๓ การรักษาพระนครเวลาเสด็จไม่อยู่

อนึ่งถ้ามีที่เสด็จไปพระพุทธบาท (หรือ) เมืองลพบุรี (หรือ) เมืองเพ็ชรบุรี นครบาลเกณฑ์รักษากรุง ฯ

กรมล้อมพระราชวัง พระเพ็ชรพิชัยตั้งกองซุ่มอยู่จวนท้องสนามกลาง ขุนหมื่นคุมไพร่ขึ้นรักษาป้องเชิงเทินรอบพระราชวังกรม ๑

กรมวังนอกอยู่ทิมดาบชาววัง หลวงราชฤทธานนท์ หลวงนนทเสน ขุนหมื่นชาววังนอก เหล่า ๑

กรมวังเกณฑ์ ขุนอินอาญา ๑ ขุนเทพสุภา ๑ ขุนพรหมสุภา ๑ (ตุลาการศาลกรมวัง) ๓ คน อยู่จำหล่อประตูท่าสิบเบี้ย (เหล่า ๑)

และ (พนักงาน) อยู่รักษากรุง ตระเวนนอกที่ห้าม ตั้งกองซุ่ม ๓ กอง ตั้งกองรักษาจำหล่อและตระเวนในกรุงตามอำเภอ ๘ กอง ตระเวนนอกกรุงตามอำเภอ ๘ กอง รวม ๑๙ กอง เป็น (คือ)

ขุนสัสดี ๑ ขุนสารวัตร ๑ นายตำรวจซ้าย ๑ นายธำมรงค์ ๔ นายบัญชีกลาง ๑ รวม ๘ นาย ไพร่สม ๘๐ รักษาผู้ร้าย ๘ คุก รวม ๘๘ คน

พระยายมราช ๑ หลวงขุนหมื่น ๑๐ เสมียนทนาย ๒๐ ไพร่สมกำลัง ๒๐๐ รวม ๒๓๑ คน ตั้งกองขัดตาทัพอยู่ท้องสนามหน้าพระศพ เพลากลางคืนไปตระเวนตรวจตราทั่วกรุง ฯ

หลวงรองเมือง ๑ เสมียนทนาย ๑๐ ไพร่สม ๕๐ รวม ๖๑ คน ตั้งอยู่ป้อมเพ็ชรบางกะจะ และไปตระเวนตรวจตราอำเภอทหาร

ขุนเทพผลู ๑ เสมียนทนาย ๗ ไพร่สม ๓๒ รวม ๔๐ คน ตั้งอยู่ ณ จำหล่อสะพานลำเหย ตระเวนอำเภอพลเรือน

(กองตระเวนกรมเมือง) ตั้งกองรักษาจำหล่อ และตระเวนในกรุง ฯ ๔ อำเภอ ขุนยี่สารบุรี ๑ หมื่นยี่สารบุรี ๑ ขุนวิจารณ์ภูธร ๑ ขุนตระเวนรักษา ๑ หมื่นจิตรบริบาล ๑ ขุนภักดีภูวดล ๑ หมื่นภักดีภูวดล ๑ ไพร่สมนายละ ๑๐ คน รวมนายไพร่ ๘๘ คน

(กองตระเวนกรมเมือง) ตระเวนนอกกรุงฯ ตามพนักงาน ๔ อำเภอ ขุนนครภักดี ๑ หมื่นนครภักดี ๑ ขุนจำนงบุรี ๑ หมื่นจำนงบุรี ๑ ขุนแผ้วภูวดล ๑ หมื่นแผ้วภูวดล ๑ ขุนไชยบุรีบาล ๑ หมื่นไชยบุรีบาล ๑ ไพร่สมนายละ ๑๐ รวมนายไพร่ ๘๘ คน

รวม (พนักงานในกรุง ฯ เกณฑ์รักษาพระนคร) นาย ๖๑ ไพร่ ๕๒๒ คน เป็น ๕๘๓ คน

อนึ่งมีตรารับสั่งให้หาผู้ครอง (และ) ผู้รั้งเมือง (คือ) เมืองวิเศษไชยชาญ ๑ เมืองอินทบุรี ๑ เมืองพรหมบุรี ๑ (เมืองสิงห์บุรี) เมืองสรรค์ ๑ เมืองนครชัยศรี ๑ เมืองสุพรรณบุรี ๑ เมืองราชบุรี ๑ รวม ๘ เมือง เข้า (มา) บรรจบอยู่รักษากรุงฯ ได้ตระเวนทางเรือรอบกรุงฯ ๘ ลำ เป็น (จำนวน) นาย ๘ ไพร่เมืองละ ๕๐ คน รวมเป็น ๔๐๘ คน

กรมท่าซ้ายขวาเกณฑ์แบ่งอยู่รักษากรุง ฯ รักษาจำหล่อตระเวนบรรจบถึงกันตามอำเภอ เป็น (คือ)

ขุนท่องสื่อ ขุนท่องสมุท อำเภอจีน (รักษา)แต่วัดจีนถึงประตูจีน ขุนโกชาอิศหาก ขุนราชเศรษฐี อำเภอแขก (รักษา) แต่สะพานประตูจีนถึงวัดนางมุก เลี้ยวลงไปถึงประตูใต้กายี

สอรรประรำ วิประวาชี อำเภอพราหมณ์เทศ (รักษา) แต่หน้าวัดนางมุกมาวัดอำแม ทั้งฉะกุญไปถึงเสาชิงช้า กองตระเวนกรมท่ากอง ๑ นาย ๑ ไพร่ ๑๐ คน ๖ กองรวมเป็น ๖๖ คน

ขุนโรงขุนศาลอยู่รักษาช่องจำหล่อตามหน้าที่ทุกกรม และเจ้ากรมปลัดกรมนอกกว่านี้ แบ่งไว้ประจำการรักษาที่เสด็จออก รักษาทิมดาบ รักษาโรงแสง รักษาคลัง รักษาฉาง รักษาศาลาลูกขุน ตามพนักงานทุกกรม

ข้าราชการผู้อยู่ทั้งนี้ พนักงานเสมียนตรากรมพระนครบาลได้เรียกบัญชี เข้างบส่งให้ ฯ พณหัวเจ้าท่านสมุหนายก และผู้อยู่ประจำการกรุงฝ่ายทหาร (นั้น) พันเทพราชเรียกบัญชีส่งให้พณหัวเจ้าท่านสมุหพระกลาโหม (แต่ก่อนเสด็จ) ครั้นเสด็จไปแล้ว ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้อยู่รักษากรุงฯ บอกเข้าไปยังทัพหลวง

และการทหารซึ่งหมื่นนรินทรเสนี พันเทพราช พันทิพราช พันอินทราช พันพรหมราช กะเกณฑ์ทั้งนี้ เอาว่าแก่สมุหพระกลาโหม พระสุรเสนา หลวงธรรมไตรโลก หลวงเทพอรชุน ฝ่ายพลเรือน ซึ่งหมื่นศรีสหเทพ พันพุฒ พันภาณ พันเภา พันจันท์ กะเกณฑ์ทั้งนี้ เอาว่าแก่สมุหนายก หลวงอำมาตย์ หลวงราชนิกูล (ต่าง) บังคับบัญชาตามราชการ ขอเดชะ ฯ

  1. ๑. ทั้ง ๓ แห่งนี้เป็นที่เสด็จประพาสเนือง ๆ

  2. ๒. ที่ว่า หน้าศพ ตรงนี้ จะเป็นตรงไหนสงสัยอยู่

  3. ๓. ในต้นฉะบับเขียน เมืองสรทบุรี สันนิษฐานว่าจะเป็นสรรค์บุรี

  4. ๔. ต้นฉะบับเขียนอย่างนี้ จะถูกหรือที่ถูกจะเป็นอย่างไร หาทราบไม่

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ