(ยานี ๑๑)

ปางนั้นหน่อสุริยวงศ์ ทุกข์แน่นองค์ไม่เกษมศานติ์
ปวดหัวสากลัวมาร นึกวันคารเป็นอาจิณ
ความทุกข์อยู่เต็มอก ซื้อห่อหมกมานั่งกิน
ยอลูกว่ามีกลิ่น พระภูมินเก็บเยาะเมีย
ความยากนั้นกลุ้มโครง แต่ความโกงนั้นไม่เสีย
แลตาหน้าลิ่มเหลี่ย อาจใคร่ได้ซึ่งลูกเขย
โอ้เจ้าคันธมาลา เจ้าอย่าว่าพี่นักเลย
ใช่ชั่วเจ้าทรามเชย มันคนดีมีศิลป์ศร
พูดพูดจนหลับไหล อยู่ที่ในแท่นบรรจถรณ์
หยุดหน่อยค่อยกล่าวกลอน พระภูธรบันทมนาน
กล่าวถึงท้าวพันตา ร้อนกายาคือเพลิงกาฬ
ทรงพระกายไม่ได้นาน จึงเล็งญาณในสุธา
ท้าวส่องตาทิพย์ดู ท้าวจึงรู้ในปัญญา
แลเห็นนางชาวฟ้า ลงมาเกิดพื้นดินดาน
นามกรเจ้าวันพุธ คู่พระนุชเจ้าวันคาร
ทีนี้ไอ้กรุงมาร จักปองผลาญชิงฉายา
จำจักไปช่วยเจ้า นางสร้อยเศร้าอยู่นักหนา
จึงเรียกเพษณุมา ว่าท่านจงเร่งลงไป
ช่วยบอกนางวันพุธ นางนั้นบุตรของเราไส
นางม้วยมรณาลัย จุติในมนุสสา
ส่งให้ถึงวันคาร ตัวของท่านกลายรูปา
เป็นหญิงงามโสภา ออกอาษาต่อรบมาร
จึงพระเพษณูกรรม์ บังคมคัลแล้วก้มคลาน
ออกจากรัตนพิมาน แล้วจึงเหาะลอยลงมา
ศักดาวราฤทธิ์ แล้วนิรมิตกลายรูปา
เป็นรูปเทพยดา งามนักหนาเหมือนนารี
อ่านพระเวทย์เปิดตูปรางค์ เข้าห้องนางถึงแท่นศรี
ปลอบปลุกนางเทวี เชิญนารียกขึ้นก่อน
งามชื่นตื่นแปรผัน เห็นนางสวรรค์รูปบวร
ตกประหม่าให้อาวรณ์ จากแท่นนอนเลื่อนลงมา
ใจนึกว่าอสูรแสง มันแปลงรูปเข้ามาหา
พระกายสั่นแต่บัญชา ถามว่ามาแต่แห่งใด
ชื่อชามนามกรพี่ อยู่ธานีบุรีไหน
พี่เจ้าเล่าน้องไป ธุระอะไรจู่เข้ามา
พี่ชื่อนางสนูกรรม์ เจ้าเอววัลย์อย่าสงกา
เทพเจ้าคิดปรึกษา กลัวฉายาสะดุ้งใจ
ฉันบ่าวเจ้าวันคาร แจ้งอาการเถิดหน้าใย
เขาพาเข้ามาไส พี่ลองใจดอกน้องอา
ให้อยู่ด้วยงามสรรพ แล้วข้าจะกลับไปภารา
จะให้พี่รบยักษา แล้วให้พาเจ้างามไป
พูดกันจนรุ่งราง แสงทองสว่างกระจ่างใส
วันพุธนุชครรไล ไปทูลท้าวเล่ากิจจา
บอกว่าเจ้าวันคาร ให้ทหารผู้หญิงมา
ปิ่นเกล้าท้าวปัญจา เรียกออกมาแล้วถามไถ่
จริงเหมือนเล่าแก่นาง หัวเราะพลางทางดีใจ
เทวาจึงเล่าไป ในเรื่องราวท้าวยักษา
เล่าว่าขุนอสุรี มีเศียรสี่แปดหัตถา
มารนั้นมีฤทธา ไปชั้นฟ้ามิขาดวัน
ไปเฝ้าพระอิศวร นางฟ้าชวนจับกับมัน
เล่นเล่นจนโกรธกัน นางสวรรค์มันไล่ตี
พระอิศวรร้องทักมา ไอ้ยักษาแพ้สตรี
อายุสิบห้าปี ตั้งแต่นั้นถูกสาปมา
ครั้นจะฆ่าขุนมารร้าย กับผู้ชายไม่สังขาร์
ตายหนึ่งเป็นโกฏิฐา จงจักราทราบพระทัย
ข้าขอออกต่อยุทธ เอาวันพุธเป็นเพื่อนไป
จะฆ่ามารอันชาญชัย ให้บรรลัยด้วยฤทธา
ผัวเมียหัวเราะพลาง เหม่ชะนางน้ำใจกล้า
ชื่นชมภิรมยา แล้วออกมาหน้าเกยชัย
ตรัสสั่งขุนเสนา แต่งโยธาให้พร้อมไป
ส่วนว่านายหมื่นไว เที่ยวจัดแจงแต่งโยธา
นายรถแต่งรถทรง แต่งกุญชรงค์อันตัวกล้า
รี้พลสุดคณนา แน่นเต็มหน้าพระลานชัย
เสนามาทูลท้าว พระปิ่นเกล้าเข้าห้องใน
ปลอบนุชสุดอาลัย ไวแต่งองค์ทรงภูษา
ส่วนนางวิษณูกรรม์ ว่าเร็วพลันเถิดน้องอา
กลัวอะไรแก่ยักษา พี่มิให้ได้อาวรณ์
พิรุธในกลางณรงค์ จะอุ้มอนงค์เหาะผันผ่อน
มิให้มิ่งสมร สวาทน้องต้องมือมาร
นางฟังขึ้นแต่งองค์ ทรงเครื่องต้นสร้อยสังวาลย์
จะร่ำว่าช้านิทาน แต่บุราณกษัตรา
แต่งเป็นผู้ชายฉิ้ม งามพราวพริ้มดังเทวา
ต่างองค์แต่งกายา แล้วออกมาหน้าเกยชัย
ส่วนนางเวษณูกรรม์ เห็นรถนั่นไม่ชอบใจ
ทำฤทธิ์ต่อหน้าไท ให้เห็นฤทธิ์สิทธิ์ศักดา
อ่านพระเวทมิทันหมด บัดเดี๋ยวรถล่องลอยมา
สารถีขับรถา มีทั้งม้าแก้วมณี
ล่องมาตรงหน้าบาท ประชาราษฎร์ดูก้องมี่
ชาวเมืองพูดจู้จี้ เห็นทีจะชนะมาร
ว่าแล้วทั้งสององค์ ขึ้นรถทรงไม่ได้นาน
ดังองค์พระอวตาร กับพระลักษณ์อนุชา
แล้วเลื่อนรถอมเรศ งามวิเศษสะอาดตา
ครั้นจะชมราชรถา รถไหนมาเทียมรถสวรรค์
แล้วเลื่อนพลโยธา พลคชาไปเป็นหลั่น
พลช้างข้างเคียงกัน ถัดแต่นั้นพลหอกทวน
พลปืนเป็นแถวมา พลดาบหน้าเป็นกระบวน
เกาทัณฑ์เสโลทวน ตามกระบวนยืดย้ายมา
ถัดนั้นรถปิ่นเกล้า ของท่านท้าวกรุงปัญจา
ต่อนั้นรถฉายา งามกว่ารถของท้าวไท
ออกจากกรุงภารา พลโยธาสะท้านไหว
จากเมืองเข้าป่าใหญ่ ถึงแนวไพรอื้ออึงมา
ยังมีนายคีรีนันท์ ตัวของมันเป็นพรานป่า
รักษางูบองหลา ใช้ให้หาแต่มฤคี
อันตัวคีรีนันท์ เพื่อนคงกระพันทั้งกล้าดี
ใครจะฟันกับกระบี่ ผิดทุกทีไม่มีกิน
เสือสางและช้างงา มารยักษามันกลัวสิ้น
เพื่อนเที่ยวเร่หากิน พบฤษีมีวิชา
ได้ยินเสียงพลไกร ยกงูใหญ่ขึ้นพาดบ่า
ซาบมองย่องออกมา เห็นเจ้าฟ้าทรงรถชัย
เข้าขอขันอาษา องค์เจ้าฟ้าก็ดีใจ
เป็นทหารนำพลไกร ถึงภูมิชัยที่รบรา
ส่วนข้างอำมาตย์มาร ได้ยินสะท้านดูเต็มตา
เห็นมนุษย์ยกโยธา เป็นกระบวนรบหลบทูลนาย
ทูลว่ามนุสสา ยกโยธามามากมาย
ไม่ใช่จะมาไหว้ มามุ่งหมายจะชิงชัย
สี่เศียรฟังวาที เรียกมารกระบี่มาปราศรัย
ลูกเอยเจ้าจงไป ดูแยบคายร้ายหรือดี
มารกระบี่ชุลีลา แปลงกายาเป็นแมงบี้
บินไปไวทันที มาถึงที่พลโยธา
เกาะงอนรถโฉมฉาย คนทั้งหลายไม่สงกา
ชมนุชสุดเสน่หา ดังหยาดฟ้าวิมานเมือง
ยิ่งแลยิ่งไหลหลง งามทั้งองค์ดูงงเงื่อง
สององค์นั่งทรงเครื่อง ชะงามจริงหญิงหรือชาย
ดูไปถึงสองที สององค์นี้หาเห็นไม่
หอมประทินซึ่งกลิ่นไอ ดูเป็นชายหน้าสตรี
อย่าเลยจะโจมจับ จะกลับเปล่าไปใยมี
จะถวายท้าวยักษี ให้อสุรียอฤทธา
จึงกลายจากแมงบี้ เป็นอสุรีใหญ่มหึมา
ปากว้ำราวถ้ำลา ยุดรถาจับสองนาง
ส่วนว่ารูปเนรมิต จับศรสิทธิ์ยืนกั้นขวาง
ตีตรงลงดังผาง มารล้มคว้างลงบัดใจ
พวกพลที่ยกมา เห็นยักษาต่างวุ่นไขว่
เครื่องมือเอาไปไหน ดันเข้ารกถกคอแล
ปากบ่นตีนวิ่งไป กูขวยใจแต่นายแก
ลูกกูไม่ให้แช ส่งให้มันพากันไป
นายเราท้าวดิดลึ่ง ลูกคนหนึ่งเอาไปไหน
ไอ้ยักษ์มันทำไขว่ กูน้อยใจใคร่ด่านาย
กูแล่นตีนออกเลือด เดือดเหลือเดือดไม่รู้หาย
อึงมี่หนีทิ้งนาย สิ้นพลไพร่ท้าวปัญจา
ยังแต่คีรินันท์ ถือสำคัญงูบองหลา
ยืนแอบราชรถา เห็นมาราสลบลง
กระบี่มารเพื่อนฟื้นกาย เมลินเนตร๑๐ได้ให้พิศวง
กูเอยมาคิดทะนง เจ้าสององค์มีฤทธา
สู้ไปคงจะวอดวาย แล้วผุดได้เหาะหนีมา
ข้าพเจ้าเฝ้าจับลอง มันตีต้องด้วยศรศรี
เข้าเฝ้าท้าวยักษา กลับทูลว่ามาไพรี
ข้าพเจ้าเฝ้าจับลอง มันตีต้องด้วยศรศรี
สลบพับลงกับที่ ฟื้นชีวีจึงหนีมา
สององค์ทรงศิลปศร งามบวรยิ่งนักหนา
หอมทิ่นกลิ่นโอชา พิศดูหน้าเป็นนารี
จะดูกายเป็นชายชาติ แต่เลาลาดเป็นสตรี
งามละอองทั้งสองศรี ดูท่วงทีพี่น้องกัน
กรุงมารฟังสนอง ผุดจับบองเข้าด้วยพลัน
ว่าเว้ยไปจับมัน ว่าแล้วผันขึ้นรถชัย
รถเอยรถของยักษ์ รวดเร็วนักรีบรัดไป
กองหน้าถึงรถชัย ดูเห็นไปสองรถา
โยธาหามีไม่ มีทนายหนึ่งเดินหน้า
เพื่อนถืองูบองหลา มารเสนาร้องถามไป
ถามว่าเว้ยนายงู มาจะสู้เราหรือไร
หรือถวายนางทรามวัย หรือชิงชัยเร่งบอกมา
ส่วนว่านายคิรินันท์ มิได้พรั่นแก่ยักษา
ขานตอบแก่มารา สูจะมาถามเราใย
กูไม่ใช่ลูกทาส มึงอย่าอาจนักยักษ์ไห
อันองค์พระทรงชัย ใช่ลูกข้าตายายเต่า
จะเตือนให้ส่งนาง อย่าท่าทางนักพรือเหลา๑๑
นายกูใช่ใจเบา นายเองเม่า๑๒ติดตามเมีย
ขอลูกเขาไม่ให้ ยกพลไพร่ไปฆ่าเสีย
ขี้ร้ายไอ้หน้าเหมีย๑๓ ไปลาเมียของมึงมา
ยักษ์ว่าไอ้ขี้ร้าย เถียงแทนนายปากคอกล้า
ชาติไพร่อ้ายขี้ข้า ว่าเสือกหน้าถึงนายกู
วันนี้ทั้งนายไพร่ สูจะตายยังไม่รู้
ตัวน้อยต้อยเท่าหนู หาญมาสู้กับกุมภรรณ
กูนุ้ย๑๔มึงสู้ยาก หน้ายักษ์กากแต่ปนนั่น๑๕
พาเมียมึงมากัน รบสักวันลองกับกู
ยักษ์เอยมึงไตรใคร๑๖ เดี๋ยวตกใจกูปล่อยงู
ชนิดไพร่ไอ้พวกสู แต่กับงูวิ่งไม่ทัน
พวกพลของยักษี เขาล้อมตีนายคิรินันท์
ลางตีลางบางรัน ลางบางฟันด้วยดาบยาว
ยักษ์ตีนายคิรีจับ ต่อรบรับกันโฉ่ฉาว
รุมกันบองสั้นยาว เข้าอาจอุกรุกไปมา
โซเซอ้ายเทเพน เหมือนลิงเสน๑๗เข้าฝูงหมา
คีริจับเอานาคา ตีมาราวินาศไป
ตีซ้ายย้ายตีขวา พลยักษาม้วยบรรลัย
เพื่อนปล่อยให้งูใหญ่ ถกหลักซื่อเจาะดือมาร
งูร้ายขบตายครัน นอนทับกันดับดินดาน
ไอ้ที่มิวายปราณ วิ่งพาตัวกลัวนาคา
พลมารหนีสิ้นแล้ว ใกล้รถแก้วท้าวยักษา
สี่เศียรอสุรา กับกระบี่มารชาญไพรี
ขับรถเข้าใกล้นาฎ แล้วร้องตวาดเสียงอึงมี่
ปัญจาคนใดมี ลูกสาวศรีมิพามา
ขับรถเข้าตรงกลาง หอมกลิ่นนางจับนาสา
พิศดูเจ้าสองรา ประหลาดจริงหญิงหรือชาย
ครั้นกูไม่พิจารณา เหมือนแกล้งฆ่านางโฉมฉาย
มีความถามต้นปลาย เจ้าสองชายชื่อใดหนา
วันพุธสุดสวาทน้อง วาจาพร้องตอบมารา
ท่านจะถามนามชื่อข้า แล้วจะพาไปเล่าใคร
ตัวท่านนั้นมาเอง ยังทำเพลงแกล้งถามไถ่
จะถามชื่อข้าไปไหน ข้าจะบอกทำไมมี
อสุรังฟังมิ่งมิตร เพราะจับจิตของยักษี
เสียงหวานขานวาที เป็นสตรีแม่นนักหนา
แต่งกายเป็นชายแท้ รูปงามแง่ทั่วลักขณา
วันพุธคนไหนหนา ดูหน้าตาพิมพ์เดียวกัน
ยิ่งแลยิ่งหลงไหล ลืมสติไปด้วยนางสวรรค์
เทียบรถเข้าถึงกัน ย่างขึ้นพลันรถนารี
เคลื่อนกายขึ้นใกล้แก้ว เหมือนตายแล้วขุนยักษี
ปลื้มใจในอุรี ดูไม่มีจะพริบตา
นางฟ้าซิบบอกนาง เจ้าอย่าวางพระขรรคา
ได้ทีบั่นเกศา ฟังพี่ว่าอย่าเชื่อมัน
ตัวพี่บั่นไม่ได้ ฆ่ามารร้ายไม่อาสัญ
ตายแล้วเป็นหมื่นพัน แม่ดวงจันทร์อย่าสงกา
อสุราขึ้นรถนาง ตาชมพลางถดเข้ามา
ดูนางมิวางตา ท้าวยักษาเงื่องงงไป
พอถนัดนางฟันลง ด้วยขรรค์ทรงของทรามวัย
เศียรขาดตกลงไป จากรถทองของกัลยา
ส่วนว่ากระบี่วงศ์ จับศรทรงของยักษา
ฉวยตะบองของมารา วิ่งเหยียบหน้ารถของนาง
ตะบองตีมิละลด ต้องราชรถดังโผงผาง
วิศณุสู้กั้นกาง กลัวจะต้องนางนาฏฉายา
ได้ทีเทพตีต้อง ด้วยพระแสงทองถอยออกมา
หงายพักตร์ยักษ์ใจกล้า วิ่งเหยียบหน้าราชรถชัย
วันพุธนุชนงนาฎ เอาศรฟาดตกลงไป
ยักษีสู้ไม่ไหว ถอยออกไปทำฤทธา
นิมิตรเป็นคชสาร งายาวน่าน๑๘เสยถึงฟ้า
สูงล้นพ้นบรรพตา สูงยิ่งกว่ายุคนธร
แปร๋นเสียงเพียงฟ้าลั่น ดังอัศกรรณจะเร้อ๑๙ถอน
แผดร้องก้องดินดอน หมายจะแทงรถเจ้าสองรา
ปัญจาสั่นทดทด๒๐ วิ่งทุ่มรถของเองมา
ขึ้นรถของลูกยา ปากถามว่าสู้หรือหนี
วันพุธทูลภูธร ลูกจะแผลงศรดูสักที
แล้วทูลเหนือเกศี นางเทวีอธิษฐาน
เดชะเจ้าศักดิ์สิทธิ์ อันเรืองฤทธิ์ศักดาหาญ
ทั้งบุญนายวันคาร พระคุณท่านล้ำโลกา
ข้าจะแปลงศรสิทธิ์ ให้ตัดจิตจอมคชา
ชุลีทุกเทวา ขึ้นศรสาแล้วแปลงไป
ศรสิทธิ์ฤทธิ์แกล้วกล้า มีดดินฟ้าสุราลัย
ปักอุราคชาไกร ช้างหายไปเป็นมารมา
กระบี่วงศ์คิดจะเข้าสู้ แก้มือดูแลสักครา
ผาดโผนโจนเข้ามา เหยียบรถาจะตีนาง
ปัญจาท้าววิ่งหลบ ยักหงาปทบรถดังผาง
เวศณูสู้กั้นกาง แล้ววิ่งวางจับมารา
ชิงตะบองของยักษ์ได้ มารนั่งไหว้กลัวบุญญา
รับแพ้ถวายภารา ขอเป็นข้าอาษาไป
สามกษัตริย์คิดตกลง ให้กระบี่วงศ์กลับเวียงชัย
เอ็งไปอยู่กรุงไกร แทนองค์ไทท้าวยักษา
เกิดศึกในนคร จะใช้ศรให้ไปหา
กระบี่รับคำสองรา บังคมลาแล้วเหาะไป
ถึงเมืองเล่าถ้วนถี่ จันทกิณีก็ร่ำไร
ให้กระบี่มีฤทธิไกร ครองเวียงชัยแทนมารา
ฝ่ายนางจันทกิณี ผู้มเหษีท้าวยักษา
รู้ว่าพระภัศดา ม้วยมรณาในไพรเขียว
ว่าโอ้พระผ่านฟ้า ทิ้งน้องยาไว้คนเดียว
เมียนี้ไม่มีที่จะเหลียว เปลี่ยวพระทัยให้โหยหา
ลูกชายยังน้อยไส ให้แทนไทพระบิดา
ปกป้องครองนครา ในมหาเมืองตาวัน
กล่าวถึงนางเทเวศ อันเรืองเดชเวศนุกรรม์
เห็นยักษ์กลับนครัน ทั้งพลขันธ์คลายหัวใจ
คีรีแบกไอ้งูยาว ตามส่งท้าวถึงเวียงชัย
ปัญจาท้าวจอมไตร ถึงวังในเทียบรถทรง
ท้าวขึ้นปรางค์ปราสาท ด้วยสองนาฏนิ่มนวลหงษ์
ท้าวสระชำระองค์ แล้วขึ้นทรงแท่นมณี
โฉมนางคันธมาลา เห็นผัวมาก็ยินดี
มาเฝ้าท้าวสวามี แจ้งเหมือนที่ราวีกัน
ครั้นจะเล่าเป็นซ้ำความ สนธยายามค่ำลงพลัน
ท้าวเสด็จเข้าปรางค์จันทน์ ด้วยนางคันธมาลา
เวศณุกรรม์กับวันพุธ สองพระนุชเข้าห้องปรา
บรรทมภิรมยา นางเหนื่อยมาหลับลืมไป
อรุณรุ่งเรืองโรจน์ แสงช่วงโชติจักรวาลัย
ต่างตื่นจากบรรทมใน ชำระพักตร์แล้วขึ้นปรางปรา
ปัญจาท้าวออกนั่ง ยังท้องพระโรงรจนา
ข้าเฝ้าต่างเข้ามา พระราชาโกรธคือไฟ
ชาติชั่วกลัวมารร้าย วิ่งทิ้งนายคิดอย่างใด
เกลี้ยงดีไม่มีใคร กูขอบใจคีรีนันท์
ชาติไพร่ไอ้พวกบ้า ชอบกูจะฆ่าสี่ห้าพัน
แรกไปกลัวไหรมัน เห็นหมู่ยักษ์กลัวจักตาย
แล่นวิ่งทิ้งนายเสีย สากลัวเมียจะเป็นไหม้
สองนางเห็นวุ่นวาย ทูลห้ามท้าวขอโทษภัย
เอองดแลนางขอ คนอื่นพ่อไม่ลงใจ
สี่กษัตริย์กล่าวปราศรัย นึกถึงบุญคุณวันคาร
ปางองค์พระทรงภพ สิ้นศึกรบไพรีมาร
จะให้นางแก่วันคาร จึงคิดอ่านแต่งหีบกล
เหล็กตีเป็นหีบใหญ่ พออยู่ในได้สองคน
ช่างเหล็กมือแยบยล รุมกันทำเป็นการไว
ช่างกลุ้มรุมกันทำ เช้ายังค่ำแค่สอบไส่
ประแจกลไว้ข้างใน ใครเปิดได้หาไม่มี
แล้วพาเข้ามาถวาย ชอบใจไท้พระจักรี
แล้วให้นางมเหษี สอนบุตรีอรธิดา
นางคันธมาลานาฏ จรลีลาศเข้าห้องปรา
ขึ้นสู่แท่นรัตนา อุ้มลูกยาแล้วร่ำไร
โอ้ว่าดวงเนตรแม่ แต่นี้แหละจะจากไกล
โอ้โอ้เจ้าดวงใจ ไปไกลแม่มิเห็นกัน
โอ้โอ้จินดาดวง หวงเหลือหวงแต่กรรมทัน
ฟังแม่อย่าโศกศัลย์ สั่งสอนกันจำใส่ใจ
มีผัวคือหัวแหวน ชายดูแคลนได้ที่ไหน
ไม่มีคู่ร่วมใจ เหมือนต้นไม้ชายทางเดิน
ใครนั่งใต้ต้นไทร สับฟันไปเล่นเพลินๆ
มีหนามคนคร้ามเกิน แต่จะเดินก็อ้อมไกล
มีผัวอยู่กับกาย จึงผู้ชายไม่ไยไพ
แม่ทุกข์แต่หูกใน ฝ่ายทิ่มตำไม่ทำเลย
ทั้งนั้นผัวไม่โกรธ แม่ไม่โทษเจ้าไม่เคย
โฉมงามแม่ทรามเชย ไม่ห่อนเลยจะหยิบทำ
แม่สอนจงจำหมาย อย่านอนสายเจ้างามขำ
ยามนอนอตสาหยำ คลำบีบบาทให้ภัศดา
เจ้าไม่เคยได้ผัว แม่สากลัวพ้นปัญญา
ผัวโกรธผัวเจ้าด่า นั่งน้ำตาราวงวงตาล
ผัวโกรธอย่าโกรธกัน๒๑ จงอดกลั้นเถิดนงคราญ
อย่าทำหริตหญิงพาล ลงกลางบ้านร้องด่าผัว
ทำกรรมอย่าทำเวร อย่าทำเณรรู้กว่าขรัว
เพื่อนบ้านเขาจะหัว ว่านะผัวเหมือนแรตไฟ
เนื้อเย็นยังเป็นสาว เพื่อนคราวๆยังไม่ไขว่
เพราะพ่อเจ้าดวงใจ น้ำลายไหลอยากลูกเขย
ปัญจาห้ามเมียรัก ยังสอนนักเทียวหรือเหวย
อย่าสอนให้มากเลย นั่งเอ่ยเอื้อนเหมือนทำเพลง
แต่งองค์เถิดโฉมตรู นางไม่รู้สอนใจเอง
สนมนางต่างครื้นเครง ร้องไห้รักอัคยุพิน
กล่าวใยความโศรกเศร้า ทั่วแดนด้าวรักกันสิ้น
ผู้ฟังจะติฉิน ว่าชิหนอพ่อสำนวน
ท้าวให้นางสองคน ลงบัดดลในหีบกระบวน
เงินทองของค่าควร ส่งให้นวลพาติดไป
ฝูงคนไม่ให้รู้ นางโฉมตรูเข้าหีบใหญ่
ลั่นแจไว้ข้างใน เรียกหมื่นไวเอาวอมา
จึงยกใส่วอทอง ธิษฐานต้องตามปรารถนา
ผู้ใดเอามีดพร้า มาสับฟันอย่าหวั่นไหว
เสนากราบลาไทย หามหีบใหญ่ถือหวายหน้า
เดินทางมากลางทะลา ฝูงเสนาดูเต็มไป
ที่รู้ว่ามิ่งสมร นั่งให้พรแก่นางไท
ที่ไม่รู้ว่าไอ้ไหร โน้นผีใครเขาหามมา
พวกตำรวจจับไพล่ศอก ถองขี้ออกหะน้ำฉา๒๒
ส่งให้ศรีรักษา๒๓ ใส่หราง๒๔ไว้ไอ้ปากดี
หามหีบถึงชายคลอง คนทั้งผองมาอึงมี่
ใส่เรือลงทันที พายเร็วรี่ถึงกำปั่น
ร้องเรียกนายนาวา เพื่อนคอยมาดูด้วยพลัน
เครื่องประทานยื่นให้กัน แล้วรุม๒๕ยกเอาหีบใหญ่
ขึ้นตั้งบนนาวา แล้วสนทนาเปรยปราศรัย
หีบนี้ท่านฝากไป กุมารไทเจ้าวันคาร
ฝากฝังแล้วมิช้า ลงนาวามาสู่บ้าน
รีบดึ่งถึงมินาน จอดเรือแล้วกรากเข้าไป
ขึ้นวังบังคมบาท ปัญจาราชชื่นพระทัย
ทูลเล่าเรื่องราวไป เจ้าสุริไอยภิรมยา
ส่วนว่านายเรือใหญ่ เพื่อนดีใจทุกทีมา
วันนั้นสิ้นสินค้า ลมพัดกล้าเพื่อนใช้ใบ
ถึงทะเลเวลาเช้า แล่นลมว่าวไปไรไร
โลมาปลาเพียนใหญ่ ตีน้ำฟุ้งเทียมปลายตาล
ลาวจีนบอกกันแซ่ หวาชอบแลกับปลาวาฬ
ชมปลาช้านิทาน สามวันวารถึงภารา
ทอดสมอนอกทะเลใหญ่ พูดกันไปตามภาษา
หีบนี้เขาฝากมา อะไรหนาอยู่ข้างใน
นายสะเภาเข้าเปิดดู ลิ้นมันอยู่ที่ตรงไหน
เปิดบอบเที่ยวรอบไป ช่างเรียด๒๖กระไรเขาทำมา
คนหนึ่งเพื่อนคิดออก เอาสิ่วตอกออกดีกว่า
เจาะลงมิได้ช้า เหล็กกล้ากินสิ่วสิ้นไป
ฉวยเสียมบ้างฉวยขวาน เข้าสังหารเอาหีบใหญ่
เหล็กสะกัดทั้งบุ้งไบ หีบใหญ่กินสิ้นเครื่องมือ
คนหนึ่งได้ขวานปลี ถุ้ง๒๗สักทีก่อนเถิดหรือ
ตั้งใจทุ้งสองมือ เหล็กกล้ากินจนสิ้นไป
ยังกุมแต่ปลายปลี ค่านิ้วชี้มิสาไหร
ต่างคนต่างจนใจ เหนื่อยเหงื่อไหลไม่เป็นการ
นายสะเภาว่าเราอา สิ้นมีดพร้าทั้งสิ่วขวาน
จนจิตเราคิดอ่าน ราวพระกาฬอยู่ข้างใน
พูดพลางเจ๊กหัวร่า ติ้วหน้าหม่าไม่สาไหร
ถึงจะให้วันคารไป ออกเมื่อใดเปล่าเหมือนกัน
ไหนไหนของประจง เอาไปส่งให้แก่มัน
ช้าใยพาไปพลัน คิดพร้อมกันลงเรือมา
จอดเรือแล้วขนของ ทั้งเงินทองและเสื้อผ้า
ข้าเฝ้าโฉ่ฉาวมา ลงนาวาขนของไป
วันคารกุมารรู้ ลงมาสู่นาวาใหญ่
กล่าวพร้องร้องถามไป นูฉันไสแลกอะไรมา
นายสะเภาฟังเยาวยอด สุนทรพลอดว่าน้องอา
พี่นี้ได้หีบมา มิรู้ว่าสิ่งใดใน
มาเอาเถิดเยาวยอด รอดไม่รอด๒๘ก็ตามใจ
วันคารเจ้าลงไป ยกหีบใหญ่ขึ้นใส่บ่า
เทพเจ้าเบาหีบให้ ขึ้นดอนได้แบกหีบมา
นายสะเภายอวาสนา ว่ากระไรนี่ที่เรี่ยวแรง
วันคารได้หีบใหญ่ แบกเดินไปด้วยกล้าแข็ง
แบกเล่นราวนายแรง แข็งนักหนาพาโอเอ
ถึงทับ๒๙ปลงลงไว้ นอนพิงไม้แลเอเต
ใต้ต้นไม้สาเก ต้องแดดนายหาไม่มี
คิดจะเปิดดูข้างใน เปิดตรงไหนไม่รู้ที่
รอยดานหาไม่มี ช่างเรียดดีเหมือนเนื้อเดียว
วิ่งเข้าไปในทับ จับเอาพร้ามาบัดเดียว
ทำกระไรเรียดจริงเจียว เอาพร้าฟันลิ้นหีบใหญ่
ทุ้งเข้าเสียงดังปับ เหล็กเป็น๓๐รับกินค่อนไป
ต่อยด้ามเอากั่นไช เหล็กด้ามพร้าเป็นสิ้นกัน
แล่นกลับไปบอกตา พ่อข้ามาดูหีบฉัน
ฝากธนูไปวันนั้น ของสำคัญแลกได้มา
หีบนั้นเปิดไม่ออก หีบเปล่าหลอกกระมังหนา
มันหนักสุดปัญญา ไม่รู้ว่าสิ่งใดใน
ตาไสฟังลูกบอก ขวานเฉียงออกกลัวอะไร
กุบกับ๓๑จับขวานใหญ่ ราคาบาทแบกนาด๓๒มา
ถึงหีบพิจารณาไป เฉียง๓๓ตรงไหนทีละหา๓๔
ว่าแล้วก็ตั้งท่า เฉียงกลางตรงลงดังป็อง๓๕
หีบกินขวานสิ้นไป ยืนเสียใจกุมด้ามจ้ง๓๖
ผิดแล้วแยะนั่งท็อง๓๗ กูมันล็อง๓๘สรรพราสา๓๙
พ่อลูกถูกคนที นั่งหยู้หยี้๔๐ยี่หน่วยตา๔๑
เจ้ากรรมจริงฟ้าผ่า ด้ามขวานถา๔๒เม้น๔๓ถึงโคน
เพราะตามไอ้วันคาร ไม่คิดอ่านเอาขวานโลน๔๔
จนแล้วจนถึงโคน ด่าพี่สาวเจ้าหีบใหญ่
ยิ่งสั้นมันยิ่งคด พร้าขวานหมดหดเข้าไป
คิดจะเอาของข้างใน ไอ้ข้างนอกปอกด้ามปล่อย
ยิ่งค้ายิ่งขาดทุน ขาดในหุ้นอยู่บ่อยๆ
เครื่องใช้ยังนิดหน่อย ย่อยด้วยกูถูปะเม๔๕
เสียดายขวานถาใหญ่ สูญเปล่าไปไม่สมคะเน
พิงไว้โคนสาเก นั่งแลควายพอได้การ
เข้าทับเล่ายายประสา หร่อย๔๖นักหนาหีบกินขวาน
ยายนั่งฟังอาการ ใจเดือดดาลโทษเอาตา
เฒ่าแล้วยังทำเด็ก ขวานเฉียงเหล็กไม่ประสา
ครั้นเรานั่งบ่นว่า หน้าเหมือนลิงต้องน้ำฝน
ขันตะกั่วตักตะกั่ว๔๗ เฒ่าฉากหัว๔๘โม่๔๙เกินคน
เคอะ๕๐แล้วมัทกะ๕๑ปน ลึ่ง๕๒เข้ากันสมเป็นล็อน๕๓
ตาว่าชะแม่ยาย ฟันหาไม่แล้วยังด้น๕๔
คนอื่นกลัวเหมือนอ้น ได้แต่ด้น๕๕ข่มเหง๕๖เรา
อย่าด่าให้ปากเมลือก๕๗ คลำแลเหงือกมั่งปรือเหลา๕๘
ยายเหออย่าด่าเรา บาปไม่เบาเทพนิมนต์๕๙
ยายว่าเฒ่าจังไหร เทพดาไหนแค่สัปดน
เทพเจ้าเล่าชอบกล มนต์มาเบียนขวานเหี้ยนกู
ตาว่าแม้ชิหนอ ของไม่พอจะหนักหู๖๐
แรกเราได้ก้บสู กูไปไหว้ลุงให้ขวาน
ตัดหัว๖๑เฒ่าตายโหง ซื้อดานโลงแล้วยังพาล
เงินบาทค่าขายสาร ลงทุนซื้อไม่ใช่หรือ
กูแพ้แล้วแม่ยาย ลืมใจหายจะทำปรือ
มนต์เท่าเถิด๖๒อย่าดื้อ ค่อยซื้อใช้สี่ห้าขวาน
ยายตาด่ากันอึง กล่าวไปถึงเจ้าวันคาร
ค่ำเช้าเป็นนิจกาล นอนแลควาย๖๓บนหีบใหญ่
ยามค่ำเข้าหนำร้าย๖๔ นอนกับยายสบายใจ
วันคารสุดแก้ไข เปิดหีบใหญ่ไม่เคลื่อนคลาย
ขวัญข้าวเจ้างามครบ ธำรงชบ๖๕เป็นของถวาย
ไก่ขันมาไจ้ไจ้ ย่องตั้งไว้หลังหีบใหญ่
มรับ๖๖ทองของคาวหวาน เต็มทุกจานหอมวิไล๖๗
เจ้าตั้งแล้วฉับไว เข้าหีบใหญ่ใส่แจกล๖๘

(ราบหรือสุรางคนางค์ ๒๘)

รุ่งแจ้งแสงฉาน  
ทรงธรรม์วันคาร ตื่นขึ้นก่อนคน
ล้างหน้ากินหมาก ตามยากตามจน
จากหนำของตน ไปยังหีบใหญ่
มาถึงทันที  
เห็นของสองที่ ไอ้นี่ของใคร
โตกเงินโตกทอง เจ้าของไปไหน
มาเหวยเอาไป ข้าจะนอนแลควาย
ยิ่งเรียกยิ่งเหียบ๖๙  
ยิ่งเรียกยิ่งเพรียบ๗๐ เจ้าของหาไม่
ชอบกลนักหนา แลขวาแลซ้าย
เห็นคนเงียบหาย ขึ้นได้เปิดดู
หยิบจานฝอยทอง  
กินแล๗๑ชิมลอง ไอ้นี้หร่อยอยู่
ตานั่งในหนำ ร้องเรียกฉาวฉู่๗๒
ว่าเหวยเจ้าหนู มากินข้าวปลา
เรียกช้าเรียกนาน  
เรียกเรียกไม่ขาน คลานคอยช่องฝา
ออโน๗๓วันคาร พ่อจานลูกหวา๗๔
ใครให้นุ้ยหา๗๕ ไม่ถ้า๗๖พ่อกัน
ลงจากหนำไว  
ขึ้นบนหีบใหญ่ ชะใครให้มัน
วันคารฟังพ่อ หัวร่อพูดกัน
ตาว่าหัวมัน๗๗ ของใครตามใจ
ลูกว่าลางที  
เขาถวายเจ้าที่๗๘ ตาว่าช่างใจ
ไม่ใช่ที่ตั้ง มาตั้งไว้ไตร๗๙
ของใครตามใจ ถดมาลูกบ่าว

(ยานี ๑๑)

ส่วนว่าท่านตาไส หยับเข้าใกล้โตกของคาว
มือร่าคว้าถ้วยข้าว ซาวแกงหมูดูอรักหร่อย
เปิบรุกจุกเข้าไป ได้ดังใจไอ้นั่นปล่อย
บอกลูกว่ามันหร่อย จุกเหนียวพลอยตามน้ำแกง
ลูกเห็ดเกล็ดกับเหงือก เคี้ยวเป็นเปือกบอกมันแข็ง
หมูขั้วอั้วหอยแครง ไม่แข็งแรงเหมือนทอดมัน
ผันบอกแก่ลูกน้อย พ่อมันหร่อยเหมือนขึ้นสวรรค์
ลูกว่าข้าเหมือนกัน หร่อยเฉื่อยเรื่อยเหมือนลูกลม
ของอื่นหาหมดไม่ เฒ่าขยายถดหาขนม
ขัดสมาธิ์พุงตึงกลม เปิดฝาเชอหยิบฝอยทอง
ใส่ปากย้ำกลืนคลก ได้แรงอกอกราวเขาถอง
บอกลูกว่าฝอยทอง แล้วชิมลองสิ้นสองอ่าง
ลอดช่องสองโถยอด ซดดังวอดฟัดโถผาง
เออไอ้นี่หนม๘๐ขี้กวาง ยกถางซดตดขี้ฉา
เครื่องทิพย์ของคาวหวาน กินสิ้นชามเต็มขึ้นมา
ฉวยถูกจานสังขยา จุกขวาซ้ายไม่โอเอ
ร้องบอกแก่ลูกชาย หวานเหมือนจะตายไอ้นุ้ยเหน
นั่งพิงโคนสาเก มือยังหยิบบ่นคัดพุง
จาจาตาเทเพน กินสิ้นเกณฑ์พุงเท่าบุง
บอกลูกว่าเสียดพุง กูปรือฉู้ฉิบหายเหวย
ปากบ่นแต่โพกถด แกงบวชหมดหรือยังเหลย
กูจะกินให้ออกเอย ตายกับกินช่างหัวมัน
ฉวยโถซดดังวอ พ่อเหยพ่อมันหวานครัน
ทั้งหวานและทั้งมัน เจ้าของมันอยู่แค่ไหน
ผันบอกแก่ลูกน้อย พ่อมันหร่อยเหมือนจะขาดใจ
ยกซดเข้าปึงไป แกงบวชไหลหกเต็มพุง
แมงโรมตอมพุงอื้อ แมงวันฮือราวโพรงอุง
ตั้งโถมือคลำพุง ปากเรียกเมีย เหว้อ ! อีสา
มาจูงกูที่ไฮ้ เดินไม่ไหวเนฟ้าผ่า
เอาโนไม่เร่งมา เจ็บในพุงกูหนักเหน
ยายว่าเรียกข้าไตร ธุระไหรโคนสาเก
แม้ชิยังถามเป้ บอกเหลือบอกว่าคัดพุง
ยายออกมาถามไถ่ เอาเติ้นกินไหรพุงเท่าบุง
แลโนยังถามยุ่ง มาแคละพุงกูไปที
ยายพาเข้าหนำไว ถึงห้องในเสียงอึงมี่
แยะนั่งหน้าหยู้หยี้ เอยดังควากแกงบวดฉ่า
ยายว่าเฒ่าจังไร กินแต่ไหนกินเผื่อหมา
กูมันชังแต่น้ำหน้า ครั้นเราว่าเถียงหนักหู
อย่ามาฉาวเฒ่าหัวงม มันหร่อยหนมทำปรือกู
เนกูจะบอกให้รู้ ของใครฉู้กูลักกิน
ยายว่ากินของใคร กูไขวใจฉิบหายสิ้น
ดีนักเที่ยวลักกิน จนดือปลิ้นครางอย่างวัว
วันนั้นสนธยาย่ำ พอพลบค่ำอำชะมัว
ท่านตาครางน่ากลัว ทั้งเมียผัวหลับลืมไป
ไก่ขันนายวันคาร ตื่นคิดอ่านรำพึงใน
แม้ชิชิหนมของใคร กูฉงนใจพ้นปัญญา
ครั้นจะนิ่งเขาว่าโม่ ครั้นฉาวโฉ่เขาว่าบ้า
อย่าเลยตัวกูอา จะซาบมองลองสักวัน
คิดแล้วยกขึ้นไว ย่องออกไปแต่ไก่ขัน
มาเล่าคงปะกัน ให้รู้จักมันสักที
แล้วย่องมองเข้าไป ข้างหีบใหญ่ทับเรียดดี
ขยับย้ายพอได้ที่ พระสุรีย์สร้างขึ้นมา
กล่าวอ้างนางวันพุธ กับเทวบุตรนางชาวฟ้า
ครั้นถึงยามเวลา ที่เคยพาขนมออกไป
นางชบ๘๑มรับเงินทอง มีข้าวของอยู่ข้างใน
หวานมันครบครันไป ใส่แล้วยื่นให้เทวา
นางฟ้าศักดาเดช ของวิเศษรับเอามา
ไขแจไม่พิจารณา ด้วยฉายาถึงคู่กัน
ไขแจพลางปราศรัย พูดอยู่ในสองนักธรรม์
ข้างนอกรู้ด้วยกัน ว่าใครฉู้๘๒อยู่ข้างใน
หีบนี้มีแจลิ้น รู้อยู่สิ้นสมอาลัย
เปิดออกมาเมื่อใด ดันเข้าไปแลสักที
ยืนหมัง๘๓ตั้งท่าดัน พอนางสวรรค์เจ้ายกที่
นางฟ้าเจ้าลาลี เท้าข้างหลังยังอยู่ใน
วันคารกลัวไม่ทัน เอาหัวดันดุนเข้าไป
วันพุธนางตกใจ ชะ๘๔หีบใหญ่ปิดติดพุง
มือร่า๘๕คว้าฉวยนาง แลท่าทางนางหลบยุ่ง
ฉวยผ้าคว้าพบพุง สู้กันฟุ้งปัดกันไป
คว้าติดมือวันพุธ เพื่อนวิ่งผลุดเข้าหีบใหญ่
ฮาย๘๖แม่เอยสว่างใจ กว่าจะถึงในเหงื่อเป็นมัน
เทวาหลุดมานอก คอยซาบ๘๗บอกนางสวรรค์
พี่นี้วิศนุกรรม์ อยู่ในชั้นฉกามา
นำอนงค์มาส่งแล้ว พี่จะลาแก้วคืนเมืองฟ้า
นางอนงค์วงศ์เทวา ทราบกรรฐาบาย๘๘พระทัย
จะร่ำว่าสุดานุช นางวันพุธในหีบใหญ่
อยู่เดี่ยวเปลี่ยวพระทัย นั่งแล๘๙ใจนายวันคาร
วันคารนั่งนานช้า ชมยุพาสุดามาลย์
หอมกลิ่นประทิ่นหวาน ใจพล่านพล่านใคร่ดมแล
ปากว่ากีดเหลือกีด๙๐ ถดทีหีด๙๑จนเข้าแค่๙๒
นางว่าอย่ามาแหย่ แค่ข้านักจะเกิดความ
นางถามว่าอยู่ไหน นายชื่อใดแลหลูมหลาม๙๓
เราถดถดมาตาม นั่งเล่าความอย่าเข้ามา
ชื่อพี่หรือนงคราญ นายวันคารบ้านปลายนา
ไม่มีปิตุมารดา อยู่ด้วยตาพ่อยกใหม่
พี่นี้เมียหาไม่ ให้พี่ตายไปเดียวใจ๙๔
เห็นนุชสุดอาลัย ใจพี่รักอยู่หน่อยหน่อย
นางว่านายวันคาร อย่าเกี้ยวพาลแต่หร่อยหร่อย
พูดเล่นแต่พล่อย ๆ ได้ทีพลอยเกี้ยวถึงตัว๙๕
ท่านไม่มีภรรยา ถึงตัวข้าหาไม่ผัว
แต่ข้าไม่เอาตัว ข้าสากลัวเชิญออกไป
เชิญออกไม่ออกแน่ เชิญเข้าแค่ติดเต็มใจ
มดคันมาพบไห น้ำผึ้งแล้วอย่ายิก๙๖เลย
นางว่านายวันคาร ด้านเหลือด้านพ่อคุณเอ๋ย
เร่งยิกเร่งทำเฉย๙๗ เหมือนลิงเฒ่าเข้าไร่แตง
จริงแลน้องลิงพบเหมีย ลิงจนเมียลิงฤดูแล้ง
อดน้ำมาปะแตง ถึงยิกก็ทนจนได้กิน
ทูลพลางเจ้ย๙๘คางสมร นางปัดกรบ่ายพักตร์ผิน
หอมลมชมรสกลิ่น มารวยริ่นจับใจชาย
นางว่านายวันคาร ขอเชิญท่านเร่งผันผาย
อย่าเชิญเลยทรามเสียดาย๙๙ ใช่เข้าง่ายแจอยู่ใน
แม้นนุชจะขับไล่ ตัวพี่ชายไม่ออกไป
แม้นจะม้วยลงด้วยใย พี่ไม่ไปไกลจากนวล
ถึงแม้นจะวอดวาย ดีกว่าตายอยู่แต่ส่วน๑๐๐
โฉมยงอนงค์นวล อย่าตัดรักหักอาลัย
วันพุธสุดเสน่หา ฟังวาจากล่าวปราศรัย
ถึงท่านไม่ออกไป ใครจะรวย๑๐๑ไปด้วยชาย
วันคารฟังตอบพลาง แลทีนางแค่ตัดได้๑๐๒
ครั้นเจ้ามิรักใคร่ ถึงพี่ชายไม่ไปไหน
หีบนี้หีบของข้า แลกธนูมาแต่เมืองไกล
โฉมนุชสุดอาลัย ในหีบใหญ่เป็นของชาย
นางว่านายวันคาร หีบของท่านเอาเถิดนาย
ศรศรีข้ามิไว้ ท้าวฝากให้มาด้วยกัน
น้องเป็นคนพลอยมา จักขอลาจรคลาผัน
งามขำทำปึ่งปั่น หันแทงแจแลใจชาย
วันคารฉวยมือชัก ลากใส่ตักกอดนางไว้
นางเอยถึงวันตาย มิปล่อยไห้เจ้างามไป
อิสตรียังมีกระบวน ฟังพอควรอย่าเสียใจ
สองสนิทสองมิตรไม๑๐๓ ใจต่อใจกรากถึงกัน
วั่นคารลืมตายาย นางโฉมฉายลืมไอสวรรย์
วันคารลืมรสมัน นางเอววัลย์ลืมสนมใน
วันคารลืมแลควาย นางโฉมฉายลืมปรางชัย
วันคารลืมแอกไถ นางทรามวัยลืมเตียงทอง
ฝ่ายว่าตากับยาย นั่งหัวให้กันในห้อง
ตาเฒ่าข้าวสอกท้อง มาฉีกช่องนั่งย่องคอย
วันนี้ลูกไปไหน ถอนใจใหญ่ยังนึกหร่อย
จากทับเดินหัวห้อย บ่นลูกน้อยว่าไปไหน
เหวยเหวยเจ้าวันคาร ออกมานานอยู่แห่งใด
ลัดเลี้ยวเที่ยวเรียกไป เจ้าสุดใจอยู่ไหนหนา
เร่งเรียกเร่งเหงียบเสียง แต่เท้าเที่ยง๑๐๔จนเวลา
ไม่พบหลบ๑๐๕หลังมา ขึ้นบนหนำนั่งร่ำไร
ลูกเหอเจ้าวันคาร เลี้ยงมานานจนเติบใหญ่
เห็นทีจะเสียใจ ว่ากูไปกินหนมหมัน๑๐๖
ถึงด่ากูจะว่าไหร กูติดใจทั้งหวานมัน
โดยจะกินถึงสามวัน ใครไม่รู้จนกูตาย
นั่งบ่นจนสนธเย ค่ำโพล้เพล้ลงลับไม้
ตาไสใจปลิวหาย ผิดลูกชายซ่อนกินหนม
สนธเยเพลานอน ไม่มาก่อนผิดนิยม
นั่งคิดจิตเกรียมกรม ข่มแขงขืนกลืนน้ำลาย
ยายว่าท่านตาเอย อย่าทุกข์เลยมันไม่ตาย
เห็นทีจะผันผาย ขึ้นไปเฝ้าเจ้าลุงตา
ทีหลังเฝ้าลืมไป ค่ำไรไรไม่สู้มา๑๐๗
ยายเฒ่าสองคนตา นั่งบ่นหาแต่วันคาร
กล่าวถึงเจ้าสองไท อยู่หีบใหญ่คิดสงสาร
ด้วยตาเรียกช้านาน ไม่แจ้งการบ่นหาอยู่
น้องเอยมาไปไหว้ ให้ตายายแกพึงรู้
แล้วจึงนายโฉมตรู เจ้าแต่งองค์ทรงภูษา
ไขประแจแล้วเชิญผัว เชิญทูนหัวออกก่อนข้า
วันคารว่าขวัญตา เชิญยุพาออกก่อนชาย
พี่ออกเจ้าอยู่ใน ปิดหีบใหญ่ใส่แจไว้
เหมือนเจ้าแกล้งพี่ชาย ให้เงยควายยืนเลียนเทียน๑๐๘
นางว่าอย่ากระนั้น ออกพร้อมกันให้เสมอเศียร
ฟังน้องต้องทะเบียน ไม่วงเวียนออกพร้อมกัน
พานางเข้าหนำนา ถึงยายตานั่งอภิวันท์
ตาไสถามไปพลัน ว่านางนั้นลูกของใคร
เชิญเล่าเรื่องราวตา เจ้าไปพามาแต่แห่งไหน
โฉมศรีนี้ลูกใคร ในชื่อชามนามกรปรือ
แม่ยัง๑๐๙หรือแม่ตาย พอมันให้มึงมาหรือ
หรือพามากับดื้อ หรือนางงามตามมึงมา
มึงลาก๑๑๐หรือมึงขอ มึงชอบพอกันหรือหนา
เร่งบอกไปอย่าช้า กูสากลัวนครบาล
หอมผิดชาวข้างเรา ไม่ใช่เหล่าชาวนอกบ้าน๑๑๑
เล่าตามาอย่านาน เจ้าวันคารคงขายกู
ใครชักใครสื่อให้ กูบถ๑๑๒ได้กูไม่รู้
งามหมดรสอูชู๑๑๓ หน้าตาดูดังนางสวรรค์
เร่งบอกมาไวไว นางลูกใครอยู่ไหนนั่น
วันพุธนุชตัวสั่น ว่าฉันจะเล่าให้เข้าใจ
ฉันเล่าแรกวันคาร เป็นเดิมการฝากศรชัย
จนรบมารบรรลัย บิดาไทใส่หีบมา
นางเล่าเรื่องราวไป ตาดีใจโห่ดังฮา
นางเล่าชื่อบิดา ท้าวปัญจาเจ้าเวียงชัย
แม่ชื่อคันธมาลา ให้ลูกมาด้วยอาลัย
อันตัวของลูกไส ชื่อวันพุธสุดโปรดปราน
นางเล่าขนมชบ เล่าจนพบเจ้าวันคาร
นางเล่าเจ้าวิมาน องค์ทรงฤทธิ์วิศณุกรรม์
ฟังจบตบมือฮา นั่นนางสาค่าธนูมัน
ได้เมียราวนางสวรรค์ มีบุญครันลูกวันคาร
ขนมเจ้าหรือสะไภ้น้อย หร่อยเหลือหร่อยหวานเหลือหวาน
นางว่าหนมดิฉาน ให้วันคารกับบิดา
ตาว่ามาอยู่นี้ ทำสักทีก่อนลูกหวา
ยายเฒ่าคลานเข้ามา เฮอนั้นสะไภ้ได้เหมือนใจ
นางว่าฉานจะลายาย ทิ้งมิได้ลูกหีบใหญ่
เงินทองของอยู่ใน ล้วนอย่างดีมีราคา
นางบอกแก่ตายาย อยู่มิได้เมืองนี้หนา
เพชรดีสีมุกดา ธำมะรงค่าควรธานี
ท้าวพระยาจักฉ้อขาย ครั้นจักถวายเราไม่ดี
อันตัวของลูกนี้ ดีไม่ดีติดเข้าวัง
คิดจะสู้พ่อแม่ไกล จะเอาใครเป็นกำลัง
บอกตาว่าจะไปตั้ง สร้างพิภพชบเมืองใหม่
ตาว่าเจ้าอย่าทุกข์ ครั้งนี้สนุกแส้วสุดใจ
แต่งเกียน๑๑๔ทุกหีบใหญ่ ทุกข์ร้อนใยวัวควายยัง
พูดพูดจนรุ่งแจ้ง ตั้งเมฆแดงในนภัง
ตาลุกขึ้นฮึงฮัง๑๑๕ ปล้ำคุงคัง๑๑๖แต่งเกียนใหญ่
ไอ้โฮบกับอีฮำ ไม่ขี้ปล้ำควายคู่ไถ
เทียมเกียนเป็นการไว กลับหนำใหญ่ไปย็องย็อง๑๑๗
ฮายกูหอบเหงื่อไหล นั่งลงไออยู่ข็องข็อง๑๑๘
หบไอ๑๑๙ไปฉวยด้ง๑๒๐ เก็บเชอ๑๒๑กร้า๑๒๒พาไปกัน
ยายว่าเอาไปไหน ใครเอาไปชั่งหัวมัน
สอบหมากกับตะบัน๑๒๓ พาไปกัน๑๒๔เหวยท่านตา
เปลือกย่อน๑๒๕กับพลูหนัง๑๒๖ คงปะมั่งไปข้างหน้า
ถึงไม่มีรสชา แก้คาวคอพอได้การ
ของใช้ยายมิทุ่ม๑๒๗ สอบสองมุม๑๒๘จุกปากบาน
ถ้วยโถทั้งโอจาน ไว้ให้ทานที่หนำนา
ไอ้ของจะพาไป ทุกเกียนใหญ่ไม่ได้ช้า
แล้วว่าวันคารอา เอาหีบมาทุกเกียนลง
วันคารยกหีบใหญ่ ลำดับใส่ลงโดยจง
ยายว่าเจ้าสององค์ จงเร็วหรามาจะไป
เร็วแร่แต่หัวรุ่ง ยายาตยุ่งแต่ขนใส่
มาเหวยมาจะไป อย่าให้ใครทันเที่ยวมา
ขวัญข้าวเจ้าวันคาร ทั้งนงคราญท่านยายตา
ขึ้นเกียนไล่ควายมา พอสว่างฟ้าไม่รุ่งดี
พอรุ่งพ้นทุ่งนา เข้าเขตป่าพนาลี
ฝูงคนหาไม่มี เที่ยงราตรีถึงไพรวัน

(ราบหรือสุรางคนางค์ ๒๘)

บัดนั้นตาเฒ่า  
ชี้ให้สองเจ้า ชมไม้นับพัน
ทั้งศรีสะใภ้ ลูกชายด้วยกัน
เข้าในไพรวัน ชมพันธุ์รุกขา
ยอมยุมชุมพู่๑๒๙  
สาเกสาคู สาเหล้าสาลา
เสาวรสเสาวรัตน์ คนทัตคนทา
จิกน้ำจันทน์นา กระดาดลาดดง
สักโศกสมเสร็จ  
ตาไก่ตาเป็ด กาหลา๑๓๐กาหลง
พุดตาลดานงา๑๓๑ เพกาหมู่กง๑๓๒
ลิ้นจี่ลินจง คันธงคนที
มังค่า๑๓๓มังคุด  
กอเปียกอปุด กำหยันกำหยี
กะถินกะถบ ตะขบ๑๓๔ตะขรี๑๓๕
ลูกจันทน์ลิ้นจี่ กะลุมพีกะลำพัก
ยูงยางซางไทร  
ระกำลำไย เฟืองไฟสนสัก
เหม็งซอ๑๓๖กิ่งเซ่อ๑๓๗ นุ้ยเหอน่ารัก
ชี้ไม้ช้านัก ชมปักษาไป
นกแก้วจับกุ่ม  
นกเค้าเข้าซุ่ม บินคาบฉาบ๑๓๘ไข่
ขุนทองจับเทียน กระทุงเกรียน๑๓๙ร่อนไป
แซงแซวจับไทร ไต่ยิกจิกกัน
นกเดินสุธา  
นกสัก๑๔๐นกสา เคียงคู่ดูขยัน
พบหนองย่องหา ได้ปลาชิงกัน
อิ้ลุ้ม๑๔๑นกชัน๑๔๒ หักซุ้ม๑๔๓หุ้มตัว
สัตว์ดินเดินดง  
ฟานเต้นเม่นจง๑๔๔ ค่างเห็นคอยหัว
ชะนีน้อยห้อยไม้ เยื้องกายโยนตัว
ปีนไม้ป่ายมัว พาตัวขึ้นไป
กะต่ายแล่น๑๔๕เต้นไล่  
หมาไน๑๔๖เยื้องกราย ขบทราย๑๔๗ใต้ไทร
เสือไล่หมูแล่น เม่นพลอยตกใจ
บัดขนเกร็งไป แทงชึง๑๔๘ถึงดำ๑๔๙
ควายพาเกียนไคล  
ค่ำนอนรุ่งไป เดินเช้าหยุดค่ำ
โดยจะนับคณนา แรกมาแต่หนำ
ได้นับได้จำ สิบห้าวันมา
นางเห็นมหาสถาน  
ที่นี่สนุกสนาน ถามท่านยายตา
ว่าเขานี้ไซร้ ชื่อเขาใดหนา
ตาบอกไม่ช้า ว่าเขานิลกรรณ
ลงจากเกวียนไว  
ทางเที่ยวเดินไป แสนสนุกสุขสรรพ์
แล้วกลับมานั่ง ยังร่มไทรพลัน
ตายายพร้อมกัน นางชบโภชนา
ข้าหนอยกไหว้  
ญาติกาขวาซ้าย จงได้เมตตา
ฟังเรื่องนิทาน อย่าพาลนินทา
พี่น้องน้าป้า ได้มาโปรดปราน
ซ้ายขวาหน้าหลัง  
ที่ประดามานั่ง ฟังเรื่องวันคาร
หมากพลูปูนยา โปรดปรานีฉาน
มิได้รับประทาน ผู้อ่านเต็มที
คอแห้งแรงหย่อน  
ซุกเซาหาวนอน๑๕๐ กล่าวกลอนไม่ดี
ศัพท์เสียงของข้า โรยราเต็มที
ผู้ฟังทั้งนี้ อย่ามีฉันทา

(ยานี ๑๑)

ปางนั้นอนงค์นุช นางวันพุธยอดยุพา
เจ้ายกดวงจินดา อธิษฐานพลางวางมณี
บังเกิดเป็นสำรับ ตั้งลำดับมาด้วยดี
หวานที่ของคาวที่ ตั้งเรียงมาทุกหน้าไป
สองราชวนตายาย กินให้สบายคลายอาลัย
สององค์เสวยไว ฝ่ายข้างหลังยังยายตา
ส่วนว่าท่านตาเฒ่า ขัดสมาธิ์เข้ามิได้ช้า
ปากว่ากูข้าวปลา ในวันนี้เป็นไม่กิน
เห็นหนมในโตกใหญ่ นึกในใจกูคาด๑๕๑สิ้น
สังขยาตาหยิบกิน ชะหวานดิ้นเทียวอียาย
ยายว่าอย่านักไฮ แล้วมึงจะไตรอีฉิบหาย
กูกินของลูกสะใภ้ กูไม่ใช่กินของใคร
แล้วยกโถลอดช่อง ซดแลลองฮือชื่นใจ
ตั้งโถหยิบกินใหม่ ฉวยหนมโคทอดกลืนคลก๑๕๒
สาคูซดดังวอ พ่อเหยพ่อได้แรงอก๑๕๓
ยายว่าเฒ่าหยาจก ซดลกลกราวคนชิง
อย่าว่ากูเลยแม่ กูไม่แชเหมือนคนหญิง
กูกินกินจริงจริง ไม่เหมือนสูนั่งเช็ดเลีย
พุงตาไม่ป้งดี ยายยกที่ออกไปเสีย
เหม็ดผ้าคาดชกเมีย งดอยู่เสียเกรงใจนาง
อีดอกทือดื้อไม่กลัว หึงษาผัวเห็นทั้งขวาง
ถ้าไม่เกรงใจนาง ใคร่ปล่อยแก่แลสักที
เสร็จสิ้นกินอาหาร วันคารเตือนมิ่งมารศรี
เยาวเรศดวงเนตรพี่ เชิญนารีชบพารา
นางว่าพ่อตาไส ดูฤกษ์ชัยหน่อยหนึ่งรา
ตาฟังนางฉายา ผึ่งตำราดูฤกษ์ชัย
หาจบพบห่วงปลอด เมื่อแมวคลอดลูกเป็นไก่
บอกสะใภ้ว่าสายใจ แมวเป็นไก่ดีนักหนา
พุธสามพฤหัสสี่ เมื่อฝามีวิ่งขึ้นผรา
ร้อยชั่งฟังตาว่า ยกจินดาทูนเกษี
สำนึกถึงเทวัน เวศณุกรรม์ชั้นพรหมมี
คุณพระเจ็ดคัมภีร์ ให้ข้านี้ลุปรารถนา
คุณแก้วทั้งสามประการ ขอคุณท่านปกเกษา
อาจารย์บิตุมารดา มาชูช่วยอวยพรชัย
ธรณีผีเจ้าป่า เจ้าถ้ำลาภูเขาใหญ่
ขอชบเป็นสุริไอย์ ให้พร้อมไปด้วยโยธา
รถรัตน์อัศวราช กุญชรชาติอันแกล้วกล้า
ปรางค์จันทร์สุวรรณา ให้เกิดมาทุกสิ่งอัน
ธิษฐานแล้วมารศรี โยนมณีขึ้นไวพลัน
พสุธามาหวาดหวั่น ลมมืดมิดทุกทิศไป
นางรับดวงจินดา หมอกมัวฟ้าค่อยสว่างใส
บังเกิดเป็นสุรีไอย์ ตาดีใจว่าเฮโล
เออน่านแลต้าอีสา อีนุ้ยคว้าเอาใหญ่โต
ลูกเราเล่าเต็มโซ โม่เห็นแต่จะพลอยเมีย
นางนึกสิ่งอันใด เกิดครบไปมิได้เสีย
เสสรวลตาชวนเมีย เรียกนางพระยามาจะไป
เชิญหราขวัญตาพ่อ นั่งหัวร่ออยู่ทำไม
เร็วรามาจะไป ชมเวียงชัยดูสักที
ว่าแล้วทั้งสี่ไท ขึ้นเกียนใหญ่ใจเกษมศรี
ขับควายไม่ช้าที มิช้าดึ่งถึงพารา
ขับเกียนเข้าในเมือง คนนั่งเนืองกลัวบุญญา
ตาเฒ่ายืนตั้งท่า ป้องมือแลแกดีใจ
ชมนั่นเดียวชมนี่ แล้วชวนชี้ชมปรางค์ชัย
เป็นขั้นถัดกันไป มีคูล้อมป้อมแข็งขัน
เข๑๕๔เกียนเวียนรอบตลาด ฝูงประชาราษฎร์นั่งเรียงกัน
ควายพาเกียนพาผัน มาน้อยหนึ่งถึงวังใน
ตาเฒ่าจูงลากควาย รุนเกียนไว้ชายวังใหญ่
สนมนางในปรางค์ชัย ไปรับอนงค์องค์นารี
เชิญนางขึ้นปรางค์แก้ว พร้อมกันแล้วฝูงสาวศรี
กำนันเหล่าขันที นั่งพัดวีพร้อมมูลกัน
นางขึ้นยังเกยมาศ ฝูงอำมาตย์นั่งเรียงรัน
ตาไสในวันนั้น ราวขึ้นสวรรค์เสียทั้งเป็น
ปากว่ากูเกิดมา ชั่วโป๑๕๕ย่าไม่เคยเห็น
งามนักงามเขี้ยวเข็ญ๑๕๖ ทีนี้เห็นสนุกแล้วกู
เป็นชั้นมันเป็นช่อง แลเป็นห้องเป็นซองรู
งามแง่แลน่าดู กูแลแลก็เวียนหัว
เป็นชั้นเป็นเชิงนัก ทั้งน่ารักทั้งน่ากลัว
เที่ยวแลจนลืมตัว ชมวังเวียนเข้าชั้นใน
นาคทันต์ทั้งลับแล แลงามแง่ตาชอบใจ
เร่งชมเร่งเวียนไป ถึงชั้นในแท่นสุวรรณ
โคมระย้าชวาลาเรียง มีกงเกียงวิสูตรกั้น
มณีสีต่างกัน แต่ชั้นชั้นเพียงวิมาน
ชมเดินเที่ยวเพลินเนตร งามวิเศษทุกประการ
ยิ่งชมยิ่งพลุ่งพล่าน ลานเลิงใจใฝ่เพราะชม
ดีจริงฝีมือนาง ทั้งทำปรางค์ทั้งทำหนม
รูปร่างก็สบสม ครั้นมือหนมกูชมครัน
ชมแล้วแลหลังมา เดินเหมือนบ้าเที่ยวเวียนวัน
แลทีแค่มันขัน๑๕๗ หันหลังหน้าด่าไปอึง
เดินเมื่อยแล้วนั่งลง กูมันหลงแล้วไสหมึง๑๕๘
เดินเก้อฉะเมร่อลึ่ง๑๕๙ ขึงตาขาวราวตากวาง
เดินเวียนเหมือนนับตู๑๖๐ แลทีกูมันท่าทาง
ครั้นจะเรียกบัดสีนาง กูแลแลมันชอบกล
อย่าเลยเรียกแลที มันจะบัดสีสักกี่หน
กุมตูดูชอบกล ปากเรียกเมียเหวยนางสา
ปากเรียกมือห่มตู แลไหรฉู้๑๖๑มาเหวยมา
เฮโลสาละพา๑๖๒ ดังเพื่อนตัวนึกกลัวผี
ยายฟังยังไม่ขาน เจ้าวันคารฟังดูที
แกเรียกทำไมมี เห็นจะหลงแล้วหัวฉา
ตาแก่กลัวทดทด สั่นเสียหมดตกประหม่า
ชั่วโปและชั่วย่า ไม่มีใครเล่าข่าวที่ไหน
แล่นเข้าคราวเดียวผิด น่าเสียจิตน่าเสียใจ
ทีนี้เข้าปรางค์ใน ปูนขีดไว้หมายสำคัญ
ลาหมาย๑๖๓ให้จนพอ สิ้นสักหม้อช่างหัวมัน
นึกกลัวเรียกปากสั่น มาแลนี้เหวยอียาย
ยายเฒ่าจึงขานไป ว่าเรียกไตรเรียกเหมือนจะตาย
ตาว่าแสนสบาย หมายจะเรียกให้ชมกัน
ยายว่าหลงดอกกระหมึง๑๖๔ อย่าหกอึงใส่นี่นั่น
หลงก็ว่าอย่างพรางกัน เรียกเสียงสั่นเหมือนตกใจ
โกรธยายตาเหมือนจง แฮ่กูหลงแหล่มึงจะไตร
ลมตีตั้งพักใหญ่ เรียกจะตายยังไม่มา
ยายฟังนั่งหัวร่อ เชิญเถิดพ่อออกนอกหน้า
ตาว่ายายทองประสา เดินมานั่งยังเกยชัย
นางจัดให้ยายตา เป็นวังหน้ามอบปรางค์ใหญ่
สนมนางในปรางค์ชัย แบ่งปันไปให้เท่ากัน
วันคารเป็นวังหลวง จัดการตามกระทรวงทุกสิ่งสรรพ์
เมืองชื่อเมืองนิลกรรณ มีครบครันทุกสิ่งไป
วันคารกับวันพุธ สองพระนุชครองราชัย
ตายายสบายใจ ไปด้วยพวกนางสาวศรี
เช้าเช้าเจ้าวันคาร ออกว่าการด้วยนารี
ตรัสสั่งชาวธานี ตรวจหน้าที่เมืองเวียงชัย
ทางเรือทั้งเหนือใต้ ตั้งด่านไว้ทุกแห่งไป
อำมาตย์รับสั่งไท ไปตรวจตราข้าราชการ
วันคารสำราญรื่น น้ำใจชื่นด้วยนงคราญ
เทียมเสวยภพศฤงฆาร ใจเบิกบานแต่นั้นมา

จบบริบูรณ์

  1. ๑. ความโกง ความอวดเก่ง หรือคุยโม้ ยกตนข่มท่าน

  2. ๒. ท้าวพันตา พระอินทร์

  3. ๓. เพษณุ พระพิษณุกรรม

  4. ๔. ยกขึ้น ตื่นขึ้น ลุกขึ้น

  5. ๕. งูบองหลา งูจงอาง

  6. ๖. แมงบี้ แมงปอ

  7. ๗. ถกคอแล ชูคอขึ้นคอยดู

  8. ๘. ขวยใจ เป็นห่วงกังวลใจ

  9. ๙. ติดลึ่ง ออกจะทะลึ่ง

  10. ๑๐. เมลินเนตร ลืมตา

  11. ๑๑. อย่าทำท่านักปรือเหลา อย่าอวดเก่งนักมิได้หรือ

  12. ๑๒. เม่า โง่ ๆ บ้าๆ

  13. ๑๓. หน้าเหมีย หน้าสัตว์ตัวเมีย เหมียแปลว่าเพศหญิงใช้กับสัตว์

  14. ๑๔. นุ้ย น้อย

  15. ๑๕. ปนนั่น เพียงแค่นั้น

  16. ๑๖. ไตรใคร ทำอะไรใครได้

  17. ๑๗. ลิงเสน ลิงชนิดหนึ่ง

  18. ๑๘. น่าน เป็นวิเศษณ์ของคำยาว คือยาวรีไปตรง ๆ ยาวมาก

  19. ๑๙. เร้อ รื้อ

  20. ๒๐. ทดทด อาการของคำว่าสั่น

  21. ๒๑. กัน ด้วย ผัวโกรธอย่าโกรธกัน ผัวโกรธอย่าโกรธด้วย

  22. ๒๒. หะน้ำฉ่า อาเจียนออกน้ำทะลักออกดังฉ่า

  23. ๒๓. ศรีรักษา ตำแหน่งขุน

  24. ๒๔. หราง ตะราง คุก

  25. ๒๕. รุม ทำพร้อมกันในจุดเดียว กลุ้มรุม

  26. ๒๖. เรียด แน่นเรียบ

  27. ๒๗. ถุ้ง กะทุ้ง

  28. ๒๘. รอด เข้ากับคำว่า ยก แบก หาม พา แปลว่าไหว ยกรอด=ยกไหว แบกรอด=แบกไหว

  29. ๒๙. ถึงทับ ถึงกะต๊อบ

  30. ๓๐. เหล็กเป็น แม่เหล็ก

  31. ๓๑. กุบกับ รีบร้อน

  32. ๓๒. นาด ไกวแขน เดินนาด คือ เดินไกวแขน

  33. ๓๓. เฉียง ผ่า

  34. ๓๔. ทีละหา ทีละหวา

  35. ๓๕. ดังป็อง ดังปังใหญ่ ดังโป้ง

  36. ๓๖. กุมด้ามจ้ง จับถือด้ามจอบซื่อ ๆ อยู่

  37. ๓๗. แย่นั่งท็อง นั่งกะแทกดังโครม

  38. ๓๘. ล็อง สัปปะดน

  39. ๓๙. สรรพรสา, ราสา มากเหลือเกิน

  40. ๔๐. ยู่ยี่ หน้าหดเหี่ยวจนหมดรูปเดิม

  41. ๔๑. ยีหน่วยตา ขยี้ลูกตา

  42. ๔๒. ขวานถา ขวานสำหรับถากไม้

  43. ๔๓. เม้น เหี้ยนร่นเข้าไปมาก

  44. ๔๔. โลน ทำให้เปลืองของเปล่าโดยใช่เหตุ

  45. ๔๕. ถูปะเม ถูส่งเดชไร้ประโยชน์

  46. ๔๖. หร่อย อร่อย

  47. ๔๗. ขันตะกั่วตักตะกั่ว ขันที่ทำด้วยตะกั่ว เอาไปตักตะกั่วกำลังเหลว เพราะความร้อนนอกจากตักตะกั่วไม่ได้แล้ว ขันก็ละลายเสียอีกด้วย

  48. ๔๘. ฉากหัว คำด่าของผู้หญิง

  49. ๔๙. โม่ โง่

  50. ๕๐. เคอะ เซอะ

  51. ๕๑. มัดกะ บ้าระห่ำ

  52. ๕๒. ลึ่ง ทะลึ่ง

  53. ๕๓. ล็อน คือประสมทั้ง ๔ อย่างข้างต้น (ล็อนไม่มีใครพูดแล้ว)

  54. ๕๔. ฟันหาไม่แล้วยังด้น ฟันไม่มีแล้วยังดุร้าย

  55. ๕๕. ด้น ดุ

  56. ๕๖. ข่มเหง คือ คุมเหง

  57. ๕๗. เมลือก เมือก

  58. ๕๘. คลำแลเหงือกมังปรือเหลา คลำดูเหงือกเสียบ้างซี (จะได้รู้ว่าแก่แล้ว)

  59. ๕๙. เทพนิมนต์ เทวดาบันดาน

  60. ๖๐. หนักหู หนวกหู

  61. ๖๑. ตัดหัว คำด่าของผู้หญิง

  62. ๖๒. มนต์เท่าเถิด ขอเชิญให้หยุดได้แล้ว

  63. ๖๓. แลควาย เลี้ยงควาย เฝ้าดูให้คอยกินหญ้ากินน้ำและปลอดภัย

  64. ๖๔. หนำร้าย คือกระต๊อบเก่าแก่ชำรุดกะรุ่งกะริ่ง

  65. ๖๕. ธำรงชบ ใช้แหวนชุบให้เป็นของที่ปรารถนา

  66. ๖๖. มรับ สำรับ มรับทอง สำรับเป็นภาชนะทอง

  67. ๖๗. หอมวิไล หอมน่ากิน น่าพอใจ

  68. ๖๘. แจกล กุญแจยนต์

  69. ๖๙. เหียบ เงียบสงบ

  70. ๗๐. เพรียบ เงียบอย่างใบไม้ไม่กะดุกกะดิก

  71. ๗๑. กินแล ลองกินดู

  72. ๗๒. ฉาวฉู ฉาวโฉ่

  73. ๗๓. ออโน เป็นคำทักว่า เอ้า นั่นแน่

  74. ๗๔. ลูกหวา ลูกจ๊ะ

  75. ๗๕. ใครให้นุ้ยหา ใครให้เจ้าฮะ

  76. ๗๖. ไม่ถ้า ไม่รอ

  77. ๗๗. ตาว่าหัวมัน ตาว่าช่างหัวมันเถิด

  78. ๗๘. เจ้าที่ พระภูมิ เทวดาประจำบ้าน

  79. ๗๙. ไตร ทำไม

  80. ๘๐. หนม ขนม

  81. ๘๑. ชบ ชุบ เนรมิต

  82. ๘๒. ใครฉู้ ไม่รู้ว่าใคร

  83. ๘๓. ยืนหมัง ยืนจ้องคอยที จังหมังก็ว่า

  84. ๘๔. ชะ กะชาก ดึงเข้ามาโดยแรง

  85. ๘๕. มือร่า อ้ามือออก

  86. ๘๖. ฮาย คำอุทาน

  87. ๘๗. ซาบ แอบ ซาบบอก แอบกระซิบบอก

  88. ๘๘. บาย สบาย

  89. ๘๙. แล ดู

  90. ๙๐. กีด เกะกะ คับแคบ

  91. ๙๑. ถดทีหีด เขยิบเข้าไปทีละน้อยๆ

  92. ๙๒. เข้าแค่ เข้าใกล้

  93. ๙๓. หลูมหลาม ไม่เรียบร้อย เซอะซะ

  94. ๙๔. เดียวใจ ในทันใด ประเดี๋ยวเถอะ

  95. ๙๕. ตัว เป็นบุรุษที่ ๒

  96. ๙๖. ยิก ไล่

  97. ๙๗. เร่ง ยิ่ง เร่งยิกเร่งทำเฉย ยิ่งไล่ยิ่งทำเฉย

  98. ๙๘. เจ้ย ช้อน เชย

  99. ๙๙. ทรามเสียดาย น่ารัก

  100. ๑๐๐. แต่ส่วน แต่เพียงคนเดียว

  101. ๑๐๑. รวย คือ อ่อนระลวย

  102. ๑๐๒. แลทีนางแค่ตัดได้ ดูซินางที่ตัดได้

  103. ๑๐๓. มิตรไม มิตรไมตรีนั่นเอง แต่พูดค้างไว้

  104. ๑๐๔. แต่เท้าเที่ยง จนเวลาเที่ยง

  105. ๑๐๕. หลบ กลับ หลบหลังมา คือกลับหลังมา

  106. ๑๐๖. หมัน บุรุษที่ ๑ หมัน แต่เน้นเสียงให้หนักในบางความหมาย

  107. ๑๐๗. ไม่สู้มา ไม่กล้ามา

  108. ๑๐๘. ให้เงยควายยืนเลียเทียน เทียนคือหวายที่ร้อยจมูกควาย ควายที่ถูกล่ามอยู่กับที่

  109. ๑๐๙. แม่ยัง ยัง แปลว่ามี แม่ยัง คือมีแม่ = แม่ยังอยู่

  110. ๑๑๐. ลาก ลากในกรณีฉุดผู้หญิง เรียกว่าลากผู้หญิง ลากลูกสาว

  111. ๑๑๑. นอกบ้าน หมายความถึงบ้านนอกทุ่งนา คู่กับคำว่า ในเมือง

  112. ๑๑๒. บถ สะบถ

  113. ๑๑๓. อูชู สมบูรณ์ มีมาก รสอูชู = กลิ่นหอมยิ่ง

  114. ๑๑๔. เกียน เกวียน

  115. ๑๑๕. ฮึงฮัง กิริยาที่ทำจริงจัง

  116. ๑๑๖. คุงคัง เสียงดังกุงกัง

  117. ๑๑๗. ย็องย็อง อาการที่เดินซึ่งมีอาการสูง ๆ ต่ำ ๆ อย่างเร็ว ๆ

  118. ๑๑๘. ข็องข็อง เสียงไอ

  119. ๑๑๙. หบไอ หยุดไอ

  120. ๑๒๐. ด้ง กะด้ง

  121. ๑๒๑. เชอ กะเชอ (ภาชนะใส่ของ)

  122. ๑๒๒. กร้า ตะกร้า

  123. ๑๒๓. ตะบัน ภาษาชาวบ้าน เรียกว่า ยน แต่นี้บทกวี

  124. ๑๒๔. พาไปกัน พาไปด้วย

  125. ๑๒๕. เปลือกย่อน เปลือกไม้ชนิดหนึ่ง มีรสขวาดแทนหมากได้

  126. ๑๒๖. พลูหนัง ชื่อพลูชนิดหนึ่ง ไม่นิยมกินนอกจากขัดสน

  127. ๑๒๗. มิทุ่ม มิละทิ้ง

  128. ๑๒๘. สอบสองมุม กะสอบทำด้วยกกหรือกะจูดใบเล็ก ๆ พอใส่ของเต็มแล้วถือได้ ใบแบน ๆ เหมือนกะเป๋าเอกสาร

  129. ๑๒๙. ยอมยุมชุมพู่ พะยอม มะยม ชมพู่

  130. ๑๓๐. กาหลา สันตะกาลา ต้นคล้ายกะทือแต่โตกว่ามาก ดอกเป็นผัก

  131. ๑๓๑. พุดตาลดานงา พุดตาล กะดังงา (ที่จริงเรียกดังงา)

  132. ๑๓๒. เพกา และกง ชื่อต้นไม้

  133. ๑๓๓. มังค่า ชื่อต้นไม้ ยอดกินเป็นผักฯ มะค่า

  134. ๑๓๔. ตะขรบ ตะขบ

  135. ๑๓๕. ตะขรี ชื่อไม้ขนาดกลาง

  136. ๑๓๖. เหม็งซอ ต้นไม้ ชิงชี่

  137. ๑๓๗. กิ่งเซ่อ กิ่งห้อยรุมรู่ เป็นซุ้มที่รกรุงรัง

  138. ๑๓๘. ฉาบ โฉบ เกือบไป ฉาบไข่ = โฉบฉาบใกล้ไข่

  139. ๑๓๙. กะทุงเกรียน นกกะเรียน

  140. ๑๔๐. นกสัก นกมูลไถ

  141. ๑๔๑. อีลุ้ม นกตะกรุม

  142. ๑๔๒. นกชัน นกอัญชัน

  143. ๑๔๓. หักซุ้ม หักไม้ทำรังคล้ายซุ้ม

  144. ๑๔๔. ฟานเต้นเม่นจง ตามตัวอยู่แล้ว ฟานบางคนว่าเลียงผา

  145. ๑๔๕. แล่น วิ่ง

  146. ๑๔๖. หมาไน สุนัขป่าชะนิดหนึ่ง

  147. ๑๔๗. ขบทราย กัดกวางทราย

  148. ๑๔๘. แทงชึง แทงดังจื๊ก

  149. ๑๔๙. ถึงดำ ขนเม่นสีดำแต่ตอนปลายขาว

  150. ๑๕๐. หาวนอน ง่วงนอน

  151. ๑๕๑. คาด คิดหมายไว้

  152. ๑๕๒. ทอดกลืนคลก กลืนเสียงดังเฮือก

  153. ๑๕๓. ได้แรง อร่อย ได้แรงอก = อร่อยอก

  154. ๑๕๔. เข ขี่

  155. ๑๕๕. โป ปู่

  156. ๑๕๖. งามเขี้ยวเข็น งามจริงจังนัก

  157. ๑๕๗. แลทีแค่มันขัน ดูซิที่มันน่าขำ

  158. ๑๕๘. กูมันหลงแล้วไสหมึง กูมันหลงแล้วละกระมัง

  159. ๑๕๙. เมร่อลึ่ง บ้า + เซอะ = เมร่อ, ลึ่ง = ทะลึ่ง

  160. ๑๖๐. หับตู หับประตู

  161. ๑๖๑. แลไหรฉู้ ดูอะไรไม่รู้จัก

  162. ๑๖๒. เฮโลสาละพา เป็นคำพูดดัง ๆ เวลาทำอะไรพร้อมกัน

  163. ๑๖๓. ลาหมาย ทาปูนหมายไว้ คือทำเครื่องหมายด้วยปูน

  164. ๑๖๔. กระหมึง กระมัง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ