย์เสร็จสมอารมณ์คิด จะได้ซื้อเลี้ยงชีวิตไม่วายปราณ.

ทั้งสองคนฟังบุตรสุดสวาท ให้อนาถนึกมาน่าสงสาร จึงเอื้อนอรรถกล่าวแกล้งแสดงการ เจ้าคิดอ่านยากเย็นไม่เห็นดี อันพ่อแม่เหมือนไม้ที่ใกล้ฝั่ง บัดนี้ยังแต่จะตายไปเป็นผี เจ้าอยู่หลังตั้งหน้าหาที่ดี คงจะมีความสวัสดิ์กำจัดภัย ซึ่งจะเอาเจ้าไปขายไว้เป็นข้า เห็นจนจิตต์บิดาทำไม่ได้ ถึงชีวันนั้นจะวายทำลายไป ไม่อาลัยนึกว่ากรรมก็ตามที.

ทั้งสองบุตรฟังว่าน้ำตาตก ให้ตันอกแสนสลดกำสรดศรี จึงตอบว่าบิดามีปราณี อันชีวีลูกก็หมายจะวายปราณ อยู่ไปใยไม่ได้เรื่องเปลืองข้าวสุก เหมือนทำทุกข์ให้บิดาน่าสงสาร สะอื้นอ้อนวอนว่าเป็นช้านาน แล้วกราบกรานแม่พอจะขอลา.

ทุคคตะรับขวัญให้หวั่นหวาด ใจจะขาดด้วยว่ารักเป็นหนักหนา สุชลซาบอาบไหลนัยนา กอดบุตราครวญคร่ำแล้วรำพัน ว่าเจ้าแก้วแววตาบิดาเอ๋ย ไม่ควรเลยลูกยาจะอาสัญ เพราะพ่อคิดพิสมัยอาลัยครัน มิให้ขวัญเนตรต้องระกำตรอม จะตกไปเป็นทาสอนาถนัก ที่ผ่องพักตรผิดรูปจะซูบผอม เสียดายเนื้อนวลละอองคงหมองมอม เจ้ายินยอมเห็นงามก็ตามใจ ที่บ้านโน้นเศรษฐีไม่มีบุตร ประเสริฐสุดใจดีจะมีไหน พ่อจะพาลูกน้อยกลอยฤทัย ไปขายไว้เป็นทาสขาดราคา จะสั่งความงามปลื้มอย่าลืมหลง จงจำนงข้อคำที่ร่ำว่า ด้วยมีกรรมจำพรากจากบิดา พ่ออุตส่าห์สงวนน้องช่วยป้องกัน แม้นกนิษฐ์ผิดพลั้งช่วยสั่งสอน อย่าแค่นค่อนเคืองขุนทำหุนหัน สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงค่อยเลี้ยงกัน อย่าดุดันหยาบคายให้อายคน จะไปเป็นข้าไทยท่านใช้สอย ระวังคอยจัดแจงทุกแห่งหน อย่าให้นายเหนื่อยยากลำบากตน ตั้งกระมลดูงานการในเรือน ครั้นรุ่งแจ้งแสงอุทัยเธอไตรตรัส จงกวาดจัดอย่าให้สกปรกเปื้อน ถ้าแม้นมีการกิจอย่าบิดเบือน ทำแชเชือนเชิงเฉยจะเคยใจ อย่าคบเพื่อนเที่ยวไปให้ไกลบ้าน ฉวยมีการขุกเข็ญเป็นไฉน เรียกไม่ปะก็จะเคืองเครื่องขัดใจ แม้นจะไปร่ำลาพูดจากัน อย่าใจด่วนลวนลามไม่งามงด อย่าคิดคดทุจริตทำบิดผัน ของสิ่งใดแม้นนายมิให้ปัน เจ้าอย่ากันเกียดไว้มันไม่ดี อย่าลักฉกปกปิดทำมิดเม้น แม้นเขาเห็นแจ้งกระจัดจะบัดสี แล้วมิหนำซ้ำโพยต้องโบยตี ใครจะมีเวทนาเมตตาตัว ถึงเห็นของทิ้งวางอยู่กลางบ้าน อย่าคิดอ่านแยบยลเช่นคนชั่ว ทำเก็บได้ใส่กลไม่พ้นตัว คงหมองมัวเป็นที่ราคีคน ถ้านายรักจงเคารพเข้านบนอบ จงรักตอบนานไปจะได้ผล แม้นนายชังเจ้าอย่าตั้งต่อประจญ สู้เจียมตนรักนายอย่าหมายชัง เทพยเจ้าเขาจะช่วยอวยสวัสดิ์ ท่านเคืองขัดคงดีเมื่อทีหลัง อย่านั่งไกลใช้สอยคอยระวัง สดับฟังร้องเรียกสำเหนียกนาม อนึ่งพวกข้าคนผู้ใหญ่ในเศรษฐี อย่าพาทีจ้วงจาบไปหยาบหยาม สงวนกายหมายเพียงแต่พองาม อย่าลามปามจ้วงเจินให้เกินดี เมื่อสิ้นแสงสุริยาภาณุมาศ อย่าคลาคลาดเคลื่อนคลายแกล้งหน่ายหนี ไปซุกนอนก่อนนายนั้นไม่ดี ถ้าแม้นทีท่านจะเรียกไม่รู้ตัว ครั้นรุ่งแจ้งแสงทองขึ้นส่องฟ้า อย่านิทราเกียจคร้านเป็นการชั่ว งานอะไรที่ต้องเป็นของตัว ดูให้ทั่วทำหาไว้ท่านาย แม้นท่านตื่นขึ้นเห็นเสร็จสำเร็จแล้ว จะผ่องแผ้วชื่นชมด้วยสมหมาย เห็นแขกมาเจ้าอย่าทำกรีดกราย จงน้อมกายก้มกรานค่อยคลานจร บนเสื่อสาดอาสนปูอย่าดูถูก ขึ้นร่วมฟูกรวมเบาะแลเมาะหมอน หนึ่งเมียท่านสาวทรามที่งามงอน อย่าเวียนวอนพูดจาเป็นราคิน แม้นนายแหนงแคลงจิตต์คิดสงสัย ที่ตั้งใจอนุกูลคงศูนย์สิ้น รักษาตัวพ่ออย่ามัวที่มลทิน อย่าเที่ยวนินทานายขยายความ อย่าคบคนพูดพาลสันดานชั่ว จะพาตัวยับระยำด้วยสำสาม อย่าไปทำนอกละเมิดให้เกิดความ จนลุกลามอื้ออึงมาถึงนาย อย่าเล่นเบี้ยเสียซ้ำจำนำผ้า จะขายหน้าฝืดเคืองเครื่องฉิบหาย แม้นขัดสนสิ้นที่ไม่มีอาย ก็วุ่นวายฉกลักมักละเลิง เที่ยวโกหกพกลมประสมประสาน สบถสาบานเอาทุกอย่างวางจนเหลิง ทำแชเชือนเพื่อนพาให้ร่าเริง หน่อยก็เปิงปิดเปิดเตลิดลิบ คนเช่นนี้แก้วตาอย่าสมาน จะเอาการข้างอะไรไม่ได้สิบ เห็นใครมีขึ้นสักหน่อยก็คอยริบ เผ้ายืมหยิบย้อนยอกทั้งหลอกลวง เป็นทาสท่านหมั่นสมัครให้รักใคร่ ตรงข้อไหนห้ามปรามอย่าลามล่วง อย่าคบคิดผิดแยกแปลกกระทรวง จงหนักหน่วงน้ำใจไว้ให้ตรง อันถ้อยเท็จทุฐรุตที่มุสา อย่าเอามาเกลื่อนไกลให้นายหลง จะเคลือบแคลงแหนงกันเป็นมั่นคง ก็จะลงเสียว่าพูดไม่มีจริง หนึ่งบำเหน็จรางวัลท่านจะให้ แก่บ่าวไฟล์ทั้งหลายเหล่าชายหญิง อย่าทานทัดขัดใจให้ประวิง คอยนิ่ง ๆ อยู่อย่าว่าอิจฉาใคร อย่าสูบฝิ่นกินสุรากันชาชั่ว มันพาตัวอัปรียหาดีไม่ ถ้าแม้นติดแล้วก็คิดระยำไป มีหาไม่ขืนแคะเที่ยวและเล็ม ยามมันเงี่ยนมิใช่ชั่วจนตัวสั่น เก็บเชี่ยนขันเอาไปขายชั้นด้ายเข็ม จะอดกลั้นนั้นยากลำบากเต็ม สัญชาติฝิ่นทำเค็มนี้เหลือแรง อันการเหล้าเมามัวก็ชั่วช้า ขี้มักพาวุ่นวายให้นายแหนง แม้นมึนเมาเข้าเมื่อไรอย่าได้แคลง ก็ระแวงอยู่แต่ข้างจะเกิดความ อันกันชาพาเซอะให้เงอะเหงา เฝ้าซึมเซาการงานพานจะขาม ขี้เกียจเหลือเบื่อใจไม่ได้ความ ดูชุ่มซ่ามเซ่อซ่านัยน์ตาปรือ ของเหล่านี้ไม่ดีล้วนสิ่งชั่ว จงเกลียดกลัวเจ้าอย่ากลับไปนับถือ ที่สงสัยในวิญญาจงหารือ อย่าดึงดื้ออยู่ว่ารู้ทำดูเบา เห็นผู้ใดชาญฉลาดเป็นปราชญ์เปรื่อง อย่าให้เคืองขัดในฤทัยเขา จงพากเพียรผูกสมัครให้รักเรา จึ่งคอยเข้าไถ่ถามที่ความดี ได้ยินคำสอนสั่งอย่านั่งเฉย ทำละเลยเผลอไผลครรไลยหนี แม้นหมั่นฟังหมั่นจำที่คำดี ก็จะมีความสุขสถาวร ถ้าเวลาราตรีที่สงัด ได้ยินสัตว์คือสุนัขจักเห่าหอน อย่างนิ่งหวังฟังเล่นเห็นแก่นอน จงผันผ่อนดูแลให้แน่ใจ เกลือกว่ามีโจรจู่เข้าสู่บ้าน คงรำคาญขุ่นหมองไม่ผ่องใส ท่านจะนึกกินแหนงระแวงไป ว่าคนในนี้เป็นสายชะนวนนำ จะขู่เข็ญเฆี่ยนตีออกปี้ป่น แม้นเหลือทนรับตามเนื้อความขำ ต้องถูกโพยโบยไม่นับยับระยำ ใส่โซ่ตรวนกรากลำบากพอ ครั้นจะหาเงินให้มิใช่ง่าย ต้องเสียนายหน้าปลีกไปอีกต่อ ทั้งนายใหม่ไม่ประมาทฉลาดพอ ยังจะขอเอาผู้ขายนายประกัน โอ้ลูกเอ๋ยยามจนคนไม่นับ ใครจะรับยอมยิงวิ่งเข้าจั่น อันเข้าชื่อซื้อขายนายประกัน มันยากครันวุ่นวายกันหลายคน ถ้าไปอยู่นายใหม่ปะใจร้าย ก็กลับกลายสารพัตรจะขัดสน เจ้าเงินเก่าเล่าก็ไม่เมตตาตน จะเวียนวนหันไปก็ใช่ที ให้จนเจียนคิดคะนึงตะลึงหลง ทีหลังลงเนื้อเห็นเล่นข้างหนี นิสสัยนายนึกหมายว่าเงินมี แม้นเต็มทีเสียสินบาทคาดสินบน คนทุกวันใจจงประสงค์ทรัพย์ ก็เร็วรับนำตำแหน่งที่แห่งหน ครั้นพบตัวจับมาเข้าตาจน เงินสินบนเขาก็คิดทวีคูณ ถ้าตัวหนีลี้ลับจับมิได้ ก็เป็นกรรมตามไปไม่เสื่อมศูนย์ ถึงชาติหน้าเวรเดิมให้เพิ่มพูน จะอาดูรเต็มประดายิ่งกว่านี้ แม้นปะนายร้ายกาจทยาดยวด ถึงเข้มงวดสองราเจ้าอย่าหนี จงคิดว่าเวราของเรามี สู้อดทนจนชีวีจะวางวาย อย่าคบคนชั่วช้าพาเข้าบ้าน จะเกิดการก่อยากนั้นหลากหลาย จงใคร่ครวญสู้สงวนน้ำใจนาย อย่าให้จิตต์คิดระคายด้วยข้อใด หมั่นประกอบที่ท่านชอบอัชฌาชื่น อย่าขัดขืนบากเบือนเชือนไถล ตัวเป็นข้าให้ตระหนักรู้จักใจ รักอย่างไรเราก็ทำตามวิญญา เมื่อนายเรียกเจ้าอย่าทำหน้าเง้า จงรีบเร้าเร็วเร่งเข้าไปหา อย่านั่งเฉยเลยเหลิงระเชิงลา จะด่าว่าจองหองไม่ต้องการ ถ้าท่านเรียกข้าไทยคนไหนเล่า แม้นว่าเขาอยู่ไกลมิได้ขาน จงเรียกต่อพอให้แจ้งแสดงการ อย่าเกียจคร้านไขหูดูไม่ดี ระวังงานเผื่อเพื่อนช่วยเตือนตัก อย่าเบื้องยักแยบคายแกล้งหน่ายหนี เห็นพลาดพลั้งสั่งสอนกันตามที จึงจะมีความสุขสนุกสบาย อย่าถือว่าตัวใครๆ รักษา ใครชั่วช้าชั่งใครตามใจหมาย แม้นรักตัวรักเพื่อนให้เหมือนกาย ข้อระคายจึงจะน้อยค่อยบรรเทา แม้นผู้ใดบาดหมางห่างกับนาย อย่าคิดหมายเข้าประจบคบกับเขา เกลือกนายรู้ก็จะโกรธพิโรธเรา เป็นคนเฉาโฉดชั่วตัวอัปรีย์ อย่าเอาความข้างในไขข้างนอก ทำย้อนยอกแยบยลให้ป่นปี้ สำหรับเรื่องเคืองใจล้วนไม่ดี เป็นสิ่งที่คนรังเกียจทั้งเกลียดชัง สัญชาติเช่นปากคันอย่าคบหา มันจะพาหัวหกให้ตกถัง เล่าเนื้อความสิ่งใดออกให้ฟัง หน่อยก็ดังโด่งรู้ทุกผู้คน อย่าคบเพื่อนพาเที่ยวกลางคืนค่ำ จะก่อกรรมเกิดเข็ญไม่เป็นผล คนที่ชังมันจะตั้งต่อประจญ พอลืมตนลงก็ตามมาต่อยตี ที่บางคนใจร้ายหมายพิฆาต ให้ชีวาตม์ม้วยมอดไปเมืองผี เพราะทนงองอาจประมาทที ต่อเหตุมีจึงรู้สึกสำนึกกาย กำลังหนุ่มนี้ลำพองคนองนัก ไม่ประจักษ์แจ้งกำหนดในกฎหมาย เอาแต่ตามใจตัวไม่กลัวอาย เจ้าอย่าหมายมุ่นหมกเข้าก๊กพาล จงเจียมตนอย่าระคนด้วยข้อผิด จงเจียมจิตต์จำคำที่ว่าขาน อันการชั่วพายากลำบากนาน เร่งคิดอ่านผ่อนผันด้วยปัญญา เห็นนายทำความขำที่ล้ำลึก อย่าควรนึกหวังปองจะฟ้องหา จะเชิดชื่อลือชั่วกัลปา เขาย่อมว่าเกเรเนรคุณ ไม่มีความกตัญญูดูอุบาทว์ สันดานทาสทรพลคนสถุล ลืมข้าวแดงแกงร้อนที่การุญ กลับแทนคุณคิดล้างเอาหางแทง ถึงยึดไปใครพบจะคบค้า ก็คงพากันถวิลนึกกินแหนง ถึงรักใคร่ใจจะขาดต้องหวาดระแวง เขาควรแคลงด้วยได้เห็นเป็นตารา อัน เงินทองของนายที่ใช้สอย อย่าปองคอยคิดร้ายทำขายหน้า ถ้าเราถือซื่อสัตย์มีอัชฌา คงเมตตานานไปจะได้ดี ถึงเวลาข้าไทยทั้งหลายเล่า เขากินข้าวเจ้าอย่าเมียงเที่ยวเลี่ยงหนี จงกินอยู่ดูให้เสร็จสำเร็จที ธุระมีสิ่งใดจะได้ทำ แม้นละเลยเฉยช้าตรงอาหาร ขุกมีการก็จะอดอยู่ยังค่ำ อันการกินเร่งหาอุตส่าห์ทำ ดูเวล่ำเวลาอย่าให้เกิน ถ้าตามนายไปแห่งตำแหน่งไหน อย่าเดินไกลล้าหลังให้ห่างเหิน อย่าแข่งเคียงเรียงไหล่ไปจนเกิน จงดำเนินดูคำนวณพอควรการ ท่านใช้ให้ถือของอย่าปองหลับ จะยากยับอันตรายหลายสถาน ฉวยปะโจรใจฉกรรจ์อันธพาล มันคิดอ่านลอบลักยักเอาไป ก็คงถูกใช้ค่าราคาของ ทั้งจะต้องรับอาญาไม่ปราไสย ทำให้สมน้ำหน้าสาแก่ใจ เอากำไรเฆี่ยนเล่นเป็นมัดจำ บางทีนายหลายชะนิดไม่คิดบาป ทำยุ่งหยาบตีประเมินจนเกินก้ำ ทองกาไหล่พลัดไพล่เป็นทองคำ ราคาต่ำเขาก็ว่าราคาแพง เหมือนปลาตกในนัทีเข้าที่ศูนย์ คงประมูลขึ้นว่าใหญ่อย่าได้แหนง ที่นายดีมีอายไม่ร้ายแรง คิดระแวงเกรงกรรมทำแต่ตรง อันของใช้หยิบไปจากที่นี่ จงไว้ที่งามปลื้มอย่าลืมหลง หยิบตรงไหนไว้ตรงนั้นให้มั่นคง อย่าเที่ยวส่งเสือกซนพอพ้นมือ เห็นอะไรไว้วางขวางจังหวะ อย่าเลยละหลีกลับไม่จับถือ อย่าคิดว่าป่วยการรำคาญมือ เป็นคนดื้อดึงดันนั้นไม่ควร ถ้าท่านสั่งถ้อยความตามประสงค์ จงนั่งลงฟังคดีให้ถี่ถ้วน ครั้นสิ้นคำจำใส่ใจประมวญ จึงคอยด่วนรีบร้อนจรครรไลย อย่าเดินพลางพูดพลางอย่างสหาย จะระคายราคีหาดีไม่ นิสสัยนายใช่เพื่อนเหมือนกับไฟ ทีจะไหม้แล้วก็เผาเอาจนเตียน ถึงเป็นญาติยากเย็นลงเป็นข้า จงก้มหน้าอย่าได้คิดตะขวิดตะเขวียน สู้เจียมจนทนลำบากต้องพากเพียร ไม่ควรเวียนหวังจิตต์คิดว่าวงศ์ อันงิ้วหุ่นโขนหนังละครฟ้อน อย่าอาวรณ์ชั้นเชิงละเลิงหลง จะพาตัวชั่วช้ำระยำลง ใครงวยงงเสียทีไม่ดีเลย การเหล่านี้ล้วนที่เราเคยเห็น ถึงเขาเล่นอยู่ก็ชั่งจงนั่งเฉย ถ้าตึงไหนไปนั้นมันจะเคย ได้ยินเอยเข้าจงอดสะกดใจ อันการเล่นไม่เห็นดีมีแต่ชั่ว บำหยัดตัวนักจิตต์คิดเสียใหม่ อย่าเตลิดเปิดเปิงกระเจิงไป จะมีภัยโทษทัณฑ์เป็นมั่นคง เมื่อคราวนายหมายมาตรร้องเรียกหา ไม่เห็นหน้าพานพบสบประสงค์ คงเคียดคุมข้อผิดน้ำจิตต์จง นึกจำนงกลับมาจะด่าตี อย่าลอยชายเข้าบ้านสถานถิ่น เป็นมลทินอัประลักษณ์ซึ่งศักดิ์ศรี เหมือนให้นายขายหน้าทั้งตาปี เห็นผิดทีอย่างทาสทำอาจอง วิสัยข้าเปรียบกาสกูลต่ำ ไม่ควรทำแหงนชะเง้อเสมอหงส์ ถึงจะเป็นผู้ดีเก่ามีเผ่าพงศ์ ถ้ายากลงจำเจียมเสงี่ยมกาย จะถืออย่างผู้ดีดูมิชอบ ผิดระบอบอย่าให้เกินประเมินหมาย คนจะเยาะเย้ยว่าเป็นน่าอาย ทำวุ่นวายไปก็ชื่อมักลือชา ที่ไม่รู้อย่าประกวดไปอวดรู้ จงนิ่งอยู่ตามเช่นเป็นทาสา แม้นนายถามความใดไฉนมา จะพูดจาอย่ากระชากสำรากแรง คอยบอกกล่าวเล่ากันโดยฉันข้า ไว้อชฌาตั้งใจอย่าให้แหนง ดูให้งามตามข้อคดีแสดง จงชี้แจงให้ประจักษ์ที่หนักเบา ถ้านายนั่งเจ้าอย่าหวังขึ้นยืนหยัด จะข้องขัดเคืองระคายด้วยอายเขา คงมีโทษแม่นมั่นไม่บันเบา เพราะตัวเฉาโฉดชั่วไม่กลัวเกรง อย่านั่งสูงให้นายอยู่ฝ่ายต่ำ ระวังทำผิดเพราะพอเหมาะเหมง แม้นไม่ดีก็อัปรีย์อยู่เราเอง ถ้ายำเกรงแล้วคงเป็นมงคล ถึงเวลาเย็นย่ำเมื่อค่ำพลบ ดูให้จบเจนแจ้งทุกแห่งหน ประตูบ้านที่ระหว่างหนทางคน อย่าเกียจกลหมั่นปิดให้ชิดชม ยามเมื่อเจ้าจะเข้านอนจงอ่อนเกศ เอาพระเดชวรไกรขึ้นใส่ผม แล้วไหว้ทั่วเทวัญอันอุดม ทั้งอินทร์พรหมยมเรศเวสสุวรรณ อีกพระจอมจักรพงศ์องค์กษัตริย์ เสวยสวัสดิ์ราชัยไอศวรรย์ ทรงพระเกียรติลือเรื่องเนืองอะนันต์ ทุกเขตต์ขัณฑ์น้อมกายถวายกร ทั้งมารดาบิตุรงค์ที่จงรัก อีกครูพักข้อคำได้ร่ำสอน อนึ่งนายมีคุณอันสุนทร เพราะข้าวแดงแกงร้อนได้กินมา อันเจ้าเงินเราจำเริญอารมณ์รัก ท่านก็มักปราณีไม่ตีด่า หากพลั้งพลาดผิดลงคงเมตตา ถึงโกรธาเล่าก็น้อยคอยประทัง การที่อกตัญญูนี้อุบาทว์ อย่าหมายมาตรชื่นชมนิยมหวัง เราชังนายๆก็คิดมีจิตต์ชัง แวดระวังอะไรน้อยคอยเอาที เหมือนเรื่องราวกล่าวไว้ผู้ใหญ่เล่า จะแจ้งเจ้าพี่น้องทั้งสองศรี แต่ก่อนกาลนานมาว่ายังมี กลุ่มพี่หนึ่งไซร้นายโคบาล ใช้ให้เล็ก ๆ เด็กทั้งสอง เป็นเจ้าของโคเลี้ยงเคียง ๆ บ้าน ตามถิ่นแถวทุ่งนาที่ท่าธาร ทุกวันวารมิได้เว้นเวลาเลย ครั้นยามร้อนทินกรในเวหน ทั้งสองคนตักเตือนว่าเพื่อนเอ๋ย เราหาที่อาศัยให้สะเบย เร็วๆเหวยด่วนๆชวนกันมา บรรลุดลต้นไทรใกล้ตลิ่ง ก็วางวิ่งตรงเข้าเงาพฤกษา จึงชวนกันนั่งปั้นตุ๊กตา แล้วเอามาตั้งวางไว้ต่างนาย ข้างเด็กดีมีใจผ่องใสซื่อ ก็นับถือมั่นคงจำนงหมาย ลงไหว้กราบนบนอบแล้วยอบกาย นึกว่านายของตัวก็กลัวเกรง ฝ่ายเด็กร้ายทรชนเป็นคนโฉด ทำพิโรธด่าขรมเฝ้าข่มเหง แล้วตีด่าเตะซ้ำไม่ยำเยง ออกครื้นเครงชุลมุนดูวุ่นวาย ที่มันทำนั้นนายมิได้เห็น แต่หากเป็นพยาบาทให้มาตรหมาย เพราะเทวัญดลในน้ำใจนาย เคืองระคายด่าว่าไม่ราวัน ผิดแต่นิดหนึ่งก็เห็นเอาเป็นมาก ได้ความยากขุ่นแค้นแสนกระสัน พอพลั้งพลาดลงสักทีก็ตีรัน สารพันชังชิงยิ่งกว่าคน เด็กที่ปั้นนายเคารพและนบนอบ ถึงผิดชอบหนักหนาสักห้าหน ไม่ตีด่าว่าร้ายให้อายคน เดชะตนถือมั่นกตัญญู เรารักท่าน ๆ ก็จักรักสนอง ถ้าชังท่าน ๆ ก็ต้องเอาชังสู้ โบราณย่อมว่าไว้ให้เป็นครู มิตรจิตต์แล้วก็รู้มิตรใจ สิ่งที่พ่อสอนเจ้าลำเพาภาค ไม่สู้มากเหลือล้ำพอจำได้ ตั้งอารมณ์ก้มหน้าอุตส่าห์ไป คงพ้นภัยคลาดแคล้วไม่แผ้วพาน ไปปลายมือก็จะลือได้ความสุข บรรเทาทุกข์ปรีดิ์เปรมเกษมสานต์ แต่ร่ำสั่งลูกยาอยู่ช้านาน จนสุริฉานเลี้ยวลับบรรพตา

ฝ่ายมารดรสอนสั่งข้างลูกหญิง ทุกสรรพ์สิ่งข้อคำที่ร่ำว่า ที่ชี้แจงแจ้งจิตต์แก่ธิดา จะพรรณนาล้ำลากก็มากครัน สตรีใดจะใคร่ฟังหวังประสงค์ จะจำนงนึกว่านินทาฉัน ว่ากล่าวกลอนสอนฝ่ายชายเหมือนกัน ไม่รำพันข้างผู้หญิงสักสิ่งเลย ใช่เกลียดกันฉันทาดอกหนาน้อง จะตรึกตรองเหลือล้ำร่ำเฉลย ด้วยยาวเยิ่นเกินกำลังยังไม่เคย จึงภิเปรยย่นย่อแต่พองาม แม้นอยากแจ้งแห่งคดีนารีเรื่อง แม่เนื้อเหลืองนวลละไมจงไถ่ถาม ยืมลิขิตกฤษณาพงางาม แถลงความสอนนุชนั้นสุด แม่หม้ายสอนธิดาอัชฌาศรัย ถ้าทำได้ชายรักเป็นศักดิ์ศรี ไม่เหินห่างร้างอย่าให้ราคี อันไมตรีมิได้ขาดสวาทคง จงหมั่นอ่านหมั่นจำคำลิขิต ให้เจนจิตต์งามปลื้มอย่าลืมหลง จะเลื่องชื่อลือเล่าข่าวอนงค์ สงวนองค์ตั้งใจระไวระวัง แม้นทำดีดีไปให้ตลอด อย่าไปคอดกิ่วปลายเมื่อภายหลัง อันความผิดปิดชอบเข้าครอบบัง ที่จงหวังจะเป็นคุณก็ศูนย์ไป สู้เพียรพากยากเย็นเป็นไปก่อน คงถาวรเบื้องหน้าอย่าสงสัย ถ้าชิดเชื้อท่านเห็นเนื้อเห็นน้ำใจ จะรักใคร่ยิ่งกว่าเก่าเพราะเราดี แล้วกล่าวเกลี้ยงปลอบบุตรสุดสวาท จงไสยาศน์เถิดอย่าหมองทั้งสองศรี ต่อรุ่งสางสว่างฟ้าในธาตรี จึงค่อยลีลาไปดังใจจง ต่างก็ม่อยผอยหลับระงับจิตต์ ด้วยสมคิดต้องตามความประสงค์ จนเดือนดับลับไม้ครรไลยลง สุริยงเยี่ยมยอดยุคนธร ทั้งสองตื่นฟื้นกายเสียดายบุตร ให้แสนสุดโศกทรวงดวงสมร โอ้อุ่นเรือนเพื่อนยากเจ้าจากจร ทั้งบิดรมารดาจะอาดูร เคยเห็นเจ้าเช้าเย็นไม่เว้นว่าง ต้องโรยร้างแรมสวาทให้ขาดศูนย์ จะเร่าร้อนเหมือนหนึ่งนอนในกองกูณฑ์ ตั้งแต่พูลโศกร่ำระกำครวญ จะมีลูกๆรักก็จากอก แสนวิตกเต็มในฤทัยหวล นี่เป็นเวรเวรามาประมวล ให้คร่ำครวญคับแค้นแสนทวี

ฝ่ายบุตรากับธิดาสดับเหตุ จึงก้มเกศลงประณตบทศรี แล้วกล่าวความห้ามชนกชนนี อย่าโศกีพันผูกถึงลูกยา ใช่ว่าไปแล้วจะตายทำลายลับ คงได้กลับคืนหลังยังเคหา จะโศกไปป่วยการนานเวลา ขอเชิญพาลูกน้อยครรไลยจร อย่าหมายมั่นหวั่นจิตต์คิดถวิล ลูกจำได้เสร็จสิ้นทุกสิ่งสอน จะทำตามวาจาไม่อาวรณ์ แดดจะร้อนควรรีบลีลาคลา ครั้นบุตรเตือนเคลื่อนคลายค่อยวายเศร้า จึงรีบเร้าเร็วออกนอกเคหา ถือไม้เท้าก้าวเดินดำเนินมา ในอุราร้อนเริงดังเพลิงลน กำสรดพลางทางกลืนสะอื้นไห้ ชลไนยนองพร่ำดังน้ำฝน สงสารกุมารน้อยกลอยกมล จะต้องทนเวทนาเป็นข้าไทย แสนคะนึงพอมาถึงบ้านเศรษฐี จึงพาทีไถ่ถามตามสงสัย ท่านอยู่เรือนหรือไปหนตำบลใด จงแจ้งใจให้ตระหนักประจักษ์ความ ฝ่ายผู้คนหญิงชายทั้งหลายสิ้น ครั้นได้ยินสุนทรที่วอนถาม จึงบอกกล่าวเล่าแถลงแสดงความ ให้รู้ตามข้อประสงค์จำนงมา ว่าเดี๋ยวนี้ท่านนั่งอยู่หลังนอก ที่เคยออกแขกไปไทยมาหา ลุงธุระเรื่องไรจงไคลคลา เอากิจจาขึ้นไปแจ้งอย่าแคลงใจ ทุคคตะฟังเสร็จสำเร็จเรื่อง ค่อยย่างเยื้องลีลาอัชฌาศรัย เห็นเศรษฐีก้มกรานคลานเข้าไป ไม่ใกล้ไกลนั่งอยู่ดูพอดี ครั้นเศรษฐีผันแปรแลมาปะ ทุคคตะก็ประณตบทศรี แล้วเล่าความยากค้นแสนทวี เห็นเต็มทีแทบปลงชีวงวาย บุตรทั้งสองหมายสนองพระคุณข้า เฝ้าวอนไหวให้พาเอามาขาย ยังเด็กนักจริง ๆ ทั้งหญิงชาย สุดเสียดายแต่ว่ากรรมก็จำเป็น ขอพึ่งบุญเจ้าประคุณจงชูช่วย ได้โปรดด้วยเพราะไม่มีที่จะเห็น ดังร่มโพธิ์พุ่มใหญ่อาศัยเย็น จะขอเป็นข้าไทยในธุลี ด้วยเห็นใจใต้เท้าปราณีสัตว์ โสมนัสส์มุ่งมาเป็นทาสี จะอยู่ด้วยจนทำลายวายชีวี ไม่หน่ายหนีเบือนบากไปจากเลย ฝ่ายเศรษฐียินดีได้ฟังว่า ให้เมตตาน้ำคำร่ำเฉลย จึงตอบว่าท่านอย่าวิตกเลย สองทรามเชยนี้เราจะเอาไว้ อันเงินทองเท่าไรใจประสงค์ ตามจำนงนึกมาข้าจะให้ แล้วลุกเดินเยื้องย่องเข้าห้องใน หยิบกุญแจมาไขกำปั่นพลัน จึงตักเอาเงินตราออกมาให้ จงเอาไปกินก่อนสักค่อนขัน ทุคคตะนอบนบอภิวันท์ รับเอาขันเงินมาน้ำตานอง คิดถึงลูกสายใจจะไกลอก ความวิตกเหลือล้นยิ่งหม่นหมอง โอ้สงสารทรามสงวนนวลละออง เจ้าจะต้องตกยากลำบากครัน แล้วฝากฝังลูกน้อยกลอยสวาท แม้นพลั้งพลาดปราณีกะดีฉัน ถ้าผิดลงจงโปรดที่โทษทัณฑ์ แต่พอบรรเทาบ้างด้วยยังเยาว์ สาระพันอันใดไม่ประจักษ์ เพราะเด็กนักความคิดติดจะเขลา คุณสอนสั่งสิ่งไรถ้าใจเบา จงตีเอาให้รู้สึกสำนึกตัว กำลังเล่นมักละเลิงกระเจิงกระจะ อย่าปล่อยปละไปสมานที่การชั่ว แม้นเลี่ยงหลบหลีกลี้ไม่มีกลัว จึงจับตัวเอามามัดซัดให้พอ เมื่ออยู่ด้วยข้าเจ้านี้เฝ้าสอน ก็โอนอ่อนอุตส่าห์จำทุกคำข้อ เห็นว่านอนสอนง่ายดอกใจคอ มาไกลพ่อกลัวเกลือกจะกลับกลาย ถ้าแข็งขืนดึงดื้อถือมานะ อย่าเลยละคุณช่วยดัดหัดให้หาย มันชั่วช้าขายฝ่าธุลีนาย ได้อับอายเฆี่ยนขับอย่านับเลย แล้วผินมาสั่งสารกุมารน้อย เจ้าจงค่อยอยู่กับท่านเถิดลูกเอย แม้นมีงานการใดที่ไม่เคย จึงเฉลยไต่ถามตามสงกา เวลานี้สุริย์ฉายก็บ่ายคล้อย อย่าเศร้าสร้อยทรวงสลดกำสรดหา สถิตเถิดตัวพ่อจะขอลา แล้วโศกากอดบุตรสุดอาลัย กุมารากุมารีทั้งพี่น้อง สุชลนองไหลล้นไม่ทนได้ กลับกล้ำกลืนขืนข่มอารมณ์ไว้ จึงแข็งใจวอนว่าบิดาพลัน ตรงลูกยาพี่น้องทั้งสองนี้ อย่าได้มีห่วงใยให้กระสัน สู้เป็นข้ากว่าจะตายวายชีวัน ไม่ใฝ่ฝันชั่วช้าที่ราคี เชิญบิดาคลาไคลกลับไปบ้าน อย่าเนิ่นนานจวนดับอับแสงศรี จะมืดค่ำคล้ำฟ้าในราตรี จรลีเหลือยากลำบากกาย ทางก็เปลี่ยวเดินเดี่ยวสันโดษเด่น ใครรู้เห็นมันจะริบเอาฉิบหาย ทั้งตีต่อยทุบทำระกำกาย ตะวันชายแล้วบิดาอย่าช้าที

สดับสารปานสายสนีฟาด จำนิราสสองรามารศรี จึงอวยพรให้พิพัฒน์สวัสดี จำเริญศรีเบื้องหน้าสถาวร จงอยู่ดีกินดีอย่ามีทุกข์ เกษมสุขภิญโญสโมสร พ่อจะลาทรามไวยครรไลยจร รวิวรเย็นควร จวนเวลา แล้วกราบไหว้เศรษฐีอันมีศักดิ์ ก็บ่ายพักตรคืนหลังยังเคหา ดำเนินพลางทางถวิลจินตนา พระสุริยาไตรตรัสอัศดงค์ ข้างยายเมียอยู่คนเดียวยิ่งเปลี่ยวเปล่า ให้ง่วงเหงาคิดคะนึงตะลึงหลง แต่ลูกรักจากไปใจพะวง น้ำตาลงไหลนองดังท้องธาร พอเหลือบแลเห็นท่านตาเข้ามาถึง ยิ่งรำพึงร้อนเริงดังเพลิงผลาญ เพียงทรวงแยกแตกกระจายทำลายลาญ แล้วกราบกรานไต่ถามตามสงกา อันลูกรักทั้งคู่ไปอยู่ไหน เจ้าจึงไม่คืนหลังยังเคหา หรืออยู่ด้วยเศรษฐีมิได้มา ขอเชิญแจ้งกิจจาให้เมียฟัง ทุคคตะจึงแสดงแถลงเล่า ไปโดยเค้ามูลต้นแต่หนหลัง ดังจะมอดม้วยมุดสุดชีวัง ด้วยกำลังโศกแสนแน่นอุรา ข้างบิดรข้อนทรวงสะอื้นไห้ ความอาลัยแดดิ้นถวิลหา โอยามนี้ดวงใจเคยไสยา แล้ววอนว่ารบเร้าเล่านิยาย ข้างมารดาว่าโอ้เจ้าดวงจิตต์ เคยชมชิดเช้าเย็นไม่เห็นหาย แต่นี้นับปีเดือนจะเคลื่อนคลาย แสนเสียดายดวงสวาทนิราสรัก ไปอยู่ด้วยมุลนายท่านใช้ชิด จะชอบผิดเป็นไฉนไม่ประจักษ์ ใครจะช่วยสั่งสอนยังอ่อนนัก แม่พะวักพะวนอยู่ไม่รู้วาย ถึงจะได้เงินทองสักสองลาก ก็ไม่อยากชื่นชมนิยมหมาย แม้นห้ามปรามงามปลอดจะวอดวาย จึ่งต้องขายลูกยาเป็นข้าไทย ทั้งผัวเมียครวญคร่ำเฝ้าร่ำร้อง น้ำตานองซึมโทรมชะโลมไหล แต่กลั้นกลัดอัดอั้นให้ตันใจ เหลืออาลัยซวนซบสลบลง พระพายพากลิ่นบุบผากระพือหอม ดอกพะยอมโยทกามหาหงส์ เรณูนวลหวลกลบตระหลบดง น้ำค้างลงชุ่มชื่น ค่อยฟื้นกาย กลับรำลึกตรึกตรองนองน้ำเนตร ความเทวศอาดูรไม่ศูนย์หาย จนแจ่มแจ้งแสงทองประเทืองพราย มิได้วายพันผูกตรงลูกยา.

จะกลับกล่าวพี่น้องสองสมร ครั้นบิดรคืนหลังยังเคหา ไม่ลืมคำร่ำสอนแต่ก่อนมา สู้อุตส่าห์เพียรพากได้ยากเย็น คิดว่าตัวเกิดมาเป็นข้าท่าน ต้องทำการคับแค้นถึงแสนเข็ญ อันชาตนี้มีกรรมก็จำเป็น ไม่หลีกเล่นหลบไปให้ไกลนาย เข้ามานั่งตั้งใจอยู่ใช้สรอย ระวังคอยทุกย่างไม่ห่างหาย มิให้สอง เศรษฐีมีระคาย รักษากายเกรงผิดจะติดตัว เอากลางคืนเป็นกลางวันขยันเหลือ ไม่เฝ้าเฝือแอบอิงที่สิ่งชั่ว สงวนตนทนลำบากสู้ฝากตัว รู้จักกลัวความอายอันร้ายแรง แต่บรรดาข้าไทยที่ในนั้น ก็ชวนกันรักใคร่มิได้แหนง มีกล้วยอ้อยหรือขนมและต้มแกง ก็ปันแบ่งให้พี่น้องสองกุมาร เขาชมเชยชอบชิดสนิทสนม นึกนิยมจงจิตต์คิดสงสาร แต่ต้องเป็นทาสามาช้านาน จะประมาณมาได้สักสิบปี ด้วยเดชะกตัญญูช่วยชูชัก ให้นายรักพี่น้องทั้งสองศรี ไม่ขึ้งโกรธโกรธาเป็นราคี เพราะความดีมากมายหลายประการ สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงเจ้าไว้ แล้วตั้งใจสั่งสอนที่อ่อนหวาน ตรงข้อไหนเห็นยังไม่ชำนาญ ที่แจ้งการโดยดีมีเมตตา จะให้ของสิ่งใดก็ให้มาก พออิ่มปากอิ่มท้องไม่ต้องหา ทั้งผ้าผ่อนดีดีมีราคา จักเอามาให้สำหรับประดับกาย อันผู้คนในตำบลจังหวัดบ้าน สองกุมารได้กำกับบังคับหมาย ข้างพี่ยาว่ากล่าวเหล่าผู้ชาย กนิษฐาว่าฝ่ายข้างนารี ทุกข้าคนแก่เถ้าและสาวหนุ่ม มิได้คุมเคืองข้องให้หมองศรี ถึงจะผิดปิดปกยกแต่ดี ย่อมเป็นที่สรรเสริญจำเริญชม อันเศรษฐีนั้นไม่มีธิดาบุตร ก็แสนสุดเสน่ห์ปองทั้งสองสม สวาทหวังดังจะกลืนชื่นอารมณ์ นึกนิยมยังกำเนิดเกิดในครรภ์ ทุกเย็นเช้าเชยชมภิรมย์รัก ถนอมนักเฝ้าผดุงบำรุงขวัญ เป็นศรีเรือนแม้นเหมือนดวงชีวัน ก็หมายมั่นจะให้สืบสกุลไป ครั้นอยู่มาเนิ่นนานประมาณช้า เมื่อเศรษฐีสองราจะตักษัย ชะราโรครึงรุมกลุ้มฤทัย ให้เจ็บไข้ขุ่นขึ้นในวิญญา เจ้าพี่น้องเข้าประคองอยู่เคียงข้าง ไม่เสื่อมสร่างโศกแสนเสน่หา แล้ววอนให้เสพโอชโภชนา เฝ้าฝนยาคอยนั่งระวังระไว อันโรคามิได้คลายวายเทวศ จึ่งสั่งสอนดวงเนตรพิสมัย ซึ่งสมบัติวัตถาและข้าไทย พ่อมอบให้กับเจ้าทั้งเหย้าเรือน อีกช้างม้าโคกระบือก็ลือเลื่อง ในบ้านเมืองทุกเศรษฐีไม่มีเหมือน เจ้าจงฟังตั้งจิตต์อย่าบิดเบือน จะตักเตือนขวัญเข้าลำเพาพาล อย่าประมาทวิญญารักษาศักดิ์ ให้สมพักตร์พี่น้องครองสถาน ประกอบด้วยแก้วแหวนแสนศฤงคาร โดยบูราณเศรษฐีที่มีมา อันพ่อแม่แก่ชะราหนักหนาแล้ว จะคลาดแคล้วชีวังคงสังขาร์ ตามกุศลผลกรรมได้ทำมา จะขอลาโฉมตรูอยู่จงดี สั่งสำเร็จเสร็จสรรพก็หลับเนตร จิตต์ประเวศสู่ฟ้าในราษี มีวิมานสูงสุดดุษดี ก็เปรมปรีดิ์สุขสมภิรมยา ฝ่ายเชษฐากับกนิษฐ์พิสวาส ใจจะขาดดาลดิ้นถวิลหา เห็นเศรษฐีม้วยมุดสุดชีวา ก็โศกาคร่ำครวญรัญจวนใจ ข้างพี่ชายว่านิจจาเอ๋ย ไฉนเลยล่วงลัดมาตัดษัย ทิ้งแต่ลูกไว้ที่นี่แล้วหนีไป ไม่อาลัยผันแปรมาแลดู กนิษฐาข้อนอุราสะอื้นไห้ กรรมสิ่งใดตามทันท่านทั้งคู่ พระคุณเคยแนบสนองประคองชู อุตส่าห์สู้สั่งสอนไม่นอนใจ ข้างเชษฐาว่าโอ้พ่อโพธิ์แก้ว ล้มเสียแล้วลูกจะพึ่งผู้ใดได้ ถ้าไปไหนก็ไม่ขามคงตามไป เห็นจนใจไปทางนี้เป็นที่จน ฝ่ายน้องพร่ำร่ำว่าพระอาทิตย์ เมื่อมืดมิดลับฟ้าเวหาหน ยังขืนขึ้นมาใหม่ให้ได้ยล ท่านสองคนลับไปเห็นไม่คืน ทั้งทาสีทาสาบรรดาบ่าว ก็สร้อยเศร้าเสียใจให้สะอื้น ความเทวศเหลือล้ำจะกล้ำกลืน ดูเครงครืนแซ่ซ้องร้องระงม ดังเรไรไพรวันสนั่นเสียง สำเนียงเพียงปัถพินดินถล่ม กำสรดทรวงง่วงเหงาเปล่าอารมณ์ เย็นยะเยียบเงียบล้มระเนนนอน สองพี่น้องค่อยดับระงับโศก วายวิโยคปลดเปลื้องประเทืองสมร จึงกล่าวความห้ามเหล่าชาวนิกร อย่าอาวรณ์เลยจงงดสะกดใจ จะได้คิดกิจการตรงงานศพ ให้เลิศลบลือเลื่องกระเดื่องไหว ได้งดงามตามยศปรากฎไป อย่านอนใจเร่งหัตถ์ช่วยจัดแจง บรรดาเหล่าบ่าวไพร่ทั้งใหญ่น้อย สะดับถ้อยวาทีไม่มีแหนง ก็พร้อมพรั่งยัดเยียดเบียดเสียดแซง ครั้นจัดแจงสรรพเสร็จสำเร็จการ พะยุงยกหีบทองทั้งสองศพ ขึ้นตั้งบนมณฑปอันไพศาล ประดับด้วยเนาวรัตนชัชวาล ดูโอฬารใสสตรจนา ไว้หอนั่งหลังยาวถึงเก้าห้อง ประโคมกลองมะลายูดูสง่า พระสงฆ์สวดธรรมขันธ์ทุกวันมา เทศนาแจกทานทำการบุญ กำหนดงานถึงพันวันจะชัก ก็คึกคักหญิงชายออกวายวุ่น บ้างขนคว้าผ้าเหลืองเครื่องทำบุญ ชุลมุนอื้ออึงคะนึงมา พวกเกณฑ์แห่แลลิ่วเป็นทิวแถว ขนัดแนวเนื่องตามงามหนักหนา เสียงฆ้องกลองกึกก้องเป็นโกลา ก็ไคลคลารีบไปเข้าในเมรุ พวกที่เล่นเต้นรำพร้อมสะพรั่ง ออกปะดังโห่ฉาวอย่างกราวเขน บ้างรำแพนเหยียบแป้นยืนโยนเยน หกคะเมนไต่ลวดประกวดกัน เวลาค่ำมีหนังทั้งดอกไม้ ประทีปไฟงามงดเป็นลดหลั่น พวกชาวเมืองเลื่องลือระบือครัน ก็ชวนกันดูงานสำราญใจ สามทิวาแล้วจึ่งฌาปนกิจ ตามชะนิดโบราณเป็นการใหญ่ ครั้นสำเร็จเสร็จสรรพจึ่งกลับไป ที่อาศัยสันนิวาสอาตมา ฝ่ายเถ้าแก่แลหลายที่ในบ้าน ก็คิดอ่านชักชวนกันถ้วนหน้า มาอวยชัยให้พี่น้องทั้งสองรา วัฒนาสืบสมบัติสวัสดี ราษฎรทั่วประเทศทุกเขตต์ขอบ ก็ชื่นชอบปรีดิ์เปรมเกษมศรี ต่างจำนงจงรักด้วยภักดี มาพึ่งเดชเศรษฐีเป็นข้าไทย ก็สมบูรณ์พูนสุขสนุกสนาน แสนสำราญพี่น้องค่อยผ่องใส จึ่งตรองตรึกนึกรำพึงคนึงใน จำจะไปที่สถิตของบิดร ดำริเสร็จสมคิดดังจิตต์หมาย จึงสั่งนายคชสารชาญสมร อีกทั้งนายกัณฐัสว์อัศดร กับนิกรเลือกสรรค์สักพันปลาย เตรียมไว้ทำให้ทันวันพรุ่งนี้ พอรุ่งแสงสุริย์ศรีสว่างฉาย เราจะยกหมู่พหลพลนิกาย ไปยังปลายแว่นแคว้นแดนบุรี ฝ่ายบ่าวไพร่แจ้งตามเนื้อความสั่ง ก็พร้อมพรั่งครบถ้วนจำนวนที่ จนแจ่มแจ้งจบจังหวัดปัถพี สองเศรษฐีชื่นชมด้วยสมคิด จึงเข้าที่ชำระสระสนาน สุคนธารเฟื่องฟุ้งจรุงจิตต์ ผลัดภูษางามวิไลประไพพิศ แล้วชักชวนนวลกนิษฐ์ให้ไคลคลา มาขี่คชสารทวยหาญแห่ ทั้งสังข์แตรคั่งคับสลับหน้า เสียงพิณพาทย์ฆ้องไชยให้สัญญา ก็ยาตราเคลื่อนคลายขยายพล มาไม่นานถึงสถานที่กระท่อม ให้หยุดพร้อมพรั่งพรูหมู่พหล อันเศรษฐีพี่น้องทั้งสองคน จรดลลงจากคชาธาร ยุรยาตรนาฎกรฉอ้อนโฉม งามประโลมเพียงเทพจากสถาน ลงสู่พื้นปถพินแผ่นดินดาล บริวารเกลื่อนกลาดดาษดา ถึงบันไดรีบรุดไม่หยุดยั้ง จึงขึ้นยังเรือนพลันด้วยหรรษา ฝ่ายสองเฒ่าเห็นพวกโยธามา ก็แหวกฝามองดูอยู่แต่ไกล เอ๊ะประหลาดหลากล้ำกรรม ๆ เอ๋ย ไม่รู้เลยข้อเข็ญเป็นไฉน กษัตราหรือว่าผู้ใดใคร จะไปไหนหรือจะมาเคหาเรา พอเหลียวเห็นลูกยาเข้ามาใกล้ ในจิตต์ใจร้อนเริงดังเพลิงเผา ร้องเรียกยายตายแท้แน่แล้วเรา เดี๋ยวนี้เขายกทัพมาจับตัว แล้วคลานหนีเข้าไปอยู่ใต้แคร่ หมอบกะแตซ่อนเสียทั้งเมียผัว หัวอกเต้นตึก ๆ ให้นึกกลัว กายระรัวภาวนาว่าออกลน ฝ่ายพี่น้องสองบุตรสุดสงสาร จึงกราบกรานแจ้งความตามนุสนธิ์ ว่าบิดามารดรอย่าร้อนรน ลูกใช่คนอื่นไกลที่ไหนมา คือว่าบุตรสุดสวาททาสเศรษฐี แต่บัดนี้พ้นทุกข์เป็นสุขา ผ่านภิรมย์สมบัติวัฒนา หวังจะมาเชื้อเชิญดำเนินจร ไปครอบครองเงินทองแลถิ่นฐาน ให้สำราญรื่นเริงบรรเทิงสมร ทุคคตะแจ้งความตามสุนทร เพียงจะร่อนระเห็จเหินเดินนภางค์ แล้วออกมาสนทนากับลูกรัก ดูผิวพักตร์แดงก่ำดังน้ำฝาง ที่โรครึงรุมเร้าค่อยเบาบาง รับขวัญพลางกอดจูบลูบประโลม โอ้อกเอยก่อนเคยได้ความยาก ทนลำบากเศร้าซูบเสียรูปโฉม เพราะขัดสนจนสุดจึงซุดโทรม เหมือนหงส์ทองท่องโถมลงเกลือกตม ครั้นสิ้นกรรมนำตนพ้นเทวศ ก็ผ่องเนตรนวลละอองทั้งสองสม จนพ่อแปลกพักตราให้ปรารมภ์ เฝ้าเตรียมตรมคิดว่าใครที่ไหนมา ไม่รู้จักขวัญเข้าลำเพาภาค ต้องลำบากหนีตัวกลัวหนักหนา ต่างแถลงแจ้งยุบลแต่ต้นมา ก็ปรีดาโสมนัสส์สวัสดี แล้วสั่งหมู่ทวยหาญชาญสมร เตรียมนิกรกัณฐัศว์แลหัตถี ให้เร่งผูกช้างพังที่หลังดี มาเทียมที่ยืนเรียงเคียงบันได เชิญมารดาบิตุรงค์สรงสนาน ให้เบิกบานมัวหมองค่อยผ่องใส สุคนธากลิ่นกลบอบเอาใจ นุ่งผ้าใหม่อย่างดีมีราคา มาชนช้างพลางว่ากะยายเฒ่า บุญของเราสมมาตรปรารถนา กุศลชาติก่อนป่างได้สร้างมา มีลูกยาล้ำเลิศประเสริฐคน แต่นี้ไปเห็นเบาบรรเทาทุกข์ เกษมสุขสารพัตรไม่ขัดสน พลางกระหยิ่มยิ้มย่องทั้งสองคน ขึ้นนั่งบนสับประคับเบาะพับรอง ที่เคลื่อนคลายบ่ายหน้าโยธากลับ บ้างโห่รับครื้นครั่นสนั่นก้อง ทั้งธงทิวเขียวเหลืองดูเนืองนอง เสียงฆ้องกลองอึกทึกพิลึกครัน ข้ามทุ่งแถวแนวป่าพนาเวศ ทางทุเรศรีบร้นพลขันธ์ พอสิ้นแสงสุริย์ศรีรวีวรรณ ดวงพระจันทร์แจ่มกระจ่างกลางนภา ก็ลุถึงประเทศเขตต์สถาน พวกทวยหาญนอบน้อมอยู่พร้อมหน้า บ้างจุดโคมคบไฟไสวมา ชวาลาส่องสว่างดังกลางวัน สี่เศรษฐีรี่ขึ้นบนเรือนใหญ่ สำราญใจวายวิโยคที่โศกศัลย์ ชมสมบัติเงินทองนองอนันต์ สารพันภิญโญด้วยโภไค ที่โรครึงรุมกันแต่ครั้งก่อน ก็คลายร้อนปรีดาอัชฌาศัย อันง่อยเพลียพลอยหายสบายไป ทั้งโพยภัยคลาดแคล้วไม่แผ้วพาล แต่มีทรัพย์กับสุวรรณถึงพันโกฏิ์ ก็ปราโมทย์ปรีดิ์เปรมเกษมสานต์ ให้ก่อตึกใหญ่โตมโหฬาร ไว้แจกทานยาจกคนจนจร มีเอมโอชโภชนากระยาหาร ทั้งคาวหวานนานาอีกผ้าผ่อน กับมุ้งม่านหมอนเมาะเบาะที่นอน อีกอาภรณ์เครื่องสำรับประดับกาย ถาดน้ำชากากะโถนทำไว้ครบ ใครปรารภนึกได้ดังใจหมาย ที่ขัดสนจนจริงทั้งหญิงชาย ก็ขวนขวายมาคำนับรับประทาน ต่างอวยชัยอยู่สลอนให้พรแซ่ ศัตรูแพ้ย่นย่อไม่ต่อต้าน อายุยืนหมื่นปีอย่ามีมาร ให้สำเร็จพระนิพพานเหมือนพาที แต่ห่างโศกโรคร้ายวายกระสัน ทั้งผิวพรรณผุดผ่องไม่หมองศรี ประมาณมาสักห้าหกสิบปี ชราธรรมย่ำยีเข้ากวนกาย สิ้นชีวันสู่ชั้นพิมานเมศ เป็นเทเวศเสร็จสมอารมณ์หมาย เสวยทิพย์เมืองแมนแสนสบาย ก็จบรายเรื่องราวที่กล่าวมา

ที่กล่าวหมายไว้หวังจะสั่งสอน จะสั่งสารการกลอนกับทาสา กับทาสีจะได้จำเป็นตำรา เป็นตำหรับเรื่องวิชารักษาตัว รักษาคนพ้นภัยมิให้ผิด มิให้พ้องต้องติดในเชิงชั่ว ในเชิงเช่นสองเศรษฐีไม่มีมัว ไม่มีหมายกลายกลัวที่พาลๆ ที่พาลเพศเลยละสละส่าง สละหลีกปลีกห่างทางสมาน ทางสมัครรักปราชญ์ฉลาดการ ฉลาดกิจคิดอ่านในข้อควร ในข้อคงจงจำคำเถิดหนา ทำเถิดนายจะเมตตาไม่หักหวน ไม่หักหาญรานรุกสุขสำรวจ สุขสำราญนานควรคงได้ดี คงได้ด้วยความเพียรเราเรียนไว้ เราเรียนหวังว่าจะให้ประเสริฐศรี ประเสริฐแสนแม้นเหมือนดวงมณี ดวงมาโนชควรตีค่าเมืองเอย ฯ

๏ วันจันทร์สามค่ำไซร้ ศุกลปักษ์
เดือนสิบเสร็จแถลงลักษณ์ ถี่ถ้อย
ในปีชื่อสุนัข โทศก
ศักราชพันสองร้อย เศษด้วยสิบสอง ฯ
๏ ทุคคตะสอนบุตรข้า คิดกลอน
เป็นสุภาษิตสอน สืบไว้
ดุจรัตนอาภรณ์ ไพโรจน์
แม้ทาสคนใดได้ ดั่งนี้ควรสงวน ฯ
๏ ตัวเราเกลากล่าวเกลี้ยง กลอนสาร
เพียงแต่ตามโวหาร แห่งรู้
ยังหนุ่มห่อนชำนาญ ในเลิศ
เชิญกวีวานกู้ เก็บแก้ผดุงเฉลิม ฯ
๏ แสดงนามจันทนผู้ ผจงเขียน
แรกรุ่นพึ่งริเรียน เริ่มรู้
ผิดชอบช่วยติเตียน เติมต่อ
โทเอกทัณฑฆาตคู้ ขัดข้องงงฉงน ฯ
๏ สารนี้ขอฝากไท้ เทวัญ
แม้มาตรศูนย์สุริยจันทร์ แจ่มฟ้า
ศูนย์อากาศสัตภัณฑ์ แผ่นโลก
ศูนย์พระเมรุหลักหล้า จึ่งสิ้นสารศูนย์ ฯ
๏ รู้หลบ พบศึกเสี้ยน กลัวไกล
เป็นปีก ป้องกันไภย ผ่อนช้า
รู้หลีก เล็ดลอดไป สุดเนตร
เป็นหาง ไกลกล่าวกล้า ต่อด้วยดัษกร ฯ
๏ รูปชายหญิงทั่วท้อง ธาตรี
เป็นภักษ์แก่เดือนปี สุดสิ้น
อัฏฐิถมทั่วปัถพี รายเรี่ย
ประเทศเท่าปีกริ้น ร่างพ้นฤๅมี ฯ
๏ รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว
เสมออยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง
ชังกันบ่แลเหลียว ตาต่อ กันนา
เหมือนขอบฟ้ามาป้อง ป่าไม้มาบัง ฯ
๏ เสือใดแรงร้ายระ พะพง
อารอุกบุกดงยง ขบคั้น
กินสัตว์สุรทะนง สิทธิสาธ
จักฉิบหายตายหมั้น เพราะร้ายแรงทะนง ฯ
๏ ขนุนสุกสล้างแห่ง สาขา
ภายนอกเห็นหนามหนา หนั่นแท้
ภายในย่อมรสา เอมโอช
ดุจสาธุชนนั้นแล้ เลิศด้วยดวงใจ ฯ
๏ ยางขาวขนเรียบร้อย ดูดี
ภายนอกหมดใสสี เปรียบฝ้าย
กินสัตว์ปูปลามี ชีวิต
เฉกเช่นชนชาติร้าย นอกนั้นนวลงาม ฯ
๏ รูปแร้งดูร่างร้าย รุงรัง
ภายนอกเพียงพึงชัง ชั่วช้า
เสพสัตว์ที่มรณัง นฤโทษ
ดังจิตต์สาธุชนกล้า กลั่นสร้างทางผล ฯ
๏ คนใดถอยจากรู้ วิชา
หญิงรูปร้ายกิริยา โฉดด้วย
บรรพชิตบ่รักษา ศีลขาด
สามสิ่งนี้ชื่อม้วย ชีพสิ้นสุดสกนธ์ ฯ
๏ ตมเกิดจากน้ำแล่น เป็นกระสาย
น้ำก็ล้างเล่นหาย ซากไซร้
บาปเกิดใช่แต่กาย เพราะจิตต์ ก่อนนา
อันจักล้างบาปได้ เพราะน้ำใจเอง ฯ
๏ พิษร้อนในโลกนี้ มีสาม สิ่งนา
พิษหอกดาบเพลิงลาม ลวกไหม้
ร้อนจริงก็มียาม หยุดหย่อน เย็นนา
ร้อนสิ่งเดียวร้อนไร้ เร่งร้อนฤๅวาย ฯ
๏ หวานใดในโลกนี้ มีสาม
หวานหนึ่งคือรสกาม อีกอ้อย
หวานอื่นหมื่นแสนทราม สารพัตร หวานเอย
หวานบ่ปานรสถ้อย กล่าวเกลี้ยงคำหวาน ฯ
๏ แม้มีอายุร้อย พรรษา
ใจบมีปรีชา โหดไร้
วันเดียวเด็กเกิดมา ใจปราชญ์
พระสรรเพ็ชญ์บัณฑูรไว้ เด็กนั้นควรยอ ฯ
๏ แม้มีตัวเติบเพี้ยง เขาเขิน
สูงเจ็ดลำตาลเกิน กิ่งฟ้า
ไร้ทรัพย์อับเผอิญ แลเล็ก ลงแฮ
ดังปลวกเตี้ยต่ำช้า ชวดผู้เล็งเห็น ฯ
๏ ดารามีมากน้อย ถึงพัน
บ่เปรียบกับดวงจันทร์ หนึ่งได้
คนพาลทั่วอนันต์ ในโลก
จักเสาะสัตบุรุษไซร้ ยากแท้จักมี ฯ
๏ มัจฉามีทั่วท้อง ชโลธร
หาเงือกงูมังกร ยากได้
ทั่วด้าวพระนคร คนมาก มีนา
จักหาปราชญ์นั้นไซร้ เลือกแล้วฤๅมี ฯ
๏ แม่น้ำคุ้งคดเคี้ยว ควรจน
เหล็กคดทำเคียวรอน ไร่เข้า
ไม้กระพดกระทำทอน ถูกที่ กงนา
คนคดดังคูถเหน้า บ่ต้องการงาน ฯ
๏ ร่างกายมนุษย์นี้ไป่ เป็นการ
คำกล่าวเป็นแก่นสาร เลิศแล้ว
เลื่องลือชื่อเชิดนาน ดีชั่ว
โอ้ร่างตายแล้วแคล้ว คลาดสิ้นเสร็จศูนย์
๏ คนใดโผงพูดโอ้ อึงดัง
อวดว่ากล้าอย่าฟัง สับปลี้
หมาเห่าเล่าอย่าหวัง จักขบ ใครนา
สองเหล่าเขาหมู่นี้ ชาติเชื้อเดียวกัน ฯ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ