เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๔๔

วัน ๖ ๔ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่ายวันนี้ไม่ได้เสด็จออก เพราะไม่ใคร่จะทรงสบาย เวลาค่ำเสด็จออกประทับที่ซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้าทรงการต่าง ๆ จนเวลาทุ่มเศษ

เสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองนครสวรรค์ส่งเงินค่าตอไม้รายมองมิเพรียงฉะบับ ๑ เมืองสุโขทัย ๒ ฉะบับๆ ๑ ส่งเงินแทนขี้ผึ้งส่วย ฉะบับ ๑ ขอที่ผูกพัทธสีมา พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองไชยาส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ แล้วทูลนำพระยาไชยาซึ่งเข้ามาเยี่ยมศพสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เข้าเฝ้าถวายผ้ายกผ้าพื้นสีต่าง ๆ ผ้าอาบ พระยาราชวรานุกูลทูลนำพระยาพิศณุโลกกราบถวายบังคมลากลับไปเมือง ได้รับพระราชทานเครื่องยศ ถาดทอง คนโททอง ตามธรรมเนียม นายพิจารณ์สรรพกิจถวายหนังสือว่าไปพบกระบี่เครื่องยศของขุนอมรศักดาวุธที่โรงจำนำจีน ได้ถ่ายมาไว้ โปรดให้พระยาอภัยรณฤทธิ์หาตัว&#8203ขุนอมรศักดาวุธมาถาม เจ้าพระยาพลเทพกราบบังคมทูลพระกรุณาว่าหลวงรามเดชปลัดกรมอาสารองกรมพระกลาโหมข้าหลวงไปเดินรังวัดนา ขึ้นไปถึงกรุงเก่ายังหาได้ออกเดินไม่ เป็นอหิวาตกโรคถึงแก่กรรม โปรดให้หาตัวข้าหลวงเปลี่ยนใหม่ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูมทรงการต่าง ๆ พระยาภาสกรวงศ์เฝ้า เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๔ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกทรงฎีกาและราชการต่าง ๆ กรมหมื่นพิชิตเฝ้า ครั้นเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกที่ดรอวิงรูม มิสเตอร์ปีเอสฮาเมลกงสุลเยเนราลฮอลันดากับภรรยาเข้าเฝ้า ทรงปราศรัยตามธรรมเนียมกับมิสเซสฮาเมลขอรับพระราชทานพระบรมรูปด้วย กงสุลกราบบังคมทูลเตือนให้หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ไปสำแดงเครเชนเชียลที่เมืองฮอลันดาด้วยแล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้เข้าไปเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้าที่พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษมิสเซสแอนเดอซันบุตรสาวพระวิสูตร ๑ มิสเซสกุตซอล์ตบุตรสาวพระวิสูตร ๑ เด็กบุตรสาวมิสเตอร์กุตซอล์ต ๑ มิสเตอร์ยอยีบุชบุตรชายพระวิสูตร ๑ เข้าเฝ้าที่ดรอวิงรูมกราบถวายบังคมลาไปสิงคโปร์ แล้วโปรดให้เข้าไปเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้าที่พระที่นั่งสมมติเทวราชด้วย แล้วเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมือง&#8203พิษณุโลก ส่งทรัพย์สิ่งของผู้คนข้าทาษ นายพุ่ม พิษณุโลก นายอ่ำ ไชยบูรณ์ ซึ่งขอเลหลังใช้เงินหลวงซึ่งฉ้อบังไว้ฉะบับ ๑ เมืองสุพรรณบุรีว่าด้วยที่เขตต์แดนเกี่ยวกับเมืองกาญจนบุรี ที่นั้นผู้ร้ายชุมฉะบับ ๑ เมืองพิไชยขอศิลาหน้าเพลิงเผาศพพระพลนายด่านฉะบับ ๑ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองกาญจนบุรี ว่าด้วยพระนินนภูมิบดีเจ้าเมืองลุ่มสุ่มถึงแก่กรรม ขอศิลาหน้าเพลิงไปเผาศพฉะบับ ๑ พระยาอภัยรณฤทธิ์กราบบังคมทูลด้วยเรื่องดาบเครื่องยศขุนอมรศักดาวุธ ว่าตัวเป็นหนี้ต้องจำอยู่ ฝ่ายภรรยาไม่มีอันใดจะใช้หนี้จึงเอาไปจำนำ โปรดให้ถอดเสียจากตำแหน่งยศ และให้ใช้เงินค่าดาบที่นายพิจารณ์สรรพกิจไปถ่ายมานั้นเสีย เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๔ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชยเฝ้าทรงฎีกา สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อยเฝ้าเรื่องโทรเลขซึ่งจะทำไปต่อกับสายอังกฤษที่ด่านโป่งสะแก ซึ่งพระยาเพ็ชรบุรี หลวงนราธิกรณฤทธิ์ ข้าหลวงส่งแผนที่เข้ามา พระยามหาเทพเฝ้าถวายใบสั่งจ่ายเงินและแซงชั่นต่าง ๆ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมือง&#8203นครสวรรค์ฉะบับ ๑ เมืองบรรพตพิไสยฉะบับ ๑ เมืองมโนรมย์ฉะบับ ๑ ส่งเงินปี้จีนทั้ง ๓ เมือง กับใบบอกเมืองเพ็ชรบูรณ์ส่งขอนดอก แหน่ง เนียมและของบรรณาการเข้ามา และขอเครื่องสังเวยไปบวงสรวงเทพารักษ์ป่าขอนดอก พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกพระยาเพ็ชรบุรี หลวงนราธิกรณฤทธิ์ ข้าหลวง ๒ ฉะบับ เป็นความเห็นในการทำโทรเลข และที่ซึ่งจะตั้งสเตชั่นฉะบับ ๑ ริโปตว่าด้วยตัดทางทำโทรเลข ตั้งสเตชั่นที่จะไปต่อกับสายอังกฤษที่ด่านโป่งสแกฉะบับ ๑ พระเทพาธิบดีถวายหนังสือเป็นรับคำสั่งจากเจ้าพระยามหินทร์ ให้กราบบังคมทูลด้วยเรื่องในกรมสัสดี ไม่ทรงรับ ดำรัสติเตียนว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยามหินทร์เป็นผู้สำเร็จราชการในกรมสัสดี เมื่อมีการอันใดควรที่เจ้าพระยามหินทร์จะกราบบังคมทูลพระกรุณาเอง ต่อเมื่อใดเจ้าพระยามหินทร์ไม่อยู่ หรือไม่มีตัว จึงจะควรให้พระเทพากราบบังคมทูล หรือถ้าพระเทพาจะกราบทูลก็ต้องกราบบังคมทูลด้วยปาก ไม่มีธรรมเนียมที่จะล่วงข้ามหน้าผู้ใหญ่เข้ามาดังนี้ อีกประการหนึ่ง ขุนนางทุกวันนี้พอได้รับพระราชทานพานทองถึงมือแล้ว ก็เป็นเข้าวังไม่ได้ทั้งนั้น พากันดูหมิ่นพระเดชานุภาพเสียหมดแล้ว ธรรมดาเดี๋ยวนี้ขุนนางถ้าใครที่เป็นผู้น้อยจะมีหนังสือไปถึงก็ต้องมีไปถึงเสมียนทนายให้นำขึ้นกราบเรียน แต่ส่วนจะมีหนังสือถวายนั้นใช้ให้ขี้ข้ามากราบบังคมทูลแก่ขุนหลวงเอง ให้ต้องมีพระราชหัตถ์ไปทั่วทิศ ครั้งก่อนเจ้าพระยาภาณุวงศ์อยู่&#8203พระยาพิพัฒน์มีหนังสือเข้ามาถวายเป็นทางราชการในกรมท่าครั้ง ๑ แล้วก็ได้กริ้วไป มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ แล้วถ้าใครทำดังนี้อีกจะลงพระราชอาญา เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๔ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่ายวันนี้ไม่ได้เสด็จออก โปรดให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปเขียนไดอรีที่ห้องไลบรารี พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬารก็รับสั่งให้หาพระยาศรีสุนทรเข้าไป โปรดให้คิดพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอที่ประสูติใหม่ และชื่อเรือพระที่นั่งศรีลำใหม่ที่ลายเป็นนาคทั้งลำ และชื่อเรือกลไฟต่าง ๆ

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิไชย เรื่องความนายร้อยจันตะ ฟ้องหาว่าถูกผู้ร้ายปล้นทางเมืองพิไชยภรรยาตายนั้น ได้ชำระสืบสวนได้ความว่านายร้อยจันตะเป็นคนจนไปอาศัยหมื่นชำนาญอยู่ ภายหลังภรรยานายร้อยจันตะตกน้ำตายเอง พระยาพิไชยได้ยอมเรี่ยรายเงินกรมการและราษฎรให้แก่นายร้อยจันตะไป ทรงติเตียนว่า ความสืบได้ว่าเป็นคนจนและภรรยาก็ตกน้ำตายเอง แล้วไปลงเอาเงินแก่ราษฎรเปล่าๆ ให้พระยาพิไชยออกเงินของตัวเองใช้ให้เสีย เมืองอ่างทองขอศิลาหน้าเพลิงขึ้นไปเผาศพพระยาอินทรวิชิตจางวางฉะบับ ๑ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ&#8203เฝ้าทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๔ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชยเฝ้าทรงฎีกาและราชการต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระยามนตรีสุริยวงศ์เฝ้าทรงเรื่องจะทรงทำบุญฉลองวันที่รัชกาลปัจจุบัน เท่ากับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระราชดำริจะมีเทศนาปฐมสมโพธิ มีพระราชหัตถ์เลขาถึงสมเด็จกรมพระฉะบับ ๑ หม่อมเจ้าบงกชเฝ้าถวายเรื่องราวฉะบับ ๑ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกหลวงอนุชิตพิทักษ์ นายพรมหาดเล็ก ข้าหลวง ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยทำการปักเสาติดอินโซเลกเตอพาดสายโทรเลข และว่าด้วยคนเกณฑ์มาแต่หัวเมืองได้มาไม่ครบตามรายบัญชีที่ส่งมา ฉะบับ ๑ ว่าด้วยทำการปักเสาโทรเลขริโปตการต่าง ๆ ที่ได้ทำและได้จ่ายเงินให้มองซิเออร์ปาวีอินยินเนียเป็นเงินเดือน ใบบอกพระยาพนมพินิตผู้รักษาเมืองศรีโสภณ ว่าด้วยจัดคนรักษาสายโทรเลขฉะบับ ๑ เมืองปราจีนบุรี ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยได้แต่งให้พระปลัดคุมเงิน ๕ ชั่งขึ้นไปจ่ายซื้อสะเบียงเลี้ยงคนทำโทรเลขและจัดบรรทุกสิ่งของเครื่องสายโทรเลขขึ้นไปส่งที่เมืองอรัญประเทศตามท้องตราฉะบับ &#8203๑ ส่งเรื่องความแขกไปตั้งซื้อกระบือ ผู้ร้ายที่บอกมาครั้งก่อนเข้ามา พระนรินทร์อ่านบอกเมืองเพ็ชรบุรี ถวายพระราชกุศลที่ได้ผูกพัทธสีมาฉะบับ ๑ พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองนนทบุรี ว่าด้วยหลวงรามัญนนทเขตต์ปลัดถึงแก่กรรมฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า แล้วเสด็จประทับที่ซิตติงรูม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้าทรงการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกที่ดรอวิงรูม พระยาภาสกรวงศ์ถวายตัวนายชวนบุตรพระยาเพ็ชรบุรี ๑ นายชวนบุตรพระสุนทรานุกิจ ๑ ทำราชการเป็นมหาดเล็ก แล้วมิสเตอร์เลกกี ผู้ว่าการแทนกงสุลเดนมาร์กเข้าเฝ้าไม่มีการอันใด เป็นแต่เฝ้าพอให้ทรงรู้จักไว้ ครั้นแขกเมืองไปแล้วสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อยเฝ้าถวายตัวอย่างรถโปสต์แคริช เป็นของคอเวอนเมนต์เยรมันส่งเข้ามาตอบแทนตัวอย่างเรือต่าง ๆ ที่พระราชทานออกไปนั้น ทอดพระเนตรทหารเล็ก ๆ แต่งสกอชซึ่งพระองค์เจ้าดิศวรกุมารหัดถวายสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศครู่หนึ่ง แล้วนายพลพันถวายกะโถนขนาดย่อมที่โปรดให้ทำ ๒ ใบ โปรดให้พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์เขียนตั๋วสำคัญพระราชทานราคาให้แล้ว พระยามนตรีสุริยวงศ์เฝ้าทรง&#8203การต่าง ๆ ครู่หนึ่งเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองราชบุรี ๓ ฉะบับ ๆ ๑ ริโปตรายความที่ยังชำระค้างอยู่ที่ศาลเมืองราชบุรี ฉะบับ ๑ ว่าด้วยเกิดความฆ่ากันตาย ๑๓ เรื่องยังชำระอยู่ ฉะบับ ๑ ส่งรายบัญชีนักโทษจำอยู่ที่คุกเมืองราชบุรีที่สมเด็จเจ้าพระยาชำระ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้าและทอดพระเนตรตัวอย่างของต่าง ๆ ที่หม่อมเจ้าประวิชเขียน แล้วเสด็จไปประทับที่ซิตติงรูม กรมหมื่นประจักษ์ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระยาภาสกรวงศ์เฝ้าทรงเรื่องการที่จะโสกันต์แห่ทางในในเดือน ๖ นี้ และทรงราชการต่าง ๆ จนเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกประชุมที่ห้องออกขุนนางตามเคย ผู้ที่มาประชุมวันนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ๑ กรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์ ๑ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร ๑ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ๑ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ๑ กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ ๑ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี ๑ เจ้าพระยาพลเทพ ๑ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ ๑ ประชุมปรึกษาราชการอยู่จนเวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จไปประทับที่ซิตติงรูม สมเด็จพระเจ้า&#8203น้องยาเธอพระองค์น้อย กรมหมื่นนเรศร พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า ทรงฎีกาและราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

วันนี้เจริญพระพุทธมนต์ยกยอดพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เสด็จออกมาทรงจุดเทียน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ๒๐ รูป กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เป็นประธาน

ที่พระพุทธมนเทียรทำบุญวันประสูติ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าจิตรเจริญเสด็จไปจุดเทียนสดับปกรณ์เทศนา

วันนี้ไม่ได้เสด็จออกขุนนางเพราะไม่ใคร่ทรงสบาย โปรดให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ เข้าไปเขียนพระราชหัตถ์เลขาที่ลานพระที่นั่งดำรงสวัสดิ์อนัญวงศ์ จนเวลา ๔ ทุ่มเศษ

วัน ๖ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้าโมงเศษเป็นพระฤกษ์กำหนดจะได้ยกยอดพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท แต่ยังไม่บรรทมตื่นจึ่งเลื่อนพระฤกษ์ไปเวลา ๔ โมง เวลาเช้า ๒ โมงเศษโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเสด็จออกมาทรงประเคนให้พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสียก่อน

ครั้นเวลา ๔ โมงเช้า เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมทรง&#8203จุดเทียนนมัสการกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีล แล้วเสด็จมาประทับที่พระทวารข้างมุขหน้าด้านใต้ ทรงชักรอกยกยอดพุ่มข้าวบิณฑ์พระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาททั้ง ๕ ยอด แล้วเสด็จมาประทับตรัสกับกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระวันรัตครู่หนึ่ง ทรงประเคนไทยทาน พระสงฆ์อนุโมทนาถวายไชยมงคล แล้วถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปประทับบนพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท ทรงจุดเทียนนมัสการพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง ๔ พระองค์ แล้วเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโรงเรียน และที่อยู่นักเรียนทหารที่พระตำหนักสวนกุหลาบ ซึ่งพระองค์เจ้าดิศวรกุมารทรงจัดขึ้นและเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโรงปืนจนตลอดกำแพงพระบรมมหาราชวังด้านใต้แล้วเสด็จกลับทางเดิม เสด็จขึ้นทางพระที่นั่งอนันตสมาคม

วัน ๗ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๔ โมงกับ ๑๕ มินิตครึ่ง หม่อมเจ้าสายในกรมหมื่นภูมินทรภักดีประสูติพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชาย ๑

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก กรมหมื่นอดิศรเฝ้า แล้ว&#8203พระยารัตนโกษาเฝ้า แล้วพระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชยอ่านฎีกาถวาย จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษพระยามนตรีสุริยวงศ์เฝ้าถวายม้าผ่านดำตัว ๑ โปรดเกล้า ฯ สั่งเจ้าหมื่นสรรเพธภักดีให้ขึ้นระวางเป็นม้าต้น แล้วเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิไชยขอรับพระราชทานปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดมหาธาตุในเมืองพิไชย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงิน ๒๐ ชั่งให้พระยาพิไชยคนเก่าขึ้นไปทำไว้นั้นฉะบับ ๑ เมืองอุทัยธานีขอรับพระราชทานศิลาหน้าเพลิงขึ้นไปเผาศพพระศรีสุนทรเทพปลัดฉะบับ ๑ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองปทุมธานีส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศตรัสกับกรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการครู่หนึ่ง แล้วเสด็จขึ้นประทับที่ชั้นบนมุขกระสันด้านตะวันออกทรงเครื่องใหญ่ แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๑๐ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ พระยารัตนโกษาเฝ้าทอดพระเนตรแผนที่นา ซึ่งซื้อพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอแล้วทรงพระราชาหัตถเลขา และทรงฎีกาต่าง ๆ พระยานานาพิธภาษีเฝ้าถวายบานพะแนกภาษีต่าง ๆ นายพิจารณ์สรรพกิจถวายเรื่องความมรดก เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอก&#8203เมืองพนัศนิคมส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ พระนรินทรราชเสนีนำหลวงอนุรักษ์ภักดี ซึ่งจะเป็นที่พระสุนทรบริรักษ์ผู้ช่วยราชการเมืองราชบุรี ๑ นายฉายมหาดเล็กบุตรพระยาราชบุรีซึ่งจะเป็นที่หลวงอนุรักษ์ภักดี ๑ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทแล้วเสด็จขึ้น ประทับออฟฟิศและซิตติงรูม พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้าทรงการต่าง ๆ พระราชทานพระบรมรูปแก่กรมวังพระรูป ๑ กรมประจักษ์เฝ้าถวายเครื่องปิ้งไข่อย่างใหม่ใช้กอฮอล์เครื่อง ๑ เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๑๑ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ วันนี้พระยาไชยสุรินทร์ป่วยเป็นริดสีดวงถึงแก่กรรม พระยาไชยสุรินทร์คนนี้ชื่อเจียมเป็นบุตรพระยาราชภักดี (ช้าง) เดิมได้ถวายตัวเป็นข้าหลวงเดิมได้เป็นพระพี่เลี้ยงตั้งแต่แรกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประสูติ ครั้นเมื่อตั้งกรมก็ได้เป็นที่ขุนพินิตประชานาถเจ้ากรม ครั้นได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นพระยาไชยสุรินทร์ ผู้รักษาพระคลังข้างที่ และว่าพระคลังสวนและตึกเรือนโรงของหลวงซึ่งให้คนเช่าทั้งปวง ได้พระราชทานพานทองกลม เพราะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนับถือว่าพระยาราชภักดีช้างนั้นเป็นหม่อมราชวงศ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระอาลัยเป็นอันมาก พระราชทานโกศใส่ศพเป็นเกียรติยศ

&#8203เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก เจ้าพระยาสุรวงศ์เฝ้าทรงปรึกษาราชการและการต่าง ๆ แล้วพระองค์เจ้าศรีสิทธิ์เฝ้าทรงฎีกา กรมหมื่นภูธเรศ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้าทรงราชการต่าง ๆ เจ้าหมื่นสรรเพธเฝ้าถวายตัวม้าต้นทั้งปวงที่หน้าพระที่นั่ง เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาย่ำค่ำเศษ เสด็จลงตำหนักหม่อมเจ้าสาย สมโภช ๓ วัน พระเจ้าลูกเธอที่ประสูติใหม่สมโภชแล้วเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๑๒ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าศรีสิทธิ์เฝ้าทรงฎีกา กรมพิชิตเฝ้าทรงการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น ทรงเครื่องแล้วเสด็จออกประทับดรอวิงรูม มิสเตอร์กุตซอล์ตผู้ว่าการแทนกงสุลออสเตรียฮังการี และว่าที่กงสุลกรุงฮาวายเฝ้ากราบถวายบังคมลากลับออกไปเมืองนอก ทรงปราศรัยตามธรรมเนียม แล้วเสด็จประทับที่ซิตติงรูม กรมหมื่นพิชิต พระยานรรัตน์เฝ้าครู่หนึ่งเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองอุบลราชธานี ๒ ฉะบับๆ ๑ ว่าด้วยเจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงศ์ป่วย กับว่าด้วยอ้ายแรดผู้ร้ายให้กัณฑ์บนไว้ว่าจะไม่กระทำโจรกรรมอีกต่อไป ถ้าทำอีกให้ฆ่าเสีย บัดนี้อ้ายแรดไปกระทำโจรกรรมเข้าอีกจะเอาตัวมาชำระ ท้าวพัดแย่งไปชำระเสี้ยมสอนให้ซัดวุ่น&#8203วายไป และว่าท้าวพัดประพฤติหยาบคายต่าง ๆ ขอทหารกรมช้างไปรักษาเมืองและให้จับท้าวพัดด้วย ฉะบับ ๑ กล่าวโทษท้าวพัดเป็นข้อฉกรรจ์บ้าง มิฉกรรจ์บ้าง รวม ๗ ข้อ และกล่าวโทษพระเรืองไชยชนะ พระอมรรณใจว่ากระด้างกระเดื่องต่าง ๆ มีขาดถือน้ำเป็นต้น ขอถอดตั้งใหม่จะโปรดให้พระยาศรีไปชำระสอบสวนดู แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศกรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า แล้วเสด็จประทับที่ซิตติงรูม กรมหมื่นประจักษ์ กรมหมื่นเทวะวงศ์ นายสรพลเรืองเดช เฝ้าทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๘ ทุ่มเศษเกิดเพลิงไหม้ที่ตลาดน้อย ไหม้ประมาณเรือน ๑๐๐ หลังเศษ เวลา ๓ ยามเศษจึ่งดับ

วัน ๔ ๑๓ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษทรงฉลองพระองค์ยันต์เจ้าดำพระภูษาสีกรมท่า ถุงพระบาทขาวเสด็จออกตรัสกับพระยาเทพประชุน ด้วยเรื่องความนกุดาตรังกับพระยาปลิกครู่หนึ่ง ตรัสกับพระยาศรีสุนทรครู่หนึ่ง เสด็จขึ้นทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิฐ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งกราบไปประทับฉนวนวัดประยุรวงศาวาส เสด็จขึ้นทรงพระราชยานไปประทับพลับพลาหน้าวัดบุบผาราม โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าจิตรเจริญเข้าไปบังสกุลและวางธูปเทียนที่ในเมรุ แล้วทรงจุดฝักแคไปพระราชทานเพลิงศพพึ่งมารดา&#8203เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีที่ในเมรุ แล้วประทับตรัสกับเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีครู่ ๑ เสด็จทรงพระราชยานมาลงเรือพระที่นั่งกลับพระบรมมหาราชวังทางเดิม

วัน ๕ ๑๔ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกประชุมปรึกษาราชการตามเคย ผู้ที่มาประชุมวันนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ๑ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย ๑ กรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์ ๑ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร ๑ กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช ๑ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ๑ กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ ๑ เจ้าพระยาพลเทพ ๑ เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง ๑ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ ๑ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จขึ้นทรงเครื่อง แล้วเสด็จออกประทับที่ซิตติงรูม กรมหมื่นพิชิตเฝ้า ครั้นเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับดรอวิงรูมแฮรวอนเกรงกีกงสุลเยรมัน ๑ มิสเตอร์เฮนริกล่ามในศาลที่ว่าการกงสุล ๑ เข้าเฝ้ากราบบังคมทูลอุทธรณ์เสนาบดีรวม ๔ เรื่องแจ้งอยู่ในมินิต ซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์เรียบเรียงไว้แล้วนั้น ครั้นแขกเมืองกราบถวายบังคมลาไปแล้ว กรมหมื่นพิชิตเฝ้าครู่หนึ่ง เสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอก&#8203เมืองชลบุรีส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศตรัสกับกรมหมื่นเทวะวงศ์ครู่หนึ่ง เสด็จประทับซิตติงรูม พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์เฝ้าทรงแก้ร่างมินิตถ้อยคำที่กงสุลเยรมันเฝ้าวันนี้จนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๑๕ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๒ โมงเศษเสด็จออกทรงรถพระที่นั่ง สมเด็จพระนางเจ้า และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์โต สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่ กับข้าราชการฝ่ายใน ๒ ตามเสด็จพระราชดำเนินบนรถพระที่นั่ง พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการฝ่ายในตามเสด็จพระราชดำเนินรถอื่นอีกเป็นกระบวนข้างใน ออกประตูพิมานไชยศรี วิเศษไชยศรี เลี้ยวป้อมเผด็จดัษกร ลงทางถนนบำรุงเมืองไปเลี้ยวข้างสะพานช้างโรงสี ไปตามถนนข้างสวนสราญรมย์ ไปขึ้นสะพานมอญลงไปตามถนนเจริญกรุง ออกประตูพระนครลงไปทางสะพานวัดมหาพฤฒารามไปจนถนนตัดใหม่ไปทางศาลาแดง ไปหยุดทอดพระเนตรเครื่องจักรขุดคลองข้างสระปทุมวันครู่หนึ่ง ไปประทับรถพระที่นั่งที่หน้าสะพานหกเสร็จ ทรงพระราชดำเนินไปประทับณเกาะใหญ่กลางสระประพาสอยู่ที่พระตำหนัก ซึ่งเจ้าหมื่นไวยวรนารถทำรับเสด็จเป็นที่ประพาส ประทับอยู่จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จกลับขึ้นทรงรถพระที่นั่งมาประทับที่หน้าวังสมเด็จ&#8203พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ทอดพระเนตรอยู่ครู่หนึ่งเสด็จมาประทับที่วังพระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ ทอดพระเนตรสวนที่หลังตำหนัก แล้วเสด็จขึ้นทรงรถพระที่นั่งกลับทางถนนบำรุงเมือง เข้าประตูพระนครมาประทับพระบรมมหาราชวัง เสด็จประทับที่ซิตติงรูม กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ เฝ้าทรงการต่าง ๆ จนเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระยามหามนตรีเฝ้าด้วยจะทำเสื้อฝีพายเรือพระที่นั่ง และทูลด้วยม่านสีและโขนเรือพระที่นั่งลำใหม่นั้น จะขอให้ทำเป็นลายนาคทั้งสิ้นตามลายเรือพระที่นั่ง ทรงพระราชหัตถ์ไปรเวตไปถามข่าวหมอดีนที่ภรรยาตาย แล้วทรงราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระยามนตรีสุริยวงศ์เฝ้า ด้วยเรื่องจะปักหน้าโขนเรือพระที่นั่งลำใหม่ แล้วมิสเตอร์แบตแมนนายห้างรามเซกอมปนีเฝ้าถวายดอกไม้ธูปเทียน กราบถวายบังคมลาไปเมืองนอกแล้วเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษ เสด็จออกทรงพระราชยานไปประทับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จเข้าในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ แล้วเสด็จขึ้นไปสรงน้ำเปลื้องเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธรัตนปฏิมากรแก้วมรกตทรงเครื่องตามคิมหันตฤดู แล้วเสด็จมาสรงน้ำ เปลี่ยนพระรัศมีพระสัมพุทธพรรณี และสรงน้ำพระพุทธยอดฟ้า &#8203พระพุทธเลิศหล้า แล้วพระราชทานน้ำสังข์แก่พระบรมวงศานุวงศ์ และทรงสุหร่ายปรายพระราชทานข้าราชการทั้งปวง ครั้นเวียนเทียนสมโภชแล้วเสด็จมาประทับที่หน้าพระอุโบสถ พระราชทานสัญญาบัตรอย่างกลางให้แฮรเอดวิลมิลเลอ เป็นหลวงปฏิบัติราชประสงค์ แล้วเสด็จกลับพระบรมมหาราชวังทางเดิม ทรงการต่างๆ ที่ซิตติงรูม จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระยาเจริญราชไมตรีเฝ้า ทรงราชการต่างๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์เฝ้า แล้วเสด็จทรงพระราชยานไปประทับที่โรงทำพระเบ็ญจา กรมขุนขัติยกัลยา ที่หน้าวังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ประทับตรัสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอที่นั้นครู่หนึ่ง เสด็จไปทอดพระเนตรพระเมรุและพระที่นั่งทรงธรรม พลับพลามวย และโรงพักโรงเลี้ยงต่าง ๆ แล้วเสด็จกลับทางเดิม แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกทรงราชการต่างๆ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้า แล้วพระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชยเฝ้าทรงฎีกา จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับดรอวิงรูม มิส&#8203เตอร์บูรเออกงสุลเยรมันที่ ๒ เฝ้ากราบถวายบังคมลากลับไปเมืองนอก ทรงปราศรัยตามธรรมเนียม ครั้นกงสุลไปแล้วพระยาภาสกรวงศ์ทูลนำนายอัดบุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์กราบถวายบังคมลาไปเรียนหนังสือที่เมืองเยรมันกับมิสเตอร์บูรเออนั้นแล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกพระยาอาหารบริรักษ์ ข้าหลวงกรมการกรุงเก่าว่าด้วยทำพิธีลงมือเดินนาฉะบับ ๑ เมืองสุพรรณบุรีว่าด้วยหลวงสุนทรพิทักษ์ผู้ช่วยถึงแก่กรรมฉะบับ ๑ เมืองเสียมราฐ ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยหลวงพิทักษ์สุนทรผู้ช่วยถึงแก่กรรม ฉะบับ ๑ ว่าด้วยทำการโทรเลข เมืองหล่มศักดิ์ส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ เมืองพิษณุโลกส่งเงินส่วยเลขฉะบับ ๑ พเระยาราชวรานุกูลทูลนำหลวงจินดารักษ์กราบถวายบังคมลาไปเดินนา แล้วพระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองเพ็ชรบุรี ๒ ฉะบับส่งเงินค่านาฉะบับ ๑ ส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองสมุทรปราการ เรื่องจีนเหยียงบรรทุกฝิ่นเข้ามาโดยเรือ พระสวัสดิ์วามดิฐจับได้เอาตัวขังไว้ที่โรงภาษี จีนเหยียงแย่งมีดจากผู้คุมแทงตัวตาย ได้ถามปากคำแต่เมื่อยังไม่ตายให้การว่าต้องจับขังไว้ลำบาก จึ่งฆ่าตัวตายเสีย เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้าจนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

&#8203วัน ๓ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกทรงการต่างๆ พระยาเจริญราชไมตรีเฝ้า แล้วทรงฎีกาและเรื่องความต่างๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย เจ้าหมื่นสรรเพธภักดีเฝ้า จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองนครพนม เมืองสกลนคร เมืองไชยบุรี เมืองท่าอุเทน เมืองมุกดาหาร รวม ๕ หัวเมืองเข้าชื่อกันบอกมาฉะบับ ๑ ว่าด้วยความกุนถังขุนนางญวนถือหนังสือขุนนางผู้ใหญ่เมืองญวนเข้ามาเกลี้ยกล่อมครัวญวนซึ่งสามิภักดิ์มาแต่ก่อน เห็นว่าจะมาชักคนออกนอกพระราชอาณาเขตต์ จึงส่งต้นหนังสือมา ๕ ฉะบับ เป็นอักษรลาว ๓ ฉะบับ ๆ ๑ เป็นหนังสือลาวหัวเมืองขึ้นญวนมีมาถึงเมืองทั้ง ๕ นี้ ว่าด้วยเจ้าฟ้ากรุงเวียดนามให้กวางซุนถังเข้ามาเกลี้ยกล่อมพวกครัวญวนที่เข้ามาอยู่ในแดนไทย ถ้าจะกลับออกไปให้ช่วยส่งเสีย ให้ทหารช้างม้าออกไป ฉะบับ ๑ ว่าด้วยเจ้าฟ้าเวียดนาม ให้กวางเฮียบปุนถังเข้ามาเกลี้ยกล่อมขอครัวญวนออกไป ให้ช่วยเจือจานออกไปอย่าให้ขัดสน ฉะบับ ๑ ขอให้ช่วยต้อนครัวญวนเหล่านี้กลับออกไปโดยสะดวก กับเป็นหนังสือญวนอีก ๒ ฉะบับ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี พระสวัสดิวามดิฐ แปลได้ความว่าฉะบับ ๑ เป็นหนังสือขุนนางเมืองญวน ขอให้ส่งพวกครัวญวนซึ่งหนีข้าวแพงในเมืองญวนเข้ามาอยู่&#8203ในแดนไทย กลับออกไป ฉะบับ ๑ เป็นคำสั่งว่าที่ว่างเปล่าอยู่ให้ราษฎรเร่งทำนาใน ๓ เดือนนี้ เมื่อทำได้ครบ ๓ ปีมีผลอย่างไรให้บอกออกไปจะให้รางวัล ดำรัสว่าธรรมดาญวน ถ้าเป็นไมตรีกันเข้าที่ใดแล้วเป็นต้องแคะไค้เก็บเล็กเล็มน้อยจู้จี้ดังนี้เสมอ เราก็มีแต่ไม่ให้เสียก็แล้วกัน เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ แล้วประทับซิตติงรูมทรงราชการต่าง ๆ จนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์ และพระยามหามนตรีเฝ้าทรงราชการต่างๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกที่พระพุทธนิเวศน์ทำบุญวันประสูติสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และกรมสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระสงฆ์วัดพระเชตุพน ๑๐ รูป วัดรัษฎาธิฐาน วัดกาญจนสิงหาศน์รวม ๕ รูป เจริญพระพุทธมนต์ธรรมจักรกัปวัตนสูตรจบแล้วสดับปกรณ์ พระโพธิวงศ์ถวายเทศนากัณฑ์ ๑ ทรงแจกเงินเจ้านาย แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกทรงฎีกาและการต่างๆ กรมหมื่นพิชิตปรีชากรเฝ้า เวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จขึ้นทรงเครื่อง แล้ว&#8203เสด็จออกประทับห้องรับแขกเมือง มิสเตอร์กูลด์ซึ่งจะเป็นกงสุลอังกฤษอยู่ที่เมืองเชียงใหม่เข้าเฝ้าทรงปราศรัยตามธรรมเนียม แล้วเสด็จขึ้น

วันนี้สวดมนต์สมโภชเดือนสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ซึ่งประสูติใหม่ที่พระตำหนัก แต่เป็นธรรมเนียมไม่เคยเสด็จลง พระบรมวงศานุวงศ์เข้าไปเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองตากว่าด้วยมิสเตอร์แมกกาซี กับนายศรีซายันเมเยอร์ไปทำแผนที่ในเขตต์แดนเมืองตาก เจ้าราชภาคิไนยเมืองเชียงใหม่ จัดช้างมาให้ และว่าด้วยมิสเตอร์แมกกาซีเป็นไข้คลั่งเพ้อเสียจริต ได้พามารักษาที่บ้านมิสเตอร์กิวิน โปรดให้เรียกกลับ ใบบอกเมืองมหาสารคาม ๔ ฉะบับ ว่าด้วยส่งเงินแทนส่วยเร่ว กับว่าได้จัดข้าวขึ้นฉางไว้จ่ายราชการและถวายพระราชกุศลที่ได้บวชภิกษุ และทอดกฐินฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระพิทักษ์นรากรเข้าเมืองวาปีประทุมถึงแก่กรรม ขอท้าวโพธิสารเป็นแทนฉะบับ ๑ ขอตั้งบ้านท่าหอขวางเป็นเมือง ขอท้าวสุริโยเป็นเจ้าเมือง ท้าวมหาราชเป็นอุปฮาดฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระสุวรรณวงศาพาครอบครัวไปตั้งชำระความตามใจตนอยู่ที่บ้านนาคา แขวงเมืองมหาสารคาม ราษฎรได้ความเดือดร้อนขอให้ไปเสียจากที่นั้นฉะบับ ๑ กับนำท้าวสุริโย ท้าวโพธิสาร ท้าวมหาราชเข้าเฝ้าถวายขี้ผึ้ง พระยาเทพวรชุนอ่านบอก พระอนุรักษ์โยธาข้าหลวงกับผู้ว่าราชการเมืองตะกั่วป่า เมืองกระบี่ เมืองตะกั่วทุ่ง &#8203เมืองคิรีรัตนนิคม ว่าด้วยตัดสินความพวกจีนยี่หงิ จีนโอเซ่ง วิวาทกัน ส่งสำเนาหนังสือที่มีไปถึงหลวงทวีปสยามกิจ ส่งคำหาให้การพะยานตัดสินไปนั้นมาด้วยฉะบับ ๑ เมืองกลันตันว่าด้วยได้รับพระราชทานเหรียญสตพรรษมาลาฉะบับ ๑ ส่งตั้งให้หมื่นสถานไพชยนต์เป็นนายศรีสุภการผู้ช่วยกรมวัง น้องหลวงอนุรักษ์ภักดีเป็นพระสุนทรบริรักษ์ นายฉายบุตรพระยาราชบุรี เป็นหลวงอนุรักษ์ภักดี ผู้ช่วยเมืองราชบุรีทั้ง ๒ คน แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่างๆ จนยามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกประชุมต่างกรมเสนาบดีตามเคย เลิกประชุมแล้วเสด็จประทับซิตติงรูม พระยาศรีสุนทรเฝ้า คิดพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ซึ่งจะสมโภชเดือนวันนี้ ตกลงว่าสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาถ นริศรราชมหามกุฎวงศ์ จุฬาลงกรณนรินทร สยามพิชิตินทรวรางกูร สมบูรณ์พิสุทธิชาติ วิมโลภาสอุภัยปักษ์ อรรควรรัตนขัติยราชกุมาร ทรงการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จขึ้น

เวลาค่ำเสด็จลงพระตำหนักสมโภชเดือนสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ สมโภชแล้วเสด็จขึ้น

&#8203อนึ่งวันนี้พระราชทาน ไลย บุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ ไปเป็นภรรยาเจ้าหมื่นไวยวรนารถ

วัน ๗ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้าโมง ๑ เสด็จออกทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิฐ เสด็จลงเรือพระที่นั่งเวสาตรี แล่นลงไปตามลำแม่น้ำถึงเมืองสมุทรปราการ ทอดสมอเรือพระที่นั่งหน้าป้อมเสือซ่อนเล็บ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งโบต ๑๒ กระเชียงไปประทับที่สะพานหน้าป้อม กรมพระราชวังเสด็จลงไปรับเสด็จอยู่ที่นั่นด้วย เสด็จขึ้นทอดพระเนตรเชิงเทินป้อม ซึ่งกรมพระราชวังเป็นแม่งานทรงทำ แล้วประทับตรัสอยู่ครู่หนึ่ง เสด็จกลับลงทรงเรือพระที่นั่งโบต โปรดเกล้า ฯ ให้กรมพระราชวังตามเสด็จในเรือพระที่นั่งด้วย ตีกระเชียงไปประทับสะพานน้ำป้อมผีเสื้อสมุทร เสด็จขึ้นทอดพระเนตรป้อมและรางปืนที่ทำใหม่ แล้วหลวงรณยุทธโยธินทร์หัดทหารปืนใหญ่ลองยิงปืนติดดินดำถวายทอดพระเนตร ดิน ๒๕ ปอนด์ยิง ๔ กระบอก ๖ คราว เป็น ๒๔ นัด ครั้นเลิกยิงแล้วศิลาซึ่งทำเปนหางเหยี่ยวประดับป้อมที่ใต้กระบอกปืนแตกกระจายไปหมด ป้อมใช้เรียบศิลาอย่างนี้สู้ถมดินไม่ได้ เป็นแต่ยิงเล่นดินเปล่า ยังไม่ทันถูกลูกปืนข้าศึกก็แตกไปหมด ทอดพระเนตรที่ไว้ดินปืน และทหารยิงปืนเคตริงกันบนยอดเสาธง และทอดพระเนตรการทำป้อม แล้วเสด็จลงประทับเรือพระที่นั่งโบต &#8203มาประทับเรือพระที่นั่งเวสาตรี เวลาบ่ายถอนสมอเรือพระที่นั่งกลับขึ้นมาตามลำแม่น้ำ ถึงท่าราชวรดิฐ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

วัน ๑ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชย พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้าทรงฎีกาและการต่างๆ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ เจ้าหมื่นสรรเพธภักดี พระสุธรรมไมตรีเฝ้า เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระะศรีเสนาอ่านบอกเมืองตาก เรื่องผู้ร้ายปล้นฆ่าคุณะกะเหรียงสัปเยกต์อังกฤษตายกับพวกอีก ที่ด่านทางจะไปเมืองเมียรวดี ส่งหนังสือพระไชยสงครามนายด่านซึ่งบอกมาถึงพระยาสุจริต และส่งต้นหนังสือยาโจโฮะเจ้าเมืองเมียรวดี ขอให้เร่งสืบจับผู้ร้ายรายนี้ให้ได้ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกพระอนุรักษ์โยธาข้าหลวง ว่าด้วยไปสืบจับจีนพวกยี่หงิผู้ร้ายที่เมืองสะตูล และว่าด้วยจะชำระผู้ร้ายที่หนีไปปีนัง และริปอตการในเมืองสะตูลไม่มั่นคงแข็งแรง ส่งสำเนาหนังสือพระยาสะตูลถึงเลฟเตอร์แนนต์คอเวอนเนอเมืองปีนังบอกเรื่องผู้ร้ายรายนี้หนีไปปีนัง ขอตัวผู้ร้ายที่จับไว้ได้มาชำระฉะบับ ๑ สำเนาหนังสือพระยาสะตูลถึงหลวงทวีปสยามกิจ บอกเรื่องผู้ร้ายและให้ส่งหนังสือถึงเลฟเตอร์แนนต์คอเวอนเนอ และให้ช่วย&#8203พูดขอตัวผู้ร้ายด้วยฉะบับ ๑ พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองจันทบุรี เรื่องความวิวาทตีกันตายในวัดเทียนหักได้ชำระยังไม่รับเป็นสัตย์ส่งความเข้ามาฉะบับ ๑ โปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งนายดั่นซายันต์ทหารม้าตรุบ ๑ ในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์เป็นหลวงสุรยุทธโยธาหารครเนต ๑ หลวงสุนทรพิทักษ์ผู้ช่วยเป็นพระนครพราหมณ์ปลัดเมืองลพบุรี ๑ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศตรัสกับกรมหมื่นเทวะวงศ์ครู่หนึ่ง เสด็จไปทอดพระเนตรทิมดาบห้องเครื่องโรงรถ สังฆาศนศาลาและหอพระสมุดวชิรญาณ ซึ่งทำขึ้นใหม่ตลอดแถว เป็นวันสวดมนต์ฉลองวันนี้ทุกแห่งแล้วเสด็จมาประทับซิตติงรูม กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

อนึ่งเวลาวันนี้เที่ยง พระยาอนุชิตชาญไชย (อุ่น) ซึ่งเป็นวงศ์ตระกูลเนื่องมาแต่เจ้าพระยาชำนาญบริรักษ์ ครั้งแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกรุงเก่า ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา

วัน ๒ ๑๐ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออก กรมหมื่นพิชิตปรีชากร พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชยเฝ้า โปรดเกล้า ฯ มอบการประทับฟ้องใส่บทพระธรรมนูญ ซึ่งพระยาอนุชิตชาญไชยที่ถึงแก่กรรมว่าอยู่นั้น ให้พระองค์เจ้าศรีสิทธิธงไชยทำต่อไป แล้วทรงฎีกา แล้วกรมหมื่นภูธเรศ กรมหมื่นเทวะวงศ์ เจ้าหมื่นสรรเพธเฝ้า &#8203ทรงการต่างๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลายามเศษเสด็จลงพระพุทธนิเวศน์ทำบุญวันประสูติ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลาเช้าวันนี้พระสงฆ์วัดราชโอรส ๑๐ รูป วัดหนังสำหรับพระอัฏฐิกรมสมเด็จพระศรีสุลาไลย ๕ รูปรับพระราชทานฉัน ครั้นเวลาค่ำนี้เจริญพระพุทธมนต์ แล้วพระธรรมวโรดมถวายเทศนากัณฑ์ ๑ แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๑๑ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ ทรงฉลองพระองค์ครึ่งยศดำทหารมหาดเล็ก ทรงสตาจุลจอมเกล้ากับจักรีดารา เสด็จออกประทับดรอวิงรูม พร้อมด้วยตำรวจทหารกรมวังมหาดเล็กแต่งเต็มยศพร้อมกัน แฮรวอนเกรงกีกงสุลเยรมันกับมิสเตอร์เฮนริกล่าม เข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นสมเด็จพระเจ้าอาลฟองโซที่ ๑๒ พระเจ้ากรุงสเปญแสดงความยินดีที่พระมเหสีกวีนมาเรียคฤสตินาประสูติพระราชบุตรีองค์ ๑ และเพราะเขาได้รับฝากการกงสุลสเปญซึ่งยกมาแต่กงสุลอังกฤษด้วย ทรงตรัสยินดีที่ได้ทรงรับพระราชสาส์นและทรงปราศรัยกงสุลครู่หนึ่ง กงสุลก็กราบถวายบังคมลาไป แล้วเสด็จประทับซิตติงรูมทรงราชการต่างๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์น้อย กรมหมื่นพิชิต พระยามนตรี พระยานรรัตน์ พระนายสรรเพธเฝ้า เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษ เสด็จออกทางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรง&#8203พระราชยานไปประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดเทียนนมัสการ กรมพระปวเรศถวายศีล แล้วพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในการตั้งน้ำวงด้ายพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ครั้นสวดมนต์จบ แล้วเสด็จออกขุนนางที่นั้น พระยาราชวรานกูลนำหลวงภักดีณรงค์กราบถวายบังคมลาไปจัดการเมืองอุบล พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกหลวงทรงสุรเดชข้าหลวงเมืองราชบุรี ว่าด้วยการชำระผู้ร้ายฉะบับ ๑ แล้วเสด็จขึ้นทางเดิมนั้น

วัน ๔ ๑๒ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดเทียนนมัสการ ทรงศีลแล้ว ครั้นได้พระฤกษ์ทรงถวายเทียนชะนวนแก่กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ เสด็จไปทรงจุดเทียนไชยสำหรับพระราชพิธีที่หน้าเตียงมณฑลพระสวด แล้วทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ในการพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ครั้นพระฉันแล้วพระพิธีธรรมประจำสวดท้องภาณต่อไปตลอดพระราชพิธี แล้วเสด็จกลับทางเดิม

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกทรงรถพระที่นั่งไปทางหน้าวัดพระเชตุพนไปประทับที่ประตูช่องกุดออกสุนันทาลัย เสด็จขึ้นทรงพระราชยาน ไปประทับโรงพิธีซึ่งจะก่อพระฤกษ์ตึกหลวงข้างด้านเหนือในที่สุนันทาลัย ทรงจุดเทียนนมัสการ พระมงคลเทพมุนีถวายศีลแล้วเสด็จมาทรงจับแห่งศิลาฤกษ์โรยรอยวางได้ที่ &#8203มีประโคมตามธรรมเนียม แล้วทรงก่อด้วยอิฐ เงิน ทอง นาก และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ทรงก่อองค์ละแผ่น ครั้นพระสงฆ์ถวายอติเรก แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโรงเรียนของสมเด็จพระนางเจ้าหลังข้างใต้คู่กับหลังที่ก่อใหม่นี้ แล้วเสด็จทรงรถพระที่นั่งกลับมาประทับณพระเมรุท้อง สนามหลวงทอดพระเนตรนายด้านทำการทั่วทั้งพระเมรุครู่หนึ่ง เสด็จกลับขึ้นทรงรถพระที่นั่งกลับพระบรมมหาราชวัง

เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จออกทรงพระราชยานไปประทับที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเหมือนเวลาเช้านี้ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ครั้นพระกลับแล้วเสด็จออกขุนนางที่นั้น พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองนครศรีธรรมราชส่งเงินค่านาฉะบับ ๑ ส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ เมืองเพ็ชรบุรีว่าด้วยผู้ร้ายปล้น ๔ ราย แล้วนำพระสุนทรบริรักษ์หลวงพิทักษ์สุนทรผู้ช่วยราชการเมืองราชบุรีกราบถวายบังคมลากลับไปเมือง แล้วเสด็จกลับทางเดิม

วัน ๕ ๑๓ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้าวันนี้ ไม่ได้เสด็จออกทรงประเคนที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โปรดให้เลี้ยงพระเสีย

เวลาค่ำเสด็จออกทรงพระราชยาน ไปประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ครั้นสวดมนต์จบแล้วเสด็จออกขุนนางที่นั้นไม่มีใบ&#8203บอกอันใด ประทับตรัสการต่างๆ อยู่จนยามเศษเสด็จกลับทางเดิม

วัน ๖ ๑๔ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๒ โมงเศษ ทรงฉลองพระองค์ครึ่งยศดำทหารมหาดเล็กทรงสตานพรัตนจักรีดารา และตรามหาจักรีเสด็จออกทรงพระราชยานไปในพระบวรราชวัง เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุทไธศวรรย์ ทรงจุดเทียนนมัสการสมเด็จพระวันรัตถวายศีล ครั้นได้พระฤกษ์ทรงรดน้ำสังข์พระราชทานและโสกันต์ พระวรวงศ์เธอชั้น ๒ พระองค์เจ้ากาญจโนภาศรัสมี ๑ พระองค์เจ้าชายสุทัศนิภาธร ๑ หม่อมเจ้าประไภยในพระบวรวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้ายุคุนธร ๑ ครั้นทรงเจริญพระเกศาพระราชทานส่วน ๑ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้กรมพระราชวังบวรสถานมงคลทรงส่วน ๑ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ทรงส่วน ๑ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงรดน้ำพระราชทานออกทางพระแกลริมฉากด้านตะวันออก พระที่นั่งพุทไธศวรรย์ ครั้นสรงแล้วเสด็จทรงพระราชยานกลับพระบรมมหาราชวัง ประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททรงจุดเทียนนมัสการ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีล แล้วทรงรดน้ำสังข์เกศากันต์หม่อมเจ้าตุ้มในกรมหลวงวงศาธิราชสนิท ๑ หม่อมเจ้าชายเล็กในกรมขุนวรจักรธรานุภาพ ๑ หม่อมเจ้าประพาฬรัตนในกรมขุนบดินทรไพศาลโสภณ ๑ หม่อมเจ้าเสมอนุวงศ์ในพระองค์เจ้าเบ็ญจางค์ ๑ โปรดให้กรมหลวงวรศักดาพิศาลทรงส่วน ๑ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอทรงส่วน ๑ &#8203แล้วเสด็จไปทรงรดน้ำพระพุทธมนต์พระราชทานที่เขาไกรลาศและเบ็ญจา แล้วเสด็จมาปฏิบัติพระสงฆ์รับพระราชทานฉันบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ครั้นฉันแล้วพระโพธิวงศ์ประกาศราชพิธีเชิญเทพยดา แล้วโปรดให้หม่อมเจ้าที่เกศากันต์ถวายของพระแล้วเสด็จขึ้น

เวลาย่ำค่ำ เสด็จออกประทับเกยหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทอดพระเนตรกระบวนแห่ พระสงฆ์เข้าประตูพิมานไชยศรี ไปขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วเสด็จทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ จบแล้วพระโพธิวงศ์ประกาศเทพยดา แล้วพระครูคู่สวดเจริญพระธรรมจักรกัปวัตนสูตรจบ ๑ มหาสมัยสูตรจบ ๑ แล้วพระพิธีธรรมวัดต่างๆ ขึ้นสวดภาณยักษ์ภาณพระคั่นกันเป็นลำดับไป ยิงปืนอาฏานาตามเคย ครั้นจบที่ ๓ จบแล้วเสด็จขึ้นทางเดิม

วัน ๗ ๑๕ ๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้าวันนี้ หาได้เสด็จพระราชดำเนินออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไม่ โปรดเกล้า ฯ ให้เลี้ยงพระสงฆ์ และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ดับเทียนไชย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอทรงเจิมพระเครื่องทั้งปวงตามเคย

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ