สมน้ำหน้า

๏ หะ หะ หา ! น่าปลื้ม น่าขัน

น้อยคน น้อยวัน น้อยช่อง

สพโฉลก โชคอุดม สมปอง

เหมือนสนอง นิธิชาต ปลาดครัน

เลือดแล่น แสนสเริง เชิงประกวด

โอ้อวค คีริบูน สกูลสัน

เก่งมาก สั่งจาก เยอรมัน

แข่งขัน นกน้อย สำออยลำ

บรรเลง เพลงโฮม สวิตโฮม

สมโฉม สมชม คมขำ

ยักอก ยกหาง พ่างรำ

ลอยหน้า ท่าทำ สำอาง

มิเสียที ที่เลี้ยง เสียงเสนาะ

จับใจ ไพเราะห์ สุดอย่าง

นกอื่น ตื่นประชัน ขันค้าง

ใครดื้อ ถือหาง ต่างแพ้

วันนัด ชุนุมครั้ง หลังนี้

นกพี่ ที่หนึ่ง ผึ่งแฟ่

มีชื่อ ลือเลื่อง เฟื่องแท้

นับแต่ ต่อรอง สองพัน

ยังประเดิม เดิมพัน พันบาท

รวยเงิน เกินคาด เกินฝัน

นัดหน้า ก็น่า เค็มมัน

ยังอีก สองวัน ขันประชุม

นกพี่ มีแต่ มีชัย

หน้าไหน จะแย้ง แข่งขยุ้ม

นัดไหน นัดนั้น ขันคุม

ลาภเกิด เปีดขุม เงินรวย ฯ

๏ บุญพี่ ไหนมี คีริบูน

เอกอดูลย์ บรรเลง เพลงสลวย

ชนะนก คนอื่น ชื่นชวย

ไหนมี เมียสรวย สมใจ

แม่กุสุม หนุ่มหนุ่ม รุมรัก

สนองหัก หาญหยิ่ง ชิงได้

โดยฤทธิ์ เสน่หา อาลัย

มิใช่ ผู้ใหญ่ ฝืนอุรา

บ้านน้อย เรือน้อย กลอยถนอม

ถึงย่อม ก็ย่อม หรรษา

มีสนาม มีสวน ยวนตา

ชื่นชีวา น่าชม สมสกนธ์

เครื่องแต่ง เครื่องใช้ ไม่หรู

พอชู ศักดิ์ใช่ ขันสน

สอาดสอ้าน ไม่บาด ตาคน

สง่าพอ ชลอชนม์ พละเรือน

รับจ้าง ห้างฝรั่ง ตั้งจิต

ขยันกิจ หย่งเยี่ยม เทียมเพื่อน

ซื่อตรง ทรงศักดิ์ มิพักเชือน

จนเลื่อน เป็นสมุห์ บาญชี

ยามเยาว์ เอาใจ ใฝ่เรียน

ยามหนุ่ม เป็นเสมียน เพียรจี๋

ยามงาน ไม่คร้าน งานดี

ยามว่าง สอางชีวี ปรีดา

สนุกสนาน บานกมล พ้นหมาง

ในทาง ใครใคร ไม่ด่า

เจิดจรีย์ เป็นศรี ชีวา

สมหน้า ชาครีย์ ศรีชาย ฯ

๏ หะ หะ หา! นึกน่า สังเวช

หลวงเดช ดำรง วงสหาย

หวังไหน ไม่เหมาะ เคราะห์ร้าย

แค่นตกาย หมายค้าง หมางแด

เป็นมิต ร่วมวิท ยาลัย

ร่วมใจ ร่วมสนุก ทุกแง่

กะเย่อกะแหย่ง แซ่งตบึง ถึงแพ้

ยังขยิ่ม ยิ้มแต้ แก้มือ

ใจหาญ สมทหาร ชาญชาย

เจ้าอุบาย เจ้าเล่ห์ ทื่อทื่อ

มิใย เพื่อนเมือง เลื่องลือ

เพื่อนดื้อ ดึงดัน พรั่นใคร

คนองหนุ่ม แม่กุสุม ยอดสวาท

มุ่นมาท ผูกสมัค รักใคร่

ถึงหล่อน มิหย่อน อาลัย

เพื่อนไม่ ย่อย่น ทนเพียร

ประจบประแจง แข่งเสน่ห์ เล่ห์ล่อ

ขอพ่อ รบกวน ป้วนเปี้ยน

ฉิบหาย หลายพัน หมั่นเวียน

ตีสนิท มิดเมี้ยน กำนัล

สาวกุสุม ทุ่มสมัค รักสนอง

จนอยู่ คู่ครอง ประคองขวัญ

ยังเลียบเลียม เยี่ยมเผยอ เจอกัน

วางฉันท์ เป็นเพื่อน เหมือนเคย

พี่เลี้ยง คีริบูน ประมูลพี่

นกดี ที่ไหน สร่ายเสย

ซื้อหา มานะ มิละเลย

เอ้อระเห่ย เห่อเล่น เป็นรอง

นอกจาก นกเรา เขาเก่ง

ยังเก็ง เอาชัย ไม่หยอง

นัดหน้า ก็กล้า ท้าประลอง

ต่อสอง เอาหนึ่ง อึงไป

นกแพ้ แต่ใจ ไม่แพ้

คิดแต่ เอาชนะ จงได้

ปราณี พี่เตือน เพื่อนไว้

กลับท้า ไยไพ ไม่ฟัง

หะ หะ หา! เทวดา ดลจิต

ให้มิต พี่เพ้อ ลเมอคลั่ง

อัปะรา ชัยซ้ำ อำปลัง

นึกก็สัง เวชเกลอ เพ้อทนง ฯ

๏ แม่กุสุม ดุ่ม ๆ เดิรมา

ชายตา ยิ้มยวน ชวนหลง

สนองหนุ่ม กรุ่มคนึง ทลึ่งตรง

กอดนง ลักษณ์พนอ คลอมา

จูบนิด ยั่วจิต จูบซ้ำ

งามขำ สร้วมโอบ อังสา

ชื่นจิต จุมพิต พี่ยา

ประคองนั่ง โซฟา ชีวาฟู ฯ

๏ “ดวงชีวี

บุญพี่ ได้น้อง ประคองคู่

ฝากชีวัน บรรโลม โฉมตรู

มิรู้ร้าง ยุคล จนตาย

ยามเอื่อย เหนื่อยงาน พาลเหงา

พักตร์เจ้า ย้อมเสน่ห์ เหหาย

สูดแก้ม แนบสนิท ชิดกาย

แม่เหมือน เดือนฉาย ชื่นใจ” ฯ

๏ “บุญน้อง

พี่สนอง เสน่หา หาไหน

สมกุสุม ทุ่่มโถม อาลัย

มอบชีวิต สนิทใน พี่ยา

หนุ่มหนุ่ม รักกุสุม รุมมาท

มิไยพ้อ ขอสวาท วาสนา

คู่สนอง มิปอง เจตนา

แน่วกมล จนวิวาห์ สมคนึง” ฯ

๏ สนองหนุ่ม จุมพิต จิตชื่น

ลุกยืน ยิ้มพยัก พักตร์ผึ่ง

สองหน้า ฉ่าฉ่ำ รำพึง

แต่ตระลึง พิศวาส จะขาดใจ

หายวับ ลับเฉลียง เลี่ยงเลี้ยว

บัดเดี๋ยว หิ้วกรง หย่งใกล้

ผะจงวาง ข้างน้อง ว่องไว

ยิ้มลไม ใคร่ฟัง สกุณา

เผยถุง แพรคลุม กรุ้มกริ่ม

ปิ้มผ่าน พิมานสวรรค์ หรรษา

คีริบูน บัณฑูร โลมา

ยลแสง สุริยา ย่ำคนอง

เต้นเหยาะ ส่งเสนาะ สำเนียง

จำเรียง เพลงฝรั่ง ดังก้อง

“จิวจิ่วเจี๊ยว, จ้อยจ่อยเจี๋ยว, จ้องจ๋องจอง

นายสนอง ยิ้มขยิ่ม อิ่มอุรา

ไขว่ห้าง เชิดคาง ยักคิ้ว

“เจียวเจี่ยวจิ๊ว, เจี้ยวเจียง” เสียงเจ้า

ปากกระเดาะ เฆาะจังหวะ รี่ตา

สีหน้า แสนเหว เสน่ห์ฟัง ฯ

๏ “เดียน้อง

เดาฤดี พี่สนอง ลองมั่ง

รักนก ยกหยิ่ง จริงจัง

อาจชั่ง น้ำใจ ได้สบาย

คงมี ภาษี น้ำหนัก

รักยิ่ง เพื่อนมนุษย์ ชุดสหาย

เว้นแต่ ใครหนอ ขอทาย”

“ก็กาย ของพี่ ซีน้อง”

สาวค้อน เจ้าย้อน กอดจูบ

โลมลูบ ปทุมมาลย์ สร้านสยอง

ลืมฟัง นกน้อย สำออยร้อง

“เจี๊ยวเจี๋ยวจ่อง, เจี๊ยวเจียว เจี๋ยวจาย”

หวลดู นาฬิกา “อ๋าพี่

เช้านี้ เพลิดเพลิน เกินสาย”

ปิดถุง พยุงกรง เดินกราย

ไปแขวน แสนสบาย ใจครัน

เมียหยิบ หมวกยื่น ชื่นทรวง

เหลียวหวง คีริบูน ทูนขวัญ

กับกับ ลงกระได ไปพลัน

เดี๋ยวรถ ยนตร์ถลัน แล่นลับ ฯ

๏ สาวกุสุม ยืนซุ่ม ซุ้มทวาร

สวาทหวาน ใจสเทิ้น เดิรกลับ

ฉวยตะกร้า ถักลูกไม้ หายวับ

คงจับ ถักเล่น เจนมือ

ว่างงาน การเรือน เชือนไฉน

ถักลูกไม้ ไม่ก็ อ่านหนังสือ

การครัว ใช่ชั่ว ตัวลือ

ฝึกปรือ ขนมฝรั่ง ทั้งไท ฯ

๏ เสียงเกือก กึกกึก พิลึกหลาย

มิได้นัด ได้หมาย สหายไหน

ขยับแยบ แอบดู ใคร่รู้ใคร

เที่ยวไถล สอดสร่าย แต่บ่ายโมง

ขันอึ้ขัน นั่นหลวง เดชดำรง

ไยตรง ขึ้นเหย้า เราโย่งโย่ง

ไว้จะจึ่ง ผึ่งผาย ฉะนายโรง

เดิรโคลง ไหล่อาด ปลาดจริง

จะแกล้งเมิน ไม่เชิญ ไม่รับ

สนองกลับ จะพวัก ชักกริ่ง

ดัดจริต ฤทธิ์อาย หมายประวิง

สุงสิง สืบเสน่ห์ เรรวน

ฝืนใจ ออกไป ต้อนรับ

หลวงเดช คำนับ แย้มสรวล ฯ

๏ “หล่อนวิวาห์ ช้าวัน ฉันควร

เฝ้าด่วน มาเยือน เพื่อนรัก

ไมตรี เคยมี มาไฉน

ยังไม่ ลืมคิด จิตประจักษ์

พอเลิก ซ้อมยุธ หยุดพัก

ใจผลัก หลุน ๆ ผลุนมา” ฯ

๏ “ขอบใจ

นึกจะเฉย เลยมิให้ เห็นหน้า

ใจอิฉัน มั่นคนึง ถึงวิวาห์

เคยวิสา สะสหาย มิคลายเชือน

ประทานโทษ โปรดนั่ง เดียวเดี๋ยว”

ลับเลี้ยว หายไป ใจเจื่อน

หยิบบุหรี่ มาวาง กลางเรือน

ยิ้มเยื้อน นั่งลง ตรงกัน ฯ

๏ “แม่กุสุม

ฉะกระชุม กระชวย สวยสวรรค์

บุญสนอง ครองชู้ คู่ชีวัน

เฉลิมขวัญ เฉลิมแคว้น แม้นนิมิต

มีธุระ ประสงค์ จงใช้

อย่าได้ เกรงใจ ใฝ่จิต

ถึงมิใช่ เนื้อคู่ ชูชิด

ก็ยังพิศ ะวาสแม่ แดยืน

ขอสมัค ภักดี นิรันดร

เหมือนก่อน ๆ ทุกรบอบ ชอบชื่น

มิพอใจ ข้อไหน ไยพื้น

เชิญกลืน หายเหลือ แต่เยื่อมิต” ฯ

๏ แม่กุสุม ซุ่มยิ้ม กริ่มทนง

มิตอบตรง พจมาลย์ สมานจิต

ออกอุบาย ย้ายความ ตามคิด

ถามเรื่อง ประลองฤทธิ์ ซ้อมรบ

หลวงทหาร ฉะฉาน เฉลยเล่า

แกมเย้า แกมยอ จ้อประจบ

ฟังเหมือน เพื่อนชีวา ผวาพบ

เสรสรวล ชวนสพ เสมอใจ

ลงท้าย ย้ายเรื่อง เยื้องคล่อง

ยกย่อง สนองผัว ยั่วใหญ่

วิวาห์เหมาะ เคราะห์ดี นี่กระไร

ขอให้ สุขเกษม เปรมปรอง

หวลเล่า ข่าวระบือ ชื่อลั่น

โดยประชัน คีริบูน เกียรติก้อง

สันทัด หัดวิหค ดิลกร้อง

นกของ ใคร ๆ ไม่เทียม

ช่างหา ช่างเลี้ยง ช่างฝึก

เหลือพิลึก เลิสปลอด ยอดเยี่ยม

ทอดสนิธ มิตสนอง ประลองเลียม

เอกเอี่ยม ชื่นชวย อวยพร ฯ

๏ เมียสาว ผ่าวถวิล ยินดี

สามี เชิดชื่อ ลือกระฉ่อน

หลวงเดช เลสฉมัง ยั้งย้อน

ลล้วนต้อน สาวเสน่ห์ เหวเพลิน

ยิ้มหยอก ออกปาก อยากชม

คารม คีริบูน สรรเสริญ

พอเป็น ราศรี ที่เผอิญ

มาผเชิญ โชคเรี่ยม เยี่ยมนาง ฯ

๏ “ขอโทษ

เธอโปรด กรุณา อย่าหมาง

ใช่รังเกียจ เดียดฉัน กั้นกลาง

เพื่อนอย่าง คุณหลวง หวงไย

แต่สนอง เจ้าของ สกุณา

ให้อิฉัน สัญญา เสียใหญ่

กำชับ กำชา ว่าไว้

มิให้ ใครดอด ลอดชม

โปรดรอ ต่อพบ เจ้าของ

ปรองดอง กันเถิด ประเสริฐสม

มิอยากหัด ขัดใจ ให้รทม

วันถม ไปเชิญ มาดู” ฯ

๏ “แล้วกัน

ตัวฉัน จะไม่ ได้อยู่

ในนคร เหอ! หล่อน ไม่รู้

พรุ่งนี้ ไปสู่ เมืองอุบล ฯ

๏ “คุณเอ๋ย

อย่าเลย อย่าเพ่อ เพ้อบ่น

เมื่อกลับ เชิญกลับ มายล

พอพ้น ผิดอิฉัน เสียสัญญา ฯ

๏ “ยอดสหาย

อย่ารคาย เคืองถือ โทษา

มาเยือน เหมือนจะ มาลา

แม่กุสุม สุ่มป่า ค้างปี

กะอีอวด นกหวัง ฟังร้อง

ก็ต้อง เผลไผล ใส่สี

พ่อสนอง ยังปอง ไมตรี

ไม่มี เดียดฉัน ฉันเลย

เห็นใจ หล่อนไม่ อาทร

คำวอน เพื่อนมา ลาเฉลย

ลองใจ เพียงนี้ ยินภิเปรย

อกเอ๋ย น่าลเหี่ย เสียใจ

นับประสา แต่ถึง พึ่งพา

เพียงดู สกุณา ปัดได้

รู้เท่า ที่เจ้า ใส่ไคล้

หมดเอื้อ เยื่อใย ขอลา ฯ

๏ “ดูซี้

เท่านี้ ก็ฉุน คุณขา

อิฉันบอก จริงๆ ยิ่งมา

พาลพา โลเคือง เฟื่องพิลึก

แม้นก ของอิฉัน มั่นใจ

รีบยก มาให้ สมตรึก

นี่ของ พ่อสนอง ลองนึก

ใครจะฮึก เหิมทำ ลำพัง

ถึงดัน สัญญา ว้าวุ่น

แม่คุณ เองคง ตำหนิมั่ง

หน่วงจิต อย่าคิด ดันทุลัง

ขอโทษ โปรดยั้ง ธเยอใจ” ฯ

๏ “ชูขวัญ

ถ้ากระนั้น ฉันขอ ริใหม่

นกเลี้ยง ไว้รเบียง เฉลียงใน

ฉันจะไป เปิดดู ครู่เดียว

หล่อนมิต้อง เกี่ยวข้อง บังอาจ

เป็นแต่ อนุญาต สักประเดี๋ยว

พอไม่ เสียใจ ฤทัยเซียว

โดยเฉลียว หล่อนสิ้น ปราณี ฯ

๏ ฟังว่า

แม่กุสุม กลุ้มอุรา หมองศรี

ยืนตลึง บึ้งหน้า มิพาที

หลวงทหาร พิรี้ พิไรวอน

เจ้าถวิล สิ้นภวัง กังขา

เห็นท่า ซื่อต่อ พ้อย่อน

เชื่อจิต ไหนจะคิด ยอกย้อน

ใจอ่อน หล่อนพยัก พักตร์อวย ฯ

๏ หลวงเดช ดำรง ทนงนึก

กึกกึก เดิรพเน้า สาวสวย

ไปเฉลียง เคียงคุม กุสุมงวย

ยืนรทวย อ้างว้าง ข้างกรง

ฉับเฉียว เหลียวเห็น หลวงทหาร

เปิดถุง เปิดทวาร กรงส่ง

คีริบูน เสียงเพราะ เหยาะลง

เห็นล่ง บินปรื๋อ หวือไกล

สาวชแง้ แลตาม หวามวิบ

หายฉิบ ทรวงสว้าน สท้านไหม้

เหมือนพระยม ล่มล้วง ดวงใจ

ทรามวัย ซวนซบ สลบลง ฯ

๏ หลวงเดช สังเวช สาวสยอง

เข้าประคอง อุ้มมา โซฟาหย่ง

เปีดซอง คว้าหลอด ยอดทนง

หักปึง สร่ายตรง จมูกนาง

บัดใจ ได้สติ มิช้า

วิ่งหา ยาดม สมสร่าง

เข้าห้อง ไสยา ตาคว้าง

ฉวยน้ำ อบนาง ชโลมเดีย

เห็นบรั่น ถลันริน ลงช้อน

จะป้อน เจ้าสลัด ปัดเสีย

กัดทนต์ ทุรนแค้น แสนเพลีย

ทหารชม้อย คอยเคลีย เอาใจ ฯ

๏ ดวงชีวิต

อย่าคิด ขุ่นข้อง หมองไหม้

ใช่แสร้ง แกล้งเจ้า เร่าไย

พเอินพลาด มือไป ปัดประตู

ฉันจะ พยายาม ตามต่อ

นกล่อ มาให้ ในครู่

จะขอโทษ เจ้าของ สนองรู้

ไหนจะฟู้ หึงหวง ดวงใจ

วางสมร เถิดหล่อน มิสาบสูญ

คงดัก คีริบูน คืนได้

ฉันผิด ฉันคิด ขออภัย

หล่อนไม่ ควรเห็น เป็นอมิต” ฯ

๏ “อ้ายบ้า

หน้ามึง กับใจ ไกลผิด

ชายไหน ในพิภพ จบทิศ

ไม่รยำ อมหิต เสมอมึง

ไปๆ ไสหัว พ้นบ้าน

อย่าประจาร ฝานมนัส ขัดขึ้ง

ตอบแค้น แทนเอื้อ เหลือคนึง

อ้ายอุบาทว์ ชาติทลึ่ง สัตว์นรก” ฯ

๏ หลวงเดช ดำรง ชงฆ์คุก

เฉียวฉุก จิตฝ่อ คอตก

รู้สึก ผิดลึก ลามก

เนตรซก ชลนา ลานาง

ลับกาย นายร้อย ร้อยชั่ง

แค้นคั่ง ทุรน หม่นหมาง

เศร้าสร้อย ลห้อยหวล ครวญคราง

ปิ้มจะวาง ชีวัน ขวัญเรือน ฯ

๏ “ตายดี กว่าจะอยู่ กูเอ๋ย

เคยหรือ หญิงเลว เหลวเหมือน

ชั่วชัด สัตย์สบั้น ฟั่นเฟือน

เห็นเพื่อน ดีกว่า สามี

ถึงฉอ้อน วอนง้อ ขอโทษ

วายโกรธ ไม่วาย หน่ายหนี

เห็นใจ น้องใจ ไม่ดี

ควรแล้ว แกล้วพี่ สิ้นรัก

เกิดครั้ง หวังร่ำ ทำชอบ

สมรบอบ นารี มีศักดิ์

เคราะห์กรรม นำก่อ ทรลักษณ์

ยอมตาย ไม่พัก ยอมอาย” ฯ

๏ กระเส่าเสี่ยง โฮโฮ โศกี

สามีเยี่ยม พะไล ใจหาย

วิ่งเข้า สร้วมสอด กอดกาย

ตาสร่าย แลสอบ รอบเรือน

ยังมิทัน ขวัญใจ ไขข่าว

บอกกล่าว เกิดวิบาก จากเพื่อน

สนองผงะ ผละนาง หมางเอือน

โผนเยือน นกน้อย จ๋อยใจ

ถุงเลิก เวิกอยู่ ประตูเปิด

ก็เกิด ญาณเกิน สงสัย

กระทืบเท้า อ้าวอึง ถึงห้องใน

คู่ชีวา ผวาไป หมอบซบ

เท้าผัว ตัวสั่น สอื้นไห้

เล่าพิไร แต่ต้น จนจบ

เคล้าสอื้น กำศวญ ทวนทบ

สนองฟัง ดังสลบ กอดมือ

ตลึงยั้ง ยืนฟัง คลั่งเดือด

เหลือเหือด น้อยใจ ไขสือ

มิพัก ตอบนาง ครางฮือฮือ

ซือบือ เพ่งหน้า บ้าพิลึก

เผ่นมา คว้าไปร ยณีย์บัตร์

แกว่งหัตถ์ สั่นหา ปากกาหมึก

เขียนอักษร อ่อนศอ ท้อระธึก

ตึ้ก ๆ ทรวงเต้น เข็ญฟัน

ปิดสแตมป์ แล้วแถม สลักชื่อ

วิ่งตื๋อ ออกถนน ถลนถลัน

กลับขึ้น เคหา ตามัน

เห็นเมีย ซบศัลย์ สอื้นโอย

สร้วมกสุม อุ้มน้อง ประคองลาก

กรากเข้า ห้องนอน สท้อนโหย

หับประถู รูต่าง พ่างขโมย

จะมาโกย ทรัพย์สิน สิ้นตัว

เสียงกุสุม สอื้นโอ้ โศกา

เสียงฮื่อฮ่า น่าสยอง สนองผัว

เสมือนโชค โลกวินาศ อนาถกลัว

ขนหัว ลุกชัน ขวัญบิน

เป็นนาน กระเสราสท่าน เทวศเคล้า

เสียงเศร้า สท้อนลม รทมถวิล

น่าสยด สยองใจ ใครยิน

เหลือรหัศ ตัดสิน ร้ายดี

๏ “เอ๋สนอง อยู่ไหน ใครถาม

น่าหวาม วายอุรา ฉ่าฉวี

เดี๋ยวสนอง ยิ้มต๋า มิราคี

เดิรรี่ ออกมา หาพลัน

สวยสง่า ล้างหน้า ทาแป้ง

พักตร์แฉ่ง แช่มชื่น ฟื้นขวัญ

นึกใคร หรือแขก แปลกนั้น

หลวงคู่ แข่งขัน เดชดำรง

ยิ้มขยับ จับมือ รื้อหมอง

ต่างจ้อง หน้าจริต พิศวง

ครู่ใหญ่ ต่างไถล ไว้ทนง

ยิ้มหย่ง พยศกล้า หากัน” ฯ

๏ “ทราบว่า คุณจะลา จากบางกอก

พรุ่งนี้ ผมออก ขบขัน

คุณท้า นัดหน้า จะประชัน

คีริบูน ออกสนั่น สนามลือ

เป็นไฉน หนีไป เสียก่อน

คุณหลอน ข้างไหน อย่าไขสือ

เคยเป็น เพื่อนฝูง จูงมือ

หรือจะ ไม่บอก ก็บอกไป” ฯ

๏ “เกลอคุ้น

อย่าฉุน อย่าหลง สงสัย

กันหรือ แพ้มือ ผู้ใด

ลงกล้า ท้าไว้ ไม่จำนน

เป็นต้อง เห็นกัน พนันหน้า

ใช่ว่า จะหนี ลี้ร่น

แม่กุสุม หรือแก แสร่ซน

ฟังยุบล ผิดพุ่ง เป็นพรุ่งนี้ ฯ

๏ จริงใจ กันจะไป จากกรุง

จึงมุ่ง มาลา ถึงนี่

ยังไม่ กำหนด ราตรี

สิ้นเรื่อง เท่านี้ ขันใย

เออสนอง กันตัอง การชม้อย

คีริบูน แกหน่อย ได้ไหม

เร่งมือ ปรือปรน สนใจ

ผะคบผงม เสียใหญ่ ละซี่” ฯ

๏ “เก็งผิด

จะปก ปิดใย เชิญมานี่

ผมใคร่ ประกวด อวดดี

เห็นฝี มือผม ผงมมัน” ฯ

๏ พูดพลาง ย่างเหย่า เข้าห้อง

ยิ้มย่อง หิ้วกรง ทนงหยัน

มาวาง ข้างหลวง เดชพลัน

“นั่นนั่น เชิญเถิด เปิดดู” ฯ

๏ ทหารหนุ่ม กลุ้มวิตก อกเต้น

นิ่งจ้อง มองเขม้น เป็นครู่

“เอ๊ะสนอง ลองยัด หมัดครู

มัดเมีย เสียรู้ มันกระมัง

ปล่อยนก ขี้เท่อ เพ้อป่อ

จึ่งล่อ มาเย้ย เถ่ยฉมัง

หรือนก มีชื่อ ลือดัง

มันต่อ คืนรัง ยังแคลง

จะเปิดถุง ยุ่งจิต คิดรอบ

แทบหอบ หัวหด สยดแสยง

ยกกรง หย่งขึ้น ยืนตแคง

ค่อยเปิด ถุงแดง ดูตลึง

มือสั่น ขวัญหนี ฤดีผลอย

แทบปล่อย กรงนก ตกผึง

หน้าซีด เหงื่อซิก รริกรึง

แขงขึง ตรึ้งกราด อนาถกุม

กรงนี้ นกคีริ บูนไร้

กลับใส่ เศียรแม่ กุสุม

ตาค้าง ปากอ้า เกษาคลุม

เลือดชุ่ม โอ๊ะน่า เสียวใจ

ค่อยผจง วางกรง ลงพลัน

ชงักงัน สั่นสทก อกไข้

เห็นสนอง ย่องกลับ ฉับไว

ฉวยได้ แด๊กเก้อ เท่อมา

ท่านหลวง ล้วงกรเป๋า ชักเบรานิง

ชิงยิง ปึงปึง ซึ่งหน้า

สนองสดุ้ง โดดผลุง เข้ามา

หลวงเดช แผ่หลา ลาเลย ฯ

ศุภมัศดุ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ