ภาคผนวกเรื่องวันคาร

ขึ้นบทต้นด้วยคำกลอนตลาดเพิ่งแต่งขึ้นใหม่ มิใช่คำของผู้ประพันธ์ต้นเดิม และเข้าใจว่าพระทุ่มแต่งขึ้นในตอนคัดลอก ในการคัดลอกก็บอกว่า ไม่มีสำเนาคือต้นฉบับแต่อาศัยความจำ คงลงความเห็นได้ว่า เรื่องนี้มีมาก่อน แต่พระทุ่มคัดขึ้นโดยไม่มีต้นฉบับก็คือใช้ความจำนั่นเอง เรื่องวันคารนี้เป็นหนังสืออ่านสนุก ๆ ในสมัยโบราณก็ให้เด็กอ่านเพื่อความชำนาญหนังสือ มิได้หวังทางอื่นมากนัก แต่ก็แซกซ่อนสุภาษิตคติเตือนใจไว้มากเหมือนกัน สำหรับคำที่เป็นภาษาพื้นบ้านนั้น ได้ให้ความหมายพอเป็นที่เข้าใจอย่างกว้างๆ ดังต่อไปนี้

หัวจุกหัวเจ๊กเด็กหัวเปีย ทั้งหมดนี้หมายถึงเด็ก ๆ เพราะเด็กครั้งนั้นต้องไว้จุกหรือเปียกันจนอายุ ๑๒ ปี จึงจะตัด หัวจุกคือผมที่เว้นไว้กลางกระหม่อนกระจุกเดียวถ้าปล่อยไม่เกล้าจะปรกมาข้างหน้า ผมเปียคือ ผมสองกระจุกเว้นไว้กลางกระหม่อมไม่เกล้าก็จะตกไปสองข้าง หัวเจ๊ก คือผมจุกกระจุกเดียวที่เว้นไว้กลางกระหม่อมค่อนข้างท้ายทอย ถ้าไม่เกล้าจะตกไปข้างหลัง
คนเพลีย คือ คนเปลี้ย
รูปชื่อทุ่มผู้เขียน บอกตรงแล้ว พระทุ่มเป็นผู้เขียนคัดลอกลงสมุดข่อยนี้
ยาเมา คือ ยาฉุน
เห็นดู คือ เอ็นดู
เนาว์โลกอุดรสถิต คือ อยู่ในทิศเหนือ ที่นี้กล่าวทิศเพียง ๗ ขาดทิศทักษิณ
ไม่เซ้าซี้ ไม่ทู่ซี้
ปัญจะพรหมา จตุรพักตร์พรหมมี อัฏฐนาคะ กุกกุฏสัตตะ ว่าตามกลอนพาไป คงจะเคยท่อง อักขระจารึกยันต์ตรีนิสิงเห จะลงเลขอะไรมีคาถาประจำเลข เลยคล่องปาก ก็กลอนพาไปทั้งนั้น
คำว่า ดิฉัน เป็นคำพูดสุภาพที่พูดต่อผู้ที่ตนเคารพ ใช้ทั้งผู้ชายผู้หญิง
พุงใหญ่ เป็นภาษาพื้นเมือง ว่ามีครรภ์
อะขู อักโข มากมาย
ผ่าพุงทั้งเป็น บุราณไม่มีก็จริง สมัยนี้เรื่องเล็ก
ทลา ถลา หมายความถึงถนน ลา ก็เหมือนกัน
ตำแย หมอในการเกิดด้วยวิธีผดุงครรภ์แบบโบราณ
กลบลูก ทำให้ลูกแห้งหายไปในท้อง
หาไม่ ไม่มี
ควายพ่าน ควายไม่มีคอกเที่ยวเพ่นพ่าน
ยุด ยึด หรือดึงเอาไว้
ตาเณรบัว คือคนที่บวชพระแล้วสึกออกมา ชาวบ้านเรียกว่าเณร เช่น พระบัว สึกมาแล้ว ถูกเรียกว่าเณรบัว จะเรียกว่าทิตต้องบวชนาน ตาเณรบัวหมายความถึงนายบัวคนเก่ารุ่นตา
ตรัน เข้าไปเอาไม้หรือมือยันดันเอาไว้
กาหลอ วงดนตรีชะนิดหนึ่ง ใช้เฉพาะงานศพ แบบนางหงษ์
บัวปอก สีของผ้า
มันขัน น้ำมันชะนิดหนึ่ง
เชอ (กะเชอ) ภาชนะสานด้วยหวายสำหรับผู้หญิงใช้ถือใส่หมากพลูเป็นต้นในการเดินทาง
มือกุมพัด ถือพัด เช่นพัดด้ามจิ้ว
สูมาแลไหรๆ พวกแกจงมาดูอะไรนี่ซิ
อีราชา นางตัวดี
ไอ้ฉากหัว เป็นคำด่าของผู้หญิง
การไหรใคร ธุระอะไรของใคร
มาต้า มาซิ
อุตตราวัฎศพ คือแห่ให้ซ้ายแก่เมรุ ตรงกันข้ามกับทักขิณาวัฏ
ทุมทุม เป็นอาการที่ไฟลุก
เวช้า เวเปล คือ ไกวเปล ช้า คือว่าเพลงกล่อม
เออนัน เออหนาน เฮอนัน เป็นคำอุทานอย่างเห็นด้วยเต็มที่
หนำนา กะต๊อบกลางนา ขนำนาก็เรียก
พรูกเช้า ต่อโพรก คือพรุ่งนี้
ห่อเตาะ ห่อกาบหมาก
นายเภา นายสำเภา
จืดปาก คือ กินอาหารไม่รู้รส
ขรี ชื่อไม้ชนิดหนึ่ง คล้ายนนทรี ยอดขวาดเป็นผักได้
ตีไม้สีฟัน ไม้สีฟันโบราณใช้ไม้ข่อยบ้าง สะเดาบ้าง ตีให้เป็นฝอย เหลาอีกข้างให้แหลมสำหรับชำระฟัน ตามวัดมักตีก่อนเข้าพรรษา ถวายอุปัฌาย์ อาจารย์
ปลาโคบ บางทีเรียกปลาโคก เป็นปลาน้ำเค็ม ขนาดเท่ากับปลาทู แต่ตัวสั้นเกล็ดมาก
ขึ้นเห็ดเหม็ดแล้ว ขึ้นราหมดแล้ว
ร้องอีโหย่ ร้องชโย โห่ฮี้ว ด้วยความร่าเริงหรือคึกคะนอง
หน้าเท่าด้ง หน้าบานด้วยความดีใจ
ช็อง เป็นอาการที่ปักของแหลมลงไปที่ดิน
ฝานหอมใส่ หั่นหัวหอมใส่
หอมอาวรณ์ หอมยวนใจพิลึก
ช่อกันเข้า ผูกเข้าเป็นพวง
ทุ่มไว้ ทิ้งไว้
ใต้ซองหนำ ซุกซอกไว้ใต้หนำ (กระต๊อบ)
เปลือกพุกดำ เปลือกผุจนดำ
ไม่ลิดก่อน ยังไม่ปอกเปลือก
หนังยู่ยี่ หนังย่นหดเหี่ยว
ขลุกขลิก มีอะไรกระทบกุกกิก
แช ช้า
ไว้บนผรา ผราคือร้านปูฟาก มีอยู่เหนือเตาไฟในครัวชาวบ้านโบราณเกือบทุกบ้าน สำหรับเก็บของที่อาจชื้นเช่นเกลือน้ำตาลพริกขี้หนูแห้งเป็นต้น
รอดจะกูดหัก จะกูดคือหางเสือ คานที่ยึดหลักหางเสือหัก
กูดท้าย หางเสือเรือ ก็ไหวคือสั่นจนไว้ไม่อยู่
เชียง คือกรรเชียง
หลักแง้น หลักหลุดจากฐานกรรเชียงไม่ได้
ฉัดเข้าริมฝั่ง ซัดเข้าริมฝั่ง
ชบ ชุบด้วยเวทย์มนต์ จะให้เป็นอะไรตามปรารถนา
ฉุก ยุ
งาย ครึ่งวัน
แค่มันขัน ที่มันนึกสนุกหรือเล่นตลก
ลงสัน ตกลง
เล่า บอก
ทำหลาวๆ ทำผลุนผลัน
จาบัลย์ คำกวีเมืองนครแปลว่าพูด
ปิเหน่ง ปั้นเหน่ง
เสือกหน้า ว่าใส่หน้า
สา รู้สึก สาอะไร จะรู้สึกอะไร สากลัว = รู้สึกกลัว
ลกลก รีบด่วน
ถด ถัดกระเถิบ
ว่าเจ้าไหมจูงหวากัน บอกจีนชื่อไหม ให้จูงอั๊วด้วย
ยักหงาย หงายหลัง
ครุบฉวยถูกแค่บั้นขา ผะเอิญจับถูกกลางขา
ย็อง ย็อง เป็นอาการที่วิ่ง
หลังก็อง หลังโกง
หัวเพตรา หัวคุดทะราดที่เท้า
ฉีกเรียน ฉีกทุเรียน
กุมพรก ถือกะลามะพร้าว
ปละหน่วย ข้างละใบ
ตีนตรด ตีนกะจอก คือข้อเท้าซึ่งเคลื่อนไหวไม่ได้ เวลาเดินจรดปลายเท้า
ตาเณร ในที่นี้หมายถึงคนแก่ที่ยังบวชเป็นเณร ซึ่งบางคราวเรียกเถน
เที่ยวโจ่งพลิ่น เที่ยววิ่งเพ่นพ่านไม่มีจุดหมาย
เขื่อน ตู ธรณีประตู
อะไรฉู้ อะไรไม่รู้
พดงู ขนดงู คืออาการที่งูม้วนตัวนอนเป็นวงกลมซ้อนเป็นชั้น ๆ เรียกว่างูนอนพด
ด้งมอน กะด้งใบใหญ่สำหรับใส่ของตากแดด
เด็กรื่นๆ เด็กวัยรุ่น
พวกโลน พวกนักขัดคอ เช่นเวลาหนังโนราแสดง มักมีคนดูคอยพูดขัด เรียกว่าพวกโลน
ไม่สาไหร ไม่มีรสชาดอะไร ใช้ไม่ได้
หมาดเถิด ประมาทอยู่เถิด
จะอุก จะปล้น
อย่าเน่งเร่งบอก อย่านิ่งอยู่เร่งบอกมา
หอบลิ้นล่อ หอบจนลิ้นห้อย
ทำปรือ ทำอย่างไร
กระหนหาย กระวนกระวาย
ขี้เย็น มักเย็น คือหนาวเร็วกว่าคนอื่น
สากลัว รู้สึกกลัว
ความโกง ความอวดเก่ง หรือคุยโม้ ยกตนข่มท่าน
ท้าวพันตา พระอินทร์
เพษณุ พระพิษณุกรรม
ยกขึ้น ตื่นขึ้น ลุกขึ้น
งูบองหลา งูจงอาง
แมงบี้ แมงปอ
ถกคอแล ชูคอขึ้นคอยดู
ขวยใจ เป็นห่วงกังวลใจ
ติดลึ่ง ออกจะทะลึ่ง
เมลินเนตร ลืมตา
อย่าทำท่านักปรือเหลา อย่าอวดเก่งนักมิได้หรือ
เม่า โง่ ๆ บ้าๆ
หน้าเหมีย หน้าสัตว์ตัวเมีย เหมียแปลว่าเพศหญิงใช้กับสัตว์
นุ้ย น้อย
ปนนั่น เพียงแค่นั้น
ไตรใคร ทำอะไรใครได้
ลิงเสน ลิงชนิดหนึ่ง
น่าน เป็นวิเศษณ์ของคำยาว คือยาวรีไปตรง ๆ ยาวมาก
เร้อ รื้อ
ทดทด อาการของคำว่าสั่น
กัน ด้วย ผัวโกรธอย่าโกรธกัน ผัวโกรธอย่าโกรธด้วย
หะน้ำฉ่า อาเจียนออกน้ำทะลักออกดังฉ่า
หราง ตะราง คุก
ศรีรักษา ตำแหน่งขุน
รุม ทำพร้อมกันในจุดเดียว กลุ้มรุม
เรียด แน่นเรียบ
ถุ้ง กะทุ้ง
รอด เข้ากับคำว่า ยก แบก หาม พา แปลว่าไหว ยกรอด=ยกไหว แบกรอด=แบกไหว
ถึงทับ ถึงกะต๊อบ
เหล็กเป็น แม่เหล็ก
เฉียง ผ่า
กุบกับ รีบร้อน
นาด ไกวแขน เดินนาด คือ เดินไกวแขน
ทีละหา ทีละหวา
ดังป็อง ดังปังใหญ่ ดังโป้ง
กุมด้ามจ้ง จับถือด้ามจอบซื่อ ๆ อยู่
แย่นั่งท็อง นั่งกะแทกดังโครม
ล็อง สัปปะดน
สรรพราสา, ราสา มากเหลือเกิน
ยู่ยี่ หน้าหดเหี่ยวจนหมดรูปเดิม
ยีหน่วยตา ขยี้ลูกตา
ขวานถา ขวานสำหรับถากไม้
เม้น เหี้ยนร่นเข้าไปมาก
โลน ทำให้เปลืองของเปล่าโดยใช่เหตุ
ถูปะเม ถูส่งเดชไร้ประโยชน์
หร่อย อร่อย
ขันตะกั่ว ตักตะกั่ว ขันที่ทำด้วยตะกั่ว เอาไปตักตะกั่วกำลังเหลว เพราะความร้อนนอกจากตักตะกั่วไม่ได้แล้ว ขันก็ละลายเสียอีกด้วย
ฉากหัว คำด่าของผู้หญิง
โม่ โง่
เคอะ เซอะ
มัดกะ บ้าระห่ำ
ลึ่ง ทะลึ่ง
ล็อน คือประสมทั้ง ๔ อย่างข้างต้น (ล็อนไม่มีใครพูดแล้ว)
ฟันหาไม่แล้วยังด้น ฟันไม่มีแล้วยังดุร้าย
ด้น ดุ
ข่มเหง คือ คุมเหง
เมลือก เมือก
คลำแลเหงือกมังปรือเหลา คลำดูเหงือกเสียบ้างซี (จะได้รู้ว่าแก่แล้ว)
เทพนิมนต์ เทวดาบันดาน
หนักหู หนวกหู
ตัดหัว คำด่าของผู้หญิง
มนต์เท่าเถิด ขอเชิญให้หยุดได้แล้ว
แลควาย เลี้ยงควาย เฝ้าดูให้คอยกินหญ้ากินน้ำและปลอดภัย
หนำร้าย คือกระต๊อบเก่าแก่ชำรุดกะรุ่งกะริ่ง
ธำรงชบ ใช้แหวนชุบให้เป็นของที่ปรารถนา
มรับ สำรับ มรับทอง สำรับเป็นภาชนะทอง
หอมวิไล หอมน่ากิน น่าพอใจ
แจกล กุญแจยนต์
เหียบ เงียบสงบ
เพรียบ เงียบอย่างใบไม้ไม่กะดุกกะดิก
กินแล ลองกินดู
ฉาวฉู ฉาวโฉ่
ออโน เป็นคำทักว่า เอ้า นั่นแน่
ลูกหวา ลูกจ๊ะ
ใครให้นุ้ยหา ใครให้เจ้าฮะ
ไม่ถ้า ไม่รอ
ตาว่า หัวมัน ตาว่าช่างหัวมันเถิด
เจ้าที่ พระภูมิ์ เทวดาประจำบ้าน
ไตร ทำไม
ถด ถัด เขยิบ
หนม ขนม
ชบ ชุบ เนรมิต
ใครฉู้ ไม่รู้ว่าใคร
ยืนหมัง ยืนจ้องคอยที จังหมังก็ว่า
ชะ กะชาก ดึงเข้ามาโดยแรง
มือร่า อ้ามือออก
แลท่าทาง ดูมีกิริยาพิกล
ฮาย คำอุทาน
ซาบ แอบ ซาบบอก แอบกระซิบบอก
บาย สบาย
แล ดู
กีด เกะกะ คับแคบ
ถดทีหีด เขยิบเข้าไปทีละน้อยๆ
หลูมหลาม ไม่เรียบร้อย เซอะซะ
เดียวใจ ในทันใด ประเดี๋ยวเถอะ
ตัว เป็นบุรุษที่ ๒
เข้าแค่ เข้าใกล้
ยิก ไล่
เร่ง ยิ่ง เร่งยิกเร่งทำเฉย ยิ่งไล่ยิ่งทำเฉย
เจ้ย ช้อน เชย
ทรามเสียดาย น่ารัก
แต่ส่วน แต่เพียงคนเดียว
รวย คือ อ่อนระลวย
แลทีนางแค่ตัดได้ ดูซินางที่ตัดได้
มิตรไม มิตรไมตรีนั่นเอง แต่พูดค้างไว้
แต่เท้าเที่ยง จนเวลาเที่ยง
หลบ กลับ หลบหลังมา คือกลับหลังมา
หมัน บุรุษที่ ๑ หมัน แต่เน้นเสียงให้หนักในบางความหมาย
ไม่สู้มา ไม่กล้ามา
ให้เงยควายยืนเลียเทียน เทียนคือหวายที่ร้อยจมูกควาย ควายที่ถูกล่ามอยู่กับที่
แม่ยัง ยัง แปลว่ามี แม่ยัง คือมีแม่ = แม่ยังอยู่
ลาก ลากในกรณีฉุดผู้หญิง เรียกว่าลากผู้หญิง ลากลูกสาว
นอกบ้าน หมายความถึงบ้านนอกทุ่งนา คู่กับคำว่า ในเมือง
บถ สะบถ
อูชู สมบูรณ์ มีมาก รสอูชู = กลิ่นหอมยิ่ง
เกียน เกวียน
ฮึงฮัง กิริยาที่ทำจริงจัง
คุงคัง เสียงดังกุงกัง
ย็องย็อง อาการที่เดินซึ่งมีอาการสูง ๆ ต่ำ ๆ อย่างเร็ว ๆ
ข็องข็อง เสียงไอ
หบไอ หยุดไอ
ด้ง กะด้ง
เชอ กะเชอ (ภาชนะใส่ของ)
กร้า ตะกร้า
ตะบัน ภาษาชาวบ้าน เรียกว่า ยน แต่นี้บทกวี
พาไปกัน พาไปด้วย
เปลือกย่อน เปลือกไม้ชนิดหนึ่ง มีรสขวาดแทนหมากได้
พลูหนัง ชื่อพลูชนิดหนึ่ง ไม่นิยมกินนอกจากขัดสน
มิทุ่ม มิละทิ้ง
สอบสองมุม กะสอบทำด้วยกกหรือกะจูดใบเล็ก ๆ พอใส่ของเต็มแล้วถือได้ ใบแบน ๆ เหมือนกะเป๋าเอกสาร
ยอมยุมชุมพู่ พะยอม มะยม ชมพู่
กาหลา สันตะกาลา ต้นคล้ายกะทือแต่โตกว่ามาก ดอกเป็นผัก
พุดตาลดานงา พุดตาล กะดังงา (ที่จริงเรียกดังงา)
เพกา และกง ชื่อต้นไม้
มังค่า ชื่อต้นไม้ ยอดกินเป็นผักฯ มะค่า
ตะขรบ ตะขบ
ตะขรี ชื่อไม้ขนาดกลาง
เหม็งซอ ต้นไม้ ชิงชี่
กิ่งเซ่อ กิ่งห้อยรุมรู่ เป็นซุ้มที่รกรุงรัง
ฉาบ โฉบ เกือบไป ฉาบไข่ = โฉบฉาบใกล้ไข่
กะทุงเกรียน นกกะเรียน
นกสัก นกมูลไถ
อีลุ้ม นกตะกรุม
นกชัน นกอัญชัน
หักซุ้ม หักไม้ทำรังคล้ายซุ้ม
ฟานเต้นเม่นจง ตามตัวอยู่แล้ว ฟานบางคนว่าเลียงผา
หมาไน สุนัขป่าชะนิดหนึ่ง
ขบทราย กัดกวางทราย
แล่น วิ่ง
แทงชึง แทงดังจื๊ก
ถึงดำ ขนเม่นสีดำแต่ตอนปลายขาว
หาวนอน ง่วงนอน
คาด คิดหมายไว้
ทอดกลืนคลก กลืนเสียงดังเฮือก
ได้แรง อร่อย ได้แรงอก = อร่อยอก
เข ขี่
โป ปู่
งามเขี้ยวเข็น งามจริงจังนัก
แลทีแค่มันขัน ดูซิที่มันน่าขำ
กูมันหลงแล้วไสหมึง กูมันหลงแล้วละกระมัง
เมร่อลึ่ง บ้า + เซอะ = เมร่อ, ลึ่ง = ทะลึ่ง
หับตู หับประตู
แลไหรฉู้ ดูอะไรไม่รู้จัก
เฮโลสาละพา เป็นคำพูดดัง ๆ เวลาทำอะไรพร้อมกัน
ลาหมาย ทาปูนหมายไว้ คือทำเครื่องหมายด้วยปูน
กระหมึง กระมัง

----------------------------

พิมพ์ที่โรงพิมพ์บรรณาคม เลขที่ ๕/๓๐ ถ. ถนนประชาสงเคราะห์ สามเสนใน พญาไท พระนคร โทร. 771218 นายอาคม คเชนทร์ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา เม.ย. ๒๕๑๕

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ