เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๔๔

วัน ๕ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จออกทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ทรงจุดเทียนนมัสการ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีลแล้ว ทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉันในการตรุษจีนเป็นคำรบ ๓ โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ทูลกระหม่อมฟ้าชายพระองค์ใหญ่เสด็จไปจุดเครื่องสังเวยและปล่อยปลา ครั้นพระกลับแล้ว เสด็จออกขุนนางที่นั่น พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองสุโขทัย ว่าด้วยได้รับพระราชทานเหรียญสตพรรษมาลา และเหรียญรางวัลในการเอกสฮิบิเชนฉะบับ ๑ เมืองพิษณุโลกส่งเงินส่วยเลขฉะบับ ๑ แล้วเสด็จกลับมาประทับซิตติงรูมพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชทานโต๊ะเกาเหลาอย่างจีนเลี้ยงพระบรมวงศานุวงศ์ประทับโต๊ะเสวยด้วย เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเลิก เสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกทรงพระราชหัตถ์และการอื่น ๆ ที่ห้องออกขุนนาง จนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกทรงราชการต่าง ๆ ที่ห้องซิตติงรูม จนเวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จออกประทับดรอวิงรูม มิสเตอร์แคดเดลกงสุลเดนมาร์คเฝ้าถวายเอกซกวาเตอคืน เพราะออกจากราชการ แล้วเสด็จขึ้น ย่ำค่ำเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิษณุโลกส่งเงินแทนส่วยขี้ผึ้งฉะบับ ๑ เมืองบริคันธนิคม ว่าด้วยพระวิเศษสุรฤทธิ์เจ้าเมืองถึงแก่กรรมฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูมทรงราชการต่างๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาคืนนี้เสด็จลงทรงเก็บดอกสารพีที่สวนข้างใน ตั้งแต่เวลา ๑๐ ทุ่ม ครั้นเวลาโมง ๑ เสด็จออกทางประตูแถลงราชกิจ ออกประตูเทวาพิทักษ์ ไปประทับที่สวนสราญรมย์ประพาสดอกไม้ต่างๆ อยู่ที่นั้น จนเวลา ๓ โมงเศษเสด็จทรงพระดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระนางเธอและข้าราชการฝ่ายในไปตามถนน ข้ามสะพานหกไปประทับณวัดราชบพิธ เสด็จเข้าในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการ หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากรถวายศีลแล้วถวายพรพระจบแล้วทรงประเคน พระสงฆ์รับพระราชทานฉันทั้งวัด ในการถวายผ้าวรรษาวาสิกพัสตรสำหรับวันนี้ เกณฑ์พระเจ้าลูกเธอทำทั้งสิ้น พระฉันแล้วพระเจ้าลูกเธอทรงถวายไทยธรรมแก่พระสงฆ์แล้ว ท้าวอินทรสุริยาถวายผ้าวรรษาวาสิกพัสตร ซึ่งเป็นของเกณฑ์เจ้าจอมแผ่นดินปัตยุบันนี้ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปที่ข้างวัดที่ฝังพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภา ทรงทอดผ้าสดับปกรณ์และสมเด็จพระนางเจ้าทรงทอดแล้ว เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง อนึ่งวันนี้พระราชทานเงินปีแก่หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึงตามเคยทุกปี เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองชลบุรี เรื่องผู้ร้ายปล้นขุนกุเวนไพรสัณฑ์จับตัวได้บ้าง ส่งเข้ามาฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่างๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๕ โมงเศษเสด็จออกทรงรถพระที่นั่งแต่หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ออกประตูวิเศษไชยศรีไปเลี้ยวป้อมเผด็จดัษกรไปประทับวัดราชประดิษฐ์ เสด็จเข้าในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายศีลแล้วทรงประเคน พระสงฆ์ในวัดนั้นรับพระราชทานฉันทั้งวัด ในการถวายผ้าวรรษาวาสิกพัสตร ครั้นพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วทรงถวายไทยธรรมซึ่งเป็นส่วนหลวง ๕ รูป นอกนั้นเกณฑ์สำรับแลของไทยธรรมพระเจ้าพี่นางเธอ พระเจ้าน้องนางเธอ และพระราชทานเงินเป็นส่วนคล้ายเบี้ยหวัดแก่สมเด็จพระพุทธ์โฆษาจารย์ ๕ ชั่งตามเคยทุกปี แล้วเสด็จทรงรถพระที่นั่งกลับพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระนางเจ้าและพระเจ้าพี่นางเธอ พระเจ้าน้องนางเธอทรงสดับปกรณ์พระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งบรรจุไว้ในฐานพระพุทธสิหิงค์ในพระอุโบสถนั้น เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จออกขุนนาง หลวงเสนีพิทักษ์อ่านบอกพระยาราชเสนาข้าหลวงเจ้านายท้าวพระยาลาวเมืองนครเชียงใหม่ ว่าด้วยมองกะแยงแมงกยะมาแต่เมืองพะม่า ได้ถามการต่างๆ ในเมืองนั้น เป็นคำให้การส่งลงมาด้วยฉะบับ ๑ ศุภอักษรพระเจ้านครเชียงใหม่ ว่าด้วยกลับขึ้นไปบ้านเมืองมีความสุขสบาย และบอกราชการทางเมืองพะม่าตามคำให้การมองกะแยงแมงกยะฉะบับ ๑ (คำให้การนั้นโปรดให้คัดไว้ในออฟฟิศด้วย) เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่างๆ จนเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จออกทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิฐ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งกราบไปประทับฉนวนวัดอรุณราชวราราม เสด็จขึ้นทรงพระราชยานไปถึงประตูยักษ์ทรงพระราชดำเนินไปประทับในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการพระศากยบุติยวงศ์ถวายศีลแล้วทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉันในการถวายผ้าวรรษาวาสิกพัสตร ครั้นพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงประเคนไทยธรรมซึ่งเป็นส่วนหลวง ๓๐ รูป นอกนั้นเป็นส่วนเกณฑ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ และพระเจ้าน้องยาเธอทั้งวัด แล้วเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งมาประทับท่าราชวรดิฐ เสด็จขึ้นประทับพระที่นั่งชลังคพิมานทอดพระเนตรเรือพระที่นั่งศรีซึ่งทำใหม่เอาลงลอยลำถวายตัวทอดพระเนตร แล้วเสด็จลงมาประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ พระยามหามนตรีเฝ้าถวายอย่างลายสำหรับเรือพระที่นั่งลำนี้ทำเป็นลายนาคทั้งลำ แล้วทรงพระราชยานเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับดรอวิงรูม ราชทูตอเมริกันกับล่ามนำมิสเซส อี. เอ เรโนลดส ซึ่งอยู่เมืองยุไนติดสเตตอเมริกา ๑ มิสเตอร์เลียนโดร เดียส อัลเบอตินิ ผัว ๑ มิสเซสอิลละเดม ล. เดียส อัลเบอตินี ภรรยา ๑ เป็นคนมาเที่ยวเข้าเฝ้าทรงปราศรัยตามธรรมเนียม แล้วโปรดให้เข้าไปดูที่ท้องพระโรงเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองปราจีนบุรีเรื่องความผู้ร้ายลักโคไปขายในเขตต์สัปเยกต์ฮอลันดาซึ่งไปตั้งซื้ออยู่ที่นั้นจับได้ฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๓ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้าวันนี้มีเลี้ยงพระ ถวายผ้าจำนำพรรษาที่วัดราชโอรสตามเคยทุกปี แต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนิน เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกทรงราชการต่างๆ และทรงฎีกา พระยาภาสกรวงศ์เฝ้า เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองลพบุรี ๒ ฉะบับๆ ๑ ว่าด้วยความเก่าที่สารบบเพลิงไหม้เสียที่ว่ายังไม่เสร็จ ให้โจทย์จำเลยมาว่าใหม่ ฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระราชวังที่ลพบุรีชำรุดมาก พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองนนทบุรี ว่าด้วยผู้ร้ายลักกระบือสืบจับยังไม่ได้ฉะบับ ๑ พระยาราชวรานุกูลนำพระยาราชสำพารากรข้าหลวง ๑ จ่าเขมงสัตรียาวุธผู้ช่วยราชการ ๑ นายแกร่งมหาดเล็ก ๑ กราบถวายบังคมลาไปราชการเมืองเชียงใหม่ สำหรับอยู่ประจำที่เมืองนั้นตามกำหนด เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ และซิตติงรูมทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกประชุมต่างกรมและเสนาบดีที่ห้องออกขุนนางตามเคย ผู้ที่มาประชุมวันนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมหลวงจักรพรรดิพงศ์ ๑ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ๑ กรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์ ๑ กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช ๑ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ๑ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ๑ กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ ๑ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี ๑ เจ้าพระยาพลเทพ ๑ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ ๑ ประชุมเลิกเวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จประทับที่ซิตติงรูม เจ้านายเฝ้าแล้ว เจ้าพระยาสุรวงศไวยวัฒน์เฝ้า จนเวลา ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม ทอดพระเนตรหม่อมเจ้าพระพุชฌงค์ ในกรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ แปลหนังสือบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ แปลประโยคที่ ๓ ได้แล้วเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองนครราชสีมา ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยทำการเผาศพพระนครภักดีเจ้าเมืองบุรีรัมย์ ฉะบับ ๑ ว่าด้วยพระยาบรมราชบรรหารผู้ช่วยราชการป่วยถึงแก่กรรม พระยาราชวรานุกูลนำนายเจริญผู้ว่าที่อุปฮาดเมืองอุบลราชธานี กราบถวายบังคมลากลับไปเมือง พระยาพิพัฒนโกษานำหลวงเสนามาตยภักดีศรีสงคราม ยกกระบัตรเมืองระยองกราบถวายบังคมลากลับไปเมือง เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงการต่างๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จลงไปประทับที่สนามหญ้าหน้าพระที่นั่งครู่หนึ่ง แล้วเสด็จมาประทับที่ซิตติงรูม กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการเฝ้า ทรงการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกที่ซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองเพ็ชรบูรณ์ ส่งเงินแทนส่วยทองคำฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๑๐ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกทรงราชการต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์น้อยเฝ้า แล้วกรมหมื่นเทวะวงศ์ ฯ พระยามหาเทพเฝ้า เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิไชย ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยคนแขนขาวซึ่งสึกจากภิกษุสามเณรใหม่บ้าง พวกอื่นบ้างมีมาก มีถ้อยความอันใดก็ลำบากด้วยไม่มีสังกัดมูลนาย จึงได้ออกประกาศให้ส่งบัญชีจะได้ส่งลงมาสักที่กรุงเทพ ฯ กับขอตั๋วพิมพ์แจกขุนหมื่นด้วยฉะบับ ๑ ว่าด้วยพวกต้องซู่เข้ามาตั้งบ้านเรือนได้ลาวเป็นภรรยาอยู่ในเมืองนำปาดเป็นอันมาก ชักชวนพวกลาวเล่นเบี้ยทำให้เดือดร้อนวุ่นวายเกิดโจรผู้ร้ายมากจึงบอกหาฤาลงมา เมืองฉะเชิงเทราว่าด้วยพระสุนทรพิพิธ ผู้ช่วยชราขอลาออกจากราชการ ขอนายชุ่มมหาดเล็กบุตรพระยาจ่าแสนซึ่งเป็นหลานเขยพระยาวิเศษไชยชาญ ผู้ว่าราชการเมืองเป็นที่พระสุนทรพิพิธผู้ช่วยแทน พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองตราดส่งเงินปี้จีนละบับ ๑ พระโทรเลขธุรานุรักษ์ นำมิสเตอร์เดวิซันกราบถวายบังคมลาไปทำการส่งโทรเลขแต่เมืองกาญจนบุรีถึงด่านโป่งสะแกเขตต์แดน เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูมครู่หนึ่ง เสด็จขึ้นไปประทับที่มุขกระสันชั้นบนด้านตะวันออก ทรงเครื่องใหญ่ สรงแล้วเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๑๑ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกทรงฎีกาและราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองนนทบุรีฉะบับ ๑ เมืองสมุทรสาครฉะบับ ๑ ส่งเงินปี้จีนทั้งสองฉะบับ เสด็จขึ้นออฟฟิศและซิตติงรูม พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์เฝ้า ทรงตรัสการที่จะสร้างป้อมที่แหลมฟ้าผ่าและอื่น ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๑๒ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ วันนี้พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าอรองค์อรรคยุพาสิ้นพระชนม์ ประชวรเป็นพระโรคลมจุกเสียดพระนาภีเฟ้อ พระชนมายุได้ ๔ เดือนหย่อนอยู่ ๒ วัน จะได้เชิญพระศพลงหีบทองทึบขนาดน้อย แห่ออกไปทางประตูออกวัดพระเชตุพน ไปก่อที่บรรจุไว้ที่ลานวัดราชบพิธ ในที่ซึ่งจะก่อพระเจดีย์หลวงนั้น ในเวลาค่ำวันนี้

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกทรงราชการต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์น้อยเฝ้าทรงปรึกษาการต่าง ๆ มีเรื่องโทรเลขและเรื่องภาษีเข้า ภาษีเบ็ดเสร็จเป็นต้น กรมหมื่นประจักษ์ เฝ้าทรงคิดจัดการพระศพ วันนี้กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์เฝ้าด้วยราชการต่าง ๆ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองสระบุรีฉะบับ ๑ เมืองพิศณุโลกฉะบับ ๑ ส่งเงินปี้จีนทั้ง ๒ เมือง พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองนครไชยศรีเรื่องความยิง ฟัน แทง กันตาย ๔ เรื่อง ยังชำระอยู่ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูมทรงราชการต่าง ๆ กรมหมื่นประจักษ์ กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเฝ้าทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๑๓ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกทรงราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองตาก ๒ ฉะบับๆ ๑ ว่าด้วยมิสเตอร์แมกกาตีกับนายศรีซายันต์เมเยอกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ออกไปทำการเซอรเวย์ทำแผนที่ ยังไม่ได้ทำ ขอขึ้นไปเที่ยวเมืองเชียงใหม่ และว่าด้วยจัดการรับและส่งพระเจ้าเชียงใหม่กลับขึ้นไปเมืองนครเชียงใหม่ ฉะบับ ๑ ว่าด้วยจัดการรักษาด่านเมืองตาก เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ แล้วเสด็จประทับที่ซิตติงรูมทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๑๔ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกทรงราชการต่างๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์น้อย กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์เฝ้า ไม่มีราชการอะไร เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จลงที่พระพุทธรัตนสถาน นมัสการพระพุทธบุศยรัตน์ ทรงจุดดอกไม้เพลิง แล้วเสด็จออกทางประตูแถลงราชกิจ ทรงพระราชยานเสด็จไปประทับที่เกยหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดดอกไม้เพลิงแล้ว เสด็จเข้าในพระอุโบสถทรงเทียนนมัสการแล้ว พระสงฆ์วัดบวรนิเวศ วัดราชประดิษฐ์ วัดราชบพิธ วัดบูรณสิริ รวม ๔ วัด ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติกนิกายอยู่ไนกำแพงพระนครรวม ... รูป มีกรมหมื่นวชิรญาณวโรรสเป็นประธาน ทำวัดแล้วเจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว เสด็จลงมาประทับที่หน้าพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนรายและโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ทรงจุด แล้วเสด็จประทับในพระอุโบสถ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายเทศนาโอวาทปาติโมกข์ตามเคยในการมาฆะบูชา ครั้นเทศนาจบแล้วทรงประเคนไทยทานแล้ว เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง ทางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

วัน ๕ ๑๕ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จพระราชดำเนินออกทางประตูแถลงราชกิจ ออกประตูเทวาพิทักษ์เป็นกระบวนข้างในไปประพาสสวนสราญรมย์ ประทับทรงโครเกจนเวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวังทางเดิม

วัน ๖ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม ประทับบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ตรัสกับกรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ซึ่งไล่หนังสือพระ อยู่ที่นั้นครู่หนึ่ง เสด็จประทับพระบัญชรกลาง ทอดพระเนตรทหารหน้าฝึกหัดถวายตัวทั้งทหารเดินเท้าและทหารม้า จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จมาประทับทรงฟังแปลหนังสือ และทรงปราศรัยพระราชาคณะผู้ไล่บางองค์แล้วเสด็จขึ้นทางเดิม เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาอาหารบริรักษ์ ทูลนำแม่กองข้าหลวงถวายบังคมลาไปเดินรางวัดนากรุงเก่า เมืองอ่างทอง เมืองลพบุรี เมืองสุพรรณบุรี รวม ๒๔ นายมีรายชื่อดังนี้ นาคู่โคกอง ๑ กรุงเก่า อำเภอขุนอินทรเสนา อำเภอหมื่นรองอินทรเสนา ๑ เมืองอ่างทอง ๑ ข้าหลวงพระยาอาหารบริรักษ์แม่กอง ๑ หลวงคเชนทรามาตย์กรมมหาดไทย ๑ หลวงรามเดชปลัดกรมอาสารองซ้ายกรมพระกลาโหม ๑ หลวงสุนทรโกษากรมท่า ๑ พระยาบำเรอภักตร์กรมวัง ๑ ขุนมหาวิสูตรกรมพระคลังมหาสมบัติ ๑ นายบำเรอบรมบาทมหาดเล็ก ๑ หลวงวิเศษรักษากรมมหาดไทยในพระบวรราชวัง ๑ รวม ๘ นาย นาคู่โคกอง ๑ กรุงเก่าอำเภอขุนทิพยเสนาอำเภอหมื่นทิพยเสนา ๑ เมืองลพบุรี ๑ ข้าหลวงพระศรีทิพยโภชกรมนาแม่กอง ๑ หลวงภักดีณรงค์กรมมหาดไทย ๑ พระยาพิชัยชาญฤทธิเจ้ากรมเขนทองขวากรมพระกลาโหม ๑ หลวงภิรมย์โกษากรมท่า ๑ หลวงราชบริบาลกรมวัง ๑ ขุนศรีสมบัติกรมพระคลังมหาสมบัติ ๑ นายพลพ่ายมหาดเล็ก ๑ หลวงราชบริมาณเจ้ากรมอภิรมในพระราชวังบวร ๑ รวม ๘ นาย นาคู่โคกอง ๑ กรุงเก่าอำเภอขุนพรหมเสนา ๑ อำเภอหมื่นพรหมเสนา ๑ เมืองสุพรรณบุรี หลวงชนานุกูลกรมนาแม่กอง ๑ ขุนรักษ์โยธากรมมหาดไทย ๑ พระยาราชวังสันจางวางอาสาจามกรมพระกลาโหม ๑ หลวงอุดมสมบัติกรมท่า ๑ จมื่นจงภักดีองค์ขวากรมวัง ๑ ขุนศรีสุพรรณกรมพระคลังมหาสมบัติ ๑ นายพิจิตรสรรพการมหาดเล็ก ๑ หลวงพิไชยชำนาญเจ้ากรมเกณฑ์หัดปืนแดงในพระราชวังบวร ๑ รวม ๘ นาย พระราชทานสัญญาบัตรให้พระเทพผลูเป็นพระยาพิศณุโลก แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม กริ้วกรมหมื่นพิชิตด้วยนัดจะว่าเรื่องความบารอนสติลเฟรด วันนี้ ท่านเสด็จไปเที่ยวเสียไม่ได้กราบถวายบังคมลา โปรดให้เกาะเจ้ากรมมาจำไว้ กรมหมื่นประจักษ์ กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

อนึ่งวันนี้ กัปตันลอฟตัสซึ่งไปตรวจทางกับพวกฝรั่งเศส ซึ่งจะขอขุดคลองแต่เมืองชุมพรไปออกเมืองกระนั้น กลับเข้ามาถึงได้เฝ้าที่ออฟฟิศกราบบังคมทูลว่า ได้ไปเซอรเวย์มีที่ซึ่งสูงอย่างเอกสูงกว่าทะเลถึง ๒๕๐ ฟิต ความปรารถนาของพวกที่ขุดคลองนั้นเห็นจะท้อถอยไปแล้ว

วัน ๗ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกทรงราชการต่างๆ กรมหมื่นพิชิตนั้นเรือกลไฟไปตามพบที่บางเขนจูงลงมา ทรงพระพิโรธมาก เพราะด้วยเยี่ยงอย่างธรรมเนียมพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จออกไปหัวเมืองไม่กราบถวายบังคมลา และผิดด้วยกฎหมายบิริวิเคานซิล ทรงคาดโทษควรที่จะขังไว้ในวังเท่าวันที่ไป แต่ทรงพระกรุณาอยู่เพราะจะต้องว่าความบารอนอีก จึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้ยกโทษที่จะขังพระองค์ท่านเองพระราชทานให้ เป็นแต่ให้เอาเจ้ากรมขังไว้แทนเท่าวันที่ไป กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้าทรงฎีกาและการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองฉะเชิงเทรา ว่าด้วยพระอาจารย์จีนวงษสมาธิวัต พระสงฆ์จีนนิกายออกไปขอที่และได้เรี่ยไรสร้างวัด และสร้างพระปิดทองทำการฉลองถวายพระราชกุศล และขอรับพระราชทานชื่อวัดฉะบับ ๑ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองกาญจนบุรีส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองจันทบุรี ขอศิลาหน้าเพลิงเผาศพพระครูสังฆปาโมกข์ฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงการต่างๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระยาเจริญราชไมตรีเฝ้าเรื่องความ กรมหมื่นภูรเรศธำรงศักดิ์เฝ้า แล้วกรมหมื่นพิชิตเฝ้า ทรงราชการต่างๆ พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระราชโยธาเทพเฝ้าถวายแผนที่ซ่อมแซมท่าราชวรดิฐ ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองมโนรมย์ส่งเงินส่วยเลขฉะบับ ๑ เมืองไชยนาทว่าด้วยหลวงกำแหงพลล้านปลัดถึงแก่กรรม ขอรับพระราชทานศิลาหน้าเพลิงฉะบับ ๑ พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองชลบุรีขอรับพระราชทานศิลาหน้าเพลิงเผาศพพระครูวัดอินทารามฉะบับ ๑ เมืองนครไชยศรีขอรับพระราชทานศิลาหน้าเพลิง เผาศพหลวงสากลพิทักษ์ยกกระบัตรฉะบับ ๑ แล้วพระยาราชวรานุกูลทูลนำหลวงสุนทรภักดีผู้ช่วยราชการเมืองสุพรรณบุรี กราบถวายบังคมลากลับไปเมือง เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่างๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกขุนนาง ไม่มีราชการอันใด เสด็จประทับแจกเบี้ยหวัดมหาดเล็กทั้ง ๔ เวร เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น ครู่หนึ่งเสด็จออกประทับดรอวิงรูม มิสเตอร์นิวแมนไวซ์กงสุลอังกฤษ นำกัปตันยอนโฮปกับออฟฟิศเซอร์เรือรบอังกฤษชื่อไฟลเข้าเฝ้า ทรงปราศรัยตามธรรมเนียมแล้ว เสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกทรงราชการต่าง ๆ พระยาราชวรานุกูล พระศรีเสนาเฝ้า นำบอกเจ้าบุรีรัตน์ พระยาราชเสนาข้าหลวงว่าด้วยราชการทางเมืองพะม่า ที่กองทัพเมืองเชียงตุงยกไปตีเมืองห่าง (โปรดให้คัดสำเนาไว้) ดำรัสให้พระยาราชวรานุกูลไปกราบทูลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอว่า ข่าวอันนี้ก็สมกับที่ได้ข่าวจากพระยาอัศฎงค์ว่าพะม่าเตรียมทัพจะมารบเมืองไทย การนี้ก็คงเป็นว่าไปรบในเมืองเขาเอง แต่ส่วนเราก็ควรจะจัดการบ้านเมืองรักษาพระราชอาณาเขตต์ให้แข็งแรงไว้จึงจะชอบ หม่อมเจ้าประวิชเฝ้า แล้วกรมประจักษ์เฝ้า ทรงการต่างๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกทรงราชการต่างๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิไชย ว่าได้แต่งคนคุมเหรียญเงิน ๑ เหรียญทองแดง ๖ ในการเอกซฮิบิเชน ไปพระราชทานเจ้านครหลวงพระบาง ส่งศุภอักษรที่ตอบลงมาฉะบับ ๑ ศุภอักษรเจ้านครหลวงพระบาง ว่าด้วยได้รับพระราชทานเหรียญที่ส่งขึ้นไปฉะบับ ๑ ส่งหนังสือพวกฮ่อสุทธัย ว่าด้วยพวกฮ่อข้าศึกตั้งรบกวนหัวเมือง ๓ ฉะบับ หนังสือกฎเมืองหลวงพระบางถึงเมืองพิไชย ว่าด้วยเรื่องพวกฮ่อฉะบับ ๑ หนังสือฮ่อหัวเมืองปลายแดนบอกขอกำลังไปช่วยปราบปรามพวกฮ่อข้าศึก ๓ ฉะบับ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกเมืองนครศรีธรรมราชส่งเงินค่านาฉะบับ ๑ ถวายพระราชกุศลที่ได้ทอดกฐินหลวงฉะบับ ๑ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่างๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์เฝ้าทรงเรื่องครองเมืองกระและอื่น ๆ ครั้นไปแล้วทรงราชการต่างๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกพระยาศรีสิงหเทพ ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยราชการโทรเลขที่ออกไปตรวจทางวางสายได้ไปถึงเมืองนครเสียมราฐ พระยานุภาพไตรภพได้รับรองฉะบับ ๑ ว่าด้วยได้เห็นช้างพลายมีงาซ้ายงาเดียวของพระยานุภาพไตรภพออกมารับ ได้บอกให้พระยานุภาพไตรภพส่งเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวาย ใบบอกเมืองนครเสียมราฐ ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยจะขอออกเงิน ๒๕ ชั่งถวายเป็นการช่วยค่าเครื่องโทรเลขที่ทำ ฉะบับ ๑ ว่าด้วยช้างงาเดียวที่พระยาศรีไปพบนั้น ว่าไม่ทราบว่าเป็นช้างมีตระกูล ได้จัดโรงให้คนพิทักษ์รักษาไว้ ถ้าพระยาศรีจะเข้ามาจึ่งจะแต่งคนคุมลงมาถวาย พระยาราชวรานุกูลทูลนำพระศรีสิทธิกรรมเจ้าเมืองมโนรมย์ กราบถวายบังคมลากลับไปรักษาราชการบ้านเมือง พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองสมุทรสาคร ขอรับพระราชทานที่ผูกพัทธสีมาพระอาราม ๑ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระยาภาสกรวงศ์เฝ้า เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกประชุมปรึกษาราชการ ผู้ที่มาประชุมวันนี้นั้น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ๑ กรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์ ๑ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร ๑ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ๑ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ๑ กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ ๑ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี ๑ เจ้าพระยาพลเทพ ๑ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเลิกประชุม เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง เสด็จไปประทับก็ซิตติงรูม แล้วเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกหลวงอนุชิตพิทักษ์ นายพรมหาดเล็กข้าหลวง พระยาพนมพินิตกรมการ ว่าด้วยทำการสายโทรเลขกับมองซิเออร์ปาวีอินยินเนียฝรั่งเศสที่เมืองพนมศก เมืองศรีโสภณฉะบับ ๑ ใบบอกเมืองลพบุรีส่งเงินปี้จีนฉะบับ ๑ ส่งตอไม้ปุ่มประดู่ใหญ่กับศิลาโมราต่าง ๆ ๑๐ ขวด กับชาตหรคุณของหลวงสุนทรพิทักษ์ผู้ช่วยกับกรมการ ๒ นาย ทูลเกล้า ฯ ถวายฉะบับ ๑ พระยาพิพัฒนโกษาอ่านบอกเมืองปัจจันตคีรีเขตต์ ขอรับพระราชทานศิลาหน้าเพลิง ไปเผาศพพระพิไชยชลธีเจ้าเมือง ฉะบับ ๑ พระยาเทพประชุนทูลนำหลวงศรีมหาราชานายเรือนายทวนมหาดเล็กกัปตัน หลวงจัตุรงควิไชย ข้าหลวงกราบถวายบังคมลาไปด้วยเรือสุริยมณฑล ไปตรวจจับสลัดระงับโจรผู้ร้ายในหัวเมืองตะวันตก แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินออกทางประตูแถลงราชกิจเป็นกระบวนข้างใน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าและข้าราชการฝ่ายใน ตามเสด็จพระราชดำเนินออกทางประตูเทวาพิทักษ์ ไปประทับสวนสราญรมย์ประพาสทรงโครเคและอื่นๆ จนเวลา ๕ ทุ่มเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

วัน ๗ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกทรงฎีกาและการต่างๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย กรมหมื่นพิชิตปรีชากร กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ พระองค์เจ้าเกษมสันต์โสภาค พระองค์เจ้าจิตรเจริญเฝ้าด้วยการต่างๆ แล้ว ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น วันนี้พระนางเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรีประชวรพระครรภ์หาได้เสด็จออกขุนนางไม่ เสด็จลงพระตำหนัก ครั้นเวลา ๗ ทุ่ม ๒๓ มินิตประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าชาย

วัน ๑ ๑๐ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกทรงราชการต่างๆ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์เฝ้าถวายเรื่องความณหอรัษฎา ที่พระมงคลรัตนกล่าวโทษนายถมสัปเลฟเตนแนนต์ ผู้รับราชการแทนพระยารัตนโกษา ว่ารับสินบนไม่เร่งเงินจีนและเอาเงินของตัวให้จีนกู้หักเอาเงินหลวงใช้ที่โปรดให้ชำระนั้น ทรงฎีกาและการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิไชย ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยพวกต้องสู้เป็นผู้ร้ายปล้นหลวงจันทร์ผู้ไปค้าขายมาพักอยู่กลางทางได้ต่อสู้กันมีบาดเจ็บทั้ง ๒ ฝ่าย อ้ายผู้ร้ายยิงคนของหลวงจันทร์ตาย ๒ คน ปล้นเอาของไปได้บ้าง ฉะบับ ๑ ว่าด้วยจับได้อ้ายผู้ร้ายที่มีบาดเจ็บซักถามและยังสืบจับอยู่ต่อไป แล้วจึงจะส่งความลงมากรุงเทพ ฯ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๑๑ ๓ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกทรงฎีกาและราชการต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อยเฝ้า แล้วพระยามหาเทพเฝ้าถวายใบสั่งจ่ายเงินและแซงชั่นต่าง ๆ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกพระยาราชเสนาข้าหลวงเมืองนครเชียงใหม่ฉะบับ ๑ เจ้าบุรีรัตน์เจ้านายท้าวแสนพระยาลาวเมืองนครเชียงใหม่ฉะบับ ๑ ความต้องกัน ว่าด้วยขุนนางเมืองยวม บอกข้อราชการทางเมืองพะม่าที่รบกับเมืองนายมา ความข้างต้นเหมือนใบบอกฉะบับก่อน แต่ว่าเมื่อฟ้าเมืองนายให้พี่สาวไปเฝ้าเจ้าพะม่า เจ้าพะม่าฆ่าพี่สาวฟ้าเมืองนายเสีย ฟ้าเมืองนายจึงฆ่าคนซึ่งเจ้าพะม่าให้มารักษาเมืองนายเสีย ๑๘๐๐ คน ฟ้าโกลัน ฟ้าโยอุน ฟ้าขุนแนอาสาเจ้าพะม่ายกมารบเมืองนาย ถ้าตีเมืองนายแตกเจ้าพะม่าจะให้ฟ้าโกลันเป็นฟ้าเจ้าเมืองนาย ฟ้าทั้ง ๓ รบเมืองนายๆ ตีทัพฟ้าทั้ง ๓ แตกไปจนฝั่งแม่น้ำ เจ้าพะม่าจึงแต่งสิบเก้าเจ้าฟ้ายกมาตีเมืองนาย ยังกำลังรบกันอยู่ และว่าได้จัดรักษาด่านทางโดยแข็งแรง พระยาราชวรานุกูลทูลนำพระพิทักษ์อุทัยเขตต์ปลัดเมืองอุทัยธานี ซึ่งลงมาเป็นความอยู่ในกรุงกราบถวายบังคมลากลับไปเมือง ทรงกำชับให้คิดจัดการรักษาด่านไว้แข็งแรง เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๑๒ ๓ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกทรงฎีกาและราชการต่าง ๆ จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จลงพระตำหนักสมเด็จพระนางเจ้า สมโภชสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอที่ประสูติใหม่ เป็นวันคำรบ ๓ พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเช้าไปตามเคย สมโภชแล้วเสด็จขึ้น เวลาวันนี้ไม่ได้เสด็จออกขุนนาง เสด็จออกซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๑๓ ๓ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกประชุม ปรึกษาราชการตามเคย ผู้ที่มาประชุมวันนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ๑ กรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์ ๑ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร ๑ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ๑ กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ ๑ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี ๑ เจ้าพระยาพลเทพ ๑ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ ๑ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เลิกประชุม เสด็จไปประทับที่ดรอวิงรูม กรมหมื่นนเรศรเฝ้าถวายแผนที่ตัวอย่างพระตำหนักเสมเด็จพระนางเจ้าที่ในพระราชอุทยานพระราชวังบางปะอินจนเวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกพระยาศรีสิงหเทพข้าหลวง ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยได้บอกขอตราออกไปเกณฑ์คน เกณฑ์ช้าง เมืองสุรินทร์เมืองสังค คนเมืองละ ๒๐๐ ช้างเมืองละ ๘ ช้าง ยังได้มาไม่ครบจำนวนที่เกณฑ์และว่าด้วยไปอยู่ที่เมืองเสียมราฐจะปรึกษาการงานที่จะทำโทรเลขกับพระยาคทาธรลำบาก จะขอมาอยู่ที่เมืองมงคลบุรี จะได้จัดการได้สะดวก ฉะบับ ๑ ว่าด้วยได้รับหนังสือเจ้าเมืองขุขันธ์ ๒ ฉะบับ ส่งต้นหนังสือเข้ามา ในหนังสือนั้นว่าด้วยคล้องได้ช้างพังสีปลาดช้าง ๑ กับว่าเห็นช้างของคนตัดไม้เป็นช้างพลายสีตาปลาด ได้ขอซื้อไว้ช้าง ๑ กับได้นกเขาสีแดง ๑ สีดำ ๑ สีด่าง ๑ เป็นสีปลาดจะส่งเข้ามาด้วย พระยาศรีว่าถ้าได้ไปถึงจะไปตรวจและหารือเรื่องความพระสุริยหลวงปลัดเมืองขุขันธ์เป็นกันกับนายร้อยไม้ฉะบับ ๑ ว่าด้วยเขตต์แดนเมืองขุขันธ์กับเมืองสังคเกี่ยวแย่งชิงกัน บัดนี้ตั้งเป็นเมืองคันธรารมย์ขึ้นยังเป็นที่แย่งกันอยู่ฉะบับ ๑ พระนรินทรราชเสนีอ่านบอกพระอนุรักษ์โยธา เรื่องผู้ร้ายปล้นที่เมืองสตูล ฉะบับ ๑ พระราชทานตรามัณฑนาภรณ์แก่พระมงคลรัตนซึ่งมีความชอบนำเอาข้อความ ซึ่งเจ้าพนักงานประพฤติผิดพระราชบัญญัติมากล่าวขึ้น เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศและซิตติงรูม ทรงราชการต่าง ๆ จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๑๔ ๓ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔

วันนี้ไม่มีราชการอันใด เป็นวันพระไม่ได้เสด็จออก กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูรประชวรครั่นพระองค์เหมือนจะเป็นไข้ แล้วพระนาภีร่วงไป เวลาบ่ายเสด็จลงไปเยี่ยมประชวรที่ตำหนักของท่าน แล้วเสด็จขึ้น

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ